Unreal Online

8.0

เขียนโดย TheSkill

วันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.01 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  5,940 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มีนาคม พ.ศ. 2560 22.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) WEAKLING

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                ดอกไม้พลิ้วไหวตามสายลมอันเบาบางที่พัดผ่าน แสงแดดอ่อนๆยามบ่ายคล้อย เสียงเจื้อยแจ้วของเหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปมา เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งกอดเข่าก้มหน้าอยู่ที่บันไดตรงกับประตูทางเข้าของตึกสีขาวใหญ่ที่ตอนนี้ ปิดทำการ’

            “อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้เนี้ย”

            “สักหงุดหงิดซะแล้วสิ...”

เด็กหนุ่มที่บ่นพึมพำอยู่คนเดียวนี้ชื่อ โอคาเนะ รินโด เป็นนักเรียนของโรงเรียนประตูยักษ์ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ โทวเมโอ’

            “อยากต่อยคนชะมัด”

            “ก็ไปต่อยสิ”

            หืม

เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากด้านหน้าของรินโด เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็พบกับเด็กสาวบุคลิกที่ไม่เข้ากับน้ำเสียงอันสดใส เธอไว้ผมสั้นสีน้ำตาล ผิวสีแทน ท่าทางห้าวๆแก่นๆ

            “ซุนซุน!?”

            “ฮิฮิ”

เด็กสาวคนนี้ชื่อว่า กมลรินทร์ บริพักตร์นครา ชื่อเล่น ซุนซุน เป็นเพื่อนร่วมชั้นของรินโดและเธอก็เป็นฝ่ายทักรินโดก่อน

                “อะไรของเธอ”

รินโดขมวดคิ้วสงสัยสิ่งที่ซุนซุนพูดกับเขาในตอนแรก

            “อยากต่อยคนไม่ใช่หรอ ชั้นรู้จักที่ๆจะต่อยคนได้โดยไม่มีความผิดนะ”

ซุนซุนยิ้มให้รินโดก่อนจะดึงมือเขาให้ลุกขึ้น

            “สนามมวยหรอ!?”

ซุนซุนอธิบายให้รินโดฟังว่า บนเกาะนี้มีค่ายมวยอยู่ทั้งหมด 5 แห่ง เธอรู้เพียงแค่สี่แห่งว่าอยู่ที่ใดบ้าง

            “เธอนี่รู้เยอะจริงนะ”

            “มันมีบอกไว้ในคู่มือนักเรียนนะ ไม่อ่านเลยสิท่า”

            อึก

ท่าทีที่เธอมองมาอย่างน่าสังเวชทำให้รินโดต้องเบือนหน้าหนี

และแล้วพวกเขาก็มาถึงหนึ่งในสนามมวยทั้งห้า มวยสากล’ ตามชื่อก็คือค่ายฝึกมวยสากล คงเดาได้ไม่ยากว่าอีกสี่ที่ที่เหลือก็คงเป็นมวยประเภทที่แตกต่างกันไป

                น่าสนใจจริงๆแหะ รินโดพึมพำและแสยะยิ้มออกมา

            “ค่าเข้าคนละ 500 อัลลอย”

ถึงจะเข้าไปเฉยๆไม่ได้ทำอะไรก็ต้องจ่ายเหมือนกัน คนเฝ้าหน้าประตูบอกเช่นนั้น

รินโดจึงหันไปบอกซุนซุนว่าเขาเข้าไปคนเดียวได้ไม่ต้องเข้าไปหรอกเปลืองเงินเปล่า แต่เธอก็ปฏิเสธและเข้าไปพร้อมกับเขา

            “ตามกฎบอกว่าถ้าล้มได้ครบสามคนภายในเวลาที่กำหนด จะได้ของรางวัลพิเศษ มีช่วงพักให้ 5 นาทีต่อคน ทางนั้นจะใช้ศิลปะแบบมวยสากลส่วนทางเราใช้ตามถนัด แต่ห้ามผิดกฎที่ห้ามไว้ มี 3 ข้อ ข้อแรก–––”

ซุนซุนอธบายกฎของการแข่งขันให้รินโดฟังแต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจก่อนจะหันมาพูดกับเธอ

            “ไม่ต้องอธิบายหรอก เสียเวลาเปล่า”

ซุนซุนจ้องเขม็งมาเหมือนจะพูดว่า เดี๋ยวก็แพ้หรอก

            “นี่มาพนันกันมั้ย ว่าชั้นจะใช้เวลาเท่าไหร่”

            “หา!? ชั้นไม่เคยเห็นนายสู้แล้วจะรู้ได้ไงล่ะว่าเก่งหรือเปล่า”

รินโดถอนหายใจเฮือกใหญ่

            “เอางี้ ชั้นทายคนเดียว ถ้าผิดเธอก็ชนะไปเลย โอเคมั้ย”

            “หึ มั่นใจจังนะ คนแพ้ต้องทำตามคำขอผู้ชนะ ไม่เอาก็ปอดแหก”

            “อย่ากลับคำล่ะ”

                กี่นาทีดีล่ะ?” เธอถามรินโด

            “นับสิบ”

            “เอ๊ะ?”

ซุนซุนเอียงคอสงสัย จึงถามกลับไป

                “สิบนาทีหรือเปล่า”

แต่รินโดส่ายหน้าและยังคงย้ำคำเดิม นับสิบ

            “ไม่รู้ว่ามั่นใจหรืออยากแพ้หรอกนะ แต่จะช่วยเชียร์ละกัน”

รินโดยิ้มให้ก่อนจะกระโดดขึ้นเวลาเมื่อได้เสียงประกาศ

ฝั่งตรงข้ามขนาดตัวพอๆกับรินโด ผิวสีดำคลับ หัวเกลี้ยง(ไม่ใช่หัวล้าน) ท่าทางทะมัดทะแมง ดูท่าว่าทางค่ายคงส่งคนมีฝีมือลงตั้งแต่รอบแรกเพื่อไม่ให้ผ่านเงื่อนไข แสดงว่าของรางวัลต้องเป็นของดีแน่ๆ ซุนซุนคิดเช่นนั้น

                “ยกที่หนึ่ง ไฟต์!!”

 

.....................................บ้านโอคาเนะ.................................................

                หญิงสาวหน้าตาน่ารักซึ่งไม่เข้ากับอายุที่ย่างเข้าสามสิบคนหนึ่งกำลังนั่งถักผ้าไหมพรมสีน้ำตาลอ่อนอยู่หน้าทีวี ดูแล้วเป็นบรรยากาศที่ดูสงบชวนเคลิบเคลิ้มน่าหลงไหลเป็นอย่างยิ่ง

            “นาโอะ ทำอะไรอยู่น่ะลูก”

หญิงวัยกลางคนส่งเสียงจากด้านหลังและเดินเอาแตงโมสีชุ่มช่ำที่จัดแจงไว้ในจานดิบดีมาวางหน้าโต๊ะที่หญิงทอผ้านั่งอยู่

หญิงสาวที่นั่งทอผ้าไหมคนนี้คือพี่สาวของซาเอกิ เธอชื่อว่านาโอะ แต่งงานกับพี่ชายของรินโดมาได้สองปีกว่าแล้ว

            “กำลังท้องกำลังไส้อย่าหักโหมนักสิจ๊ะ”

            “ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะแม่ นั่งอยู่เฉยด้วย มือมันว่างพอดีน่ะค่ะ”

            “แล้วนี่กำลังถักอะไรอยู่หรือจ๊ะ”

            “ผ้าพันคอให้ รินจี้กับซาจังค่ะ ที่นู้นเป็นอยู่กลางทะเลต้องหนาวแน่ๆ”

คุณแม่มองนาโอะอย่างเอ็นดูราวกับมองลูกแท้ๆของตัวเอง

            “นาโอะถักให้แม่ด้วยนะคะ แต่ต้องรอให้ของสองคนนี้เสร็จก่อนนะคะ”

            “เอ๋!? แล้วของพ่อล่ะ ไม่มีของพ่อหรอ”

                “?”

ชายที่ส่งเสียงมาจากทางประตูก่อนจะเดินเข้ามาในห้องที่พวกเธอทั้งสองนั่งอยู่ก็คือผู้ที่ถูกเรียกว่าพ่อ

            “คุณ จะกลับมาไม่โทรมาบอกก่อนเลยนะ”

            “คุณพ่อ ยินดีต้อนกลับค่ะ เหนื่อยหน่อยนะคะ”

นาโอะทำท่าจะลุกขึ้น เธอคงกำลังจะไปหยิบน้ำหรือขนมมาให้คุณพ่อเพื่อคลายความเหนื่อย

            ““ไม่ต้องลุกหรอกลูก!!””

สองสามีภรรยาพร้อมใจกันห้ามนาโอะอย่างเร็วไว นาโอะจึงยิ้มบางแล้วนั่งลงตามเดิม

            “นาโอะอยู่เฉยๆเถอะลูก เดี๋ยวเป็นอะไรขึ้นมาพ่อก็อดอุ้มหลานกันพอดี”

            “แหม คุณก็อย่าพูดให้ใจคอไม่ดีสิ”

            “ขอโทษๆ โอ้ มีแตงโมด้วย มาๆพ่อกินด้วยคน”

            “ไม่มีส่วนของคุณหรอก นี่ของนาโอะเขา”

            “อ่า อย่าใจร้ายนักสิ เพิ่งกลับมาเหนื่อยอยากได้กำลังใจที่สดชื่นๆบ้าง”

            “ไม่เป็นค่ะ คุณพ่อทานเถอะ ในตู้เย็นก็ยังมีอีกลูกหนึ่ง”

ระหว่างที่ทั้งสามกำลังกินแตงโมไปพลางนั่งคุยกันไปพลาง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้

เมื่อหันไปก็พบกับ ชายหนุ่มตัวสูงล่ำในชุดสูทสีดำ แลดูมีเสน่ห์ใช่น้อย

                ไซคุง!” นาโอะอุทานออกมา

            “ไซ ลูกทำงานอยู่ไม่ใช่หรือ”

                นั่นสิ” ตามมาด้วยเสียงของคุณแม่และคุณพ่อ

ชายคนที่ทั้งสามกำลังมองอยู่คือพี่ชายแท้ๆของรินโด โอคาเนะ ไซโตะ’ และเป็นสามีของนาโอะ

            “สวัสดีครับ งานเสร็จเร็วกว่ากำหนด แล้วที่รีบกลับมาเพราะห่วงเรื่องรินกับซาเอะด้วย”

            “แม่ก็ห่วง แต่รินกับซาเอะบอกว่าไม่ห่วงจะให้แม่ทำยังไงล่ะ”

            “ไซคุงเหนื่อยมั้ย เดี๋ยวไปหยิบน้ำมาให้นะ”

            “นั่งไปเลย พี่หยิบเอง”

ไซโตะจ้องนาโอะก่อนจะเดินไปหยิบน้ำแล้วมานั่งที่โซฟาระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ที่มองแล้วอมยิ้มสุขี

            “ซาเอะยังดูเด็กอยู่เลยนะแม่ นิสัยก็ดีเกินไป ห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ จะไม่ให้ผมห่วงได้ไง”

            “ซาจังดูแลตัวเองได้น่า เชื่อสิ”

            “ใช่ ซาเอะเข้ากับคนอื่นง่ายด้วย อัธยาศัยก็ดี เป็นคนน่ารักน่าเอ็นดู ทุกคนคงชอบอยู่แล้ว”

คุณแม่พูดสนับสนุนคำพูดของนาโอะ

            “เห้อ ถ้าพูดแบบนั้นก็คงไม่เป็นไร แต่รินล่ะแม่”

            “เรื่องนั้น...”

            “รินจี้ทำไมหรอ เป็นเด็กที่ดูพึ่งพาได้มากเลยนะ”

            “ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก รินน่ะ...”

ไซโตะทำหน้าจริงจังจนนาโอะถึงกับกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่

                เพี๊ยะ!!

เสียงตบดังสนั่นทำลายบรรยากาศอึมครึมเมื่อสักครู่จนหมด

            “พ่อ! แม่! ตบหูผมทำเนี้ย วิ้งเลยนะ”

คุณแม่และคุณพ่อจ้องไซโตะราวจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วคุณแม่ก็เอ่ยขึ้น

            “อย่าทำให้นาโอะรู้สึกเครียดสิ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”

            “โห่ แล้วหูผมล่ะ”

แม่ยังคงจ้องไซโตะไม่วางตา จนเขาต้องยอมแพ้ ขอโทษครับ

นาโอะหัวเราะออกมาเบาๆ ทั้งสามคนจึงหันมามองและหัวเราะไปตามๆกัน

            “ที่ไซคุงพูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไงหรอ”

นาโอะยังคงสงสัยใคร่รู้เรื่องที่ไซโตะพูดค้างไว้

            “...รินชอบการชกต่อยน่ะสิ”

            “เลยกลัวว่าจะไปมีเรื่องจนบาดเจ็บสินะ เขาอยู่ในวัยคึกคะนองต้องเข้าใจหน่อยล่ะ สมัยที่ไซคุงเรียนอยู่ยังมีเรื่องชกต่อยเป็นประจำเลย”

            “ไม่เหมือนกันหรอก พี่รู้ว่าใครมีฝีมือแค่ไหนจึงยั้งมือไว้ แต่หมอนั่นยั้งมือไม่ค่อยเป็น”

ไซโตะก้มหน้าลงเอามือประสานกันไว้บนโต๊ะ

            “กลัวหมอนั่นจะไปฆ่าใครเข้าน่ะสิ”

..........................................................................

 

                สนามมวยที่แม้จะไม่ได้มีคนอยู่มากแต่ก็เพียงพอที่จะสร้างความคึกครื้นได้ เสียงพูดคุยโวกเวกกันสิ่งที่พวกเขากำลังสนทนากันคือเรื่องของเด็กหนุ่มที่กำลังยืนคุยกับชายที่เป็นเหมือนเจ้าของค่ายมวยแห่งนี้

5 นาที ก่อนหน้านี้

                หลังรินโดขึ้นมาบนเวทีและทุกอย่างพร้อมกรรมการก็ให้สัญญาณเริ่ม

            “ยกที่หนึ่ง ไฟต์!!”

                พลั่ก

ทั้งที่เริ่มชกแทนที่จะมีเสียงเชียร์สนั่นรอบข้างเวทีกลับเงียบสงัดแม้แต่กรรมการยังชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเริ่มนับ

            1 2 3 4 5 6 7 8 9…10

                ผู้ชนะ ฝ่ายท้าชิง!” เฮ~ เสียงร้องแห่งความยินดีแก่ผู้ชนะดังกึกก้องค่ายมวย

            “เกิดอะไรขึ้นกัน”มีใครดูคู่นั้นมั้ย อธิบายให้ฟังที”หมอนั่นน่ากลัวมากๆ”นักมวยเป็นลมหรอ”โคตรเท่เลย”ชั้นเชียร์แกนะเว้ย”เจ้าหนุ่มนั่นใช้พลังจิตแน่ๆเลย”อยู่สังกัดไหนน่ะ” “ล้มมวยกันหรอ”

ทั้งเสียงเชียร์ คำครรหา และข้อสงสัย ยังคงถูกพูดต่อๆกันไปอย่างไม่ขาดสาย

            “นายทำอะไรลงไปกันแน่ รินโด”

เมื่อรินโดลงมาจากเวทีซุนซุนก็รีบปรี่เข้ามาถามเพื่อคลายความงุนงงที่เธอไม่เข้าใจ

            “ทำอะไร ก็ต่อยไง มวยนี่นา”

รินโดตอบกลับหน้าตาย แต่ซุนซุนอ้าปากค้างแล้วยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าเขา

            “โกง ชั้นคิดว่านายจะเป็นพวกนักเลงปลายแถวที่เห็นเรื่องต่อยตีเป็นเรื่องสนุก แล้วพอเจอคนเก่งๆก็จอดซะอีก แต่ก็สุดยอดเลยล่ะ”

                เธอพูดก่อนจะเปลี่ยนนิ้วที่ชี้หน้ามาชูนิ้วโป้งให้

            “นั่นชมใช่มั้ย”

                ฮิฮิ”ซุนซุนฉีกยิ้มให้โดยไม่พูดอะไรต่อ

            “เฮ้ เจ้าหนุ่ม”

            “?”

เสียงเรียกดังมาจากด้านของรินโด เมื่อหันไปก็พบกับ ชายวัยกลางคนหุ่นล่ำกล้ามโตตัวสูงใหญ่ เขาเป็นเจ้าของค่ายแห่งนี้

            “ครับ มีอะไรหรือเปล่า รึว่าจะปรับผมแพ้?”

            “เปล่าๆ ตรงข้ามเลยล่ะ”

ชายเจ้าของค่ายพูดเช่นนั้นก่อนจะล่วงอะไรบางอย่างในกระเป๋า รินโดกับซุนซุนได้แต่มองหน้ากันแบบงงๆ

            “เอ้า เอาบัตรนักเรียนออกมาสิ จะส่งรางวัลให้”

            “ชนะคนนึงก็ได้รางวัลครั้งหนึ่งหรอครับ?”

            “ไม่ใช่ก็บอกแล้วไง ว่าตรงข้ามเลย พ่อหนุ่มชนะแล้ว”

                ““เอ๋!?”” ซุนซุนกับรินโดถึงกับอุทานออกมาพร้อมกัน

            “ทำไมล่ะครับ?”

เจ้าของค่ายจึงอธิบาย และได้ความว่า คนที่รินโดล้มไปนั้นเก่งที่สุดในสามคนที่เขาต้องสู้ด้วย ซึ่งก็หมายความว่าถึงอีกสองคนจะลงมาผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน ไม่เอาลงจะเป็นทางที่ดีกว่า นั้นคือสิ่งที่สรุปออกมาได้

            “รางวัลคือ ฉายาในโลกจริง มีผลทันทีที่ได้รับ คุณสมบัติสามารถเข้าออกค่ายมวยแห่งนี้ได้อย่างอิสระโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”

            “สุดยอดเลยรินโด”

ซุนซุนรู้สึกตื่นเต้นเสียยิ่งกว่ารินโดอีก

            “หึ ฉายาดีนี่”

                “ของพ่อหนุ่มคงดีที่สุดแล้วล่ะ แต่ละคนจะได้ฉายาไม่เหมือนกันตามความสามารถล่ะนะ”

รินโด โอคาเนะ : ฉายา ‘God Flash’ [มวยสากล]

            “ถ้าได้ฉายาครบทุกค่ายจะมีรางวัลพิเศษให้ด้วยนะ มีเงื่อนไขและจำกัดจำนวนคนได้รับ ชั้นบอกไม่ได้ว่าเงื่อนไขเป็นยังไง แต่บอกได้เลยว่าพ่อหนุ่มต้องทำได้แน่ๆ พยายามเข้าล่ะ”

            “ครับ ขอบคุณครับ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา