ลิขิตรักให้เรามาเจอกัน
10.0
เขียนโดย เข็มขัดนิรภัย
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 00.39 น.
8 chapter
1 วิจารณ์
10.18K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2560 12.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) รักแรกพบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความณ มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง
บรรยากาศแต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ถือดอกไม้ ลูกโป่ง กล่องของขวัญ กล้องถ่ายรูป และอีกมากมายเพื่อมาแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ป้ายแดง เจนเนตร สิริพัฒนกุล หรือเจน ก็เป็นหนึ่งในบัณฑิตใหม่ที่กำลังถ่ายรูปและรับของขวัญจากเพื่อนๆ และญาติพี่น้องของเธอที่มาร่วมแสดงความยินดี
“ปัท ลิลลี่ มาถ่ายรูปกับป้ายคณะกัน คนออกมาแล้ว เร็วแกเดี๋ยวคนอื่นมาแย่ง” เจนเนตรพูดพลางดึงเพื่อนสาวคนสนิทไปถ่ายรูปตรงป้ายคณะที่เธอยืนต่อนานมาก เพราะใครๆ ก็อยากถ่ายรูปใส่ชุดครุยกับป้ายคณะตนเอง
“โอ้ยยย แกไม่ต้องดึงขนาดนั้นก็ได้ฉันเจ็บ” ลิลลดา หรือลิลลี่ หญิงสาวตัวเล็กดูบอบบางน่าทนุถนอม เอ่ยบอกเพื่อนสาวที่ดึงเธอซะแรงเพื่อที่จะไปถ่ายรูปกับป้ายคณะ
“โอ้ย สำออยจริง อีลี่ ดึงแค่เนี้ย” ปัทมาหรือปัท สาวห้าว ตัวสูง หุ่นดี เอ่ยแซวเพื่อนสาวที่ดูบอบบางเหลือเกิน แล้วรีบเดินตามแรงดึงของเจนเนตรเพื่อไปถ่ายรูป
“วินถ่ายทางนี้” เจนเนตรตะโกนเรียกเนวินน้องชายของเธอที่เรียนอยู่ปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน ที่เธอได้เรียกให้มาเป็นช่างภาพให้ในวันนี้
“เห็นแล้วเจ้ ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ทำไมวันนี้คึกจัง” เนววินเอ่ยแซวพี่สาวที่วันนี้ดูเธอจะคึกเป็นพิเศษ แต่ก็แน่สิเธอต้องดีใจอยู่แล้ว เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของเธอ วันรับปริญญาไงล่ะ
“เดี๋ยวปั๊ดเตะเลย” เจนนตรบ่นน้องชายที่แซวเธอพร้อมยกเท้าขึ้นทำท่าจะเตะ
“ฮ่าๆ แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้แหม เอายิ้มเร็ว หนึ่ง สอง สาม” เนวินหัวเราะร่าที่กวนบาทาพี่สาวสำเร็จ พร้อมยกกล้องถ่ายรูปเพื่อไม่ให้พี่สาวของเขาบ่นต่อ
“หนูอยากถ่ายรูปกะเจ้บ้างอะ” นิลเนตรน้องสาวคนสุดท้อง เรียนอยู่ชั้น ม.2 ทำหน้างอแงหลังจากพี่สาวของเธอเอาแต่ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ไม่ยอมถ่ายรูปกับเธอซักที
“โอ๋ๆ มาๆๆๆ ถ่ายด้วยกัน รอแค่นี้ทำเป็นงอน” เจนเนตรพูดพร้อมยีหัวน้องสาวจอมขี้แงที่ตอนนี้ทำหน้าเป็นตูด สงสัยเธอจะให้น้องรอนานไปหน่อย
“แหวะ ขี้แง” เนวินพูดพร้อมทำหน้าล้อเลียนนิลเนตร ที่ชอบอ้อนและงอแงใส่เจนเนตรประจำ เพราะเจนเนตรเป็นคนเดียวที่มักตามใจน้องสาวของเธอ ก็แหงแหละ เพราะเธอและน้องๆ ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ของเธอเลิกกันไปแล้วทิ้งให้เธออยู่กับอาม่า ซึ่งอาม่าก็อายุมากแล้ว และเป็นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างดุ และมีระเบียบ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องคอยให้ความรักกับน้องๆ
“นี่!! จะไปแหย่น้องทำไม” เจนเนตรเอ่ยดุน้องชายที่กวนบาทาไม่เลิก
“แบร่” นิลเนตรแลบลิ้นใส่เนวินที่ทำหน้าจ๋อย
“เอ้า ไอนี่ก็อีกคน ไปกวนกลับอีก จะถ่ายรูปมั้ยเนี้ย” เจนเนตรเอ็ดดุน้องสาวที่กวนไม่แพ้กัน
“ถ่ายค่า อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย เดี๋ยวไม่สวยนะคะเจ้” นิลเนตรพูดอ้อนพี่สาวเพราะกลัวจะโมโหไปมากกว่านี้
“พร้อมนะฮะ 1 2 3 แชะ” เนวินนับพร้อมกดชัตเตอร์ถ่ายรูปให้พี่สาวและน้องสาวตัวแสบ หลังจากนั้นเจนเนตร เพื่อนๆ และน้องของเธอก็ถ่ายรูปกันอยู่ซักพัก ก็มีชายหนุ่มวัยกลางคนเดินเข้ามาหาเธอ
“Congratulations เว้ยไอหลาน เรียนจบซะทีสินะ จะได้มาช่วยลุงทำงานเต็มตัวซะที” อนันต์เดินเข้ามาพร้อมกล่องของขวัญขนาดไม่ใหญ่มากยื่นให้เจนเนตร แล้วยิ้มให้อย่างภูมิใจในตัวหลานสาว
“สวัสดีค่ะลุงนัน ป้าแจน ลุงซื้อไรให้หนูอะ” เจนเนตรยกมือไหว้อนันต์ และจริยาผู้เป็นลุง และภรรยาของลุงอนันต์ เธอยื่นมือรับกล่องของขวัญ และทำหน้าตื่นเต้นกับของขวัญตรงหน้า และยิ้มหน้าบานกว่าเดิม เพราะเธอดีใจมากที่ลุงอนันต์และป้าแจน มาแสดงความยินดีกับเธอ ลุงอนันต์เป็นพี่ชายของพ่อของเธอ ในช่วงที่พ่อแม่ของเธอเลิกกันแล้วมีปัญหาภายในครอบครัวอย่างหนัก พ่อแม่ทิ้งเธอและน้องไป ให้อาม่าเลี้ยงดู นอกจากอาม่าที่เธอรักและเคารพมากๆ ก็มีลุงอนันต์ และป้าแจนที่เมื่อทราบเรื่องก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือค่าใช้จ่าย เพราะหลังจากที่พ่อแม่ทิ้งไป อาม่าก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งอาม่าก็มีรายได้จากลูกๆ ของท่านเท่านั้น แล้วนำเงินมาให้หลานๆ ใช้ ถึงแม้ว่าตอนนั้นธุรกิจของลุงจะมีปัญหาและมีเงินไม่มากนัก ลุงอนันต์และป้าแจนก็ยังเข้ามาช่วยเหลือ และสั่งสอนเจนเนตรและน้องๆ ของเธอในทุกเรื่อง เธอจึงรักและเคารพลุงอนันต์และป้าแจนมากๆ และดีใจมากที่ลุงอนันต์และป้าแจนมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอ
“ก็อยากได้อะไรก็ซื้ออันนั้นให้แหละ” ลุงอนันต์ทำหน้าตีมึนไม่ยอมบอกว่าซื้ออะไรให้
หลังจากนั้นเจนเนตรก็คุยเล่น และก็ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และญาติที่มาร่วมกันแสดงความยินดีอีกซักพัก ก็ถึงเวลาที่เธอต้องไปเข้าห้องประชุมเพื่อร่วมพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร
หลังจากออกจากห้องประชุมซึ่งเลยจากเวลาที่กำหนดไว้มา 1 ชั่วโมงกว่าๆ เจนเนตรก็เดินมาหาน้องๆ และญาติของเธอที่นัดกันไว้ว่าจะรอ แต่ก็ไม่เจอ คงเป็นเพราะเลยเวลาที่นัดมานานสงสัยจะไปหาไรกินกันก่อนแน่ๆเลย เจนเนตรคิดในใจ แล้วกดโทรศัพท์โทรหาเนวิน น้องชายของเธอ แต่ก็ไม่ติด เพราะบัณฑิตก็เพิ่งออกจากห้องประชุมกัน ทำให้คนเยอะมากสัญญาณโทรศัพท์จึงไม่มี เธอจึงเดินมองโทรศัพท์หาสัญญาณไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้มองทาง
“โอ้ย!” เจนเนตรเดินไปชนชายร่างสูงที่กำลังยืนถ่ายรูปให้บัณฑิตสาวที่ยืนอยู่ห่างไม่ไกล จนร่างของเธอล้มลงไปกองกับพื้น
“เป็นอะไรมั้ยครับ” ชายหนุ่มตกใจเมื่อมีคนมาชน จึงรีบหันไปดูแล้วพบว่าเธอคนนั้นนั่งกองอยู่ที่พื้น จึงรีบก้มลงไปช่วยดึงเธอขึ้นมา
“เอ่อ…” เจนเนตรเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง แล้วเธอก็ต้องนิ่ง เหมือนถูกมนต์สะกดไว้กับผู้ชายตรงหน้า เพราะรูปร่าง หน้าตา ตวามสูงของเขานี่สเปคเธอเลย สูง คม เข้ม ผิวคล้ำนิดๆ ดูดิบๆ แมนๆ โอ้ยนี้ผู้ชายในฝันฉันชัดๆ แต่เธอก็ต้องตื่น เมื่อผู้ชายตรงหน้าเรียกเธออีกครั้ง
“เอ่อ…คุณครั้บ เป็นอะไรหรือเปล่าครั้บ ลุกไหวมั้ยครับ” ตฤณนิธิ เรียกร่างบางที่อยู่ๆ เดินเข้ามาชนเขาเอง แล้วก็ล้มเอง พอเขาก้มลงจะช่วยให้เธอลุกขึ้นเธอดันมองหน้าเขานิ่ง จนคิดว่าที่ใบหน้าของเขามีอะไรติดหรือเปล่าจึงเรียกเธออีกครั้ง
“เอ่อ…มะ ไม่ เป็นไร ค่ะ โอ้ย!” เจนเนตรเหมือนได้สติอีกครั้งจึงตอบไปแบบติดอ่าง เพราะเหมือนสติยังไม่กลับมาดี แล้วพยายามลุกขึ้น โดยมีเขาช่วยดึงแขนเธอขึ้น แต่เธอก็ต้องล้มลงอีกครั้งเมื่อเธอรู้สึกเจ็บข้อเท้าเหมือนขาแพง
“เค้าเป็นอะไรหรอคะพี่ตฤณ” เอมมี่หญิงสาวที่ตฤณนิธิกำลังถ่ายรูปให้ หลังจากที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ซักพักจึงเดินเข้ามาถามอย่างหงุดหงิด เพราะคิดว่าเจนเนตรกำลังจะอ่อยแฟนหนุ่มของเธอ
“ข้อเท้าฉันพลิกตอนล้มเมื่อกี้อะค่ะ มันปวดๆ” เจนเนตรหันไปตอบหญิงสาวแล้วพยายามลุกขึ้นมา
“เดี๋ยวผมช่วยนะครับ” ตฤณนิธิพูดพลางช่วยหญิงสาวพยุงตัวขึ้นมาแล้วพาเดินไปนั่งที่ม้านั่งที่อยู่ใกล้ๆ แล้วนั่งยองๆ ดึงรองเท้าของเจนเนตรออกแล้วจับดูที่ข้อเท้า
“โอ้ย! ไม่เป็นไรค่ะ คุณอย่าทำอย่างงี้เลยค่ะ ฉันเกรงใจ เดี๋ยวฉันโทรตามน้องให้มารับ” พอเจนเนตรเห็นชายหนุ่มก้มลงไปจับข้อเท้าของเธอก็ตกใจ จึงรีบห้ามเขา เพราะตอนนี้หญิงสาวอีกคนที่อยู่ข้างๆ น่าจะเป็นแฟนเขาเริ่มจะไม่พอใจแล้ว
“เค้าไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ตฤณ ไปถ่ายรูปให้เอมมี่ต่อดีกว่าค่ะ” เอมมี่รีบพูดขึ้นมา เพราะเห็นทีท่าว่าแฟนหนุ่มของเธอยังคงดูเท้าของหญิงสาวคนนั้นต่อ
“โอเคครับ” พอตฤณนิธิได้ยินเอมมี่พูดอย่างงั้น ก็รู้สึกได้ว่าเธอคงไม่พอใจ จึงผละออกจากเท้าของเจนเนตรอย่างจำใจ แล้วยิ้มให้เธอแล้วเดินออกมา
“ขอบคุณนะคะ” เจนเนตรยิ้มขอบคุณอย่างเป็นมารยาท แล้วรีบหยิบโทรศัพท์โทรหาน้องชายเธออีกครั้ง พร้อมหลับตาปี๋คิดในใจทำไมเธอถึงซุ่มซ่ามอย่างนี้นะ อายเค้ามั้ยล่ะเนี้ย ไม่นานน้องชายและลุงของเธอก็มารับ แล้วไปกินข้าวฉลองกัน
หลังจากกลับมาที่บ้านด้วยความเหนื่อยล้าจากการตื่นเช้ามาแต่งหน้า แต่งตัว แล้วต้องยืนถ่ายรูป เข้าร่วมพิธีต่างพระราชทานปริญญาบัตรจนเย็น พอกลับถึงบ้านเธอก็รีบอาบน้ำนอน แต่พอจะนอนเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้ตอนที่เธอเดินไปชนชายแปลกหน้าจนล้มเสียเอง พอเจนเนตรนึกถึงหน้าของเขาใจเธอก็เต้นแรงขึ้นมา แล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว หลังจากนั้นเธอก็กอดหมอนข้างอย่างแน่นแล้วกลิ้งตัวไปมาบนที่นอนอย่างเขินอาย เคยมีผู้ชายเข้ามาจีบเธอหลายคน เพราะเธอก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนนึง แต่เธอไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้เลย มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรกันนะ มันเรียกว่า “รักแรกพบ” ใช่มั้ย???
แต่เห้อ…นั่นคงเป็นแฟนเค้าสินะ แล้วอีกอย่างเค้าเป็นใครก็ไม่รู้ รู้แค่เพียงเขาน่าจะชื่อตฤณ จากที่ผู้หญิงคนนั้นเรียก เจนเนตรคิดในใจอย่างเศร้าๆ แล้วผลอยหลับไป
_____________________________________________________
อ่านแล้วคอมเมนติชมเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าาาา ❤
ปล.ใครอยากอ่านตอนต่อไปเร็วขึ้น >> CLICK <<
หรือ เข้าไปที่ www.tunwalai.com แล้วเสิร์ช "ลิขิตรักให้เรามาเจอกัน" เลยค่า
บรรยากาศแต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่ถือดอกไม้ ลูกโป่ง กล่องของขวัญ กล้องถ่ายรูป และอีกมากมายเพื่อมาแสดงความยินดีกับบัณฑิตใหม่ป้ายแดง เจนเนตร สิริพัฒนกุล หรือเจน ก็เป็นหนึ่งในบัณฑิตใหม่ที่กำลังถ่ายรูปและรับของขวัญจากเพื่อนๆ และญาติพี่น้องของเธอที่มาร่วมแสดงความยินดี
“ปัท ลิลลี่ มาถ่ายรูปกับป้ายคณะกัน คนออกมาแล้ว เร็วแกเดี๋ยวคนอื่นมาแย่ง” เจนเนตรพูดพลางดึงเพื่อนสาวคนสนิทไปถ่ายรูปตรงป้ายคณะที่เธอยืนต่อนานมาก เพราะใครๆ ก็อยากถ่ายรูปใส่ชุดครุยกับป้ายคณะตนเอง
“โอ้ยยย แกไม่ต้องดึงขนาดนั้นก็ได้ฉันเจ็บ” ลิลลดา หรือลิลลี่ หญิงสาวตัวเล็กดูบอบบางน่าทนุถนอม เอ่ยบอกเพื่อนสาวที่ดึงเธอซะแรงเพื่อที่จะไปถ่ายรูปกับป้ายคณะ
“โอ้ย สำออยจริง อีลี่ ดึงแค่เนี้ย” ปัทมาหรือปัท สาวห้าว ตัวสูง หุ่นดี เอ่ยแซวเพื่อนสาวที่ดูบอบบางเหลือเกิน แล้วรีบเดินตามแรงดึงของเจนเนตรเพื่อไปถ่ายรูป
“วินถ่ายทางนี้” เจนเนตรตะโกนเรียกเนวินน้องชายของเธอที่เรียนอยู่ปี 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเดียวกัน ที่เธอได้เรียกให้มาเป็นช่างภาพให้ในวันนี้
“เห็นแล้วเจ้ ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ทำไมวันนี้คึกจัง” เนววินเอ่ยแซวพี่สาวที่วันนี้ดูเธอจะคึกเป็นพิเศษ แต่ก็แน่สิเธอต้องดีใจอยู่แล้ว เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญของเธอ วันรับปริญญาไงล่ะ
“เดี๋ยวปั๊ดเตะเลย” เจนนตรบ่นน้องชายที่แซวเธอพร้อมยกเท้าขึ้นทำท่าจะเตะ
“ฮ่าๆ แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้แหม เอายิ้มเร็ว หนึ่ง สอง สาม” เนวินหัวเราะร่าที่กวนบาทาพี่สาวสำเร็จ พร้อมยกกล้องถ่ายรูปเพื่อไม่ให้พี่สาวของเขาบ่นต่อ
“หนูอยากถ่ายรูปกะเจ้บ้างอะ” นิลเนตรน้องสาวคนสุดท้อง เรียนอยู่ชั้น ม.2 ทำหน้างอแงหลังจากพี่สาวของเธอเอาแต่ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ไม่ยอมถ่ายรูปกับเธอซักที
“โอ๋ๆ มาๆๆๆ ถ่ายด้วยกัน รอแค่นี้ทำเป็นงอน” เจนเนตรพูดพร้อมยีหัวน้องสาวจอมขี้แงที่ตอนนี้ทำหน้าเป็นตูด สงสัยเธอจะให้น้องรอนานไปหน่อย
“แหวะ ขี้แง” เนวินพูดพร้อมทำหน้าล้อเลียนนิลเนตร ที่ชอบอ้อนและงอแงใส่เจนเนตรประจำ เพราะเจนเนตรเป็นคนเดียวที่มักตามใจน้องสาวของเธอ ก็แหงแหละ เพราะเธอและน้องๆ ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เพราะพ่อแม่ของเธอเลิกกันไปแล้วทิ้งให้เธออยู่กับอาม่า ซึ่งอาม่าก็อายุมากแล้ว และเป็นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างดุ และมีระเบียบ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องคอยให้ความรักกับน้องๆ
“นี่!! จะไปแหย่น้องทำไม” เจนเนตรเอ่ยดุน้องชายที่กวนบาทาไม่เลิก
“แบร่” นิลเนตรแลบลิ้นใส่เนวินที่ทำหน้าจ๋อย
“เอ้า ไอนี่ก็อีกคน ไปกวนกลับอีก จะถ่ายรูปมั้ยเนี้ย” เจนเนตรเอ็ดดุน้องสาวที่กวนไม่แพ้กัน
“ถ่ายค่า อย่าเพิ่งอารมณ์เสีย เดี๋ยวไม่สวยนะคะเจ้” นิลเนตรพูดอ้อนพี่สาวเพราะกลัวจะโมโหไปมากกว่านี้
“พร้อมนะฮะ 1 2 3 แชะ” เนวินนับพร้อมกดชัตเตอร์ถ่ายรูปให้พี่สาวและน้องสาวตัวแสบ หลังจากนั้นเจนเนตร เพื่อนๆ และน้องของเธอก็ถ่ายรูปกันอยู่ซักพัก ก็มีชายหนุ่มวัยกลางคนเดินเข้ามาหาเธอ
“Congratulations เว้ยไอหลาน เรียนจบซะทีสินะ จะได้มาช่วยลุงทำงานเต็มตัวซะที” อนันต์เดินเข้ามาพร้อมกล่องของขวัญขนาดไม่ใหญ่มากยื่นให้เจนเนตร แล้วยิ้มให้อย่างภูมิใจในตัวหลานสาว
“สวัสดีค่ะลุงนัน ป้าแจน ลุงซื้อไรให้หนูอะ” เจนเนตรยกมือไหว้อนันต์ และจริยาผู้เป็นลุง และภรรยาของลุงอนันต์ เธอยื่นมือรับกล่องของขวัญ และทำหน้าตื่นเต้นกับของขวัญตรงหน้า และยิ้มหน้าบานกว่าเดิม เพราะเธอดีใจมากที่ลุงอนันต์และป้าแจน มาแสดงความยินดีกับเธอ ลุงอนันต์เป็นพี่ชายของพ่อของเธอ ในช่วงที่พ่อแม่ของเธอเลิกกันแล้วมีปัญหาภายในครอบครัวอย่างหนัก พ่อแม่ทิ้งเธอและน้องไป ให้อาม่าเลี้ยงดู นอกจากอาม่าที่เธอรักและเคารพมากๆ ก็มีลุงอนันต์ และป้าแจนที่เมื่อทราบเรื่องก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือค่าใช้จ่าย เพราะหลังจากที่พ่อแม่ทิ้งไป อาม่าก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งอาม่าก็มีรายได้จากลูกๆ ของท่านเท่านั้น แล้วนำเงินมาให้หลานๆ ใช้ ถึงแม้ว่าตอนนั้นธุรกิจของลุงจะมีปัญหาและมีเงินไม่มากนัก ลุงอนันต์และป้าแจนก็ยังเข้ามาช่วยเหลือ และสั่งสอนเจนเนตรและน้องๆ ของเธอในทุกเรื่อง เธอจึงรักและเคารพลุงอนันต์และป้าแจนมากๆ และดีใจมากที่ลุงอนันต์และป้าแจนมาร่วมแสดงความยินดีกับเธอ
“ก็อยากได้อะไรก็ซื้ออันนั้นให้แหละ” ลุงอนันต์ทำหน้าตีมึนไม่ยอมบอกว่าซื้ออะไรให้
หลังจากนั้นเจนเนตรก็คุยเล่น และก็ถ่ายรูปกับเพื่อนๆ และญาติที่มาร่วมกันแสดงความยินดีอีกซักพัก ก็ถึงเวลาที่เธอต้องไปเข้าห้องประชุมเพื่อร่วมพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตร
หลังจากออกจากห้องประชุมซึ่งเลยจากเวลาที่กำหนดไว้มา 1 ชั่วโมงกว่าๆ เจนเนตรก็เดินมาหาน้องๆ และญาติของเธอที่นัดกันไว้ว่าจะรอ แต่ก็ไม่เจอ คงเป็นเพราะเลยเวลาที่นัดมานานสงสัยจะไปหาไรกินกันก่อนแน่ๆเลย เจนเนตรคิดในใจ แล้วกดโทรศัพท์โทรหาเนวิน น้องชายของเธอ แต่ก็ไม่ติด เพราะบัณฑิตก็เพิ่งออกจากห้องประชุมกัน ทำให้คนเยอะมากสัญญาณโทรศัพท์จึงไม่มี เธอจึงเดินมองโทรศัพท์หาสัญญาณไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้มองทาง
“โอ้ย!” เจนเนตรเดินไปชนชายร่างสูงที่กำลังยืนถ่ายรูปให้บัณฑิตสาวที่ยืนอยู่ห่างไม่ไกล จนร่างของเธอล้มลงไปกองกับพื้น
“เป็นอะไรมั้ยครับ” ชายหนุ่มตกใจเมื่อมีคนมาชน จึงรีบหันไปดูแล้วพบว่าเธอคนนั้นนั่งกองอยู่ที่พื้น จึงรีบก้มลงไปช่วยดึงเธอขึ้นมา
“เอ่อ…” เจนเนตรเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียง แล้วเธอก็ต้องนิ่ง เหมือนถูกมนต์สะกดไว้กับผู้ชายตรงหน้า เพราะรูปร่าง หน้าตา ตวามสูงของเขานี่สเปคเธอเลย สูง คม เข้ม ผิวคล้ำนิดๆ ดูดิบๆ แมนๆ โอ้ยนี้ผู้ชายในฝันฉันชัดๆ แต่เธอก็ต้องตื่น เมื่อผู้ชายตรงหน้าเรียกเธออีกครั้ง
“เอ่อ…คุณครั้บ เป็นอะไรหรือเปล่าครั้บ ลุกไหวมั้ยครับ” ตฤณนิธิ เรียกร่างบางที่อยู่ๆ เดินเข้ามาชนเขาเอง แล้วก็ล้มเอง พอเขาก้มลงจะช่วยให้เธอลุกขึ้นเธอดันมองหน้าเขานิ่ง จนคิดว่าที่ใบหน้าของเขามีอะไรติดหรือเปล่าจึงเรียกเธออีกครั้ง
“เอ่อ…มะ ไม่ เป็นไร ค่ะ โอ้ย!” เจนเนตรเหมือนได้สติอีกครั้งจึงตอบไปแบบติดอ่าง เพราะเหมือนสติยังไม่กลับมาดี แล้วพยายามลุกขึ้น โดยมีเขาช่วยดึงแขนเธอขึ้น แต่เธอก็ต้องล้มลงอีกครั้งเมื่อเธอรู้สึกเจ็บข้อเท้าเหมือนขาแพง
“เค้าเป็นอะไรหรอคะพี่ตฤณ” เอมมี่หญิงสาวที่ตฤณนิธิกำลังถ่ายรูปให้ หลังจากที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ซักพักจึงเดินเข้ามาถามอย่างหงุดหงิด เพราะคิดว่าเจนเนตรกำลังจะอ่อยแฟนหนุ่มของเธอ
“ข้อเท้าฉันพลิกตอนล้มเมื่อกี้อะค่ะ มันปวดๆ” เจนเนตรหันไปตอบหญิงสาวแล้วพยายามลุกขึ้นมา
“เดี๋ยวผมช่วยนะครับ” ตฤณนิธิพูดพลางช่วยหญิงสาวพยุงตัวขึ้นมาแล้วพาเดินไปนั่งที่ม้านั่งที่อยู่ใกล้ๆ แล้วนั่งยองๆ ดึงรองเท้าของเจนเนตรออกแล้วจับดูที่ข้อเท้า
“โอ้ย! ไม่เป็นไรค่ะ คุณอย่าทำอย่างงี้เลยค่ะ ฉันเกรงใจ เดี๋ยวฉันโทรตามน้องให้มารับ” พอเจนเนตรเห็นชายหนุ่มก้มลงไปจับข้อเท้าของเธอก็ตกใจ จึงรีบห้ามเขา เพราะตอนนี้หญิงสาวอีกคนที่อยู่ข้างๆ น่าจะเป็นแฟนเขาเริ่มจะไม่พอใจแล้ว
“เค้าไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ตฤณ ไปถ่ายรูปให้เอมมี่ต่อดีกว่าค่ะ” เอมมี่รีบพูดขึ้นมา เพราะเห็นทีท่าว่าแฟนหนุ่มของเธอยังคงดูเท้าของหญิงสาวคนนั้นต่อ
“โอเคครับ” พอตฤณนิธิได้ยินเอมมี่พูดอย่างงั้น ก็รู้สึกได้ว่าเธอคงไม่พอใจ จึงผละออกจากเท้าของเจนเนตรอย่างจำใจ แล้วยิ้มให้เธอแล้วเดินออกมา
“ขอบคุณนะคะ” เจนเนตรยิ้มขอบคุณอย่างเป็นมารยาท แล้วรีบหยิบโทรศัพท์โทรหาน้องชายเธออีกครั้ง พร้อมหลับตาปี๋คิดในใจทำไมเธอถึงซุ่มซ่ามอย่างนี้นะ อายเค้ามั้ยล่ะเนี้ย ไม่นานน้องชายและลุงของเธอก็มารับ แล้วไปกินข้าวฉลองกัน
หลังจากกลับมาที่บ้านด้วยความเหนื่อยล้าจากการตื่นเช้ามาแต่งหน้า แต่งตัว แล้วต้องยืนถ่ายรูป เข้าร่วมพิธีต่างพระราชทานปริญญาบัตรจนเย็น พอกลับถึงบ้านเธอก็รีบอาบน้ำนอน แต่พอจะนอนเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้ตอนที่เธอเดินไปชนชายแปลกหน้าจนล้มเสียเอง พอเจนเนตรนึกถึงหน้าของเขาใจเธอก็เต้นแรงขึ้นมา แล้วยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว หลังจากนั้นเธอก็กอดหมอนข้างอย่างแน่นแล้วกลิ้งตัวไปมาบนที่นอนอย่างเขินอาย เคยมีผู้ชายเข้ามาจีบเธอหลายคน เพราะเธอก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนนึง แต่เธอไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้เลย มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ความรู้สึกแบบนี้มันเรียกว่าอะไรกันนะ มันเรียกว่า “รักแรกพบ” ใช่มั้ย???
แต่เห้อ…นั่นคงเป็นแฟนเค้าสินะ แล้วอีกอย่างเค้าเป็นใครก็ไม่รู้ รู้แค่เพียงเขาน่าจะชื่อตฤณ จากที่ผู้หญิงคนนั้นเรียก เจนเนตรคิดในใจอย่างเศร้าๆ แล้วผลอยหลับไป
_____________________________________________________
อ่านแล้วคอมเมนติชมเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าาาา ❤
ปล.ใครอยากอ่านตอนต่อไปเร็วขึ้น >> CLICK <<
หรือ เข้าไปที่ www.tunwalai.com แล้วเสิร์ช "ลิขิตรักให้เรามาเจอกัน" เลยค่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ