ลมหายใจ...แห่งรัตติกาล (dangerous man)

7.0

เขียนโดย sesom

วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 15.27 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,455 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560 11.13 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ตอนที่ 5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ทอมเปิดบ้านต้อนรับวินเซนและปาแปงในกลางดึกใบหน้าเขาดูเคร่งเครียดนักอาจเป็นเพราะความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ทอมเองไม่บอกเขาสักคำว่าโดนทำร้ายเรื่องอะไรชายหนุ่มทีท่ายียวนในวันนี้ใบหน้าเขาดูซีดเซียวนัก
 
“แล้วนี่มันตามมาหรือเปล่าก็ไม่รู้” ทอมเดินนำทั้งคู่เข้ามาหลังบ้านที่ต้องผ่านเวทีมวย ห้องฝึกซ้อมและต่อด้วยที่พักของทอม ชายหนุ่มเปิดประตูหลังบ้านเพื่อรับลมและพาวินเซนกับปาแปงมานั่งด้านหลังบ้าน
 
“สรุปว่าเป็นมันจริงๆ ใช่ไหมปาแปง”ทอมจุดบุหรี่ขึ้นสูบนั่งมองหญิงสาวตัวเปียกปอนเธอพยักหน้าก่อนจะเหลือบมองวินเซน
 
“โชคดีที่วินเซนไปทัน ไม่งั้นแกเสร็จฮาร์ดัสมันแน่”
 
“พี่รู้ได้อย่างไรว่าเป็นมัน” วินเซนเอ่ยขึ้น
 
“งานศพไอ้ปอล คนร่วมงานเยอะแยะโดยเฉพาะคนประเภทเดียวกันกับพวกมัน เสร็จงานได้ยินพวกมันพูดกันทั่วว่าน้องสาวไอ้ปอลสวยราวนางฟ้า” ทอมหัวเราะเบาๆ ก่อนเดินเข้ามาหาทั้งคู่
 
“พักผ่อนเถอะ นอนกันที่นี่แหละ ฉันจะไปสืบๆ ดูข้างนอกก่อนว่ามันเคลื่อนไหวอยู่หรือเปล่าจะได้ดูทางหนีทีไล่” ทอมพูดเพียงเท่านี้ก่อนจะมองทั้งคู่และเดินออกไป
 
วินเซนมองหญิงสาวที่เปียกปอนตรงหน้า แสงไฟสาดส่องใบหน้าหญิงสาวให้โดดเด่นชัดเจนนัก ดวงตากลมโตที่มีแววเว้าวอนเหลือบดูเขาเพียงครู่ก่อนจะเมินหน้าออกไป วินเซนได้มีโอกาสมองใบหน้างามชัดๆ ครั้งแรก หญิงสาวหน้าตาสะอาดสะอ้าน ความงดงามตามวัยและธรรมชาติสรรค์สร้างหญิงสาวออกมาได้อย่างสวยงาม เธอไม่มีหมวกแก็ปใบนั้น ไม่มีแจ็กเก็ตตัวเก่า เสื้อยืดสีเทาตัวใหญ่กับกางเกงขาสามส่วนแบบผู้ชายเปียกน้ำจนแนบเนื้อ ทำให้เขาเห็นได้ชัดว่าเธอค่อนข้างผอมเสียจริง ปากเล็กๆ แต่อิ่มสวยไหวระริกเล็กน้อย เธออาจจะหนาว หรือกลัวอย่างหนึ่งอย่างใด
 
“ฉันมีขนม เสื้อผ้า มาฝากเธอด้วยนะปาแปง” เธอมองเขาเพียงครู่ เหมือนจะพูดบางอย่างก่อนจะนิ่งเงียบไป
 
วินเซนจุดบุหรี่ขึ้นสูบก่อนจะมองไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดในเมืองที่มืดหม่นไม่แพ้กัน นี่หากเขาอยู่ที่ฝรั่งเศสตอนนี้เขาอาจจะกำลังนั่งทานอาหารชั้นดีและเจรจาธุรกิจ อาจจะไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงที่ผับดีๆสักแห่ง หรือเตรียมเข้านอนในคอนโดสวยๆ ใจกลางเมืองที่สะดวกสบายและปลอดภัย แต่เวลานี้เขายังอยู่อีกด้านของโลกใบนี้ ด้านที่สังคมแห่งหนึ่งยังไม่หลับใหล เสียงกรีดร้องของหญิงสาวหลายคนที่ไม่มีใครได้ยิน รวมไปถึงความดิ้นรนของเธอคนนั้น ปาแปง ผู้ที่ทำให้เขาเข้ามาที่เมืองดัฟนี่อีกครั้งด้วยความรู้สึกผิดในใจ
 
ชายหนุ่มนั่งมองกล่องอาหารที่เขาสั่งมาจากภัตตาคารชั้นดีเพื่อเตรียมมาให้หญิงสาว เขาให้เลขาฯ จัดการเสื้อผ้าดีๆ หลายชุดเพื่อมาให้เธอ ก่อนความรู้สึกนึกคิดจะแล่นไปไกลกว่านี้เสียงเปิดประตูด้านหลังก็ดังขึ้น เพียงครู่หญิงสาวก็เดินเก้ๆ กังๆ มานั่งข้างเขา วินเซนดับบุหรี่ลงก่อนจะเอนกายขึ้นนั่งจากเก้าอี้หวายตัวยาว เขามองหญิงสาวที่นั่งลงตรงม้าหินอ่อนตรงข้ามเขา
 
“ใส่พอดีไหม” สายตาคู่คมสำรวจร่างบางตรงหน้า เสื้อยืดผ้านิ่มสีชมพูพอดีตัวกับกางเกงตัวสวย เขามองใบหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้แสไฟส่องสว่างให้เห็นใบหน้านวลเด่นชัด ผมสลวยปล่อยลงมาล้อมใบหน้ารูปไข่นั่น เธอดูงดงามอ่อนเยาว์นัก เขายิ้มที่มุมปากหยักสวยไม่ได้เอ่ยสิ่งใด หากแต่ว่าปาแปงรู้สึกใจสั่นชอบกล
 
“วินเซน” ประโยคแรกของหญิงสาวตั้งแต่มาถึงที่นี่
 
“วินเซนทำไมคุณถึงกลับมาเร็วนัก พี่ทอมบอกว่าปีหน้าคุณถึงกลับมา”
 
“ทำไมเธอไม่ด่าฉันว่ามาอะไรตอนนี้หากฉันมาเร็วกว่านี้พี่ชายเธออาจจะไม่ตายก็ได้” เขาจับจ้องใบหน้าหญิงสาว เธอเบือนหน้าหนีเขาก่อนหันข้างให้ใบหน้างามแหงนเงยมองไปบนท้องฟ้าที่มืดมิดนั่น
 
“เมืองที่คุณอยู่มีดาวไหมวินเซน”
 
“มีมั้งเพราะฉันก็ไม่เคยมองมัน” เขาแหงนหน้าตามหญิงสาวก่อนจะเห็นเธอจับจ้องท้องฟ้านิ่ง
 
“ฉันจะต่อว่าคุณทำไมวินเซนในเมื่อคุณไม่ใช่คนตัดสินความตายให้พี่ชายฉันความจริงแล้วพี่ฉันตายก็ดีเหมือนกัน...” เธอหยุดพูดก่อนจะกอดเข่าตัวเองนิ่ง
 
“ไอ้พี่ชายบ้ามันมีแต่เรื่องมีแต่ปัญหาตายไปได้ก็ดี...” เธอเสียงสั่นเครือในตอนท้าย แต่เขาไม่เห็นใบหน้างามนั่น เธอแหงนเงยไปบนท้องฟ้าก่อนเขาจะเห็นตัวเธอสั่นเล็กน้อย
 
“ปาแปง..เอ่อ...ฉัน...ฉันซื้อของมาฝากเธอเยอะเลย” เขาลุกขึ้นยืนขยับมาใกล้ มือใหญ่อยากจะเอื้อมไปจับไหล่บางที่ไหวน้อยๆ นั่นแต่ก็ต้องชะงักไว้ เมื่อหญิงสาวหันมาหาเขา
 
“นี่ไงปาแปงนอกจากเสื้อผ้าและยังมีของกินด้วยนะ” เขานั่งลงข้างเธอ ก่อนจะหยิบถุงกระดาษหลายขนาดวางไว้บนโต๊ะ เขาเห็นเธอมองถุงกระดาษนั่นสลับกับใบหน้าเขา
 
“ สงสัยอะไรทานซิ นี่ทานข้าวสักครั้งหรือยังวันนี้” เธอมองชายหนุ่มตัวโตนั่น ก่อนจะยิ้มน้อยๆ
 
“ความจริงเธอยิ้มสวยนะปาแปง ถึงแม้จะไม่ค่อยยิ้มก็ตาม” เขาพูดทั้งที่ไม่ได้มองหน้าเธอ
 
“แค่ยิ้มสวยแต่คนไม่สวยว่างั้น”
 
“ใช่ ยัยขี้เหร่” เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะมองหน้าหญิงสาว ใบหน้างดงามที่ค่อนข้างซีดเซียว เธออมยิ้มน้อยๆ ตากลมโตมองดูเขาเพียงครู่ ก่อนจะจับถุงกระดาษเหล่านั้นมาเปิดออกดู
 
“เขาเรียกว่าอะไรหรือ”
 
“Quiche คีช”
 
“คีช” เธอทวนคำ
 
“ใช่ มันทำมาจากไข่ นม มีเนื้อและเนยแข็งด้วยนะ” เขาเลิกคิ้ว เห็นหญิงสาวจัดการอาหารตรงหน้าเข้าปาก ก่อนจะเหลือบมองเขาเล็กน้อย
 
“อร่อยไหม” เขาเห็นเธอพยักหน้าก่อนจะจัดการ “คีช” อย่างเอร็ดอร่อย
 
“นี่เค้กซูเฟลชอกโกแลต มันน่าจะอร่อยนะแต่ฉันไม่รู้ว่ามันอร่อยแค่ไหนเพราะฉันไม่กินช็อกโกแลต” เขาเห็นหญิงสาวพยักหน้าๆ ช้า หลังจากเธอทานคีชเสร็จก็หันมาจัดการขนมหวานตามที่เขาแนะนำต่อ เขามองหญิงสาวก่อนจะยิ้มน้อยๆ นี่เธอคงจะหิวจริงๆ
 
“ที่ที่คุณอยู่มีของอร่อยแบบนี้ทุกวันเลยหรือ”
 
“ใช่ ถ้ามีตังค์ซื้อ”
 
“คุณทำงานอะไรทำไมถึงได้ตังเยอะแยะมาซื้อของแบบนี้ได้ ขายอะไรหรือ”
 
“ฉันไม่ได้ขายของที่มีอยู่ในเมืองดัฟหรอก ฉันขายพวกอสังหาริมทรัพย์ เอ่อ ง่ายๆ ก็ลงทุนพวกบ้าน ที่ดินแล้วขายต่อประมาณนี้” เขาเห็นเธอพยักหน้าทั้งที่ยังเคี้ยวตุ้ย เขาไม่แน่ใจว่าเธอเข้าใจมันไหม
 
“พี่ชายฉันบอกว่าหากได้ส่วนแบ่งจากร้านปืนจะพาฉันไปเที่ยวนอกเมืองสักครั้ง แต่ก็เหมือนเดิมพี่ชายฉันเห็นเงินเป็นไม่ได้ เขาบอกว่าจะพาไปเที่ยวเมืองโมทาน คุณอยู่ที่นั่นไหมที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง”
 
“ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น ฉันอยู่ไกลกว่านั้น” เขาเห็นเธอพยักหน้าช้าๆ แต่เขารู้ดีว่าเธอไม่ได้รู้จักหรือนึกภาพสิ่งที่เขาบอกออกแน่ เมืองโมทาน เมืองที่ไม่มีสิ่งใดน่าสนใจ เมืองเล็กริมชายแดนแต่คงเป็นสิ่งเดียวที่พี่ชายเธอคาดการณ์ว่าจะเดินทางไปถึงได้ หรือจะเป็นชื่อเมืองเดียวที่ทั้งคู่เคยได้ยิน
 
“เธอจะทำอย่างไรต่อไป ฉันหมายถึงชีวิตเธอ”
 
“ก็ ก็ ไม่ทำอะไรนี่คะ คืนนี้อาจขอนอนที่นี่เช้าก็ขายบุหรี่ต่อ...โอ้...บ้าชิบ ฉันต้องกลับเข้าบ้านเพื่อไปเอาบุหรี่ก่อนจะออกมาขาย....”
 
“ไม่ใช่อย่างนั้นปาแปง ฉันหมายถึงพวกฮาร์ดัสมันตามตัวเธอ เธอจะทำอย่างไร” เขาน้ำเสียงเขาจริงจังพร้อมรอคอยคำตอบ เขาเห็นหญิงสาวมีทีท่าครุ่นคิดภายใต้แววตาเศร้าสร้อยนั่น ยังไม่ทันที่จะมีใครเอ่ยสิ่งใดออก เสียงเปิดประตูหน้าบ้านก็ดังขึ้น
 
“พี่ทอมคงมาแล้ว” เธอเปลี่ยนเรื่อง การจะเตรียมลุกขึ้นยืน
 
“ฉันจะถามพี่ทอมว่าจะให้ฉันนอนห้องไหน”เธอเตรียมจะเดินออกไปหากแต่เขากลับลุกขึ้นยืนในทันที
 
“เสียงนั่นมันมากันสองคน อาจไม่ใช่ทอม” เขาคว้าข้อมือบางไว้ ก่อนจะเตรียมหาที่หลบ
 
หากแต่ช้ากว่าเสียงนั่น!
 
มันเปิดประตูเข้ามาทันทีที่เขาทั้งสองจะเตรียมเดินออกไปด้านหลัง
 
“อีกก้าวเดียว ให้มันไวกว่ากระสุนกูไอ้วินเซน” มือใหญ่ที่กระชับมือบางชะงักงันกับเสียงเรียกที่ไม่คุ้นหูแต่แปลกว่าทำไมมันรู้จักชื่อเขาได้
 
“มันชื่อโนเอล มือขวานายใหญ่ เสียงกระซิบปนความสั่นเครือของหญิงสาว เธอมองใบหน้าเขาที่ดูสงบนิ่งก่อนจะหันกลับไปมองผู้มาเยือนช้าๆ
 
ภาพชายตรงหน้าสามนายในชุดแบบเดียวกันทุกคนหันอาวุธปืนสีดำวาวมาที่เขาและปาแปง
 
ร่างเล็กเบียดกายแนบชิดเข้าหาแน่ชัดว่าภัยร้ายนั่นกำลังจะมาเยือน
 
“ส่งเธอมาแกจะได้กลับไปในที่ที่แกมา” ชายที่ชื่อโนเอลข่มขู่
 
“เธอไม่เต็มใจพวกแกก็รู้” วินเซนจับจ้องพวกมันนิ่ง เขารับรู้ถึงการจนมุมของตัวเองดี เขามีเพียงมือเปล่ามีหรือจะสู้ทูตมรณะทั้งสามได้ โนเอลส่งรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม
 
“ฉันขอโทษปาแปง” วินเซนหันมาหาหญิงสาวใบหน้าเคร่งเครียดเขาเห็นหญิงสาวส่ายหน้าไปมาคล้ายว่าเธอไม่โกรธเขาหากปกป้องเธอไม่ได้หรือว่าเธอกำลังบอกเขาว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเธอก็จะไม่ไปกับพวกมัน วินเซนกลับมามองพวกมัน เขาบดบังหญิงสาวไว้ในสถานการณ์ที่ขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้เช่นนี้ เขามองมองเห็นช่องประตูเล็กด้านหลังและดูเหมือนว่าเธอก็จะเห็นมันเช่นกัน
 
“ฉันแลกผู้หญิงคนนี้กับอะไรได้บ้าง”
 
“ชีวิตแกมีค่ามากกว่าเด็กกะโปโลคนนี้”
 
“แล้วนายแกจะอยากได้เธอทำไม” วินเซนจับจ้องหน้ามันที่เดินเข้ามาหา เขาหันไปมองหญิงสาวที่แอบอิงอยู่ด้านหลังก่อนจะกระซิบแกมสั่งการ
 
“วิ่ง!”
 
เปรี้ยง!
 
ร่างเล็กวิ่งออกไปด้านหลังด้วยความเร็วพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของวินเซนที่ทรุดกายลงแนบพื้น ความปวดแปลบแล่นจากขาก่อนจะชาไปทั่วร่าง
 
เพราะนี้มันคือชีวิตจริงไม่ใช่นิยายที่พระเอกจะขี่ม้าขาว
 
ความปวดแผ่ไปทั่วร่างพร้อมลมหายใจที่ติดขัด
 
ทุกอย่างมันดูพร่ามั่วก่อนเสียงกรีดร้องนั่นจะดังกึกก้องเข้าไปถึงขั้วหัวใจ
 
เสียงกรีดร้องของเด็กคนนั้น ปาแปง
 
​ ทุกอย่างดูรวดเร็วบนความเจ็บปวด วินเซนพยายามยันตัวลุกขึ้นจับจ้องใบหน้าโนเอลที่ยืนเสยะยิ้ม เสียงคำรามจากเขาก่อนจะถลาไปกระชากคอเสื้อของโนเอล แต่ความปวดทำให้เขาทรงตัวยากนัก
 
ตุ๊บ! แล้วทุกอย่างก็ดับวูบลงเมื่อบางอย่างที่แสนรุนแรงรวดเร็วกระทบท้ายทอยของวินเซนอย่างจัง
 
ดวงตาคู่คมเริ่มขยับเปลือกตาอีกครั้งแม้จะยังมึนงงและเจ็บปวด เขาถูกโยนขึ้นบนกระบะรถยนต์พร้อมพวกมันอีกสองคนที่เข้ามาล็อกตัวเขาไว้
 
“ปาแปง” สิ่งเดียวที่สมองเขาสั่งการและอยากรับรู้ ก่อนเขาจะเห็นโนเอล เดินเข้ามามันยิ้มเหี้ยมเกรียมก่อนจะจ่อปลายกระบอกปืนสีดำวาวไปที่ ใบหน้าของวินเซน
 
“เสียใจคงจะไม่ได้เจอกัน เธอล่วงหน้าไปกับรถคันก่อนหน้าแล้ว เธอต้องรีบหน่อยเพราะนายใหญ่รอเธออยู่ ส่วนแก...” มันดันปลายคางวินเซนขึ้นด้วยปลายกระบอกปืน
 
“นายอาจจะไม่อยากเจอหรอก แต่จำเป็นวะ นายได้ปืนมาใหม่ยังไม่มีเป้าลองเลย” มันหัวเราะเบาๆ วินเซนหอบหายใจถี่ ชายสองคนล็อกแขนเขาแน่นขึ้นความเจ็บปวดจากบาดแผลยังแล่นไปทั่วร่างแต่เขาหาได้สนใจไม่ เพราะตอนนี้ภาพเด็กสาวปาแปงมันยังหมุนวนไม่จางหาย
 
รถยนต์เริ่มเคลื่อนตัวจากเมืองดิบเถื่อนเพื่อไปหาจุดมืดมิดยิ่งกว่าที่แห่งนั้นที่มีมัจุราชที่ชื่อนายใหญ่ฮาร์ดัสรออยู่ รถยนต์เร่งความเร็วก่อนที่เขาจะเห็นชายหนุ่มคุ้นตาวิ่งออกมาจากโค้งถนน
 
“ลาก่อนพี่ทอม” วินเซนเห็นทอมชะงักมองมาที่กระบะรถยนต์ที่แล่นผ่าน ก่อนเขาจะได้เห็นพี่ชายคนสนิทตะโกนสุดเสียง
 
“วินเซน” ทอมตะโกนลั่น ก่อนจะวิ่งตามรถยนต์ด้วยร่างกายที่ไม่สมบูรณ์นัก
 
"วินเซน”
 
วินเซนยิ้มจางๆเขามองต้นขาที่เลือดสีแดงฉาดที่ไหลไม่หยุดความอ่อนล้าและเจ็บปวดเริ่มถามหา รถแล่นผ่านถนนลัดเลาะเชิงเขา ดวงตาคู่คมเริ่มพร่ามัว ก่อนเขาจะดับวูบลงเขาทันได้เห็นเงาดำไหววูบของชายร่างสูงคนหนึ่ง มันวิ่งลัดเลาะตามแนวป่าทึบด้วยความเร็วคล้ายกับว่ามันกำลังตามรถยนต์ของเขาอยู่ แล้วทุกอย่างก็ดับวูบลง
 
..........................................ดอกแก้วสีส้ม,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
 
 
 
ติดตามข่าวสารได้ที่นี่หรือที่เพจ นามปากกาดอกแก้วสีส้ม
 
นิยายที่ลงยังไม่ได้เกลาและตรวจคำผิดนะคะ เรื่องนี้อัพไม่จบนะคะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา