สลับมิติลิขิตรัก 穿越时空来爱你 ผ่านการพิจารณาจากสนพGlory
-
เขียนโดย PhoenixC
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 12.28 น.
2 ตอน
1 วิจารณ์
4,988 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 14.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) หม่าซ่วนฉี คุณหนูใหญ่ตระกูลหม่า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความยุคจีนโบราณ
หม่าซ่วนฉี คุณหนูใหญ่ตระกูลหม่าที่เกิดจากแม่ทัพหม่าซ่วนตงและฮูหยินใหญ่เมิ่งฉีเซียง เธอมีพี่ชายที่เกิดจากมารดาเดียวกัน 1 คน คือ หม่าซ่งชิง และพี่ชายที่เกิดจากฮูหยินรอง คือ หม่าซ่งหยวน และน้องสาวที่เกิดจากฮูหยินรอง หม่าหลิงจื่อ และ น้องสาวอีกคนที่เกิดจากฮูหยินสาม คือ หม่าหลิงเฟย
หม่าซ่วนฉีถือว่าเป็นลูกสาวสุดที่รักของหม่าซ่วนตงและเป็นน้องสุดที่รักของหม่าซ่งชิง หม่าซ่งชิงมีอายุมากกว่าหม่าซ่วนฉี 3 ปี ถูกไปฝึกยุทธ์ที่สำนักศึกษาหลวง
นอกจากเธอจะเป็นลูกสาวที่เกิดจากภรรยาที่รักแล้ว หม่าซ่วนฉียังเป็นคนช่วยชีวิตพ่อของเธอ ในขณะที่เธออายุ 7 ขวบ มีนักฆ่าบุกเข้าในจวนแม่ทัพหวังสังหารหม่าซ่วนตง ขณะที่หม่าซ่วนตงกำลังต่อสู้อย่างติดพันอยู่ นักฆ่าที่คิดว่าตายแล้วกำลังลุกขึ้นมาหมายเข้าไปฟันแม่ทัพใหญ่ หม่าซ่วนฉีที่แอบดูอยู่รีบพุ่งออกไปแล้วกัดเข้าไปที่มือนักฆ่าทำให้มันตกใจแล้วซัดฝ่ามือใส่หม่าซ่วนฉี หม่าซ่วนฉีที่กระอักเลือดแล้วสลบไปอาการเป็นตายเท่ากัน
ทำให้หม่าซ่วนตงและฮูหยินใหญ่เมิ่งฉีเซียงตามหาผู้ใช้เวทย์โอสถจากทุกที่มารักษา ทุกคนที่มาส่ายหน้าไม่ว่าจะลองโอสถตัวใดก็ไม่สามารถทำให้หม่าซ่วนฉีฟื้นได้ จนกระทั่งผ่านไป 7 วัน ก็มีเด็กรับใช้ที่จวนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาที่ห้องคุณหนูหม่าซ่วนฉี
"เรียนท่านแม่ทัพและฮูหยินใหญ่ มีคนผู้หนึ่งบอกว่าสามารถรักษาคุณหนูได้ ตอนนี้รออยู่หน้าจวนแล้วท่านแม่ทัพจะให้เชิญเข้ามาหรือไม่ขอรับ"
เมื่อได้ยินได้ดังนั้นฮูหยินใหญ่จึงรีบบอกบ่าวรับใช้ให้รีบเชิญเข้ามา แล้วนางก็หันไปบอกสามีว่า "ท่านพี่ตอนนี้ขอแค่มีคนยื่นความหวังมาให้เพียงเล็กน้อยน้องก็คว้ามันไม่ปล่อยแน่นอนเจ้าค่ะ" หม่าซ่วนตงพยักหน้าแล้วจับมือฮูหยินไว้
"ข้าเข้าใจ ข้าก็หวังเช่นนั้นกันเหมือนกัน ต่อให้ต้องเสียอะไรข้าก็จะต้องรักษาฉีเอ๋อให้ได้" หม่าซ่วนตงยื่นมือไปลูบหัวลูกสาวคนโต "เพราะพ่อแท้ ๆ ทำให้เจ้าเป็นแบบนี้ พ่อสัญญาว่าต่อให้พ่อต้องตายพ่อก็จะรักษาเจ้าให้หาย"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น บ่าวรับใช้พาชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแต่งกายภูมิฐานเข้ามา หม่าซ่วนตงและเมิ่งฉีเซียงรีบลุกขึ้น "ท่านคือ"
ชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่เอ่ยแนะนำตัว "คารวะท่านแม่ทัพและฮูหยินใหญ่ ข้าน้อยฮั่วปิงจง"
หม่าซ่วนตงและเมิ่งฉีเซียงทำหน้าตกใจ "ท่านคือท่านผู้ใช้เวทย์โอสถในตำนานฮั่วปิงจง"
ฮั่วปิงจงยิ้มน้อย ๆ "กล่าวเกินไปแล้วท่านแม่ทัพ ข้าเองก็เป็นแค่ผู้ใช้เวทย์โอสถธรรมดาเท่านั้น" ที่จริงฮั่วปิงจงเป็นผู้ใช้เวทย์โอสถขั้นเซียนที่มีอยู่น้อยมาก แทบไม่มีใครเคยพบเจอเพราะฮั่วปิงจงไปมาไร้ร่องรอย มีแต่เสียงร่ำลือว่าผู้ใช้เวทย์โอสถฮั่วปิงจง สามารถปรุงโอสถรักษาได้แม้กระทั่งผู้ป่วยที่มีอาการหนักแค่ไหนก็ทำให้ฟื้นได้ ตราบใดที่ผู้ป่วยนั้นยังมีลมหายใจอยู่"
"ท่านผู้ปรุงโอสถฮั่ว ท่านทราบได้เยี่ยงไรว่าบุตรสาวข้าบาดเจ็บ" หม่าซ่วนตงเอ่ยถามออกมา เมิ่งฉีเซียงที่ร้อนใจกับอาการของบุตรสาวจึงรีบขัดขึ้นว่า
"ท่านพี่อย่าเพิ่งถามให้มากความเลย รีบเชิญท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วมาตรวจฉีเอ๋อ ก่อนเถอะ" เมิ่งฉีเซียงพูดจบ ฮั่วปิงจงก็หันมายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเข้ามาข้าง ๆ หม่าซ่วนฉี จับมือนางขึ้นมาก่อนจะหลับตาแล้วใช้ปราณเวทย์เพื่อตรวจดูอาการ สักพักฮั่วปิงจงก็ลืมตาขึ้น
"นางเป็นอย่างไรบ้างท่านผู้ปรุงโอสถฮั่ว" หม่าซ่วนตงรีบถาม
"นางได้รับบาดเจ็บสาหัสจากฝ่ามือวายุพิฆาต นางยังดวงดีที่นักฆ่าผู้นั้นบาดเจ็บสาหัสเลยไม่สามารถใช้กำลังภายในได้เต็มที่ นางจึงโดนพลังฝ่ามือแค่ 2 ใน 10 ส่วนเท่านั้น นางจึงยังไม่ถึงฆาต แต่สำหรับนางที่ยังเด็กนักจึงทำให้ร่างกายบาดเจ็บสาหัส ภายใน 10 วัน อวัยวะภายในของนางจะค่อย ๆ หยุดทำงาน" เมื่อได้ยินฮั่วปิงจงพูดจบหม่าซ่วนตงกับเมิ่งฉีเซียงก็เข่าอ่อน
"ท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วท่านช่วยบุตรสาวข้าด้วย หากท่านช่วยรักษานางได้ แม้ท่านต้องการชีวิตข้าก็ยินยอม" หม่าซ่วนตงรีบขอร้องฮั่วปิงจง
"ท่านแม่ทัพ ที่ข้ามาวันนี้เพราะตั้งใจมาช่วยนางอยู่แล้วนี่คือลิขิตสวรรค์ แต่ข้าต้องบอกท่านก่อนว่านางจะไม่สามารถฝึกยุทธ์ ใช้เวทย์โอสถ หรือเวทย์อสูรได้"
"ขอเพียงให้นางฟื้นไม่ว่าอย่างไรข้ายินยอมทุกอย่าง" หม่าซ่วนตงบอกอย่างดีใจ
ฮั่วปิงจงหยิบยาเม็ดสีทองขึ้นมาแล้วกล่าวว่า
"ท่านแม่ทัพนี่คือยาสุริยันจันทรา ทั่วทั้ง 4 แคว้น มีเพียง 5 เม็ด เมื่อทานเข้าไปแล้วเพียงหนึ่งชั่วยาม นางก็จะฟื้น แต่ภายใน 5 ปีนี้ห้ามนางเดินพลังหรือได้รับอาการบาดเจ็บภายในอีกไม่งั้นต่อให้ใช้ยาสุริยันจันทราที่เหลือทั้งหมดก็ไม่สามารถช่วยนางได้ แต่ยาสุริยันจันทรานี้สามารถช่วยรักษาชีวิตนางได้เพียง 5 ปี ดังนั้นหลังจาก 5 ปี ข้าจะมารับนางไปเพื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง"
หม่าซ่วนตงกับเมิ่งฉีเซียงที่กำลังดีใจพอได้ยินฮั่วปิงจงกล่าวก็หันไปสบตากันอย่างหนักใจ ก่อนหม่าซ่วนตงจะเอ่ยถามขึ้นมา
"ท่านปรุงโอสถฮั่ว ถ้าท่านมารับนางไปรักษานางจะหายขาดหรือไม่และต้องใช้เวลานานเพียงใด"
"หายขาดหรือไม่ และต้องใช้เวลาเพียงใดขึ้นอยู่ที่วาสนาของนาง แต่ถ้าท่านไม่เห็นด้วย ข้าก็คงต้องขอลา เพราะยาสุริยันจันทรานั้นหายากยิ่งนัก"
เมิ่งฉีเซียงรีบเอ่ยขึ้นมา "ตกลง ข้าตกลง ขอแค่ให้ท่านยินยอมรักษานาง ไม่ว่าท่านจะให้ข้าทำอย่างไรข้ายินยอมทุกอย่าง"
ฮั่วปิงจงจึงเอายาสุริยันจันทราป้อนให้หม่าซ่วนฉีกิน
เมื่อครบ 1 ชั่วยาม หม่าซ่วนฉีก็ฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความดีใจของทุกคนในจวน ก่อนที่ฮั่วปิงจงจะจากไปได้มอบโอสถให้แก่แม่ทัพใหญ่
"นี่คือโอสถ หยินจื่อ สามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายของนาง ท่านให้นางกินทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน อาการของนางก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วอีก 5 ปี ข้าจะมารับนาง"
หม่าซ่วนฉี ตอน 12 ขวบ
5 ปีผ่านไป
หม่าซ่วนฉีวัย 12 ปี ส่อเค้าว่าจะเป็นสาวงามล่มเมือง นางเป็นคุณหนูที่สดใสแม้สุขภาพไม่ดีนัก นางเป็นที่รักของท่านแม่ทัพใหญ่หม่าซ่วนตง ฮูหยินใหญ่เมิ่งฉีเซียง คุณชายใหญ่หม่าซ่งชิง และน้องสามหม่าหลิงเฟย น้องสาวที่เกิดจากฮูหยินสาม ทุกคนตามอกตามใจนางทุกอย่าง ทำให้นางค่อนข้างดื้อรั้น เอาแต่ใจ นางชอบปกป้องเฉพาะคนที่ตัวเองรัก โดยเฉพาะน้องสาม
หม่าหลิงเฟยที่โดนกลั่นแกล้งจากพี่ชายคนรองและน้องสาวคนรองที่เกิดจากฮูหยินรอง แต่เนื่องจากสุขภาพไม่ดี จึงช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากนัก ครั้นจะฟ้องท่านพ่อ ท่านแม่
หม่าหลิงเฟยก็ขอร้องไว้ทุกที เพราะถ้ายิ่งฟ้องนางก็จะยิ่งโดนรังแก
เรือนหวาหลี่
หม่าซ่วนฉีที่เพิ่งตื่นนอนก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเสียงดังมาจากภายในสวน ลั่วเหลียนสาวใช้ของนางก็วิ่งเข้ามา
"แฮก แฮก คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่เจ้าคะ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ"
"ใจเย็น ๆ ลั่วเหยียนค่อย ๆ พูด พักหายใจก่อนเดี๋ยวขาดใจตายพอดี"
"คุณหนูใหญ่เวลานี้ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นนะเจ้าคะ คุณหนูรองรังแกคุณหนูสามอีกแล้วเจ้าค่ะ คราวนี้ถึงกับเลือดตกยางออกเลยนะเจ้าคะ คุณหนูใหญ่รีบไปดูเร็วเข้าเถอะเจ้าค่ะ" พูดจบลั่วเหยียนก็รีบแต่งตัวให้คุณหนูของนาง
สวนเฟยหยา
หม่าซ่วนฉีที่เดินเข้ามาภายในสวน เห็นหม่าหลิงจื่อกับฮูหยินรองเซียงอวี่หนิง กำลังช่วยกันยื้อแย่งอะไรบางอย่างจากหม่าหลิงเฟย
"แม่รอง น้องรอง น้องสาม พวกท่านทำอะไรกัน เสียงดังลั่นจวนขนาดนี้ แล้วนี่น้องสามหัวเจ้าไปโดนอะไรมาถึงกับเลือดตกยางออก" ว่าแล้วก็หันมองทางสองแม่ลูก
เซียงอวี่หนิงและหม่าหลิงจื่อหันมาถลึงตาใส่หม่าหลิงเฟย หม่าซ่วนฉีที่มองอยู่ก็พูดขึ้นมา
"เจ้าไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใดเล่ามา ข้าคุณหนูใหญ่หม่าซ่วนฉีจะให้ความเป็นธรรมกับเจ้าเอง"
สองแม่ลูกยิ้มเหยียดให้กับหม่าซ่วนฉีที่ยืนหันหลังให้พวกนางพลางนึกในใจ ฮึ อ่อนแอก็เท่านั้น วรยุทธ์ก็ไม่มียังสะเออะจะมาปกป้องผู้อื่น วันนี้ไม่มีใครอยู่ที่จวน ข้าต้องหาทางสั่งสอนนางเสียบ้างจะได้รู้ว่าข้าฮูหยินรองไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาวางมาดใส่
"ไม่มีอะไรเจ้าคะพี่ใหญ่ ข้าสะดุดล้มเอง" หลิงเฟยหลบตาหม่าซ่วนฉี
"ได้ยินแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะพี่ใหญ่ นางสะดุดล้มเองมิได้เกี่ยวอันใดกับข้าและท่านแม่เลยนะเจ้าคะ"
"ใช่แล้วคุณหนูใหญ่เรื่องนี้มิเกี่ยวอันใดกับพวกเราแม่ลูก จื่อเอ๋อแดดเริ่มแรงแล้วเราเข้าไปที่เรือนกันดีกว่า เจ้าต้องไปเตรียมเก็บข้าวของเพื่อไปสำนักศึกษามิใช่หรือ คุณหนูใหญ่ท่านก็ด้วยมิไปเก็บของล่ะเจ้าคะ อุ๊ย ลืมไปท่านร่างกายอ่อนแอไม่สามารถฝึกยุทธ์ หรือใช้เวทย์โอสถได้ แม่รองต้องขออภัยด้วย" พูดจบสองแม่ลูกก็เดินจากไป
หม่าซ่วนฉีกำมือแน่นด้วยความเจ็บใจ สักวันข้าจะต้องเข้มแข็งกว่าพวกเจ้า ขณะที่กำลังเจ็บใจ ก็ได้ยินเสียง เจียงลี่ถิง ฮูหยินสาม แม่ของหม่าหลิงเฟยวิ่งเข้ามา
"เฟยเอ๋อของแม่เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง ทำไมเลือดออกเยอะเพียงนี้" ฮูหยินสามที่ประคองลูกสาวไว้น้ำตานองหน้า
"ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะท่านแม่ ข้ามิได้เป็นอันใดมาก"
"นี่นะไม่เป็นอันใดมาก เจ้านี่เหลือเกิน เมื่อครู่ข้าถามทำไมเจ้าถึงไม่พูดออกมาว่าพวกนางทำอันใดกับเจ้า เจ้าเอาแต่ปฏิเสธ แล้วข้าจะช่วยเจ้าได้เยี่ยงไร" หม่าซ่วนฉีที่แค้นใจเพราะไม่สามารถเอาความสองแม่ลูกนั่นได้
"ขอบคุณคุณหนูใหญ่มากนะเจ้าคะ ที่คอยปกป้องเฟยเอ๋อ แต่ถ้าเฟยเอ๋อบอกคุณหนูใหญ่ ฮูหยินรอง คุณชายรอง และคุณหนูรองต้องมาเล่นงานเราแม่ลูกหนักกว่าเดิม" พูดจบเจียงลี่ถิงก็ซับน้ำตา
"นี่ขนาดข้าอยู่นะ ถ้าข้าไม่อยู่พวกท่านมิโดนรังแกยิ่งกว่านี้หรอกหรือ"
"อีกครึ่งปีคุณหนูรองก็ไปเข้าสำนักศึกษาแล้ว คงไม่มารังควานเราสองคนแม่ลูก ส่วนฮูหยินรองก็คงมิกล้ารังแกพวกเราสองแม่ลูกนัก เพราะฮูหยินใหญ่ก็จะกลับมาแล้ว คุณหนูใหญ่ไปรักษาตัวให้หายดีกว่า มิต้องเป็นห่วงทางนี้นะ เจ้าคะ"
"เฮ้อ ข้าก็หวังว่าท่านแม่จะปกป้องพวกท่านได้" พูดจบอยู่ ๆ หม่าซ่วนฉีก็กุมหน้าอกเหงื่อออกเต็มหน้า
"คุณหนูใหญ่ เป็นอะไรไปเจ้าคะ" เมื่อเห็นคุณหนูใหญ่ของนางหน้าซีด ร่างกายซวนเซ ลั่วเหยียนจึงรีบเข้าไปประคองแล้วพาไปนั่งพัก
"ข้ามิเป็นไร พักผ่อนสักครู่คงดีขึ้น ส่วนแม่สามรีบพาเฟยเอ๋อไปทำแผลเสียก่อนดีกว่า"
ช่วงนี้หม่าซ่วนฉีมีอาการเจ็บหน้าอกบ่อยครั้ง ทำให้หม่าซ่วนตงและเมิ่งฉีเซียงเป็นกังวลอย่างมาก
"ท่านพี่ นี่ก็จะครบ 5 ปีตามกำหนดที่ท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วได้บอกไว้ แต่ข้ายังมิได้ข่าวท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วเลย ถ้าท่านไม่มาเราจะทำเยี่ยงไรกันดี ข้ากลุ้มใจเหลือเกินท่านพี่" เมิ่งฉีเซียงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"เจ้าไม่ต้องกังวลไปฮูหยิน ข้าเชื่อว่าท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วต้องมาแน่นอน" หม่าซ่วนตงเอื้อมมือมากุมมือนางไว้ ทันใดนั้นเวิ่นลั่วเหยี่ยน สาวใช้ประจำตัวของหม่าซ่วนฉีก็วิ่งเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่
"เรียนท่านแม่ทัพ และฮูหยินใหญ่ คุณหนูใหญ่หมดสติไปแล้วเจ้าค่ะ"
หม่าซ่วนฉี คุณหนูใหญ่ตระกูลหม่าที่เกิดจากแม่ทัพหม่าซ่วนตงและฮูหยินใหญ่เมิ่งฉีเซียง เธอมีพี่ชายที่เกิดจากมารดาเดียวกัน 1 คน คือ หม่าซ่งชิง และพี่ชายที่เกิดจากฮูหยินรอง คือ หม่าซ่งหยวน และน้องสาวที่เกิดจากฮูหยินรอง หม่าหลิงจื่อ และ น้องสาวอีกคนที่เกิดจากฮูหยินสาม คือ หม่าหลิงเฟย
หม่าซ่วนฉีถือว่าเป็นลูกสาวสุดที่รักของหม่าซ่วนตงและเป็นน้องสุดที่รักของหม่าซ่งชิง หม่าซ่งชิงมีอายุมากกว่าหม่าซ่วนฉี 3 ปี ถูกไปฝึกยุทธ์ที่สำนักศึกษาหลวง
นอกจากเธอจะเป็นลูกสาวที่เกิดจากภรรยาที่รักแล้ว หม่าซ่วนฉียังเป็นคนช่วยชีวิตพ่อของเธอ ในขณะที่เธออายุ 7 ขวบ มีนักฆ่าบุกเข้าในจวนแม่ทัพหวังสังหารหม่าซ่วนตง ขณะที่หม่าซ่วนตงกำลังต่อสู้อย่างติดพันอยู่ นักฆ่าที่คิดว่าตายแล้วกำลังลุกขึ้นมาหมายเข้าไปฟันแม่ทัพใหญ่ หม่าซ่วนฉีที่แอบดูอยู่รีบพุ่งออกไปแล้วกัดเข้าไปที่มือนักฆ่าทำให้มันตกใจแล้วซัดฝ่ามือใส่หม่าซ่วนฉี หม่าซ่วนฉีที่กระอักเลือดแล้วสลบไปอาการเป็นตายเท่ากัน
ทำให้หม่าซ่วนตงและฮูหยินใหญ่เมิ่งฉีเซียงตามหาผู้ใช้เวทย์โอสถจากทุกที่มารักษา ทุกคนที่มาส่ายหน้าไม่ว่าจะลองโอสถตัวใดก็ไม่สามารถทำให้หม่าซ่วนฉีฟื้นได้ จนกระทั่งผ่านไป 7 วัน ก็มีเด็กรับใช้ที่จวนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาที่ห้องคุณหนูหม่าซ่วนฉี
"เรียนท่านแม่ทัพและฮูหยินใหญ่ มีคนผู้หนึ่งบอกว่าสามารถรักษาคุณหนูได้ ตอนนี้รออยู่หน้าจวนแล้วท่านแม่ทัพจะให้เชิญเข้ามาหรือไม่ขอรับ"
เมื่อได้ยินได้ดังนั้นฮูหยินใหญ่จึงรีบบอกบ่าวรับใช้ให้รีบเชิญเข้ามา แล้วนางก็หันไปบอกสามีว่า "ท่านพี่ตอนนี้ขอแค่มีคนยื่นความหวังมาให้เพียงเล็กน้อยน้องก็คว้ามันไม่ปล่อยแน่นอนเจ้าค่ะ" หม่าซ่วนตงพยักหน้าแล้วจับมือฮูหยินไว้
"ข้าเข้าใจ ข้าก็หวังเช่นนั้นกันเหมือนกัน ต่อให้ต้องเสียอะไรข้าก็จะต้องรักษาฉีเอ๋อให้ได้" หม่าซ่วนตงยื่นมือไปลูบหัวลูกสาวคนโต "เพราะพ่อแท้ ๆ ทำให้เจ้าเป็นแบบนี้ พ่อสัญญาว่าต่อให้พ่อต้องตายพ่อก็จะรักษาเจ้าให้หาย"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น บ่าวรับใช้พาชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแต่งกายภูมิฐานเข้ามา หม่าซ่วนตงและเมิ่งฉีเซียงรีบลุกขึ้น "ท่านคือ"
ชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่เอ่ยแนะนำตัว "คารวะท่านแม่ทัพและฮูหยินใหญ่ ข้าน้อยฮั่วปิงจง"
หม่าซ่วนตงและเมิ่งฉีเซียงทำหน้าตกใจ "ท่านคือท่านผู้ใช้เวทย์โอสถในตำนานฮั่วปิงจง"
ฮั่วปิงจงยิ้มน้อย ๆ "กล่าวเกินไปแล้วท่านแม่ทัพ ข้าเองก็เป็นแค่ผู้ใช้เวทย์โอสถธรรมดาเท่านั้น" ที่จริงฮั่วปิงจงเป็นผู้ใช้เวทย์โอสถขั้นเซียนที่มีอยู่น้อยมาก แทบไม่มีใครเคยพบเจอเพราะฮั่วปิงจงไปมาไร้ร่องรอย มีแต่เสียงร่ำลือว่าผู้ใช้เวทย์โอสถฮั่วปิงจง สามารถปรุงโอสถรักษาได้แม้กระทั่งผู้ป่วยที่มีอาการหนักแค่ไหนก็ทำให้ฟื้นได้ ตราบใดที่ผู้ป่วยนั้นยังมีลมหายใจอยู่"
"ท่านผู้ปรุงโอสถฮั่ว ท่านทราบได้เยี่ยงไรว่าบุตรสาวข้าบาดเจ็บ" หม่าซ่วนตงเอ่ยถามออกมา เมิ่งฉีเซียงที่ร้อนใจกับอาการของบุตรสาวจึงรีบขัดขึ้นว่า
"ท่านพี่อย่าเพิ่งถามให้มากความเลย รีบเชิญท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วมาตรวจฉีเอ๋อ ก่อนเถอะ" เมิ่งฉีเซียงพูดจบ ฮั่วปิงจงก็หันมายิ้มน้อย ๆ ก่อนจะเข้ามาข้าง ๆ หม่าซ่วนฉี จับมือนางขึ้นมาก่อนจะหลับตาแล้วใช้ปราณเวทย์เพื่อตรวจดูอาการ สักพักฮั่วปิงจงก็ลืมตาขึ้น
"นางเป็นอย่างไรบ้างท่านผู้ปรุงโอสถฮั่ว" หม่าซ่วนตงรีบถาม
"นางได้รับบาดเจ็บสาหัสจากฝ่ามือวายุพิฆาต นางยังดวงดีที่นักฆ่าผู้นั้นบาดเจ็บสาหัสเลยไม่สามารถใช้กำลังภายในได้เต็มที่ นางจึงโดนพลังฝ่ามือแค่ 2 ใน 10 ส่วนเท่านั้น นางจึงยังไม่ถึงฆาต แต่สำหรับนางที่ยังเด็กนักจึงทำให้ร่างกายบาดเจ็บสาหัส ภายใน 10 วัน อวัยวะภายในของนางจะค่อย ๆ หยุดทำงาน" เมื่อได้ยินฮั่วปิงจงพูดจบหม่าซ่วนตงกับเมิ่งฉีเซียงก็เข่าอ่อน
"ท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วท่านช่วยบุตรสาวข้าด้วย หากท่านช่วยรักษานางได้ แม้ท่านต้องการชีวิตข้าก็ยินยอม" หม่าซ่วนตงรีบขอร้องฮั่วปิงจง
"ท่านแม่ทัพ ที่ข้ามาวันนี้เพราะตั้งใจมาช่วยนางอยู่แล้วนี่คือลิขิตสวรรค์ แต่ข้าต้องบอกท่านก่อนว่านางจะไม่สามารถฝึกยุทธ์ ใช้เวทย์โอสถ หรือเวทย์อสูรได้"
"ขอเพียงให้นางฟื้นไม่ว่าอย่างไรข้ายินยอมทุกอย่าง" หม่าซ่วนตงบอกอย่างดีใจ
ฮั่วปิงจงหยิบยาเม็ดสีทองขึ้นมาแล้วกล่าวว่า
"ท่านแม่ทัพนี่คือยาสุริยันจันทรา ทั่วทั้ง 4 แคว้น มีเพียง 5 เม็ด เมื่อทานเข้าไปแล้วเพียงหนึ่งชั่วยาม นางก็จะฟื้น แต่ภายใน 5 ปีนี้ห้ามนางเดินพลังหรือได้รับอาการบาดเจ็บภายในอีกไม่งั้นต่อให้ใช้ยาสุริยันจันทราที่เหลือทั้งหมดก็ไม่สามารถช่วยนางได้ แต่ยาสุริยันจันทรานี้สามารถช่วยรักษาชีวิตนางได้เพียง 5 ปี ดังนั้นหลังจาก 5 ปี ข้าจะมารับนางไปเพื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง"
หม่าซ่วนตงกับเมิ่งฉีเซียงที่กำลังดีใจพอได้ยินฮั่วปิงจงกล่าวก็หันไปสบตากันอย่างหนักใจ ก่อนหม่าซ่วนตงจะเอ่ยถามขึ้นมา
"ท่านปรุงโอสถฮั่ว ถ้าท่านมารับนางไปรักษานางจะหายขาดหรือไม่และต้องใช้เวลานานเพียงใด"
"หายขาดหรือไม่ และต้องใช้เวลาเพียงใดขึ้นอยู่ที่วาสนาของนาง แต่ถ้าท่านไม่เห็นด้วย ข้าก็คงต้องขอลา เพราะยาสุริยันจันทรานั้นหายากยิ่งนัก"
เมิ่งฉีเซียงรีบเอ่ยขึ้นมา "ตกลง ข้าตกลง ขอแค่ให้ท่านยินยอมรักษานาง ไม่ว่าท่านจะให้ข้าทำอย่างไรข้ายินยอมทุกอย่าง"
ฮั่วปิงจงจึงเอายาสุริยันจันทราป้อนให้หม่าซ่วนฉีกิน
เมื่อครบ 1 ชั่วยาม หม่าซ่วนฉีก็ฟื้นขึ้นมาท่ามกลางความดีใจของทุกคนในจวน ก่อนที่ฮั่วปิงจงจะจากไปได้มอบโอสถให้แก่แม่ทัพใหญ่
"นี่คือโอสถ หยินจื่อ สามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายของนาง ท่านให้นางกินทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน อาการของนางก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วอีก 5 ปี ข้าจะมารับนาง"
หม่าซ่วนฉี ตอน 12 ขวบ
5 ปีผ่านไป
หม่าซ่วนฉีวัย 12 ปี ส่อเค้าว่าจะเป็นสาวงามล่มเมือง นางเป็นคุณหนูที่สดใสแม้สุขภาพไม่ดีนัก นางเป็นที่รักของท่านแม่ทัพใหญ่หม่าซ่วนตง ฮูหยินใหญ่เมิ่งฉีเซียง คุณชายใหญ่หม่าซ่งชิง และน้องสามหม่าหลิงเฟย น้องสาวที่เกิดจากฮูหยินสาม ทุกคนตามอกตามใจนางทุกอย่าง ทำให้นางค่อนข้างดื้อรั้น เอาแต่ใจ นางชอบปกป้องเฉพาะคนที่ตัวเองรัก โดยเฉพาะน้องสาม
หม่าหลิงเฟยที่โดนกลั่นแกล้งจากพี่ชายคนรองและน้องสาวคนรองที่เกิดจากฮูหยินรอง แต่เนื่องจากสุขภาพไม่ดี จึงช่วยเหลืออะไรไม่ได้มากนัก ครั้นจะฟ้องท่านพ่อ ท่านแม่
หม่าหลิงเฟยก็ขอร้องไว้ทุกที เพราะถ้ายิ่งฟ้องนางก็จะยิ่งโดนรังแก
เรือนหวาหลี่
หม่าซ่วนฉีที่เพิ่งตื่นนอนก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเสียงดังมาจากภายในสวน ลั่วเหลียนสาวใช้ของนางก็วิ่งเข้ามา
"แฮก แฮก คุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่เจ้าคะ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ"
"ใจเย็น ๆ ลั่วเหยียนค่อย ๆ พูด พักหายใจก่อนเดี๋ยวขาดใจตายพอดี"
"คุณหนูใหญ่เวลานี้ไม่ใช่เวลามาพูดเล่นนะเจ้าคะ คุณหนูรองรังแกคุณหนูสามอีกแล้วเจ้าค่ะ คราวนี้ถึงกับเลือดตกยางออกเลยนะเจ้าคะ คุณหนูใหญ่รีบไปดูเร็วเข้าเถอะเจ้าค่ะ" พูดจบลั่วเหยียนก็รีบแต่งตัวให้คุณหนูของนาง
สวนเฟยหยา
หม่าซ่วนฉีที่เดินเข้ามาภายในสวน เห็นหม่าหลิงจื่อกับฮูหยินรองเซียงอวี่หนิง กำลังช่วยกันยื้อแย่งอะไรบางอย่างจากหม่าหลิงเฟย
"แม่รอง น้องรอง น้องสาม พวกท่านทำอะไรกัน เสียงดังลั่นจวนขนาดนี้ แล้วนี่น้องสามหัวเจ้าไปโดนอะไรมาถึงกับเลือดตกยางออก" ว่าแล้วก็หันมองทางสองแม่ลูก
เซียงอวี่หนิงและหม่าหลิงจื่อหันมาถลึงตาใส่หม่าหลิงเฟย หม่าซ่วนฉีที่มองอยู่ก็พูดขึ้นมา
"เจ้าไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใดเล่ามา ข้าคุณหนูใหญ่หม่าซ่วนฉีจะให้ความเป็นธรรมกับเจ้าเอง"
สองแม่ลูกยิ้มเหยียดให้กับหม่าซ่วนฉีที่ยืนหันหลังให้พวกนางพลางนึกในใจ ฮึ อ่อนแอก็เท่านั้น วรยุทธ์ก็ไม่มียังสะเออะจะมาปกป้องผู้อื่น วันนี้ไม่มีใครอยู่ที่จวน ข้าต้องหาทางสั่งสอนนางเสียบ้างจะได้รู้ว่าข้าฮูหยินรองไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาวางมาดใส่
"ไม่มีอะไรเจ้าคะพี่ใหญ่ ข้าสะดุดล้มเอง" หลิงเฟยหลบตาหม่าซ่วนฉี
"ได้ยินแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะพี่ใหญ่ นางสะดุดล้มเองมิได้เกี่ยวอันใดกับข้าและท่านแม่เลยนะเจ้าคะ"
"ใช่แล้วคุณหนูใหญ่เรื่องนี้มิเกี่ยวอันใดกับพวกเราแม่ลูก จื่อเอ๋อแดดเริ่มแรงแล้วเราเข้าไปที่เรือนกันดีกว่า เจ้าต้องไปเตรียมเก็บข้าวของเพื่อไปสำนักศึกษามิใช่หรือ คุณหนูใหญ่ท่านก็ด้วยมิไปเก็บของล่ะเจ้าคะ อุ๊ย ลืมไปท่านร่างกายอ่อนแอไม่สามารถฝึกยุทธ์ หรือใช้เวทย์โอสถได้ แม่รองต้องขออภัยด้วย" พูดจบสองแม่ลูกก็เดินจากไป
หม่าซ่วนฉีกำมือแน่นด้วยความเจ็บใจ สักวันข้าจะต้องเข้มแข็งกว่าพวกเจ้า ขณะที่กำลังเจ็บใจ ก็ได้ยินเสียง เจียงลี่ถิง ฮูหยินสาม แม่ของหม่าหลิงเฟยวิ่งเข้ามา
"เฟยเอ๋อของแม่เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง ทำไมเลือดออกเยอะเพียงนี้" ฮูหยินสามที่ประคองลูกสาวไว้น้ำตานองหน้า
"ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะท่านแม่ ข้ามิได้เป็นอันใดมาก"
"นี่นะไม่เป็นอันใดมาก เจ้านี่เหลือเกิน เมื่อครู่ข้าถามทำไมเจ้าถึงไม่พูดออกมาว่าพวกนางทำอันใดกับเจ้า เจ้าเอาแต่ปฏิเสธ แล้วข้าจะช่วยเจ้าได้เยี่ยงไร" หม่าซ่วนฉีที่แค้นใจเพราะไม่สามารถเอาความสองแม่ลูกนั่นได้
"ขอบคุณคุณหนูใหญ่มากนะเจ้าคะ ที่คอยปกป้องเฟยเอ๋อ แต่ถ้าเฟยเอ๋อบอกคุณหนูใหญ่ ฮูหยินรอง คุณชายรอง และคุณหนูรองต้องมาเล่นงานเราแม่ลูกหนักกว่าเดิม" พูดจบเจียงลี่ถิงก็ซับน้ำตา
"นี่ขนาดข้าอยู่นะ ถ้าข้าไม่อยู่พวกท่านมิโดนรังแกยิ่งกว่านี้หรอกหรือ"
"อีกครึ่งปีคุณหนูรองก็ไปเข้าสำนักศึกษาแล้ว คงไม่มารังควานเราสองคนแม่ลูก ส่วนฮูหยินรองก็คงมิกล้ารังแกพวกเราสองแม่ลูกนัก เพราะฮูหยินใหญ่ก็จะกลับมาแล้ว คุณหนูใหญ่ไปรักษาตัวให้หายดีกว่า มิต้องเป็นห่วงทางนี้นะ เจ้าคะ"
"เฮ้อ ข้าก็หวังว่าท่านแม่จะปกป้องพวกท่านได้" พูดจบอยู่ ๆ หม่าซ่วนฉีก็กุมหน้าอกเหงื่อออกเต็มหน้า
"คุณหนูใหญ่ เป็นอะไรไปเจ้าคะ" เมื่อเห็นคุณหนูใหญ่ของนางหน้าซีด ร่างกายซวนเซ ลั่วเหยียนจึงรีบเข้าไปประคองแล้วพาไปนั่งพัก
"ข้ามิเป็นไร พักผ่อนสักครู่คงดีขึ้น ส่วนแม่สามรีบพาเฟยเอ๋อไปทำแผลเสียก่อนดีกว่า"
ช่วงนี้หม่าซ่วนฉีมีอาการเจ็บหน้าอกบ่อยครั้ง ทำให้หม่าซ่วนตงและเมิ่งฉีเซียงเป็นกังวลอย่างมาก
"ท่านพี่ นี่ก็จะครบ 5 ปีตามกำหนดที่ท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วได้บอกไว้ แต่ข้ายังมิได้ข่าวท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วเลย ถ้าท่านไม่มาเราจะทำเยี่ยงไรกันดี ข้ากลุ้มใจเหลือเกินท่านพี่" เมิ่งฉีเซียงพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"เจ้าไม่ต้องกังวลไปฮูหยิน ข้าเชื่อว่าท่านผู้ปรุงโอสถฮั่วต้องมาแน่นอน" หม่าซ่วนตงเอื้อมมือมากุมมือนางไว้ ทันใดนั้นเวิ่นลั่วเหยี่ยน สาวใช้ประจำตัวของหม่าซ่วนฉีก็วิ่งเข้ามาที่ห้องโถงใหญ่
"เรียนท่านแม่ทัพ และฮูหยินใหญ่ คุณหนูใหญ่หมดสติไปแล้วเจ้าค่ะ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ