รักไม่มีวันตาย Love never die
8.7
เขียนโดย NidNoii
วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 23.03 น.
13 ตอน
0 วิจารณ์
14.10K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2560 23.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) รักไม่มีวันตาย Love never die 6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกองปราบ
“หมวดไอซ์ คดีของคุณพีรวัสเป็นยังไงบ้าง” ผู้กองหัวหน้าของผมเองถามขึ้น ครับตอนนี้ผมกำลังประชุมคดีของดาราดังกันอยู่
“ตอนนี้คดียังไม่ถึงไหนครับพี่ภัทร แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุธรรมดา” ผมตอบกลับไป
“ทำไม นายถึงคิดแบบนั้นล่ะ” พี่ภัทร
“ทางเราตรวจสอบรถยนต์อีกครั้งหนึ่งพบความผิดปกติของสายเบรกครับ” ไม่ใช่ผม เป็นจ่านก ลูกน้องของผมกล่าวรายงาน
“ยังไง?” พี่ภัทรถามต่อ
“คือเราพบว่า สายเบรกที่ขาดไม่ได้เกิดจากการเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน แต่สายเบรกนั้นถูกตัดออกก่อนหน้านั้นแล้วครับพี่” ผมเป็นฝ่ายตอบพี่ภัทรทันที เขาแค่พยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ
“แล้วมีผู้ต้องสงสัยไหม” พี่ภัทร
“มีครับ รถคันเป็นของนาย ฟลุค เพื่อนสนิทของคุณพีรวัส ผมเชิญเขามาให้ปากคำตอนบ่ายครับ” ผมตอบออกไปแต่ยังไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มว่าฟลุคเป็นคนทำ
“อือ เอ๊าะ เกือบลืมบอกนายไป” พี่ภัทร หันมาพูดกับผมโดยตรง
“ครับ(?)” ผมรับคำสั้นๆ
“คดีนี้คงเป็นคดีที่ซับซ้อนอยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นจะมีนักข่าวสายอาชญากรรมเข้ามาสืบคดีนี้ด้วย หวังว่านายจะไม่ขัดข้องนะ หมวดไอซ์” พี่ภัทรบอกผมพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้ผมนิดหน่อย แต่สายตาของพี่แกผมรับรู้ได้ถึงความปั่นป่วน วุ่นวายที่จะตามมาแน่นอน
“ครับ แล้วใครเหรอครับ ” ผมอยากจะขัดนะ แต่ก็ทำไม่ได้
“เดี๋ยวก็คงมา” พี่ภัทรตอบกลับเพียงสั้นๆ
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” ผมหันไปขออนุญาต ก่อนที่พี่ภัทรจะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
แต่.....
“เฮย คุณระวังค่ะ!!” เสียงของแม่บ้านร้องเตือนใครสักคนที่หน้าห้องก่อนที่ผมจะเปิดประตูออกไปพอดี
“เฮย!!”
“โอ๊ะ!!!” เสียงของคนที่ลื่นถลามาชนผม ผมรีบคว้าตัวเขาไว้ก่อนที่หัวจะคะมำไปคุยกับพื้นห้องต้องเข้าแอดมิดโรงพยาบาล
“ขอโทษครับๆ พอดีผมรีบ ผม....” ทันทีที่ผมพยุงให้ยืนด้วยตัวเองได้ เขาก็รีบขอโทษทันที แต่ทำไมเสียงมันคุ้นๆวะ
“เฮย!!/เฮย!!” ทันทีที่เจอหน้ากัน ไอ้นักข่าวตัวแสบ
“อ้าว มาแล้วเหรอ อู๋จุน เข้ามาสิ” เสียงของพี่ภัทรดังขึ้นทักทายอย่างเป็นมิตรก่อนที่ใครจะได้พูดอะไร
“ครับ” เขาตอบกลับแล้วมามองหน้าผมนิดหนึ่งก่อนเข้าไปนั่งตามคำเชิญ ผมเหรอกะจะไปเข้าห้องน้ำแต่ตอนนี้ไม่ไปละ อย่าบอกนะว่านักข่าวคนนั้นเป็น ไอ้นักข่าวตัวแสบเมื่อสองวันก่อน
“ผู้กองครับ ผมขอถอนคำพูด ผมไม่ตกลงครับ” ผมตรงเข้าไปยืนประจันหน้ากับผู้กองทันที ต่อหน้าคนอื่นผมจะให้เกียรติพี่ภัทรเสมอ แต่ตอนนี้อารมณ์ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้ามีไอ้นักข่าวจอมจุนนี่เข้าร่วมสืบคดีนี้คงวุ่นวายมากแน่ๆ
“อ้าว ก็ไหนตอนแรกว่า ตกลงไง ทำไมถอนคำพูดซะหละ” พี่ภัทรยืดตัวตรงพูดพร้อมกับมองหน้าผมรวมทั้งคนอื่นๆด้วย
“ก็ผมไม่คิดว่าจะเป็น...... ” ผมพูดแค่นั้น แต่คนฟังก็พอจะเดาออกเพราะผมหันไปมองหน้าเจ้าตัวต้นเอง แทนประโยคหลัง
“ทำไมละหมวด ปกติหมวดเป็นคนมีเหตุผล” พี่ภัทรมองหน้าผมด้วยสายตาที่อ่านยากนะ เขาต้องการเหตุผล แต่ผมไม่ให้จริงๆ
“กับคนนี้ ผมไม่มีเหตุผลครับ” ผมตอบออกไปแบบนั้นจริงๆ
“อ้าว ทำไมหมวดพูดแบบนี้วะ!” คนถูกอ้างถึงเริ่มเสียงแข็งมองหน้าผม
“หมวดโกรธที่ผมแอบเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุเมื่อสองวันก่อนก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องมาอ้างว่าไม่มีเหตุผลหน่อยหรอก” เขาพูดน้ำเสียงนิ่งๆมองหน้าผมอย่างจริงจัง
“ก็รู้นิ ยังจะต้องการเหตุผลไปทำไม” ผมตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมกับจ้องหน้าเขากลับเหมือนกัน จ้องมาจ้องกลับไม่โกงครับ บรรยากาศเริ่มมาคุไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้นจนกระทั่ง
แกร๊ก แกร็ก สองครั้งเท่านั้นแหละ
“เฮย!! / เฮย!! ” ผมกับไอ้นักข่าวจอมจุ่นอุทานออกมาพร้อมกันทันทีเมื่อจู่ๆก็ถูกใส่กุญแจมือโดยไม่ได้ตั้งตัว
“จ่า! ทำอะไรปล่อยผมนะ” ผมหันไปสั่งเสียงดุ
“นั้นนะสิ ปล่อยนะครับเล่นอะไรกันผมไม่ตลกนะ!” คนตรงหน้าก็พูดขึ้นอย่างตกใจเหมือนกัน
“ขอโทษนะครับหมวด ผมทำตามคำสั่ง” จ่านกพูดยิ้มเห่ยๆ แล้วสะบัดหน้าหน่อยๆพอให้รู้ว่าให้เป็นคนสั่ง
“พี่ภัทร ปล่อยนะพี่ เล่นอะไรเนี้ย” ไม่ใช่ผม เพราะนอกจากผมแล้วไม่มีใครกล้าเรียกชื่อเล่นของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าของตัว แต่ทำไมคนนี้ถึง ผมนิ่งมองทั้งพี่ภัทรทั้งคู่กรณีของผมสลับกันไปมาอย่าง งงๆ
“ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้แล้วเราสองคนจะทำงานร่วมกันได้ยังไง” พี่ภัทรตอบคนตรงหน้า เดี๋ยวนะใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ผมฟังชัดๆทีสิครับ ว่าสองคนเขาเป็นอะไรกัน ผมไม่อยากยืนทำตัวเป็นสายซ้อนนะครับ
“ก็ผมบอกพี่แล้วไง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย ลูกน้องพี่ต่างหากมาหาเรื่องผมก่อน” ประโยคแรกพูดกับพี่ภัทร แต่ประโยคถัดมา ตั้งใจจะว่าผมชัดๆ
“อ้าว พูดแบบนี้ได้ยังไงกัน คุณ” ผมเริ่มหัวร้อนขึ้นมานิดหน่อย ก็คนมันถูกพาดพิงนี่ครับ
“พอๆ หยุดทะเลาะกันทั้งสองคนเลย” พี่ภัทรที่ยืนฟังอยู่คงอย่างยุติ สงครามขนาดย่อมลง
“หมวดไอซ์” เสียงที่ทุ่มต่ำจนทำให้ผมเริ่มระแวงว่า.....
“ผมฝากไอ้แสบนี้ด้วยนะ ถ้ามันดื้อก็จัดการได้เลย ผมอนุญาต” ไอ้แสบ? ผมนี่ตอนนี้ ง งู ล้านตัวครับ
“อ้าวทำไมพี่พูดแบบนี้ล่ะพี่ภัทร ผมน้องชายพี่นะ เรื่องอะไรไปบอกให้คนอื่นจัดการน้องตัวเอง พี่บ้าไปแล้วเหรอไง ” ถึงบางอ้อแล้วครับผม ที่แท้สองคนนี้ก็เป็นพี่น้องกันสินะ แถบน้องชายพี่ภัทรก็แสบอย่างที่แกบอกแหละครับ ผมจัดให้ เมื่อถึงบางอ้อ ผมก็ส่งยิ้มให้พี่ภัทรทันที
“หึ ได้เลยครับ ผมจัดให้” ก่อนที่พี่ภัทรหรือไอ้แสบจะพูดอะไรขึ้นมาผมตอบรับคำทันที
“เฮย!! นี่หมวด” คนข้างให้มาตำหนิผมทันที ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากกว่านี้
“หมวดครับ นายฟลุคมาแล้วครับ” เสียงจ่านกดังสวนขึ้นทันที ออกไปตอนไหนวะ ?
“ครับจ่า ขอตัวนะครับ พี่ภัทร ไป!” ผมตอบรับจ่านก หันไปขอตัวกับพี่ภัทร แล้วสั่งคนข้างๆ พร้อมลากออกไปเลย
“จะรีบไปไหนนิหมวด เดินช้าๆหน่อยก็ได้ ผมเจ็บข้อมือไปหมดแล้วนะ ไอ้หมวดหมี!” ครับ เสียงบ่นมาตลอดทางก่อนถึงหน้าห้องสอบสวน ผมนี่เหยียบเบรกทันที เพราะประโยคสุดท้ายนี่แหละ คนข้างๆชะงักนิดหน่อย
“อ้าวหยุดทำไม!”
“ถึงล่ะ” ผมตอบสั้นๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป พอผมเปิดประตูเข้าไปก็พบกับผู้ต้องสงสัย ครับ ตอนนี้นายฟลุคเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่าเอง
แต่......
“ไอ้หมอกันต์!” หมอกันต์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ครับ ผมกับไอ้หมอนี่เป็นเพื่อนสนิทกันครับ ผมถึงได้ตกใจไงว่ามันมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง
“เฮย! ไอ้ไอซ์!” น้ำเสียงมันดูตกใจเหมือนกันที่เห็นหน้าผม
“มาได้ยังไงวะไอ้หมอ ปกติแกต้องอยู่ที่โรงพยาบาลกับบรรดาญาติๆคนไข้ของแกนิ” ผมถามมันออกไปโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาสี่คู่ที่มองเราทั้งคู่อย่าง งงๆ
“หึ มาเปลี่ยนสถานที่รักษาคนไข้นิดหน่อย” มันหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดพร้อมเหลือบไปมองคนไข้ที่มันอ้างถึง
“หมอ!” ครับ เสียงคนไข้ที่มันอ้างถึงนั้นแหละ ห้วนเชียว
“สวัสดีครับคุณฟลุค ผมหมวดไอซ์ เป็นคนรับผิดชอบคดีของคุณพีรวัส ” ก่อนที่จะเกิดสงครามขนาดย่อมระหว่างหมอกับคนไข้ของมัน ผมจึงเปิดประเด็นสอบสวนทันที
“หมวดไอซ์ คดีของคุณพีรวัสเป็นยังไงบ้าง” ผู้กองหัวหน้าของผมเองถามขึ้น ครับตอนนี้ผมกำลังประชุมคดีของดาราดังกันอยู่
“ตอนนี้คดียังไม่ถึงไหนครับพี่ภัทร แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุธรรมดา” ผมตอบกลับไป
“ทำไม นายถึงคิดแบบนั้นล่ะ” พี่ภัทร
“ทางเราตรวจสอบรถยนต์อีกครั้งหนึ่งพบความผิดปกติของสายเบรกครับ” ไม่ใช่ผม เป็นจ่านก ลูกน้องของผมกล่าวรายงาน
“ยังไง?” พี่ภัทรถามต่อ
“คือเราพบว่า สายเบรกที่ขาดไม่ได้เกิดจากการเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน แต่สายเบรกนั้นถูกตัดออกก่อนหน้านั้นแล้วครับพี่” ผมเป็นฝ่ายตอบพี่ภัทรทันที เขาแค่พยักหน้าเป็นเชิงรับทราบ
“แล้วมีผู้ต้องสงสัยไหม” พี่ภัทร
“มีครับ รถคันเป็นของนาย ฟลุค เพื่อนสนิทของคุณพีรวัส ผมเชิญเขามาให้ปากคำตอนบ่ายครับ” ผมตอบออกไปแต่ยังไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มว่าฟลุคเป็นคนทำ
“อือ เอ๊าะ เกือบลืมบอกนายไป” พี่ภัทร หันมาพูดกับผมโดยตรง
“ครับ(?)” ผมรับคำสั้นๆ
“คดีนี้คงเป็นคดีที่ซับซ้อนอยู่พอสมควร เพราะฉะนั้นจะมีนักข่าวสายอาชญากรรมเข้ามาสืบคดีนี้ด้วย หวังว่านายจะไม่ขัดข้องนะ หมวดไอซ์” พี่ภัทรบอกผมพร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้ผมนิดหน่อย แต่สายตาของพี่แกผมรับรู้ได้ถึงความปั่นป่วน วุ่นวายที่จะตามมาแน่นอน
“ครับ แล้วใครเหรอครับ ” ผมอยากจะขัดนะ แต่ก็ทำไม่ได้
“เดี๋ยวก็คงมา” พี่ภัทรตอบกลับเพียงสั้นๆ
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” ผมหันไปขออนุญาต ก่อนที่พี่ภัทรจะพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
แต่.....
“เฮย คุณระวังค่ะ!!” เสียงของแม่บ้านร้องเตือนใครสักคนที่หน้าห้องก่อนที่ผมจะเปิดประตูออกไปพอดี
“เฮย!!”
“โอ๊ะ!!!” เสียงของคนที่ลื่นถลามาชนผม ผมรีบคว้าตัวเขาไว้ก่อนที่หัวจะคะมำไปคุยกับพื้นห้องต้องเข้าแอดมิดโรงพยาบาล
“ขอโทษครับๆ พอดีผมรีบ ผม....” ทันทีที่ผมพยุงให้ยืนด้วยตัวเองได้ เขาก็รีบขอโทษทันที แต่ทำไมเสียงมันคุ้นๆวะ
“เฮย!!/เฮย!!” ทันทีที่เจอหน้ากัน ไอ้นักข่าวตัวแสบ
“อ้าว มาแล้วเหรอ อู๋จุน เข้ามาสิ” เสียงของพี่ภัทรดังขึ้นทักทายอย่างเป็นมิตรก่อนที่ใครจะได้พูดอะไร
“ครับ” เขาตอบกลับแล้วมามองหน้าผมนิดหนึ่งก่อนเข้าไปนั่งตามคำเชิญ ผมเหรอกะจะไปเข้าห้องน้ำแต่ตอนนี้ไม่ไปละ อย่าบอกนะว่านักข่าวคนนั้นเป็น ไอ้นักข่าวตัวแสบเมื่อสองวันก่อน
“ผู้กองครับ ผมขอถอนคำพูด ผมไม่ตกลงครับ” ผมตรงเข้าไปยืนประจันหน้ากับผู้กองทันที ต่อหน้าคนอื่นผมจะให้เกียรติพี่ภัทรเสมอ แต่ตอนนี้อารมณ์ไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าถ้ามีไอ้นักข่าวจอมจุนนี่เข้าร่วมสืบคดีนี้คงวุ่นวายมากแน่ๆ
“อ้าว ก็ไหนตอนแรกว่า ตกลงไง ทำไมถอนคำพูดซะหละ” พี่ภัทรยืดตัวตรงพูดพร้อมกับมองหน้าผมรวมทั้งคนอื่นๆด้วย
“ก็ผมไม่คิดว่าจะเป็น...... ” ผมพูดแค่นั้น แต่คนฟังก็พอจะเดาออกเพราะผมหันไปมองหน้าเจ้าตัวต้นเอง แทนประโยคหลัง
“ทำไมละหมวด ปกติหมวดเป็นคนมีเหตุผล” พี่ภัทรมองหน้าผมด้วยสายตาที่อ่านยากนะ เขาต้องการเหตุผล แต่ผมไม่ให้จริงๆ
“กับคนนี้ ผมไม่มีเหตุผลครับ” ผมตอบออกไปแบบนั้นจริงๆ
“อ้าว ทำไมหมวดพูดแบบนี้วะ!” คนถูกอ้างถึงเริ่มเสียงแข็งมองหน้าผม
“หมวดโกรธที่ผมแอบเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุเมื่อสองวันก่อนก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องมาอ้างว่าไม่มีเหตุผลหน่อยหรอก” เขาพูดน้ำเสียงนิ่งๆมองหน้าผมอย่างจริงจัง
“ก็รู้นิ ยังจะต้องการเหตุผลไปทำไม” ผมตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พร้อมกับจ้องหน้าเขากลับเหมือนกัน จ้องมาจ้องกลับไม่โกงครับ บรรยากาศเริ่มมาคุไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้นจนกระทั่ง
แกร๊ก แกร็ก สองครั้งเท่านั้นแหละ
“เฮย!! / เฮย!! ” ผมกับไอ้นักข่าวจอมจุ่นอุทานออกมาพร้อมกันทันทีเมื่อจู่ๆก็ถูกใส่กุญแจมือโดยไม่ได้ตั้งตัว
“จ่า! ทำอะไรปล่อยผมนะ” ผมหันไปสั่งเสียงดุ
“นั้นนะสิ ปล่อยนะครับเล่นอะไรกันผมไม่ตลกนะ!” คนตรงหน้าก็พูดขึ้นอย่างตกใจเหมือนกัน
“ขอโทษนะครับหมวด ผมทำตามคำสั่ง” จ่านกพูดยิ้มเห่ยๆ แล้วสะบัดหน้าหน่อยๆพอให้รู้ว่าให้เป็นคนสั่ง
“พี่ภัทร ปล่อยนะพี่ เล่นอะไรเนี้ย” ไม่ใช่ผม เพราะนอกจากผมแล้วไม่มีใครกล้าเรียกชื่อเล่นของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าของตัว แต่ทำไมคนนี้ถึง ผมนิ่งมองทั้งพี่ภัทรทั้งคู่กรณีของผมสลับกันไปมาอย่าง งงๆ
“ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้แล้วเราสองคนจะทำงานร่วมกันได้ยังไง” พี่ภัทรตอบคนตรงหน้า เดี๋ยวนะใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ผมฟังชัดๆทีสิครับ ว่าสองคนเขาเป็นอะไรกัน ผมไม่อยากยืนทำตัวเป็นสายซ้อนนะครับ
“ก็ผมบอกพี่แล้วไง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมสักหน่อย ลูกน้องพี่ต่างหากมาหาเรื่องผมก่อน” ประโยคแรกพูดกับพี่ภัทร แต่ประโยคถัดมา ตั้งใจจะว่าผมชัดๆ
“อ้าว พูดแบบนี้ได้ยังไงกัน คุณ” ผมเริ่มหัวร้อนขึ้นมานิดหน่อย ก็คนมันถูกพาดพิงนี่ครับ
“พอๆ หยุดทะเลาะกันทั้งสองคนเลย” พี่ภัทรที่ยืนฟังอยู่คงอย่างยุติ สงครามขนาดย่อมลง
“หมวดไอซ์” เสียงที่ทุ่มต่ำจนทำให้ผมเริ่มระแวงว่า.....
“ผมฝากไอ้แสบนี้ด้วยนะ ถ้ามันดื้อก็จัดการได้เลย ผมอนุญาต” ไอ้แสบ? ผมนี่ตอนนี้ ง งู ล้านตัวครับ
“อ้าวทำไมพี่พูดแบบนี้ล่ะพี่ภัทร ผมน้องชายพี่นะ เรื่องอะไรไปบอกให้คนอื่นจัดการน้องตัวเอง พี่บ้าไปแล้วเหรอไง ” ถึงบางอ้อแล้วครับผม ที่แท้สองคนนี้ก็เป็นพี่น้องกันสินะ แถบน้องชายพี่ภัทรก็แสบอย่างที่แกบอกแหละครับ ผมจัดให้ เมื่อถึงบางอ้อ ผมก็ส่งยิ้มให้พี่ภัทรทันที
“หึ ได้เลยครับ ผมจัดให้” ก่อนที่พี่ภัทรหรือไอ้แสบจะพูดอะไรขึ้นมาผมตอบรับคำทันที
“เฮย!! นี่หมวด” คนข้างให้มาตำหนิผมทันที ก่อนที่จะได้พูดอะไรมากกว่านี้
“หมวดครับ นายฟลุคมาแล้วครับ” เสียงจ่านกดังสวนขึ้นทันที ออกไปตอนไหนวะ ?
“ครับจ่า ขอตัวนะครับ พี่ภัทร ไป!” ผมตอบรับจ่านก หันไปขอตัวกับพี่ภัทร แล้วสั่งคนข้างๆ พร้อมลากออกไปเลย
“จะรีบไปไหนนิหมวด เดินช้าๆหน่อยก็ได้ ผมเจ็บข้อมือไปหมดแล้วนะ ไอ้หมวดหมี!” ครับ เสียงบ่นมาตลอดทางก่อนถึงหน้าห้องสอบสวน ผมนี่เหยียบเบรกทันที เพราะประโยคสุดท้ายนี่แหละ คนข้างๆชะงักนิดหน่อย
“อ้าวหยุดทำไม!”
“ถึงล่ะ” ผมตอบสั้นๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป พอผมเปิดประตูเข้าไปก็พบกับผู้ต้องสงสัย ครับ ตอนนี้นายฟลุคเป็นเพียงผู้ต้องสงสัยเท่าเอง
แต่......
“ไอ้หมอกันต์!” หมอกันต์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ครับ ผมกับไอ้หมอนี่เป็นเพื่อนสนิทกันครับ ผมถึงได้ตกใจไงว่ามันมาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง
“เฮย! ไอ้ไอซ์!” น้ำเสียงมันดูตกใจเหมือนกันที่เห็นหน้าผม
“มาได้ยังไงวะไอ้หมอ ปกติแกต้องอยู่ที่โรงพยาบาลกับบรรดาญาติๆคนไข้ของแกนิ” ผมถามมันออกไปโดยที่ไม่ได้สนใจสายตาสี่คู่ที่มองเราทั้งคู่อย่าง งงๆ
“หึ มาเปลี่ยนสถานที่รักษาคนไข้นิดหน่อย” มันหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดพร้อมเหลือบไปมองคนไข้ที่มันอ้างถึง
“หมอ!” ครับ เสียงคนไข้ที่มันอ้างถึงนั้นแหละ ห้วนเชียว
“สวัสดีครับคุณฟลุค ผมหมวดไอซ์ เป็นคนรับผิดชอบคดีของคุณพีรวัส ” ก่อนที่จะเกิดสงครามขนาดย่อมระหว่างหมอกับคนไข้ของมัน ผมจึงเปิดประเด็นสอบสวนทันที
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ