Not worth the birth
เขียนโดย Blue_Bird
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 14.44 น.
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 21.20 น. โดย เจ้าของนิยาย
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกริ๊งงงงง กริ๊งงงงงงง
เสียงออดโรงเรียนดังขึ้น ทำให้รู้ว่ามันคือเวลาเลิกเรียน ร่างสาวน้อยเดินเชื่องช้าเหมือนกับเบื่อโลก มีคนเดินชนเธอคนแล้วคนเล่าแต่ไมได้ทำให้เธอเดินเร็วขึ้นเลย กลับกันเธอยิ่งเดินช้ากว่าเดิมอีก เธอเดินช้าจนเธอหยุดเดินก่อนจะเข้าไปหลบให้คนเดินไปในห้องๆหนึ่ง เธอนั่งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้นจนเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลา5โมงแล้ว เธอมองโทรศัพท์ในมือตัวเองพลางถอนหายใจ เธอตั้งใจจะเดินออกจากห้องๆนั้นแต่ก็เกิดกลุ่มควันสีดำรอบๆห้อง ควันสีดำนั้นลอยไปลอยมากระทบพนังไปมาก่อนจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างของหมาป่าขนาดใหญ่ ที่สูงๆราวๆสองเมตรครึ่ง เรียกได้ว่าขนาดมหึมาเลยก็ว่าได้
“ไงสาวน้อย ยังไม่กลับอีกหรอ”เงาร่างนั้นถามเธอด้วยเสียงที่ทุ้มและแหบแห้งราวกับเสียงคำรามของสัตว์ป่า
“ไม่เกี่ยวกับโวลต์เสียหน่อย”เธอตอบราวกับเธอรู้จักมันดี
“แหมๆ อย่าทำท่าทางห่างไกลนักสิ”โวลต์พูดพร้อมกับเดินมาข้างๆตัวเธอ เธอถอยให้ห่างจากมันจนไปชนเก้าอี้
“ไม่มีอะไรไปทำหรือไง”เธอถามพร้อมกับถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะนั่งลง เมื่อร่างตรงหน้านั่งลงตรงหน้าเธอ
“แหมๆ ฉันก็แค่ถูกชะตากับเธอก็แค่นั้นเอง”ร่างนั้นพูดพร้อมกับเอาหัวของมันมาถูกับมือของเธอ เธอยอมรับการสัมผัสนั้นอย่างไม่รังเกียจ
“ไม่ต้องไปทำอย่างอื่นเลยหรือไง”เธอถามพร้อมกับที่หมาป่าร่างยักษ์ลุกนั่ง เพียงแค่มันนั่งหัวของมันก็แทบจะทะลุเพดาน
“ถ้าทำอย่างอื่นข้าก็ทำอยู่นี่ไงแม่สาวน้อย”เจ้าหมาป่านั่นพูดพร้อมกับใช้อุ้งเท้าเกาตรงแถวๆคอก่อจะมีสร้อยเส้นหนึ่งตกลงมา เป็นสร้อยที่มีเขี้ยวของหมาป่าร้อยผ่านเชือก
“ข้ามอบให้เจ้า เป็นเครื่องรางก็แล้วกัน”เจ้าหมาพูดก่อนจะแยกเขี้ยว
“ถ้าจะยิ้มไม่ต้องก็ได้ มันน่ากลัวนะ”เธอพูดพร้อมกับรับไว้ก่อนจะหย่อนลงในกระโปรงนักเรียน
“เจ้ามันปากคอเราะร้ายเหลือเกินเด็กน้อย”เจ้าหมาป่าพูดก่อนจะเอาหัวถูกับตัวของเธอ
“งั้นหรอ สโนวจะกลับแล้ว”เธอพูดพร้อมกับกระชับกระเป๋าสะพายนักเรียนสีดำ
“เมื่อก่อนเจ้ายังร่าเริงอยู่เลยนะแม่สาวน้อย เมื่อสามปีที่แล้ว”มันพูดพร้อมกับมองหน้าเธอ
“นั่นมันก่อนจะเกิดเรื่องต่างๆขึ้นนี่”เธอตอบมันก่อนจะเดินเลี่ยงมากออกไปทางประตู
“เจ้าอย่าลืมเสียล่ะ เจ้าเป็นที่ต้องการของปีศาจ”เจ้าหมาป่าพูด
“โวลต์เองก็ปีศาจไม่ใช่หรอ”เธอพูดพร้อมกับมองหน้าหมาป่าอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงช่วยเธอ
“แต่ข้าไม่ได้อยากเข้าร่วมสงคราม ถ้าข้าช่วยเจ้าพลังเจ้าก็จะช่วยข้าเช่นกัน”เจ้าหมาป่าพูดพร้อมกับเอียงคอ
“ไม่มีใครได้ใครเสียสินะ”เธอพูดเรียบๆ
“เจ้าจงจำไว้พวกที่กระหายสงครามต้องการเจ้า พวกที่ไม่ต้องการสงครามก็ต้องการเจ้า”เจ้าหมาป่าพูดทิ้งท้ายก่อนสลายตัวเป็นควันมาวนรอบๆตัวเธอก่อนจะค่อยๆสลายตัวไป
“มันก็ต้องการทั้งสองฝ่ายน่ะสิ แบบนี้จะไปดีตรงไหน”เธอบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินไปที่ทางออกโรงเรียน ตอนนี้เวลา5โมงครึ่งแล้ว เธอเดินไปเรื่อยจนเจอพ่อของเธอ ระหว่างทางที่เดินเธอเห็นคนเดินเต็มไปหมด เพียงแต่ร่างเนื้อไม่อาจแตะต้องได้ บางคนก็หัวเกือบหลุดออกจากบ่า คอนั้นพับไปด้านข้างเผยให้เห็นกระดูกข้อต่อตรงคอให้เห็นอย่างน่าสยดสยอง บางคนก็เลือดท่วมตัวใบหน้าเละจนดูไม่ออก บางคนก็เนื้อที่ใบหน้าเปิดจนเห็นโครงกะโหลก สำหรับเธอเรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติหลังจากฝันคราวนั้นนี่ก็ผ่านมาสามปีแล้ว
“เป็นไงบ้างยังมีคนมากวนใจอยู่หรือเปล่า”พ่อของเธอถามพร้อมกับลูบหัว
“ไม่แล้วล่ะพ่อ”เธอตอบก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซต์
“ดีแล้ว ถ้ามีอะไรมากวนใจบอกพ่อนะ”พ่อเธอบอกก่อนจะขี่รถกลับบ้าน พอถึงบ้านเธอก็ทำการบ้าน เธอได้ยินเสียงสวดมนต์ นั่นคือพ่อเธอกำลังสวดมนต์ของจีนอยู่ เธอทำการบ้านเสร็จก็อาบน้ำเตรียมตัวทานข้าว
“จะจบม.6แล้วจะเอาไงจะเรียนต่อไหม”พ่อเธอเริ่มต้นบทสนทนา
“ก็อยากเรียนนะ แต่ไม่รู้จะเรียนอะไรดี”เธอตอบพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก
“เอาแบบนี้ดีไหมลองหยุดไปสักปีแล้วค่อยคิด”พ่อเธอเสนอทางออก
“ก็ดีนะ”เธอตอบพร้อมกับทานข้าวที่เหลือ พอทานข้าวเสร็จทั้งสองก็แยกกันนอน แต่ว่าค่ำคืนของเธอช่างยาวนาน เมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญแวะเวียนมาหา กลุ่มควันสีดำลอยเข้ามาในห้องของเธอมันวนเป็นวงกลมรอบห้องก่อนจะค่อยๆกลายเป็นรูปร่างของค้างคาวตัวใหญ่มหึมา เพียงแค่กางปีกก็เกือบจะเท่าห้องนอนของเธอมันกระพือปีกเพื่อทรงตัวให้อยู่ในอากาศ
“ไงเซอร์ราปส์ มาทุกวันไม่มีงานการทำหรือยังไง”เธอถามด้วยเสียงที่ราบเรียบ
“ข้าก็มาคุ้มครองเจ้าไงเด็กน้อย”เสียงทุ้มบอกพร้อมกับเกาะหลอดไฟพร้อมกับห้อยหัวเหมือนค้างคาว
“เด็กน้อยงั้นหรือ”เธอทวนคำเนิบๆก่อนถอนหายใจ
“ถ้าไม่ติดว่าร่างกายมันไม่เติบโตขึ้นเมื่อเหตุการณ์ครั้งนั้นแล้วล่ะก็ สโนวเองคงไม่ติดอยู่ในร่างของเด็กหรอก”เธอพูดอย่างเย็นชา
“เจ้าเด็กน้อยเจ้านี่ไม่เหมือนเมื่อสามปีที่แล้วเลยนะ”เสียงทุ้มกล่าวก่อนจะถอนหายใจ
“ทำไมมีแต่คนพูดแบบนั้น”เธอมองเจ้าค้างคาวด้วยแววตาเลื่อนลอย
“เจ้าเปลี่ยนไปมากเลยเจ้าเด็กน้อย”เจ้าค้างคาวพูดพร้อมกับบินมาตรงหน้าเธอแล้วกระพือปีกทรงตัว แต่แม้จะบินอยู่แต่กลับไม่มีลมพัดเลยแม้แต่น้อย
“โตขึ้นใครๆก็เปลี่ยน”เธอตอบเสียงเรียบ
“นั่นมันก็จริงของเจ้า วันนี้ข้าจะมาบอกข่าว เจ้าจงเตรียมตัวไว้อีกไม่นานพวกปีศาจจะตามหาตัวเจ้าแทบพลิกแผ่นดิน จงระวังตัวไว้ให้ดี ข้าไม่อาจแน่ใจว่าข้าจะปกป้องเจ้าได้หรือไม่”เจ้าค้างคาวพูดจบก็ส่งเสียงก่อนจะมีควันกลุ่มหนึ่งลอยเข้ามาก่อนจะค่อยๆเผยร่างให้เห็นเป็นเจ้าค้างคาวที่ตัวเล็กเท่าค้างคาวปกติธรรมดาบินอยู่พร้อมกับสร้อยคอที่เรืองแสงสีขาวจางๆ มันเป็นรูปปริซึมที่โค้งงอเหมือนกับกรงเล็บ
“สิ่งนี้จะช่วยปกป้องเจ้า”เจ้าค้างคาวบอก มันพยักพเยิดให้ค้างคาวตัวเล็กเอาสร้อยไปให้เธอ
“สโนวมีสิ่งนี้แล้ว”เธอเอาของที่โวลต์ให้ออกมา
“ของหมาป่างั้นรึ เจ้าเก็บไว้นั่นแหละทั้งของข้าและของโวลต์ ข้อจะไปกับคุยโวลต์เอง”แล้วค้างคาวตัวนั้นก็กลายเป็นควันก่อนจะพุ่งออกไปสู่ราตรี เธอถอนหายใจพร้อมกับเอนตัวลงนอนก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทรา
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ