รินรดีซ่อนรัก
8.7
เขียนโดย Annakan
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 09.36 น.
8 ตอน
0 วิจารณ์
9,606 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 09.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ตอน 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ป๊าขา ไม่แกล้งหนูสิคะ” เด็กสาวรูปร่างอ้อนแอ้นนอนคุดคู้อยู่บนเตียงเธอสวมชุดนอนเนื้อบางแบบสองชิ้น ชิ้นล่างเป็นกางเกงขาสั้นที่ยาวพอปิดแค่ของสงวนส่วนท่อนบนเป็นสายเดี่ยวตัวเล็กที่ปิดทรวงอกอวบอัดไว้อย่างหมิ่นเหม่ เธอกำลังโดนรบกวนด้วยจูบแสนซุกซนจากชายหนุ่มที่แก่กว่าเธอหลายสิบปี
“เช้าแล้วป๊าต้องไปทำงานสิคะหนู” หนุ่มใหญ่ยังคงซุกไซ้เด็กสาวจากด้านหลังไปเรื่อยๆ เขารู้ว่าในที่สุดเธอก็จะยอมแพ้ให้กับการเล้าโลมที่แสนวาบหวาม
“หนูเพิ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงเองนะ” เจ้าของเรือนร่างสะโอดสะองลืมตาขึ้นมาแล้วทำหน้างอ ก็แน่สิที่เขาต้องไปทำงานเพราะเป็นผู้บริหารใหญ่แถมวันนี้เขามีประชุมกับหุ้นส่วนด้วยจะไปสายไม่ได้เป็นอันขาดแต่ดูเอาเถอะจะเจ็ดโมงแล้วยังมาวอแววุ่นวายกับเธออยู่ได้เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ตีสองเข้าไปแล้ว
“หนูไม่รักป๊าหรอคะ” ชายหนุ่มที่สวมแค่บอกเซอร์รวบเด็กสาวเข้ามากอดให้แน่นกว่าเดิม
“ป๊าขี้โกงนะคะ” คนตัวเล็กตัดพ้อแต่ก็อมยิ้ม
“นิดเดียวได้ไหมคะ วันนี้ป๊ามีประชุมทั้งวันเลยมันต้องเหนื่อยมากแน่ๆ” ผู้ชายร่างโตทำตาปริบๆ โดนทั้งอ้อนทั้งกอดแบบนี้ใครจะใจร้ายได้ลงคอก็ให้มันรู้ไป
“ใครว่ามีแต่เด็กที่งอแงนะ” เด็กสาวขึ้นไปนั่งบนตัวของชายหนุ่มแล้วจ้องหน้าคนขี้โกง
“ป๊าก็งอแงกับหนูคนเดียวแหละค่ะ”
“แล้วกับคนที่บ้านล่ะคะ”
“เอ่อ หนูขอโทษค่ะป๊า” เด็กสาวใจเสียขึ้นมาทันทีเมื่อเขาทำหน้านิ่งใส่เธอ ข้อตกลงในการใช้ชีวิตร่วมกันมีไม่กี่ข้อแต่ที่สำคัญที่สุดก็คือต้องไม่พูดถึง “อีกบ้าน”
“ป๊าบอกกี่ครั้งแล้วว่าป๊ากับเขาอยู่ด้วยกันเพราะผลประโยชน์ป๊าไม่ได้รักเขา หนูคือความสุขเดียวของชีวิตป๊านะคะ” ชายหนุ่มท่องประโยคเดิมให้เด็กสาวฟังอีกครั้งและมันจริงแค่ครึ่งเดียว เขาอยู่กับภรรยาด้วยผลประโยชน์เพราะโดนจับแต่งด้วยความไม่สมัครใจ
เขากับภรรยาไม่มีอะไรเข้ากันได้เลยต่อให้จะใช้ชีวิตด้วยกันแล้วก็ตามและเรื่องเพศยิ่งเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดขัดใจมากเพราะเขาต้องการทุกคืนแต่คนที่บ้านแทบจะไม่มีความอยากในส่วนนี้เลยหลังแต่งงานได้ปีกว่าเขาก็เริ่มออกไปซื้อกิน
ข้อดีข้อเดียวของการได้เธอคนนั้นเป็นภรรยาก็คือเรื่องเงินที่มีให้ใช้จ่ายไม่ขาดมือมันยิ่งทำให้การซื้อกินหรือหิ้วผู้หญิงไปนอนสนุกสนานมากขึ้นไปอีก เขาเริงรักกับหญิงบริการจนฉ่ำปอดและภรรยาที่บ้านก็ไม่เคยจับได้สักครั้งหรือจริงๆ เธออาจจะรู้แต่ไม่สนใจมันยิ่งทำให้เขาเหิมเกริมแต่สุดท้ายก็มาตกม้าตายกับเด็กสาวคนนี้
รินรดีหรือที่เขาเรียกว่าหนูไม่ใช่หญิงบริการเธอคือพริตตี้ที่เขาไปเจอในงานแล้วก็หลงรักแบบหัวปักหัวปำเด็กสาวคนนี้ทำให้เขาหยุดการซื้อกินไปพักนึงเพราะต้องเอาเวลาทั้งหมดมาทุ่มเทเพื่อซื้อใจเธอและตอนนี้มันก็สำเร็จแล้ว
“ค่ะป๊า หนูขอโทษ” เด็กสาวบอกแล้วดวงตาคู่สวยก็มีน้ำใสเอ่อคลอขึ้นมา
“ป๊ารักหนูคนเดียวนะคะ”
“ค่ะป๊า”
“แล้วหนูก็ห้ามไปรักใคร มองก็ไม่ได้นะ”
“ค่ะป๊า” เด็กสาวรับคำอย่างว่าง่าย
“แล้วตรงนี้ก็ต้องเป็นของป๊าคนเดียวเท่านั้นเข้าใจไหมคะ” ชายหนุ่มปัดสายเสื้อให้พ้นจากไหล่เล็กๆ แล้วรูดมันไปกองที่เอว มือใหญ่คลึงเคล้นเต้าทั้งสองข้างเบาๆ
“ทั้งตัวแล้วก็หัวใจหนูเป็นของป๊าคนเดียวค่ะ” เด็กสาวโน้มกายลงไปช้าๆ ทับทิมเม็ดเล็กโดนงับเข้าไปในอุ้งปากแล้วสติของเธอก็หลุดลอยไปกับรสรักที่แสนเย้ายวน
รินรดีอายุยี่สิบห้าปีเธอเกือบจะจบมหาวิทยาลัยอยู่แล้วถ้าไม่โดนมรสุมชีวิตพัดผ่านเข้ามา ตอนเรียนปีสามแม่ของเธอตรวจพบว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเมื่อวันที่ทราบเรื่องเธอร้องไห้แทบขาดใจแต่แม่กลับไม่มีแม้น้ำตาสักหยดแม่บอกให้เธอตั้งสติและมีชีวิตต่อไป
มันคงง่ายกว่านี้ถ้าเธอเกิดมาในครอบครัวที่ฐานะร่ำรวยแต่ความจริงเธอกับแม่เป็นแค่ชนชั้นล่างหาเช้ากินค่ำ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่แม่หามาได้มันมีค่ามากเพราะมันคือเงินที่เลี้ยงคนสองคนให้ดำรงชีวิตได้ในแต่ละวันแต่พอเสาหลักล้มลงทุกอย่างมันก็พังทลายลงมาอย่างรวดเร็ว
เธอไม่มีเงินไปลงทะเบียนไม่มีเงินเดินทางไปมหาลัยถึงจะมีมันก็ไม่พอจนถึงจบการศึกษาแน่ๆ ไหนจะค่ากินค่ากิจกรรมและอื่นๆ อีกจิปาถะเรื่องเรียนให้จบจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย เงินเก็บหลักพันถูกถอนออกมาวางบนโต๊ะกินข้าวเธอจำได้ดีถึงความเงียบงันในวันนั้นเพราะต้องตัดสินใจว่าจะทำยังไงกับเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตและเมื่อเห็นมารดาที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงเธอก็ได้คำตอบ
เด็กสาวโทรหาเพื่อนที่เป็นพริตตี้แล้วขอร้องให้ช่วยหางานให้โชคดีที่เธอเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีเพื่อนจึงช่วยเหลือด้วยความเต็มใจแถมสังกัดก็ยังเอ็นดูกับความอ่อนน้อมถ่อมตนของเธอ ชีวิตการเป็นพริตตี้โลดแล่นด้วยความสวยงามถึงจะไม่ได้เป็นตัวท็อปแต่ก็มีงานไม่ขาด จากที่ต้องอยู่แบบอดมื้อกินมื้อก็ได้มีกินทุกมื้อและดูแลแม่ได้ตามอัตภาพ
แต่ถึงจะหาเงินได้มากแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยให้อาการของแม่ดีขึ้นแม่เริ่มสูญเสียการควบคุมร่างกายไปทีละส่วนๆ จนในที่สุดก็ไม่สามารถหยิบจับอะไรได้ด้วยตัวเอง เธอเริ่มกลับมาหนักใจอีกครั้งเพราะตอนนี้ไม่สามารถห่างแม่ได้อีกแล้วเมื่อก่อนยังพออาศัยให้ป้าข้างบ้านมาช่วยดูแลหยิบจับอะไรให้นิดๆ หน่อยๆ เช่นตักข้าวหรือเช็ดตัวในกรณีที่แม่ทำอาหารหกเลอะตัวเองแต่ตอนนี้เธอไม่อาจไปออกปากขอความช่วยเหลือคนอื่นได้อีกเพราะแม่ควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ครั้นจะจ้างพยาบาลมันก็แพงเกินไป
และเธอก็ได้พบกับคุณภาคินัยหรือป๊าชายหนุ่มผู้แสนดี เขาเจอเธอที่งานเครื่องเสียงแห่งนึงเธอกำลังอธิบายถึงรายละเอียดต่างๆ ของสินค้าแล้วชายหนุ่มคนนี้ก็เดินเข้ามาคุยด้วย
“ไปกินข้าวกันไหมครับ” ภาคินัยเอ่ยชวนพริตตี้สาวสวย
“ดิฉันทำงานอยู่นะคะ” รินรดีเอาไมค์ออกจากปากแล้วพึมพำตอบไปเบาๆ
“งั้นผมรอคุณทำงานเสร็จก็ได้”
เมื่อพริตตี้ที่หมายตาเดินลงเวทีไปภาคินัยก็รีบเข้าไปหาและเธออ้างว่าไปไหนด้วยไม่ได้ทั้งนั้นเพราะต้องรีบกลับบ้านแต่แค่นี้ไม่ทำให้เขาท้อหรอกเขาเองก็มีเส้นสายคอนเนคชั่นอยู่หลายวงการแค่สืบไม่กี่วันก็รู้แล้วว่าแม่สาวคนสวยทำงานกับใครมีประวัติยังไง
พอได้รู้ประวัติและความกตัญญูก็ยิ่งอยากได้เธอมาครอบครองเพราะต้นสังกัดยืนยันรับประกันด้วยหัวว่าเธอคนนี้ไม่เคยออกนอกรอบเลยสักครั้งแค่ไปเที่ยวกับกลุ่มพริตตี้ก็แทบจะนับครั้งได้เพราะเธอมีแม่ต้องรีบกลับไปดูแล
ภาคินัยไปดักเจอพริตตี้คนสวยตามงานถึงห้างานและในที่สุดเธอก็ใจอ่อนยอมไปกินข้าวด้วยโดยมีเพื่อนมาเป็นก้างขวางคอถึงสามคนแต่มันก็ไม่เป็นปัญหาหรอกมีครั้งแรกแล้วครั้งต่อไปก็ไม่ไกลเกินเอื้อม
หลังจากเทียวรับเทียวส่งอยู่หลายเดือนความสัมพันธ์ของเขากับพริตตี้คนสวยก็ยังไม่ไปถึงไหนแต่ฟ้าก็ยังมีเมตตาให้คนชั่วๆ เพราะวันนึงมารดาผู้เป็นที่รักของเธอตรวจพบว่าเป็นมะเร็งสมอง ลำพังแค่เงินค่าตัวพริตตี้ระดับกลางๆ มันไม่พอสำหรับค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้วไหนจะค่าอยู่ค่ากินอีกเขาจึงเสนอความช่วยเหลือให้แบบไม่มีข้อแม้และสุดท้ายเขาก็ได้ทั้งตัวและหัวใจของเธอมาครอบครอง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ