เอเดน ไคลน์ กับปริศนาดวงตาปีศาจ
เขียนโดย kuroro
วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.54 น.
แก้ไขเมื่อ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 17.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เวโรธิน่า เมืองแห่งป่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความสิ่งใดๆในโลกล้วนไม่มีความแน่นอน นั่นคือคำพูดติดปากของ มาดามเมอร์ซี่ สตรีสูงวัยผู้สูงศักดิ์ เธอคือชนชั้นสูงแห่งเมืองเวโรธิน่า เมืองแห่งป่า สมัยเยาว์วัยเธอเป็นหญิงที่สง่างาม ผู้มีรูปโฉมอันงดงาม ดูภูมิฐาน และดูน่าเกรงขาม ซึ่งตอนนี้ก็ยังดูไม่ต่างจากเมื่อก่อนเท่าไรนัก แม้จะล่วงเลยเข้าสู่วัยชราแล้วก็ตาม เธอมักจะเกล้ามวยผมสีเงิน ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอๆ เธอชอบแต่งกายด้วยชุดที่เรียบง่าย กระฉับกระเฉง และมักใส่ผ้าคลุมสีเงินยวงอยู่เป็นประจำ
มาดามเมอร์ซี่ มีกิจวัตรประจำวัน นั่นก็คือ การตื่นนอนขึ้นมาตอนเช้าตรู่ จากนั้นเธอจะมุ่งหน้าไปที่ชายหาดหลังเมืองเวโรธิน่า เพื่อลงไปหาเก็บไข่มุกดำอันแสนจะหายากยิ่ง ซึ่งชายหาดแห่งนี้เป็นชายหาดต้องห้าม ที่ห้ามบุคคลทั่วไปเข้าใกล้ จะว่าห้ามเข้า! นั่นก็ส่วนหนึ่ง –- แต่ถึงไม่ห้าม ก็คงไม่มีใครคนไหนอยากจะไปเดินเล่น เหมือนเดินชมนกชมไม้ ราวกับว่าเดินในสวนหลังบ้านของตัวเองเป็นแน่ นั่นก็เพราะว่าที่ชายหาดแห่งนี้ --
-- อันตราย! --
แล้วมันอันตรายยังไงล่ะ
ชายหาดหลังเมืองเวโรธิน่า มีสัตว์ประหลาดหลากหลายชนิดที่แสนจะดุร้ายและหิวกระหายอาศัยอยู่ มักปรากฏตัวออกมาจากทางทะเลหรือตามแนวชายป่าและอีกสาเหตุหนึ่งของความอันตราย นั่นก็คือความแปรปรวนของกระแสน้ำที่คาดเดาไม่ได้ คลื่นทะเลอันแสนบ้าคลั่งซึ่งสามารถทำลายเรือขนส่งลำใหญ่ยักษ์ให้แหลกเละ และจมหายลงไปในน้ำวนได้ภายในชั่วพริบตา
ทะเลแถบนี้ได้ชื่อว่า ‘ทะเลมรณะ’ แน่นอน เพียงแค่ได้ยินชื่อ หลายๆคนอาจรู้สึกขนลุกที่ต้นคอ และเสียวสันหลังวูบวาบ แต่สำหรับหลายๆคนมันกลับกลายเป็นความท้าทาย ความตื่นเต้น ความอยากรู้อยากเห็น ความโลภโมโทสัน อะไรต่อมิอะไรหลายๆแหล่!
แล้วอะไรล่ะ! ที่เป็นสิ่งเร้า --
เมื่อก่อนเคยมีขบวนเรือบรรทุกสินค้า แต่ล่ะลำบรรทุกทองคำและสินค้าหายากที่ประเมินค่ามิได้ พยายามที่จะแล่นผ่านทะเลแห่งนี้ เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางแห่งหนึ่ง โดยตั้งใจใช้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางลัด มีกัปตันเรือซึ่งประมาทสถานที่แห่งนี้มากเกินไป แม้ประสบการณ์การเดินเรือจะเชี่ยวชาญในทะเลแห่งอื่นมากสักแค่ไหน แต่ในทะเลแห่งนี้ ก็อาจไม่เป็นอย่างที่ใจคิด ผลคือ เรือถูกสัตว์ประหลาดโจมตีและถูกคลื่นซัดบดขยี้ ทั้งเรือบรรทุกสินค้าพร้อมกัปตันและลูกเรือ จมหายลงสู่เบื้องล่าง สมบัติอันแสนมหึมาที่นอนจมอยู่ก้นทะเล จึงเป็นสิ่งล่อตาล่อใจ ดึงดูดนักล่าสมบัติ พ่อค้าและผู้คนที่อยากมั่งอยากมีทั้งหลาย คนแล้วคนเล่า ราวกับว่า กำลังถูกร้องเรียกโดยความตายอันแสนเย้ายวน ยังไง ยังงั้น --
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด ระหว่างที่มาดามเมอร์ซี่มายังชายหาดเพื่อหาเก็บไข่มุกดำอยู่นั้น มีสัตว์ปีศาจดุร้ายกระโจนออกมาจากผืนน้ำ ลักษณะส่วนหัวเหมือนมนุษย์ผู้ชาย มีฟันยื่นยาวแหลมเฟื้อยราวใบมีดโกน ดวงตาโปนดำ มีสองแขนที่ยื่นออกมาพร้อมมือที่เป็นพังผืด ส่วนล่างเหมือนปลามีเกล็ดเป็นสีดำมันวาว มันคือ ‘มนุษย์เงือก สายพันธุ์ฉลาม’ ซึ่งเห็นมนุษย์เป็นอาหารอันโอชะ จึงเข้าโจมตีใส่มาดามเมอร์ซี่ ที่กำลังง่วนอยู่กับการหาไข่มุกดำอยู่ เจ้าฉลามเงือกตัวเป้ง ได้กระโจนเข้าหา พร้อมอ้าปากแสยะฟันอันแหลมคม จนเกือบจะถึงตัวมาดามเมอร์ซี่
ทันใดนั้น!
เจ้าฉลามเงือกกลับหยุดนิ่งในทันทีทันใดกลางอากาศทันที! รอบๆลำตัวถูกเถาวัลย์ที่งอกออกมาจากพื้นทราย เข้าพันธนาการร่าง ทำให้เจ้าฉลามเงือกไม่สามารถขยับตัวได้แม้แต่นิดเดียว ซึ่งเจ้าฉลามเงือกตัวนี้ คงกำลังงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวมันอยู่เป็นแน่ ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ขณะเดียวกัน มาดามเมอร์ซี่ได้หันมาทางเจ้าฉลามเงือกตัวนี้
ฟุบ -- เพี๊ยะ.!
ฟุบ -- เพี๊ยะ...!
ฟุบ -- เพี๊ยะ.....!
เสียงเหมือนแส้หวดแหวกอากาศ ฟาดลงบนผิวหนังของเจ้าฉลามเงือก มันคือเถาวัลย์ที่งอกออกมาจากพื้นทรายประมาณสามเส้น แต่ล่ะเส้น ผลัดกันฟาดลงบนผิวหนังของเจ้าฉลามเงือกสลับกันไป ดังลั่นพร้อมกับเสียงร้องโหยหวน ชวนแสบแก้วหู ที่ฟังดูแล้วคงเจ็บปวดไม่น้อย และเพียงแค่ชั่วอึดใจ เถาวัลย์ที่พันธนาการร่างเจ้าฉลามเงือกตัวนี้ก็คลายออก เป็นจังหวะที่เจ้าฉลามเงือกกระโจนหนีลงสู่ทะเล ด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดาและไม่คิดจะหันกลับมาอีกเลย
โดยปกติแล้ว สัตว์ปีศาจที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ จะไม่ค่อยโจมตีมาดามเมอร์ซี่กันหรอก เพราะเจ้าสัตว์ปีศาจเหล่านี้ต่างรู้ดีว่า หญิงชราคนนี้ไม่สามารถเคี้ยวได้ง่ายๆ แถมยังร้ายกาจเอาเรื่องอีกต่างหาก เพราะถ้าหากมาดามเมอร์ซี่มาที่ชายหาดนี้เมื่อไหร่ พวกบรรดาสัตว์ดุร้ายน้อยใหญ่ จะพากันถอยห่างออกมากันเอง แต่ก็มีบ่อยครั้งที่สัตว์ปีศาจพลัดถิ่นหรือหลงเข้ามายังพื้นที่บริเวณนี้ จะเข้าโจมตีมาดามเมอร์ซี่ แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม นั่นก็คือถูกมาดามเมอร์ซี่สั่งสอนกลับไปนั่นเอง
การไปหาไข่มุกดำในแต่ล่ะวันของมาดามเมอร์ซี่นั้น มีแต่บุคคลที่ใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของมาดามเมอร์ซี่ ว่าสาเหตุที่เธอหาไข่มุกดำไปนั้นเพื่ออะไรกันแน่ แต่คนทั่วไปที่ไม่รู้สาเหตุ ก็ได้แต่คาดเดาไปต่างๆ นาๆ จะว่าเรื่องเงินก็ไม่ใช่ เพราะมาดามเมอร์ซี่เป็นบุคคลที่มั่งคั่ง อันดับต้นๆของเมืองเวโรธิน่า หรืออาจจะเป็นความชอบในเรื่องความสวยความงามของเครื่องประดับ แต่ก็ไม่น่าใช่ เพราะเธอไม่ได้พิสมัยในเครื่องประดับสักเท่าไร คนรอบๆตัวเธอต่างก็รู้กันดี
หลังจากมาดามเมอร์ซี่กลับมาจากชายหาด ดูเหมือนเธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ปรับเอนบนระเบียงใบไม้ จากนั้นเธอเอื้อมมือไปด้านข้างเพื่อเปิดอะไรบางอย่าง เสียงดัง’แกรก’ คล้ายๆสวิทซ์ พอเปิดไปแล้วเกิดเสียง ‘แซ่ด..แซ่ด..’ ดังออกมาจากเจ้าสิ่งนั้น จากนั้นก็ --
“อรุณสวัสดิ์ชาวเมืองเวโรธิน่าทุกท่าน สำหรับเช้าวันศุกร์อันแสนสดใส พบกันอีกครั้งในเช้าวันนี้นะ คร้าบ -- กับผมหนุ่มหล่อหน้ามน มอฟิลด์ แกรนโต้ คนเดิมนะคร้าบ -- ข่าวที่สำคัญและน่าติดตามที่สุดในช่วงนี้คงจะเป็นข่าวไหนไปไม่ได้นอกจากข่าว --” เสียงจากรายการข่าวดังออกมาจากวิทยุที่มาดามเมอร์ซี่เปิด
“แล้วก็มาถึงช่วงพยากรณ์อากาศ ช่วงสุดท้ายของรายการกันแล้วนะคร้าบ -- วันนี้สภาพอากาศเป็นยังไงบ้างคร้าบ -- รูดี้” มอฟิลด์ ถามนักข่าวพยากรณ์อากาศที่จัดรายการด้วยกัน
“สวัสดีค่ะมอฟิลด์ และสวัสดีชาวเมืองเวโรธิน่าทุกท่านนะคะ ดิฉันรูดี้ แม็กซ์เนท” รูดี้ แม็กซ์เนท นักข่าวพยากรณ์อากาศกล่าวทักทายในรายการ
“วันนี้จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองกระจายไปทั่วทั้งเมืองนะคะ และจะเกิดเมฆสายฟ้าขนาดใหญ่ ขอให้ชาวเมืองทุกท่านดูแลสุขภาพและระมัดระวังในการเดินทางด้วยค่ะ อีกอย่างนะคะ โปรดระวังพวกทากจอมเขมือบด้วยค่ะ เจ้าพวกนี้ชื่นชอบฝนมาก มักจะแห่กันออกมาในช่วงฝนตก แล้วอีกอย่างสิ่งที่พวกมันชื่นชอบและโปรดปรานเป็นพิเศษนั่นก็คือของหวานค่ะ โปรดหลีกเลี่ยงการเก็บของหวานทุกชนิด ไว้ในบ้านเรือน” รูดี้ อ่านข่าวพยากรณ์อากาศจบแล้ว
“ว่าแต่ – รูดี้ คุณมียากันทากไหมคร้าบ -- ผมเห็นเจ้าพวกนี้ทีไร รู้สึกอยากจะอาเจียนทุกครั้ง” มอฟิลด์ถามรูดี้
“ดิฉันได้ข่าวมาว่า คุณชอบพวกทากไม่ใช่เหรอคะ เพราะสารคดีของคุณ เรื่องทากจอมเขมือบ ฟันซี่เล็กๆที่น่ารักจนคาดไม่ถึง ซึ่งกำลังออกอากาศในช่วงนี้ -- ฮ่าๆ” รูดี้ พูดหยอกมอฟิลด์
“ไม่เอาน่า อย่าล้อกันเล่นสิ ทากจอมเขมือบ พวกมันมีฟันซี่เล็กๆซึ่งคมมากจนอันตรายและน่ากลัวมากต่างหากล่ะ ผมเห็นเจ้าพวกนั้นทีไร รู้สึกขนลุกขนพองทุ้กที” เขาพูดอย่างเอาจริงเอาจัง
‘แกรก --’
มาดามเมอร์ซี่เอื้อมมือไปปิดวิทยุ และปรับเอนเก้าอี้ แล้วเอนตัวนอนลงไป จากนั้นเอาหนังสือวางปิดหน้าของตนเอง และเอามือทั้งสองข้างวางประสานกันเหนือท้องน้อย ตอนนี้มาดามเมอร์ซี่กำลังนอนพักผ่อนบนเก้าอี้ปรับเอนบนระเบียงใบไม้
ซึ่งไม่ว่าจะมองดูยังไง.. มันก็คือใบไม้ขนาดใหญ่ราวสิบเมตรกระมัง ที่ยึดติดกับลำต้นขนาดใหญ่ยักษ์มหึมา มีเถาวัลย์ซึ่งถูกถักเป็นทางเดินไว้อย่างประณีต และมีดอกกล้วยไม้หลากหลายนานาพรรณ ประดับประดาไว้จนทั่วบริเวณ ตรงส่วนอื่นๆของบริเวณนั้นก็ดูมีลักษณะเหมือนๆกัน ทั้งระเบียงใบไม้ -- ร่มใบไม้ -- แก้วน้ำ -- โต๊ะ -- เก้าอี้ -- ประตู -- หน้าต่าง -- ทุกอย่างต่างก็เป็นไม้ หรือแม้กระทั่งบ้าน ไม่สิ... นี่มันปราสาทนี่นา... แต่ถ้าลองสังเกตดูให้ดีๆ นี่มันต้นไม้ แต่นี่ไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดาๆ มันคือต้นไม้ขนาดใหญ่โตมโหฬาร ที่มีชื่อว่าต้นเวโรเธียร์ ต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ต้นเวโรเธียร์ คือต้นไม้สายพันธุ์หายากที่เหลือเพียงต้นเดียว และเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีเส้นรอบวงราวๆห้ากิโลเมตร ด้านบนของต้นไม้จะมีปราสาทเก่าแก่ตั้งอยู่ ปราสาทหลังนี้เป็นของมาดามเมอร์ซี่ที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดต่อๆกันมา จากรุ่นสู่รุ่น กินเวลานับพันปี เมื่อก่อนชนชั้นสูงทั้งหลายจะอาศัยรวมกันที่ปราสาทหลังนี้ จนกระทั่งเกิดเหตุอันน่าเศร้าที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ชนชั้นสูงที่มีอยู่ตอนนี้จึงมีแค่มาดามเมอร์ซี่และหลานสาวเท่านั้น ต้นเวโรเธียร์ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเวโรธิน่า ผู้คนทั่วไปต่างพากันเรียกเมืองแห่งนี้ว่า เมืองแห่งป่า มีประชากรอาศัยอยู่ในเมืองนี้นับหมื่นคน ลักษณะเมืองเวโรธิน่าแห่งนี้จะเป็นเมืองปิด เพราะการสื่อสารและการเดินทางเข้า -- ออกนั้น ค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก ด้วยสาเหตุคล้ายๆกับเหตุผลอย่างแรก นั่นคือสัตว์ปีศาจดุร้ายนานาชนิดที่อาศัยอยู่นอกเมือง และสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ และหลายครั้งหลายหน ที่ผู้คนภายนอกพยายามเข้ามาที่เมืองเวโรธิน่า แต่ก็ต้องเลิกล้มกันไป บางรายเสียสติ บางรายหายสาบสูญไปในป่า บางรายกลายเป็นอาหารของบรรดาสัตว์ปีศาจ แต่เรื่องแบบนี้ก็คงจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันจบสิ้น เพราะความโลภและความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด
✖✖✖
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ