หยีกับเพชร
1) ตอน 1 จันทร์กระจ่าง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“หัวใจของหนูก็ยังเหมือนเดิมนะลูกหยีลุงหมอก็จ่ายยาเท่าเดิมนะ” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านหัวใจและหลอดเลือดกำลังตรวจคนไข้ด้วยความตั้งใจ นายแพทย์กสิณเป็นหมอประจำตัวของลูกหยีมาได้หลายปีแล้วเขายังจำได้ดีตอนที่เธอโดนหามเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินทั้งที่ยังใส่ชุดนักเรียนเขาคิดว่าหนูลูกหยีจะไม่รอดซะแล้วแต่เธอก็รอดมาได้และเติบโตเป็นสาวน้อยที่แสนน่ารัก
“ขอบคุณค่ะลุงหมอ”
“แล้วจะไปวันไหนล่ะอย่าลืมใบส่งตัวของลุงนะ” กสิณถามเด็กสาวที่กำลังจะไปเป็นเฟรชชี่ที่มหาวิทยาลัยและแน่นอนที่เธอต้องไปอยู่หอเพราะคงเดินทางไปกลับกรุงเทพ-เชียงใหม่ ทุกวันไม่ได้แน่ๆ
“อังคารหน้าค่ะลุงหมอแล้วใบส่งตัวก็จะเอาใส่รวมไว้กับเอกสารการเรียนค่ะหนูไม่ลืมแน่นอน”
“ลุงคิดถึงแย่เลยไม่ได้เจอหนูตั้งหลายปี” กสิณลูบหัวเด็กสาวที่เขาเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน
“หนูแวะมาหาลุงหมอแน่ค่ะ ยังไงหนูก็ต้องกลับบ้านอยู่แล้ว”
“เดินทางปลอดภัยนะลูกหยี” กสิณอวยพรให้คนไข้โชคดี
จันทร์กระจ่างหรือลูกหยี สาวน้อยหน้าใสอยู่ในวัยเฟรชชี่ดีใจเหลือเกินที่ความทุ่มเทตลอดสามปีในช่วงมัธยมปลายไม่ได้สูญเปล่าเธอมุ่งมั่นตั้งใจเรียนเพราะอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ติดและวันนี้เธอก็ทำสำเร็จแล้วเธอเลือกมหาวิทยาลัยสามแห่งคือภาคใต้ภาคเหนือและภาคอีสานในใจเธอไม่ได้อยากได้ที่ไหนเป็นพิเศษขอแค่ให้ติดหนึ่งในสามที่เลือกจะภาคไหนเธอก็ยินดีไปทั้งนั้นเพราะจุดประสงค์หลักก็คืออยากออกจากอ้อมอกพ่อแม่ไปมีชีวิตของตัวเองบ้าง
ช่วงมัธยมต้นเธอมักจะเหนื่อยง่ายทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็หอบกินวิชาพละจึงเป็นวิชาต้องห้าม เธอก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติพอขึ้นมัธยมปลายอาการก็หนักขึ้นบางครั้งแค่เดินเร็วๆ ยังต้องนั่งพักอยู่หลายนาที จนครั้งสุดท้ายที่เธอบ้าจี้วิ่งตามรุ่นพี่ที่แอบปลื้มแล้วก็ล้มพับกลางสนามบอลเหตุการณ์วันนั้นเป็นมุกตลกร้ายประจำตัวเธอตลอดมา
“วิ่งตามรุ่นพี่จนหัวใจรั่ว , รับได้ไหมถ้าหัวใจฉันรั่ว , หัวใจรั่วๆ ก็รักพี่ได้” นี่คือชื่อซีรี่ย์ที่ยัยจอยเพื่อนสนิทตั้งเอาไว้ล้อเลียนเธอและจากเหตุการณ์ครั้งนั้นรุ่นพี่ที่เธอวิ่งตามก็หันมาสนใจเธอซะด้วย เรียกว่าถึงจะโชคร้ายหน้าฟาดกลางสนามบอลให้ได้อายจนทั่วโรงเรียนแต่ก็ยังโชคดีได้ควงรุ่นพี่สุดฮอทอยู่ตั้งสองเดือนและเธอคงได้คบกับรุ่นพี่นานกว่านั้นถ้ายัยซาแมนธานักเรียนใหม่สุดเอ็กซ์ยังกะนางแบบวิคตอเรียซีเคร็ทไม่มาเข้าเรียนกลางเทอม ซีรี่ย์รักฉบับสาวน้อยหัวใจรั่วกับรุ่นพี่สุดหล่อจึงต้องจบลงก็ขนาดเธอเป็นผู้หญิงยังอยากจับยัยซาแมนธามาฟัดให้หนำใจหุ่นนี่แม่วัวพันธ์ชั้นดีจริงๆ นมเป็นนมก้นเป็นก้น
“เรียนเอกชนใกล้ๆ บ้านเราดีกว่าไหมลูก” อีกแค่สามวันจะเดินทางอยู่แล้วแม่ก็ยังไม่วายเกลี้ยกล่อมให้เธอเปลี่ยนใจ เธอแค่อยากไปมีชีวิตเป็นของตัวเองแค่ไม่กี่ปีเท่านั้นแล้วก็จะกลับมาเป็นนกน้อยในกรงทองเหมือนเดิม
“แม่สอนให้หนูอย่าเป็นคนเห็นแก่ตัวใช่ไหมคะ ถ้าหนูไม่ไปรายงานตัวก็เท่ากับหนูเห็นแก่ตัวเพราะกันที่เรียนไว้แต่ไม่ยอมไปเรียนหนูตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนักมาตลอดสามปีนี่คือผลของความพยายามของหนูนะคะแม่ แม่จะให้หนูโยนมันทิ้งไปแบบไม่ไยดีได้ยังไงคะ” ลูกหยีอธิบายกึ่งระบายความในใจให้มารดาฟัง เธอสู้อุตส่าห์อดหลับอดนอนอ่านตำราหามรุ่งหามค่ำยอมงดซีรี่ย์เกาหลีไม่ไปคอนเสิร์ตของนักร้องคนโปรด
“ก็แม่เป็นห่วงนี่ลูกหยี แม่มีลูกอยู่คนเดียวนะ”
“แม่อยู่กับหนูไม่ได้ตลอดกาลหรอกนะคะ หนูต้องหัดทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้วหนูอายุจะยี่สิบแต่ยังรีดเสื้อไม่เรียบเลย” สมัยที่พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันใหม่ๆ ที่บ้านมีป้าช้อยคอยดูแลทุกอย่างในบ้านให้ พอเธออยู่ประถมป้าช้อยก็กลับบ้านนอกไปทำไร่แม่จึงลาออกจากงานประจำและมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เธอไม่ค่อยได้หยิบจับทำงานบ้านสักเท่าไหร่เพราะมีป้าช้อยคอยทำให้ตลอด ช่วงที่ป้าช้อยไปแรกๆ เธอก็ช่วยแม่กวาดถูบ้านแต่แม่ก็สังเกตเห็นทันทีว่าเธอเหนื่อยง่ายมากและตั้งแต่นั้นเธอก็กลายเป็นไข่ในหินที่พ่อกับแม่หวงแหนเหลือเกิน
“ต้องโทรหาแม่ทุกวันนะ ห้ามไปกระโดดโลดเต้น จะลุกจะนั่งก็ระวังแล้ว…”
“หนูรู้ค่ะแม่ แม่พูดแบบนี้มาทุกวันจะเดือนนึงแล้วนะคะ หนูสัญญาว่าจะดูแลตัวเองดีๆ แล้วจบมาเป็นหมอฟันให้ได้ค่ะ” จันทร์กระจ่างให้คำมั่นกับมารดา
“แล้วลุงหมอว่ายังไงบ้าง”
“ปกติค่ะ ไม่มีอะไรแย่ลงและก็ไม่ดีขึ้นแค่ไม่แย่ลงก็ดีแล้วค่ะ” ลูกหยีพูดถึงอาการโรคหัวใจรั่วของตัวเองแบบไม่ทุกข์ร้อนอะไร เธอเฉียดความตายมาสองครั้งแล้วจึงแทบไม่รู้สึกตื่นเต้นกับมันอีกถ้าจะตายก็ขอให้อย่าทรมานนักก็พอ
จันทร์กระจ่างรู้ดีว่าชีวิตที่มีโรคประจำตัวแบบนี้คงจะไม่ได้มีอายุยืนยาวนักถึงจะกินยาตลอดแต่มันก็ทำได้แค่ควบคุมอาการไม่ให้หนักหรือกำเริบ เธอไปลงชื่อรอรับบริจาคลิ้นหัวใจไว้ผ่านมาสองปีแล้วก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าทางเดียวที่เธอจะหายเป็นปกติคือผ่าตัด ลุงหมอวิเคราะห์แล้วว่าเนื้อเยื่อของเธอจะเข้ากับลิ้นหัวใจของมนุษย์มากกว่าของเทียมซึ่งโอกาสที่คนจะบริจาคมันน้อยเหลือเกิน เธอจึงอยากใช้ชีวิตที่มีให้คุ้มค่าอย่างน้อยให้ได้จบมาเป็นหมอรักษาคนไข้ก่อนสักสามสี่ปีก็ยังดี
“ไม่ลืมใบส่งตัวนะ” ศศิธรย้ำกับลูกสาวอีกที
“ไม่ลืมค่ะ อยู่ในแฟ้มเดียวกับเอกสารรายงานตัวเข้ามหาวิทยาลัยเลยค่ะ”
“คุณพ่อมาพอดี” สองแม่ลูกจึงเดินไปรับ
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ” ลูกหยีไหว้บิดาแล้วหอมแก้มเป็นของแถมซะด้วย
“หวัดดีจ้ะ พ่อซื้อขนมร้านโปรดมาฝากด้วยนะของคุณมีลูกตาลลอยแก้ว ของลูกหยีมีมาการองกับลูกชุบ”
“ตามใจกันจริ๊งจริง” ศศิธรทำหน้าย่นใส่สามีที่เอาอกเอาใจลูกสาวเหลือเกิน
“เอ สงสัยแม่เขาไม่อยากกินข้าวเหนียวมะม่วงแน่ๆ ลูกหยีว่าไหม” ภวพลหันไปขยิบตาให้ลูกสาว
“แหม่ ก็ไม่บอกก่อนนี่คะว่ามีข้าวเหนียวมะม่วง” ศศิธรกอดแขนสามีแล้วพากันเดินเข้าบ้าน
“ลูกหยีพ่อต้องคุยกับหนูเรื่องนี้” อยู่ๆ คุณพ่อก็วางช้อนแล้วทำหน้าเครียด ลูกหยีนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนเก้าอี้ถ้าคุณพ่อออกปากว่าเธอไปไม่ได้ทุกอย่างก็เป็นอันจบเพราะคำสั่งของพ่อคือคำประกาศิต
“ค่ะพ่อ” ลูกหยีตอบเสียงอ่อย ทำไมพ่อกับแม่ต้องขัดขวางเธอขนาดนี้นะ
“พ่อกับแม่จะขับรถไปส่งหนูเอง” ภวพลบอกแล้วหัวเราะลั่นที่หลอกลูกสาวได้
“พ่ออ่ะ หนูหัวใจจะหยุดเต้น” ลูกหยีกุมหน้าอกแล้วเป่าปากด้วยความโล่งใจ
“แค่รั่วก็พอแล้วจ้ะยังไม่ต้องหยุดเต้น” ศศิธรบอกแล้วสามคนพ่อแม่ลูกก็หัวเราะกับมุกตลกของแม่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ