SHI - TA : find way out

8.3

เขียนโดย พาวจาพัจส์

วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.09 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,155 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มกราคม พ.ศ. 2562 22.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) what gonna be

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บ้านของเรา...

     ในที่สุดก็ได้กลับมาสักที

เขามองบ้านสองชั้น ที่มีลักษณะการออกแบบในรูปทรงธรรมดาไม่ต่างจากบ้านหลังอื่นในละแวกนี้   

นั้นทำให้บ้านเหมือนกับ  มิชิ  ที่เป็นคนที่มีบุคลิกที่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายและทรงผม สีดำที่

ไม่โดนเด่น  แต่มันกลับเข้ากับหน้าตาที่จะแสนธรรมดาของเขา อย่างน่าประหลาด

มิชิ นั้น  โน้มตัวไปข้างหน้า  ไปยังประตูหน้าบ้าน  ด้วยแรงใจที่เหนื่อยล้า

     ไม่ได้ล็อก?

     บางทีเธอคงรอฉันอยู่มั้ง

     “ ฉันกลับมาแล้ว  ทันทีที่เขาเข้ามาในบ้าน ทุกๆ อย่างก็ดูมืดซะเหลือเกิน มีเพียงแสงสว่างจากประตู

ส่องเข้ามา ความเงียบสงัดจากภายใน ช่าง ต่างกับข้างนอก

     คงไม่อยู่ล่ะมั้ง  ถ้าอยู่ก็คงเปิดไฟไว้ไม่ก็ คงเดินออกมาตอนรับแล้วล่ะ 

     “ สวิตซ์ไฟ... เมื่อ  มิชิ  เปิดไฟ  พบว่าความรู้สึกตอนที่ ใช้นิ้วกดลงไปนั้น กลับมีบางอย่างโต้กลับมา

     “ โอ้ย!”  โดนไฟดูด  มิชิ กระซากมือ ออกจากสวิตซ์  นั้นเป็นการตอบสนองแรกที่เขาทำโดยที่

ไร้การควบคุม ก่อนที่จะร้องออกมา

     ( ปั่ก )

แต่นั้นไม่ได้เป็นเสียงร้องของเขา  มือของเขากระแทกไปโดนอะไรบางอย่าง  มิชิ สงสัยเลยหันไปดู

     “ เชตสึ...   เด็กสาวคนหนึ่ง ที่แสงจากประตูแสดงให้เห็น  เส้นผมสีดำเรียวงามซะจนอยากถามว่าใช้

แชมพูยี่ห้ออะไร  ผมตัดสั้นเกือบถึงบ่า  พร้อมใบหน้าเรียว สีขาว อมชมพูที่  ในเชียววินาทีกลายเป็น

ใบหน้าสีแดงช้านที่ ยับยู่ยี่ 

     “ อย่าโผล่มา แบบไม่ส่งเสียงอะไรเลยสิ-   มิชิ  โดนตบ หลังศรีษะ  กระแทกลงบนพื้นที่เป็นไม้  

ในเวลาเสียววินาที  เขายังไม่ทันได้ทรุดตัวลงไปอย่างช้าๆ  ตัวเขานั้นก็ลงไปแนบกับพื้นเสียแล้ว

เธอมองมาที่บริเวณลำตัวเขา

มิชิ  ค่อยๆ  เงยหน้าขึ้น โอดอวยด้วยความเจ็บปวด

     “ ฉันทำอาหารไว้ในครัว    เธอบอกเขาแล้วเดินเขาห้องครัวไป

     “ ขอโทษครับ มิชิ ค่อยๆ ลุกอย่างเรียบร้อย เดินตามน้องสาวไป

มิชิ  นั่งลงบนเก้าอี้  น้องของ มิชิ นั้นมีชื่อว่า เชตสึ  เธอนั่งตรงข้ามเขา เบื้องหน้ามีอาหาร อาหารวางอยู่

แต่ดูเหมือนมันถูกทำไหวนานแล้ว

     “ ขอโทษนะสำหรับเรื่องเมื่อกี้  ฉันโดนไฟดูดแล้วกระตุกมือไปโดนหน้าเธอ  ”

     “ นายก็เห็นอยู่นิว่าไฟมันดับ ปกติฉันจะเปิดไว้ตลอดน่าจะรู้นิ

     ‘ ใครจะไปรู้ล่ะว่าไฟมันจะดูด   เขาหันมามองที่ อาหาร ที่เย็นชื้ดหมดแล้ว แต่ก็ดูน่ากิน

     “ เธอทำอาหารไว้รอพี่งั้นเหรอ  ดูเหมือนมันเย็นหมดแล้วนะ

     “ นายมาช้าเองนะ

     “ เออพอดีพี่มีนัด เลยกินเวลานานไปหน่อย

     “ ฉันเห็นแล้ว...   เชตสึ ทำสีหน้าไม่พอใจ  พร้อมยืนมือมาข้างหน้าเหมือจะขออะไรบางอย่าง

     “ แล้วของฝากที่ขอไว้ล่ะ  ไม่เห็นนายถือของอะไรมาเลย

     “ พอดีว่า... พี่ลืมของทั้งหมดไว้ที่บ้านญาติน่ะ   มิชิ พยายามหลบสายตา

     “ นายนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ  เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกไป  มิชิ  มองอาหารที่วางตรงหน้าเขา

     “ เอ๋? เธอไม่กินเหรอ

     “ ฉันจะออกไปข้างนอกสักพัก ที่อยู่บนโต๊ะเก็บด้วยนะ   ท่าทางไร้เยื่อใยของเธอ เกือบทำให้  มิชิ 

ใจสลาย  ความรู้สึกของความเป็นพี่น้องแถบจะไม่มีเลย  ตอนนี้ความรู้สึกระหว่างพี่น้องเปลื่ยนไป คล้ายๆ

กับคำว่า คนแปลกหน้า  ก็ได้นั้นคือสิ่งที่  มิชิ  รู้สึกและ  เริ่มหดหู่ กับคำพูด ของคนที่ใกล้ชิดที่สุดในครอบครัว

อย่างน้องสาวสิ่งที่เธอพูดมาก็ถูก  มิชิซาว่า  นึกในใจถึงแม้มันจะเป็นประโยคสั้นๆที่ไม่ควรที่จะเก็บมาคิด 

อย่างคนอื่นๆทำกัน  แต่มันก็จริงสำหรับเขา

     ฉันนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ

หลังจากที่เขาจัดการ อาหารบนโต๊ะ  เขาตรงดิ่ไปที่ห้องของเขา

เขากระโจนไปที่เตียงทันที โดยไม่ทันสังเกตถึงความผิดปกติในห้อง ตอนนี้เขาเมินมัน

มิชิ เริ่มหลับตาลงแล้วพยายามลืมเรื่องน่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้

     อืม

     อืม...

     ...............

     “ ใครมันจะไปลืมลงได้ล่ะ!”

     ( massage sond )

     ‘ ข้อความเหรอ ‘  มิชิซาว่า  หยิบโทรศัพท์  ออกมาแล้วเปิดดูข้อความ  ส่งมาจาก ทาเกะนากะ

     “ ยัยนั้นเหรอ  ฉันต้องขอโทษอีกนะสำหรับเรื่องก่อนหน้า แต่ฉันจำเป็นต้องให้คุณช่วยฉันในครั้งนี้ 

ฉันรออยู่ที่ Sweet  odd ถ้าคุณไม่อยากช่วยฉันอีกแล้วก็ไม่เป็นไร  แต่ถ้ามากรุณามาไว้ๆค่ะ ฉันจะรอถึง

14.00 น. มาไว้ๆเหรอ?”

     ฉันพึ่งมาถึงเองนะ...

     เขาลุกขึ้นนั่งบนที่นอน   ก้มมองสิ่งที่อยู่ตรงเอว มิชิซาว่า  ถอดหายใจ

     “ ไปก็ไป  มิชิ  ลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องไป  ในระหว่างกำลังเปิดประตูออกไป

     มิชิ  เดินกลับมา

     “ ลืมเปลื่ยนกางเกง

แล้วเวลาก็ล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน

 

 

 

 

Apartment  Yudeest 207

 

     “ นี่เธออาศัยที่อยู่ อพาร์ทเม้นท์ เหรอเนี่ย ”   มิซิซาว่า มอง อพาร์ทเม้นท์  มีความสูงประมาท 4 ชั้นได้

     “ จำไม่ได้เหรอก็เคยมาครั้งหนึ่งแล้วนิ   มิชิซาว่า  คิดว่ามันเมื่อไหร่กัน  ที่มายังที่นี่

     “ คงลืมสินะค่ะ

     “ … ”  ทั้งสองเดินเขาไปใน  อพาร์ทเม้นท์ หน้าห้อง  302  

     “  อึก

     “ มีอะไรรึเปล่า   มิชิซาว่า  พึงนึกเรื่องสำคัญบางอย่างได้ขึ้นมา

     ‘ นี่ฉันกำลังจะเข้าห้องผู้หญิงเหรอเนี่ยแถมยังเป็นฝ่ายถูกชวนให้มาอีก! แล้วอีกอย่างเรายังรู้จักกับยัยนี่

ไม่ดีพอเลย

     มิชิซาว่า  รู้สึกแปลกกับเหตุการณ์แบบนี้  ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่เอะใจเพราะ เขาได้เพ่งสมาธิไปกับการจดจำ

ทางระหว่างมา

     ตอนนี้เขารู้สึกเขินนิดๆ

     “ มันแปลกๆนะ  ที่เธอให้ฉันที่เป็นผู้ชายเข้าไปเนี่ย 

     “ ไม่ป็นไรฉันอยู่คนเดียว   รู้สึกเธอว่า  พลาดประเด็นสำคัญที่  มิชิ  พยายามจะบอก

     “ ฉันไม่ได้ถามว่าเธออยู่คนเดียว  แล้วนั้นยิ่งแย่ใหญ่  เธอรู้ไหมว่าผู้ใหญ่สมัยนี้มองวัยรุ่นกันยังไง

     “ เอ่ะ? :o  นี่ นายเป็นวัยรุ่นเหรอ แบบว่าหน้าของนายมันขอโทษนะพอดีฉันดูคนไม่ค่อยเก่ง 

      มิชิซาว่า  เริ่มคิ้วขมวด

     “ เดี๋ยวนะ เธอก็วัยรุ่นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ!  แล้วหน้าฉันมัน ทำไม!!”

     “ สวัสดีจ๊ะ เชจัง พาแฟนมาเที่ยวเหรอ? ”  คุณป้าคนหนึ่งที่โผ่ลหน้าออกมาจากประตูห้องข้างๆ 

     “ สวัสดีค่ะ คุณป้า โอกิ คนนี้เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของหนูค่ะ คุณป้าจะออกไปไหนเหรอค่ะ? ”

     “ ป้าได้ยินเสียงผู้ชายส่งเสียงดังเลยออกมาดู ที่แท้ก็แฟนของหนูนี่เองเอ้ย ไม่ใช่เพื่อนร่วมงานสินะจ๊ะ

 ป้า โอกิ ยิ้มให้พวกเขาทั้งสอง แบบ พยายามจะส่งกำลังใจให้  ตาข้างซ้ายมีน้ำตาซึมออกมา  แล้วป้าก็กลับ

เข้าไปในห้อง

     “ คุณป้าตบมุขด้วยเฮะ...  มันทำให้เขานึกถึงเพื่อนของเขา  jomei  ใครๆก็เรียกเขาว่า james เขาเป็น

คนสนุกสนาน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย การกีฬา กับเรียน ไม่แพ้ใคร  หน้าตาที่มีประดุจดั้งฟ้าประทาน  แต่น่า

เสียดายเขาเป็นคนที่มีอารมณ์ขันมากเกินไป  ช่วงหลังๆ มา  เขาไม่ค่อยได้พบกันบ่อยนัก

เซโนะ  เปิดประตู เข้าไป

     “ ตกลงเธอจะให้ฉันเข้าไปจริงๆเหรอ? แบบว่า    เธอหันมามองเขา

     “ ถ้าคุณหมายถึง คุณจะทำอะไรฉันจริงๆล่ะก็  ”  เธอ หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า  กระป๋องบาง

อย่างคล้ายสเปรย์พริกไทย มีบางอย่างเขียนไว้บนกระป๋อง  ตัวอักษรมันใหญ่พอที่   มิชิ  มองเห็นมันได้  

มันเขียนว่า  สเปรย์สูตรเข้มข้น

     “ ฉันเคยได้ยินมาว่ามันทำให้ตาบอดได้เลยล่ะ

     “ ผมเข้าใจแล้วครับ ช่วยเก็บมันลงไปในที่มันควรอยู่ด้วยครับ

ทั้งสองเข้ามายังในห้อง  สิ่งที่  มิชิ สังเกตเห็นคือ ความรกของสิ่งของกับกระดาษกระจัดกระจายไปทั่วห้อง 

นี่คงเป็นห้องรับแขกสินะ  เขาคิดว่า อพาร์ทเม้นท์  ห้องมันจะเล็กกว่านี้  ภายในห้องนี้มีโซฟากับทีวีที่ตั้งอยู่

ข้างหน้า  มีโต๊ะคอมพิวเตอร์อยู่มุมห้อง  ส่วนโต๊ะอีกหนึ่งตัวกลางห้อง  มันช่าง เป็นโต๊ะที่น่าสงสารมันเป็น

โต๊ะขาสั้นตัวเล็กที่แบกรับ กองกระดาษเป็นปึกหนาหลายกอง  มิชิ ชี้ไปที่โต๊ะนั้น

     “ นั้นคือนิยายที่เธอเขียนเหรอ? ”  มิชิ  ตะลึง

     “ ใช่พวกคือผลงานที่ถูกปฏิเสธ เธอเดินไปทั่วห้องหาอะไรบางอย่าง

     “ ที่จะให้ฉันร่วมมือ หรือช่วยเนี่ย จะให้ฉันทำอะไร    เขามองเธอที่เดินไปเดินมา  เธอกำลังหาอะไร

     “ ตอนนี้คุณช่วยนั่งลงตรงโต๊ะนั้นก่อน   มิชิ หันมามองโต๊ะที่มีกองกระดาษวางอยู่  เซโนะ  เดินเข้าไปยัง

อีกห้องหนึ่งเขานั่งลง พลางรู้สึกขัดใจกับความอีเหละเขะขะรอบๆตัวเขา และกองกระดาษเบื้องหน้า

เขาตัดสินใจนำมันมาจัดระเบียบใหม่ มันหนักมาก  เขาเลยแยกออกมาทีละกอง  แล้วเรียงวางไว้ข้างโต๊ะ

อย่างเรียบร้อย ตอนนี้บนโต๊ะโล่งแล้ว  เขาเหลือบไปมองสิ่งที่วางอยู่ตรงมุมห้อง  บางอย่างถูกผ้าคลุมไว้ 

ไม่นานนักเธอก็เดินออกมาจากห้อง  หร้อมโน้ตบุ๊คที่ถือมาข้างลำตัวเธอมองมารอบๆโต๊ะ  แล้วหันมามองเขา

ด้วยความประหลาดใจ  เธอเดินตรงมาแล้วนั่งลงตรงข้ามเขา วางโน้ตบุ๊ค

     “ ฉันอยากให้นายช่วยฉันเขียน นิยาย ตอนนี้เลย 

     “ ตอนนี้เหรอ?”  ดูเหมือนเธอจะรอคำตอบจากเขาจากเขาอย่างใจจดใจจ้อ

     “ ได้ ไม่รู้เธอจะถามทำไมฉันอุตส่าห์ มาถึงนี่แล้วจะปฏิเสธทำไม

     “ ขอโทษนะเราควรเริ่มจากไหนก่อนดีฉันไม่เคยเขียนนิยายร่วมกับใครมาก่อน  แล้วคุณว่าเราควรเริ่มจาก

ไหนก่อนดี

     “ อะไรเนี่ย น่-  มิชิหุบปาก เกือบหลุดปากไปแล้ว  นั้นก็คงเป็นเพราะว่า  ตอน เซโนะ  ทำหน้าไร้เดียงสา

ออกมา  อาการเขินอายแล้วยังเสียงจากประโยคนั้นทำเอา มิชิ ใจวูบไปช่วงหนึ่งที่จู่ๆก็เปลื่ยนบุคคลิก  ถ้าเธอ

เลิกทำเสียงเย็นชาได้เมื่อไรมันคงทำให้เธอน่ารักขึ้นเยอะ

     “( เดียวนะฉันก็เคยช่วยตอบความเห็นของเธอผ่านข้อความนิ )  งั้นปกติก่อนเธอเริ่มเขียนเธอทำอะไร

ก่อนล่ะ

     “ เขียนเลย

     “ หา? ไม่คิดอะไรก่อนเลยเหรอ?”

     “ ฉันนึกเรื่องที่อยากเขียนก็เขียนเลย   เธอตอบมาแบบหน้าตาเฉย

     “ งั้นทำตามแบบของฉันล่ะกัน  ก่อนที่เราจะเขียนน่ะต้องมีสิ่งนี้

     10 นาทีต่อมา

     “ เชื้อเพลิงพร้อมแล้ว  มิชิ กับ ทาโกะ กำถุงพลาสติกไว้ในมือ ทั้งสองข้าง  ในนั้นต็มไปด้วย ช็อกโกแลต

โคลาแล้วของหวานมากมาย  แบบที่ว่าหากผู้ปกครองของพวกเขามาเห็นคงไม่พ้นการอบรมไปแน่

     “ แล้วจาก เชื้อเพลิง แล้วอะไรต่อ เชโนะหันมาถามเขา  มิชิ ค่อยๆ ยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโชว์

     “ เพลง..

     “ เพลงเหรอ? ”

     หลังจากนั้นมิชิ ได้บอกขั้นตอนของการเตรียมการ เพื่อพร้อมสำหรับการเขียน  ทั้งสองนั่งตรงข้ามกันโดย

มีโต๊ะตัวเล็กๆขวางระหว่างทั้งสอง  โดยมีเพลงฟังสบายๆ ประกอบสถานการณ์ แต่ดูอีกในแง่หนึ่งเหมือน

เพลงที่บรรเลงอยู่นั้น ได้หยุดบทสนทนาทั้งสองไว้  ในตอนนี้ความรู้สึกอึดอัดก็เกิดแทรกเข้ามาระหว่างพวก

เขาทั้งสอง  ด้านหน้าของ มิชิ มีกระดาษ หนึ่งแผ่นเขาจ้องมันอย่างเงียบครึ่ม  เชโนะ  เธอจ้องไปยังโน้ตบุ๊ค

อย่างเงียบครึ่มเช่นกันจนท้ายที่สุดขั้นตอนสุดท้าย  การลงมือ  ช่วง 10 นาที แรกนั้นพวกเขายังไม่สามารถ

เขียนอะไรลงไปได้เลย

     “ ช่วงแรกๆ มันก็จะคิดอะไรไม่ค่อยออกล่ะนะ คงต้องผ่านไปสักพัก   มิชิ รู้สึกเขินนิดหน่อย

     แล้วทั้งสองก็ยิบขนมขึ้นมาเคี้ยวเล่น

     5 นาที ผ่านไปพวกเขาไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเลย

     “ คุณได้เขียนอะไรลงไปรึยัง

     “ ยัง แล้วเธอล่ะ

     “ ยัง ฉันไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไรลงไป

     มิชิ  นั่งครุ่นคิดว่าควรทำเช่นไร ถ้าเธอไม่สามารถคิดเรื่อง หรือสร้างเรื่องราวได้

     “ ถ้างั้น ลองเขียนเรื่องที่เธออยากระบายเกี่ยวกับวันนี้ไหมล่ะ

     “ ทำไหมฉันต้องเขียนเรื่องที่ฉันอยากระบายด้วยล่ะ

     “ ก็ในเมื่อตอนนี้เธอ ยังคิดเรื่องที่จะเขียนไม่ได้ งั้นไม่ลองเขียนเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ล่ะ

     “ ระบาย?  มันใช่สิ่งที่ควรเขียนรึ?”

     “ ฉันก็ว่าไม่... ก็แค่แต่งไง  แบบ...  อย่างเช่นตอน mr.eyebrown ปฎิเสธ ผลงานที่เธอส่งไป เธอไม่รู้สึก

โกรธมั่งเหรอ? ”

     “ ความรูสึกโกรธ มันเกี่ยวกับข้องอะไรด้วยล่ะ?”  มิชิ เริ่มเค้นความคิดที่นึกได้มากที่สุด  เพื่อนำออกมา

อธิบาย

     “ ความรู้สึก มันหนึ่งในแรงผลักดันในงานเขียนนะ ก็เหมือนตอนเขียนกลอนไง  ในสมัยเด็กฉันเคยเขียน

กลอนส่งอาจารย์ตอนนั้นฉันก็คิดอะไรไม่ออกความรู้สึกเหมือนกับตอนนี้  ตอนนั้นฉันก็เลยเขียนไปบอก

อาจารย์ไปว่า ผมคิดไม่ออกครับ’  แบบเป็นกลอนส่งอาจารย์ไป  แต่ก็โดนไล่กลับไปเขียนใหม่   ท้ายที่สุดก็

หมดคาบเรียนอาจารย์สั่งให้ฉันกลับไปเขียนที่บ้านแล้วเอามาส่งวันถัดไป

     “ ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพยายามจะบอกฉัน  แต่ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นเด็กหัวไม่ค่อยดีสินะ  

     มิชิ  ทำหน้าเศร้าสร้อย

     “ อาจารย์ฉันก็บอกมาประมาณนั้นเหมือนกัน ตอนส่งกลอน  ความอิดอัดภายในห้องเริ่มหายไป

ช่องว่างของบทสนทสนาของทั้งสองค่อยๆ หายไป   เชโนะ  ที่ได้ฟังคำพูดของมิชิ  จึงลองพยายามเข้น

ความรู้สึกของตนที่ถูกปฎิเสธ ผลงานที่เธอมานะเขียนมาหลายต่อหลายครั้ง  ที่ถูกวางทิ้งไว้เป็นกอง

ด้านหลังของเธอ  ทุกวินาทีที่เสียไปเธอควรคิดยังไงกับเรื่องนี้  มิชิ นึกเรื่องที่ตนนั้นไม่ว่าจะพยายามทำใน

เรื่องใดเรื่องหนึ่ง มักพบกับความผิดพลาดกับความผิด ตามติดอยู่เสมอ ผลลัพธ์จากความผิดพลาดเหล่านั้น 

มันได้มอบประโยค ที่ฟังแล้วน่าเจ็บใจมากสำหรับเขา  คนที่ไม่ได้เรื่อง หรือไม่เอาไหน  ที่เจ็บยิ่งกว่าแม้คน

ใก้ลตัว ก็ยังเปรยออกมาโดยไม่มีความเกรงใจ  จนกลายเป็นว่าเขากับน้องต้องอยู่ร่วมกันในบ้านด้วย

ความรู้สึกที่คล้ายกับว่า   จับคนแปลกหน้าสองคนที่ไม่ถูกกันมาอยู่ร่วมกัน

     มิชิ เชโนะ  ชูดหายใจเข้าเต็มปอดไหล่ทั้งสองข้าง  ของพวกเขายกขึ้นสูงพลางค่อยๆ กำมือแน่น

     ( ตึง )  ทั้งสองใช้มือที่กำแน่นทั้งสองข้างทุบลงไปที่โต๊ะอย่างแรง  โน้ตบุ๊กนั้นลอยกลางในเสี้ยววินาที

     “ หา!! ฉันมันไม่ได้เรื่องแล้วมันทำไหมฟะ! มันหัวพวกคุณรึไง

     “MR!EYEBROW ทำไมแกไม่รับงานของฉันหา!!!! รู้ไหมว่าฉันนั้นเสียเวลารับงานไปเท่าไรแล้วเพื่อ

จะเขียนงานพวกนี้เนี่ยย! ”

     ทั้งสองฟิวส์ขาด

มิชิ เริ่มลงมือเขียนอย่างรวดเร็ว  ส่วน เชโนะ  พิมพ์ด้วยเร็ว SPEED FORCE

ใบหน้าของพวกเขาแสดงให้เห็นความโกรธแค้นที่สะสมไว้นาน ตอนนี้มันได้ถูกปลดปล่อย

     “ ตอนนี้เหละ คอยดูนะพวก ฉันจะแสดงให้เห็น

     “ คราวนี้ต้องผ่านให้ได้! ”

พวกเขาได้ทุ่มพลังทั้งหมดลงไปในงานเขียน  ดุจดั้งเปลวไฟอันร้าวฉาน

 

 

 

 

     2 เดือนต่อมา 

     ปลายปี 2016

     “ นี่... แล้วพวกเราในตอนนี้ควรทำยังไงดี...

     “ อืม... ฉันก็ไม่ได้หวังอะไรมากขนาดนั้น...

ทั้งสองยืนอยู่ในงานจัดแสดง ที่ยิ่งใหญ่มาก พวกเขากำลังมองเหล่าผู้คนจำนวนมากนั่งอยู่ข้างของหน้าเวที 

ด้านหน้าเวทีมี ป้ายแสดงถึงหัวข้อเรื่อง หัวข้อเรื่องนั้นเขียนว่า  การสัมภาษณ์ผลงานของ

      Shi-ta : kibo Irumineshon

 

 

[บทเสริม]

     “ เอะ? ประตูล็อก ”  เชตสึ เธอยืนอยู่หน้าประตูบ้าน

     ‘ กุญแจลืมหยิบออกมาด้วยสิ

     “ เฮ้ เปิดประตูบ้านให้หน่อยสิ   ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่อยู่เหรอ?’

     เธอลองโทรหาพี่ชายของเธอ

ณ  อพาร์ทเม้นท์  ที่ เชโนะ อาศัยอยู่

     โทรศัพท์ของมิชิ ในตอนนี้กำลังเล่นเพลงอยู่  มีคนโทรมา เสียงเพลงหยุดลง

     “ ฮัลโหล! ”

     ‘ นี่นายจะตะโกนทำไม! ’

     “ มีอะไร! ”

     ‘ นายป็นอะไรเนี่ย! ตอนนี้ฉันเข้-

     “ไม่ไม่ไม่!  เสียงเพลงหายไปไหนฉันเหลืออีกไม่กี่หน้าเองนะ…  ”  เชโนะ พูดออกมาแบบหวาดผวา

โดยเสียงของเธอ ค่อยๆ แผ่วเบาลงตามลำดับของของคำ

     “ ใจเย็นก่อน!  รีบเปิดในโน้ตบุ๊คเธอไปก่อนอย่างให้เสียงเพลงคาดหายไม่งั้นสิ่งที่ทำมาตั้งแต่ตอนต้นก็

จะหายไป! ”

     ‘ นะ.. น- นั้นเสียงใครน่ะ?  ฮัลโห่ล ฮัลโห่ล!’

     “ ฮัลโห่ล เชตสึ  ”  มิชิ ยืนโทรศัพท์ออกจากหู 

     แบตหมดเหรอ? แล้วเธอโทรมามีเรื่องอะไรรึเปล่านะ

     “ หน่อย...  เชตสึ โกรธจนหน้าแดง

     “ ไอ้พี่บ้า! ถ้ากลับมาเมื่อไรล่ะก็

หลังจากนั้น เชตสึ ตัดสินใจไปค้างบ้านเพื่อนของเธอ  หลังจากวันนั้นไป เชโนะ ก็ไม่ได้รับการติดต่อจาก

 

มิชิซาว่า เป็นเวลา 3 วัน

 

 

 

[มุมนักเขียน]

Kept ya waiting huh

Sorry it took so long

I be back soon...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา