พิชิตใจน้องรหัสหน้าใส
5) ไม่ให้อภัย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตุลย์มาส่งรอยยิ้มที่บ้านหลังจากที่พาไปทานข้าวแล้ว ทั้งสองมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้านเบเกอร์รี่ ซึ่งเป็นบ้านของป้าเธอเอง
"นี่บ้านน้องเหรอครับ" ชายหนุ่มหันมาถามยังหญิงสาวข้างๆ ก่อนจะหันไปมองร้าน
เบเกอร์รี่
"ไม่ใช่หรอกค่ะ นี่บ้านของป้าน่ะค่ะ " ชายหนุ่มไม่ได้ถามอะไรต่อ แค่พยักหน้า
"งั้นวันหลังพี่คงต้องมาอุดหนุนบ้างแล้วล่ะ จะได้ทำความรู้จักกับคุณป้าของน้อง" หญิงสาวแปลกใจกับคำพูดของชายหนุ่ม
"เอ๊ะ! ทำไมต้องทำความรู้จักด้วยล่ะคะ" ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร แต่ยิ้มให้เธอแทน ตอนนี้เขายิ้มง่ายเสียจนจนลืมไปเลยว่า เมื่อก่อนตัวเองเคยยิ้มยากแค่ไหน แต่ทำไมเวลาได้อยู่กับหญิงสาวแล้วกลับทำให้เขา ยิ้มออกมาได้ง่ายๆซะงั้น
ชายหนุ่มก้มลงไปมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่า เย็นมากแล้ว
" งั้นพี่กลับก่อนนะ เย็นมากแล้ว"
"คะ กลับบ้านดีๆนะคะ" ตุลย์ปลื้มใจยังไงไม่รู้กับคำพูดของรอยยิ้มเพียงแค่ประโยคเดียว แต่ทำให้เขาหัวใจพองโตแล้ว วันนี้ชายหนุ่มเดินกลับบ้านอย่างอารมณ์ดีกว่าทุกวัน
หญิงสาวเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินไปแล้วก็เดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดีเช่นกัน ตอนนี้หัวใจของเธอกำลังเต้นอย่างแรง จนเธอต้องเอามือขึ้นไปทาบที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง แล้วก็ยิ้มอย่างเขินๆ หรือว่าเธอชอบเขาแล้ว
"มีอะไรจะบอกป้าหรือเปล่าจ๊ะ" เมื่อได้ยินเสียงก็ทำให้หญิงสาวสะดุ้ง แล้วหันมามองยังต้นเสียง ก็เห็นป้าของเธอยืนอยู่หลังประตูร้าน และกำลังมองมายังเธออย่างมีคำถาม
น้ำขิงกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ในรถ เมื่อแม่ของเธอมารับเธอที่โรงเรียนหลังจากที่เธอโทรไปหาแม่ให้มารับกลับบ้าน นั่งมาแบบนี้จนถึงบ้าน
"น้ำขิง" แม่ของเธอละสายตาจากการขับรถเมื่อถึงบ้านแล้ว แต่น้ำขิงก็ยังเหม่อลอย จนแม่ของเธอต้องสะกิดเธอแล้วถามด้วยความเป็นห่วง
"เป็นอะไรเหรอลูก เห็นนั่งใจลอยตั้งแต่ที่โรงเรียนแล้ว" น้ำขิงรู้สึกตัวจึงหันมาหาแม่ของเธอ
"แม่คะ" เธอพูดได้เท่านี้แล้วน้ำตาก็ทะลักออกมาอีกรอบเธอจึงเอื้อมมือไปกอดแม่ แม่ของเธอตกใจเพราะไม่เคยเห็นลูกสาวเป็นแบบนี้มาก่อน แต่ก็ไม่พูดอะไรได้แต่ใช้มือลูบหลังของลูกสาวเบาๆ น้ำขิงกอดแม่ของเธอได้สักพักก็หยุดร้องแล้วผละตัวเองออกจากอ้อมกอดแม่ของเธอ
"มีอะไรเล่าให้แม่ฟังได้นะลูก" หลังจากนั้นน้ำขิงก็เริ่มเล่าให้แม่ฟัง
ตุลย์กลับถึงบ้านตอนนี้ก็ หกโมงเย็นแล้ว เขาเปิดประตูรั้วแล้วเดินเข้ามาในบ้านและหันไปเห็นรถยนต์คันสีดำ เขาจำได้ทันทีว่าเป็นรถของพ่อ จากนั้น เขาได้ยินเสียงดังออกมาจากในบ้าน ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านอย่างเร็ว แล้วก็ต้องตกใจเพราะว่า ตอนนี้แม่ของเขากำลังนอนอยู่กับพื้น ข้างๆตัวของแม่นั้นมีผู้ชายคนนึงกำลังจะอุ้มแม่ขึ้นมา แล้วเขาก็หันไปเห็นเลือด!
"ปล่อยแม่เดี๋ยวนี้นะ" จากนั้นเขารีบวิ่งไปหาแม่ทันที เมื่อเห็นชัดว่าแม่ของเขาหัวแตก เขาจึงหันไปมองพ่อของเขาเพราะความโกรธสุดขีด
เขาพูดจบก็รีบพาแม่ไปโรงพยาบาลทันที
พอมาถึงโรงพยาบาล เขาก็รีบพาแม่ไปยังห้องฉุกเฉินทันที
สักพักเขาก็เห็นนางพยาบาลเข็นรถเข็นแม่เขาเดินออกมา เขารีบลุกขึ้นไปหาแม่ทันที
"แม่ผมเป็นยังไงบ้างครับ"
"ไม่เป็นอะไรมากค่ะ คุณหมอได้เย็บแผลให้แล้ว เดี๋ยวไปรับยาแล้วก็กลับบ้านได้ค่ะ"ชายหนุ่มฟังอย่างตั้งใจ แล้วก็พยักหน้า
"ครับ ขอบคุณมากนะครับ" ชายหนุ่มพูดพลางยกมือไหว้ขอบคุณ จากนั้นเขาก็หันมาพูดกับแม่ว่า
"แม่ครับ เดี๋ยวผมไปเอายา แล้วเรากลับบ้านกันนะครับ" แม่ของเขาพยักหน้ารับรู้แล้วชายหนุ่มจึงเดินไปรับยา สักพักเขาก็กลับมาแล้วก็บอกกับแม่
"ไปครับแม่ กลับบ้านกัน" จากนั้นเขาก็พยุงแม่เดินไปที่รถที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล
เขากลับมาถึงบ้านก็พบว่าบ้านว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่แล้ว พ่อของเขาคงกลับไปแล้ว เขาพยุงแม่เข้ามาในบ้านที่ข้าวของยังกระจัดกระจายอยู่ เขาพยุงแม่ไปนั่งยังโซฟาหน้าทีวี
"แล้วนี่ คุณนาไม่อยู่เหรอครับ ทำไมถึงปล่อยให้พ่อเข้ามาทำร้ายแม่ถึงในบ้านได้" ชายหนุ่มมองหานัยนา พยาบาลพิเศษที่เขาจ้างให้มาดูแลแม่
"อ๋อ นาเขาบอกว่าจะไปเยี่ยมหลานที่โรงพยาบาลน่ะ" แม่ของเขาตอบ เขาพยักหน้ารับรู้ จากนั้นจึงเปลี่ยนไปถามคำถามอื่น
"พ่อมาหาแม่ทำไมครับ แล้วที่แม่หัวแตกพ่อเป็นคนทำใช่ไหมครับ"
"พ่อเขาเพิ่งกลับมาจากสิงคโปร์ เลยซื้อของมาฝากลูกน่ะ ส่วนที่แม่หัวแตกเนี่ย พ่อเขาไม่ได้ทำหรอก แม่ลื่นล้มเอง พ่อเขามาช่วยแม่ไว้ตังหากล่ะ" แม่ของเขาอธิบายให้เขาฟัง ชายหนุ่มก็รับฟังแต่ไม่ได้พูดอะไร
ไม่ว่าพ่อจะพยายามทำดีแค่ไหนก็ไม่สามารถลบล้างความผิดที่เคยทิ้งเขาและแม่ไปเมื่อ 10ปีก่อน เพื่อไปแต่งงานใหม่หรอก เขาจะไม่มีวันให้อภัยพ่อของเขา ชายหนุ่มนึกในใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ