พ่ายรักพรางหัวใจ
8.8
เขียนโดย Phaky
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.45 น.
33 ตอน
4 วิจารณ์
33.41K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560 14.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) คิดจะหนีใช่ไหม!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ได้เรื่องเพิ่มบ้างไหม?”
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งขยับตัวเข้ามานั่งในรถยนต์คันหรูเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทที่วันนี้ถูกสั่งให้มานั่งคู่กับเจ้านายใหญ่ที่เบาะหลังเพื่อปรึกษาหารือเรื่องความคืบหน้าของดาร์เลเน่ กริมเมอร์ น้องสาวสุดรักสุดหวงคนเดียวของดาเนียล กริมเมอร์ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่ชายหนุ่มเดินทางมาถึงประเทศไทยอีกครั้งและเพิ่งลงจากเครื่องมาหมาดๆ
“ยังไม่มีความคืบหน้าเลยครับคุณชาย”
แอสตันลูกน้องมือขวาคนสนิทที่ทำงานเคียงบาเคียงไหล่ของดาเนียลมานานเอ่ยตอบออกไปอย่างหนักใจและรู้สึกผิด ที่ทีมค้นหายังไม่มีข้อมูลความคืบหน้าเรื่องของคุณหนูเล็กของตระกูลกริมเมอร์มารายงาน
“เป็นไปได้ยังไง คนทั้งคนหายไปแต่กลับไม่มีร่องรอยอะไรเลย”
ใช่! คนทั้งคน ถึงแม้ว่าดาร์เลเน่จะตัวเล็กแต่ก็ไม่ได้ตัวเล็กจิ๋วเท่ามดตะนอยซะหน่อย ทำไมถึงไม่มีใครรู้ ทำไมถึงไม่มีใครเห็น ทำไม?
“แล้วอลิสเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อยังคิดไม่ตกกับสาเหตุการหายตัวไปของดาร์เลเน่ ดาเนียลจึงย้อนกลับมาถามถึงผู้ที่อยู่กับน้องสาวเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่น้องสาวของเขาจะหายตัวไปว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหากทีมค้นหายังไม่มีความคืบหน้ามารายงาน เขาคงต้องอาศัยเค้นหาความจริงจากคนที่ใกล้ชิดกับดาร์เลเน่มากที่สุดซึ่งก็คงไม่พ้น...เอริสา!
“หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา เธอพยายามจะออกมาจากที่พักครับ เธอบอกว่าจะออกไปตามหาคุณหนูด้วยตัวเอง แต่เซนไม่ยอม จึงมีการต่อสู้กันนิดหน่อย พวกบอดี้การ์ดไม่กล้าใช้กำลังให้เธอเจ็บตัว เซนเลยตัดสินใจสับมือไปที่ท้ายทอยให้เธอสลบครับ”
แอสตันอธิบายออกไปตามที่ได้รับรายงานมาจากลูกน้อง ซึ่งดาเนียลก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรที่ลูกน้องของเขาทำแบบนั้น เขาเข้าใจดี เพราะถ้าหากเซนไม่ทำให้เอริสาสลบ บอดี้การ์ดสาวก็คงงัดวิชาการต่อสู้ที่ร่ำเรียนมาจากบอดี้การ์ดรุ่นเก่าๆของตระกูลกริมเมอร์ออกมาใช้อีกหลายกระบวนท่า และนั่นก็อาจจะทำให้เอริสาต้องเจ็บตัวมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่บอดี้การ์ดทุกคนของตระกูลกริมเมอร์รู้ดีว่าไม่ควรให้มันเกิดขึ้น หากใครก็ตามที่กล้าแตะต้องหรือทำให้บอดี้การ์ดคนสวยต้องบาดเจ็บ บอดี้การ์ดคนนั้นคงไม่แคล้วมีเคราะห์หนักรออยู่
“อืม สั่งคนของเรา ทำยังไงก็ได้ให้อลิสฟื้นขึ้นมาก่อนที่ฉันจะไปถึง แต่ห้ามทำให้เธอเจ็บ!”
ดาเนียลสั่งงานลูกน้องเสียงขรึม ก่อนเอนตัวพิงศีรษะกับเบาะของรถแล้วหลับตาลงซ่อนความอ่อนล้าอย่างคนเหนื่อยอ่อน เพราะเขาก็เหนื่อยมากจริงๆตั้งแต่ที่มีเหตุการณ์ตึกถล่มเมื่อสามวันก่อนเข้ามาให้ปวดหัว แล้วนี่ยังจะมีเรื่องน้องสาวเขาเข้ามาอีก
‘ถ้าเธอมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้...ฉันจะทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเธอเลยอลิส’
ดาเนียลคิดในใจด้วยอารมณ์ขุ่นมัวแล้วให้สัญญากับตัวเองว่าหากเรื่องที่ดาร์เลเน่หายตัวไปมีชื่อเอริสาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยจริงล่ะก็ ต่อให้เป็นคนโปรดของน้องสาวเขาก็จะไม่มีคำว่าปรานีมอบให้!
.......................................................................................
เจ้าของเรือนกายเพรียวระหงสมส่วนอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอผู้มีใบหน้าเล็กเรียวสวยเฉี่ยว นัยน์ตากลมหวานหยาดเยิ้มสีนิลกับผิวกายขาวอมน้ำผึ้งนวลเนียนลออตา อีกทั้งเรียวปากบางสีชมพูสุดเซ็กซี่ที่ตรึงตาตรึงใจใครหลายคนที่ได้พบเห็นกำลังเดินวนไปรอบๆห้องนอนหรูหราที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นทันสมัยผสมผสานกับศิลปวัฒนธรรมแบบไทยๆได้อย่างลงตัวของอินทิราโฮเทล มิใช่เพื่อชื่นชมความงดงามของห้องนอนที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ แต่เอริสาบอดี้การ์ดสาวสวยประจำตัวของนายหญิงน้อยตระกูลกริมเมอร์กำลังค้นหาช่องทางที่จะสามารถพาตัวเองออกไปจากห้องนอนหรูหราที่ตอนนี้มันไม่ต่างอะไรกับห้องขังนักโทษที่รอการตัดสินอย่างเธอ
ใช่! ตอนนี้สถานะของเธอคือนักโทษ ไม่ใช่บอดี้การ์ดฝีมือดีที่คอยทำหน้าที่ดูแลดาร์เลเน่คุณหนูยอดดวงใจของตระกูลกริมเมอร์อีกแล้ว นับตั้งแต่วินาทีที่เธอสะเพร่าปล่อยปละละเลยทำให้คุณหนูตัวน้อยหายตัวไปอย่างที่เธอยังไม่แน่ใจว่าดาร์เลเน่ตั้งใจหลบหนีเพื่อหนีไปเที่ยวเล่นตามลำพัง หรือจริงๆแล้วมีใครที่คิดร้ายตั้งใจลักพาตัวคุณหนูของเธอไปกันแน่
แต่ไม่ว่าสาเหตุที่ทำให้ดาร์เลเน่หายตัวไปจะเป็นเพราะอะไร สิ่งที่เธอรู้ดีที่สุดนั่นคือเธอได้ทำความผิดพลาดใหญ่หลวงเข้าให้แล้ว เพราะหน้าที่ของเธอคือดูแลปกป้องยอดดวงใจตระกูลกริมเมอร์ให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง เมื่อเธอทำหน้าที่บกพร่องก็เป็นที่รู้กันดีว่าเธอต้องถูกลงโทษตามกฎของการเป็นบอดี้การ์ด ซึ่งเธอก็พร้อมยอมรับความผิดแต่โดยดีแต่ในตอนนี้เธอยังไม่อยากนั่งรออยู่เฉยๆเพื่อรับโทษทัณฑ์ ไม่ใช่เพราะกลัวเกรงความผิด แต่เป็นเพราะเธอต้องการออกไปตามหาคุณหนูตัวน้อยที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตให้พบเสียก่อน จากนั้นจะโดนลงโทษหนักหนาสาหัสแค่ไหนเธอก็จะไม่ปริปากขอความเมตตา
วันที่เกิดเรื่อง เธอเจอกับดาร์เลเน่ครั้งสุดท้ายที่ห้องน้ำหญิงตอนที่นายสาววานให้เธอช่วยไปซื้อผ้าอนามัยจากร้านค้าที่อยู่แถวๆนั้นมาให้ พอเธอเดินกลับมาที่ห้องน้ำตามที่นัดแนะกันไว้ เธอกลับไม่พบคุณหนูแสนสวย จึงเดินดูห้องน้ำทุกห้องเผื่อว่าคุณหนูของเธอจะรออยู่ที่นั่น จนกระทั่งที่เธอเดินไปถึงห้องน้ำห้องสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุด อยู่ๆก็มีละอองน้ำบางเบาพุ่งเข้ามาปะทะใบหน้าจนเธอไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกทีเธอก็นอนอยู่ที่ห้องพักห้องเดิมซึ่งก็คือห้องที่เธอถูกขังอยู่ตอนนี้ พร้อมกับข่าวร้ายจากปากของบอดี้การ์ดที่ดาเนียลทิ้งไว้ดูแลน้องสาวที่ประเทศไทยว่าคุณหนูแสนรักของเธอหายตัวไป!
วินาทีที่ได้ฟังข่าวร้ายนั้นทำให้เธอยืนแทบไม่อยู่ ความรู้สึกผิดที่บกพร่องต่อหน้าที่ถาโถมเข้ามากระแทกจิตใจจนรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ความเป็นห่วงความปลอดภัยของดาร์เลเน่ ความคิดกังวลมากมายตีกันในสมองจนเธอทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พร่ำด่าตัวเองที่สะเพร่าทำให้คุณหนูหายตัวไป พร้อมกับทุบที่อกด้านซ้ายแรงๆเมื่อหัวใจมันเหมือนจะหลุดลอยออกไปจากร่าง ทุกอย่างดูล่องลอยเคว้งคว้างว่างเปล่า ไม่มีคุณหนูก็เหมือนชีวิตของเธอนั้นไร้ค่า กระบอกปืนประจำตัวที่แนบอยู่กับเข็มขัดข้างเอวจึงถูกหยิบขึ้นมาเพื่อเตรียมลงโทษตัวเองในฐานะที่เธอไม่มีความสามารถพอที่จะดูแลคุณหนูที่เธอรัก แต่ยังไม่ทันได้ลั่นไกปืน มัจจุราชสีดำในมือของเธอกลับถูกแย่งไปด้วยฝีมือของเซน บอดี้การ์ดชุดเดียวกันที่มีหน้าที่อารักขาดาร์เลเน่
ชายหนุ่มยึดปืนของเธอไปเหน็บไว้ที่เอวของตัวเองพร้อมทั้งเตือนสติเธอ ว่าหากเธอฆ่าตัวตายตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนขี้ขลาดที่หวาดกลัวความผิดจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ และมันช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะเมื่อเธอตายไปก็ไม่ได้ทำให้ดาร์เลเน่กลับมาหรือย้อนเวลากลับไปแก้ไขเหตุการณ์ก่อนหน้าได้อยู่ดี แต่ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอยังมีโอกาสที่จะได้ออกไปตามหาและยังมีโอกาสได้พบหน้าคุณหนูที่เธอรักอีกครั้ง แม้ว่ามันอาจเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของชีวิตเธอก็ตามที
คำพูดของเซนทำให้เธอได้คิดและรู้ตัวแล้วว่าควรทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้เธอควรรักษาชีวิตเอาไว้แล้วกลับไปที่จุดเกิดเหตุที่เธอเจอกับดาร์เลเน่เป็นที่สุดท้ายเพื่อตามแกะรอย ใช่! เธอต้องทำแบบนั้นและต้องรีบลงมือก่อนที่ร่องรอยที่พอจะเป็นหลักฐานให้เธอตามหาคุณหนูจะจางหาย แต่ติดอยู่ที่เซนและบอดี้การ์ดคนอื่นๆไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ทำอย่างที่คิด จนเกิดการต่อสู้กันและสุดท้ายเธอก็ถูกกังขังให้รออยู่ในห้องนอนของอินทิราโฮเทล ประตูหน้าต่างทุกช่องทางถูกปิดตายจากด้านนอก โดยเซนอ้างว่ามันคือคำสั่งของนายใหญ่ เธอไม่คิดอยากขัดคำสั่ง แต่ ณ เวลานี้ สิ่งที่เธอต้องทำคือออกไปตามหาคุณหนูสุดที่รัก เมื่อไม่ยอมให้ออกไปดีๆ เธอจึงต้องค้นหาช่องทางที่ว่าออกไปเอง
“คิดจะหนีรึไง”
เป็นเพราะสมองสั่งการกำลังจดจ่ออยู่กับการหาช่องทางหลบหนีจึงทำให้ประสาทการได้ยินของเอริสาเป็นศูนย์ค่อนไปทางติดลบ ส่งผลให้บอดี้การ์ดสาวไม่ได้ยินเสียงรองเท้าหนังมันปลาบราคาแพงของใครบางคนที่กระทบกับพื้นห้องเข้ามาใกล้กับหน้าประตูห้องนอนขึ้นทุกที แม้ตอนที่มือหนาหมุนลูกบิดประตูห้องที่ล็อกจากด้านนอกเข้ามาเอริสาก็ยังไม่รู้สึกตัว
จนกระทั่งร่างสูงเข้ามายืนกอดอกมองอยู่ด้านหลังหญิงสาวที่ยืนเขย่งปลายเท้าอยู่บนเก้าอี้ทรงสูง มือบางที่กำเป็นกำปั้นสองข้างกำลังเคาะผนังห้องที่เชื่อมต่อกับระเบียง ซึ่งดาเนียลคาดเดาว่าเอริสาคงกำลังประเมินความหนาของผนังแต่ละจุดเพื่อเจาะกำแพงหนีออกไปด้านนอก แต่คนคิดหนียังคงไม่รู้ตัวว่าบัดนี้เขาเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆแล้ว จึงต้องส่งเสียงเตือนให้เจ้าหล่อนรู้ตัวเสียหน่อยว่าที่ทำอยู่มันเสียเวลาเปล่า
เอริสาที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการหาช่องทางอออกไปด้านนอกสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆกลับมีเสียงที่คุ้นหูดังอยู่เบื้องหลัง ด้วยเพราะลืมตัวว่าเธอกำลังเขย่งยืนอยู่บนเก้าอี้ที่มีพื้นที่จำกัดหาใช่บนพื้นกว้างๆของห้องไม่ จึงทำให้เอริสาที่ตั้งใจหันหลังกลับมามองเบื้องหลังก้าวพลาดหล่นลงมาจากเก้าอี้บาร์ทรงสูง เมื่อไร้ที่ให้เกาะเกี่ยว หญิงสาวจึงกลั้นใจเตรียมตัวรับความเจ็บยามเมื่อร่างของเธอตกกระทบกับความแข็งของพื้นห้อง
“อุ๊ย!”
แค่ไม่ระวังตัวจนทำให้ร่างเพรียวบางกำลังจะหล่นลงมาจากเก้าอี้เพราะตกใจตอนที่เขาเอ่ยถามยังไม่ทำให้ดาเนียลโกรธผู้หญิงซุ่มซ่ามที่ไม่น่าเชื่อว่าเธอคือบอดี้การ์ดฝีมือดีที่เขาไว้ใจให้ดูแลน้องสาวได้เท่าที่เจ้าตัวร้องอุทานด้วยความตระหนกยามเมื่อร่างสมส่วนงามระหงนั้นตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ดวงตาคู่งามเบิกกว้างขึ้นอย่างนางเนื้อระวังภัย ตอนตกลงมาเขายังไม่ได้ยินเสียงเอริสาร้องสักแอะ พออยู่ในแขนของเขาเท่านั้นแหละทำมาตกอกตกใจเสียมากมาย แต่ที่ทำให้นายใหญ่กริมเมอร์โกรธจนดวงตาทั้งสองลุกวาวเห็นจะไม่พ้นสองมือบางของเอริสาที่รีบดันตัวออกห่างจากอ้อมแขนของเขาเมื่อเท้าทั้งสองข้างแตะพื้นด้วยท่าทีร้อนรนราวกับว่าเขาเป็นเชื้อโรคน่ารังเกียจเหลือเกิน
“ว่ายังไง กำลังคิดจะหนีใช่ไหม อลิส”
.......................................................................................................................................................................
ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่เพิ่งขยับตัวเข้ามานั่งในรถยนต์คันหรูเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทที่วันนี้ถูกสั่งให้มานั่งคู่กับเจ้านายใหญ่ที่เบาะหลังเพื่อปรึกษาหารือเรื่องความคืบหน้าของดาร์เลเน่ กริมเมอร์ น้องสาวสุดรักสุดหวงคนเดียวของดาเนียล กริมเมอร์ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ หลังจากที่ชายหนุ่มเดินทางมาถึงประเทศไทยอีกครั้งและเพิ่งลงจากเครื่องมาหมาดๆ
“ยังไม่มีความคืบหน้าเลยครับคุณชาย”
แอสตันลูกน้องมือขวาคนสนิทที่ทำงานเคียงบาเคียงไหล่ของดาเนียลมานานเอ่ยตอบออกไปอย่างหนักใจและรู้สึกผิด ที่ทีมค้นหายังไม่มีข้อมูลความคืบหน้าเรื่องของคุณหนูเล็กของตระกูลกริมเมอร์มารายงาน
“เป็นไปได้ยังไง คนทั้งคนหายไปแต่กลับไม่มีร่องรอยอะไรเลย”
ใช่! คนทั้งคน ถึงแม้ว่าดาร์เลเน่จะตัวเล็กแต่ก็ไม่ได้ตัวเล็กจิ๋วเท่ามดตะนอยซะหน่อย ทำไมถึงไม่มีใครรู้ ทำไมถึงไม่มีใครเห็น ทำไม?
“แล้วอลิสเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อยังคิดไม่ตกกับสาเหตุการหายตัวไปของดาร์เลเน่ ดาเนียลจึงย้อนกลับมาถามถึงผู้ที่อยู่กับน้องสาวเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่น้องสาวของเขาจะหายตัวไปว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะหากทีมค้นหายังไม่มีความคืบหน้ามารายงาน เขาคงต้องอาศัยเค้นหาความจริงจากคนที่ใกล้ชิดกับดาร์เลเน่มากที่สุดซึ่งก็คงไม่พ้น...เอริสา!
“หลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา เธอพยายามจะออกมาจากที่พักครับ เธอบอกว่าจะออกไปตามหาคุณหนูด้วยตัวเอง แต่เซนไม่ยอม จึงมีการต่อสู้กันนิดหน่อย พวกบอดี้การ์ดไม่กล้าใช้กำลังให้เธอเจ็บตัว เซนเลยตัดสินใจสับมือไปที่ท้ายทอยให้เธอสลบครับ”
แอสตันอธิบายออกไปตามที่ได้รับรายงานมาจากลูกน้อง ซึ่งดาเนียลก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรที่ลูกน้องของเขาทำแบบนั้น เขาเข้าใจดี เพราะถ้าหากเซนไม่ทำให้เอริสาสลบ บอดี้การ์ดสาวก็คงงัดวิชาการต่อสู้ที่ร่ำเรียนมาจากบอดี้การ์ดรุ่นเก่าๆของตระกูลกริมเมอร์ออกมาใช้อีกหลายกระบวนท่า และนั่นก็อาจจะทำให้เอริสาต้องเจ็บตัวมากกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่บอดี้การ์ดทุกคนของตระกูลกริมเมอร์รู้ดีว่าไม่ควรให้มันเกิดขึ้น หากใครก็ตามที่กล้าแตะต้องหรือทำให้บอดี้การ์ดคนสวยต้องบาดเจ็บ บอดี้การ์ดคนนั้นคงไม่แคล้วมีเคราะห์หนักรออยู่
“อืม สั่งคนของเรา ทำยังไงก็ได้ให้อลิสฟื้นขึ้นมาก่อนที่ฉันจะไปถึง แต่ห้ามทำให้เธอเจ็บ!”
ดาเนียลสั่งงานลูกน้องเสียงขรึม ก่อนเอนตัวพิงศีรษะกับเบาะของรถแล้วหลับตาลงซ่อนความอ่อนล้าอย่างคนเหนื่อยอ่อน เพราะเขาก็เหนื่อยมากจริงๆตั้งแต่ที่มีเหตุการณ์ตึกถล่มเมื่อสามวันก่อนเข้ามาให้ปวดหัว แล้วนี่ยังจะมีเรื่องน้องสาวเขาเข้ามาอีก
‘ถ้าเธอมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้...ฉันจะทำให้เธอเจ็บปวดที่สุดในชีวิตของเธอเลยอลิส’
ดาเนียลคิดในใจด้วยอารมณ์ขุ่นมัวแล้วให้สัญญากับตัวเองว่าหากเรื่องที่ดาร์เลเน่หายตัวไปมีชื่อเอริสาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยจริงล่ะก็ ต่อให้เป็นคนโปรดของน้องสาวเขาก็จะไม่มีคำว่าปรานีมอบให้!
.......................................................................................
เจ้าของเรือนกายเพรียวระหงสมส่วนอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอผู้มีใบหน้าเล็กเรียวสวยเฉี่ยว นัยน์ตากลมหวานหยาดเยิ้มสีนิลกับผิวกายขาวอมน้ำผึ้งนวลเนียนลออตา อีกทั้งเรียวปากบางสีชมพูสุดเซ็กซี่ที่ตรึงตาตรึงใจใครหลายคนที่ได้พบเห็นกำลังเดินวนไปรอบๆห้องนอนหรูหราที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นทันสมัยผสมผสานกับศิลปวัฒนธรรมแบบไทยๆได้อย่างลงตัวของอินทิราโฮเทล มิใช่เพื่อชื่นชมความงดงามของห้องนอนที่เธออาศัยอยู่ตอนนี้ แต่เอริสาบอดี้การ์ดสาวสวยประจำตัวของนายหญิงน้อยตระกูลกริมเมอร์กำลังค้นหาช่องทางที่จะสามารถพาตัวเองออกไปจากห้องนอนหรูหราที่ตอนนี้มันไม่ต่างอะไรกับห้องขังนักโทษที่รอการตัดสินอย่างเธอ
ใช่! ตอนนี้สถานะของเธอคือนักโทษ ไม่ใช่บอดี้การ์ดฝีมือดีที่คอยทำหน้าที่ดูแลดาร์เลเน่คุณหนูยอดดวงใจของตระกูลกริมเมอร์อีกแล้ว นับตั้งแต่วินาทีที่เธอสะเพร่าปล่อยปละละเลยทำให้คุณหนูตัวน้อยหายตัวไปอย่างที่เธอยังไม่แน่ใจว่าดาร์เลเน่ตั้งใจหลบหนีเพื่อหนีไปเที่ยวเล่นตามลำพัง หรือจริงๆแล้วมีใครที่คิดร้ายตั้งใจลักพาตัวคุณหนูของเธอไปกันแน่
แต่ไม่ว่าสาเหตุที่ทำให้ดาร์เลเน่หายตัวไปจะเป็นเพราะอะไร สิ่งที่เธอรู้ดีที่สุดนั่นคือเธอได้ทำความผิดพลาดใหญ่หลวงเข้าให้แล้ว เพราะหน้าที่ของเธอคือดูแลปกป้องยอดดวงใจตระกูลกริมเมอร์ให้ปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง เมื่อเธอทำหน้าที่บกพร่องก็เป็นที่รู้กันดีว่าเธอต้องถูกลงโทษตามกฎของการเป็นบอดี้การ์ด ซึ่งเธอก็พร้อมยอมรับความผิดแต่โดยดีแต่ในตอนนี้เธอยังไม่อยากนั่งรออยู่เฉยๆเพื่อรับโทษทัณฑ์ ไม่ใช่เพราะกลัวเกรงความผิด แต่เป็นเพราะเธอต้องการออกไปตามหาคุณหนูตัวน้อยที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิตให้พบเสียก่อน จากนั้นจะโดนลงโทษหนักหนาสาหัสแค่ไหนเธอก็จะไม่ปริปากขอความเมตตา
วันที่เกิดเรื่อง เธอเจอกับดาร์เลเน่ครั้งสุดท้ายที่ห้องน้ำหญิงตอนที่นายสาววานให้เธอช่วยไปซื้อผ้าอนามัยจากร้านค้าที่อยู่แถวๆนั้นมาให้ พอเธอเดินกลับมาที่ห้องน้ำตามที่นัดแนะกันไว้ เธอกลับไม่พบคุณหนูแสนสวย จึงเดินดูห้องน้ำทุกห้องเผื่อว่าคุณหนูของเธอจะรออยู่ที่นั่น จนกระทั่งที่เธอเดินไปถึงห้องน้ำห้องสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุด อยู่ๆก็มีละอองน้ำบางเบาพุ่งเข้ามาปะทะใบหน้าจนเธอไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกทีเธอก็นอนอยู่ที่ห้องพักห้องเดิมซึ่งก็คือห้องที่เธอถูกขังอยู่ตอนนี้ พร้อมกับข่าวร้ายจากปากของบอดี้การ์ดที่ดาเนียลทิ้งไว้ดูแลน้องสาวที่ประเทศไทยว่าคุณหนูแสนรักของเธอหายตัวไป!
วินาทีที่ได้ฟังข่าวร้ายนั้นทำให้เธอยืนแทบไม่อยู่ ความรู้สึกผิดที่บกพร่องต่อหน้าที่ถาโถมเข้ามากระแทกจิตใจจนรู้สึกไร้เรี่ยวแรง ความเป็นห่วงความปลอดภัยของดาร์เลเน่ ความคิดกังวลมากมายตีกันในสมองจนเธอทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พร่ำด่าตัวเองที่สะเพร่าทำให้คุณหนูหายตัวไป พร้อมกับทุบที่อกด้านซ้ายแรงๆเมื่อหัวใจมันเหมือนจะหลุดลอยออกไปจากร่าง ทุกอย่างดูล่องลอยเคว้งคว้างว่างเปล่า ไม่มีคุณหนูก็เหมือนชีวิตของเธอนั้นไร้ค่า กระบอกปืนประจำตัวที่แนบอยู่กับเข็มขัดข้างเอวจึงถูกหยิบขึ้นมาเพื่อเตรียมลงโทษตัวเองในฐานะที่เธอไม่มีความสามารถพอที่จะดูแลคุณหนูที่เธอรัก แต่ยังไม่ทันได้ลั่นไกปืน มัจจุราชสีดำในมือของเธอกลับถูกแย่งไปด้วยฝีมือของเซน บอดี้การ์ดชุดเดียวกันที่มีหน้าที่อารักขาดาร์เลเน่
ชายหนุ่มยึดปืนของเธอไปเหน็บไว้ที่เอวของตัวเองพร้อมทั้งเตือนสติเธอ ว่าหากเธอฆ่าตัวตายตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนขี้ขลาดที่หวาดกลัวความผิดจนไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ และมันช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะเมื่อเธอตายไปก็ไม่ได้ทำให้ดาร์เลเน่กลับมาหรือย้อนเวลากลับไปแก้ไขเหตุการณ์ก่อนหน้าได้อยู่ดี แต่ถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอยังมีโอกาสที่จะได้ออกไปตามหาและยังมีโอกาสได้พบหน้าคุณหนูที่เธอรักอีกครั้ง แม้ว่ามันอาจเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของชีวิตเธอก็ตามที
คำพูดของเซนทำให้เธอได้คิดและรู้ตัวแล้วว่าควรทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้เธอควรรักษาชีวิตเอาไว้แล้วกลับไปที่จุดเกิดเหตุที่เธอเจอกับดาร์เลเน่เป็นที่สุดท้ายเพื่อตามแกะรอย ใช่! เธอต้องทำแบบนั้นและต้องรีบลงมือก่อนที่ร่องรอยที่พอจะเป็นหลักฐานให้เธอตามหาคุณหนูจะจางหาย แต่ติดอยู่ที่เซนและบอดี้การ์ดคนอื่นๆไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ทำอย่างที่คิด จนเกิดการต่อสู้กันและสุดท้ายเธอก็ถูกกังขังให้รออยู่ในห้องนอนของอินทิราโฮเทล ประตูหน้าต่างทุกช่องทางถูกปิดตายจากด้านนอก โดยเซนอ้างว่ามันคือคำสั่งของนายใหญ่ เธอไม่คิดอยากขัดคำสั่ง แต่ ณ เวลานี้ สิ่งที่เธอต้องทำคือออกไปตามหาคุณหนูสุดที่รัก เมื่อไม่ยอมให้ออกไปดีๆ เธอจึงต้องค้นหาช่องทางที่ว่าออกไปเอง
“คิดจะหนีรึไง”
เป็นเพราะสมองสั่งการกำลังจดจ่ออยู่กับการหาช่องทางหลบหนีจึงทำให้ประสาทการได้ยินของเอริสาเป็นศูนย์ค่อนไปทางติดลบ ส่งผลให้บอดี้การ์ดสาวไม่ได้ยินเสียงรองเท้าหนังมันปลาบราคาแพงของใครบางคนที่กระทบกับพื้นห้องเข้ามาใกล้กับหน้าประตูห้องนอนขึ้นทุกที แม้ตอนที่มือหนาหมุนลูกบิดประตูห้องที่ล็อกจากด้านนอกเข้ามาเอริสาก็ยังไม่รู้สึกตัว
จนกระทั่งร่างสูงเข้ามายืนกอดอกมองอยู่ด้านหลังหญิงสาวที่ยืนเขย่งปลายเท้าอยู่บนเก้าอี้ทรงสูง มือบางที่กำเป็นกำปั้นสองข้างกำลังเคาะผนังห้องที่เชื่อมต่อกับระเบียง ซึ่งดาเนียลคาดเดาว่าเอริสาคงกำลังประเมินความหนาของผนังแต่ละจุดเพื่อเจาะกำแพงหนีออกไปด้านนอก แต่คนคิดหนียังคงไม่รู้ตัวว่าบัดนี้เขาเข้ามายืนอยู่ใกล้ๆแล้ว จึงต้องส่งเสียงเตือนให้เจ้าหล่อนรู้ตัวเสียหน่อยว่าที่ทำอยู่มันเสียเวลาเปล่า
เอริสาที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับการหาช่องทางอออกไปด้านนอกสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆกลับมีเสียงที่คุ้นหูดังอยู่เบื้องหลัง ด้วยเพราะลืมตัวว่าเธอกำลังเขย่งยืนอยู่บนเก้าอี้ที่มีพื้นที่จำกัดหาใช่บนพื้นกว้างๆของห้องไม่ จึงทำให้เอริสาที่ตั้งใจหันหลังกลับมามองเบื้องหลังก้าวพลาดหล่นลงมาจากเก้าอี้บาร์ทรงสูง เมื่อไร้ที่ให้เกาะเกี่ยว หญิงสาวจึงกลั้นใจเตรียมตัวรับความเจ็บยามเมื่อร่างของเธอตกกระทบกับความแข็งของพื้นห้อง
“อุ๊ย!”
แค่ไม่ระวังตัวจนทำให้ร่างเพรียวบางกำลังจะหล่นลงมาจากเก้าอี้เพราะตกใจตอนที่เขาเอ่ยถามยังไม่ทำให้ดาเนียลโกรธผู้หญิงซุ่มซ่ามที่ไม่น่าเชื่อว่าเธอคือบอดี้การ์ดฝีมือดีที่เขาไว้ใจให้ดูแลน้องสาวได้เท่าที่เจ้าตัวร้องอุทานด้วยความตระหนกยามเมื่อร่างสมส่วนงามระหงนั้นตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา ดวงตาคู่งามเบิกกว้างขึ้นอย่างนางเนื้อระวังภัย ตอนตกลงมาเขายังไม่ได้ยินเสียงเอริสาร้องสักแอะ พออยู่ในแขนของเขาเท่านั้นแหละทำมาตกอกตกใจเสียมากมาย แต่ที่ทำให้นายใหญ่กริมเมอร์โกรธจนดวงตาทั้งสองลุกวาวเห็นจะไม่พ้นสองมือบางของเอริสาที่รีบดันตัวออกห่างจากอ้อมแขนของเขาเมื่อเท้าทั้งสองข้างแตะพื้นด้วยท่าทีร้อนรนราวกับว่าเขาเป็นเชื้อโรคน่ารังเกียจเหลือเกิน
“ว่ายังไง กำลังคิดจะหนีใช่ไหม อลิส”
.......................................................................................................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ