เรณุการ้อนรัก
-
เขียนโดย Annakan
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 11.01 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
6,678 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 09.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) ตอน 5-6
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 5
บนแท็กซี่
“ร้อนจังเลยค่ะธี” เสียงหวานออเซาะขึ้นมา
“เดี๋ยวผมเร่งแอร์ให้นะครับ” พี่โชเฟอร์บอกด้วยความหวังดี
“ไม่ต้อง” ไลลาบอกเสียงเขียวแล้วจ้องตาเขม็ง คนขับจึงไม่กล้าเปิดปากพูดอะไรอีกเลย
“ไลลาขอปลดกระดุมหน่อยนะคะ” เมื่อจบประโยคกระดุมเสื้อก็ถูกปลดออกสองเม็ดพอให้เห็นเนินอกขาวๆ
“ธีคะ ไลลามึนหัวมากเลยค่ะ” ในเมื่อแผนปลดกระดุมไม่ได้รับความสนใจเธอจึงต้องใช้แผนต่อมา
“เอ่อ แวะโรงพยาบาลไหมครับ” ธนูลักษณ์ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะเขาก็ไม่ใช่หมอหรือเภสัชกร
“ไม่เป็นไรค่ะของีบสักนิดก็พอ”
“ครับ เชิญเลย”
“รถมันโยกขอไลลาอิงหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวแสร้งตีหน้าเศร้าพร้อมทำตาปริบๆ
“ก็ได้ครับ” ธนูลักษณ์ตอบตกลงแบบไม่ค่อยแน่ใจนัก คนไม่รู้จักกันจะกล้าใกล้ชิดกันขนาดนี้เลยหรือแต่คำตอบก็คือเธอกล้าจริงๆ ด้วย ไลลาอิงศีรษะของเธอมาที่แขนของผมแล้วหลับตาพริ้ม
“ไลลาครับ ไลลาถึงแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับผมจ่ายให้” ธนูลักษณ์ไม่รับเงินที่เธอส่งมา
“จะรังเกียจไหมคะถ้าจะให้ธีไปส่งที่หน้าห้อง ไลลากลัวจะเป็นลมคาลิฟท์จังเลยค่ะเพราะแค่ยืนยังเวียนหัวเลย” อีกครั้งที่สาวหน้าใสแกล้งตีหน้าอิดโรยแล้วผู้ชายทึ่มๆ แบบธนูลักษณ์จะตามทันได้ยังไง
“ธีคะ ไลลาต้องแย่แน่ๆ เลย” เมื่อมาถึงห้องแม่สาวจอมมารยาก็แกล้งทำขาอ่อนพาลจะล้มเอาซะให้ได้ สุดท้ายธนูลักษณ์จึงต้องเป็นคนเปิดประตูห้องแล้วประคองเธอเข้าไป
“ขอบคุณนะคะธี” ธนูลักษณ์เห็นสีหน้าเธอแย่มากจึงเดินไปหยิบน้ำดื่มมาให้
“ว๊าย” ไลลาแกล้งทำน้ำหกใส่ตัวเอง เสื้อสีขาวบางๆ จึงเห็นทะลุไปถึงไหนต่อไหนแต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่รู้สึกอะไรเลย
“ธีคะ ไลลาอยากอาบน้ำช่วยพยุงไปหน่อยได้ไหมคะ” ในเมื่อให้ท่าสารพัดก็ไม่ยอมเล่นด้วยต้องใช้แผนสุดท้ายแล้ว
“ได้ครับ เฮ้ย” ธนูลักษณ์โน้มตัวลงต่ำเพื่อจะฉุดให้เธอลุกขึ้นยืนแต่ก็เสียหลักไม่เป็นท่าเพราะกลับเป็นคนโดนฉุดซะเอง
“ธีหล่อจัง” ไลลาขึ้นไปนั่งบนตัวของธนูลักษณ์แล้วลูบไล้ไปทั่วใบหน้าคมเข้ม
“ไลลาคุณไหนคุณบอกว่าอยากอาบน้ำ”
“อยากอาบกับธี” หญิงสาวบอกด้วยนัยน์ตาหวานเชื่อม
“มะ ไม่ได้ครับ ไลลาต้องอาบคนเดียว”
“แต่ไลลาไม่ยอม” หญิงสาวปลดปล่อยอาวุธตาเดียวของเขาออกมาแล้วรูดเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย ผู้ชายเมื่อโดนโจมตีจุดยุทธศาสตร์ก็ยากนักที่จะหนีรอดไปได้
“ซี๊ดดด ไลลา คุณ คุณไม่ควรทำแบบนี้เราเพิ่งรู้จักกัน” ธนูลักษณ์พยายามเกลี้ยกล่อมเอาเหตุผลเข้ามาสู้เพราะตอนนี้เขากำลังจะสู้กับความปั่นป่วนไม่ได้
“ยิ่งต้องทำค่ะเพราะเราจะได้รู้จักกันทุกรูขุมขน ธีก็มีอารมณ์ไม่ต้องเขินหรอกน่า” ไลลาตอบแล้วกลับไปเล้าโลมเจ้าท่อนเนื้อให้มันตื่นตัวเต็มที
ธนูลักษณ์เห็นว่าคงไม่มีทางหนีได้จึงปล่อยเลยตามเลยใช่ว่าเขาไม่เคยมีเซ็กส์รายคืนแต่มันแค่ประหม่านิดๆ ที่ครั้งนี้ผู้หญิงเป็นคนเริ่มแถมเริ่มอย่างดุเดือดด้วยและพูดกันตรงๆ ไลลาใช้ปากเก่งมาก
พอจบจากโซฟาไลลาก็ลากไปที่เคาน์เตอร์ครัวต่อจากนั้นก็ห้องนอนทั้งคู่พลิกคว่ำพลิกหงายเปลี่ยนท่ากันอยู่หลายชั่วโมงจนผล็อยหลับไป
“ผมกลับก่อนนะ” ธนูลักษณ์มาสะดุ้งตื่นเอาตอนตีห้า ไลลานอนซุกอยู่บนอกเขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วไปใส่เสื้อผ้าก่อนจะออกมาก็เขียนโน้ตสั้นๆ วางไว้ที่หัวเตียง
โรงแรมแห่งนึง
“โอ๊ววว” ฝรั่งมาดเข้มคนนึงกำลังส่งเสียงร้องโอดโอยด้วยความทรมานแต่ไม่ใช่จากการบาดเจ็บใดๆ เสียงนั้นเกิดจากความหฤหรรษ์ หญิงสาวตาคมกำลังทำรักให้ด้วยปากและมันสุดยอดมาก
“ซี๊ดดด” เขานั่งอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำส่วนหญิงสาวสุดเซ็กซี่นั่งอยู่ในอ่างแล้วซุกหน้าลงมาที่หว่างขา เรียวแขนของเธอโอบอยู่ที่สะโพกบางครั้งก็ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังมันยิ่งสร้างความร้อนรุ่มให้เพิ่มมากขึ้นไปอีกเพราะโดนกระตุ้นทั้งหน้าทั้งหลัง
“อ๊า อีกนิดเดียว” มือใหญ่ที่รวบผมยาวเป็นลอนเผลอกระชากด้วยความลืมตัวเพราะอาวุธรักใกล้ถึงจุดระเบิดแต่น่าแปลกที่เธอกลับไม่ร้องออกมาสักแอะ
“โอ๊ววว เบบี้” ชายหนุ่มร่างโตปลดปล่อยกระสุนน้ำขาวข้นออกมาจนหมดแม็ก เรณุกาเม้มริมฝีปากบางๆ ของเธอไปที่หน้าท้องเป็นลอนแล้วลามขึ้นมาเรื่อยๆ
“อ๊า” เสียงครางแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอหยุดหยอกเย้ายอดอกสีน้ำตาลเข้ม
เรณุกาเอื้อมไปหยิบถุงยางมาสวมให้แกนกายอันเขื่อง จริงๆ แล้ว เธอคุมกำเนิดด้วยการฝังยาคุมซึ่งมั่นใจได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่ท้องโตหาพ่อไม่ได้แน่ๆ แต่ที่ยังต้องใช้ถุงยางทุกครั้งไม่เคยขาดเพราะมันป้องกันการติดเอดส์และโรคทางเพศสัมพันธ์ได้อีกหลายโรค
“save sex , save life” นั่นคือคติของเธอเซ็กส์ปลอดภัยชีวิตก็จะปลอดภัยเพราะการตั้งท้องกับผู้ชายรายคืนต้องไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ๆ
มาโครเข้ามาคุยกับเธอหลังธนูลักษณ์ออกไปสักพักแต่คราวนี้เธอไม่ได้เทสสินค้าก่อนเพราะดูจากท่าทางและสีหน้าสุดมาดมั่นของเขาแล้วเธอกล้าพนันด้วยรองเท้าส้นเข้มสิบแปดคู่เลยว่าเขาต้องเด็ดดวงแน่ๆ
“อืมมม มาโคร แรงอีก” เรณุการู้ว่าเขาไม่กล้าออกแรงกับเธอมากด้วยขนาดอาวุธอันมโหฬารและกำลังกายอันมหาศาลมาโครจึงทำมันแบบเก้ๆ กังๆ เพราะไม่รู้ว่าควรใส่แรงประมาณไหน
“คุณไม่เจ็บหรอ”
“ฉันชอบความรุนแรง” เมื่อได้ยินดังนั้นพายุแห่งความเร่าร้อนของมาโครก็เผาผลาญทุกอย่างจนมอดไหม้นั่นรวมถึงจุดเร้นลับอันบอบบางของเรณุกาด้วย
“แม่ง ไม่น่าเลยเอเน่เอ๊ย” หญิงสาวบ่นด้วยความอ่อนเพลียเมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเองเอาตอนหกโมงเช้า มาโครไม่ปล่อยให้เธองีบสักนาทีเขากระหน่ำทำรักแบบไม่หยุดพักเลยตั้งแต่ตีหนึ่งยันตีห้า ตอนนี้เธอกำลังยืนขาสั่นอยู่หน้าตู้เย็นเพราะทั้งหิวและเหนื่อยแล้วก็ง่วงด้วยแต่เธอไม่มีทางเลือกอะไรนอกจากหาอะไรลงท้องแล้วอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน
ตอนที่ 6
“หวัดดี” หนุ่มไอทีกับเลขาสาวมาพบกันโดยบังเอิญที่หน้าบริษัท
“ธี นายดูแย่มากเมื่อคืนได้นอนบ้างไหม” เรณุกาเห็นสีหน้าและดวงตาแดงก่ำของเพื่อนร่วมงานก็อดเป็นห่วงนิดๆ ไม่ได้
“นิดหน่อย แอนนี่เถอะดูไม่ดีเหมือนกันเมื่อคืนสาวๆ กลับกันกี่โมง”
“กลับหลังธีไม่นานหรอก”
“หรอ ก็ไม่ดึกนะทำไมตาโรยๆ เหมือนไม่ได้นอนเลย”
“ก็ไม่ได้นอนนะสิ ขอบคุณ” เขาเปิดประตูให้เธอจึงบอกขอบคุณแล้วก็พูดต่อ
“เราออกไปกะผู้ชายนะสิ” เธอตอบแล้วอมยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ระ หรอ” ธนูลักษณ์ไม่รู้มาก่อนว่าเรณุการักเซ็กส์แบบข้ามคืนก็อย่างที่บอกเขาเพิ่งมาสนิทกับเธอได้ไม่นานแล้วผู้ชายก็ไม่ได้ช่างถามซอกแซกอะไรด้วย ส่วนมากเรื่องที่คุยกันก็เรื่องงาน เศรษฐกิจ ข่าวรอบโลกซะมากกว่า
“ไม่ต้องมาทำหน้าบ๊องแบ๊วนายก็จัดมาหนักไม่ต่างกันหรอกตาแดงก่ำขนาดนั้น” เรณุกาชี้หน้าเพื่อน
“ก็เราเป็นผู้ชาย” ธนูลักษณ์บอกแล้วเกาหู เวลาเขาเขินหรือรู้สึกว่าตัวเองแสดงความเปิ่นออกไปมือมันจะพาไปเกาที่หูโดยอัตโนมัติทุกที
“แล้วผู้หญิงรักสนุกบ้างไม่ได้หรอ”
“ได้แต่มันไม่ปลอดภัยรึเปล่า”
“ก็ระวังตัวอยู่ ไปงีบก่อนสักชั่วโมงม่ะหน้าดูไม่พร้อมทำงานเลย”
“ไม่อ่ะ ได้กาแฟสักแก้วก็โอเคแล้ว ไปนะ” เมื่อธนูลักษณ์เดินไปเธอก็เปิดคอมพิวเตอร์แล้วทวนตารางนัดของบอสอีกครั้ง ครึ่งชั่วโมงต่อมาผู้บริหารสุดหล่อก็เดินนวยนาดเข้ามาพร้อมโปรยยิ้มให้พนักงานสาวๆ จนทั่ว
“เมื่อไหร่จะเลิกยิ้มเรี่ยราด ทำตัวไม่สมกับเป็นหัวหน้าคนเลย”
“หน้าตูมเป็นดอกบัวไม่ได้น้ำเชียว ผมก็ยิ้มแบบนี้มาตั้งนานแล้วมาอารมณ์เสียอะไรวันนี้วันแดงเดือดหรอ” ภาคินัยนั่งหมิ่นๆ บนโต๊ะทำงานของเลขาแล้วคุยกับเธอดูจากหน้าแล้วเมื่อคืนนอนน้อยแน่ๆ และเช้านี้ยังไม่มีคาเฟอีนเข้าเส้นเลือดชัวร์ๆ
“ยิ้มหน่อยสิจ๊ะสุดสวย” หนุ่มใหญ่เชยคางเลขาสาวด้วยความเอ็นดู
“บอส” เรณุกาถลึงตาใส่คนตัวโต ถึงเธอกับเขาจะฟาดฟันกันบนเตียงจนนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ไม่เคยมาทำอะไรประเจิดประเจ้อให้ใครเห็น
“ผมชอบจัง นานๆ คุณจะเป็นมนุษย์กับเขาสักที”
“ยังไงคะบอส” เรณุกากอดอกแล้วทำหน้าตูมกว่าเดิม
“ก็วันนี้คุณดูไม่เพอร์เฟคหน้าก็ไม่ได้จัดเต็ม แต่งอ่อนๆ แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะผมหมายถึงแต่งแบบไหนคุณก็สวยแต่แบบนี้มันก็แปลกตาดี”
“และที่สำคัญคุณโมโหผมซะด้วย ปกติไม่ว่าผมพูดอะไรทำอะไรคุณก็ทำหน้านิ่งไม่ใส่ใจเหมือนว่าทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีผลต่ออารมณ์ของคุณสักนิด”
“เดี๋ยวผมให้ลุงแกซื้อกาแฟมาให้นะคุณจะได้อารมณ์ดี” ภาคินัยหมายถึงคนรถประจำบริษัท
เรณุกามองตามหลังผู้บริหารของเธอไปด้วยความแปลกใจ ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็อย่างที่บอกคือไม่มีความรักเข้ามาข้องเกี่ยวมันมีแต่ความใคร่และตัณหาล้วนๆ แต่ที่เขาพูดเมื่อกี้มันแปลเป็นอะไรอื่นไม่ได้เลยนอกจากความใส่ใจเล็กๆ ที่ผู้ชายคนนั้นมีให้ขนาดเธอเป็นคนใจแข็งเด็ดเดี่ยวยังอดหวั่นไหวไม่ได้
“มิน่าล่ะ คุณรินถึงรักผู้ชายคนนี้เหลือเกิน” เรณุการำพึงเบาๆ
“ขอบคุณจ้ะลุง” ครึ่งชั่วโมงต่อมากาแฟเย็นเพิ่มวิปครีมก็มาวางที่โต๊ะ เมื่อได้เครื่องดื่มโปรดเธอก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
“ก๊อกๆ” เรณุกาเคาะประตูห้องเจ้านาย
“เข้ามา” ภาคินัยบอกอนุญาต
“อ้าว มีอะไรแอนนี่ ผมว่างทั้งเช้านะวันนี้หรือผมลืมนัดใคร”
“เปล่าค่ะ บอสไม่ได้ลืมนัดใคร ฉันจะมาขอบคุณ”
“ขอบคุณเรื่องอะไร”
“กาแฟค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เรณุกาเอ่ยแล้วเงียบไป
“ทำยังกับผมเพิ่งเคยซื้อให้คุณแก้วแรก มีอะไรแอนนี่คุณบอกผมได้นะถ้าอะไรที่ผมช่วยได้ผมรับรองว่าจะทำจนสุดความสามารถ”
“ขอบคุณนะคะที่ใส่ใจฉัน”
“คุณเป็นพนักงานที่เก่งที่สุดของผมนะแอนนี่และผมก็ไม่ปฏิเสธด้วยว่าผมก็เป็นห่วงเป็นใยคุณพอสมควร ผมรู้ว่าคุณสร้างกำแพงเพื่อป้องกันตัวเองผมก็เลยไม่อยากแสดงความรู้สึกออกไปให้คุณอึดอัด”
“แต่เชื่อเถอะว่าผู้ชายเลวๆ แบบผมก็ห่วงใยเป็นอ่อนไหวเป็น จริงๆ ผมอาจจะอ่อนไหวกว่าคุณด้วยซ้ำ”
“ฮือๆๆ” เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอยืนร้องไห้ต่อหน้าคนนอกครอบครัว ความอ่อนแอแบบนี้เธอไม่เคยแสดงออกมาอีกเลยหลังจากถอนหมั้น
“แอนนี่ คุณเป็นอะไร” ภาคินัยรีบเดินไปล็อกประตูห้องแล้วประคองเธอมานั่งที่โซฟา
“ฉัน ฉัน” เธอหาคำมาอธิบายไม่ถูกจึงทำได้แค่ซบหน้าไปบนอกของเขาแล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา
“ร้องเยอะๆ คุณไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาแอนนี่” ภาคินัยลูบหัวหญิงสาวที่เคยมาดมั่นและมีสีหน้าเย่อหยิ่งแทบจะตลอดเวลา
“ขอโทษค่ะบอส” เรณุการ้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่สิบนาทีเต็ม เธอไม่อยากคิดเลยว่าหน้าตาตัวเองตอนนี้จะยับเยินขนาดไหน
“ฉันดูแย่มากเลยใช่ไหม” เธอจับไปที่แก้มที่ปากของตัวเอง
“ไม่หรอก มนุษย์ทุกคนก็ต้องมีมุมแย่ๆ มุมอ่อนแอแบบนี้แหละ” ภาคินัยหยิบทิชชู่มาเช็ดหน้าให้
“เป็นอะไรบอกผมได้ไหม” ชายหนุ่มพูดพร้อมจับมือของเธอมาบีบเบาๆ
“ฉันเป็นแบบที่บอสว่าคือพยายามเข้มแข็งกลบเกลื่อนแต่จริงๆ แล้ว ฉันก็แค่ผู้หญิงอ่อนแอขี้แพ้คนนึง ที่ฉันมาอยู่ประเทศไทยก็เพราะโดนคู่หมั้นนอกใจอีกแค่สามเดือนก็จะถึงวันแต่งงานแต่เขากลับไปนอนกับยัยป้าแว่นที่ทำงานด้วยกัน”
“ผู้ชายคนนั้นโง่มากที่ปล่อยให้ผู้หญิงดีๆ แบบคุณหลุดมือ” ภาคินัยเอ่ยแล้วเหน็บผมของเธอให้มันพ้นใบหน้า เรณุกามีผมสีน้ำตาลเข้มและมันเป็นลอนอ่อนๆ ตามธรรมชาติ เขามักจะชื่นชมผมของเธอเสมอแต่ไม่เคยจับหรือลูบด้วยความตั้งใจสักครั้งเพราะมันจะเป็นสัมผัสที่ดูอ่อนโยนเกินไปเขารู้ว่าเรณุกาไม่โอเคกับความรู้สึกแบบนั้นแต่วันนี้เธอกลับนิ่งไม่ขัดขืนเลยสักนิด ดวงตาที่เคยฉายแววกล้าแกร่งกลับหม่นเศร้าลงจนน่าตกใจมันทำให้คนใจอ่อนแบบเขาหวั่นไหวมากขึ้นไปอีกถึงเขาจะเลวแต่ก็อยากปกป้องคนรักอยากให้เธออุ่นใจยามที่มีเขาอยู่เคียงข้าง
“บอสคะ ขอแอนนี่จูบบอสได้ไหม” ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมีเพียงความใคร่และตัณหาให้ผู้ชายคนนี้แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกอยากร่วมรักกับเขา
ริมฝีปากรูปกระจับของเรณุกาประทับลงไปเบาๆ ที่คมปากหยักของภาคินัย เธอซึมซับรสจูบแสนอ่อนโยนของเขาด้วยความประหลาดใจเพราะไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะนุ่มนวลได้ขนาดนี้
“แอนนี่” ภาคินัยร้องขึ้นมาเบาๆ เมื่อเธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาทีละเม็ด
“วันนี้บอสอ่อนโยนกับแอนนี่ได้ไหมคะ ถ้าแอนนี่ไม่ได้เป็นแบบเมื่อก่อนบอสจะยังสนใจแอนนี่อยู่ไหม” เรณุกาถามแล้วทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง เธอแสร้งทำเป็นผู้คุมเกมไม่แยแสใครเพราะจริงๆ แล้วกลัวโดนหมางเมิน
“ผมเป็นให้คุณได้ทุกอย่างแอนนี่” ภาคินัยตอบแล้วจูบหน้าผากของเธอ
“วันนี้ผมถอดให้นะ” หนุ่มใหญ่ปลดกระดุมเสื้อสีขาวซีทรูออกทีละเม็ด หน้าอกคู่งามใต้บราเซียสีดำช่างแสนเย้ายวน เขาชื่นชมมันด้วยลิ้นและปากอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมสุดหัวใจ
“บอสขา” เรณุกากดศีรษะเจ้านายให้แนบสนิทไปกับเต้านม
“ผมไม่เคยบอกคุณเลยใช่ไหมแอนนี่ว่าคุณสวยมากคุณได้ยินไหมแอนนี่คุณสวยมาก คุณเก่ง คุณฉลาด” ภาคินัยกระซิบที่ข้างหูของเลขาคู่ใจแล้วไซ้ไปทั่วตั้งแต่หน้าอก หัวไหล่ ซอกคอและใบหู
“ขอบคุณค่ะบอส”
“นอนลงนะ” ภาคินัยโน้มกายเรณุกาลงช้าๆ แล้วถอดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้นเมื่อเธอเปลือยเปล่าแล้วเขาก็หันมาจัดการตัวเอง
“คุณสวยมากแอนนี่” ชายหนุ่มประทับจูบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าต่อจากนั้นก็พลิกให้เธอนอนคว่ำแล้วเขาก็ทำแบบเดิมอีกรอบคือจุมพิตไปทั่วเรือนร่างเพรียวบางของเธอ
“บอสคะ” เรณุกาคว้าแขนของเขาแล้วไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงริมฝีปากอุ่น เธอพลิกตัวกลับมาช้าๆ แล้วจับไปที่แกนกายอันโต สายตาคมแต่หวานฉ่ำอ้อนวอนโดยไม่ได้เอ่ยคำออกไป ภาคินัยแทรกตัวเข้าไปที่หว่างขาของเธอแต่ยังไม่ให้สิ่งที่ต้องการ
“บอส อืมม” ภาคินัยห่อลิ้นแล้วแยงเข้าไปในช่องรักฉ่ำน้ำ เธอพยายามดิ้นหนีเขาจึงต้องล็อกต้นขาเอาไว้
“โอ๊ววว แฮ่กๆๆ”
“ยังอยากได้มันอยู่ไหม” ภาคินัยถามแล้วเหล่ตาไปที่แกนกายอันโตของตัวเอง เรณุกาไม่ตอบแต่จับมันมาจ่อไว้ที่ปากทางรัก
ภาคินัยขยับเอวช้าๆ เป็นครั้งแรกที่เขากับเธอสบตากันระหว่างทำกิจกรรมและเขาพูดได้เต็มปากว่าครั้งนี้มันไม่ใช่การร่วมเพศแต่มันคือการร่วมรักและมันเป็นบทรักที่แสนนุ่มนวล
“บะ บอสขา” เรณุกาลูบไล้มือไปตามแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่ม เธอไม่แน่ใจนักว่าบทรักอ่อนโยนมันเป็นยังไงแต่ตอนนี้เธอจำได้และเธอกำลังจะเสร็จสมจากจังหวะช้าเนิบสุดละมุน
“จุ๊บ” ภาคินัยจูบหน้าผากเธอเบาๆ หลังจากส่งเลขาถึงฝั่งฝันเรียบร้อย
“ขอโทษนะคะที่มาทำอะไรแบบนี้ในห้องทำงานของบอส”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมใส่ให้นะ” ที่ผ่านมาเธอกับเขาเปลื้องผ้าและใส่ผ้าด้วยตัวเองไม่เคยมีใครถอดหรือใส่ให้ใครแต่วันนี้เขาอยากดูแลเธอทำให้เธออุ่นใจว่ายังมีผู้ชายอีกคนห่วงใยเธออยู่
“ขอบคุณค่ะบอส” เรณุกาบอกแบบเขินๆ
“กลับบ้านไปนอนซะตาคุณจะปิดอยู่แล้วเดี๋ยวผมให้ลุงไปส่ง นี่ถือเป็นคำสั่ง”
“ค่ะบอส” เธอหอมแก้มเขาแล้วเดินออกไป
อุดหนุนฉบับเต็มจิ้มชื่อเรื่อง เรณุการ้อนรัก
บนแท็กซี่
“ร้อนจังเลยค่ะธี” เสียงหวานออเซาะขึ้นมา
“เดี๋ยวผมเร่งแอร์ให้นะครับ” พี่โชเฟอร์บอกด้วยความหวังดี
“ไม่ต้อง” ไลลาบอกเสียงเขียวแล้วจ้องตาเขม็ง คนขับจึงไม่กล้าเปิดปากพูดอะไรอีกเลย
“ไลลาขอปลดกระดุมหน่อยนะคะ” เมื่อจบประโยคกระดุมเสื้อก็ถูกปลดออกสองเม็ดพอให้เห็นเนินอกขาวๆ
“ธีคะ ไลลามึนหัวมากเลยค่ะ” ในเมื่อแผนปลดกระดุมไม่ได้รับความสนใจเธอจึงต้องใช้แผนต่อมา
“เอ่อ แวะโรงพยาบาลไหมครับ” ธนูลักษณ์ไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะเขาก็ไม่ใช่หมอหรือเภสัชกร
“ไม่เป็นไรค่ะของีบสักนิดก็พอ”
“ครับ เชิญเลย”
“รถมันโยกขอไลลาอิงหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวแสร้งตีหน้าเศร้าพร้อมทำตาปริบๆ
“ก็ได้ครับ” ธนูลักษณ์ตอบตกลงแบบไม่ค่อยแน่ใจนัก คนไม่รู้จักกันจะกล้าใกล้ชิดกันขนาดนี้เลยหรือแต่คำตอบก็คือเธอกล้าจริงๆ ด้วย ไลลาอิงศีรษะของเธอมาที่แขนของผมแล้วหลับตาพริ้ม
“ไลลาครับ ไลลาถึงแล้ว”
“ไม่เป็นไรครับผมจ่ายให้” ธนูลักษณ์ไม่รับเงินที่เธอส่งมา
“จะรังเกียจไหมคะถ้าจะให้ธีไปส่งที่หน้าห้อง ไลลากลัวจะเป็นลมคาลิฟท์จังเลยค่ะเพราะแค่ยืนยังเวียนหัวเลย” อีกครั้งที่สาวหน้าใสแกล้งตีหน้าอิดโรยแล้วผู้ชายทึ่มๆ แบบธนูลักษณ์จะตามทันได้ยังไง
“ธีคะ ไลลาต้องแย่แน่ๆ เลย” เมื่อมาถึงห้องแม่สาวจอมมารยาก็แกล้งทำขาอ่อนพาลจะล้มเอาซะให้ได้ สุดท้ายธนูลักษณ์จึงต้องเป็นคนเปิดประตูห้องแล้วประคองเธอเข้าไป
“ขอบคุณนะคะธี” ธนูลักษณ์เห็นสีหน้าเธอแย่มากจึงเดินไปหยิบน้ำดื่มมาให้
“ว๊าย” ไลลาแกล้งทำน้ำหกใส่ตัวเอง เสื้อสีขาวบางๆ จึงเห็นทะลุไปถึงไหนต่อไหนแต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่รู้สึกอะไรเลย
“ธีคะ ไลลาอยากอาบน้ำช่วยพยุงไปหน่อยได้ไหมคะ” ในเมื่อให้ท่าสารพัดก็ไม่ยอมเล่นด้วยต้องใช้แผนสุดท้ายแล้ว
“ได้ครับ เฮ้ย” ธนูลักษณ์โน้มตัวลงต่ำเพื่อจะฉุดให้เธอลุกขึ้นยืนแต่ก็เสียหลักไม่เป็นท่าเพราะกลับเป็นคนโดนฉุดซะเอง
“ธีหล่อจัง” ไลลาขึ้นไปนั่งบนตัวของธนูลักษณ์แล้วลูบไล้ไปทั่วใบหน้าคมเข้ม
“ไลลาคุณไหนคุณบอกว่าอยากอาบน้ำ”
“อยากอาบกับธี” หญิงสาวบอกด้วยนัยน์ตาหวานเชื่อม
“มะ ไม่ได้ครับ ไลลาต้องอาบคนเดียว”
“แต่ไลลาไม่ยอม” หญิงสาวปลดปล่อยอาวุธตาเดียวของเขาออกมาแล้วรูดเข้าปากอย่างเอาเป็นเอาตาย ผู้ชายเมื่อโดนโจมตีจุดยุทธศาสตร์ก็ยากนักที่จะหนีรอดไปได้
“ซี๊ดดด ไลลา คุณ คุณไม่ควรทำแบบนี้เราเพิ่งรู้จักกัน” ธนูลักษณ์พยายามเกลี้ยกล่อมเอาเหตุผลเข้ามาสู้เพราะตอนนี้เขากำลังจะสู้กับความปั่นป่วนไม่ได้
“ยิ่งต้องทำค่ะเพราะเราจะได้รู้จักกันทุกรูขุมขน ธีก็มีอารมณ์ไม่ต้องเขินหรอกน่า” ไลลาตอบแล้วกลับไปเล้าโลมเจ้าท่อนเนื้อให้มันตื่นตัวเต็มที
ธนูลักษณ์เห็นว่าคงไม่มีทางหนีได้จึงปล่อยเลยตามเลยใช่ว่าเขาไม่เคยมีเซ็กส์รายคืนแต่มันแค่ประหม่านิดๆ ที่ครั้งนี้ผู้หญิงเป็นคนเริ่มแถมเริ่มอย่างดุเดือดด้วยและพูดกันตรงๆ ไลลาใช้ปากเก่งมาก
พอจบจากโซฟาไลลาก็ลากไปที่เคาน์เตอร์ครัวต่อจากนั้นก็ห้องนอนทั้งคู่พลิกคว่ำพลิกหงายเปลี่ยนท่ากันอยู่หลายชั่วโมงจนผล็อยหลับไป
“ผมกลับก่อนนะ” ธนูลักษณ์มาสะดุ้งตื่นเอาตอนตีห้า ไลลานอนซุกอยู่บนอกเขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วไปใส่เสื้อผ้าก่อนจะออกมาก็เขียนโน้ตสั้นๆ วางไว้ที่หัวเตียง
โรงแรมแห่งนึง
“โอ๊ววว” ฝรั่งมาดเข้มคนนึงกำลังส่งเสียงร้องโอดโอยด้วยความทรมานแต่ไม่ใช่จากการบาดเจ็บใดๆ เสียงนั้นเกิดจากความหฤหรรษ์ หญิงสาวตาคมกำลังทำรักให้ด้วยปากและมันสุดยอดมาก
“ซี๊ดดด” เขานั่งอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำส่วนหญิงสาวสุดเซ็กซี่นั่งอยู่ในอ่างแล้วซุกหน้าลงมาที่หว่างขา เรียวแขนของเธอโอบอยู่ที่สะโพกบางครั้งก็ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังมันยิ่งสร้างความร้อนรุ่มให้เพิ่มมากขึ้นไปอีกเพราะโดนกระตุ้นทั้งหน้าทั้งหลัง
“อ๊า อีกนิดเดียว” มือใหญ่ที่รวบผมยาวเป็นลอนเผลอกระชากด้วยความลืมตัวเพราะอาวุธรักใกล้ถึงจุดระเบิดแต่น่าแปลกที่เธอกลับไม่ร้องออกมาสักแอะ
“โอ๊ววว เบบี้” ชายหนุ่มร่างโตปลดปล่อยกระสุนน้ำขาวข้นออกมาจนหมดแม็ก เรณุกาเม้มริมฝีปากบางๆ ของเธอไปที่หน้าท้องเป็นลอนแล้วลามขึ้นมาเรื่อยๆ
“อ๊า” เสียงครางแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอหยุดหยอกเย้ายอดอกสีน้ำตาลเข้ม
เรณุกาเอื้อมไปหยิบถุงยางมาสวมให้แกนกายอันเขื่อง จริงๆ แล้ว เธอคุมกำเนิดด้วยการฝังยาคุมซึ่งมั่นใจได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะไม่ท้องโตหาพ่อไม่ได้แน่ๆ แต่ที่ยังต้องใช้ถุงยางทุกครั้งไม่เคยขาดเพราะมันป้องกันการติดเอดส์และโรคทางเพศสัมพันธ์ได้อีกหลายโรค
“save sex , save life” นั่นคือคติของเธอเซ็กส์ปลอดภัยชีวิตก็จะปลอดภัยเพราะการตั้งท้องกับผู้ชายรายคืนต้องไม่ใช่สิ่งที่ดีแน่ๆ
มาโครเข้ามาคุยกับเธอหลังธนูลักษณ์ออกไปสักพักแต่คราวนี้เธอไม่ได้เทสสินค้าก่อนเพราะดูจากท่าทางและสีหน้าสุดมาดมั่นของเขาแล้วเธอกล้าพนันด้วยรองเท้าส้นเข้มสิบแปดคู่เลยว่าเขาต้องเด็ดดวงแน่ๆ
“อืมมม มาโคร แรงอีก” เรณุการู้ว่าเขาไม่กล้าออกแรงกับเธอมากด้วยขนาดอาวุธอันมโหฬารและกำลังกายอันมหาศาลมาโครจึงทำมันแบบเก้ๆ กังๆ เพราะไม่รู้ว่าควรใส่แรงประมาณไหน
“คุณไม่เจ็บหรอ”
“ฉันชอบความรุนแรง” เมื่อได้ยินดังนั้นพายุแห่งความเร่าร้อนของมาโครก็เผาผลาญทุกอย่างจนมอดไหม้นั่นรวมถึงจุดเร้นลับอันบอบบางของเรณุกาด้วย
“แม่ง ไม่น่าเลยเอเน่เอ๊ย” หญิงสาวบ่นด้วยความอ่อนเพลียเมื่อกลับมาถึงคอนโดตัวเองเอาตอนหกโมงเช้า มาโครไม่ปล่อยให้เธองีบสักนาทีเขากระหน่ำทำรักแบบไม่หยุดพักเลยตั้งแต่ตีหนึ่งยันตีห้า ตอนนี้เธอกำลังยืนขาสั่นอยู่หน้าตู้เย็นเพราะทั้งหิวและเหนื่อยแล้วก็ง่วงด้วยแต่เธอไม่มีทางเลือกอะไรนอกจากหาอะไรลงท้องแล้วอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน
ตอนที่ 6
“หวัดดี” หนุ่มไอทีกับเลขาสาวมาพบกันโดยบังเอิญที่หน้าบริษัท
“ธี นายดูแย่มากเมื่อคืนได้นอนบ้างไหม” เรณุกาเห็นสีหน้าและดวงตาแดงก่ำของเพื่อนร่วมงานก็อดเป็นห่วงนิดๆ ไม่ได้
“นิดหน่อย แอนนี่เถอะดูไม่ดีเหมือนกันเมื่อคืนสาวๆ กลับกันกี่โมง”
“กลับหลังธีไม่นานหรอก”
“หรอ ก็ไม่ดึกนะทำไมตาโรยๆ เหมือนไม่ได้นอนเลย”
“ก็ไม่ได้นอนนะสิ ขอบคุณ” เขาเปิดประตูให้เธอจึงบอกขอบคุณแล้วก็พูดต่อ
“เราออกไปกะผู้ชายนะสิ” เธอตอบแล้วอมยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ระ หรอ” ธนูลักษณ์ไม่รู้มาก่อนว่าเรณุการักเซ็กส์แบบข้ามคืนก็อย่างที่บอกเขาเพิ่งมาสนิทกับเธอได้ไม่นานแล้วผู้ชายก็ไม่ได้ช่างถามซอกแซกอะไรด้วย ส่วนมากเรื่องที่คุยกันก็เรื่องงาน เศรษฐกิจ ข่าวรอบโลกซะมากกว่า
“ไม่ต้องมาทำหน้าบ๊องแบ๊วนายก็จัดมาหนักไม่ต่างกันหรอกตาแดงก่ำขนาดนั้น” เรณุกาชี้หน้าเพื่อน
“ก็เราเป็นผู้ชาย” ธนูลักษณ์บอกแล้วเกาหู เวลาเขาเขินหรือรู้สึกว่าตัวเองแสดงความเปิ่นออกไปมือมันจะพาไปเกาที่หูโดยอัตโนมัติทุกที
“แล้วผู้หญิงรักสนุกบ้างไม่ได้หรอ”
“ได้แต่มันไม่ปลอดภัยรึเปล่า”
“ก็ระวังตัวอยู่ ไปงีบก่อนสักชั่วโมงม่ะหน้าดูไม่พร้อมทำงานเลย”
“ไม่อ่ะ ได้กาแฟสักแก้วก็โอเคแล้ว ไปนะ” เมื่อธนูลักษณ์เดินไปเธอก็เปิดคอมพิวเตอร์แล้วทวนตารางนัดของบอสอีกครั้ง ครึ่งชั่วโมงต่อมาผู้บริหารสุดหล่อก็เดินนวยนาดเข้ามาพร้อมโปรยยิ้มให้พนักงานสาวๆ จนทั่ว
“เมื่อไหร่จะเลิกยิ้มเรี่ยราด ทำตัวไม่สมกับเป็นหัวหน้าคนเลย”
“หน้าตูมเป็นดอกบัวไม่ได้น้ำเชียว ผมก็ยิ้มแบบนี้มาตั้งนานแล้วมาอารมณ์เสียอะไรวันนี้วันแดงเดือดหรอ” ภาคินัยนั่งหมิ่นๆ บนโต๊ะทำงานของเลขาแล้วคุยกับเธอดูจากหน้าแล้วเมื่อคืนนอนน้อยแน่ๆ และเช้านี้ยังไม่มีคาเฟอีนเข้าเส้นเลือดชัวร์ๆ
“ยิ้มหน่อยสิจ๊ะสุดสวย” หนุ่มใหญ่เชยคางเลขาสาวด้วยความเอ็นดู
“บอส” เรณุกาถลึงตาใส่คนตัวโต ถึงเธอกับเขาจะฟาดฟันกันบนเตียงจนนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ไม่เคยมาทำอะไรประเจิดประเจ้อให้ใครเห็น
“ผมชอบจัง นานๆ คุณจะเป็นมนุษย์กับเขาสักที”
“ยังไงคะบอส” เรณุกากอดอกแล้วทำหน้าตูมกว่าเดิม
“ก็วันนี้คุณดูไม่เพอร์เฟคหน้าก็ไม่ได้จัดเต็ม แต่งอ่อนๆ แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะผมหมายถึงแต่งแบบไหนคุณก็สวยแต่แบบนี้มันก็แปลกตาดี”
“และที่สำคัญคุณโมโหผมซะด้วย ปกติไม่ว่าผมพูดอะไรทำอะไรคุณก็ทำหน้านิ่งไม่ใส่ใจเหมือนว่าทุกอย่างบนโลกนี้ไม่มีผลต่ออารมณ์ของคุณสักนิด”
“เดี๋ยวผมให้ลุงแกซื้อกาแฟมาให้นะคุณจะได้อารมณ์ดี” ภาคินัยหมายถึงคนรถประจำบริษัท
เรณุกามองตามหลังผู้บริหารของเธอไปด้วยความแปลกใจ ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็อย่างที่บอกคือไม่มีความรักเข้ามาข้องเกี่ยวมันมีแต่ความใคร่และตัณหาล้วนๆ แต่ที่เขาพูดเมื่อกี้มันแปลเป็นอะไรอื่นไม่ได้เลยนอกจากความใส่ใจเล็กๆ ที่ผู้ชายคนนั้นมีให้ขนาดเธอเป็นคนใจแข็งเด็ดเดี่ยวยังอดหวั่นไหวไม่ได้
“มิน่าล่ะ คุณรินถึงรักผู้ชายคนนี้เหลือเกิน” เรณุการำพึงเบาๆ
“ขอบคุณจ้ะลุง” ครึ่งชั่วโมงต่อมากาแฟเย็นเพิ่มวิปครีมก็มาวางที่โต๊ะ เมื่อได้เครื่องดื่มโปรดเธอก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที
“ก๊อกๆ” เรณุกาเคาะประตูห้องเจ้านาย
“เข้ามา” ภาคินัยบอกอนุญาต
“อ้าว มีอะไรแอนนี่ ผมว่างทั้งเช้านะวันนี้หรือผมลืมนัดใคร”
“เปล่าค่ะ บอสไม่ได้ลืมนัดใคร ฉันจะมาขอบคุณ”
“ขอบคุณเรื่องอะไร”
“กาแฟค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เรณุกาเอ่ยแล้วเงียบไป
“ทำยังกับผมเพิ่งเคยซื้อให้คุณแก้วแรก มีอะไรแอนนี่คุณบอกผมได้นะถ้าอะไรที่ผมช่วยได้ผมรับรองว่าจะทำจนสุดความสามารถ”
“ขอบคุณนะคะที่ใส่ใจฉัน”
“คุณเป็นพนักงานที่เก่งที่สุดของผมนะแอนนี่และผมก็ไม่ปฏิเสธด้วยว่าผมก็เป็นห่วงเป็นใยคุณพอสมควร ผมรู้ว่าคุณสร้างกำแพงเพื่อป้องกันตัวเองผมก็เลยไม่อยากแสดงความรู้สึกออกไปให้คุณอึดอัด”
“แต่เชื่อเถอะว่าผู้ชายเลวๆ แบบผมก็ห่วงใยเป็นอ่อนไหวเป็น จริงๆ ผมอาจจะอ่อนไหวกว่าคุณด้วยซ้ำ”
“ฮือๆๆ” เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอยืนร้องไห้ต่อหน้าคนนอกครอบครัว ความอ่อนแอแบบนี้เธอไม่เคยแสดงออกมาอีกเลยหลังจากถอนหมั้น
“แอนนี่ คุณเป็นอะไร” ภาคินัยรีบเดินไปล็อกประตูห้องแล้วประคองเธอมานั่งที่โซฟา
“ฉัน ฉัน” เธอหาคำมาอธิบายไม่ถูกจึงทำได้แค่ซบหน้าไปบนอกของเขาแล้วปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา
“ร้องเยอะๆ คุณไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาแอนนี่” ภาคินัยลูบหัวหญิงสาวที่เคยมาดมั่นและมีสีหน้าเย่อหยิ่งแทบจะตลอดเวลา
“ขอโทษค่ะบอส” เรณุการ้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่สิบนาทีเต็ม เธอไม่อยากคิดเลยว่าหน้าตาตัวเองตอนนี้จะยับเยินขนาดไหน
“ฉันดูแย่มากเลยใช่ไหม” เธอจับไปที่แก้มที่ปากของตัวเอง
“ไม่หรอก มนุษย์ทุกคนก็ต้องมีมุมแย่ๆ มุมอ่อนแอแบบนี้แหละ” ภาคินัยหยิบทิชชู่มาเช็ดหน้าให้
“เป็นอะไรบอกผมได้ไหม” ชายหนุ่มพูดพร้อมจับมือของเธอมาบีบเบาๆ
“ฉันเป็นแบบที่บอสว่าคือพยายามเข้มแข็งกลบเกลื่อนแต่จริงๆ แล้ว ฉันก็แค่ผู้หญิงอ่อนแอขี้แพ้คนนึง ที่ฉันมาอยู่ประเทศไทยก็เพราะโดนคู่หมั้นนอกใจอีกแค่สามเดือนก็จะถึงวันแต่งงานแต่เขากลับไปนอนกับยัยป้าแว่นที่ทำงานด้วยกัน”
“ผู้ชายคนนั้นโง่มากที่ปล่อยให้ผู้หญิงดีๆ แบบคุณหลุดมือ” ภาคินัยเอ่ยแล้วเหน็บผมของเธอให้มันพ้นใบหน้า เรณุกามีผมสีน้ำตาลเข้มและมันเป็นลอนอ่อนๆ ตามธรรมชาติ เขามักจะชื่นชมผมของเธอเสมอแต่ไม่เคยจับหรือลูบด้วยความตั้งใจสักครั้งเพราะมันจะเป็นสัมผัสที่ดูอ่อนโยนเกินไปเขารู้ว่าเรณุกาไม่โอเคกับความรู้สึกแบบนั้นแต่วันนี้เธอกลับนิ่งไม่ขัดขืนเลยสักนิด ดวงตาที่เคยฉายแววกล้าแกร่งกลับหม่นเศร้าลงจนน่าตกใจมันทำให้คนใจอ่อนแบบเขาหวั่นไหวมากขึ้นไปอีกถึงเขาจะเลวแต่ก็อยากปกป้องคนรักอยากให้เธออุ่นใจยามที่มีเขาอยู่เคียงข้าง
“บอสคะ ขอแอนนี่จูบบอสได้ไหม” ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอมีเพียงความใคร่และตัณหาให้ผู้ชายคนนี้แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกอยากร่วมรักกับเขา
ริมฝีปากรูปกระจับของเรณุกาประทับลงไปเบาๆ ที่คมปากหยักของภาคินัย เธอซึมซับรสจูบแสนอ่อนโยนของเขาด้วยความประหลาดใจเพราะไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะนุ่มนวลได้ขนาดนี้
“แอนนี่” ภาคินัยร้องขึ้นมาเบาๆ เมื่อเธอเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาทีละเม็ด
“วันนี้บอสอ่อนโยนกับแอนนี่ได้ไหมคะ ถ้าแอนนี่ไม่ได้เป็นแบบเมื่อก่อนบอสจะยังสนใจแอนนี่อยู่ไหม” เรณุกาถามแล้วทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง เธอแสร้งทำเป็นผู้คุมเกมไม่แยแสใครเพราะจริงๆ แล้วกลัวโดนหมางเมิน
“ผมเป็นให้คุณได้ทุกอย่างแอนนี่” ภาคินัยตอบแล้วจูบหน้าผากของเธอ
“วันนี้ผมถอดให้นะ” หนุ่มใหญ่ปลดกระดุมเสื้อสีขาวซีทรูออกทีละเม็ด หน้าอกคู่งามใต้บราเซียสีดำช่างแสนเย้ายวน เขาชื่นชมมันด้วยลิ้นและปากอย่างแผ่วเบาและทะนุถนอมสุดหัวใจ
“บอสขา” เรณุกากดศีรษะเจ้านายให้แนบสนิทไปกับเต้านม
“ผมไม่เคยบอกคุณเลยใช่ไหมแอนนี่ว่าคุณสวยมากคุณได้ยินไหมแอนนี่คุณสวยมาก คุณเก่ง คุณฉลาด” ภาคินัยกระซิบที่ข้างหูของเลขาคู่ใจแล้วไซ้ไปทั่วตั้งแต่หน้าอก หัวไหล่ ซอกคอและใบหู
“ขอบคุณค่ะบอส”
“นอนลงนะ” ภาคินัยโน้มกายเรณุกาลงช้าๆ แล้วถอดเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้นเมื่อเธอเปลือยเปล่าแล้วเขาก็หันมาจัดการตัวเอง
“คุณสวยมากแอนนี่” ชายหนุ่มประทับจูบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าต่อจากนั้นก็พลิกให้เธอนอนคว่ำแล้วเขาก็ทำแบบเดิมอีกรอบคือจุมพิตไปทั่วเรือนร่างเพรียวบางของเธอ
“บอสคะ” เรณุกาคว้าแขนของเขาแล้วไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงริมฝีปากอุ่น เธอพลิกตัวกลับมาช้าๆ แล้วจับไปที่แกนกายอันโต สายตาคมแต่หวานฉ่ำอ้อนวอนโดยไม่ได้เอ่ยคำออกไป ภาคินัยแทรกตัวเข้าไปที่หว่างขาของเธอแต่ยังไม่ให้สิ่งที่ต้องการ
“บอส อืมม” ภาคินัยห่อลิ้นแล้วแยงเข้าไปในช่องรักฉ่ำน้ำ เธอพยายามดิ้นหนีเขาจึงต้องล็อกต้นขาเอาไว้
“โอ๊ววว แฮ่กๆๆ”
“ยังอยากได้มันอยู่ไหม” ภาคินัยถามแล้วเหล่ตาไปที่แกนกายอันโตของตัวเอง เรณุกาไม่ตอบแต่จับมันมาจ่อไว้ที่ปากทางรัก
ภาคินัยขยับเอวช้าๆ เป็นครั้งแรกที่เขากับเธอสบตากันระหว่างทำกิจกรรมและเขาพูดได้เต็มปากว่าครั้งนี้มันไม่ใช่การร่วมเพศแต่มันคือการร่วมรักและมันเป็นบทรักที่แสนนุ่มนวล
“บะ บอสขา” เรณุกาลูบไล้มือไปตามแผ่นหลังกำยำของชายหนุ่ม เธอไม่แน่ใจนักว่าบทรักอ่อนโยนมันเป็นยังไงแต่ตอนนี้เธอจำได้และเธอกำลังจะเสร็จสมจากจังหวะช้าเนิบสุดละมุน
“จุ๊บ” ภาคินัยจูบหน้าผากเธอเบาๆ หลังจากส่งเลขาถึงฝั่งฝันเรียบร้อย
“ขอโทษนะคะที่มาทำอะไรแบบนี้ในห้องทำงานของบอส”
“ไม่เป็นไรหรอก ผมใส่ให้นะ” ที่ผ่านมาเธอกับเขาเปลื้องผ้าและใส่ผ้าด้วยตัวเองไม่เคยมีใครถอดหรือใส่ให้ใครแต่วันนี้เขาอยากดูแลเธอทำให้เธออุ่นใจว่ายังมีผู้ชายอีกคนห่วงใยเธออยู่
“ขอบคุณค่ะบอส” เรณุกาบอกแบบเขินๆ
“กลับบ้านไปนอนซะตาคุณจะปิดอยู่แล้วเดี๋ยวผมให้ลุงไปส่ง นี่ถือเป็นคำสั่ง”
“ค่ะบอส” เธอหอมแก้มเขาแล้วเดินออกไป
อุดหนุนฉบับเต็มจิ้มชื่อเรื่อง เรณุการ้อนรัก
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ