บ่วงรักซาตาน
เขียนโดย กระจ่างดาว
วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.12 น.
แก้ไขเมื่อ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560 22.36 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ลักพาตัว!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบ่วงรัก Chapter-6
“แอบฟังคนเค้าคุยกันนี่เค้าเรียกว่าไม่มีมารยาทนะเมเปิ้ล...ออกมาได้แล้ว”
คุณธอมพูดขึ้นก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกแต่สายตาดุดันก็ยังไม่มองมาที่ฉัน
“ออกมา!อย่าให้ฉันโมโห”
ฉันสะดุ้งเมื่อเสียงทุ้มตะคอกอย่างไม่ปราณีจนฉันต้องรีบลุกออกไปยืนอยู่ตรงหน้าเค้าด้วยขาแข้งที่สั่นจนไม่อาจควบคุมได้
“ทำไม!กลัวอะไร...กลัวว่าตัวเองจะโดนอย่างเมื่อวานหรือว่ากลัวว่าพี่ชายของเธอจะตายคามือลูกน้องฉัน”
“คุณทำอะไรพี่มาร์ค...คุณอย่าทำอะไรพี่ชายฉันเลยนะ เค้าคือครอบครัวที่เหลืออยู่ของฉัน”
“เธอมีสิทธิ์มาสั่งฉันรึไง...ถ้าฉันอยากให้มันตายเธอจะทำอะไรฉันได้”
“ฉันรู้ว่าฉันทำอะไรคุณไม่ได้คุณธอม แต่คุณอย่าทำอะไรพี่เลยนะฉันขอร้อง”
ฉันนั่งลงตรงหน้าชายหนุ่มก่อนจะยกมือไหว้ขอความเห็นใจ
“ถึงเธอจะไหว้ฉันอีกกี่รอบก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจฉันได้” ชายหนุ่มพูดออกมาแบบไม่คิด
ฉันนึกประโยคนึงอยู่ในใจก่อนที่จะตัดสินใจพูดมันออกมา
“งั้นคุณต้องการอะไร...ถ้าไม่เกินแรงที่ฉันสามารถทำให้คุณได้ฉันจะทำ”
“เธอพูดเองนะเมล...”คนตรงหน้าเอ่ยเสียงเย็นเปิดเผยความต้องการที่แท้จริง
“วันนี้หลังจากเสร็จงานเธอต้องไปกับฉัน...แล้วพี่เธอจะปลอดภัย”
“แล้วฉันจะแน่ใจได้ยังไง...”
“เธอไม่มีสิทธิ์มาถามฉันกลับ...หลังจากจบงานโทรบอกป้าไพว่าเธอจะไปเที่ยวเมืองนอกกับเพื่อนสักเดือนสองเดือนจะบอกเหตุผลว่าเพราะอะไรก็เรื่องของเธอ แค่อย่าให้ป้าไพหรือใครก็ตามรู้ว่าเธอมากับฉัน"
“แล้วพี่ฉันจะปลอดภัยใช่มั้ยคะคุณธอม”
“มันอยู่ที่ว่าเธอจะเล่นตุกติกอะไรกับฉันรึเปล่า เพราะเธอก็น่าจะรู้ว่าไม่มีใครหน้าไหนหนีฉันพ้น”
ฉันมองหน้าคนตรงหน้า ใครจะกล้าไปเล่นแง่กับซาตานบ้าดีเดือดแบบเค้ากัน
“คุณมีธุระแค่นี้...”
“ยัง!”
ฉันสะดุ้งกับน้ำเสียงทรงพลัง
“คุณธอมมีอะไรอีกเหรอคะ”
“ฉันยังไม่อนุญาติให้เธอไป!”
“…” ฉันลองมองหน้าคนตัวสูงอย่างหวาดๆ
"เธอก็รู้ใช่มั้ยว่าฉันเป็นคนยังไง...อย่าเลือกที่จะหักหลังฉันเหมือนพี่ของเธอ ไม่งั้นเธอได้เห็นดีแน่"
"ค่ะ...ฉันจะไม่หักหลังคุณ"
ฉันพูดก่อนจะหันหลังเดินไปแต่ก็ถูกจอมบงการกระชากกลับมา
"ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ฉันก็ยังอยากได้ค่ามัดจำจากเธออยู่ดี"
ท่อนแขนแข็งแรงกอดรัดเนื้อตัวฉันแน่นก่อนจะซุกไซ้หน้าคมลงมาที่ซอกคอของฉัน
"ถ้าเธออยากร้องให้คนช่วยฉันก็ไม่ว่านะ จะได้มีคนมาเป็นพยานรักของเราเยอะๆ"
"ปล่อยนะคุณธอม เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า อื้อออ อย่านะ"
มือหนาตะปบลงมาที่บั้นท้ายของฉันพลางเค้นคลึงมันอย่างแรง
ฉันพยายามกัดฟันแน่นเมื่อได้ยินเสียงพนักงานบางส่วนทยอยเข้ามา
"ยังไม่มีใครมาห้องนี้หรอก"
“อย่านะ!”
ฉันร้องปรามเมื่อฝ่ามือร้อนค่อยๆนวดคลึงจุดที่ไวของสัมผัสของฉันอย่างไม่กลัวเกรงก่อนจะเลิกกระโปรงตัวสั้นขึ้นแล้วค่อยๆแทรกนิ้วร้อนผ่านเข้าไปกลางกายของฉัน
"คุณธอม เอาออกไปนะ...ฉันสัญญา อื้ออ ฉันสัญญาว่าจะไม่หนีคุณไปไหน อื้มมมม ขอร้องล่ะ หยุดเถอะนะ อื้ออออ"
นิ้วร้อนนวดเน้นตรงจุดเสียวก่อนจะหยุดไว้แค่นั้นเมื่อฉันร้องขอ
"โอเค...ฉันยังมีเวลากับเธออีกเยอะ...แล้วเจอกันตอนงานเลิกที่ลานจอดรถโซนFฉันให้เวลาเธอ15นาทีหลังเลิกงานถ้าเธอมาช้า1นาทีฉันจะให้เธอเจอพี่ชายแบบไม่ครบ32จำเอาไว้"
พลั่ก!!
คนใจร้ายเหวี่ยงฉันไปให้พ้นทางก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องแบบคนที่ได้รับชัยชนะ
ฉันทรุดนั่งลงกับพื้นเมื่อคุณธอมออกไปจากห้องเรียบร้อยแล้ว
ฉันอยากที่จะเป็นคนเลวกว่านี้จะได้กล้าตอบโต้เค้ากลับไปบ้าง
อยากที่จะเป็นคนเลวกว่านี้จะได้ปล่อยพี่ชายให้ตายคามือเค้าอย่างไม่ต้องสนใจชั่วดี
อยากที่จะเป็นคนเลวกว่านี้จะได้ไม่ต้องอยู่ทดแทนบุญของคุณอาทั้งสอง
...แต่ฉันก็ทำได้แค่คิดเมื่อฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากยอมให้คนใจร้ายที่ชื่อว่า 'ธอม'
ในที่สุดเวลางานก็เริ่มขึ้นการเดินแบบเครื่องประดับชิ้นต่างๆได้ผ่านไปจนมาถึงชุดฟินาเล่ที่เหล่าเซเลบในงานต่างรอคอย
" และนี่คือเครื่องเพชรที่เป็นไฮไลของงานค่ะ เพชรชุดหยาดทิพย์White diamond น้ำหนัก90กะรัตมาพร้อมกับสร้อยคอทับทิมพม่าน้ำหนัก40กะรัตล้อมรอบด้วยเพชรจำนวน155กะรัต สวย มีเสน่ห์ น่าค้นหา"
เครื่องเพชรถูกสวมลงบนลำคอระหงของนางแบบที่เดินมาพร้อมกับนายแบบที่ดูคุ้นตา
คุณธอม!
นี่ถึงกับเปลี่ยนตัวนายแบบเลยเหรอ...แต่ก็แน่ล่ะWhite Diamond ราคาเกือบสามสิบล้านคงไม่วางใจให้คนนอกมาถือแน่ๆ คงจะเคสตัวนายแบบผ่านๆไปสินะ
เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อการเดินแบบได้สิ้นสุดพร้อมกับหน้าที่ของฉัน หน้าที่พิธีกรถูกส่งต่อให้กับพี่น้ำรินเป็นคนดำเนินงานต่อส่วนฉันก็ต้องรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบไปที่ลานจอดรถตามที่ได้ให้สัญญาเอาไว้
"มาเร็วดีนิ"
"คุณธอม"ฉันตกใจเมื่ออยู่ดีๆคนตัวสูงก็ก้าวออกมาจากหลังประตูทางออกที่ลานจอดรถ
"เชื่อฟังคำสั่งฉันดี...ถ้าพี่เธอเชื่อฟังฉันเหมือนเธอก็คงจะดี
“…คุณหมายความว่ายังไง”
“เธอรู้ดีว่าฉันหมายถึงอะไร…เธอให้พี่ชายเธอหนีไปแล้วเธอก็ยอมไปกับฉันเพื่อให้พี่เธอรอด…”
คนตรงหน้าย่างสามขุมเข้ามาก่อนก่อนจะคว้าข้อมือฉันไปกำไว้แล้วแแกบีบลงมาอย่างไม่ปราณี
“คุณพูดอะไร ฉันไม่รู้เรื่อง!คุณธอมฉันเจ็บนะ โอ๊ย!ปล่อยนะ!”
“ลองดีผิดคนแล้วล่ะเมเปิ้ล…มูลค่าของทับทิม40กะรัตแน่ใจนะว่าเธอจะชดใช้ได้”
“พี่ไม่มีวันทำแบบนั้นแน่…เค้าสัญญากับฉันแล้วว่าจะไม่หักหลังคุณอีก เชื่อฉันเถอะนะคุณธอม”
ฉันเริ่มเอาน้ำเย็นเข้าลูบเมื่อเห็นว่าต่อต้านไปก็ไม่มีประโยชน์
“พี่เธอทำแน่เมเปิ้ล…สร้อยทับทิมหายไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว ยังดีที่White Diamondไม่หายไปด้วย แต่ยังไงพี่เธอและเธอก็ต้องรับผิดชอบ!”
รอยยิ้มร้ายปรากฎขึ้นบนใบหน้าคมก่อนที่
ฟึ่บ!
ผ้าชื้นๆถูกปิดลงบนจมูกของฉันก่อนที่สติของฉันจะเริ่มเลือนลางจนหายไป
ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงผ้าห่มผืนนุ่มที่คลุมลงมาที่ลำตัวของฉัน
“ขอโทษที่รบกวนนะคะ พอดีฉันเห็นว่าคุณหนาวก็เลยเอาผ้าห่มมาให้…ขอตัวก่อนนะคะ”
ผู้หญิงที่แต่งตัวคล้ายแอร์โฮสเตสพูดกับฉันก่อนจะเดินเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่อยู่สุดทางเดิน
“ตื่นแล้วเหรอ…”
“คุณธอม! โอ้ย!” ฉันมัวแต่ตกใจกับคนข้างๆจนลืมตัวถอยกรูดจนตกเก้าอี้ที่นั่งอยู่
พลั่ก!!
“จะกลัวอะไรขนาดนั้น…ฉันไม่ฆ่าเธอหรอก” คนตัวสูงพูดก่อนจะเอนหลังพิงพนักก่อนจะหลับตาลงช้าๆ
“คุณจะพาฉัน…”
“อย่ากวนเวลาที่นายหลับจะดีกว่านะ” ชายร่างสูงที่ดูเหมือนจะเป็นคนสนิทพูดขึ้นมา
ฉันเงียบเสียงก่อนจะมองผ่านคุณธอมออกไปนอกหน้าต่าง
…ฉันคิดถูกแล้วใช่มั้ยที่ให้พี่มาร์คหนีไป…
หนึ่งชั่วโมงหลังเลิกงานช่วงเช้า
‘พี่ไม่ยอมนะเมล…คุณธอมเป็นยังไงพี่ก็เคยบอกแล้วไม่ใช่รึไง’
‘แต่เค้าก็คงไม่คิดจะฆ่าฉันเหมือนที่เค้าจะทำกับพี่ไม่ใช่เหรอ…’
‘แต่เมลเป็นผู้หญิงพี่จะให้น้องพี่ไปเสี่ยงได้ยังไง…เอาเป็นว่าพี่จะจัดการเรื่องนี้เอง’
‘ก็เพราะว่าพี่เป็นผู้ชายไงพี่มาร์ค พี่ต้องสืบสกุลเราต่อไป เมลเป็นผู้หญิงเมลไม่เป็นอะไรหรอก’
‘ไอ้เมล…งั้นพี่จะรีบจัดการเรื่องที่พี่ก่อเอาไว้ พี่สัญญาว่าพี่จะไม่ทำให้เมลเดือดร้อน’
‘เมลอยากให้พี่สัญญาอีกอย่าง…’
‘เรื่องอะไร’
‘พี่ต้องสัญญาว่าพี่จะไม่หักหลังคุณธอมซ้ำอีก’
‘…’
‘พี่มาร์ค…พี่สัญญามาก่อนสิ’
‘อืม พี่สัญญา’
พี่ให้สัญญาแล้วนะ…พี่ต้องไม่ผิดสัญญาสิ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
เมื่อเครื่องมาถึงสนามบินคุณธอมและเหล่าบอร์ดี้การ์ดอีกนับสิบก็พาฉันเดินไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ก่อนแล้ว
“ขึ้นไปสิมัวลีลาอยู่ได้” คุณธอมชักสีหน้าไม่พอใจใส่ก่อนจะขึ้นเสียงดุ
“คุณยังไม่บอกฉันเลยว่าคุณจะพาฉันไปไหน”
“ฮึ่ม! ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้คำตอบจากฉันนะเมเปิ้ล...เกาะมุก ที่นั่นคือที่ที่เธอต้องไป” พูดจบร่างสูงก็ขึ้นไปนั่งประจำที่พร้อมกับส่งสายตาดุให้ฉันตามขึ้นไป
“ฉันต้องไปอยู่ที่นั่นกี่วันคะคุณธอม”
“…”
ฉันจำใจต้องตามขึ้นไปนั่งข้างๆเค้าเพราะไม่ว่ายังไงเค้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะตอบคำถามของฉันเลย
รถตู้เคลื่อนตัวออกจากชานชาลาผ่านตัวเมืองไปเรื่อยๆจนถึงท่าเรือที่มีคนพลุกพล่านทั้งชาวประมง พ่อค้าแม่ขายที่มารอรับซื้อของสดส่งตรงจากทะเลเพื่อนำไปขายที่ตลาดปลาที่อยู่ไม่ห่างกัน (น่าจะตลาดปลาแหละมั้ง)
ครืด~ ~
ประตูรถถูกเปิดออกเมื่อรถจอดสนิทตรงลานจอดรถหน้าท่าเรือ
“สวัสดีครับนาย…เรือพร้อมแล้วครับ”
ชายคนที่มาเปิดประตูเอ่ยทักคนที่อยู่ข้างๆฉัน เค้าน่าจะเป็นลูกครึ่งดูจากรูปหน้าที่คมเข้มถอดแบบชายไทยมาไม่มีผิดเพี้ยนแต่กลับมีดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลส่งให้คนตรงหน้าดูหน้าค้นหาไปอีกแบบ
“ไปร้านอาหารก่อนค่อยลงเรือ”
“ครับนาย” จนตอนนี้ฉันก็ยังไม่รู้จักใครเลยนอกจากคนที่นั่งข้างๆฉันในตอนนี้
รถยนต์คันที่ชายตาสีฟ้าเดินขึ้นไปนั่งเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถก่อนที่คันที่ฉันนั่งจะขับตามออกไปไม่กี่นาทีก็ถึงร้านอาหารร้านหนึ่ง ประมาณจากหน้าร้านที่ฉันเห็นคิดว่าน่าจะเป็นร้านที่ดีที่สุดในย่านนี้เลยก็ว่าได้
“ถึงแล้วลงไปสิ…ชักช้า” คุณธอมสกิดให้ฉันเปิดประตูลงไปเมื่อรถจอดสนิทได้ไม่เกิน 2วิ -_-!!(จะรีบไปไหนเนี่ย!)
“กริทสั่งอาหารทีดิ๊” ร่างสูงออกปากบอกผู้ชายตาฟ้าที่เพิ่งจะรู้ว่าชื่อ ‘กริท’
พี่กริทหันไปสั่งอาหารกับบริกรก่อนจะนั่งลงข้างๆอีกคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับฉัน…ส่วนคุณธอมก็นั่งหัวโต๊ะเพราะเป็นคนจ่าย(มั้ง)
“เธอแพ้อาหารอะไรรึเปล่า” คนที่ฉันยังไม่รู้ชื่อถามฉันขึ้นมา…เอ่อ ขอบคุณนะที่ไม่เห็นฉันเป็นอากาศไปอีกคน
“คิดว่าไม่น่าจะแพ้นะ…ก็ยังไม่เคยมีโอกาสกิน…”
“ก็คือไม่แพ้…ถ้าแพ้ก็แค่กินไปแล้วถึงตายแค่นั้นเอง”คุณธอมพูดเหน็บขึ้นมา ชิ!ทำไมฉันต้องมาตกอยู่ในกำมือของคนแบบนี้เนี่ย
ฉันก็เป็นคนเหมือนกันนะมันก็ต้องมีความรู้สึก มีความรู้สึกโมโหบ้างแหละน่า
นั่งรอประมาณ15นาทีอาหารที่ไม่น่าจะมาเสิร์ฟได้เร็วกลับถูกจัดวางอยู่บนโต๊ะได้อย่างพร้อมเพรียง
“กริท สั่งอาหารไปกี่อย่าง” คนตัวสูงเอ่ย
“5อย่างครับนาย”
“ไปเรียกผู้จัดการมา!”
คำสั่งของคนตัวสูงทำให้ไม่กี่นาทีต่อมาคนที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้จัดการก็มายืนอยู่ตรงหน้าเค้าได้
“ผมเคยบอกคุณแล้วไม่ใช่รึไง…อาหารทุกอย่างควรเสิร์ฟภายในเวลา20นาที”
“แต่ว่า…”
“ผมไม่ชอบคำแก้ตัว…อาหารที่สั่งไปไม่ใช่ของยากเป็นเพราะเชฟหรือผู้จักการกันแน่”
“ผมขอโทษครับคุณธอมต่อไปผมจะจัดการให้ดีขึ้นครับ!” คนเป็นผู้จัดการยกมือไหว้ก่อนจะร้องขอโอกาสให้กับตัวเอง
“ไม่ใช่แค่กับผมนะที่ต้องดูแลอย่างดี…ลูกค้าคนอื่นคุณก็ต้องทำเหมือนกันด้วย อย่าให้เสียชื่อผม…คุณไปได้แล้ว”
ฉันนั่งมองดูอีกคนกินข้าวอย่างหน้าตาเฉย
จ๊อก~ ~
“…” โอ๊ย!น่าอาย
“หิวก็กินซะสิ…มานั่งจ้องอยู่ได้”
โอ๊ย!คนอะไรเข้าใจยากจริงๆฉันจะรับมือเค้าไหวจริงๆใช่มั้ยเนี่ย
อาหารที่พี่กริทสั่งมามีแต่อาหารทะเลทั้งนั้นทั้งยำไข่แมงดา ปูผัดผงกะหรี่ หอยหลอดผัดฉ่า ไข่เจียวหอยนางรม
“รีบกินเร็วๆฉันมีงานที่เกาะต้องรีบไปทำ”
คุณธอมพูดขึ้นโดยที่ไม่หันมามองหน้าฉันแม้แต่นิดเดียว
ระหว่างที่ฉันกำลังกินอาหารอยู่ก็มีสายเรียกเข้าจากมือถือของคนที่นั่งตรงข้ามกับฉัน สีหน้าของเค้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อรับสายของคู่สนทนา
“นายครับ…ไอ้เชนส่งคนมาวางเพลิงบ้านพักคนงาน มีคนบาดเจ็บแต่ไม่มีคนเสียชีวิตครับ”
คนตรงหน้ารีบรายงานทันทีหลังจากวางสายไป
เคร้ง!
“กลับเกาะ!!!” คุณธอมวางช้อนลงกับจานอย่างแรงก่อนจะลุกเดินออกจากร้านไปทันทีที่พูดจบ
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!!!
...
กระจ่างดาว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ