พิษเพลิงริษยา
-
เขียนโดย ยัยเพิ้ง
วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.05 น.
15 ตอน
3 วิจารณ์
14.73K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 21.01 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ตอนที่สอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ ชายหนุ่มเรือนร่างสูงสง่าในชุดสูทสีเข้มก้าวลงจากรถเก๋งราคาแพงสีดำซึ่งได้รับการดูแลอย่างดีจนขึ้นเงาปลาบที่พึ่งจอดลงเพื่อไปยืนดูคฤหาสน์หลังงาม ที่เป็นแหล่งกักเก็บความหลังของเขาเมื่อสิบปีก่อนไว้อย่างเข้มขลัง เมื่อสิบปีก่อนนั้นเขาเข้าออกคฤหาสน์หลังนี้ได้ไม่ต่างกับเป็นบ้านของตัวเอง
เพราะเจ้าของคฤหาสน์คือนายพสิษฐ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ ธีรชัยบิดาของเขาอีกทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันด้วยนั้นเอง ความสนิทสนมกันระหว่างสองครอบครัวในครั้งนั้นทำให้เขาหลงรัก เพชรงาม ลูกสาวคนโตของเจ้าของบ้านหลังนี้จนหัวปักหัวปำ ก็เธอทั้งสวยเซ็กซี่ ฉลาดเฉลียวและมีความมั่นใจในตัวเองสูงซึ่งเขาชื่นชมความมีเสน่ห์เหล่านี้ของเธอนักหนา
เขาและเธอถูกสังคมจับตามองว่าสมกันมากมายทั้งด้านรูปร่างหน้าตาฐานะและทั้งความสัมพันธ์ทางครอบครัวที่พ่อกับแม่ต่างก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ใครๆก็เชื่อว่างานแต่งของทั้งคู่จะต้องถูกจัดขึ้นแน่ๆรอเพียงแต่ให้เขาทั้งสองเจริญวัยขึ้นกว่านี้อีกหน่อยเท่านั้น เพราะตอนนั้นชายหนุ่มมีอายุเพียงยี่สิบเศษและเพชรงามก็แค่สิบแปดเท่านั้น
“ คุณธีจะเข้าไปดูข้างในไหมครับ”
ลุงชุมชายชราผู้มีหน้าที่เฝ้าบ้านหลังนี้เอ่ยถามขึ้นทำให้ความคิดคำนึงของเขาหยุดชะงักลง ลุงชุมนั้นเป็นคนเก่าคนแก่ที่อยู่กับบิดาของเขามาตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเกิด
ธีรไนย พยักหน้ารับก่อนออกเดินไปช้าๆบนแผ่นอิฐตกแต่งลวดลายสวยงามที่ถูกจัดวางไว้เป็นระยะผ่านสนามหญ้าและสวนย่อมสวยงามไปสู่ตัวคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ห้าไร่แห่งนี้เขาพึ่งกลับมาเหยียบแผ่นดินเมืองไทยเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง หลังจากไปอยู่ที่อเมริกามาสิบปีเต็ม
“ พี่ธีขา มาช่วยเพชรเลือกตัดดอกกุหลาบไปปักแจกันในห้องนอนหน่อยสิค่ะ”
เสียงของสาวน้อยเพชรงามดูเหมือนจะยังดังแว่วอยู่ใกล้ๆหู
“ ดอกไหนก็ได้นี่ครับ พี่เห็นสวยๆกันทั้งนั้น”
เขาเองในวัยยี่สิบเอ็ดปีหิ้วตะกร้าหวายใบเล็กเดินตามเอาใจเธอไปทั่วสวนดอกไม้แห่งนี้
“ ไม่ได้หรอกค่ะ สำหรับเพชรแล้วต้องเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น”
เธอกล่าวด้วยถ้อยคำที่แสดงว่าเป็นคนเย่อหยิ่งและถือตัว แต่ตอนนั้นเขาตามัวมองเห็นว่าเป็นความฉลาดที่รู้จักเลือกสิ่งดีๆให้กับตัวเอง
“ แล้วพี่คือคนที่ดีที่สุดสำหรับเพชรด้วยหรือเปล่า”
เขาถามยอกเอิน
“ แน่นอนสิค่ะ พี่ธีคือผู้ชายที่ดีและเพียบพร้อมที่สุดสำหรับเพชร อุ้ย”
พูดไม่ทันขาดคำดีเพชรงามก็อุทานออกมาเมื่อนิ้วมือเรียวถูกหนามกุหลาบเกี่ยวเอาจนเลือดไหล ความจริงเขาน่าจะฉุกใจคิดได้เสียตั้งแต่ตอนนั้นว่าคงเป็นเพราะสิ่งศักดิ์ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ จึงดลบันดาลให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น แต่เขากลับรีบคว้ามือเธอไปเอาชายเสื้อเช็ดเลือดพร้อมกับกดบาดแผลห้ามเลือดให้ด้วยความห่วงใย
“ พลอย พลอย มาทำแผลให้ฉันหน่อยเร็ว ฉันถูกหนามเกี่ยว”
เพชรงามหันไปตะโกนเรียกคนในบ้านอย่างตื่นกลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรมาก ทั้งๆที่ก็รู้ว่าแค่ถูกหนามเกี่ยวเท่านั้น
ครู่เดียวเด็กหญิงวัยสิบสองปีผู้มีรูปร่างผอมแห้งก็วิ่งหน้าตั้งมาด้วยความรีบร้อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกเพชรงามผลักเอาจนเซไป กล่องรวมยาที่หิ้วมาด้วยตกกระจาย
“ ไปมัวทำอะไรอยู่ที่ไหน ถึงมาเอาป่านนี้ ฉันเรียกไปตั้งนานแล้ว”
เสียงของเพชรงามแทบจะเป็นตวาด
“ พอดีพลอยอ่านหนังสืออยู่หลังบ้านค่ะ แล้วกว่าจะวิ่งไปเอากล่องรวมยาที่ห้องเก็บของก็เลย...”
เด็กหญิงอธิบายเสียงสั่นทีเดียว
“ ไม่ต้องมาแก้ตัวนะ รีบทำแผลให้ฉันเร็วเขาสิ เลือดฉันออกจะหมดตัวแล้ว คอยดูนะฉันจะฟ้องคุณแม่”
เด็กหญิงรีบทำตามคำสั่งด้วยมือไม้สั่นและมีน้ำคลอนัยน์ตาด้วยเกรงกลัวบุคลที่ถูกเอ่ยถึง
จริงๆแล้วธีรไนยเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับเด็กหญิงผู้อาภัพคนนี้นักหรอก เพราะดูเหมือนว่าเธอจะถูกกดหัวให้อยู่แต่ในครัวและหลังบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ จะได้ออกมาข้างนอกบ้างก็ตอนที่ถูกเรียกใช้เท่านั้น แต่เขาก็รู้ว่าเธอเป็นบุตรสาวคนเล็กของนายพสิษฐ์ที่เกิดจากภรรยาน้อยของเขา และเมื่อต้องเลิกรากันไปเด็กหญิงจึงถูกนำตัวมาอยู่กับพ่อที่มีทั้งภรรยาแต่งและลูกสาวอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ดั่งนั้นเด็กหญิงจึงอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะเบี้ยล่างของสองแม่ลูก จะยังดีอยู่บ้างก็ตรงที่เธอยังได้เรียนหนังสือเท่านั้น
เพราะเจ้าของคฤหาสน์คือนายพสิษฐ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ ธีรชัยบิดาของเขาอีกทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกันด้วยนั้นเอง ความสนิทสนมกันระหว่างสองครอบครัวในครั้งนั้นทำให้เขาหลงรัก เพชรงาม ลูกสาวคนโตของเจ้าของบ้านหลังนี้จนหัวปักหัวปำ ก็เธอทั้งสวยเซ็กซี่ ฉลาดเฉลียวและมีความมั่นใจในตัวเองสูงซึ่งเขาชื่นชมความมีเสน่ห์เหล่านี้ของเธอนักหนา
เขาและเธอถูกสังคมจับตามองว่าสมกันมากมายทั้งด้านรูปร่างหน้าตาฐานะและทั้งความสัมพันธ์ทางครอบครัวที่พ่อกับแม่ต่างก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ใครๆก็เชื่อว่างานแต่งของทั้งคู่จะต้องถูกจัดขึ้นแน่ๆรอเพียงแต่ให้เขาทั้งสองเจริญวัยขึ้นกว่านี้อีกหน่อยเท่านั้น เพราะตอนนั้นชายหนุ่มมีอายุเพียงยี่สิบเศษและเพชรงามก็แค่สิบแปดเท่านั้น
“ คุณธีจะเข้าไปดูข้างในไหมครับ”
ลุงชุมชายชราผู้มีหน้าที่เฝ้าบ้านหลังนี้เอ่ยถามขึ้นทำให้ความคิดคำนึงของเขาหยุดชะงักลง ลุงชุมนั้นเป็นคนเก่าคนแก่ที่อยู่กับบิดาของเขามาตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเกิด
ธีรไนย พยักหน้ารับก่อนออกเดินไปช้าๆบนแผ่นอิฐตกแต่งลวดลายสวยงามที่ถูกจัดวางไว้เป็นระยะผ่านสนามหญ้าและสวนย่อมสวยงามไปสู่ตัวคฤหาสน์ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ห้าไร่แห่งนี้เขาพึ่งกลับมาเหยียบแผ่นดินเมืองไทยเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง หลังจากไปอยู่ที่อเมริกามาสิบปีเต็ม
“ พี่ธีขา มาช่วยเพชรเลือกตัดดอกกุหลาบไปปักแจกันในห้องนอนหน่อยสิค่ะ”
เสียงของสาวน้อยเพชรงามดูเหมือนจะยังดังแว่วอยู่ใกล้ๆหู
“ ดอกไหนก็ได้นี่ครับ พี่เห็นสวยๆกันทั้งนั้น”
เขาเองในวัยยี่สิบเอ็ดปีหิ้วตะกร้าหวายใบเล็กเดินตามเอาใจเธอไปทั่วสวนดอกไม้แห่งนี้
“ ไม่ได้หรอกค่ะ สำหรับเพชรแล้วต้องเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น”
เธอกล่าวด้วยถ้อยคำที่แสดงว่าเป็นคนเย่อหยิ่งและถือตัว แต่ตอนนั้นเขาตามัวมองเห็นว่าเป็นความฉลาดที่รู้จักเลือกสิ่งดีๆให้กับตัวเอง
“ แล้วพี่คือคนที่ดีที่สุดสำหรับเพชรด้วยหรือเปล่า”
เขาถามยอกเอิน
“ แน่นอนสิค่ะ พี่ธีคือผู้ชายที่ดีและเพียบพร้อมที่สุดสำหรับเพชร อุ้ย”
พูดไม่ทันขาดคำดีเพชรงามก็อุทานออกมาเมื่อนิ้วมือเรียวถูกหนามกุหลาบเกี่ยวเอาจนเลือดไหล ความจริงเขาน่าจะฉุกใจคิดได้เสียตั้งแต่ตอนนั้นว่าคงเป็นเพราะสิ่งศักดิ์ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของเธอ จึงดลบันดาลให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น แต่เขากลับรีบคว้ามือเธอไปเอาชายเสื้อเช็ดเลือดพร้อมกับกดบาดแผลห้ามเลือดให้ด้วยความห่วงใย
“ พลอย พลอย มาทำแผลให้ฉันหน่อยเร็ว ฉันถูกหนามเกี่ยว”
เพชรงามหันไปตะโกนเรียกคนในบ้านอย่างตื่นกลัวว่าตัวเองจะเป็นอะไรมาก ทั้งๆที่ก็รู้ว่าแค่ถูกหนามเกี่ยวเท่านั้น
ครู่เดียวเด็กหญิงวัยสิบสองปีผู้มีรูปร่างผอมแห้งก็วิ่งหน้าตั้งมาด้วยความรีบร้อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกเพชรงามผลักเอาจนเซไป กล่องรวมยาที่หิ้วมาด้วยตกกระจาย
“ ไปมัวทำอะไรอยู่ที่ไหน ถึงมาเอาป่านนี้ ฉันเรียกไปตั้งนานแล้ว”
เสียงของเพชรงามแทบจะเป็นตวาด
“ พอดีพลอยอ่านหนังสืออยู่หลังบ้านค่ะ แล้วกว่าจะวิ่งไปเอากล่องรวมยาที่ห้องเก็บของก็เลย...”
เด็กหญิงอธิบายเสียงสั่นทีเดียว
“ ไม่ต้องมาแก้ตัวนะ รีบทำแผลให้ฉันเร็วเขาสิ เลือดฉันออกจะหมดตัวแล้ว คอยดูนะฉันจะฟ้องคุณแม่”
เด็กหญิงรีบทำตามคำสั่งด้วยมือไม้สั่นและมีน้ำคลอนัยน์ตาด้วยเกรงกลัวบุคลที่ถูกเอ่ยถึง
จริงๆแล้วธีรไนยเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับเด็กหญิงผู้อาภัพคนนี้นักหรอก เพราะดูเหมือนว่าเธอจะถูกกดหัวให้อยู่แต่ในครัวและหลังบ้านเสียเป็นส่วนใหญ่ จะได้ออกมาข้างนอกบ้างก็ตอนที่ถูกเรียกใช้เท่านั้น แต่เขาก็รู้ว่าเธอเป็นบุตรสาวคนเล็กของนายพสิษฐ์ที่เกิดจากภรรยาน้อยของเขา และเมื่อต้องเลิกรากันไปเด็กหญิงจึงถูกนำตัวมาอยู่กับพ่อที่มีทั้งภรรยาแต่งและลูกสาวอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ดั่งนั้นเด็กหญิงจึงอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะเบี้ยล่างของสองแม่ลูก จะยังดีอยู่บ้างก็ตรงที่เธอยังได้เรียนหนังสือเท่านั้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ