พ่ายรักพรางหัวใจ
8.8
เขียนโดย Phaky
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.
33 ตอน
4 วิจารณ์
33.41K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ท้าทาย?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ว่ายังไง กำลังคิดจะหนีใช่ไหม อลิส”
“คือ...”
เจ้าของร่างโปร่งระหงยืนก้มหน้ากัดริมฝีปากไว้แน่นพูดไม่ออก เพราะจะว่าไปตามจริงเธอก็กำลังหาทางหนีทีไล่ออกไปจากที่นี่จริงๆอย่างที่ดาเนียลพูดนั่นแหละ ต่างกันนิดหน่อยตรงที่เธอต้องการหนีออกไปจากที่นี่เพื่อไปตามหาดาร์เลเน่ มิใช่หนีความผิดที่บกพร่องต่อหน้าที่
“พูดไม่ออก แสดงว่ามันคือเรื่องจริงสินะ แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเธอตั้งใจปล่อยให้เจ้าขาหายไป”
“ดิฉันไม่เคยคิดทำอะไรแบบนั้นค่ะ”
เอริสาปฏิเสธออกไปเสียงเรียบเมื่อตอนนี้เธอสามารถดึงสติที่ก่อนหน้านี้มันหลุดลอยออกจากร่างเพราะตกอยู่ในสถานการณ์ชวนระทึกใจกลับคืนมาได้ เพราะน้อยนักที่เธอจะมีโอกาสได้เข้าใกล้ ดาเนียล กริมเมอร์ ผู้ชายที่อยู่สูงไกลเกินเอื้อมที่เธอต้องคอยห้ามปรามหัวใจไม่ให้คิดฝันละเมอไปไกล แต่เหตุการณ์เมื่อสักครู่เธอกลับตกอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาอย่างไม่คาดฝัน จึงต้องรีบดึงตัวเองออกห่างก่อนที่สีหน้าและแววตาของตัวเองจะเผยความในใจออกมาจนหมด
“ถ้าเธอไม่ได้ทำแล้วใคร! ใครเป็นคนทำ บอกมาซิว่าใครเป็นคนทำ พูด!”
ดาเนียลตะคอกถามด้วยความฉุนเฉียว ใบหน้าหล่อเหลาราวพระเอกภาพยนตร์บึ้งตึง ดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มวับวาวราวกับมีกองไฟอยู่ในนั้น
“ดิฉันไม่ทราบค่ะ”
“ไม่ทราบ! เวร! นี่ฉันจ้างเธอมาดูแลน้องสาวแต่เธอกลับพูดได้เพียงคำว่าไม่ทราบ ฉันควรทำยังกับเธอดี อลิส ฉันควรทำยังไง! ”
สิ้นเสียงตอบราบเรียบของเอริสาก็ทำเอาดาเนียลโกรธจัดจนแทบยั้งอารมณ์ไม่อยู่ ชายหนุ่มย่ำเท้าเข้าใกล้ร่างของบอดี้การ์ดที่ยืนก้มหน้า จับปลายคางของหญิงสาวบังคับให้เงยขึ้นสบตา ก่อนออกแรงบีบหนักๆอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อดวงตาคู่นั้นมีแต่ความว่างเปล่า
ประโยคคำถามของดาเนียลไม่ได้รับคำตอบจากปากของเอริสา แต่วินาทีถัดมาหญิงสาวกลับปล่อยมือที่ประสานกันอยู่ตรงหน้าขา ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะดึงมีดพกอีกหนึ่งอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทด้านในออกมาแล้วยื่นไปตรงหน้าของดาเนียล ไม่ต้องบอกชายหนุ่มก็พอจะเข้าใจความหมายของบอดี้การ์ดสาวได้ดี ว่าเอริสาต้องการให้เขาลงโทษเจ้าหล่อนด้วยการ...ปลิดชีวิต!
“นึกว่าฉันไม่กล้ารึไง อย่าริอ่านท้าทายอารมณ์ของฉัน”
ดาเนียลเค้นเสียงเตือนลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด กรามหนาบดเข้าหากันจนมันขึ้นเป็นสันนูน เส้นเลือดบริเวณลำคอปูดโปนจนเห็นได้ชัด เขาไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าเธอ ไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ เขาแค่ต้องการระบายความอัดอั้นที่อยู่ในใจออกมาบ้างโดยมีเธอเป็นที่รองรับอารมณ์ แต่นี่เอริสากลับคิดว่าเขาเป็นผู้ชายใจร้ายใจทมิฬ หญิงสาวมองเขาเป็นคนโหดร้ายขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร ในสายตาของเธอคงไม่เคยมองเขาดีเลยสักอย่างเลยสินะเจ้าหล่อนถึงคิดว่าเขาจะลงมือฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
พอสิ้นเสียงเตือนจากนายใหญ่กริมเมอร์ แทนที่เอริสาจะแสดงท่าทีหวาดกลัวความตายที่ดาเนียลอาจบ้าจี้ทำตาม หรือเอ่ยขอโทษที่เจ้าหล่อนทำเหมือนต้องการประชดประชัน แต่หญิงสาวกลับทำให้สถานการณ์ที่กำลังระอุร้อนตึงเครียดมันแย่ลงไปกว่าเดิมด้วยการเงยหน้าขึ้นช้าๆเพื่อเปิดพื้นที่ช่วงคอให้ดาเนียลสามารถใช้มีดในมือของหญิงสาวเชือดลำคอขาวของตัวเองได้ง่ายขึ้น อีกทั้งเอริสายังปิดเปลือกตาลงอย่างยอมจำนนกับความตายที่กำลังจะมาเยือนด้วยท่าทีสงบ การกระทำของบอดี้การ์ดสาวไม่ต่างอะไรกับการเทน้ำมันลงในกองไฟโทสะท้าทายซาตานร้ายที่ซ่อนอยู่ในตัวของดาเนียลให้ปรากฏตัว
“บัดซบ!”
เสียงสบถหยาบคายอีกหลายคำหลุดออกมาจากเรียวปากสีชมพูเข้มของดาเนียลหลังจากที่ชายหนุ่มปัดมีดพกในมือของเอริสาทิ้งแรงๆอย่างไม่ใยดี ก่อนที่ร่างสมส่วนของบอดี้การ์ดคนสวยจะลอยหวือไปนอนเค้เก้อยู่บนเตียงกว้างด้วยน้ำมือของดาเนียลเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากอารมณ์ชั่ววูบที่เขาอาจพลั้งมือทำร้ายเจ้าหล่อนด้วยความขาดสติ
แม้จะเจ็บจนจุกเมื่อร่างถูกจับโยนมากระแทกบนที่นอนอย่างไร้ความปรานีแต่กลับไร้ซึ่งเสียงร้องขอความเมตตา เอริสาทำเพียงขยับตัวลุกขึ้นแล้วลงมายืนอยู่ข้างเตียงนอนพลางก้มหน้าลงต่ำหลีกเลี่ยงการสบตากับดาเนียลเหมือนเช่นเคย ในขณะที่ชายหนุ่มได้แต่ยืนเท้าเอวหนาหายใจแรงๆอย่างต้องการระงับอารมณ์โกรธจัดของตัวเองให้คลายลง แม้ว่ามันจะยากเย็นเต็มที
“โธ่โว๊ย!”
ปล่อยเวลาให้เดินผ่านไปโดยไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ สุดท้ายดาเนียลก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว การให้เวลาช่วยทำให้จิตใจของเขาสงบลงนั้นไม่ได้ผลเอาเสียเลย มีแต่จะยิ่งทำให้ความเดือดดาลของเขานั้นเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งเมื่อหันไปเห็นบอดี้การ์ดสาวยืนนิ่งเป็นเสาไฟฟ้าไร้ความรู้สึกเขาก็ยิ่งโมโหจนต้องการทำลายอะไรสักอย่างให้พังพินาศลงเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในร่างกาย และตอนนี้หญิงสาวคือสิ่งที่เขาต้องการทำลาย!
หางตาคมกร้าวของดาเนียลมองเห็นมีดพกของเอริสาที่หล่นอยู่บนพื้น พริบตามีดเล่มนั้นก็อยู่ในมือของชายหนุ่ม ลำขาแข็งแกร่งเดินเข้าหาร่างเพรียวที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความหมายมาด ดาเนียลหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอริสาทิ้งระยะห่างของสองร่างเล็กน้อย ก่อนที่มือหนาข้างหนึ่งจะอ้อมไปทางด้านหลังของหญิงสาวแล้วกระชากเส้นผมนุ่มลื่นแรงๆจนใบหน้าของเอริสาแหงนเงย ส่วนมืออีกข้างก็ส่งปลายมีดเข้าใกล้ลำคอขาวผ่อง แม้จะเจ็บร้าวที่หนังศีรษะแต่ก็เหมือนเช่นเคยที่เอริสาไม่ยอมปริปากส่งเสียงของความเจ็บปวดออกมาให้ได้ยิน แม้ขยับตัวหนีหญิงสาวก็ไม่คิดจะทำ
“ฮึ่ย!”
อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น หากดาเนียลชักมือกลับไม่ทัน ป่านนี้ลำคอขาวผ่องของเอริสาคงขาดแล่งด้วยปลายมีดของตัวเองเป็นแน่ แม้อารมณ์เกรี้ยวกราดที่ผสานกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมานานจนก่อเป็นความเครียดจะอยู่เหนือทุกสิ่งจนสั่งการให้ชายหนุ่มทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด แต่จิตใต้สำนึกส่วนลึกกลับมีอำนาจเหนือกว่านั้น เพราะเพียงเสี้ยววินาทีที่ปลายมีดกำลังจะกรีดลึกเข้าที่ผิวเนื้อของบอดี้การ์ดสาว ใบหน้าของเจ้าหล่อนยามแย้มยิ้มน้อยๆกับดาร์เลเน่กลับแจ่มชัดอยู่ในสมองจนทำให้เขาได้สติ ปลายมือหนาจึงดึงมือกลับแล้วสะบัดมีดพกทิ้งไปอีกครั้ง และครั้งนี้มีดเจ้าปัญหาก็ลอยไปไกลจนอยู่นอกสายตาเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเขาหรือเอริสาหยิบมันมาเป็นอาวุธทำร้ายร่างกายใครได้อีก
“พูดอะไรมาสักอย่างสิ อย่ามายืนเงียบเป็นท่อนไม้แบบนี้ พูดสิ พูด!”
ต้นแขนเรียวถูกมือหนาบีบแรงๆจนผิวเนื้อนวลแทบปริแตกคามือ ก่อนถูกเขย่าจนศีรษะสั่นคลอนทำให้คนที่ร่างกายอ่อนเพลียเพราะขาดการพักผ่อนและไร้อาหารตกถึงท้องมาตั้งแต่วันที่ดาร์เลเน่หายตัวไปรู้สึกวิงเวียนจนแทบยืนไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเอริสาก็ยังคงนิ่งเฉย เฉยเสียจนดาเนียลอยากรู้นักว่าในร่างกายหญิงสาวมีต่อมความรู้สึกอยู่หรือเปล่า ปลายมีดที่เกือบปาดลำคอขาวเมื่อครู่มันทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกหวาดกลัวบ้างหรือไม่
“ลืมตามองฉัน...เดี๋ยวนี้!”
มือหนาหยุดเขย่าแล้วกระชากร่างบางเข้ามาชิด ร่างเพรียวระหงของเอริสาจึงตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของดาเนียลก่อนชายหนุ่มจะออกคำสั่งเสียงเข้มให้หญิงสาวเปิดดวงตาขึ้นมอง เอริสาที่เทิดทูนดาเนียลเป็นดั่งเจ้าชีวิตจึงมิอาจกล้าขัดคำสั่ง ดวงตาสองคู่จึงมีโอกาสสบตากันในระยะประชิด ดวงตาคู่หนึ่งมองลึกเข้าไปในดวงตาคมหวานด้วยความกราดเกรี้ยว ส่วนดวงตาของเอริสากลับปราศจากความรู้สึกใดๆนอกจากความว่างเปล่า
“คุณชาย!”
แต่แล้วเสียงหวานกลับอุทานออกมาด้วยความตระหนกกับการกระทำของนายใหญ่กริมเมอร์ เพราะเมื่อดวงตาที่เปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆให้เขาเห็น ดาเนียลที่อยากรู้เหลือเกินว่าเอริสานั้นมีต่อมความรู้สึกหรือไม่จึงก้มหน้าให้ศีรษะแนบชิดอยู่กับอกด้านซ้ายของหญิงสาว เพราะคิดว่าต่อให้เอริสาซ่อนความรู้สึกได้เก่งแค่ไหน แต่หญิงสาวคงไม่สามารถฝืนกลไกธรรมชาติของร่างกายได้หากสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่มันทำให้ผู้หญิงเย็นชาหวาดกลัวได้บ้าง หัวใจของเจ้าหล่อนคงกำลังเต้นระรัวอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าเหตุการณ์ที่เขาใช้มีดจี้คอขาวๆนั้นมันจะทำให้เอริสารู้สึกกลัวหรือไม่ เพราะตอนนี้เขาพอจะรู้แล้วว่าเอริสาหวาดกลัวอะไร
“ไม่กลัวมีด ไม่กลัวตายสินะ”
“คุณชายจะทำอะไรคะ”
.......................................................................................................................................................................
“คือ...”
เจ้าของร่างโปร่งระหงยืนก้มหน้ากัดริมฝีปากไว้แน่นพูดไม่ออก เพราะจะว่าไปตามจริงเธอก็กำลังหาทางหนีทีไล่ออกไปจากที่นี่จริงๆอย่างที่ดาเนียลพูดนั่นแหละ ต่างกันนิดหน่อยตรงที่เธอต้องการหนีออกไปจากที่นี่เพื่อไปตามหาดาร์เลเน่ มิใช่หนีความผิดที่บกพร่องต่อหน้าที่
“พูดไม่ออก แสดงว่ามันคือเรื่องจริงสินะ แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเธอตั้งใจปล่อยให้เจ้าขาหายไป”
“ดิฉันไม่เคยคิดทำอะไรแบบนั้นค่ะ”
เอริสาปฏิเสธออกไปเสียงเรียบเมื่อตอนนี้เธอสามารถดึงสติที่ก่อนหน้านี้มันหลุดลอยออกจากร่างเพราะตกอยู่ในสถานการณ์ชวนระทึกใจกลับคืนมาได้ เพราะน้อยนักที่เธอจะมีโอกาสได้เข้าใกล้ ดาเนียล กริมเมอร์ ผู้ชายที่อยู่สูงไกลเกินเอื้อมที่เธอต้องคอยห้ามปรามหัวใจไม่ให้คิดฝันละเมอไปไกล แต่เหตุการณ์เมื่อสักครู่เธอกลับตกอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาอย่างไม่คาดฝัน จึงต้องรีบดึงตัวเองออกห่างก่อนที่สีหน้าและแววตาของตัวเองจะเผยความในใจออกมาจนหมด
“ถ้าเธอไม่ได้ทำแล้วใคร! ใครเป็นคนทำ บอกมาซิว่าใครเป็นคนทำ พูด!”
ดาเนียลตะคอกถามด้วยความฉุนเฉียว ใบหน้าหล่อเหลาราวพระเอกภาพยนตร์บึ้งตึง ดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มวับวาวราวกับมีกองไฟอยู่ในนั้น
“ดิฉันไม่ทราบค่ะ”
“ไม่ทราบ! เวร! นี่ฉันจ้างเธอมาดูแลน้องสาวแต่เธอกลับพูดได้เพียงคำว่าไม่ทราบ ฉันควรทำยังกับเธอดี อลิส ฉันควรทำยังไง! ”
สิ้นเสียงตอบราบเรียบของเอริสาก็ทำเอาดาเนียลโกรธจัดจนแทบยั้งอารมณ์ไม่อยู่ ชายหนุ่มย่ำเท้าเข้าใกล้ร่างของบอดี้การ์ดที่ยืนก้มหน้า จับปลายคางของหญิงสาวบังคับให้เงยขึ้นสบตา ก่อนออกแรงบีบหนักๆอย่างเกรี้ยวกราดเมื่อดวงตาคู่นั้นมีแต่ความว่างเปล่า
ประโยคคำถามของดาเนียลไม่ได้รับคำตอบจากปากของเอริสา แต่วินาทีถัดมาหญิงสาวกลับปล่อยมือที่ประสานกันอยู่ตรงหน้าขา ก่อนที่มือข้างหนึ่งจะดึงมีดพกอีกหนึ่งอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อสูทด้านในออกมาแล้วยื่นไปตรงหน้าของดาเนียล ไม่ต้องบอกชายหนุ่มก็พอจะเข้าใจความหมายของบอดี้การ์ดสาวได้ดี ว่าเอริสาต้องการให้เขาลงโทษเจ้าหล่อนด้วยการ...ปลิดชีวิต!
“นึกว่าฉันไม่กล้ารึไง อย่าริอ่านท้าทายอารมณ์ของฉัน”
ดาเนียลเค้นเสียงเตือนลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด กรามหนาบดเข้าหากันจนมันขึ้นเป็นสันนูน เส้นเลือดบริเวณลำคอปูดโปนจนเห็นได้ชัด เขาไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าเธอ ไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ เขาแค่ต้องการระบายความอัดอั้นที่อยู่ในใจออกมาบ้างโดยมีเธอเป็นที่รองรับอารมณ์ แต่นี่เอริสากลับคิดว่าเขาเป็นผู้ชายใจร้ายใจทมิฬ หญิงสาวมองเขาเป็นคนโหดร้ายขนาดนั้นเลยหรืออย่างไร ในสายตาของเธอคงไม่เคยมองเขาดีเลยสักอย่างเลยสินะเจ้าหล่อนถึงคิดว่าเขาจะลงมือฆ่าผู้หญิงคนหนึ่งได้อย่างง่ายดายเช่นนี้
พอสิ้นเสียงเตือนจากนายใหญ่กริมเมอร์ แทนที่เอริสาจะแสดงท่าทีหวาดกลัวความตายที่ดาเนียลอาจบ้าจี้ทำตาม หรือเอ่ยขอโทษที่เจ้าหล่อนทำเหมือนต้องการประชดประชัน แต่หญิงสาวกลับทำให้สถานการณ์ที่กำลังระอุร้อนตึงเครียดมันแย่ลงไปกว่าเดิมด้วยการเงยหน้าขึ้นช้าๆเพื่อเปิดพื้นที่ช่วงคอให้ดาเนียลสามารถใช้มีดในมือของหญิงสาวเชือดลำคอขาวของตัวเองได้ง่ายขึ้น อีกทั้งเอริสายังปิดเปลือกตาลงอย่างยอมจำนนกับความตายที่กำลังจะมาเยือนด้วยท่าทีสงบ การกระทำของบอดี้การ์ดสาวไม่ต่างอะไรกับการเทน้ำมันลงในกองไฟโทสะท้าทายซาตานร้ายที่ซ่อนอยู่ในตัวของดาเนียลให้ปรากฏตัว
“บัดซบ!”
เสียงสบถหยาบคายอีกหลายคำหลุดออกมาจากเรียวปากสีชมพูเข้มของดาเนียลหลังจากที่ชายหนุ่มปัดมีดพกในมือของเอริสาทิ้งแรงๆอย่างไม่ใยดี ก่อนที่ร่างสมส่วนของบอดี้การ์ดคนสวยจะลอยหวือไปนอนเค้เก้อยู่บนเตียงกว้างด้วยน้ำมือของดาเนียลเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากอารมณ์ชั่ววูบที่เขาอาจพลั้งมือทำร้ายเจ้าหล่อนด้วยความขาดสติ
แม้จะเจ็บจนจุกเมื่อร่างถูกจับโยนมากระแทกบนที่นอนอย่างไร้ความปรานีแต่กลับไร้ซึ่งเสียงร้องขอความเมตตา เอริสาทำเพียงขยับตัวลุกขึ้นแล้วลงมายืนอยู่ข้างเตียงนอนพลางก้มหน้าลงต่ำหลีกเลี่ยงการสบตากับดาเนียลเหมือนเช่นเคย ในขณะที่ชายหนุ่มได้แต่ยืนเท้าเอวหนาหายใจแรงๆอย่างต้องการระงับอารมณ์โกรธจัดของตัวเองให้คลายลง แม้ว่ามันจะยากเย็นเต็มที
“โธ่โว๊ย!”
ปล่อยเวลาให้เดินผ่านไปโดยไร้ซึ่งการเคลื่อนไหวใดๆ สุดท้ายดาเนียลก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว การให้เวลาช่วยทำให้จิตใจของเขาสงบลงนั้นไม่ได้ผลเอาเสียเลย มีแต่จะยิ่งทำให้ความเดือดดาลของเขานั้นเพิ่มสูงขึ้น ยิ่งเมื่อหันไปเห็นบอดี้การ์ดสาวยืนนิ่งเป็นเสาไฟฟ้าไร้ความรู้สึกเขาก็ยิ่งโมโหจนต้องการทำลายอะไรสักอย่างให้พังพินาศลงเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดในร่างกาย และตอนนี้หญิงสาวคือสิ่งที่เขาต้องการทำลาย!
หางตาคมกร้าวของดาเนียลมองเห็นมีดพกของเอริสาที่หล่นอยู่บนพื้น พริบตามีดเล่มนั้นก็อยู่ในมือของชายหนุ่ม ลำขาแข็งแกร่งเดินเข้าหาร่างเพรียวที่ยืนอยู่ข้างเตียงด้วยความหมายมาด ดาเนียลหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเอริสาทิ้งระยะห่างของสองร่างเล็กน้อย ก่อนที่มือหนาข้างหนึ่งจะอ้อมไปทางด้านหลังของหญิงสาวแล้วกระชากเส้นผมนุ่มลื่นแรงๆจนใบหน้าของเอริสาแหงนเงย ส่วนมืออีกข้างก็ส่งปลายมีดเข้าใกล้ลำคอขาวผ่อง แม้จะเจ็บร้าวที่หนังศีรษะแต่ก็เหมือนเช่นเคยที่เอริสาไม่ยอมปริปากส่งเสียงของความเจ็บปวดออกมาให้ได้ยิน แม้ขยับตัวหนีหญิงสาวก็ไม่คิดจะทำ
“ฮึ่ย!”
อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้น หากดาเนียลชักมือกลับไม่ทัน ป่านนี้ลำคอขาวผ่องของเอริสาคงขาดแล่งด้วยปลายมีดของตัวเองเป็นแน่ แม้อารมณ์เกรี้ยวกราดที่ผสานกับความเหนื่อยล้าที่สะสมมานานจนก่อเป็นความเครียดจะอยู่เหนือทุกสิ่งจนสั่งการให้ชายหนุ่มทำอะไรโดยไม่ยั้งคิด แต่จิตใต้สำนึกส่วนลึกกลับมีอำนาจเหนือกว่านั้น เพราะเพียงเสี้ยววินาทีที่ปลายมีดกำลังจะกรีดลึกเข้าที่ผิวเนื้อของบอดี้การ์ดสาว ใบหน้าของเจ้าหล่อนยามแย้มยิ้มน้อยๆกับดาร์เลเน่กลับแจ่มชัดอยู่ในสมองจนทำให้เขาได้สติ ปลายมือหนาจึงดึงมือกลับแล้วสะบัดมีดพกทิ้งไปอีกครั้ง และครั้งนี้มีดเจ้าปัญหาก็ลอยไปไกลจนอยู่นอกสายตาเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเขาหรือเอริสาหยิบมันมาเป็นอาวุธทำร้ายร่างกายใครได้อีก
“พูดอะไรมาสักอย่างสิ อย่ามายืนเงียบเป็นท่อนไม้แบบนี้ พูดสิ พูด!”
ต้นแขนเรียวถูกมือหนาบีบแรงๆจนผิวเนื้อนวลแทบปริแตกคามือ ก่อนถูกเขย่าจนศีรษะสั่นคลอนทำให้คนที่ร่างกายอ่อนเพลียเพราะขาดการพักผ่อนและไร้อาหารตกถึงท้องมาตั้งแต่วันที่ดาร์เลเน่หายตัวไปรู้สึกวิงเวียนจนแทบยืนไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเอริสาก็ยังคงนิ่งเฉย เฉยเสียจนดาเนียลอยากรู้นักว่าในร่างกายหญิงสาวมีต่อมความรู้สึกอยู่หรือเปล่า ปลายมีดที่เกือบปาดลำคอขาวเมื่อครู่มันทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกหวาดกลัวบ้างหรือไม่
“ลืมตามองฉัน...เดี๋ยวนี้!”
มือหนาหยุดเขย่าแล้วกระชากร่างบางเข้ามาชิด ร่างเพรียวระหงของเอริสาจึงตกอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของดาเนียลก่อนชายหนุ่มจะออกคำสั่งเสียงเข้มให้หญิงสาวเปิดดวงตาขึ้นมอง เอริสาที่เทิดทูนดาเนียลเป็นดั่งเจ้าชีวิตจึงมิอาจกล้าขัดคำสั่ง ดวงตาสองคู่จึงมีโอกาสสบตากันในระยะประชิด ดวงตาคู่หนึ่งมองลึกเข้าไปในดวงตาคมหวานด้วยความกราดเกรี้ยว ส่วนดวงตาของเอริสากลับปราศจากความรู้สึกใดๆนอกจากความว่างเปล่า
“คุณชาย!”
แต่แล้วเสียงหวานกลับอุทานออกมาด้วยความตระหนกกับการกระทำของนายใหญ่กริมเมอร์ เพราะเมื่อดวงตาที่เปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจไม่เปิดเผยความรู้สึกใดๆให้เขาเห็น ดาเนียลที่อยากรู้เหลือเกินว่าเอริสานั้นมีต่อมความรู้สึกหรือไม่จึงก้มหน้าให้ศีรษะแนบชิดอยู่กับอกด้านซ้ายของหญิงสาว เพราะคิดว่าต่อให้เอริสาซ่อนความรู้สึกได้เก่งแค่ไหน แต่หญิงสาวคงไม่สามารถฝืนกลไกธรรมชาติของร่างกายได้หากสิ่งที่เขาทำเมื่อครู่มันทำให้ผู้หญิงเย็นชาหวาดกลัวได้บ้าง หัวใจของเจ้าหล่อนคงกำลังเต้นระรัวอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าเหตุการณ์ที่เขาใช้มีดจี้คอขาวๆนั้นมันจะทำให้เอริสารู้สึกกลัวหรือไม่ เพราะตอนนี้เขาพอจะรู้แล้วว่าเอริสาหวาดกลัวอะไร
“ไม่กลัวมีด ไม่กลัวตายสินะ”
“คุณชายจะทำอะไรคะ”
.......................................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ