รักหมดใจ...เจ้าชายกระดาษ (Re-Write)
เขียนโดย ภรณ์นิชา
วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.19 น.
แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 11.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) 6 | ความลับที่หนึ่ง (100%)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความรักหมดใจ...เจ้าชายกระดาษ
6 | ความลับที่หนึ่ง
กรอบรูปอะไรน่ะ? - ซาร่า
เลิกเรียน
“ต้นข้าว ฉันไปประชุมที่สภาก่อนนะ แกกลับก่อนได้เลย บายยย”
ทันทีที่เสียงออดเตือนว่าวิชาสุดท้ายหมดลง น้ำค้างก็โผเข้ามาหาที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว ก่อนจะผละออกไปไม่ต่างจากขามา ทำเอาฉันและปริ๊นซ์ได้แต่กระพริบตาปริบๆ
“เพื่อนเธอนี่ดูกระฉับกระเฉงดีนะ ไม่เหมือน…” ปริ๊นซ์เอ่ยขึ้น ก่อนท้ายประโยคจะหันมามองหน้าเนิบๆ ของฉันพร้อมยกยิ้มมุมปากแล้วพึมพำเสียงไม่เบานัก “ก็สมกับคะแนนโหวต”
คะแนนโหวตที่ว่าก็คือคะแนนที่ลงเสียงเลือกตัวแทนห้องฝ่ายหญิงเมื่อเที่ยงนั่นล่ะ เห็นหน้าเนิบๆ แบบฉันนี่ก็ได้คะแนนกับเขานะจ๊ะ
‘ต้นข้าว เอ่อ…1 คะแนน!’
ไม่มีชื่อโผล่ไปบนกระดานนับคะแนน ยังจะดูน่าอายน้อยกว่า ฮือ T_T
และก็ไม่ต้องสืบว่าคะแนนนั้นมาจากใคร เพราะทันทีที่ประกาศคะแนน เจ้าตัวก็หันมาหัวเราะพรืดจนผมฉันสะบัดพร้อมบอกบุญคุณเสร็จสรรพ
‘ของรางวัลที่วาดรูปฉันทุกวันไง’
ฉันคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาพลางจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดพร้อมเก็บของเตรียมกลับบ้าน ตัดสินใจไม่ต่อล้อต่อเถียงเรื่องคะแนนโหวตนั่น เพราะเริ่มกลับมาคิดเรื่องกรอบรูปอีกครั้งทันทีที่เปิดกระเป๋า
จะให้มันนอนอยูในกระเป๋าแบบแห้วๆ นี่เหรอ… ลองถามสักหน่อยดีไหมนะ?
“ฮายยย ต้นข้าว ยังไม่กลับเหรอ”
ยังไม่ทันได้ตัดสินใจ อยู่ๆ ซาร่าที่ไม่รู้โผล่มาตั้งแต่ตอนไหนก็ส่งเสียงทักทายฉันซะเสียงดัง ก่อนจะชะโงกดูของในกระเป๋าเป้ของฉันที่เปิดค้างไว้แล้วถามเสียงฉงน
“กรอบรูปอะไรน่ะ ต้นข้าวพกมาโรงเรียนด้วยเหรอ?”
ฉันสะดุ้งโหยง รีบตะครุบปิดกระเป๋าแบบลวกๆ แล้วหัวเราะแห้งๆ ไม่กล้าหันไปสบสายตาปริ๊นซ์ที่กำลังมองมาเหมือนมีคำถาม
“มะ ไม่มีอะไรหรอก”
“ลองเอาออกมาดูสิ” ปริ๊นซ์ว่าพลางทำหน้านิ่งพยักเพยิดไปที่กระเป๋า ทีงี้ล่ะอยากรู้จังเลยพ่อคุณณณ
“ก็รูปธรรมดาๆ ไม่มีอะไรจริงจริ๊ง” ฉันปฏิเสธเสียงเบาพยายามทำตัวปกติอย่างที่สุด แต่หางเสียงเจ้ากรรม กลับสูงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ นั่นยิ่งทำให้เขายกยิ้มเย็นๆ เพิ่มขึ้น
ถึงรูปที่วาดมันจะเหลือแค่รอยจางๆ แต่ถ้าเพ่งดูดีๆ ก็ต้องเห็นแน่ว่าเป็นภาพเหมือนของเขา
และถ้าเขารู้… ไอ้คำขอโทษและท่าทีสบายที่ได้มาเกือบทั้งวันก็คงต้องสลายหายไป แถมคำว่ายัยโรคจิตก็คงจะประทับถูกกลางหน้าผากฉันไปอีกนานแสนนานแน่เลย T_T
“ให้ไวแว่น” เขาเร่งอีกรอบในขณะที่ซาร่าก็ยืนรอดูเงียบๆ สีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์อะไรใดๆ
“ไม่ต้องดูหร...”
“อย่าให้พูดซ้ำ”
ฮือ ตายแน่ตู T_T
ฉันลอบมองสีหน้าของคนขี้หงุดหงิดอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่แล้วค่อยๆ หยิบกรอบรูปที่บรรจุกระดาษประหลาดนั้นขึ้นมายื่นช้าๆ ไปตรงหน้าคนทั้งสองพร้อมหลับตาปี๋
…
…
เงียบ
ทำไมเงียบล่ะ
ฉันค่อยๆ หรี่ตาขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนจะพบสีหน้าประหลาดของคนทั้งคู่ ไม่ใช่โกรธเคืองแต่เป็น…
ขำ? ขำอะไรวะ
ฉันชะโงกดูในกรอบรูป ก่อนจะพบว่ามันก็ยังคงเหมือนเดิม ทั้งรูปวาดของปริ๊นซ์ที่จางไป คำว่า ‘Prince’ หวัดๆ ที่มุมล่างขวา รวมถึง 99 Days ที่มุมล่างซ้ายนั่นด้วย
ในเมื่อมันยังอยู่ ปริ๊นซ์ก็ไม่ควรทำหน้าขำขันแบบนี้ เขาควรที่จะกริ้วโกรธาแล้วชี้หน้าบอกว่า
‘เธอนี่มันโรคจิตขนานแท้!’
หากแต่หลังเงียบไปพักใหญ่ ปริ๊นซ์ก็เอ่ยออกมา
“เธอนี่มันแปลกคนจริงๆ”
นั่นไง! ตายแหง
“ฉะ ฉันไม่ได้โรคจิตนะ T_T”
ยัยบื้อ! ยังจะกล้าไปบอกเขาอีกว่าไม่โรคจิต หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ ไม่ต้องหวังรอยยิ้มอบอุ่นแบบในฝันนั้นต่อไปอีกเลยไอ้ต้นข้าว แค่เขาไม่รังเกียจเธอก็พอแล้ว!
“นอกจากจะ ‘แว่น-เตี้ย-กาก’ แล้วยัง...” ฉันหดคอฟังแบบหวาดๆ เว้นวรรคอันตรายแบบนี้นี่ตายแน่!
“…ยังเอ๋อเอากระดาษเปล่ามาใส่กรอบรูปอีกเนอะ”
“ใช่ ฉันมันเอ๋อ ฉันขอโท… ห้ะ?” ฉันที่กำลังไหล่ลู่คางชิดอกแบบสุดๆ เงยหน้าขึ้นฉับแล้วเสมองไปที่กรอบรูปอีกครั้ง “กระดาษเปล่า?”
“กระดาษของบรรพบุรุษหรือเปล่าจ๊ะต้นข้าว ดูเก่าๆ ขลังๆ อยู่เหมือนกันเนอะ” ซาร่าว่า
“เธอก็เห็นเป็นกระดาษเปล่าเหรอ?” ฉันชี้ไปที่กรอบรูปแล้วถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ก็…” ซาร่ากอดอกแล้วก้มลงจ้องกระดาษประหลาดนั้นอย่างพินิจ ก่อนจะพยักหน้าแล้วหันมามองหน้าฉันนิ่ง “กระดาษเปล่านะ มันมีอะไรด้วยเหรอ”
ฉันขมวดคิ้วมองพวกเขาอย่างฉงน ถึงรายละเอียดที่อยู่บนกระดาษแม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ก็ใช่ว่าจะมองไม่เห็นเลย
มันแปลก…
‘ทำไมได้เอากระดาษเปล่าไปใส่กรอบล่ะ’
ฉันหวนคิดถึงคำพูดของแม่ในวันที่ช่วยหากรอบรูป แม่เองก็บอกว่ากระดาษเปล่า
แม่ ปริ๊นซ์ ซาร่า…ไม่มีใครเห็นรายละเอียดใดๆ บนกระดาษแผ่นนี้
ยกเว้นฉัน?
“งั้นซาร่าไปรอปริ๊นซ์หน้าห้องนะ” ซาร่าว่าหลังจากบรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ ก่อนจะหันมายกยิ้มให้ฉัน “ไปแล้วนะต้นข้าว แล้วเจอกันจ้ะ”
“บายแว่น” ปริ๊นซ์เห็นอย่างนั้นจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะก้มลงมาหยิบสมุดจดที่ขอยืมไว้บนโต๊ะของฉัน ฉันจึงเงยหน้ามองร่างสูงอย่างจับผิดอีกครั้งแล้วว่า…
“นายเองก็ไม่เห็นจริงๆ ใช่ไหม ตัวหนังสืออะไรก็ไม่เห็น?”
“นี่แว่น” ปริ๊นซ์ชะงักตัวที่กำลังค้อมมาใกล้ ก่อนก้มลงมามองฉันที่อยู่แค่ระดับอกเขา แล้วเรียกเสียงเข้ม “ไม่รู้ว่าเธอพยายามเล่นตลกอะไรหรอกนะ แต่ฉันจะช่วยยืนยันครั้งสุดท้าย ไม่เห็นก็คือไม่เห็น”
พูดจบเขาก็เอาสมุดในมือเคาะหัวฉันเบาๆ แล้วยืดตัว เดินออกจากห้องไปหาซาร่าที่รออยู่
ไม่มีใครสามารถเห็นในสิ่งที่ฉันเห็น…
และนี่ความลับแรกของกระดาษแผ่นนี้ที่ฉันได้รู้
--------------- (100%)
ทำไมไม่เห็น!?
ไม่เห็นไม่พอ ยังได้ความเอ๋อเพิ่มมาในคุณสมบัติของความเป็นแว่นอีก 555
จุ๊บ
ภรณ์นิชา
กดติดตาม/คอมเม้นต์ เป็นกำลังใจให้นักเขียนตัวเล็กๆ คนนี้ด้วยนะคะ เลิฟฟ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ