ฟีลิกซ์ เอ็ดไมน์ตัน กับอสูรแห่งจันทรคราส
8.2
เขียนโดย Etmineton
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.15 น.
3 บท
0 วิจารณ์
5,223 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 23.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ตู้ไปรษณีย์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ การปิดเทอมของปีนี้ดีกว่าปีก่อนๆตรงที่ว่าฟีลิกซ์จะได้ไม่ต้องกลับไปเหยียบที่โรงเรียนนั้นอีกแล้ว
เหลือเวลาอีกตั้งสองเดือนสำหรับการหาที่เรียนใหม่ ฟีลิกซ์ไม่รู้ว่าเขาควรจะต่อมัธยมที่โรงเรียนไหนดี แต่เขาก็ยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะคิดเรื่องนั้น สิ่งที่เขาควรจะสนใจมากกว่าในตอนนี้ก็คือเรื่องจดหมาย
ฟีลิกซ์ถามแคทเธอรีนเป็นสิบๆครั้งว่าเธอได้แกล้งเขาหรือเปล่า ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ “ไม่” อีกอย่างแคทเธอรีนเป็นคนลายมือสวย ซึ่งต่างกับในจดหมายมาก ตอนที่เขาถามแววตาของเธอบริสุทธิ์และสื่อความหมายว่าเธอไม่ได้ทำจริงๆ ฟีลิกซ์จึงเลิกตื๊อเธอและนั่งคิดอยู่ว่าคำในจดหมายนั่นคืออะไร...
ไม่มีคำว่าสวอนเลตส์และแม็ลลิเนียมในอินเทอร์เน็ต ในจดหมายอัตตันนัดฟีลิกซ์ให้ไปเจอมันที่ร้านหนังสือตรงหัวมุมถนนแม็ลลิเนียม เมืองสวอนเลตส์ ซึ่งในแคนาดาไม่มีเมืองไหนที่มีชื่อแบบนั้นหรือใกล้เคียงกันเลย และถ้าจะให้ไปต่างประเทศภายในวันนี้ฟีลิกซ์คงทำไม่ได้ บางทีลายมือในจดหมายอาจจะแย่มากจนฟีลิกซ์อ่านชื่อเมืองผิดก็ได้
“ใครเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนี้เนี่ย” ฟีลิกซ์ถามตัวเอง พลางดูชื่อผู้ส่งในจดหมาย “อัตตันหรอ --- เดี๋ยวนะ ถ้าเกิดมีคนมาแกล้งฉันมันจะบังเอิญเกินไปมั้ยที่ชื่อคนส่งจะชื่อเหมือนหมาในความฝันฉัน... หรือว่าฉันคิดไปเอง...”
เขาพับจดหมายแล้วสอดไว้ใต้หมอน ฟีลิกซ์เดินไปหยิบของสีทองชิ้นเล็กมาจากโต๊ะ เขามั่นใจว่ามันก็เป็นของแบบเดียวกันกับในความฝันเหมือนกัน เขาเอามันขึ้นมาเขย่าๆราวกับว่ามันจะมีมนตร์วิเศษออกมา
“นี่ถ้าหมาพูดได้มีจริง แกก็คงจะลอยได้ใช่มั้ยเจ้ากระดูก ---“ ฟีลิกซ์บอก และราวกับว่ามันได้ยินเขา... เจ้ากระดูกสีทองหลุดออกจากมือฟีลิกซ์และลอยขึ้นกลางอากาศมาอยู่ในระดับสายตาของเขา ตอนนั้นฟีลิกซ์อยากวิ่งหนีออกมาจากห้องให้เร็วที่สุด แต่สัญชาตญาณบอกเขาให้ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ให้ขยับไปไหน
เจ้ากระดูกสีทองบินวนไปมารอบหัวฟีลิกซ์ มันส่งเสียงจิ๊ดๆออกมาเหมือนกับต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่าง --- จู่ๆ มันทำตัวตรงแด่วราวกับนึกอะไรออก แล้วร่อนตัวไปที่ประตูจากนั้นก็กระแทกเป็นการบอกให้ฟีลิกซ์เปิดประตูให้มันหน่อย
เขาเดินไปที่ประตูแล้วบิดกลอน ประตูห้องเปิดอ้าออก เจ้ากรดูกลอยออกมาข้างนอกทันที มันส่งเสียงจิ๊ดรัวๆเหมือนกับต้องการให้ฟีลิกซ์ตามมันไปด้วย
และเขาก็ทำอย่างงั้น เขาเดินตามมันลงไปที่ชั้นล่าง จากนั้นก็ออกไปข้างนอกบ้าน... โชคดีที่วันนี้พ่อแม่ไปทำงานไม่งั้นคงจะโดนเรียกถามแน่ๆว่ากำลังจะออกไปไหน --- มันพาเขาเดินมาเรื่อยๆจนถึงสี่แยกถนนใหญ่ ฟีลิกซ์เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เดินออกมาไกลจากบ้านมาก เขากำลังจะเดินกลับ แต่เจ้ากระดูกบินมาขวางเขาไว้
“หลบไปนะ” ฟีลิกซ์บอก เขาพยายามจะจับมัน แต่ว่ามันไวมาก มันบินไปรอบๆตัวเขาราวกับเป็นแมลงตัวหนึ่ง ด้วยความรำคาญฟีลิกซ์จึงบอกไปว่า “โอเคๆ ไม่ไปก็ได้”
มันหยุดกวน แล้วบินนำฟีลิกซ์ไปตรงหัวมุมทางเท้า ตรงนั้นมีตู้ไปรษณีย์ตั้งไว้อยู่ ฟีลิกซ์ยืนดูว่ามันจะทำอะไร --- มันทำตัวให้ลีบแบนลงแล้วสอดตัวเองเข้าไปในรูกุญแจที่ตู้ไปรษณีย์ก่อนที่จะเกิดเสียงดังแกร๊ก และประตูก็เปิดอ้าออก
“แกทำอะไรเนี่ย!” ฟีลิกซ์ร้อง โชคดีที่ตรงนั้นไม่มีใครยืนอยู่ “กลับมานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!”
แต่ดูเหมือนมันจะทำหูทวนลม มันส่งเสียงจิ๊ดๆแล้วลอยเข้าไปในตู้ แล้วทำเสียงดังปั้งๆ (ฟีลิกซ์รู้ว่ามันกำลังเอาตัวกระแทกผนังตู้อยู่) มันต้องการให้ฟีลิกซ์เข้าไปในนั้นด้วย.... สักพัก เมื่อฟีลิกซ์ไม่สนใจ มันก็เงียบเสียงลง
“ยอมแพ้แล้วหรอ” เขาถามมัน ไม่มีเสียงจิ๊ดๆตอบกลับมา ฟีลิกซ์รู้สึกผิดสังเกตจึงเดินไปดูที่หน้าตู้ว่ามันอยู่ไหน แต่ข้างในตู้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยนอกจากจดหมายกว่าร้อยฉบับที่อยู่ในตู้ และหลังจากนั้น
ตุ้บ!
เจ้ากุญแจ(กระดูก)กระแทกเข้าจากด้านหลังแล้วปิดประตูตู้ไปรษณีย์เสียงดังปั้ง จากนั้นจึงบินตามเข้ามาจากช่องเล็กๆที่เอาไว้ใส่จดหมาย
“แกทำอะไรเนี่ย” เขาพูดด้วยความโกรธปนตกใจ “ปล่อยฉันออกไปนะ”
“จิ๊ดๆๆๆๆ” มันส่งเสียงแล้วส่ายตัวไปมา ฟีลิกซ์เริ่มหัวเสีย เขาพยายามทุบประตูให้มันเปิดออก แต่ว่ามันล็อกไว้แน่นมาก ฟีลิกซ์มองผ่านช่องเล็กๆออกไปด้านนอกว่ามีใครอยู่มั้ยแต่ถนนก็ว่างเปล่า มีเพียงแค่รถเท่านั้นที่แล่นอยู่บนถนน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่อยู่ในรถไม่มีทางได้ยินเสียงของฟีลิกซ์
เจ้ากุญแจหัวเราะคิกคัก จนเมื่อมันพอใจมันก็หยุดกึก อยู่ๆ มันก็เริ่มหมุนตัวเหมือนเข็มนาฬิกาด้วยความเร็วจนกลายเป็นใบพัด ฟีลิกซ์รู้สึกราวกับว่าแรงโน้มถ่วงค่อยๆลดลง จดหมายหลายฉบับที่อยู่ในตู้ลอยปลิวไปมาจนบังหน้าฟีลิกซ์และทำให้เขามองไม่เห็นว่าด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง
ผ่านไปครู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย จดหมายทุกใบตกลงบนพื้นเหมือนเดิม หน้าของฟีลิกซ์เต็มไปด้วยแสตมป์หลายใบจากจดหมาย เขาค่อยๆดึงมันออกแล้วขยี้ตาให้รู้ตัวว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น
เจ้ากุญแจตกลงพื้นเหมือนเดิม ฟีลิกซ์เอามันขึ้นมาโยนดูเผื่อว่ามันจะลอยขึ้นอีก แต่บัดนี้มันกลายเป็นเพียงกระดูกแบบเดิมแล้ว เขาผลักประตูตู้อีกที ตอนนี้มันเปิดออกได้อย่างง่ายดาย
ฟีลิกซ์ก้าวเท้าออกมาจากตู้แล้วปัดจดหมายที่อยู่บนตัวออก ที่นี่ดูแปลกไปจากเดิม มีคนเดินอยู่บนถนนมากขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสนใจฟีลิกซ์ว่าเขาเพิ่งจะออกมาจากตู้จดหมาย ในทางกลับกันพวกเขากลับทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติ ชายคนหนึ่งเดินมาเก็บจดหมายที่ฟีลิกซ์ทำร่วงไว้กลับเข้าไปในตู้ จากนั้นก็เดินเข้าไปด้วยแล้วปิดประตู
ฟีลิกซ์ขมวดคิ้วด้วยความฉงน ถ้าไม่ติดที่ว่าเมื่อกี้เขาก็เพิ่งออกมาจากตู้ไปรษณีย์เหมือนกันเขาก็คงคิดว่าชายคนนั้นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เขามองรอบตัว...ที่นี่มีแต่ร้านต่างๆเรียงกันอยู่ตามริมถนน ไม่มีรถหรืออะไรทั้งนั้น คนที่นี่ดูจะนิยมเดินกันมากกว่า
ตรงกลางสี่แยก มีแท่นรูปปั้นแท่นหนึ่งตั้งไว้ ฟีลิกซ์เดินตรงไปหามันแล้วดูให้ชัดๆ --- ตรงข้างรูปปั้นมีข้อความสลักไว้ทั้งสี่ด้าน ซึ่งทุกๆด้านจะมีข้อความตัวบนเขียนเหมือนกันว่า “สวอนเลตส์” และข้อความรองลงมาก็จะแตกต่างกันไป ด้านแรกเขียนไว้ว่า โครซิเออร์ ด้านต่อมาเขียนว่า แม็ลลิเนียม
ฟีลิกซ์ไม่ได้อ่านอีกสองด้านว่ามีข้อความอะไรเขียนไว้อีก ความคิดความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวเขา
“ถนนแม็ลลิเนียม เมืองสวอนเลตส์” เขาเบิกตากว้าง ฟีลิกซ์มองไปทางด้านถนนแม็ลลิเนียม มันทอดยาวไปเรื่อยๆและมีคนเดินอยู่มากที่สุดจากสี่ถนน ตรงหัวมุมนั้นเป็นร้านหนังสือ...ถ้าฟีลิกซ์เข้าใจไม่ผิด ที่นี่ก็คงจะต้องเป็นที่ที่เขียนไว้ในจดหมายแน่ๆ
“ฉันต้องไปร้านหนังสือ” ฟีลิกซ์พูด เขาตรงไปยังที่นั่นทันทีโดยผ่านผู้คนมากมาย เขาเพิ่งสังเกตว่าคนที่นี่มีสีผมที่หลากหลายมาก บางคนก็มีลวดลายแปลกๆอยู่บนหัว แต่ถึงยังไงฟีลิกซ์ก็คิดว่ามันมีสไตล์อยู่เหมือนกัน
เขาเดินมาจนถึงหน้าร้านหนังสือ ชั่งใจอยู่หนึ่งนาทีก็จะดึงประตูกระจกแล้วเดินเข้าไปในร้าน (ซึ่งจริงๆประตูเขียนว่าผลัก)
ที่นี่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือมากมายที่แยกเป็นหมวดๆ ตรงใกล้ๆประตูมีเคาน์เตอร์ของคนขาย เธอยิ้มให้เขาอย่างใจดี (ซึ่งปกติคนมักจะส่งสายตาเกลียดชังมาให้มากกว่า)
ฟีลิกซ์เดินเข้าไปด้านในสุด มีคนมารอเขาแล้ว (ที่จริงไม่เชิงเป็นคน)
“อัตตัน!” ฟีลิกซ์พูด สุนัขพันธุ์ลาบาดอลขนสีเหลืองนั่งรอเขาอยู่
เหลือเวลาอีกตั้งสองเดือนสำหรับการหาที่เรียนใหม่ ฟีลิกซ์ไม่รู้ว่าเขาควรจะต่อมัธยมที่โรงเรียนไหนดี แต่เขาก็ยังมีเวลาเหลือเฟือที่จะคิดเรื่องนั้น สิ่งที่เขาควรจะสนใจมากกว่าในตอนนี้ก็คือเรื่องจดหมาย
ฟีลิกซ์ถามแคทเธอรีนเป็นสิบๆครั้งว่าเธอได้แกล้งเขาหรือเปล่า ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือ “ไม่” อีกอย่างแคทเธอรีนเป็นคนลายมือสวย ซึ่งต่างกับในจดหมายมาก ตอนที่เขาถามแววตาของเธอบริสุทธิ์และสื่อความหมายว่าเธอไม่ได้ทำจริงๆ ฟีลิกซ์จึงเลิกตื๊อเธอและนั่งคิดอยู่ว่าคำในจดหมายนั่นคืออะไร...
ไม่มีคำว่าสวอนเลตส์และแม็ลลิเนียมในอินเทอร์เน็ต ในจดหมายอัตตันนัดฟีลิกซ์ให้ไปเจอมันที่ร้านหนังสือตรงหัวมุมถนนแม็ลลิเนียม เมืองสวอนเลตส์ ซึ่งในแคนาดาไม่มีเมืองไหนที่มีชื่อแบบนั้นหรือใกล้เคียงกันเลย และถ้าจะให้ไปต่างประเทศภายในวันนี้ฟีลิกซ์คงทำไม่ได้ บางทีลายมือในจดหมายอาจจะแย่มากจนฟีลิกซ์อ่านชื่อเมืองผิดก็ได้
“ใครเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนี้เนี่ย” ฟีลิกซ์ถามตัวเอง พลางดูชื่อผู้ส่งในจดหมาย “อัตตันหรอ --- เดี๋ยวนะ ถ้าเกิดมีคนมาแกล้งฉันมันจะบังเอิญเกินไปมั้ยที่ชื่อคนส่งจะชื่อเหมือนหมาในความฝันฉัน... หรือว่าฉันคิดไปเอง...”
เขาพับจดหมายแล้วสอดไว้ใต้หมอน ฟีลิกซ์เดินไปหยิบของสีทองชิ้นเล็กมาจากโต๊ะ เขามั่นใจว่ามันก็เป็นของแบบเดียวกันกับในความฝันเหมือนกัน เขาเอามันขึ้นมาเขย่าๆราวกับว่ามันจะมีมนตร์วิเศษออกมา
“นี่ถ้าหมาพูดได้มีจริง แกก็คงจะลอยได้ใช่มั้ยเจ้ากระดูก ---“ ฟีลิกซ์บอก และราวกับว่ามันได้ยินเขา... เจ้ากระดูกสีทองหลุดออกจากมือฟีลิกซ์และลอยขึ้นกลางอากาศมาอยู่ในระดับสายตาของเขา ตอนนั้นฟีลิกซ์อยากวิ่งหนีออกมาจากห้องให้เร็วที่สุด แต่สัญชาตญาณบอกเขาให้ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ให้ขยับไปไหน
เจ้ากระดูกสีทองบินวนไปมารอบหัวฟีลิกซ์ มันส่งเสียงจิ๊ดๆออกมาเหมือนกับต้องการจะสื่อสารอะไรบางอย่าง --- จู่ๆ มันทำตัวตรงแด่วราวกับนึกอะไรออก แล้วร่อนตัวไปที่ประตูจากนั้นก็กระแทกเป็นการบอกให้ฟีลิกซ์เปิดประตูให้มันหน่อย
เขาเดินไปที่ประตูแล้วบิดกลอน ประตูห้องเปิดอ้าออก เจ้ากรดูกลอยออกมาข้างนอกทันที มันส่งเสียงจิ๊ดรัวๆเหมือนกับต้องการให้ฟีลิกซ์ตามมันไปด้วย
และเขาก็ทำอย่างงั้น เขาเดินตามมันลงไปที่ชั้นล่าง จากนั้นก็ออกไปข้างนอกบ้าน... โชคดีที่วันนี้พ่อแม่ไปทำงานไม่งั้นคงจะโดนเรียกถามแน่ๆว่ากำลังจะออกไปไหน --- มันพาเขาเดินมาเรื่อยๆจนถึงสี่แยกถนนใหญ่ ฟีลิกซ์เพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เดินออกมาไกลจากบ้านมาก เขากำลังจะเดินกลับ แต่เจ้ากระดูกบินมาขวางเขาไว้
“หลบไปนะ” ฟีลิกซ์บอก เขาพยายามจะจับมัน แต่ว่ามันไวมาก มันบินไปรอบๆตัวเขาราวกับเป็นแมลงตัวหนึ่ง ด้วยความรำคาญฟีลิกซ์จึงบอกไปว่า “โอเคๆ ไม่ไปก็ได้”
มันหยุดกวน แล้วบินนำฟีลิกซ์ไปตรงหัวมุมทางเท้า ตรงนั้นมีตู้ไปรษณีย์ตั้งไว้อยู่ ฟีลิกซ์ยืนดูว่ามันจะทำอะไร --- มันทำตัวให้ลีบแบนลงแล้วสอดตัวเองเข้าไปในรูกุญแจที่ตู้ไปรษณีย์ก่อนที่จะเกิดเสียงดังแกร๊ก และประตูก็เปิดอ้าออก
“แกทำอะไรเนี่ย!” ฟีลิกซ์ร้อง โชคดีที่ตรงนั้นไม่มีใครยืนอยู่ “กลับมานี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!”
แต่ดูเหมือนมันจะทำหูทวนลม มันส่งเสียงจิ๊ดๆแล้วลอยเข้าไปในตู้ แล้วทำเสียงดังปั้งๆ (ฟีลิกซ์รู้ว่ามันกำลังเอาตัวกระแทกผนังตู้อยู่) มันต้องการให้ฟีลิกซ์เข้าไปในนั้นด้วย.... สักพัก เมื่อฟีลิกซ์ไม่สนใจ มันก็เงียบเสียงลง
“ยอมแพ้แล้วหรอ” เขาถามมัน ไม่มีเสียงจิ๊ดๆตอบกลับมา ฟีลิกซ์รู้สึกผิดสังเกตจึงเดินไปดูที่หน้าตู้ว่ามันอยู่ไหน แต่ข้างในตู้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยนอกจากจดหมายกว่าร้อยฉบับที่อยู่ในตู้ และหลังจากนั้น
ตุ้บ!
เจ้ากุญแจ(กระดูก)กระแทกเข้าจากด้านหลังแล้วปิดประตูตู้ไปรษณีย์เสียงดังปั้ง จากนั้นจึงบินตามเข้ามาจากช่องเล็กๆที่เอาไว้ใส่จดหมาย
“แกทำอะไรเนี่ย” เขาพูดด้วยความโกรธปนตกใจ “ปล่อยฉันออกไปนะ”
“จิ๊ดๆๆๆๆ” มันส่งเสียงแล้วส่ายตัวไปมา ฟีลิกซ์เริ่มหัวเสีย เขาพยายามทุบประตูให้มันเปิดออก แต่ว่ามันล็อกไว้แน่นมาก ฟีลิกซ์มองผ่านช่องเล็กๆออกไปด้านนอกว่ามีใครอยู่มั้ยแต่ถนนก็ว่างเปล่า มีเพียงแค่รถเท่านั้นที่แล่นอยู่บนถนน ซึ่งแน่นอนว่าคนที่อยู่ในรถไม่มีทางได้ยินเสียงของฟีลิกซ์
เจ้ากุญแจหัวเราะคิกคัก จนเมื่อมันพอใจมันก็หยุดกึก อยู่ๆ มันก็เริ่มหมุนตัวเหมือนเข็มนาฬิกาด้วยความเร็วจนกลายเป็นใบพัด ฟีลิกซ์รู้สึกราวกับว่าแรงโน้มถ่วงค่อยๆลดลง จดหมายหลายฉบับที่อยู่ในตู้ลอยปลิวไปมาจนบังหน้าฟีลิกซ์และทำให้เขามองไม่เห็นว่าด้านนอกเป็นอย่างไรบ้าง
ผ่านไปครู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย จดหมายทุกใบตกลงบนพื้นเหมือนเดิม หน้าของฟีลิกซ์เต็มไปด้วยแสตมป์หลายใบจากจดหมาย เขาค่อยๆดึงมันออกแล้วขยี้ตาให้รู้ตัวว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น
เจ้ากุญแจตกลงพื้นเหมือนเดิม ฟีลิกซ์เอามันขึ้นมาโยนดูเผื่อว่ามันจะลอยขึ้นอีก แต่บัดนี้มันกลายเป็นเพียงกระดูกแบบเดิมแล้ว เขาผลักประตูตู้อีกที ตอนนี้มันเปิดออกได้อย่างง่ายดาย
ฟีลิกซ์ก้าวเท้าออกมาจากตู้แล้วปัดจดหมายที่อยู่บนตัวออก ที่นี่ดูแปลกไปจากเดิม มีคนเดินอยู่บนถนนมากขึ้น แต่ก็ไม่มีใครสนใจฟีลิกซ์ว่าเขาเพิ่งจะออกมาจากตู้จดหมาย ในทางกลับกันพวกเขากลับทำเหมือนว่ามันเป็นเรื่องปกติ ชายคนหนึ่งเดินมาเก็บจดหมายที่ฟีลิกซ์ทำร่วงไว้กลับเข้าไปในตู้ จากนั้นก็เดินเข้าไปด้วยแล้วปิดประตู
ฟีลิกซ์ขมวดคิ้วด้วยความฉงน ถ้าไม่ติดที่ว่าเมื่อกี้เขาก็เพิ่งออกมาจากตู้ไปรษณีย์เหมือนกันเขาก็คงคิดว่าชายคนนั้นต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ เขามองรอบตัว...ที่นี่มีแต่ร้านต่างๆเรียงกันอยู่ตามริมถนน ไม่มีรถหรืออะไรทั้งนั้น คนที่นี่ดูจะนิยมเดินกันมากกว่า
ตรงกลางสี่แยก มีแท่นรูปปั้นแท่นหนึ่งตั้งไว้ ฟีลิกซ์เดินตรงไปหามันแล้วดูให้ชัดๆ --- ตรงข้างรูปปั้นมีข้อความสลักไว้ทั้งสี่ด้าน ซึ่งทุกๆด้านจะมีข้อความตัวบนเขียนเหมือนกันว่า “สวอนเลตส์” และข้อความรองลงมาก็จะแตกต่างกันไป ด้านแรกเขียนไว้ว่า โครซิเออร์ ด้านต่อมาเขียนว่า แม็ลลิเนียม
ฟีลิกซ์ไม่ได้อ่านอีกสองด้านว่ามีข้อความอะไรเขียนไว้อีก ความคิดความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในหัวเขา
“ถนนแม็ลลิเนียม เมืองสวอนเลตส์” เขาเบิกตากว้าง ฟีลิกซ์มองไปทางด้านถนนแม็ลลิเนียม มันทอดยาวไปเรื่อยๆและมีคนเดินอยู่มากที่สุดจากสี่ถนน ตรงหัวมุมนั้นเป็นร้านหนังสือ...ถ้าฟีลิกซ์เข้าใจไม่ผิด ที่นี่ก็คงจะต้องเป็นที่ที่เขียนไว้ในจดหมายแน่ๆ
“ฉันต้องไปร้านหนังสือ” ฟีลิกซ์พูด เขาตรงไปยังที่นั่นทันทีโดยผ่านผู้คนมากมาย เขาเพิ่งสังเกตว่าคนที่นี่มีสีผมที่หลากหลายมาก บางคนก็มีลวดลายแปลกๆอยู่บนหัว แต่ถึงยังไงฟีลิกซ์ก็คิดว่ามันมีสไตล์อยู่เหมือนกัน
เขาเดินมาจนถึงหน้าร้านหนังสือ ชั่งใจอยู่หนึ่งนาทีก็จะดึงประตูกระจกแล้วเดินเข้าไปในร้าน (ซึ่งจริงๆประตูเขียนว่าผลัก)
ที่นี่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือมากมายที่แยกเป็นหมวดๆ ตรงใกล้ๆประตูมีเคาน์เตอร์ของคนขาย เธอยิ้มให้เขาอย่างใจดี (ซึ่งปกติคนมักจะส่งสายตาเกลียดชังมาให้มากกว่า)
ฟีลิกซ์เดินเข้าไปด้านในสุด มีคนมารอเขาแล้ว (ที่จริงไม่เชิงเป็นคน)
“อัตตัน!” ฟีลิกซ์พูด สุนัขพันธุ์ลาบาดอลขนสีเหลืองนั่งรอเขาอยู่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ