บ้าใบ้ใจบำเรอ

9.3

เขียนโดย closename

วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.09 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,864 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 20.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บ้าใบ้ใจบำเรอ - 1 งามหน้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                          งามหน้า

บุหรี่มวลแล้วมวลเล่าถูกอัดเข้าปอดไม่ยั้ง  สายตาเย็นชาเจ็บปวดเหม่อมองไร้จุดโฟกัส ชายหนุ่มวัย30ปีเศษหลีกหนีความทุกข์ทางใจมาหาแหล่งบันเทิงเพื่อลืมความขมขื่นทางใจ น้ำเมาเป็นสิ่งแรกที่ช่วยเขาได้ อีกประการก็นารี ดังสุภาษิตที่ว่าดื่มเหล้าเคล้านารี มันจึงจะลืมเรื่องเศร้าโศก สำหรับคนอื่นหนะใช่ เพราะความทุกข์มันเป็นอดิตที่สามารถลืมเลือน แต่ความทุกข์เขามันเป็นอนาคตไม่อาจที่จะลืมมันได้  ไม่นานก็มาถึง 

  เมื่อสองวันก่อน  ไม่ใช่สิ หลายปีกว่านั้นต่างหากที่มันเกิดขึ้น  ความอยุติธรรมถูกปิดหูปิดตาจากเขา เรื่องมันพึ่งเปิดเผยเมื่อสองวันก่อน เป็นวันเดียวกับที่เขาพึ่งเรียนจบปริญญาตรีจากอเมริกา ผู้เป็นแม่เรียกตัวกลับ นึกว่ามีเรื่องดี แต่ผิดคาด การเรียกตัวกลับครั้งนี้นอกจากขโมยความสุขเขาแล้ว ยังผลักไสเขาลงนรกอเวจีอีก พรุ่งนี้แล้วที่เขาจะถูกคลุมถุงชน  คู่มั่นที่ไม่เคยเห็นหน้า  แม้แต่ชื่อเสียงเรียงนามก็ไม่เคยรู้จัก หนำซ้ำไม่อาจปฏิเสธได้ เขาทุกข์ใจที่ต้องหักหลังคนรัก  คำพูดจาหวานหยอกที่เคยพูดกับเธอ คิดแล้วให้ละอายใจ หากเขาต้องทิ้งเธอเพราะเหตุผลงี่เง้าของผู้ใหญ่ เขาคงมิอาจสู้หน้าสตรีทั้งโลกอีกต่อไปได้  ยังไงพ่อแม่ก็ต้องยอมรับเธอเป็นสะใภ้ หากไม่เป็นดังต้องการ เขาอาจจะพาเธอหนี  หนีไปให้ไกล หาที่สงบๆก่อตั้งรกรากของครอบครัว

 ใบหน้าสากหนวดคิดไปต่างๆนาๆเพื่อให้ตนได้สมหวังกับคนที่หมายมั่น จนกระทั้งเสียงโทรศัพท์ดึงเขาออกจากภวังค์ ใบหน้าที่ดูจะเหนื่อยล้าฉีกยิ้ม แต่ก็ต้องหูบในคราเดียวกัน เมื่อสายเรียกเข้าไม่ใช่เธอคนนั้น  ทศพลไม่สนใจ กดตัดสายปิดเครื่องพร้อม สายที่เรียกเข้าดูเหมือนจะไม่ถูกใจเขาเท่าไหร่  แก้วเหล้าถูกยกขึ้นดื่มรวดเดียว เรียวปากอมมันไว้จนแก้มป่องก่อนกลืนมัน เขาวางแก้วเหล้ากระแทกโต๊ะก่อนดึงบุหรี่มวลใหม่ขึ้นมาสูบอย่างไม่สบอารมณ์ พอดีกับชายวัยหนุ่มเดินเข้ามา โค้งคำนับก่อนยื่นบางสิ่งให้เขา    ทศพลมองค่อนกลับด้วยตาขวาง สายตาดูเหยียดหยันความเป็นขี้ข้าของชายคนนั้นอย่างแรง  แต่คนถูกมองไม่รู้สึกถึงนัยน์ตาคู่นั้น เพราะเอาแต่ก้มหน้าหนี ไม่ใช่ไม่รู้  เขารู้ดีว่าคุณชายบ้านนี้เป็นยังไง  คุณทศพลของเขาเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลสหรักษ์ ไม่แปลกที่จะมีนิสัยเอาแต่ใจ เย่อหยิ่ง เพราะคุณหญิงกับคุณช้ายเลี้ยงมาอย่างตามใจทุกอย่าง  เว้นแต่เรื่องเดียวที่ทั้งสองมิอาจให้เป็นการตัดสินใจของลูกชาย  นั่นคือเหตุที่ทศพลมานั่งกลุ้มอยู่ตรงนี้

  " มือหงิกหรือไง  ทำไมไม่กดตัดสาย  บอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่รับสายใคร เวลาแบบนี้ " ทศพลว่าเสียงขุ่น จ้องชายหนุ่มอย่างขุ่นเคือง  เมื่อคนใช้ไม่ยอมดึงโทรศัพกลับ หรือแม้แต่กดตัดสายตามที่เขาต้องการ เขาจึงจำเป็นต้องรับมาอย่างไม่พอใจ  ก่อนไล่ชายหนุ่มออกไปคอยที่รถตามเคย

  " เจ้าพล  นี่ดึกมากแล้วทำไมไม่กลับบ้าน  รู้บ้างไหมว่าพรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ ทำไมทำตัวเหลวไหลไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่  อย่าให้แม่ต้องบอกพ่อ  กลับมาเดี๋ยวนี้ " หลังจากที่แนบโทรศัพท์กับหู เสียงเดิมๆที่ไม่อยากได้ยินก็บริภาษผ่านทางลำโพงเครื่อง นั่นจึ่งทำให้เจ้าของนัยน์ตาดำชักสีหน้าไม่สบอารมณ์

  " แม่ ตกลงนี่ผมเป็นลูกแม่จริงๆหรือเปล่า ทำไม คนนั้นมันมีอะไรดีนักหนาถึงอยากได้เป็นสะใภ้ ผมเหนื่อยกับธรรมเนียมโบราญของแม่เต็มทนแล้ว ขอผมเที่ยวเพื่อลืมมันเถอะ " คนเป็นลูก พอได้ยินเสียงแม่อบรมสั่งสอนก็ให้ไม่อยากฟัง  มันก็เรื่องเดิมๆ จนเขาอยากจะวาง แต่ก็ขัดไม่ได้ เพราะเขามีทุกอย่างอย่างทุกวันนี้ก็เพราะเธอ เพราะเงินทุกบาทยังต้องให้เธออกหน้าขอพ่อให้

  " แม่ไม่สนว่าลูกจะคิดยังไง  แต่ในพินัยกรรมเขียนไว้ชัดเจนว่ามันต้องมีการแต่งงาน  หากเราบ่ายเบี่ยง เราจะไม่เหลืออะไร ลูกเข้าใจไหม  อย่าให้ซอมซ่อกระเซอกระเซิงไปในวันดูตัวหละ ไม่งั้นอย่าหาว่าแม่ไม่เตือน " คนเป็นแม่ยื่นคำขาดกับบุตรชายที่กำลังพยายามออกนอกลู่นอกทางที่วางไว้ เธอไม่อยากเห็นจุดจบของตระกูล จึงหาหนทางทุกอยางจับลูกชายใส่ตะกล้าล้างน้ำเข้าสู่พิธีดูตัว เธอรู้ว่าหลังจากกลับมาจากอเมริกา บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอคว้าผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ากลับมาด้วยคนหนึ่ง  ทุกวันนี้ยังอาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่นี้  ด้วยความที่เธอมั่นหมายสะใภ้ไว้แล้ว  ไม่ว่าใครก็ตามที่มาทีหลัง ไม่อาจเบียดสะใภ้ที่เลือกไว้ของเธอตกจากตำแหน่ง  เรื่องผู้หญิงคนนี้เธอจะจัดการเอง  ส่วนทศพลคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคุณทิศลักษณ์สามีของเธอ เธอคงหมดปัญญาปรามลูกชายแล้ว

 ทศพลไม่ตอบอาศัยการกดตัดสายเป็นคำตอบแทน ซึ่งคุณหญิงกันเกรารู้ดีว่าลูกชายไม่กล้าขัด  เธอวางโทรศัพท์กลับที่เดิม และเริ่มแผนการของเธอต่อ  ส่วนทศพลนั่งกรึบเหล้าต่อ ก่อนจะควงหญิงบริการเพื่อไปบำเน็ดความใคร่ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปรกติ  อยู่ที่เมืองนอกเขาทำบ่อยจะตาย หญิงที่เขารักก็ไม่ตางจากเขา เธอผ่านมาแล้วนักต่อนัก นั่นจึงทำให้เขาและเธอเข้ากันได้ จนตกหลุมรักในเวลาต่อมา  แต่การสมสู่ไม่ได้จำกัดว่าต้องจำกัดแค่เธอ สิ่งนั้นมันล้าสมัยไปนานแล้ว สมัยนี้การระบายความไคร่กับโสเภณีถือว่าไม่แปลก ถึงเขาจะนอกใจมีสัมพันธ์กับโสเภณี เขาก็ป้องกัน  มันก้ยังดีกว่าไอ่พวกข่มขืนแล้วฆ่าปิดปาก  โสเภณีที่จะรับใช้คุณชายอย่างเขาต้องเป็นตัวแม่ระดับท็อปเท่านั้น  อย่าหาว่าดูถูก แต่การที่เขาต้องไม่เลือกนั้น มันมีสิทธิ์เสี่ยงกับโรค  พวกเธอที่จะมานอนด้วย  ต้องผ่านการตรวจโรคเสียก่อน

 หญิงสาวสะสวยถูกเขาสอยขึ้นคอนโดส่วนตัว ที่มีไว้หลีกหนีโลกหัวโบราญของครอบครัว เขาไม่ใช่เด็กอมมือที่จะต้องให้ผู้ใหญ่มาคอยจ่ำจี้จ่ำใช้ เขาโตแล้ว คิดเองเป็น  และสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี่ก็ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร  หากการที่เขามีเพศสัมพันธ์มันไปหนักหัวใครก็มาเคลียกับเขาได้เลย

 " เราจะไม่ดื่มอะไรกันก่อนหรือค่ะ " หญิงสาวอรชรเอ่ยถามอย่างเหนียมอาย  ทั้งที่เธอโชตช่วงเรื่องอย่างว่าพอควร  แต่การที่เธอทำตัวไร้เดียงสาก็เพื่อให้ได้ทิปหนักๆ เพราะการที่ยืนอยู่บนสายอาชีพนี้ใช่ว่าไม่เสี่ยงเสียเมื่อไหร่ การมีทรัพย์สินไว้มากสำหรับพวกเธอนั้นมันไม่ผิด

 " ไม่ ฉันไม่ชอบเสพสมในเวลาที่ไม่มีสติ เพราะมันทำให้ฉันไม่สามารถตักตวงความสุข ณ เวลานั้นได้ " สายตาเรียบนิ่งบอกแก่หญิงสาว เขาไม่ใช่ซื้อเธอมาเพื่อความอิ่มหนำสำราญ เพียงแค่ต้องการระบายความไคร่ที่ตนมี ไม่มีทางที่จะเอาใจพวกเธอ เขาเสียค่าตัวยังไม่พอ ต้องมาออกเที่ยว ค่ากิน ค่าวายขวดเป็นแสนๆเพื่ออะไร แค่เขาเสพสมกายนั่นแล้วโยนเงินค่าตัวให้มันก็เกินพอแล้ว

 ความหวังของหญิงสาวหมดลง เธอยอมรับแขกคนนี้เพียงเพราะได้ยินว่าเงินดี แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีค่าแค่การพลีกาย ตามที่เขาหวังมันน่าจะมีการเลี้ยงสังสรรไม่มากก็น้อย  แต่ความจริงเขากลับไม่มีค่าถึงขนาดนั้น ชายหนุ่มปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า  คุณชายผู้ดีเก่าแม้จะดีพร้อมเสียทุกอย่าง แต่พอรู้นนิสัยเข้าจริงๆ แม้เธอจะสวยเลือกได้ ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ใช่สเป๊กเธอแม้แต่น้อย เขาว่ากันว่ามีดี เธอมองออกตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรดีเลย นอกจากหน้าตากับฐานะ  เขาปฏิบัตรต่อคู่นอนแบบทาสบำเรอ  ไม่เคยให้คุณค่าในตัวพวกเธอแม้แต่น้อย  หางตาก็ยังไม่หันมอง

 " ถึงแล้ว เข้าไป " กายโปร่งในชุดสูทสีดำทาบทับเสื้อเชิทสีขาวตามแบบผู้ดี นอกจากนั้นยังสวมเสื้อกั๊กสีเทาอีกชั้นรองจากเสื้อสูทราคาแพง เน็กไทค์สีบลอนเงินถูกรั้งให้หลวม พอกับกระดูมคอที่ปลดจนแทบเห็นแผงอก ชายที่ได้ชื่อว่าดูดีทุกสัดส่วน  ยามที่ตัณหาเข้าครอบงำ ไม่มีส่วนไหนที่อยู่ในมาดเนียบให้ดึงดูดสายตา  เสื้อผผ้ารุ่งริ่ง ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เขาดันหญิงสาวให้ผ่านกรอบธรณีประตู ก่อนถาถมร่างผลักดันพาเธอไปยังเตียง  เรียวปากแห้งผากประพรมจูปซุกไซ้ต้นคอขาว  หญิงสาวช่ำชองเริ่มออกลาย เธอคว้าต้นคอเพื่อยึดเหนี่ยว วงหน้าสะสวยสะบัดหนีอย่างหื่อนกระหาย เพียงเพราะอยากให้ชายหนุ่มดูดเม้มกายเธออย่างทั่วถึง กลิ่นควัญบุหรี่ปะปนกับกลิ่นหล้าราคาแพง ยิ่งทำให้เธอต้องการผู้ชายคนนี้ยิ่งกว่าแขกไหนๆที่ผ่านมา

 กายปรารถนาทั้งสองกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนถึงขอบเตียง หญิงสาวถูกผลักให้ลงนอนกับเตียง ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังปลดเปลื้อเสื้อผ้าออก แก้วตาหวานสั่นระริกอย่างต้องการ เธอปรารถนาที่จะได้เห็นความเป็นชายอย่างเต็มตา หัวใจมันเต้นระส่ำ ลมหายใจที่เคยปรกติ มันรวนเรจนสมองอื้ออึงยามที่ชายหนุ่มเปลื้องผ้าต่อหน้าเธอ ทำให้ความอยากของเธอมันยากเกินควบคุม  ร่างบางดิดตัวลุกขึ้นโอบเอวแกร่ง ระเลงลิ้นแฉะไปตามกร้ามท้องลอน มันทำให้พ่อทศพลมากตัณหาถึงกับครางเสียงสั่นพล่า  เธอช่างเป็นงานอะไรขนาดนี้  ไม่คิดว่าหญิงหน้าตาสะสวยไว้กิริยาเหนียมอายยามพูดยามจาจะเร้าร้อนเรื่องกาม เขาคงต้องตัดสินใจในค่าจ้างใหม่อีกครั้งแล้วสิ

  " เอามันออกมา " ทศพลสั่งเสียงทุ้มแหบสั่น ความอยากเสียวมันเรียกร้องให้หญิงสาวทำมากกว่าการลูบคำ ลากลิ้นไล่เลีย เขาสั่งเธอให้ปลดซิบกางเกง แล้วล้วงความเป้นชายที่แข็งขืนของเขาออกมา   บุรุษที่มากราคะอย่างเขามันก็ต้องใหญ่เป็นธรรมดา หนึ่งมือของหญิงสาวโอบยังไม่มิด ความโอดอาดผงาดนั้นเป็นที่พอใจแก่หญิงสาวทุกรายที่ได้มัน ไม่เว้นแม้แต่เธอคนนี้  

 หญิงสาวที่ถูกซื้อตัวมา พวกเธอจะทำทุกอย่างให้ผู้ว่าจ้างพึงพอใจ นั่นก็เพราะมันมีผลต่อค่าตัวที่สูงลิ่วของพวกเธอ  ลิ้นชื้นเริ่มแตะเลียส่วนหัวที่เยิ้มน้ำ  ก่อนจะครอบปากรูดรั้งสนองให้ชายหนุ่มพอใจในการบริการของเธอ

 " นั่นแหละที่รัก  แบบนั้น  อ่าาาา....เสียว  แบบนั้นแหละ " เสียงสายหนุ่มครางประสารเสียงดูดเลียของเธออย่างได้อารมณ์  ความสุขที่ได้รับจากการปรนเปรอของหญิงสาวทำให้เขาพอใจไม่ใช่น้อย ร่างแกร่งของเขาถูกผลักให้นอนราบกับเตียงแทนที่หญิงสาว ก่อนสายตาหยาดเยิ้มจะได้เห็นสรีระเธออย่างเต็มตา

 หญิงบริการปลดเปลื้องอาภรจนหมด  เธอขึ้นควบอย่างคล่องแคล่ว  ในขณะที่เธอกำลังสวมถุงให้ชายหนุ่ม เธอก็คิดว่าเธอควรจะได้พูดมันก่อนละเลงบทสุดท้าย

 " ถ้าหากว่าคุณไม่มีคู่มั่นหมาย  อยากจะเดทกับฉันสักครั้งไหม " คำเชื่อเชิญดูเหมือนน่าสนใจ  แต่สิงที่เธอพูดมันกลับปลูกความรู้สึกแปลกในตัวชายหนุ่มขึ้นมา   ทศพลที่ลืมเรื่องนั้นไปแล้ว  พอถูกย้ำ ข้างในมันกับร้อนระอุ คำว่าคู่มั่นมันก้องอยู่ในโสถประสาทส่วนลึก  เขาไม่ได้รู้สึกผิดที่จะทำ  แต่รู้สึกแปลก  คำว่าคู่มั่นมันเหมือนอิงแอบติดตัวเขาแม้ยามจะร่วมรักกับหญิงอื่น อารมณ์อยากกระหายเขามันหมดลงทันทีที่สมองกลับมาคิดเรื่องที่ต้องทำพรุ่งนี้  เขาควรจะให้รางวัลการพบกันครั้งแรกกับคู่มั่นหมาย  อย่างน้อยก็เป็นสิ่งย้ำเตือนว่ามันจะไม่เป็นสุขหากคิดจะแต่งกับเขา

  " ฉันไม่ต้องการ  เธอแค่ใช้ปากก็พอ ส่วนค่าจ้างไม่ได้ลดหย่อน  ทำให้มันเสร็จแล้วไปซะ " ดวงตาเย็นชาบอกปฏิเสธการสอดใส่ บอกห้ามหญิงบริการไม่ให้ขึ้นนั่ง  เขาบอกให้เธอใช้ปากรูดรั้งแทนการสอดใส่ เพราะจู่ๆความอยากกระแทกร่างสาวงามมันหมดลง  เขากำลังเคลียด  และสิ่งนั้นทำให้เขาต้องคว้าบุหรี่ขึ้นมาสูบ  ในขณะที่หญิงสาวกำลังปรนเปรอแท่งชายของเขาอย่างสมราคา

 ใบหน้าขาวนวลกรีดตาปัดคิ้วจนคมเฉียบ เมื่อเทียบกับปากเธอที่แดงแจ๋ หากแต่สีบนปากเธอนั้นทามาเพื่อประทับจูบบนคองามของแขกพิเศษ เมื่อเธอถูกไว้ตัวเพียงเท่านี้ ลำแท่งร้อนระอุจึงเปรอะไปด้วยลิปสติก  อุ้งมือจับรูดรั้งบีบเค้น ในขณะที่ส่วนยอดอยู่ในปากเธอ ใช้ลิ้นชื้นแฉะตวัดเสียอย่างช่ำชอง

 นับว่าหนุ่มหล่อมีเสน่ห์ของตระกูลสหรักหนึ่งในแขกที่เธอปรนนีบัดมา เป็นเพียงคนเดียวที่ไร้ซึ่งอารมณ์ตอบสนอง  ถึงแม้สะโพกจะแอ่นรับการใช้ปากครอบของเธอก็ตาม ดวงตาคมกริบนิ่งลึกไม่มีแวววาบหวามหวานเยิ้ม เพียงสบมองเธออย่างไร้อารมณ์เท่านั้น

 " ใกล้หรือยังค่ะ " หญิงสาวถามอย่างอยากจะหยุด เพราะเธออมรูดมาเป็นชั่วโมง คนนอนรับไม่ยักจะปลดปล่อยความไคร่ออกมา มีเพียงกร้ามท้องกระเพื่อมไหว กับลมหายใจฟืดฟัด เธอรู้สึกอยากจะหยุด และใช้ช่องรักของเธอแทน แบบนั้นมันถึงจะเรียกว่าเธอมีความสามารถจริง  แต่ชายหนุ่มกลับปฏิเสธและไร้อารมณ์ร่วม  เป็นแบบนี้เธอขอลาดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียศักดิ์ศรีถึงขนาดดำเนินการเอง  ค่าตัวครานี้ถือว่าฟาดเคราะห์ให้กับผู้ชายเฮงซวยแบบนี้ก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องพบเจอแขกประเภทนี้อีก

  " ทำไม " สายตาเรียบนิ่งละความสนใจจากการสูบบุหรี่ถามกลับห้วนๆ มองหญิงบริการอย่างสงสัย เมื่อการกระทำอันเสียวซ่านของเธอหยุดลง มันทำให้เขากลับมาคิดข่าวร้ายอีกครั้ง ทั้งที่ตอนนั้นเขากำลังปล่อยความรู้สึกไปกับมวลก้อนควันตรงหน้า และรับรู้การรูดรั้งอย่างเสียวซ่าน  

 หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรออกไป เพียงแต่แสดงสีหน้าให้เห็นถึงความไม่มีอารมณ์สุขเลยแม้แต่น้อย เธอพึ่งเคยเห็นแขกไม่เสพสวาทเธอก็ครานี้แหละ นั่นทำให้เธอต้องคิดไปไกลว่าสเน่ห์ที่มีอยู่ลดลง มันจึงทำให้รู้สึกประหม่าเวลาอยู่ต่อหน้าชายรูปงามอย่างทายาทสหรัก

 " ถ้าไม่ทำก็เชิญออกไป  ค่าจ้างเธอวางอยู่บนโต๊ะทางออก มูลค่าเท่าเดิมตามที่ตกลงกันไว้   ออกไปได้  " ทศพลไล่เธอ ไม่ใช่เชิญ ความเสียหน้าครั้งนี้นับว่าไม่คุ้มค่าสักนิด เธอลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าอย่างไม่สบอารมณ์ มันเกินไป  หัวใจผู้ชายคนนี้ทำด้วยอะไร เลวยิ่งกว่าซาตานมาเกิด ไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่น้อย ทั้งที่เขาเป็นคนโทรนัด และเลือกเธอเองโดยเฉพาะ  แต่กลับทำเหมือนเธอเป็นนางบำเรอชั้นต่ำ นั่นจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เธอไม่อาจรับค่าจ้างสกปรกในครั้งนี้  ยิ่งเห็นเงินนั่น ยิ่งทำให้ค่าในตัวเธอดูตกต่ำ  ก่อนออกประตู ก่องเงินตรงประตูจึงปลิวว่อนด้วยแรงปัดเพียงครั้งเดียวของเธอ

"  หึ่อ  แพศยา" ทศพลสบถ มองการกระทำของเธออย่างไม่สบอารมณ์  คิดว่าสวย  แต่ความเป็นจริงก็แค่นางบำเรอต่ำๆ  ต่อให้ตั้งค่าตัวแพงเหยียบล้าน  สุดท้ายก็มีหน้าที่อ้าให้เขาสอดใส่  เธอคิดว่าเธอบริสุทธิ์ แต่ความเป็นจริงผ่านการย่ำยีมาแล้วนับไม่ถ้วย ก็ดีอย่างน้อยเศษเงินของเขาก็ยังอยู่  สมควรแล้วที่ไม่เอาไป  งานห่วยยิ่งกว่าอะไร มันไม่ต่างกับโสเภณีรายตัวเลยสักนิด

มือหนาแกว่งแก้วเหล้าไปมา และค่อยๆยกมันจีบแตะริมฝีปากที่ละนิดๆอยู่ชานระเบียงคอนโดในขณะที่หญิงแม่บ้านกำลังทำความสะอาดห้อง   ทศพลนิ่งคิดอยู่นานก่อนตัดสินใจอะไรบางอย่าง  เขาอยากจะไปคลายความตึงเคลียส  และที่เขานึกถึงก็คือพับเดิมที่เขาจากมา  ในนั้นมีอะไรมากมาย  นอกจากเหล้า นารี ยังมีการละเล่นที่ทั้งสนุกและทำให้ผ่อนคลาย  เขาไม่สนคำสั่งผู้เป็นแม่ ยังไงแม่ก็สั่งเขาไม่ได้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว นั่นก็เพราะว่าเธอนั้นใจอ่อนกับเขามากเกินไป  มันจึงเป็นข้อดีสำหรับเขา  แค่แฮ้งเหล้า  พรุ่งนี้คงรอดพ้นการไปดูตัว  พูดตามตรง เขาไม่ชอบ หากไม่ใช่คนที่เขาเลือกเอง อย่าหวังว่าเขาจะยอมรับ  ได้ยินข่าวแว่วๆว่าคนบ้านนั้นอบรมสั่งสอนลูกเขามาดี เหล้าไม่ดื่มบุหรี่ไม่แตะ  นั่นยิ่งไม่ใช่สเป๊ก เรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้มันจะมีดีอะไร ทั้งทื่อทั้งด้าน อย่าเอามาประเคนเขาให้มันบอบบช้ำเลย....เขาไม่ใช่คนดีหรือทะนุถนอมอะไร ยิ่งไร้น้ำยาแล้วไม่มีทางที่เขาจะใช้สายตาไปแล

 เช้าวันใหม่ ไม่คิดว่ามันจะเป็นไปตามที่เขาหวัง เขาหมดเรี่ยวแรงที่จะลุกยืน  ตอนขากลับ คนใช้น่าจะรู้ดี เพราะมันเป็นคนหามเขากลับมาเอง  และมันคงแจ้นไปรายงานแล้วว่าลูกชายคนดีอย่างเขาไม่สามารถไปงานดูตัวพรุ่งนี้ได้  วันนี้จึงไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังกวนหู

 ก๊อกๆ !!! เสียงเคาะประตูดังสามครั้ง แต่คนแกล้งหลับไม่ยอมลุกขึ้นไปเปิด  มันจึงเป็นที่มาของการบุกรุก  ประตูที่เงียบจากเสียงเคาะได้ไม่นานก็ก็ถูกเปิดออก คนแฮ้งเหล้าถึงกับลุกพรวดขึ้น  ไม่ใช่ว่าเขากลัว แต่ไม่คิดว่าแม่ผู้ถือหางจะใช้วิธีนี้กับเขา แม้เขาจะร้ายยิ่งกว่าเสือ เมื่อเทียบกับคนของพ่อที่ส่งมาแล้ว เขาก็ไม่ต่างอะไรกับแมวป่า ความยะโสโอหังยังคงเจือติดมาดคุณชาย  ทศพลไม่ใช่คนที่จะฟังอะไรครั้งหนึ่งแล้วเข้าใจ  เขาบอกไม่ไปก็คือไม่ไป  ต่อให้ต้องขัดขืน เขาก็พร้อมจะสู้

 " ออกไป  มึงรู้ว่ากูเป็นใคร  ถ้าไม่อย่างโดนเป่ากะบานก็ออกไป " เขาสั่งเสียงเรียบ  สายตาดุดัน หากตอนนี้เขาได้ขึ้นตำแหน่งผู้บริหารตระกูลสหรัก เขาก็ไม่ต่างอะไรกับกับคุณทิศลักษณ์ผู้เป็นพ่อ  แต่ตอนนี้ทศพลเป็นเพียงลูกดื้อที่ไม่เชื่อฟัง  คุณทิศลักษณ์จึงจำต้องใช้กำลังบังคับเป็นธรรมดา

 " คุณชาย  เราทำตามคำสั่ง หากท่านยังขัดขืนบ่ายเบี่ยง เกร่งว่าเราจะต้องใช้กำลัง  นี่เป็นคำสั่งของนายหัว หากท่านไม่ทำตาม เราก้เลี่ยงไม่ได้ "

 " พวกมึงกล้าหรอ " เสียงตะหวาดกร้าวตะคอกกลับ แต่บอดี้การ์ดไม่สะท้าน รวมตัวกันเดินเข้าไปจับลูกชายของนายหัวทิศลักษณ์เปลี่ยนชุดก่อนพาตัวออกคอนโด  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทศพลเจอ เขาเจออำนาจของพอมาแล้วต่อแล้ว หลายรูปหลายแบบ เขาลืมข้อนี้ไปสนิทว่าพ่อเขาสามารถพาเขาไปงานดูตัวได้  นี่คงเป็นแผนการของแม่บังเกิดเกล้า เธอรู้ว่าเอาเขาไม่อยู่ ก็เลยยืมมือพ่อ  ทศพลกลัวพ่อเขาพอควร แต่ก็ดื้อแพ่ง เพราะคุณหญิงกันเกราให้ท้าย บางทียังแอบแก้ตัวแทนบุตรชายในยามที่นายหัวจะสั่งสอนลูกบ่าวตัวดี

 อีกด้านกำลังร้อนรน คุณหญิงรู้สึกเสียหน้าไม่น้อยที่ลูกชายตัวเองผิดนัด  เธอหาเรื่องต่างๆคุยเบี่ยงเวลาไม่ให้ทางฝ่ายเคลือญาติน้องสามีอืดอัด  เธอรู้ว่าการที่ผู้หลักผู้ใหญ่รอคอยมันแย่ขนาดไหน ทศพลทำเธอเสียหน้าขนาดนี้ คงไม่พ้นว่ากล่าวตักเตือน ยังไงเธอต้องอบรมบ่มนิสัยบุตรชายเสียใหม่ มันน่าอับอายยิ่ง เมื่ออีกฝ่ายแสนดีเพียบพร้อม เธอหวังให้บุตรชายได้ซึมซับความดีงามของว่าที่คู่มั่น อย่างน้อยเขาก็คงจะปรับเปลี่ยนนิสัยแย่ๆได้เมื่อมีเมียเป็นตัวเป็นตน

 " ต้องขออภัยแทนตาพลด้วยนะค่ะ  เจ้าพลมันค่อนข้างทำอะไรชักช้า  ตอนนี้อิฉันกำลังให้เด็กที่บ้านไปตามอยู่ค่ะ "

 " ความจริงไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้  หากเด็กมันไม่รักกันแล้ววันหนึ่งคนที่เสียใจ ไม่ใช่พ่อกับแม่หรอกเหรอ " คนที่นั่งรอเป็นเวลานาน  ถึงแม้จะเป็นบ้านของตัวเองก็เหอะ  เขาอายุปูนไหนแล้ว ต้องมานั่งคอยเด็กไม่มีความรับผิดชอบ  แค่นี้ก็ไม่ควรให้คู่หลานรักเขาแล้ว แม้จะรวยคับฟ้ามาจากไหน ไร้ซึ่งมารยาทมนุษย์ชน เขาก็ไม่ปรารถนาได้เป็นหลานเขย

" อย่าไปคิดถึงเรื่องนั้นสิค่ะ  ยังไงเราก็ต้องดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน  ในพินัยกรรมระบุไว้ชัดเจน  อีกอย่างลูกกรเขาน่ารักออกอย่างนั้น  อย่าว่าแต่เจ้าพลเลย อิฉันยังอดที่จะปราบปลื่มไม่ได้ ดีพร้อมทั้งหน้าตากิริยา  หากไม่เป็นการอันควร ยังไงอิฉันก็อยากได้เขาเป็นสะใภ้ แม้ในพินัยกรรมไม่ระบุแบบนั้น อิฉันก็หวังเป็นอย่างยิ่งค่ะ "

" หือ.. อยาลืมสิว่าหลานข้ามันไม่เหมือนคนปรกติทั่วไป หากว่าพลาดพรั้งมาเกิดมันท้องไม่มีพ่อ ข้าไม่อยากจะคิด  ตอนข้ายังมีลมหายใจ ยังพอช่วยมันเลี้ยง หากข้าจากโลกนี้ไปมันจะอยู่ยังไง   ข้าถามเองหน่อยเถอะ  เองบอกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเองหรือยังว่าหลานข้ามันเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง  ข้าหนะกลัวเหลือเกินว่าแก้วที่ข้าอุส่าเจรนัยมันจะแตกร้าวด้วยมือลูกชายเอง " หญิงชราที่เป็นเจ้าบ้านกล่าวตามที่ใจคิดไม่คิดบิดเบือน  กรกฤติ เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลสังข์แก้ว  หากต้องมาหมดสิ้นลงเพราะคนนิสัยถ่อย เขาคงเป็นคนบาปยิ่งที่เป็นคนยกให้ 

" เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ  อิฉันรับประกันว่าลูกกรกับลูกพลจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบอย่างคู่ชายหญิงทั่วไป  ติดก็แต่ท่านย่าจะไม่ยอมยกให้นี่สิค่ะ " คุณหญิงกันเกรา พูดไปยิ้มไป เพื่อกลบเกลื่อนความลับอันใหญ่หลวง  ความจริงบุตรชายอันเป็นที่รักไม่รู้สักนิดว่าคู่มั่นของเขาเป้นผู้ชาย  ที่เธอบากหน้ามาสู่ขอก็เพราะว่า อยากมีทายาทสหรักไว้สืบสกูล  ความจริงทายาทสหรักจะเกิดกับใครก็ได้  แต่เธอจำเป็นต้องเลือกบุตรชายของตระกูลสังข์แก้วตามพินัยกรรมระบุ เมื่อใดก็ตามที่ทำให้ตระกูลสังข์แก้วไม่พอใจ ตระกูลเธอมีสิทธิ์ถูกฟ้องร้องจากตระกูลสังข์แก้ว  ทุกวันนี้ตระกูลสหรักมีได้เพราะสัญญา ทิศลักษณ์ก็เหมือนกับเช่าดูและกิจการสังขืแก้ว  เธอจึงจำเป็นต้องดองกับตระกูลสังข์แก้วทำลายความหายนะที่คอยกัดกร่อนตระกูลเธอตลอดมา การที่ต้องบริหาร รักษา ทรัพย์สมบัติที่ไม่ใช่ของตัวเองจริงๆมันไม่มีความสุขเลยสักนิด ต่อให้ทำสุดฝีมือขนาดไหนของที่ไม่ใช่ของของตัวเอง ก็ไม่มีวันเป็น แค่เธอกับสามีพลั้งพลาดเพียงนิด สมบัติมีสิทธิ์อัตธานหายทันที

" เองไม่ต้องมาปั้นยิ้มปั้นยอ  ลูกชายตัวดีของเองมารึยัง  ถ้ายังข้าจะปิดบ้าน วันนี้เจ้ากรมันลงสวนมันคงเหนื่อย  กลับต้องมาคอยคนไม่รู้จักเวลำเวลา  ข้าจะบอกให้นะ เจ้ากรมันเทิดทูลลูกพี่ลูกน้องขนาดไหน ถึงกับยอมตกลงปรงใจเป็นสะใภ้บ้านเอง  แต่ข้าไม่ยอมปล่อยหลานข้าง่ายๆหรอก มันดีเกินไป  กลัวถูกคนอื่นหลอกใช้  ยังไงข้าต้องดูทุกคนที่จะมาเป็นเขยบ้านนี้  หากลูกชายเองไม่เข้าตา ข้ามีสิทธิ์จะเลือกคนอื่น " คำพูดและน้ำเสียงยังคงเอ่ยเตือนไม่ขาด คนแก่แม้จะไม่ได้ออกสู่โลกภายนอก ไม่ทันกับความเจริญของโลกใบกลม ใช่เธอจะไม่ได้ยินข่าวอื้อฉาวของลูกชายคุณหญิงกันเการา  ที่เขายอมให้มีการดูตัว ก็เพราะเห็นแก่ความเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ไม่งั้นอย่าได้หวังเลย

ขณะ ที่คุณหญิงกันเกรากำลังคุยแก้ตัวให้บุตรชายของเธอ พลันก็ได้ยินเสียงรถมาเทียบจอด บ้านสวนหลังนีี้เป็นบ้านยกพื้น ตัวบ้านทำด้วยไม้ศักทอง มันคงเป็นเรือนสวยหลังเดียวของภาคนี้  แม้จะสูญสิ้นทรัพย์แทบหมดตัว  แต่ตระกูลสังข์แก้วกลับฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้  ผิดกับตระกูลเธอที่ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจมาจนถึงทุกวันนี้

รถChevroletยี่ฮ่อดังเทียบจอดยังเชิงทางขึ้น  ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง ก่อนปรากฏร่างแกร่งที่ไม่เต็มใจลง แต่ก็โดนบังคบลงจนได้  คนมีฐานะเป็นนายเล็กอย่างทศพลไม่คิดให้ลูกน้องพ่อคุมบังเหียนเขาต่อหน้าคนอื่น  ดังนั้นเขาจึงยอมก้าวเดินอย่างไม่คิดบ่ายเบี่ยง  สายตาเรียบนิ่งมองสถานที่อย่างเหยียดแคลน กลิ่นโคนสาบดินระอุไปทั่ว จมูกคมสันสูดพ่นสองสามทีเพื่อเช็คกลิ่นที่แน่นอน  และมันก้ไม่เร็วร้ายถึงกับไม่สามารถหายใจได้ เขาจึงไม่แยแส  เดินมือล้วงกระเป๋าขึ้นเรือนไป 

ทศพลเดินย่ำขึ้นบันไดทีละซี่อย่างเชื่องช้า จนกระทั่งระดับสายตาของเขาโพล่พ้นหัวบันใดถึงได้เห็นสายตาทุกคู่จ้องมองยังเขาอย่างตื่นตะลึง ในกลุ่มคนนั้นยังมีแม่ของเขา ที่มองด้วยสายตาดุปราม เขาไม่สนใจอยู่แล้ว ให้มันรู้ไปสิว่าไม่อยากมีส่วนร่วมกับความคิดผู้เป็นแม่ เขามาในสภาพแบบนี้ก็เพื่อหักหน้าตระกูล อย่างน้อยเขาก็จะได้ไม่ต้องแต่งกับคนที่เขาไม่ได้รัก  ไม่มีบ้านไหนหรอกอยากได้เขยไม่เอาไหน  ตอนนี้เขาก็กำลังทำมัน  ผมเพ้ารุงรังใบหน้าครึ่งหลับครึ่งตื่น เสื้อเชิตถูกทิ้งชายออกนอกกางเกง หนำซ้ำเนกไท้ค์ที่รั้งจนเห็นแผนอกยามปลดกระดุมทิ้งตัวห้อยโตงอยู่กับก้านคอ 

ภาพที่เขาสร้างขึ้นทำให้หญิงชราที่เป็นเจ้าของบ้านถึงกับเบือนหน้าหนี ผู้ชายคนนี้หมดสิทธิ์ในตัวหลานเธอโดยปริยาย ไม่มีวันที่จะให้หลานรักตกเปนของผู้ชายที่ไม่เอาไหนอย่างลูกชายตระกูลสหรัก  นับว่าคุณหญิงหักหน้าเธอไปเต็มๆ  บอกว่าจะดูตัว  ดูสรารูปลูกชายตัวเองก่อนไม่ดีกว่าหรือ

" ถ้าจะขนาดนี้ก็เชิญกลับ  ข้าไม่มีอะไรจะพูด  ลงไปจากเรือนข้าซะ  หากให้หลานข้าแต่งกับคนแบบนี้ ข้ายอมตายเสียดีกว่า " เจ้าของเรือนว่าเสียงติดไม่พอใจ เมื่อพบกับความไร้ยางอายของคนที่จะมาเป็นหลานเขยเธอ

" เดี๋ยวก่อนสิค่ะคุณย่า  อิฉันอธิบายเรื่องนี้ได้นะค่ะ "คุณหญิงยังคงไม่ละความพยายามที่จะช่วยแก้ต่างให้กับลูกชาย ที่วันนี้ทำตัวไร้มารยาท  สิ่งที่เธอฟุมฟักสั่งสอนมาไม่มีเลยสักครั้งที่บุตรชายจะทำตาม ครั้งนี้ถือว่าทศพลหักหน้าเธออย่างแรง  ยังไงต้องให้ทิศลักษณ์อบรม หาไม่แล้วลูกชายตัวดีจะทำเธอพังพินาศทั้งวงค์ตระกูล

" เองกลับไปได้แล้ว  เมื่อไหร่ที่ลูกชายเองเป้นผู้เป็นคนข้าจะพิจราณา  ตอนนี้ข้าไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด  อย่าลืมว่าหลานข้ามีสิทธิ์ในสมบัติที่ตระกูลสหรักครอบครองแค่ไหน  ถ้าเห็นแก่ความเป็นบ้านพี่เรือนน้อง ช่วยกลับไปก่อน  ข้ากับหลานมีเรื่องต้องตัดสินใจอีกมาก "

" ค่ะ  งั้นอิฉันลาแล้วนะค่ะ  ไว้วันหลังจะให้เจาพลมันมาขอขมา ที่ทำให้คุณย่าเสียหน้า "  เธอโกรธมาก  โกรธยิ่งกว่าครั้งไหนๆ  บุตรชายทำให้เธอต้องหวนเจียมตัวอีกครั้ง  ความเสียหน้าครั้งนี้ยากจะเลือนหาย คำพูดหญิงชราเน้นให้เธอจำใส่ใจว่าสิ่งที่เธอมีมันเป็นของใคร ยิ่งทำให้เธอจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลสังข์แก้ว  กลับบ้านครานี้เธอจำต้องเอาจริงกับทศพลแล้ว หากว่ายังปรามไม่ได้ อาจจะเป็นเธอที่ต้องจากโลกนี้ไปก่อน เพราะไม่อยากเห็นความทุกข์ยากของตระกูล

 " กลับไปครั้งนี้ แม่จะให้พ่อเป็นคนช่วยจัดการ  ในเมื่อไม้อ่อนไม่ชอบ แม่ก็จะไม่ปฏิเสธที่จะใช้ไม้แข็ง " เธอเดินผ่านบุตรชาย สายตาเธอมองการกระทำของบุตรอย่างเอื่อมระอา   ทศพลเพียงทอดสายตานิ่งเรียบไม่สะทกสะท้านกับคำขู่  ในขณะที่กำลังจะลงเรือน เขาหันกลับมามองรอบๆบ้านอย่างไม่ยี่หร่า

 " นี่เหรอบ้าน  เล็กยิ่งกว่ารังหนู  ไม่รู้อยู่กันได้ยังไง "  สายตาคมมองอย่างเหยียด แต่พลันในคลองจักษุเห็นร่างของใครอิงแอบอยู่หลังบานประตูห้องหนึ่งในตัวบ้าน  เขาจวนจะก้าวเท้าไปหาแล้ว  ติดที่เสียงมารดาเรียกรั้งตาหลัง  ทำให้เงานั้นหายไป ทิ้งไว้แต่กรอบประตูวางเปล่า ทั้งที่พึ่งเห็นร่างของใครคนหนึ่งอิงแอบอยู่ตรงนั้น

" พล  มานี่  " ทิศลักษณ์เรียกบุตรชายเสียงเข้ม เขารอพบอยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านระหว่างที่ภรรยากับลูกกลับมา เขารู้มาจากภรรยาผ่านทางโทรศัพตั้งแต่หัววันว่าลูกชายตัวดีทำงามหน้าไว้กับเครือญาติฝ่ายน้องชาย  นั่นยิ่งทำให้เขาเป็นเดือดเ็นร้อน  จะไม่มีกินก็เพราะไอ่ลูกชายไม่รักดีนี่แหละ

" ฉันเคยเตือนแกกี่ครั้งแล้วกับนิสัยของแก  ที่เรามีกินอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะคนพวกนั้น  อย่าทำให้พ่อต้องหมดความอดทน  ต่อแต่นี้พ่อจะไม่ให้เงินแกใช้  ตราบใดที่ทำให้คุณย่ายอมรับตัวแกเป็นเขยไม่ได้   ในเมื่อแกเป็นคนทำ  แกต้องเป้นคนแก้  ไปซะ  กลับไปทำให้เขายอมรับแก " คนเป็นพ่อพูดก็เพราะหวังดี  แม้คำพูดจะดูตัดเยื่อใย  แต่ในใจที่มีเลือดเนื้อหล่อเลี้ยงมันเจ็บปวดทุกครั้งที่พูดจาแรงๆกับลูก  นี่ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะให้โอกาส  หากลูกมันไม่รักดีเขาก็จะไม่เลี้ยงให้ปวดใจแล้ว ปล่อยตามเวรตามกรรม มันอยากทำไรก็เชิญ  เขาเหนื่อยมามากแล้ว   ไหนจะครอบครัว  ไหนจะธุรกิจ  ไหนจะประคับประคองหุ้น  ยังต้องมาปวดหัวกับลูกชายที่โตแต่ตัว   อายุขนาดนี้ บ้านอื่นเขาแบ่งเบาภาระงานพ่อแม่แล้ว  นี่อย่าว่าแต่แบ่ง  ยังนำปัญหาไม่จบไม่สิ้นมาให้  ช่างเป็นลูกที่ดีเหลือเกิน  จะโทษใคร  คงต้องโทษตัวเองที่มีเวลาให้เขาน้อยไป

" ลูกไม่ทำ  หากต้องแต่งกับคนที่ไม่รัก  แถมไร้รสนิยมแบบนั้นผมทำไ่ม่ได้  หากให้ผมเลือก  ผมขอหาเงินด้วยตัวของผมเอง  แล้วพ่อก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับชีวิตผม " คนเป็นลูกตะคอกกร้าวใส่ มันทำให้มือที่เคยโอบอุ้มฉากเข้าใบหน้าสากไรหนวด ความรู้สึกที่ว่าลูกมองไม่เห็นความหวังดีของพ่อแม่  หรือมองเห็นความหวังดีเป็นปองร้าย  มันทำให้จิตใจผู้เป็นพ่ออย่างเขาอดไม่ได้ที่จะตบสั่งสอน  มือหนายกขึ้นฟาดเพียงฝ่ามือเดียว  หัวใจที่เคยรู้สึกว่าเต้นเหมือนหยุดชั่วคราว  เขาเหมือนเอามีดมาเฉือนเนื้อตัวเองก็ไม่ปาน ลูกที่เคยเลี้ยงมาไม่เคยทุบตี มีแต่ครั้งนี้ที่มันเหลืออด  นั่นทำให้บุตรรักมองข้อนด้วยความเจ็บปวด  ในใจดวงน้อยนั้นคงประนามความรักของเขาที่มอบให้

" พ่อ  พ่อทำแบบนี้กับผมได้ไง  ผมเป็นลูกพ่อนะ  ทำแบบนี้ผมไม่อยู่มันแล้วบ้านหลังนี้  ผมจะไป " ฝ่ามือหนายกขึ้นกุมพวงแก้มตอบที่ทาบทับด้วยริ้วแดงจากแรงฉากของฝ่ามือคนที่เขารักและเทิดทูน  มาวันนี้ผู้เป็นพ่อเห็นบ้านอื่นสำคัญกว่า  เขาจะโง่อยู่ต่อทำไม อยู่ไปก็รั้งจะเจ็บปวด

ดังนั้นจึงเลือที่จะจากไป ทิศลักษณ์นิ่งอึ้งกับการกระทำของตัวเอง  ขณะคุณหญิงกันเกราที่แอบมองอยู่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง  เธอรีบวิ่งออกไปตามเรียกรั้งให้ลูกชายกลับมา ความรักของเธอคงส่งไม่ถึง บุตรรักซิ่งรถออกจากคฤหาสน์ไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ควัญขโมงกับรอยยางรถบนคอนกรีด  

             

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา