ลมหวาน ป่าหนาว

9.2

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.

  42 ตอน
  8 วิจารณ์
  70.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

32) (พาร์ทของตรีภพ แผนร้าย เริงสวาท 18+)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

    

หลังจากที่ไอ้ทุ่งขอกุญแจรถมอไซค์ผมไปรับป่าสักแล้ว  ผมก็นั่งรออาหารที่สั่งไปอยู่เพียงลำพัง บรรยากาศภายในโรงเตี้ยมก็ยังเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือลูกค้าของเจ๊ดิ้งเริ่มมาเกือบจะเต็มร้านแล้ว ผมนั่งมองไปทั่วร้าน ตอนนี้มีนักศึกษาบางคนเริ่มไปร้องเพลงและเล่นดนตรีที่มุมดนตรีเพื่อรออาหารแล้ว จู่ๆก็มีพนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟให้ผมที่โต๊ะ

“ลาบ  น้ำตกรสแซ่บได้แล้วครับ”

เอ๊ะทำไมเสียงพนักงานร้านเจ๊ดิ้งคนนี้ถึงได้เสียงคุ้นๆหูยังนี้น่ะ  ผมรีบหันกลับมายังต้นเสียงนั้นทันที

“ไอ้โอม!!!!!!!”

 ผมต้องอุทานชื่อไอ้โอม  ออกมาอย่างดัง  เพราะไม่คิดว่าหลังจากที่ผมหลบหน้ามันมาหลายวัน ไม่คิดว่าวันนี้มันจะบุกมาถึงโรงเตี้ยม เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลยครับ

“ห้ามหนีกูไปไหน”

ไอ้โอมพูดเสร็จมันก็วางอาหารลงที่โต๊ะพร้อมกับตัวสูงๆหน้าเรียวๆมาดกวนๆของมันก็นั่งประกบด้านข้างผมทันที  มืออีกข้างของมันก็ไม่อยู่นิ่งโอบมากดหัวไหล่ผมไว้อย่างเหนียวแน่น

“มึงมาได้ไง?”

ผมถามไอ้โอมออกไปพร้อมกับพยายามแกะมือมันออกจากการโอบของมันทันที  แต่ก็สูญเปล่าเพราะมันเล่นโอบไหล่แล้วกระชากตัวผมเข้าไปชิดตัวมันทันที

 “ไอ้โอม!!!!!”

 “นั่งนิ่งๆสิวะตรี  มึงจะดิ้นทำไม? คนเขามองกันใหญ่แล้ว”

“มึงก็เอามือออกจากตัวกูสักทีสิวะ”

“ทำไม  มึงกลัวใครเข้าใจผิดหรือไง?”

“เปล่าโว้ยยย  แต่กูนั่งไม่ถนัด”

“ช่างมึงดิ  กูจะกอดมึงไว้แบบนี้แหละ  โทษฐานที่มึงหลบหน้ากูตั้งหลายวัน”

“กูไม่ได้หลบ  กูก็อยู่ของกูเหมือนเดิม”

“เหมือนเดิมเชี่ยไร  กูโทรไปก็ไม่รับ  ไลน์ไปก็ไม่อ่าน  ไปหาก็ไม่เจอ”

“กูยุ่ง    กูต้องซ้อมกีฬา”

“ตรี   มึงจะพูดอะไรก็ให้มันตรงกับใจมึงหน่อยสิวะ อย่าหัดโกหก”

“กูไม่ได้โกหก  นี้กูก็พูดตรงสุดแล้ว  มึงจะเอาไรกับกูอีกวะโอม?”

“ตรี...กูขอโทษ  ที่กูผิดนัดกับ

“เรื่องกูกับน้องเคท  มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่เขาตกลงกันเอง  กูไม่รู้เรื่องเลย”

“ก็ใช่ไง  มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ตกลงกันไว้แล้ว  มึงควรจะทำตาม”

“ตรี  มึง  มึงเข้าใจกูบ้างสิว่ะ”

“กูก็เข้าใจมึงไง  ถึงต้องทำแบบนี้   มึงนั้นแหละไม่เข้าใจอะไรเลย”

“มึงจะให้เรื่องของเราจบลงแบบนี้เหรอวะตรี”

“มันก็ควรเป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”

“กูไม่ได้เต็มใจ และไม่ได้ยินยอมน่ะเว้ย”

“แต่นั้นคือการตกลงของผู้ใหญ่นะมึง คำพูดของพ่อแม่มันสำคัญน่ะ”

“กูรู้  แต่กูไม่ยินยอม”

“มึงไม่ยอม???”

“ก็ใช่ไง  กูไม่ได้ยินดีในเรื่องนี้เลยนะตรี”

“แต่ฝ่ายผู้หญิงเขายินดี  แล้วก็ยินยอมไม่ใช่เหรอ?”

ในระหว่างที่โอม ศักดิ์พินิจคุยกับตรีภพอยู่นั้น  อยู่ๆเจ๊ดิ้งเจ้าของร้านก็เดินเข้ามาทักทายโอมทันที

“อุ้ยตายแล้วววว  วันนี้โรงเตี้ยมของเจ้โชคดีจริงๆเลย  ที่เดือนมหาลัยแก่นนครแวะมาทานอาหาร  ดีใจ๋ ดีใจ  ขาดเหลืออะไรบอกเจ้ได้เลยนะค่ะพ่อรูปหล่อ  ทูนหัวของบ่าว  เจ้ยินดีให้บริการ”

เจ๊ดิ้งพูดจบก็รีบนั่งลงข้างๆโอม  ศักดิ์พินิจทันที  พร้อมกับจัดแจงเสิร์ฟน้ำดื่มให้ทันที

“ขอบคุณครับเจ้  แต่ตอนนี้ผมต้องการคุยกันแค่สองคน  สองคนเท่านั้น”

“อุต๊ะ!!!     นี้เจ้เป็นส่วนเกินหรือค่ะ พูดออกมาแบบนี้เจ้เสียใจเลยนะค่ะพ่อรูปหล่อของเจ้”

“เจ้ครับ  ถ้าจะสั่งอะไรเพิ่มผมจะสั่งอีกทีนะครับ  ตอนนี้ขอเคลียร์กับเมียก่อน”

โอมพูดเสร็จก็โอบกอดตรีให้กระชับยิ่งกว่าเดิม  ทำให้ใบหน้าของตรีภพตอนนี้แดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุกเสียอีก

“ว้ายยย  ตายแล้ววววว เจ้ไม่ได้หูฝาด ไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมค่ะ?”

“เจ้  อารมณ์ผมไม่ได้ดีเหมือนหน้าตาน่ะ”

“อ่อ คะ ค่ะ  เจ้เข้าใจแล้ว   ยังไงก็คุยกันดีๆนะค่ะ  แหม่ๆหล่อแล้วยังมีมุขตลกอีกนะจ๊ะ”

จากนั้นเจ๊ดิ้งคนงามแห่งโรงเตี้ยมก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะทันที  เพราะเห็นท่าทางเอาจริงของโอมนั้นเอง  แต่ก่อนจะเดินจากไปเจ๊ดิ้งก็หันกลับมาพูดกับตรีภพอย่างเป็นกันเอง

“เอ่อน้องตรีของเจ้  ยอมๆไปเถอะนะค่ะ  คนหล่อๆแบบนี้หายากค่ะ  ถ้าอยู่ในมือแล้วก็อย่าปล่อยให้หลุดนะค่ะ  เจ้เสียดายแทน  มีผัวหล่อแบบนี้เจ้ยอมถวายหัวเลยค่ะ เจ้ไปก่อนนะค่ะ”

พูดเสร็จเจ๊ดิ้งก็รีบพาร่างอันอ้อนแอ้นเดินจากไปทันที  คงปล่อยให้ตรีภพหน้าแดงอยู่ฝ่ายเดียวที่วันนี้โอมเล่นพูดเปิดตัวต่อหน้าเจ๊ดิ้งไปแบบนั้น

“ไอ้โอม  มึงจะป่าวประกาศให้คนเขารู้กันทั่วมหาลัยเลยเหรอ?”

“เรื่องอะไร?”

“มึงอย่ามาทำเป็นเนียน”

“ก็เรื่องอะไรล่ะตรี  นี้กูงงไปหมดแล้วนะ”

“ก็เรื่องที่มันพูดกับเจ้ดิ้งไง....แค่นี้ก็ทำเป็นสมองเสื่อม”

“อ่อ  เรื่องมึงเป็นเมียกูนั้นเหรอ?  กูพูดเรื่องจริง  ทำไม?  หรือมึงจะเถียงว่าไม่จริง”

“จะจริงหรือไม่จริง  มึงสมควรจะพูดไหม?”

“ถ้ากูไม่พูดแบบนั้น  เจ้แกก็มาเกาะแกะกูอีก  แล้วมึงก็จะไม่พอใจกู  กูขี้เกียจง้อแล้ว  แค่เรื่องน้องเคทแค่นี้กูก็เหนื่อยแล้วนะตรี”

“มึงไม่อยากง้อ  มึงก็ไม่ต้องมาง้อสิ  ใครเชิญมึง?”

ตรีภพขึ้นเสียงด้วยอาการน้อยใจตัวของโอมนั้นเอง

“เอาเถอะๆ  ตอนนี้แดกข้าวก่อนไหม  กูหิวแล้ว  กินเสร็จค่อยเถียงกันต่อนะ”

“อ้าว??แล้วนี้มึงจะไม่รอไอ้ทุ่งกับไอ้ป่าสักก่อนเหรอวะโอม”

“โอ้ยยย มึงจะรอพวกมันทำไม  ป่านนี้แม่งแดรกข้าวกันอิ่มแล้ว”

“กินข้าวกันอิ่มแล้ว  หมายความว่าไงวะ   ก็ไอ้ทุ่งบอกกูเองว่าจะไปรับเชี่ยป่าสักมากินข้าวด้วยกัน”

“โอ้ยยยนี้มันกี่ทุ่มแล้วครับคุณเมีย  ใครเขาจะรอ  ป่านนี้ไอ้คุณหนูป่าสักมันก็ต้องพาเมียมันไปหาข้าวแดกแล้ว  มึงไม่ต้องเป็นห่วงพวกมันหรอก  รีบๆกินเถอะ  เพราะต้องได้ใช้พลังอีกเยอะ”

“ใช้พลังงานอีกเยอะ?หมายความว่าไง”

“เออ  ...  คือ    กูหมายถึงว่ามึงซ้อมกีฬามาเยอะ ใช้พลังมากไง  รีบๆกินเถอะมึง”

“แล้วกูจะแดกได้ไง  มึงยังไม่ยอมเอามือออกจากไหล่กูเลย”

“เออวะ  ลืม  พอดีกอดเพลินไปหน่อย  ก็คนมันคิดถึง”

“มึงนี้มันหื่นกามตลอดเลยนะโอม”

“กูหื่น   แล้ว....มึงชอบไม๊ล่ะ?”

“โอ้ยยยไอ้บ้า  กินเข้าไปลาบนี้  อย่าพูดมาก  เอ้ากินเข้าไปปากจะได้ไม่ว่าง”

ตรีภพจัดการยัดข้าวเหนียวกับลาบเข้าปากโอมทันที เพื่อเป็นการปิดปากอีกฝ่ายไม่ให้พูดมากเพราะตอนนี้เขาก็เขินและอายมากๆ  โอมทำอะไรไม่ได้นอกจากอ้าปากแล้วก็เคี้ยวอาหารที่ตรีป้อนอย่างมีความสุขภายในร้านที่อบอวนไปด้วยกลิ่นอายของคนอีสานที่มีวัฒนธรรมฝังรากลึกจากอดีตจนถึงรุ่นปัจจุบัน

“โอ้ยยอิ่มจัง  ไม่ได้กินข้าวอร่อยๆแบบนี้นานแล้ว”

โอมพูดพร้อมกับเอนกายเอาหลังพิงเก้าอี้กางมือออกทั้งสองข้าง แต่มืออีกข้างก็ยังไม่วายไปเกาะเกี่ยวไหล่ของตรีภพไว้อย่างหลวมๆ เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างมากที่ได้พูดคุยและปรับความเข้าใจกับตรีภพหวังว่าต่อจากนี้ไปเขาและตรีภพจะเข้าใจกันมากขึ้น

“มึงแดกขนาดนี้  ไม่กลัวอ้วนเหรอวะ?”

“ไม่หรอก  กูเผาผลาญดีแดกเยอะขนาดไหนก็ไม่อ้วน   แต่ถึงจะอ้วนกูก็ไม่แคร์”

“อ้าวไม่ได้นะมึง   มึงยังเป็นเดือนมหาลัยอยู่  ยังต้องออกงาน”

“เป็นห่วงผัวเหรอน้อง?”

“โอ้ยยยไอ้เชี่ย  กูห่วงภาพลักษณ์ของมหาลัยเว้ยย ไม่อยากเห็นเดือนมหาลัยกลายเป็นหมูก็เท่านั้น”

“จริงอะ?”

“ก็เอ่อสิวะ  มึงอย่ามโนว่ากูเป็นห่วงมึง”

“555ปากกับใจไม่เคยตรงกันเลยนะตรี”

“พูดมากเว้ย  รำคาญแล้ว   แล้วนี้ไอ้คุณหนูป่าสักกับไอ้ทุ่งเมื่อไรมันจะมาสักทีวะ   นี้เราแดกข้าวจนอิ่มแล้วก็ยังไม่เห็นเงาหัวโผล่มาอีก”

“พวกมันไม่มาแล้ว    มึงจะกลับเลยไหมหรือจะไปไหนต่อ?”

“อ้าวรถกูละ  พวกมันต้องเอารถมาคืนกูสิ”

“เดี๋ยวมันก็เอาไปไว้หอเองนั้นแหละ  ป่ะเดี๋ยวกูไปส่ง”

โอม ศักดิ์พินิจพูดเสร็จก็เดินออกไปจ่ายเงินค่าอาหารที่เคาน์เตอร์ทันที  ปล่อยให้ตรีภพนั่งอ้าปากหวอเพราะความมึนงงที่โดนไอ้คุณหนูป่าสักและไอ้เพื่อนตัวแสบอย่างทุ่งธรหลอกเอาจนได้

“เป็นไงค่ะทูนหัวของบ่าว  อาหารมื้อนี้อร่อยถูกปากไม๊ค่ะ”

เจ๊ดิ้งถามโอมทันทีที่จ่ายเงินค่าอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ครับ  อร่อยดีครับเจ้  อาหารมันถูกปาก”

“วันหลังก็อย่าลืมมาอุดหนุนเจ้อีกนะค่ะ  หล่อๆแบบนี้มันดีต่อใจผู้สูงวัยอย่างเจ้”

“ครับเจ้  พวกเราไปนะครับเจ้”

“โชคดีค่ะทูนหัวของบ่าว  ถึงแม้ว่าจะมีเจ้าของแล้วแต่เจ้ก็จะขอจองในใจนะค่ะ บ่ายบาย”

เจ๊ดิ้งเจ้าของร้านรีบโบกมือลาโอมทันที  แต่ก็ไม่วายหันมาหาตรีภพ

“เออนี้คุณน้องตรีขา  มีคาถาอะไรดีบอกเจ้บ้างสิ  เจ้อยากได้ผัวแบบนี้บ้าง?ทั้งหล่อทั้งใจดีแถมสายเปย์มาเอง”

เจ๊ดิ้งเดินเข้ามาสะกิดถามตรีภพทันที ก่อนที่ตรีภพจะเดินออกจากร้านไปเสียก่อน

“โอ้ยเจ้      ไม่มี  ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ”

“อิอิอย่าให้เจ้มีมั้งก็แล้วไปนะผัวหล่อๆระดับเดือนมหาลัยแบบนี้  แม่จะกัดไม่ปล่อยเลย”

“โอ้ยยเจ้พูดมาก  ไปล่ะ”

“โชคดีค่ะคุณน้อง  คืนนี้ขอให้ได้ขอให้โดนนะค่ะ  อย่าลืมเผื่อเจ้ด้วยนะขอสองที”

ก่อนที่ตรีภพจะขึ้นรถเจ๊ดิ้งก็ไม่วายจะพูดแซวให้ได้อายอีกครั้ง จนทำให้ตรีภพต้องรีบเดินตามโอมไปทันที

จากนั้นทั้งโอม ศักดิ์พินิจและตรีภพก็พากันขึ้นรถขับรถออกจากโรงเตี้ยมมุ่งหน้าไปยังหอพักของโอมทันที  ตรีภพเห็นรถของโอมวิ่งออกนอกเส้นทางที่จะกลับหอในซึ่งเป็นที่พักของตน  ตรีก็เริ่มโวยวายทันที

“อ้าวไอ้เชี่ยโอม    มึงจะพากูไปไหนเนี้ย?”

“ก็กลับห้องกูไง”

“ห้องมึง??  ใครบอกว่ากูจะไปห้องมึงไม่ทราบ”

“ก็กูพาไปอยู่นี้ไง   มึงจะตกใจอะไรว่ะ”

“กูไม่ไปเว้ยไอ้โอม  มึงไปส่งกูที่หอเลย  กูไม่ไปกับมึง”

“ใจเย็นๆน่าตรี  แค่กูมีอะไรจะให้มึงเฉยๆ”

“มึงจะมาเล่นลูกไม้อะไรกับกูอีก?”

“ไม่มีลูกไม้อะไรทั้งนั้นแหละตรี    แค่กูมีของจะให้จริงๆ   เชื่อกูสิตรี ไถ่โทษที่ผิดนัดกับมึงมาตลอดไง”

จากนั้นโอม ศักดิ์พินิจก็พาตรีภพมายังห้องพักของเขา  ห้องที่ตรีภพมีความคุ้นเคย  พอเขาได้กลับมาอีกครั้งความรู้สึกเดิมๆก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาในหัวใจทันที

“จะอาบน้ำก่อนไหมตรี?”

โอมถามตรีออกมาด้วยน้ำเสียงที่นุ่มทุ่มน่าฟังจริงๆ  ทำให้ตรีเผลอมองตาของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง

“อะ เออ    คือว่า     นะ ไหน มะมึง  บอกว่ามีของจะให้ กะ กูไง?”

“อืม  ถ้ามึงไม่อาบน้ำงั้น  กูขออาบน้ำแป๊บนะ  เดี๋ยวอาบเสร็จจะเอาให้ มึงรอได้ใช่ไหม?”

“อืม”

จากนั้นโอมก็เข้าห้องน้ำไป  แต่สักพักตรีภพก็ต้องตกใจเพราะได้ยินเสียงโอมร้องออกมาอย่างดัง เหมือนคนกำลังเจ็บปวด

“โอ้ยยยย”

“!!!!!???”

ตรีภพรีบตรงไปยังประตูห้องน้ำภายในห้องของโอมทันที  เขาไปถึงก็รีบเคาะประตูโดยด่วน

“ตุบ  ตุบ”

“โอม    ไอ้โอม   มึงเป็นไรเปล่าวะ”

“ปัง  ปัง  ปัง”

“โอม  มึงได้ยินกูไหม  ตอบกูสิวะ  โอมมึงเป็นไร”

ตรีภพรีบเอามือไปบิดลูกบิดห้องน้ำปรากฏว่าประตูห้องน้ำล๊อคเสียแล้ว

“แครกะๆ  แครกะๆ ปัง  ปัง ”

“โอม   โอม   มึงได้ยินเสียงกูไม๊”

ตรีภพร้องตะโกนถามโอมด้วยความเป็นห่วง  แต่ก็ไร้เสียงตอบรับกลับมาจากคนที่อยู่ข้างในห้องน้ำ

“ไอ้เชี่ยโอม  มึงอย่าเล่นแบบนี้สิวะ  กูใจคอไม่ดีนะเว้ยยยย  โอม  ไอ้โอม  มึงได้ยินเสียงกูไม๊?”

“ปัง ปัง  ตุบ ตุบ”

ตรีภพใช้ทั้งกำปั้นและฝ่ามือทุบประตูห้องน้ำ พร้อมตะโกนเรียกโอมแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาเช่นเคย  จากนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้แรงถีบประตูห้องน้ำออกด้วยแรงอันมหาศาลของตัวเอง

“ ปัง     ผลัก.....”

จากนั้นตรีภพก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ   แต่พอเขาเข้าไปในห้องน้ำก็ปรากฏว่าไม่เห็นแม้แต่ร่างของโอมเลย

“โอม  มึงอยู่ไหน  มึงอย่าเล่นอะไรแบบนี้สิวะ   กูใจคอไม่ดีนะเว้ย  ไอ้บ้า มึงเล่นเชี่ยไร”

แต่แล้วจู่ๆสายน้ำก็พุ่งตรงจากฝักบัวมายังตัวของตรีภพทันที ทำให้ร่างของเขาเปียกโชกไปด้วยน้ำ

“โอ้ยยยย  โอมมึงทำบ้าอะไรวะ  กูเปียกหมดแล้ว”

จากนั้นโอมก็เข้ามากอดตรีจากด้านหลัง  สายน้ำที่กระเด็นมาเข้าตาของตรี ทำให้เขามองโอมไม่ถนัดนัก  จึงเป็นเหตุให้โอมเข้ามากอดตรีภพได้ง่ายจากที่ซ่อนตัวในห้องน้ำ

“กูก็แค่อยากจะอาบน้ำกับมึงสองต่อสอง”

“มึงเล่นแบบนี้กูตกใจน่ะโอม”

“กูแค่อยากให้เราตื่นเต้น”

“ตื่นเต้นแบบนี้  มึงไม่กลัวกูหัวใจวายตายเสียก่อนเหรอ?”

“กูรู้น่าตรี  ว่ามึงไม่ได้อ่อนแอแบบนั้น”

“แต่มึงทำให้กูตกใจน่ะ”

“กูขอโทษ  แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้  เราจะได้อาบน้ำด้วยกันไหม?”

โอมพูดเสร็จก็จับตัวของตรีหันมาหาตัวเอง  พร้อมกับโอบกอดร่างของตรีเข้ามาอย่างอ่อนโยน  ซึ่งตอนนี้โอมมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวห่อหุ้มท่อนร่างไว้เท่านั้น  โอมค่อยๆใช้มือเลื่อนขึ้นมาปลอดกระดุมเสื้อของตรีภพอย่างเชื่องช้าพร้อมกับใช้สายตาจ้องตรีอย่างมีความหมาย โอมโน้มใบหน้าของเขาที่เปียกไปด้วยน้ำเข้ามาใกล้กับปากที่สั่นระริกของตรี จากนั้นปากของโอมก็ประกบงับริมฝีปากของตรีของชำนาญพร้อมกับลิ้นของโอมก็ครวญหาความหวานจากอีกฝ่ายทันที ทั้งสองต่างแลกลิ้มชิมรสสวาทกันอย่างหนักหน่วงด้วยแรงปรารถนาในกาย   มือของโอมก็ถอดเสื้อของตรีออกจากร่างที่เปียกทันที เมื่อเสื้อถอดออกหมดแล้วโอมก็จัดการถอดกางเกงของตรีต่อโดยไม่ให้ความปรารถนาต้องหยุดลง  ตอนนี้ร่างกายของทั้งคู่เปลือยเปล่า  โอมค่อยๆจับคลึงเอวของตรีด้วยฝ่ามือใหญ่ของตัวเองลูบไล้ไปมาจนพอใจ  ก่อนที่เขาจะใช้ลิ้นตวัดเลียหัวปทุมสีชมพูของตรีวนไปมาอย่างหลงไหลในไฟราคะ

“โอ้ววววซีสส  อู้ยยย โอมกูเสียวจนจะทนไม่ไหวแล้วอ่าส์”

โอมค่อยๆใช้ลิ้นเลียไล่ขึ้นไปจนถึงลำคอของตรีพร้อมกับกดงับตรงซองคอของตรีอย่างเมามันพร้อมกับมือก็อยู่ไม่เป็นสุข  โอมค่อยๆใช้นิ้วสำรวจประตูถ้ำของตรีอย่างชำนาญการทำให้ตรีต้องครางออกมาเพราะความเสียวพร้อมกับถ่างขาออกให้พร้อมรับกับมังกรยักษ์ของโอม

“อ่า....โอ้ยยย  ซีชชชช”

“ตรี  ตอนนี้น้องชายกูมันจะไม่ไหวแล้ว  แข็งจะเกร็งไปหมดเลยโอ้  ซีสสส”

โอมค่อยๆจับมังกรยักษ์ยัดเข้าปากถ้ำของตรีอย่างค่อยๆ พร้อมท่ากวางเหลียวหลังทันที

“กึก.....”

“โอ้ย  อูยว์  อ่าสสส”

มังกรยักษ์ของโอมเข้าถ้ำที่มืดมิดของตรีแล้วจากนั้นโอมก็เร่งเครื่องยนต์เต็มสูบพร้อมระเบิดแรงดันให้เต็มที

“ตับ... ตับ     ตับ ตับ  ตับ”

“โอ่  อ้า   อูยยว์  ซีส  อ่า”

“โอม   โอ้ยยยเสียวมากๆเลย”

“ชอบไม๊ตรี    โอ้วว  อูยว์”

“อ่าส์  โอ้ยยย  ซีสสสส  โอม  โอม   กูจะไม่ไหวแล้วอ่าส์”

จากนั้นพายุลูกใหญ่ก่อเริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อเมฆตั้งเค้าดำมหึมา จากนั้นทั้งสายฝนและกระแสไฟจากร่างกายของทั้งคู่ก็พร้อมปลอดปล่อยพลังงานที่เก็บไว้ออกมาสู้โลกภายนอก  จนน้ำทะเลเจิงนองเต็มพื้นห้อง

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา