Eternal Blood 4 Black Witch Dimension
8.2
เขียนโดย OverWrite
วันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 00.37 น.
7 บท
3 วิจารณ์
8,773 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 00.10 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) จอมเวทย์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผมถูกลากมาจนถึงที่นี่อย่างช่วยไม่ได้ด้วยฝีมือของไอ้เฮนรี่
ที่นี่คือนอกหมู่บ้านที่ไม่มีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างเลย เป็นเพียงแค่พื้นที่กว้างที่เต็มไปด้วยหญ้าเขียวขจี
และตอนนี้มีเพียงแค่ผมกับเฮนรี่เท่านั้นที่อยู่ที่นี่
เฮนรี่เดินนำหน้าส่วนผมเดินตามหลัง
“ที่นี่แหละ”
“แล้วไหนก็อบลินล่ะ ไม่ใช่ว่าลีน่าบอกว่าอยู่ในป่าเหรอ?”
“เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปถึงในป่าหรอก”
“หมายความว่าไง?”
“ไม่ใช่ว่าเจ้ารู้อยู่แล้วรึ?”
ทันใดนั้นเองมันก็หันมาชี้นิ้วใส่ผม แล้วจู่ๆ ก็มีบางอย่างพุ่งตรงมาใส่หน้าผมอย่างรวดเร็ว ผมกลิ่งหลบมันไปด้านข้างได้อย่างเฉียดฉิว เมื่อหันกลับไปก็พบว่าพื้นดินบริเวณที่ถูกบางอย่างนั่นเข้าไป มีลักษณะที่เป็นหลุมขนาดเล็กและเศษดิน เศษหญ้ากระจุยกระจายพลางมีควันขึ้น
ผมหันหน้ากลับไปหามันแล้วเริ่มที่จะคิ้วขมวด
ไรวะ
“การตอบสนองรวดเร็วดีนิ สมกับเป็นนายเลยนะ…ริน”
“แล้วไงเป็นฉันแล้วมันทำไมวะ อยู่ๆ ก็มาโจมตีใส่”
เล่นอะไรของมันวะ เมื่อกี้ถ้าโดนถึงตายเลยนะ
“มันจะจริงรึที่ว่าเป็นนักเดินทางน่ะ ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นหรอก บอกความจริงมาซะ”
มาอีกแล้ว!
มันยิงบางอย่างที่เหมือนกันกับเมื่อกี้ใส่ผมไม่หยุด ผมทั้งหมุนตัวหลบ ทั้งกลิ่งหลบไปมา
พอกันทีชักจะทนไม่ไว้แล้วนะ!
“ถ้าเกิดตายขึ้นอย่ามาว่ากันนะ”
“ข้าก็กำลังจะเอ่ยแบบนั้นพอดีเลย”
มันยิ้มแสยะใส่ผม
ที่ยิงมาจากนิ้วมือของมันคงเป็นพลังเวทย์ธาตุลม
ตามนั้น
ผมหลบอีกสามสี่นัดแล้วจึงสวนกลับไป
“ดอร์…”
การชักปืนขึ้นมายิงอย่างรวดเร็วเป็นเทคนิคที่แพร่หลายในฝั่งตะวันตกของทางอเมริกา
กระสุนปืนพกของผมพุ่งไปหากลางกระบานของมันได้แม่นยำอย่างไรที่ติ แต่มันกลับปัดลูกปืนผมได้ด้วยนิ้วเดียวกันกับที่ใช้ยิงกระสุนลม
เสียววินาทีนั้นเองที่เหมือนกับเวลาได้หยุดลง ลูกตาของมันหันไปมองที่ปลายนิ้วที่เพิ่งถูกใช้กันลูกปืนของผมไป
เลือดค่อยๆ ไหลออกจากปลายนิ้วชี้นั้น
หน้าเปลี่ยนสี ไม่มีใบหน้าที่หลงเหลือความอวดดีแล้ว
ผมยิ้มแสยะคืน
ช็อกเลยสิไอ้คนไม่รู้จักปืน
มันกัดฟันกราบพลางกางมือทั้งสองออก
“เถาสู่เถา ธุลีสู่ธุลี”
อย่าบอกนะว่าจะใช้ไอ้ท่านั่น
ท่าที่งูยักษ์ขนาดใหญ่ดูท่าทางแข็งแกร่ง ก็ยังถูกเป่าให้เหลือแต่ส่วนลำตัวท่อนล่าง
ผมออกตัววิ่งสุดแรงชักมีดขึ้นมาเล็งไปที่คอของมัน ไม่นานเพียงไม่กี่วินาทีผมก็สามารถเข้าประชิดตัวของมันได้ ด้วยระยะเวลาการร่ายเวทย์ของมันที่ผมได้นับมาแล้ว
ท่านี้ใช้ หกวินาทีในการร่ายเวทย์
เมื่อเข้าใกล้มันได้ ผมก็ไม่ลังเลที่จะใช้มีดแทงเข้าที่คอของมันทันทีทั้งใบห้นาเหวอของมัน แต่ไม่ใช่ เรื่องกลับไม่ได้ง่ายอย่างมันที่ถูกผมแทงคอตัดหลอดลมตาย กลับกลายเป็นมันที่ไหวตัวทันยกเลิกเวทย์แล้วบล็อกมีดผมได้
ปลายมีดหันไปทางมันก็ถูกปัดออก ผมกลับตัวถีบไปที่กลางหน้าท้องมันแต่กับไม่เป็นผล เหมือนกับว่าตัวของมันจะถูกล้อมรอบไปด้วยพลังมานาเพื่อป้องกันการโจมตีทางกายภาพ
แต่มีม่านพลังแล้วยังจะต้องกลัวมีดแปลว่าไม่ได้ดีขนาดนั้น ผมลุกเข้าประชิดอีกครั้งไม่ทิ้งระยะให้มันได้ใช้เวทย์ คราวนี้พุ่งตัวไปข้างหน้าเอามีดหันข้างจะฟันไปที่มัน มันใช้แขนข้างซ้ายพยายามเคลื่อนมาบังอย่างที่ผมคิด ตอนนั้นเองมีดที่จะปะทะเข้ากับแขนของมันก็ถูกปล่อย ผมเปลี่ยนมาใช้มือข้างซ้ายรับมีดที่ตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงไว้แล้วลดตัวลงแทงหน้าท้องของมันด้วยมีดที่อยู่บนมือซ้าย
แต่ผลปรากฏว่าปลายมีดของผมที่แทงเข้าท้องมันกลับหักทันทีก่อนที่จะสัมผัสเข้ากับเสื้อมันด้วยซ้ำ
“!?”
“เกือบไป…”
แสดงว่ามันรีบเพิ่มมานาตรงบริเวณที่จะถูกแทงก่อนที่จะถึงตัวสินะ
ให้ตายเถอะ สู้ลำบากชะมัด
ตอนนั้นเองฝ่ามือของมันก็มาหยุดลงตรงหน้าของผม
“สายลมจงนำพา!”
หลบไม่ทัน!
ผมใช้แขนสองข้างมาป้องแต่กลับถูกแรงลมเหมือนดั่งพายุชัดกระเด็นออกไปไกล ตัวกลิ่งไถลไปกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ ตัวของผมเจ็บหนักลุกขึ้นมาอย่างลำบาก
เหมือนเลือดจะไหลออกปากด้วย
“เอาล่ะ คราวนี้จะบอกได้หรือยังว่าแกคือใคร”
“ถ้างั้นแล้วลองถามเจ้านี้สิ”
ผมยิงปืนไปที่มันก็ถูกมันใช้พลังเวทย์ป้องกันไว้ได้ ม่านพลังของมันขยายตัวออกจนกว้างขึ้นและเคลื่อนไหวดั่งมีชีวิต เป็นการไหวตัวของม่านพลังที่เหมือนกับการเคลื่อนไหวของส่วนหัวของแมงกะพรุน แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอก
ไม่มีทาง
ผมกระหน่ำยิงมันด้วยกระสุนปืนพกจนเหลือนัดสุดท้าย จังหวะที่มันกำลังตกใจกับความเร็วของสิ่งที่ไม่รู้จัก ผมก็รีบวิ่งไปหยิบไรเฟิลจู่โจมติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิด หันไปกระหน่ำยิงใส่มันทันที กระสุนเคลื่อนที่เร็วถูกปะทะเข้ากับม่านพลังอย่างต่อเนื่อง แต่เหมือนจะไม่สะทกสะท้านเลย
“คราวนี้ลองนี่หน่อยเป็นไง”
ผมเปลี่ยนมายิงลูกระเบิดใส่มัน เมื่อลูกระเบิดปะทะเข้ากับม่านพลังควันที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างทั้งสองก็ทำให้ตัวของมันถูกควันที่พวยพุ่งจากพื้นดินขึ้นบดบังทัศนวิสัยจนผมมองไม่เห็นตัวมัน
ทุกอย่างเงียบไปได้ไม่นานก็มีบังอย่างเกิดขึ้นภายในควัน
“ของเล่นเยอะจริงๆ นะ”
ผมยิงลูกระเบิดไปอีกนัดโดยไม่รอดูท่าที เมื่อเกิดการปะทะเข้าอีกครั้งลูกระเบิดก็แตกกระจุยพร้อมควันที่แตกตัวออกกระจายหายไปทันที เผยตัวของมันที่ไร้ซึ่งรอยขีดข่วน
บ้าจริง
ผมเล็งจะยิงอีกครั้งแต่ขาก็ถูกอะไรบางอย่างจับไว้ได้ วินาทีนั้นเองตัวของผมก็ถูกยกลอยขึ้นเหนือพื้นดินมาอยู่กลางอากาศ เมื่อกลับตัวหันมองไปที่มันก็เข้าใจ
ปลายนิ้วสองนิ้วของมันเป็นสีเขียว
เวทย์ควบคุมวัตถุ!
“ถ้าเจ้าถูกปล่อยลงมาจากความสูงระดับนั้น ร่างของเจ้าตอนตกลงสู่พื้นคงไม่น่าดูนัก ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าเป็นใครกันแน่”
จู่ๆ มันก็เปลี่ยนวิธีพูดซะงั้น
แต่ทำไมดูเข้าดีจังนะ
แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดอะไรแบบนั้น ว่าแล้วว่ามันแปลก มันสงสัยว่าผมอาจจะเป็นผู้มาจากต่างโลกเหมือนในข่าวลือสินะ
มันชักจะมากไปแล้วนะโว้ย
ผมเข้าใจสถานการณ์แล้ว และผมก็เข้าใจแล้วด้วยว่าที่ทำอยู่ทั้งหมดนี้มันเพื่ออะไรกัน
แต่ถึงแม้ว่าจะพูดออกไปตรงๆ มันก็คงไม่เชื่อหรอก
พนันได้เลยว่ามันกำลังคิดว่าผมเป็นศัตรูหรืออะไรสักอย่างโดยดูจากภาพลักษณ์ของผม
ให้ตายเถอะ แกจะทำให้ฉันโกรธไปถึงไหน
ถึงแม้ว่าจะยอมบอกชื่อไปหรือยอมบอกข้อมูลไป
มันก็ยังลบภาพลักษณ์ที่เจ้าเอกมันทำไปไม่ได้อยู่ดี
ในสายตาของมันผมคงเป็นตัวอันตรายที่อาจจำเป็นที่จะต้องกำจัด
และด้วยพลังของมันแล้ว
เรื่องนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วย
“แกอยากรู้สินะว่าที่จริงแล้วตัวฉันคือใคร”
“ใช่ข้าอยากจะรู้ ถ้าหากยอมบอกมาอย่างไร้ลูกเล่นแล้ว ข้าจะยอมปล่อยเจ้าไป”
“…ก็ได้…ตัวตนจริงของฉัน…ก็พ่อแกไง!”
ใครจะโง่เชื่อล่ะ!
ผมกระหน่ำยิงไปที่มันและตอนนั้นเอง ผมก็ยิงไปที่พื้นดิน หากแต่ไม่ใช่พื้น ตาของมันมองตามลูกกระสุนนัดท้ายสุดของปืนกลผม พามันให้หันไปสังเกตลูกระเบิดที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
ตอนนั้นเองที่ผมวิ่งเข้าไปปะทะกับมันในตอนแรกผมได้แอบปล่อยลูกระเบิดไว้ตรงพื้นก่อนที่จะถูกมันอัดด้วยเวทย์ลมจนกระเด็น
เป็นอย่างที่คิดเลย ม่านเวทย์ของมันไม่ได้กันของที่อยู่ในอาณาเขตอยู่แล้วแต่ป้องกันแต่ของที่จะมากระทบกับมันเท่านั้น
ด้วยเหตุผลนั้นเองลูกระเบิดของผมที่อยู่ที่พื้นตั้งแต่แรกจึงไม่ถูกเป่าให้หายไป
มิหนำซ้ำการขยายขนาดของม่านพลังเวทย์เพื่อป้องกันแรงของลูกระเบิดที่จะมากระทบกับตัวของมันก็ทำให้ระเบิดมือปลอดภัยขึ้นด้วย
เสร็จตูล่ะ!
กระสุนกระทบเข้ากับลูกระเบิดที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นมานานจนเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้เฮนรี่ที่เพิ่งรู้ถึงการมีอยู่ของมันได้ถูกแรงระเบิดนั้นจู่โจมเข้าอย่างตั้งตัวไม่ทัน ถูกระเบิดอัดเข้าด้านข้างจนเสียหลักล้มลงไปท่ามกลางหมู่ควันที่ฟุ้งกระจาย
ส่วนตัวของผมก็กำลังตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว
“เอาจริงดิ!!! เอาจริงดิ!!! เอาจริงดิ!!!”
ผมรีบหันปากกระป๋องปืนเล็งลงพื้นที่ตัวเองกำลังจะปะทะ ยิงลูกระเบิดออกไปปะทะเข้ากับพื้นดินส่งแรงต้านให้ตัวของผมที่ร่วงลงมาถูกแรงปะทะนั่นเข้า แทนที่จะตกลงมาตาย ตัวของผมเมื่อถูกแรงผลักมหาศาลเข้า ก็ตัวกลิ่งกระเด็นจนฝืนจับหลักหยุดหมุนไม่ได้
และเมื่อผมหยุดหมุนตัวกลิ่งกับพื้นแล้ว ก็ค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นอย่างสาหัสและค่อยๆ เดินไปหาร่างของเฮนรี่ที่เงียบไป ขนาดนั้นตัวของผมก็ชาไปหมดจนรับความรู้สึกไม่ได้ เหมือนว่าแรงหักล้างเมื่อตะกี้จะรุนแรงส่งผลกับร่างกายของผมจนสาหัสใช่เล่น
“เหมือนกระดูกจะหักเลย…”
คงไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้วล่ะ
และเมื่อผมไปถึงก็เห็นร่างของมันที่กำลังหลบนิ่งไม่ขยับ
ตายแล้ว?
ผมย่อเข่าลงก้มตัวลงแล้ว
จ่อเล็งปืนไปที่มัน ก็ถูกมันลุกขึ้นมากางฝ่ามือจ่อตรงหน้าผมอย่างรวดเร็ว
ฝ่ามือนั้นมีไอร้อนกระจายออกมา คงเป็นเวทย์ไฟที่พร้อมใช้แล้ว แต่หน้ามันก็มีกระสุนนัดสุดท้ายที่จะดับชีวิตของมันได้เหมือนกัน
“ข้าไม่คิดว่านี่จะเป็นบทจบที่ดีนักหรอกนะ”
“เห็นด้วย”
“ถ้างั้นเจ้ากับข้า เราไม่ไปหาร้านอะไรสักร้านนั่งดื่มนั่งคุยกันก่อนไหม?”
“เห็นด้วย ขอร้านกาแฟ”
“ถ้างั้นข้าก็รู้จักร้านดีๆ อยู่ร้านหนึ่ง”
“ตกลงตามนั้น”
พอผมพูดจบ เราทั้งคู่ก็ลดอาวุธแสนจะอันตรายของทั้งคู่ลง
ผมเก็บปืนและเขาก็สลายเวทย์ออกไปจากฝ่ามือ
ผมเดินไปหยิบกระเป๋าถือแล้วจึงหันกลับไป
“นำทางเลย”
ที่นี่คือนอกหมู่บ้านที่ไม่มีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างเลย เป็นเพียงแค่พื้นที่กว้างที่เต็มไปด้วยหญ้าเขียวขจี
และตอนนี้มีเพียงแค่ผมกับเฮนรี่เท่านั้นที่อยู่ที่นี่
เฮนรี่เดินนำหน้าส่วนผมเดินตามหลัง
“ที่นี่แหละ”
“แล้วไหนก็อบลินล่ะ ไม่ใช่ว่าลีน่าบอกว่าอยู่ในป่าเหรอ?”
“เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปถึงในป่าหรอก”
“หมายความว่าไง?”
“ไม่ใช่ว่าเจ้ารู้อยู่แล้วรึ?”
ทันใดนั้นเองมันก็หันมาชี้นิ้วใส่ผม แล้วจู่ๆ ก็มีบางอย่างพุ่งตรงมาใส่หน้าผมอย่างรวดเร็ว ผมกลิ่งหลบมันไปด้านข้างได้อย่างเฉียดฉิว เมื่อหันกลับไปก็พบว่าพื้นดินบริเวณที่ถูกบางอย่างนั่นเข้าไป มีลักษณะที่เป็นหลุมขนาดเล็กและเศษดิน เศษหญ้ากระจุยกระจายพลางมีควันขึ้น
ผมหันหน้ากลับไปหามันแล้วเริ่มที่จะคิ้วขมวด
ไรวะ
“การตอบสนองรวดเร็วดีนิ สมกับเป็นนายเลยนะ…ริน”
“แล้วไงเป็นฉันแล้วมันทำไมวะ อยู่ๆ ก็มาโจมตีใส่”
เล่นอะไรของมันวะ เมื่อกี้ถ้าโดนถึงตายเลยนะ
“มันจะจริงรึที่ว่าเป็นนักเดินทางน่ะ ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นหรอก บอกความจริงมาซะ”
มาอีกแล้ว!
มันยิงบางอย่างที่เหมือนกันกับเมื่อกี้ใส่ผมไม่หยุด ผมทั้งหมุนตัวหลบ ทั้งกลิ่งหลบไปมา
พอกันทีชักจะทนไม่ไว้แล้วนะ!
“ถ้าเกิดตายขึ้นอย่ามาว่ากันนะ”
“ข้าก็กำลังจะเอ่ยแบบนั้นพอดีเลย”
มันยิ้มแสยะใส่ผม
ที่ยิงมาจากนิ้วมือของมันคงเป็นพลังเวทย์ธาตุลม
ตามนั้น
ผมหลบอีกสามสี่นัดแล้วจึงสวนกลับไป
“ดอร์…”
การชักปืนขึ้นมายิงอย่างรวดเร็วเป็นเทคนิคที่แพร่หลายในฝั่งตะวันตกของทางอเมริกา
กระสุนปืนพกของผมพุ่งไปหากลางกระบานของมันได้แม่นยำอย่างไรที่ติ แต่มันกลับปัดลูกปืนผมได้ด้วยนิ้วเดียวกันกับที่ใช้ยิงกระสุนลม
เสียววินาทีนั้นเองที่เหมือนกับเวลาได้หยุดลง ลูกตาของมันหันไปมองที่ปลายนิ้วที่เพิ่งถูกใช้กันลูกปืนของผมไป
เลือดค่อยๆ ไหลออกจากปลายนิ้วชี้นั้น
หน้าเปลี่ยนสี ไม่มีใบหน้าที่หลงเหลือความอวดดีแล้ว
ผมยิ้มแสยะคืน
ช็อกเลยสิไอ้คนไม่รู้จักปืน
มันกัดฟันกราบพลางกางมือทั้งสองออก
“เถาสู่เถา ธุลีสู่ธุลี”
อย่าบอกนะว่าจะใช้ไอ้ท่านั่น
ท่าที่งูยักษ์ขนาดใหญ่ดูท่าทางแข็งแกร่ง ก็ยังถูกเป่าให้เหลือแต่ส่วนลำตัวท่อนล่าง
ผมออกตัววิ่งสุดแรงชักมีดขึ้นมาเล็งไปที่คอของมัน ไม่นานเพียงไม่กี่วินาทีผมก็สามารถเข้าประชิดตัวของมันได้ ด้วยระยะเวลาการร่ายเวทย์ของมันที่ผมได้นับมาแล้ว
ท่านี้ใช้ หกวินาทีในการร่ายเวทย์
เมื่อเข้าใกล้มันได้ ผมก็ไม่ลังเลที่จะใช้มีดแทงเข้าที่คอของมันทันทีทั้งใบห้นาเหวอของมัน แต่ไม่ใช่ เรื่องกลับไม่ได้ง่ายอย่างมันที่ถูกผมแทงคอตัดหลอดลมตาย กลับกลายเป็นมันที่ไหวตัวทันยกเลิกเวทย์แล้วบล็อกมีดผมได้
ปลายมีดหันไปทางมันก็ถูกปัดออก ผมกลับตัวถีบไปที่กลางหน้าท้องมันแต่กับไม่เป็นผล เหมือนกับว่าตัวของมันจะถูกล้อมรอบไปด้วยพลังมานาเพื่อป้องกันการโจมตีทางกายภาพ
แต่มีม่านพลังแล้วยังจะต้องกลัวมีดแปลว่าไม่ได้ดีขนาดนั้น ผมลุกเข้าประชิดอีกครั้งไม่ทิ้งระยะให้มันได้ใช้เวทย์ คราวนี้พุ่งตัวไปข้างหน้าเอามีดหันข้างจะฟันไปที่มัน มันใช้แขนข้างซ้ายพยายามเคลื่อนมาบังอย่างที่ผมคิด ตอนนั้นเองมีดที่จะปะทะเข้ากับแขนของมันก็ถูกปล่อย ผมเปลี่ยนมาใช้มือข้างซ้ายรับมีดที่ตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงไว้แล้วลดตัวลงแทงหน้าท้องของมันด้วยมีดที่อยู่บนมือซ้าย
แต่ผลปรากฏว่าปลายมีดของผมที่แทงเข้าท้องมันกลับหักทันทีก่อนที่จะสัมผัสเข้ากับเสื้อมันด้วยซ้ำ
“!?”
“เกือบไป…”
แสดงว่ามันรีบเพิ่มมานาตรงบริเวณที่จะถูกแทงก่อนที่จะถึงตัวสินะ
ให้ตายเถอะ สู้ลำบากชะมัด
ตอนนั้นเองฝ่ามือของมันก็มาหยุดลงตรงหน้าของผม
“สายลมจงนำพา!”
หลบไม่ทัน!
ผมใช้แขนสองข้างมาป้องแต่กลับถูกแรงลมเหมือนดั่งพายุชัดกระเด็นออกไปไกล ตัวกลิ่งไถลไปกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้ ตัวของผมเจ็บหนักลุกขึ้นมาอย่างลำบาก
เหมือนเลือดจะไหลออกปากด้วย
“เอาล่ะ คราวนี้จะบอกได้หรือยังว่าแกคือใคร”
“ถ้างั้นแล้วลองถามเจ้านี้สิ”
ผมยิงปืนไปที่มันก็ถูกมันใช้พลังเวทย์ป้องกันไว้ได้ ม่านพลังของมันขยายตัวออกจนกว้างขึ้นและเคลื่อนไหวดั่งมีชีวิต เป็นการไหวตัวของม่านพลังที่เหมือนกับการเคลื่อนไหวของส่วนหัวของแมงกะพรุน แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอก
ไม่มีทาง
ผมกระหน่ำยิงมันด้วยกระสุนปืนพกจนเหลือนัดสุดท้าย จังหวะที่มันกำลังตกใจกับความเร็วของสิ่งที่ไม่รู้จัก ผมก็รีบวิ่งไปหยิบไรเฟิลจู่โจมติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิด หันไปกระหน่ำยิงใส่มันทันที กระสุนเคลื่อนที่เร็วถูกปะทะเข้ากับม่านพลังอย่างต่อเนื่อง แต่เหมือนจะไม่สะทกสะท้านเลย
“คราวนี้ลองนี่หน่อยเป็นไง”
ผมเปลี่ยนมายิงลูกระเบิดใส่มัน เมื่อลูกระเบิดปะทะเข้ากับม่านพลังควันที่เกิดจากการปะทะกันระหว่างทั้งสองก็ทำให้ตัวของมันถูกควันที่พวยพุ่งจากพื้นดินขึ้นบดบังทัศนวิสัยจนผมมองไม่เห็นตัวมัน
ทุกอย่างเงียบไปได้ไม่นานก็มีบังอย่างเกิดขึ้นภายในควัน
“ของเล่นเยอะจริงๆ นะ”
ผมยิงลูกระเบิดไปอีกนัดโดยไม่รอดูท่าที เมื่อเกิดการปะทะเข้าอีกครั้งลูกระเบิดก็แตกกระจุยพร้อมควันที่แตกตัวออกกระจายหายไปทันที เผยตัวของมันที่ไร้ซึ่งรอยขีดข่วน
บ้าจริง
ผมเล็งจะยิงอีกครั้งแต่ขาก็ถูกอะไรบางอย่างจับไว้ได้ วินาทีนั้นเองตัวของผมก็ถูกยกลอยขึ้นเหนือพื้นดินมาอยู่กลางอากาศ เมื่อกลับตัวหันมองไปที่มันก็เข้าใจ
ปลายนิ้วสองนิ้วของมันเป็นสีเขียว
เวทย์ควบคุมวัตถุ!
“ถ้าเจ้าถูกปล่อยลงมาจากความสูงระดับนั้น ร่างของเจ้าตอนตกลงสู่พื้นคงไม่น่าดูนัก ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าเป็นใครกันแน่”
จู่ๆ มันก็เปลี่ยนวิธีพูดซะงั้น
แต่ทำไมดูเข้าดีจังนะ
แต่นี่ไม่ใช่เวลาจะมาคิดอะไรแบบนั้น ว่าแล้วว่ามันแปลก มันสงสัยว่าผมอาจจะเป็นผู้มาจากต่างโลกเหมือนในข่าวลือสินะ
มันชักจะมากไปแล้วนะโว้ย
ผมเข้าใจสถานการณ์แล้ว และผมก็เข้าใจแล้วด้วยว่าที่ทำอยู่ทั้งหมดนี้มันเพื่ออะไรกัน
แต่ถึงแม้ว่าจะพูดออกไปตรงๆ มันก็คงไม่เชื่อหรอก
พนันได้เลยว่ามันกำลังคิดว่าผมเป็นศัตรูหรืออะไรสักอย่างโดยดูจากภาพลักษณ์ของผม
ให้ตายเถอะ แกจะทำให้ฉันโกรธไปถึงไหน
ถึงแม้ว่าจะยอมบอกชื่อไปหรือยอมบอกข้อมูลไป
มันก็ยังลบภาพลักษณ์ที่เจ้าเอกมันทำไปไม่ได้อยู่ดี
ในสายตาของมันผมคงเป็นตัวอันตรายที่อาจจำเป็นที่จะต้องกำจัด
และด้วยพลังของมันแล้ว
เรื่องนั้นไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วย
“แกอยากรู้สินะว่าที่จริงแล้วตัวฉันคือใคร”
“ใช่ข้าอยากจะรู้ ถ้าหากยอมบอกมาอย่างไร้ลูกเล่นแล้ว ข้าจะยอมปล่อยเจ้าไป”
“…ก็ได้…ตัวตนจริงของฉัน…ก็พ่อแกไง!”
ใครจะโง่เชื่อล่ะ!
ผมกระหน่ำยิงไปที่มันและตอนนั้นเอง ผมก็ยิงไปที่พื้นดิน หากแต่ไม่ใช่พื้น ตาของมันมองตามลูกกระสุนนัดท้ายสุดของปืนกลผม พามันให้หันไปสังเกตลูกระเบิดที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
ตอนนั้นเองที่ผมวิ่งเข้าไปปะทะกับมันในตอนแรกผมได้แอบปล่อยลูกระเบิดไว้ตรงพื้นก่อนที่จะถูกมันอัดด้วยเวทย์ลมจนกระเด็น
เป็นอย่างที่คิดเลย ม่านเวทย์ของมันไม่ได้กันของที่อยู่ในอาณาเขตอยู่แล้วแต่ป้องกันแต่ของที่จะมากระทบกับมันเท่านั้น
ด้วยเหตุผลนั้นเองลูกระเบิดของผมที่อยู่ที่พื้นตั้งแต่แรกจึงไม่ถูกเป่าให้หายไป
มิหนำซ้ำการขยายขนาดของม่านพลังเวทย์เพื่อป้องกันแรงของลูกระเบิดที่จะมากระทบกับตัวของมันก็ทำให้ระเบิดมือปลอดภัยขึ้นด้วย
เสร็จตูล่ะ!
กระสุนกระทบเข้ากับลูกระเบิดที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นมานานจนเกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้เฮนรี่ที่เพิ่งรู้ถึงการมีอยู่ของมันได้ถูกแรงระเบิดนั้นจู่โจมเข้าอย่างตั้งตัวไม่ทัน ถูกระเบิดอัดเข้าด้านข้างจนเสียหลักล้มลงไปท่ามกลางหมู่ควันที่ฟุ้งกระจาย
ส่วนตัวของผมก็กำลังตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว
“เอาจริงดิ!!! เอาจริงดิ!!! เอาจริงดิ!!!”
ผมรีบหันปากกระป๋องปืนเล็งลงพื้นที่ตัวเองกำลังจะปะทะ ยิงลูกระเบิดออกไปปะทะเข้ากับพื้นดินส่งแรงต้านให้ตัวของผมที่ร่วงลงมาถูกแรงปะทะนั่นเข้า แทนที่จะตกลงมาตาย ตัวของผมเมื่อถูกแรงผลักมหาศาลเข้า ก็ตัวกลิ่งกระเด็นจนฝืนจับหลักหยุดหมุนไม่ได้
และเมื่อผมหยุดหมุนตัวกลิ่งกับพื้นแล้ว ก็ค่อยๆ พยุงตัวเองขึ้นอย่างสาหัสและค่อยๆ เดินไปหาร่างของเฮนรี่ที่เงียบไป ขนาดนั้นตัวของผมก็ชาไปหมดจนรับความรู้สึกไม่ได้ เหมือนว่าแรงหักล้างเมื่อตะกี้จะรุนแรงส่งผลกับร่างกายของผมจนสาหัสใช่เล่น
“เหมือนกระดูกจะหักเลย…”
คงไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้วล่ะ
และเมื่อผมไปถึงก็เห็นร่างของมันที่กำลังหลบนิ่งไม่ขยับ
ตายแล้ว?
ผมย่อเข่าลงก้มตัวลงแล้ว
จ่อเล็งปืนไปที่มัน ก็ถูกมันลุกขึ้นมากางฝ่ามือจ่อตรงหน้าผมอย่างรวดเร็ว
ฝ่ามือนั้นมีไอร้อนกระจายออกมา คงเป็นเวทย์ไฟที่พร้อมใช้แล้ว แต่หน้ามันก็มีกระสุนนัดสุดท้ายที่จะดับชีวิตของมันได้เหมือนกัน
“ข้าไม่คิดว่านี่จะเป็นบทจบที่ดีนักหรอกนะ”
“เห็นด้วย”
“ถ้างั้นเจ้ากับข้า เราไม่ไปหาร้านอะไรสักร้านนั่งดื่มนั่งคุยกันก่อนไหม?”
“เห็นด้วย ขอร้านกาแฟ”
“ถ้างั้นข้าก็รู้จักร้านดีๆ อยู่ร้านหนึ่ง”
“ตกลงตามนั้น”
พอผมพูดจบ เราทั้งคู่ก็ลดอาวุธแสนจะอันตรายของทั้งคู่ลง
ผมเก็บปืนและเขาก็สลายเวทย์ออกไปจากฝ่ามือ
ผมเดินไปหยิบกระเป๋าถือแล้วจึงหันกลับไป
“นำทางเลย”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ