Injury project รักอันตรายของยัยสโลว์ไลฟ์

7.7

เขียนโดย Mepale

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.53 น.

  5 บท
  0 วิจารณ์
  6,803 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560 13.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Dangerous 01 : โรซาเนีย ครอฟ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ร่างระหงษ์ในชุดเดสสีฟ้าอ่อนๆ ถูกห้อมล้อมไปด้วยเหล่าบอดี้การ์ด เพื่อคุ้มกันเธอขึ้นเครื่องบินส่วนพระองค์ ผู้คนที่เดินขวักไขวไปมาต่างจับจ้องมาที่ร่างงาม เนื่องจากบรรดานักข่าวกำลังกู่เข้ามาเตรียมสัมภาษณ์ ร่างระหงษ์ไม่ได้สนใจหรืออยากจะให้สัมภาษณ์เพราะเธอเริ่มรำคาญขึ้นทุกที และแล้วความรำคาญก็จบลงเสียที หลังจากเธอเข้าไปยังเครื่องบินส่วนพระองค์ ร่างงามหย่อนก้นนั่งลงพบางเชิดหน้าขึ้น ขาเรียวงามด้านซ้ายขึ้นทับขาเรียวงามด้านขวา ทวงท่าที่นั่งดุจนางพญา

หากจะถามว่าร่างระหงษ์ ผู้มีผมสีดำเงางามดุจท้องฟ้ายามรัตติกาล นัยตาสีดำราวกับความมืดมิด ผิวขาวราวหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมา ริมฝีแดงอวยอิ่มธรรมชาติอันทรงเสน่ห์และน่าจูบ เป็นใครแล้วล่ะก็ ตอบได้ง่ายๆว่า เธอคือ เมษา ทิพยัคย์ดรามา องค์หญิงรัชทายาทแห่งดานิลผู้เย็นชานั้นเอง เธอนั้นหนีความวุ่นวายและการช่วงชิงอำนาจมาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ในประเทศไทย แต่แล้วความสุขที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ก็ต้องจบลงเมื่อถูกพบตัว และตอนนี้เธอกำลังเดินทางกลับ เพือเข้าสู่สังเวียนแห่งการช่วงชิงอำนาจอีกครั้ง เคลื่อนค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากรันเวย์ ไม่นานก็ขึ้นสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ เนื่องจากเวลาที่เมษานั่งเครื่องเป็นช่วงเช้า

ยามเม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง จึงแลเห็นหมู่เมฆสีขทวราวกลับปุยนุ่น "องค์หญิงเพคะ จะรับพระกายาหารเป็นอะไรดีเพคะ" แอร์โฮสเตสเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อบน้อมและนุ่มนวล พลางส่งเมนูให้เธอเรียก

มือเรียวรับเมนูมาเปิดดู นัยตาสีรัตติกาลกวาดสายตามองเมนูอาหารแต่ก็ไม่มีเมนูใดที่เธออยากทาน ปิดเมนูส่งให้แอร์โฮสเตสพลางเงยหน้าขึ้นเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบติดเย็นชาพอสมควร "ขอแซนวิสกับน้ำส้ม"

"กรุณารอสักครู่เพคะ" แอร์โฮสเตสย่อกายคำนับได้อย่างแช้มช้อยงดงาม ก่อนจะผละไปเตรียมอาหาร เมษาถอนสายตาออกมาเม่อมองดูก้อนเมฆผ่านหน้าต่างต่อ เปลือกตาที่ใกล้จะปิด กลับสว่างขึ้นมาทันที เมื่อเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ตูม!!

เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วปีกข้างและช่วงด้านหลังของเครื่องบิน ถูกระเบิดไม่เหลือสิ่งใด นอกจากไฟที่เริ่มลุกลามไปทั่วเครื่องบิน เสียงกรีดร้องโหยหวนเพราะพิษบาดแผลดังเข้ามา เมษาได้แต่มองไม่สามารถช่วยอะไรได้ ก่อนที่ร่างนั้นจะสิ้นใจเครื่องบินก็หล่นลงสู่พื้นมหาสมุทร ร่างระหงษ์ไม่สามารถต้านแรงของเกลียวคลื่นขนาดยักษ์ที่โถมเข้ามาได้ เธอค่อยๆอากาศหายใจทุกสิ่งจมดิ่งสู่ความมืดไปในที่สุด..........

.

.

.

.

ร่างเล็กของเด็กน้อยวัย 7 ขวบ สะดุ้งตื่น เม็ดเหงื่อเกาะเต็มกรอบหน้าที่แสนงดงาม ใบหน้างดงามเริ่มบิดเบี้ยว มือเล็กทั้งสองข้างยกขึ้นมากุมขมับ ความทรงจำจองชาติก่อนค่อยๆหลั่งไหลเข้า แม้อยากจะกรีดร้องก็ทำได้เพียงกัดปากตนเองเอาไว้ ไม่ให้เสียงหลุดลอดออกไป เธอปวดหัวเหลือเกินปวดจนทนไม่ไหว ร่างเล็กทรุดลงกับพื้นอีกครั้งและปล่อยให้ความทรงจำเหล่านั้นเข้ามา เปลือกตาค่อยๆปิดลง ไม่นานเธอก็ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง แววตาที่มีแต่ความเจ็บปวดเศร้าหมอง แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา มือเล็กปราดคราบน้ำตาบริเวณเปลือกแก้มออก ร่างเล็กกวดสายตาไปรอบๆ ในที่มืดมิดแห่งนี้ยังคงมีครบไฟติดอยู่ตามฝาผนัง ทำให้เธอรู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหน

'คุกใต้ดินสินะ' ร่างเล็กเอ่ยได้เพียงในใจ เนื่องจากไม่ได้ดื่มน้ำหรืออาหารทำให้คอหอจนไม่สามารถเปล่งเสียงได้ แม้จะพึ่งถูกขังไปไม่ถึงวันก็ตาม

เธอขบคิดเรื่องเมื่อชาติก่อนของตนเอง ชาตินั้นสุขสบายมากกว่าชาติปัจจุบันเป็นไหนๆ แต่ชาตินี้กลับย่ำแย่ ชาตินี้เธอมีชื่อว่า โรซาเนีย ครอฟ บุตรสาวเพียงคนเดียวของดยุคริชาร์ดและดัสเชสเณอเบลล์ ถึงเเม้จะเป็นบุตรสาวแท้ๆ พ่อและแม่ของเธอก็ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าใดนัก เนื่องจากโรซาเนียมีพลังธาตุเพียงน้อยนิดไม่สามารถฝึกฝนได้ ทั้งสองจึงตัดสินใจรับเด็กกำพร้าผู้มีพลังธาตุหายาก อย่างจูเลียและโลเวลเจ้ามาเลี้ยงดู และให้ความสนใจดูแลเด็กทั้งสองอย่างดี ส่วนโรซาเนียเมื่อเห็นว่า พ่อแม่ใส่ใจและรักเด็กทั้งสอง จึงอิจฉาและคอยกลั่นแกล้งทั้งสองคอยต่อว่าเรื่องชนชั้นมาตลอด

'ตัวฉันชาตินี้ทำไมน่าสงสารจังเลยแฮะ พอไม่มีประโยชน์ก็ทิ้งๆขว้างๆ พ่อแม่สมัยนี้รู้จักคำว่าระอากันไหมนะ'

พ่อแม่ที่รู้ว่าโรซาเนียกลั่นแกล้งทั้งสองจึงต่อว่า เธออย่างรุนแรง สิ่งที่โรซาเนียทำประชดครอบครัวคือ วิ่งไล่เด็กผู้ชายคนนั้นคนนี้ไปทั่ว เหมารวมว่าผู้ชายพวกนั้นเป็นของตนเอง ไม่เว้นแม้แต่เจ้าชายลำดับที่ 2 แต่แล้วสิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้น มันเริ่มตอนที่ โรซาเนียอายุได้ 7 ขวบ แผนการนี้ถูกเตรียมเอาไว้ได้อย่างแย่บยน มันเป็นแผลการของจูเลียที่พ่อแม่ของเธอมองไม่ออก ในงานครบรอบวันคล้ายวันประสูติขององค์ราชินี จูเลียแอบใส่ยาพิษลงในแก้วไวน์ขององค์ราชินี โรซาเนียไปเห็นเข้าโดยบังเอิญ จูเลียจึงยัดซองกระดาษที่เหลือพิษติดอยู่ใส่มือโรซาเนียที่ยังมึนงง กับการกระทำของจูเลีย

แต่เธอก็ไม่ได้เอะใจอะไร พลางเก็บซองยาไว้กับตนเอง ครั้นเมื่อเข้าไปในงานอีกครั้ง ร่างเล็กกำลังจะวิ่งเข้าไปหาเจ้าชายออสก้า แต่ก็ถูกทหารควบคุมตัว 'ปล่อยนะ เอามือสกปรกของพวกแกออกไป'

'ฮึกฮือ....ท่านหญิง...ท่านทำได้ยังไง" จูเลียสะอึกสะอื้นโดยมีแม่หรือดัสเชสเฌอเบลล์ปลอบป่ะโลม โรซาเนียยังคงมีใยหน้ามึนงง

'อะไร!! ฉันทำอะไร!! บอกให้ปล่อยไงไอ้พวกชั้นต่ำ' ร่างเล็กตวาดเสียงดัง

'เธออย่ามาทำหน้าไม่รู้อะไรนะ จูเลียบอกฉันหมดแล้ว เธอมันชั่วร้าย คิดวางยาเสด็จแม่' เจ้าชายออสก้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

'จูเลียต่างหาก ฉันไม่ได้ทำๆๆ' ร่างเล็กเริ่มเข้าใจเหตุการณ์ ตวัดสายตาเกรี้ยวโกรธไปที่จูเลีย พลางเอ่ยแย้งเสียงแข็ง

'อย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย นังลูกชั่วทำไมถึงได้มีความคิดชั่วช้าเช่นนี้' ดยุคริชาร์ทตวาดเสียงดัง ท่ามกลางเสียงซุบซิบนินทา

เพลียะ!!

มือหนาของผู้เป็นพ่อกระทบเข้ากับใบหน้าปรากฏรอยแดงขึ้นมา น้ำตาของร่างเล็กเอ่อล้นขอบตาและล่วงลงมา เจ้าชายอลาโน่เอ่ยสั่งทหารค้นตัวโรซาเนียและพบซองกระดาษ ที่มีผงบางอย่างติดอยู่ 'หลักฐานคาตาขนาดนี้แล้วยังปฏิเสธอีกหรอ ทหารนำมันไปขัง รอรับโทษ!!'

สิ้นเสียงทรงอำนาจของรัชทายาท ทหารก็นำเธอที่โดนตบและกำลังซ็อคอยู่ ก่อนนำโรซาเนียไปขังยังคุกใต้ดิน จูเลียส่งสายตาเยาะเย้ยอย่างพึงพอใจ เมื่อเห็นว่าโรซาเนียกำลังจะตกต่ำ ก่อนจะรีบปรับสีหน้าเป็นเศร้าสร้อยตามเดิม เจ้าชายและคนอื่นๆต่างมองจูเลียด้วยความสงสารและเห็นใจ โดยที่ไม่รู้ว่าภายใต้ใบหน้าอันเศร้าหมองและตกใจนั้นซ่อนความยินดีเอาไว้ แต่ก็ต้องหยุดความรู้สึกยินดีลง เมื่อพระราชาประกาศโทษทัณฑ์ที่โรซาเนียได้รับ

'เราของประกาศให้โรซาเนีย ครอฟถูกถอดยศท่านหญิงเป็นสามัญชน และถูกเนรเทศไม่ให้เข้าเมืองหลวงอีก จงรับฟังและห้ามโต้แย้งใดๆ' นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่ลุงอย่างเขาหรือพระราชาแห่งสเวนจะมอบให้ผู้เป็นหลานอย่างโรซาเนีย พระราชายังคงเอ่ยต่อ 'โรซาเนียยังเด็กอยู่ การเนรเทศนั้นไม่ใช่ฐานะนักโทษแต่อยู่ฐานะสามัญชนที่ไม่สามารถเข้า เมืองหลวงได้'

กล่าวคำบัญชาจบพระราชาก็สะบัดชายเสื้อเดินออกจากงานโดยพลัน เขาไม่ปักใจเชื่อว่าหลานแท้ๆของตนจะมีความคิดชั่วร้ายเช่นนั้น แม้ว่าหลานของตนจะชอบรังแกจูเลียก็ตาม ถึงจะมีหลักฐานยืนยันความผิด แต่เขายังคงไม่เชื่อ เมื่อรับฟังราชโองการจบโรซาเนียก็ถูกนำมาขังยังคุกใต้ดินทันที

พอขบคิดเรื่องพวกนี้จบ ร่างเล็กก็พอจะสรุปอะไรหลายๆอย่างได้ 'พระราชาหรือท่านลุง มีแต่ท่านสินะ ที่ไม่ปักใจเชื่อว่าฉันเป็นคนวางยา ดีหน่อยที่ปลดเป็นแค่สามัญชนและเนรเทศไม่ให้เข้าเมืองหลวง ถ้าเป็นนักโทษมีหวังชีวิตอันแสนสโลว์ไลฟ์พังพอดี'

ร่างเล็กถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ อย่างน้อยๆความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ เพราะความทรงจำในชาติก่อนของเธอกลับมาแล้ว 'พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ฉันจะถูกเนรเทศ'

-------------To be continued ----------------------------------------

ตอนที่หนึ่งผ่านไปเป็นยังยังไงบ้าง อย่าลืมคอมเม้นเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ ^_^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา