รักไม่มีวันตาย Love never die

8.7

เขียนโดย NidNoii

วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560 เวลา 23.03 น.

  13 ตอน
  0 วิจารณ์
  14.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กันยายน พ.ศ. 2560 23.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) รักไม่มีวันตาย Love never die 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

“เออ ผมขอตัวนะครับ” เมื่อเสียงโทรศัพท์ขอผมดังขึ้นผมจึงขออนุญาตแล้วเดินออกไปคุยโทรศัพท์ทันที

ตอนนี้ผมเริ่มโล่งใจขึ้นมาอีกเปราะหนึ่งแล้วที่คริสไม่เป็นอะไร แต่ทำไมผมถึงรู้สึกว่าหมอกำลังปิดบังอะไรพวกเราอยู่หรือป่าว (ฉลาดซะด้วย) ผมมองที่ชื่อในมือถือ

พี่โหน่ง ผู้บริหารช่อง “สวัสดีครับพี่โหน่ง” ผม

“ฟลุค คริสเป็นยังบ้างวะ” เสียงปลายสายถามขึ้นอย่างร้อนรน ซึ่งก็เป็นปกติของพี่แกที่รักนักแสดงในสังกัดของตนเอง

“คริสปลอดภัยแล้วครับพี่ เหลือแค่รอฟื้น” ผมตอบออกไปทันที

“เฮย คอยยังชั่วหน่อย เอาะ! ทางตำรวจเขาโทรมาบอกว่ารถคันนั้นเป็นของนาย ยังไงให้นายไปให้ปากคำกับตำรวจหน่อยนะ” เสียงถอดหายใจจากปลายสายอย่างโล่งอก ประโยคสุดท้ายเป็นของผม

“ได้ครับพี่โหน่ง” ผมตอบกลับสั้นๆ

“มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะฟลุค ยังไงเราก็เป็นน้องอีกคนที่พี่รัก พี่ไม่อยากเสียเราไปอีกคนวะ” ผมอมยิ้มกับคำพูดของปลายสาย

“ขอบคุณมากครับพี่โหน่ง ” แล้วผมก็วางไปแล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องของคนป่วยทันที

 

 

“มีอะไรหรือป่าวฟลุค ทำไมลูกทำหน้าเครียดเชียว” แม่วรรณเอ่ยถามหลังจากที่ผมเข้ามานั่งในห้องได้สักพัก

“เออ ป่าวครับแม่” ผมตอบปฏิเสธแม่วรรณไป ใช่ที่เรียกแม่ของคริสว่า แม่ เพราะผมเป็นเด็กกำพร้าหลังจากที่ได้รู้จักกับคริสตอนสมัยเรียน แม่วรรณ ก็ไม่ได้รังเกียจผม กลับรักผมเหมือนลูกแท้ๆอีกคน

“ฟลุค! ไม่โกหกแม่” เสียงทุ้มต่ำทำให้ผมยอมบอก

“พรุ่งนี้ผมต้องเข้าไปให้ปากคำกับตำรวจเรื่องรถที่คริสขับแล้วเกิดอุบัติเหตุ มันเป็นรถของผม ผมขอโทษครับแม่ พ่อ ผมขอโทษที่ทำให้คริสเจ็บ ผมขอโทษที่ทำให้คริสเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ จริงๆแล้วมันควรที่จะเป็นผมที่อยู่ในรถคันนั้น ไม่ควรที่จะเป็นคริส ผมขอ โทษ” ผมตอบแม่วรรณไปนิ่ง แต่สุดท้ายผมก็เก็บอาการไม่ไหวเพราะผมรู้สึกผิดที่ทำให้เพื่อนผมต้องมาเจอเรื่องร้ายๆแบบนี้ แทนที่คนคนนั้นมันสมควรที่จะเป็นผม ไม่ใช่คริส แม่วรรณก็คอยเอาแต่บอกว่า ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ยิ่งทำให้ผมกลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ตอนนี้ผมไม่เก๊กอะไรทั้งนั้น ผมกำลังร้องไห้อย่างหนัก

 

 

หมอปราชญ์

ตลอดเวลาที่อยู่ในห้องคนป่วยผมเห็นดวงวิญญาณของคริสวนเวียนอยู่ในห้องนี้ตลอด เขาพยายามที่จะสื่อสารกับผมคงเพราะรู้ว่าตอนนี้มีผมคนเดียวที่มองเห็นเขา แต่ผมก็ไม่ได้สนใจทำเป็นมองไม่เห็น เขาจึงทำหน้างอๆเหมือนผิดหวังก้มลงมองร่างตัวเองที่นอนสงบนิ่งอย่างน่าสงสาร จนกระทั่งเพื่อนของเขาที่พูดขึ้นว่ากำลังจะเข้าไปให้ปากคำกับตำรวจในวันพรุ่งนี้ และกล่าวคำขอโทษออกมาอย่างไม่หยุด พร้อมกับน้ำตาของลูกผู้ชายที่ไหลออกมาเป็นสาย ผมเข้าใจในทันทีว่า ฟลุครู้สึกผิดที่ทำให้คริสต้องเป็นแบบนี้จริงๆ

“ไม่นะฟลุค! นายไม่ได้เป็นคนผิด เรารู้ว่านายไม่ได้เป็นคนทำ” ใช่เป็นเสียงของคริสดังขึ้น ที่มีผมได้ยินเพียงแค่คนเดียว

“อึก หมอ ผมรู้ว่าหมอมองเห็นผม หมอช่วยพูดกับฟลุคหน่อยสิ ว่าผมไม่โทษมัน ไม่ได้โกรธมัน” คริส พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ขอร้องและมีเสียงสะอึกออกมาด้วย ผมจึงยอมหันไปมองหน้าเขาชัดๆอีกครั้งโดยไม่ได้พูดหรือตอบอะไรออกไป เขาคงโกรธแล้วหายแว๊บไปกับตา ผมโล่งเลยครับ แต่มันเป็นความโล่งแบบแปลกๆ

ตอนนี้ทุกคนกำลังทยอยกันกลับ เหลือเพียงน้าดนัยพ่อของคริสที่อาสาเฝ้าลูกชายส่วนน้าวรรณที่ขออยู่ด้วยแต่ถูกน้าดนัยให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านพรุ่งนี้ค่อยมาเปลี่ยนกัน พ่อ แม่ของผมละน้าวรรณแยกกลับไปแล้ว เหลือเพียง ผม หมอกันต์ และฟลุค ที่ยืนอยู่หน้าห้อง

“ฟลุค!” ก่อนที่ฟลุคจะเดินออกไป ผมจึงตัดสินใจเรียกเขาไว้ก่อน เขาหันกลับมามองด้วยสายตานิ่งๆแต่ไม่ได้ดุดัน “นายไม่ต้องคิดมากเรื่องที่ทำให้คริสเป็นแบบนี้นะ นายเลิกโทษตัวเอง เพราะคริสเขาไม่ได้โกรธหรือโทษนายเลย ” ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงยอมพูดแบบนั้นออกมา ผมรู้เพียงแต่ว่าอยากให้อีกคนสบายใจ เอ๊ะ ไม่ใช่คนสิ ฟลุคมองผมด้วยสายตาแปลกใจออกมา

“ครับ ผมเข้าใจผมจะพยายามไม่คิดมาก แต่หมอจะให้ผมเลิกคิดคงเป็นไปไม่ได้ ขอตัวก่อนนะครับ” เขามีท่าทีแปลกใจและพูดกับผมนิดหน่อยเป็นเชิงรับทราบแล้วก็เดินจากไป

“ไอ้สิง ไปก่อนนะโว้ย พรุ่งนี้เจอกัน” พอเพื่อนของเจ้าผีน้อยไปปุ๊บ ไอ้หมอกันต์เพื่อนของผมมันก็รีบลาผมแล้วก็วิ่งตามเพื่อนของเจ้าผีน้อยออกไปทันที ผมยังไม่ได้อ้าปากตอบมันเลย ไอ้เพื่อนเวร!

“ขอบคุณนะครับ พี่สิงโต”

“เฮ๊ย!! ” ผมสะดุ้งตกใจที่มีเสียงหนึ่งดังมาจากข้างหลัง ผมหันขวับไปมองทางเสียงทันที สิ่งที่เห็นคือ ใบหน้าขาวใสยิ้มแป้นแล้น ตาหยี อยู่ด้านหลัง ดูน่ารักจริงๆ อุ๊ย นี่ผมชมผีหรอนี่ ไม่ๆ

 

หมอกันต์

“นี่คุณ คุณ! หยุดก่อนสิ” ผมวิ่งตาม ฟลุค ออกมา อาการของเขาไม่ดีนัก ถึงแม้จะบอกกับใครต่อใครว่าจะไม่คิดมาก ยัง ยังไม่ยอมหยุดอีก ไอ้หมอนี่นอกจะหน้านิ่งแล้วยังดื้อเงียบอีก ไม่หยุดใช่ไหม ได้!! ผมจึงวิ่งเข้าไปดักหน้าเลย

“เฮย อะไรของหมอเนี้ย!” ได้ผลครับยอมหยุด แต่น้ำเสียงดูมีน้ำโหสุดๆ ผมไม่ตอบ

“นี่ตกลงหมอตามผมมาทำไม” เสียงนิ่งเรียบถาม

“กลับยังไง ผมไปส่ง” ผมถามสั้นๆพร้อมกับอาสาทันที เชื่อว่าคนคนนี้ต้องปฏิเสธแน่นนอน

“กลับแท็กซี่ ไม่ต้องผมกลับเอง” ว่าแล้วไง

“เฮย สภาพคุณตอนนี้นี่นะ ถ้ากลับเองมีหวังโดนปล้น หรือไม่ก็โดนฆ่าข่มขืนแน่ๆละ ” ผมตอบออกไปอย่าติดตลกแต่กลับได้สายตาที่ไม่ตลกด้วยกลับมา

“หมอจะบ้าเหรอ ผมเป็นผู้ชายนะ คิดบ้างสิหมอ หลีกไป! ผมจะกลับบ้าน” เขาพูดพร้อมกับพยายามเบี่ยงตัวออกไปทางอื่น แต่ผมเข้าไปขวางไว้ก่อน

“เดี๋ยว ผม ไป ส่ง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สายตาจ่องมองคนข้างหน้าอย่างจริงจัง ผมต้องการที่จะไปส่งเขาจริงๆ เขาชะงักทันทีเมื่อเห็นสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังของผม เขามองผมด้วยสายตาที่ดูงงๆ อึ้งๆ เพราะตลอดทั้งวันที่ได้คุยกันเป็นเขามากกว่าที่หน้าตึงเครียดพูดกับผม แต่ตอนนี้เป็นผมที่หน้านิ่งคุยกับเขาแทน

“เฮย ตามใจหมอแล้วกัน นำไปสิ” คนตรงหน้าถอนหายใจออกมาสั้นๆ ก่อนที่จะพูดในสิ่งที่ผมต้องการผมจึงฉีกยิ้มออกมาก่อนจะเดินนำเขาไปที่โรงจอดรถทันที

 

 

 

พอเราขับรถออกมาได้สักพัก ผมนึกขึ้นได้ว่าคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆยังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เจอกัน

“หิวไหม จะกินอะไร” ตลอดเวลาที่อยู่บนรถคนที่นั่งข้างๆผมก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ผมจึงถามขึ้นได้ผลเขาหันมามองหน้าผมด้วยสายตาที่มีแต่คำถาม

“ผมถามว่า หิวไหม จะกินอะไร” ผมจึงถามซ้ำ

“ผมจะกลับคอนโด”คนข้างๆตอบสั้นๆ

“แล้วไม่หิวหรือไง คุณยังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่บ่ายเลยนะ” ผมจอดรถถาม

“ไม่หิว ” โครกกกกกกก โครกกกกก

“แน่ใจนะว่าไม่หิว” ผมได้ยินเสียงประท้วงจากกระเพาะอาหารของเจ้าตัวที่บอกว่าไม่หิว เขาหน้าถอดสีทันทีที่กระเพาะดันทำงานไม่เป็นเวลา

“คุณไม่หิว แต่กระเพาะคุณหิว งั้นหาอะไรให้มันกินหน่อยแล้วกันเนาะ สงสารมัน” ผมชิงพูดขึ้นก่อนจะออกรถไป

“ตรรกะอะไรของหมอนิ เฮย” ผมได้ยินเสียงคนข้างๆบ่นๆ แล้วถอนหายใจออกมา ใครจะสนล่ะ

ผมได้แต่อมยิ้ม ขำเบาๆให้กับคนข้างๆ

 

 

ปล. วันนี้มาหลายคนหน่อย อ่านไปคงจะงงๆ คนแต่งก็งงค่ะ แฮๆ มือใหม่หันแต่ง

ผิดพลาดตรงไหน ไม่สนุกยังไง รบกวนช่วยวิจาญด้วยนะคะ 

อิอิ 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา