ลมหวาน ป่าหนาว

9.2

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.46 น.

  42 ตอน
  8 วิจารณ์
  70.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 20.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

23) พาร์ทของตรี (อดกลั้น)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     เช้ามืดของวันเสาร์ที่แสนจะสบาย  ผมนอนกลิ้งอยู่บนที่นอนเนื่องจากว่าวันนี้ไม่มีซ้อมกีฬาแต่ผมก็ตื่นเป็นปกติ ไหนๆไม่ได้ไปซ้อมวอลเลย์บอลแล้วก็ขอนอนแบบชิวๆหน่อยเถอะ ส่วนไอ้เวฟรูมเมทของผมมันกลับบ้านที่ต่างจังหวัดตั้งแต่เย็นวันศุกร์แล้วจึงทำให้ผมไม่ต้องเกรงใจใครอีก แต่แล้วจู่ๆไลน์ของผมก็ดังขึ้นมาทันที  ติ๊งต่อง  ติ๊งต่อง 
Om  pheang  :  ทำไรอยู่ว่ะ
Om  pheang  :  วันนี้กูรู้มึงไม่ได้ไปซ้อมกีฬา
Om  pheang  :  ออกมาหากูได้ไหม
ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูก็เห็นข้อความไลน์ของไอ้โอม แต่ผมไม่ยอมเปิดอ่านกลัวมันจะรู้ว่าผมเห็นไลน์มันแล้วไม่ตอบ  ติ๊งต่อง  ติ๊งต่อง
Om  pheang  :  ถ้ามึงไม่เปิดอ่าน กูจะบุกไปถึงห้อง
Om  pheang  :  อย่าให้กูโมโห
ผมเห็นข้อความไลน์ของไอ้โอมอีกครั้งเลยจำใจต้องเปิดอ่านไลน์มันทันที ไม่ได้กลัวมันนะครับ แค่ไม่อยากมีปัญหาเฉยๆ
Tee Hua Sao  :  สัส
Tee Hua Sao  :  มีไรวะ  ว่ามา
Om  pheang  :  กูจะไปออกค่าย
Tee Hua Sao  :  มึงจะไปออกค่าย แล้วไง??
Om  pheang  :  มาหากูหน่อย
Tee Hua Sao  :  กูกลับบ้าน ไม่ได้อยู่หอ
Om  pheang  :  อ้าวเหรอ  กูไม่รู้ว่ามึงกลับบ้าน
Tee Hua Sao  :  อืม กูจะนอนต่อแล้ว
Om  pheang  :  เดี๋ยว ถ้ามึงตื่นแล้ว ช่วยถ่ายรูปขี้อายมาให้กูดูหน่อย
Tee Hua Sao  :  อืม สายๆจะถ่ายให้ แค่นี้นะ
งานเข้าแล้วครับ  ผมดันโกหกมันไปว่ากลับบ้าน  งานเลยเข้าผมจนได้  อ่อผมลืมเล่าให้ฟังว่าบ้านผมกับบ้านไอ้เชี่ยโอมอยู่หมู่บ้านเดียวกัน เป็นหมู่บ้านจัดสรรในตัวเมือง แต่บ้านผมกับบ้านมันอยู่คนละซอยเลยทำให้ผมกับไอ้เชี่ยโอมรู้จักกันตั้งแต่ตอนย้ายบ้านมาอยู่ในโครงการเดียวกัน ครอบครัวของผมเป็นข้าราชการกรมที่ดินทั้งพ่อและแม่  ผมมีพี่ชายอีกคนแต่พี่ชายผมเขาไม่ชอบรับราชการเลยออกมาทำงานอิสระรับจัดสวนตกแต่งบ้านทั่วภาคอีสาน ส่วนครอบครัวของไอ้โอมพ่อมันเป็นผอ.โรงเรียนรัฐ ส่วนแม่มันเป็นผอ.โรงเรียนเอกชน พูดง่ายๆคือโรงเรียนของมันนั้นล่ะครับ นี้คือสาเหตุที่ไอ้โอมมันมาเรียนสายครู ซึ่งก็เหมือนผมทำไมต้องมาเรียนคณะเกษตรศาสตร์ สาขาพืชไร่  ก็เพราะว่าพ่อแม่ทำงานกรมที่ดินครับ ครอบครัวของเราทั้งสองก็รู้จักกันประมาณหนึ่งจะว่าสนิทก็ไม่สนิทเท่าไรแต่ก็อยู่ในแวดวงข้าราชการเหมือนกันเลยทำให้ผมกับไอ้โอมได้ออกงานสังคมด้วยกันบ่อยๆจึงทำให้ครอบครัวเราสนิทกันตามมารยาททางสังคม  ผมก็เคยเข้าบ้านไอ้โอม ส่วนไอ้โอมก็เคยมาเล่นบ้านผม  นี้คือสาเหตุที่มันฝากผมไปถ่ายรูปเจ้าขี้อายคงจะแค่นี้จริงๆสำหรับเราสองคน  ขี้อายคือแมวพันธุ์เปอร์เซียของพี่สาวไอ้เชี่ยโอมครับ แต่ไอ้โอมก็รักแมวตัวนี้มากๆ  สายๆของวันนี้ผมก็คงได้กลับบ้านไปถ่ายรูปเจ้าขี้อายส่งไปให้ไอ้โอมดู  แต่ตอนนี้ผมขอนอนต่อก่อนเถอะ  ผมนอนต่อไปจนเกือบเที่ยงจึงตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวกลับบ้าน
“แม่ หวัดดีครับ”
“อ้าวตรี  ลมอะไรหอบลูกกลับบ้านได้”
“โอ้ยยแม่ก็พูดเกินไป  ตรีก็อยากกลับบ้านบ้างสิแม่”
“จร้า  แล้วนี้ทำไมมาจนป่านนี้  ทำยังกับมหาลัยกับบ้านอยู่ไกลกัน”
“ครับ พอดีไม่มีซ้อมกีฬาเลยตื่นสายหน่อย ”
“แล้วนี้กินอะไรมายัง”
“ยังเลยครับ ว่าจะมาขอข้าวเที่ยงอร่อยๆฝีมือแม่ทานนะครับ”
“อืม แต่ว่าตรีน่าจะโทรมาบอกแม่ก่อนว่าจะกลับบ้าน แม่จะได้เตรียมของโปรดไว้รอ”
“ไม่เป็นไรครับ แม่ของตรีทำอะไรก็อร่อยหมดเลย เอ่อแม่แล้วนี้พ่อไปไหนครับ”
“อ่อ พ่อพาคนงานไปจัดสวนให้โรงเรียนของป้ารัตน์ นะลูก”
พอได้ยินชื่อป้ารัตน์ผมนี้สะดุ้งเลยครับ  ก็ป้ารัตน์คือแม่ของไอ้เชี่ยโอม
“อ้าวแล้วพี่เดชไปไหนละครับ?”
“พี่เดชรับงานที่ต่างจังหวัดเลยต้องไปคุมเอง ส่วนงานทางนี้พ่อเขาเลยไปช่วยดูให้ก่อน”
“อืม ครับ”
จากนั้นผมก็ได้ทานข้าวอร่อยๆฝีมือของแม่ รสชาติแบบนี้ไม่ได้ทานนานแล้ว ทานข้าวไปก็พูดคุยกันไปตามประสาแม่ลูกละครับ จนผมได้เวลาขอตัวไปทำธุระให้ไอ้เชี่ยโอม  เลยปั่นจักรยานไปบ้านไอ้เชี่ยโอมทันที
ติ๋งต๋อง  ติ๋งต๋อง ผมกดกริ่งหน้าบ้านไอ้เชี่ยโอม ทันทีเมื่อไปถึงหน้าบ้าน
“อ้าวตรี  เข้ามาก่อนสิประตูไม่ได้ล๊อค”
“หวัดดีครับพี่อ้อม  นี้พี่อ้อมอยู่บ้านคนเดียวเหรอครับ”
พี่อ้อม คือพี่สาวคนเดียวของไอ้เชี่ยโอม พี่อ้อมเป็นหมอ รู้แล้วใช่ไหมครับว่าความหวังของครอบครัวจึงตกไปอยู่กับไอ้เชี่ยโอมที่ต้องสานต่อธุรกิจของครอบครัวนั้นก็คือเป็นผู้บริหารโรงเรียน
“จร้า พี่อยู่บ้านคนเดียว  พ่อกับแม่ไปโรงเรียน มาๆมานั่งทานน้ำก่อน”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วนี้ตรีมีธุระอะไรกับพี่ไหมจ๊ะ?”
“เออ  คือว่าโอมเขาให้มาดูเจ้าขี้อายนะครับ”
“อ่อ น่าจะอยู่แถวๆนี้นะเดี๋ยวพี่จะไปเรียกมาให้”
จากนั้นพี่อ้อมก็เดินไปเรียกเจ้าแมวนามว่าขี้อาย สักพักก็เดิมอุ้มเจ้าแมวตัวสีขาวขนยาวหน้าตาน่ารักออกมาด้วย
“มาแล้วจร้าเจ้าขี้อ้าย  เอาไปอุ้มเลยจร้าสงสัยจะคิดถึงตรีเหมือนกัน  น้องตรีเล่นไม่มาเที่ยวที่บ้านบ้างเลยตั้งแต่เข้ามหาลัย”
“คือว่าเรียนหนักนะครับพี่อ้อม  เลยไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไรแถมอีกอย่างต้องซ้อมกีฬาด้วยครับ”
“เอ่อจริงสิน่ะ พี่ก็ลืมไปตรีเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัยด้วยนี้”
“ผมขอถ่ายรูปหน่อยนะครับพี่อ้อม  พอดีโอมเขาอยากเห็นเจ้าขี้อายนะครับ”
“ตามสบายเลยจร้า  ว่าแต่ตรีไม่ได้ไปออกค่ายกับเขาเหรอ?”
“อ่อ คณะตรีไม่ได้ออกนอกสถานทีครับพี่อ้อม  รับน้องที่บ้านไร่ครับ”
“อืมจริงสิ บ้านไร่ก็กว้างจะตายเป็นร้อยๆไร่เนาะ จะจัดกิจกรรมอะไรก็สะดวก”
จากนั้นผมก็ถ่ายทั้งรูปทั้งคลิปของเจ้าขี้อายไปแบบไม่ยั้งเลย  ได้นั่งคุยกับพี่อ้อมสักพักผมก็ขอตัวกลับบ้าน มาถึงบ้านผมขึ้นห้องมานอนเลยครับวันหยุดแบบนี้ขอตัวนอนให้เต็มอิ่มสักหน่อยเถอะครับ ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง
อยู่ๆเสียงไลน์ผมก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
Om  pheang  :  ไหนรู้เจ้าขี้อาย
Tee Hua Sao  :  เดี๋ยวส่งให้
Om  pheang  :  ช้า
Tee Hua Sao  :  ให้กูทำอย่างอื่นบ้างสิ
Om  pheang  :  เล่นว่าวเหรอมึง
Tee Hua Sao  :  สติ๊กเกอร์กระโดดถีบ
Om  pheang  :  555555555
จากนั้นผมก็จัดการส่งคลิปเจ้าขี้อายพร้อมทั้งรูปไปให้ไอ้เชี่ยโอมทันที สักพักมันก็โทรมาหาผม
“มีอะไรอีก  ก็ส่งไปให้แล้วทั้งรูปทั้งคลิป”
“เปล่า แค่จะบอกว่าขอบใจนะ”
ทำไมน้ำเสียงมันถึงได้ฟังดูอบอุ่นแบบนี้ ไอ้เชี่ยโอมมึงจะพูดอะไรนึกถึงความรู้สึกของกูบ้างเถอะผมได้แต่รำพึงอยู่ในใจเพียงคนเดียว
“ตรี  ตรี  มึงฟังกูอยู่ปะว่ะ”
“ฟัง  ฟังสิ อืมไม่เป็นไร กูชินแล้วทำบุญกับคนขี้เมาอย่างมึง”
“ปากดีให้ตลอดนะมึง”
“เรื่องของกู  มีอะไรอีกไหมกูจะนอน”
“อะไรกันมึงจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน”
“วันหยุดกูใช่เปล่าวะมึง  กูจะทำอะไรก็ได้”
“มันก็ใช่  แต่มึงจะไม่ถามกูสักคำหน่อยเหรอ  ว่ากูมาออกค่ายเป็นไงบ้าง”
“ทำไมกูต้องถามมึง”
“อ้าวก็กูเป็นผัวมึง”
“ไอ้สัส ขืนมึงพูดอีกทีมึงได้เจอตีนกูแน่”
“กลัวตายละฮ่าฮ่า ตรีกูกำลังจะไปเดินตลาดในหมู่บ้านมึงอยากได้อะไรไหม”
“ไม่  แค่นี้นะกูจะนอน”
มันบอกความรู้สึกตอนนี้ไม่ถูกจริงๆครับ แต่ที่แน่ๆหน้าผมต้องแดงไปถึงหูแล้วละ
“อ้าว ไม่เอาไรจริงๆเหรอ เดี๋ยวจะซื้อไปฝาก”
“กูบอกว่าไม่  ก็คือไม่”
“งั้นกูไปตลาดกับไอ้ทุ่งก่อนนะ”
จากนั้นผมก็วางสายโทรศัพท์จากไอ้เชี่ยโอมทันที  แต่พอวางสายไม่ถึงสิบนาทีก็มีเสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นอีก
“มีอะไรอีกวะ  กูรำคาญ”
“อ้าวเอ้ยยยมึง  นี้กูป่าสักนะเว้ย  กูเพิ่งจะโทรหามึงเอง”
“อ้าวไอ้ป่าสัก มึงเองเหรอ  กูนึกว่าไอ้ขี้เมาบ้ากามที่ไหนเสียอีก”
“นั้นแน่  พวกมึงแอบกิ๊กกันตั้งแต่ตอนไหนวะ”
“กิ๊กกั๊กอะไรของมึง  พูดให้มันดีๆหน่อยป่าสัก  แล้วนี้มึงโทรมาหากูมีไรวะ”
“เปล่าก็แค่จะชวนมึงไปเที่ยวค่ายศิลปะ”
“เอ้ยยยย มึงบ้าเปล่าวะพวกนั้นเขาไปออกค่าย ไปรับน้อง ไปทำจิตอาสาแล้วมึงจะเสือกไปทำไม”
“กูอยากเห็นทุ่ง  ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ยังไง คือกูเป็นห่วงว่ะ”
“โอ้ยยมึงจะห่วงอะไรวะ ไอ้ทุ่งมันก็มีไอ้เชี่ยโอมอยู่ทั้งคน”
“กูรู้  แต่กูก็อยากไป  ไม่รู้ละมึงต้องไปกับกู เดี๋ยวกูไปรับ”
“อ้าวเอ้ยยยยไอ้ป่าสัก  ไอ้คุณหนูมึงอย่าเอาแต่ใจสิวะ ตอนนี้กูกลับบ้านเว้ย”
“พูดเหมือนบ้านมึงกับมหาลัยอยู่ไกลกัน  ขับรถไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงแล้วเดี๋ยวกูไปรับถึงบ้านเลย  อะๆๆไม่ต้องพูดเอาตามนี้”
“กูไม่ไปเว้ยยยวันนี้กูจะอยู่บ้านกับพ่อกับแม่กู มึงอยากไปก็ไปคนเดียว”
“ได้ ถ้ามึงไม่ไป ก็เตรียมตัวให้ดีๆแล้วกัน”
จากนั้นป่าสักก็วางสายไปจากผมดื้อๆเล่นเอาผมแปลกใจไม่ใช่น้อยที่อยู่ๆคุณหนูอย่างมันยอมอะไรง่ายๆแบบนี้กับเขาก็เป็น  แต่แล้วผมต้องคิดผิดอยู่ๆไลน์ผมก็เด้งขึ้นมา เป็นป่าสักที่ส่งรูปมาให้ผม
Pasak : ถ้ามึงไม่ไปรับรองรูปในเฟสไอ้โอมได้แท็กมึงแน่
ป่าสักส่งรูปในเฟซไอ้เชี่ยโอมมาให้ผมดู มันเป็นรูปไหเหล้าโทพร้อมแคปชั่นว่า “เห็นเหล้าไหนี้แล้วคิดถึงใครบ้างคน”
Tee Hua Sao  :  ไอ้เพื่อนเลวววววววววววว
Pasak :  555555555 เดี๋ยวกูไปรับนะเว้ยไอ้เพื่อนรัก
จากนั้นผมก็ต้องได้นั่งรถมาเป็นเพื่อนไอ้คุณหนูไฮโซ ไม่รู้เวรกรรมอะไรของผมก็ไม่รู้ที่ได้มาเป็นเพื่อนกับมัน ไอ้คุณหนูจอมวายร้ายยยยย
“ไอ้ตรีถึงแล้ววว ลงรถได้แล้วมึง”
“อ้าวถึงแล้วเหรอว่ะ??”
“ก็เอ่อสิวะ  ถึงแล้ว”
จากนั้นผมกับป่าสักก็เดินเข้ามายังบริเวณโรงเรียนที่พวกเอกศิลป์มาเข้าค่ายมองๆดูบรรยากาศแล้วก็น่าสนุกเพราะตอนนี้เห็นมีรำวงชาวบ้านมาให้ความสนุกสนานกับนักศึกษาอย่างเป็นกันเองอยู่ที่โรงอาหารอีกด้านของโรงเรียน
“ไอ้ป่าสักเอาไงต่อวะ”
“มึงตามกูมาทางนี้เลย”
“อ้าวมึงจะไปไหน  เขาจัดงานอยู่ทางโรงอาหารไม่ใช่เหรอวะ”
“ไอ้ตรีเราแอบมา  ขืนมึงโผล่ไปมีหวังไอ้เชี่ยโอมโดมซ่อมแน่มึง”
“อ้าวแล้วงั้นมึงจะพากูไปไหนวะไอ้ป่าสัก”
“เอ่อตามมาเถอะน่าเดี๋ยวรู้เอง”
จากนั้นผมก็เดินตามหลังไอ้คุณหนูไฮโซไปตรงสนามฟุตบอลที่ใช้สำหรับกางเต้นท์ไว้นอนนั้นเอง
“อ่อ มึงจะแอบมารอเมียที่เต้นท์ว่างั้นเถอะ  แผนมึงนี้ชั่วมากๆเลยว่ะ”
“วิธีนี้แหละดีสุดแล้ว  ขืนเราให้พวกนั้นจับได้มีหวังไอ้โอมกับไอ้ทุ่งได้ตายพอดี”
“แล้วมึงจะรู้ได้ไงว่าเต้นท์ไหนเป็นของไอ้ทุ่งกับไอ้ตรีว่ะ”
“กูเป็นคนสั่งให้ลุงสนามเตรียมเต้นท์ให้ไอ้เชี่ยโอมเอง  แล้วทำไมกูจะไม่รู้ว่าเป็นเต้นท์ว่ะ  นั้นไงเจอแล้วเต้นท์นี้แหละมีผ้าสีแดงผูกไว้”
“โอ้ยยยไอ้คุณหมอหมาจอมเจ้าเล่ห์  สุดยอดความเลวเลยวะมึง”
“ไปๆเข้าไปมึงอย่าพูดมากเดี๋ยวมีคนมาเห็นเข้าจะยุ่งกันใหญ่”
ผมกับไอ้ป่าสักนั่งรอในเต้นท์ไม่นานเท่าไรก็มีเสียงคนเดินมา สงสัยงานเลี้ยงตอนรับนักศึกษาออกค่ายคงจะเลิกแล้ว นักศึกษาได้เวลาพักผ่อนแล้วแน่ๆ  พอรู้ว่ามีคนมาผมกับไอ้ป่าสักต้องรีบนอนเอาผ้าคลุมโปงทันทีเพื่อหลบไม่ให้ใครสังเกตุได้นั้นเอง  ผมนอนฟังเสียงคนที่กำลังเดินมายังเต้นท์กำลังคุยกันถ้าจำเสียงไม่ผิดน่าจะเป็นเสียงของไอ้ทุ่งกับไอ้เชี่ยโอมแน่ๆ
“เอ้ยยยโอม  มึงเห็นเงาอะไรอยู่ในเต้นท์เปล่าวะ”
“ไหน  ไม่เห็นมีเลย”
“เมื่อกี้กูเห็นเงาดำๆสองเงา  เหมือนคนนั่งคุยกันอยู่ในเต้นท์เลยนะเว้ย”
“โอ้ยยมึงตาฟาดแล้วไอ้เชี่ยทุ่ง  ไปๆเข้าไปนอนได้แล้วมึง”
พอสิ้นเสียงพูดของไอ้โอมกับไอ้ทุ่งก็มีเสียงคนเปิดเต้นท์เข้ามา
“เอ้ยยยไอ้โอม  มึงมาดูนี้สิ”
เป็นเสียงของไอ้ทุ่งเรียกให้ไอ้โอมมาดูพวกผมที่นอนหลบอยู่ในเต้นท์ภายใต้ผ้าห่มทันที
“เอ่อวะ  แล้วนี้ใครเมาแล้วมานอนเต้นท์เราวะเชี่ยทุ่ง??”
“เอาไงดีวะมึง  เปิดผ้าคลุมเลยไหม??”
“อืม  เอาแบบนั้นก็ได้จะได้รู้ว่าเป็นใครหลงเต้นท์มา”
ผมกับไอ้คุณหนูไฮโซนอนตัวเกรงเลยทีเดียวเมื่อถูกดึงผ้าห่มออกจากตัว “เอ้ยยยมาได้ไงวะเนี้ยยยย???”
เสียงไอ้ทุ่งอุทานออกมาอย่างตกใจที่ไม่คิดว่าจู่ๆผมกับป่าสักจะเล่นพิเรนทร์อะไรแบบนี้  มานอนรอพวกมันถึงในเต้นท์
“เซอร์ไพรส์มั้ยมึง”
เป็นคำพูดแรกที่ป่าสักพูดออกไปหลังจากที่ถูกจับได้มาแอบมานอนรอพวกมันในเต้นท์
“เซอร์ไพรส์บ้านป้ามึงสิ  เขามีกฎห้ามคนนอกเข้ามา”
เสียงไอ้ทุ่งเอ็ดไอ้คุณหนูไอโซอย่างไม่พอใจ ในระหว่างนั้นไอ้เชี่ยโอมก็ถือโอกาสมานั่งข้างๆผมทันที สายตามันมองมาที่ผมอย่างกับพึงพอใจในการมาของผมเป็นอย่างมากพร้อมกับยิ้มที่มุมปากที่มันชอบทำเวลาหว่านเสน่ห์ให้สาวๆมาหลงรักแต่กลิ่นเหล้านี้ก็ไม่แพ้สายตามันเหมือนกันเลยมาเต็มครับกลิ่นเหล้าโทนั้นเอง เหล้าไหนั้นที่โพสลงเฟซคงจะหมดเพราะมันแน่ๆ
“รู้แล้ว  แต่กูอยากมานี้”
เสียงไอ้คุณหนูไฮโซตอบไอ้ทุ่งกลับมาด้วยเสียงหงอยๆที่สุดจะเบาเพราะคงจะกลัวเต้นท์ข้างๆได้ยินหรือกลัวไอ้ทุ่งกันแน่ก็ไม่รู้???
“มึงนี้ติดนิสัยเอาแต่ใจตัวเองตลอดเลยนะป่าสัก  แล้วคิดไงไปลากเอาไอ้เชี่ยตรีมาด้วย”
“ก็ไม่มีเพื่อน  เลยไปชวนไอ้ตรีมาด้วยกัน”
“เอ่อไอ้ตรีมึงนี้ก็ใจง่ายเนาะ  ใครชวนไปไหนก็ไป”
ไอ้ทุ่งหันมาถามผมทันทีด้วยน้ำเสียงที่กัดกร่อนผ่านไรฟันมาแบบคุมสติความโกรธเอาไว้อย่างมาก  แต่ผมก็ยังไม่ทันได้ตอบคำถามของไอ้ทุ่งเลยไอ้เชี่ยโอมก็ส่งซิกว่ามีรุ่นพี่เดินมาตรวจความเรียบร้อยเสียก่อน
“เอ้ยยมีคนมา ชู่ว์”
ไอ้โอมพูดพร้อมกับคว้าเอาตัวของผมนอนราบไปกับพื้นทันที ผมยังตกตะลึงมึนงงอยู่มารู้ตัวอีกทีก็รู้สึกว่ามีผ้าห่มมาคลุมทั้งตัวพร้อมกับน้ำหนักตัวของไอ้เชี่ยโอมขี้เม้ามานอนทับร่างของผมเสียแล้ววววว  สายตาของไอ้โอมส่องเป็นประกายจ้องมายังผมพร้อมกับโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาของมันเข้ามาใกล้ๆ ปากของมันมาประกบปากของผมอย่างเร็วรวดพร้อมกับลิ้มก็แทรกผ่านพาเอาความหวานผสมกลิ่นเหล้าปะปนกันมามันทำให้จิตใจของของตอนนี้แตกกระเจิงควบคุมสติไม่ได้ ไอ้โอมดูดดื่มความหวานจากปากของผมจนพอใจถึงยอมถอนริมฝีปากอันแสนเย้ายวนนั้นออก
“มึงทำบ้าอะไรวะโอม”
“ชู่ว์ เบาๆเสียงหน่อยสิมึงเดียวไอ้สองคนนั้นก็ได้ยินหรอก”
“มึงออกจากตัวกูได้แล้วหนักเป็นบ้า”
“อย่าดิ้นสิตรี นิ่งๆเดี๋ยวมึงถูกจับได้ คราวนี้แหละได้อายไปทั่วมหาลัย”
พอไอ้โอมขู่แบบนั้นผมเลยต้องนอนนิ่งๆอัดกลั้นอย่างมากเพื่อไม่ให้ตอบสนองต่อการสัมผัสของไอ้โอม  ไอ้บ้านี้มันก็ไม่ยอมอยู่นิ่งๆมือของมันก็แสนจะซุกซนซอนไซไปทั่วร่างของผมแถมมันยังระดมจูบไปทั่วทั้งใบหน้าลำคอ มันค่อยเอามือล่วงมาข้างในเสื้อแล้วไล่ระดับสัมผัสอย่างแผ่วเบาจากเอวขึ้นมายังหัวนมมือของมันค่อยลูบแล้วบีบครึงอย่างอ่อนโยน ผมต้องข่มความรู้สึกไว้อย่างมากต่อการถูกกระตุ้นอารมณ์ด้วยลีลาร้อนแรงของไอ้โอม มือของมันค่อยๆไล่กลับลงมายังสะโพกล้วงลงไปที่ท้ายก้นของผมอย่างชำญาณ มีหรือที่คนอย่างผมจะไม่ตอบสนองรสสัมผัสแบบนี้มันช่างพิเศษยิ่งนักกลิ่นกายของไอ้โอมก็ช่างดึงดูดให้อารมณ์กระสันของผมตื่นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้อีกครั้ง แล้วจะทำอย่างไรดีละคราวนี้  รู้ว่าไม่เหมาะผมจึงต้องมีสติ
“โอม  พอเถอะกูขอร้อง กูจะไม่ไหวแล้ว”
“ชอบไหม”
“พอเถอะโอม”
“ตอบก่อนว่าชอบไหม”
“อืม”
“อืม  อะไรตอบมาว่าชอบไหม”
“ชอบ แต่มึงหยุดได้แล้วเห็นใจกูบ้าง”
“กูก็ต้องการมึงนะตรี”
“พอได้แล้ว เดี๋ยวจะหยุดไม่อยู่”
“ก็ได้  แต่กูขอนอนกอดมึงแบบนี้ทั้งคืนนะ”
“ไอ้บ้า มีแต่จะเอากับเอาเลยนะมึง”
“แต่มึงก็ชอบนี้ ชอบรสจูบของกู”
“เอ่อๆพอแล้ว อย่าพูดมาก”
“ได้ๆแต่ของหอมแก้มก่อนนะ”
จากนั้นไอ้โอมก็หอมแก้มผมทันที ผมนี้หน้าแดงครับอายสิครับก็ผู้ชายตัวโตๆสองคนมาเล่นปูไต่กันใต้ผ้าห่มแถมยังต้องเก็บเสียงอีกต่างหาก หลังจากนั้นไอ้โอมก็นอกกอดผมโดยจับเอาหน้าผมไปซบกับแก้มของมันเสียงลมหายใจของไอ้โอมค่อยๆดังสม่ำเสมอ สงสัยมันจะเหนื่อยมาทั่งวันแน่ๆแต่ผมสิครับ อารมณ์ดิบเพิ่งจะตื่นจะทำอย่างไรดีต้องนับหนึ่งถึงกี่ล้านจึงจะข่มตาให้หลับในคืนนี้ได้ อดกลั้นไว้ตรีภพ  อดกลั้นไว้ยู่บ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา