พ่ายรักเมียเก็บ
เขียนโดย Annakan
วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 13.33 น.
แก้ไขเมื่อ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 09.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ความบังเอิญครั้งแรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“เคร้ง” เสียงช้อนร่วงกระแทกลงกับพื้น ผู้ชายหน้าตาใจดีคนนึงปัดมันโดยบังเอิญ
“ขอโทษค่ะ เด็กเพิ่งมาใหม่” หัวหน้ากะที่รับรายการอาหารโต๊ะข้างๆ รีบก้มลงไปเก็บแล้วส่งสายตาขุ่นเขียวมาให้ตัวต้นเรื่องทั้งที่ไม่ได้เห็นเหตุการณ์โดยตลอด ลูกค้าคนนั้นพยายามจะอธิบายให้เข้าใจแต่เธอก็เดินหนีไปซะแล้ว
“ขอโทษด้วยนะหนูที่ทำให้โดนเอ็ด” เลโอนาร์ด จิโอวาน่า ชายวัยห้าสิบกว่าปีกล่าวด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ” อ้อยตอบกลับด้วยความประหลาดใจเธอไม่คิดว่าชาวต่างชาติคนนี้จะพูดไทยได้คล่องปร๋อขนาดนั้น
“เราสั่งแค่นี้แหละจ้ะและก็ขอโทษอีกทีที่สามีป้าซุ่มซ่าม” เจนีซ จิโอวาน่า ภรรยาของเลโอนาร์ดกล่าวแล้วยิ้มให้เด็กสาวผู้ที่มารับออเดอร์
“คะ ค่ะ” อ้อยเดินกลับไปหลังร้านแบบงงๆ แน่ละว่าเธอประหลาดใจที่ทั้งคู่พูดไทยชัดมากแต่ที่เธอสงสัยมากกว่าก็คือทั้งสองคนดูมีความสุขกับอะไรสักอย่างระหว่างดูเมนูอาหารคุณผู้หญิงจะเงยหน้ามามองเธอเป็นระยะแล้วอมยิ้มส่วนคุณผู้ชายก็เช่นกันและอ้อยรู้สึกว่านี่จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกับคนทั้งคู่
“อีอ้อย อีซื่อบื้อ” จุ๊บแจงหัวหน้ากะหยิกแขนลูกน้องอย่างแรง
“พี่จุ๊บแจง อ้อยเจ็บนะ”
“ทำอีท่าไหนถึงงั่งไปปัดช้อนลูกค้าตก” จุ๊บแจงยังไม่เลิกกล่าวโทษลูกน้อง
“แล้วพี่จุ๊บแจงเห็นได้ยังไงว่าอ้อยทำตกพี่ยืนหันหลังนะและอ้อยก็ไม่ได้ทำตกคุณผู้ชายเขาบังเอิญไปปัดโดน” อ้อยอธิบายให้หัวหน้าจอมโมโหฟัง
“อ้อ นี่แกเถียงฉันหาว่าฉันปั้นเรื่องหรอ” จุ๊บแจงขึ้นเสียงเมื่อเด็กในครัวมองมาที่เธอกับยัยอ้อย
“ปะ เปล่าค่ะ” อ้อยรีบปฎิเสธ จะยังไงเธอก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ไปเลยนะ เอาไปเสิร์ฟแล้วอย่าโง่ทำอะไรตกแตกอีก”
“ชาร้อนค่ะ กาแฟร้อนค่ะ” อ้อยวางแก้วเครื่องดื่มให้ลูกค้า
“ขอบใจจ้ะ เอ่อ หนูชื่ออะไรจ๊ะ” เจนีซถามเด็กสาว
“ชื่ออ้อยค่ะ”
“ชื่อเพราะจัง” เลโอนาร์ดจิบกาแฟดำหอมกรุ่นแล้วยิ้มละไม อ้อยสังเกตว่าคุณผู้ชายไม่ได้เติมอะไรลงไปในกาแฟเลยมันคือกาแฟดำล้วนๆ และขมปี๋แบบที่เธอไม่ชอบเลยสักนิด ส่วนคุณผู้หญิงดื่มชาร้อนกลิ่นเปปเปอร์มิ้นท์
“อาหารรอสักครู่นะคะ” อ้อยบอกแล้วขอตัวออกมา
“ไปอ้อยสร้อยอะไรนานสองนานแค่เสิร์ฟกาแฟเนี่ย” จุ๊บแจงยังคงหาเรื่องเอ็ดลูกน้องไม่หยุด เธอหมั่นไส้อีเด็กคนนี้เป็นการส่วนตัวเพราะไม่ว่าใครก็ดูจะรักและเอ็นดูแม่นี่เหลือเกิน
“ขอโทษค่ะ” อ้อยเลือกที่จะเงียบเพราะเถียงไปก็ไม่มีวันชนะ
“เด็กคนนั้นน่ารักดีนะคะเลโอ” เจนีซชวนสามีคุย
“อืม น่ารักและน่าสงสาร” เลโอนาร์ดตอบ เขาเองก็เห็นว่าเธอถูกใส่ความ
“แล้วคุณไปถูกใจอะไรแม่หนูคนนี้หรอเจส” เลโอนาร์ดถามภรรยา
“ไม่รู้สิคะ เห็นแล้วก็ถูกชะตาตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม”
“เหมือนที่ถูกชะตาผมตั้งแต่แรกพบใช่ไหม” เลโอนาร์ดกระซิบถามภรรยาแล้วจูบเธอที่แก้ม
“ใช่ค่ะและเจสเชื่อว่าเราสองคนจะได้เจอแม่หนูคนนี้อีกแน่นอน”
“เฮ้อ หมดวันสักที” อ้อยนั่งยืดแข้งยืดขาอยู่ในโรงอาหารของพนักงาน ในที่สุดหนึ่งวันอันแสนทรหดก็จบลงและเธอก็หิวไส้แทบขาดแต่ก็ไม่มีแรงจะลุกไปซื้ออะไรกิน วันนี้ลูกค้าเยอะมากเธอเดินไปเดินมาแทบไม่ได้หยุดเลย
“อีพี่ จจ. นี่น่าตบให้กลิ้งจริงๆ” เมย์เพื่อนในร้านนั่งลงข้างๆ เธอ
“อือ แล้วกล้าทำไหมล่ะ” อ้อยแหย่เพื่อน
“ทำแล้วจะเอาเงินที่ไหนรับประทานละคะ เป็นไงมั่งมีที่ไหนเรียกรึยัง”
“ไม่เลย” อ้อยตอบด้วยความท้อแท้ เธอเรียนจบมาสามเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้งานทำเลยทั้งที่สมัครไปตั้งหลายที่แต่ก็เงียบกริบไม่มีบริษัทไหนเรียกสัมภาษณ์สักที
“สู้ๆ แก” เมย์ก็ได้แต่เป็นกำลังใจให้
“กินไรเดี๋ยวฉันซื้อมาให้”
“ข้าวมันไก่กะน้ำแดงแล้วกัน ขอบใจนะ”
“กลางๆ สัปดาห์วันที่ จจ. หยุด แกแลกกะกับฉันได้ไหมเมย์” อ้อยถามระหว่างที่กินข้าว
“ได้สิ” เมย์ตอบตกลงและไม่ต้องถามเลยว่าเพื่อนจะไปไหนได้นอกจากไปสมัครงาน เมื่อทานข้าวเสร็จสองสาวก็แยกย้ายกัน
วิชุดา ศรรุ่งหรืออ้อย เด็กสาวเพิ่งเรียนจบจากรั้วพ่อขุนเธอเป็นลูกคนเดียวและอยู่ตัวคนเดียวมาหลายปี ตอนเด็กๆ เธอก็มีครอบครัวเหมือนกับคนทั่วๆ ไป แม่รักและห่วงใยเธอเสมอส่วนพ่อถึงจะติดเหล้าเมายำเปก็ยังมีแก่ใจนึกถึงลูกเมียอยู่แต่พอแม่จากไปด้วยอุบัติเหตุรถชนพ่อก็เสียสูญและกู่ไม่กลับอีกเลย
กว่าเธอจะเรียนจบมาได้ก็ลำบากเลือดตาแทบกระเด็นเพราะต้องทำงานสารพัดเพื่อหาเงินจ่ายค่าหน่วยกิตไหนจะค่าหอ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอยู่ ค่ากินแต่พอจบออกมากลับหางานทำไม่ได้ไม่ว่าจะสมัครไปกี่ที่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับสักแห่ง
“เฮ้อ อ้อยเอ๊ย” เด็กสาวล้มตัวลงนอนบนเตียงเหล็กในห้องแคบๆ ที่เธอต้องจ่ายค่าเช่าเดือนละสองพันห้าร้อยบาท
“ถ้าแม่ยังอยู่ชีวิตเราคงดีกว่านี้” อ้อยรำพึงในใจ
“ติ๊ดๆๆ” พอนึกถึงแม่พ่อก็โทรมา
“อ้อย โอนเงินให้พ่อสักพันได้ไหม”
“หนูเพิ่งให้ไปเมื่อสามวันก่อนเองนะพ่อ” อ้อยตัดพ้อเงินพันนึงเธอใช้ได้เกือบสิบวัน
“ก็มันหมดแล้ว”
“ไว้พรุ่งนี้แล้วกันวันนี้หนูเลิกงานแล้ว”
“ทำไมเอ็งไม่ใช้แอพว่ะ”
“แอพอะไรล่ะพ่อ หนูยังใช้มือถือจอขาวดำอยู่เลย”
“แล้วบัตรเอทีเอ็มไม่มีรึไง”
“ไม่มี หนูไม่อยากเสียค่าบริการรายปี”
“โอ๊ย เออๆ พรุ่งนี้โอนมาให้ด้วย” บิดาบังเกิดเกล้าฟึดฟัดแล้วก็ตัดสายไป
“เฮ้อ” นี่คือคำติดปากของอ้อย เธอควานหาสมุดบัญชีในกระเป๋าแล้วดูยอดเงิน
“เฮ้อ” และอีกครั้งที่เธอท้อแท้ใจเมื่อรู้ว่าอีกสิบกว่าวันของเดือนเธอต้องกินข้าวกับปลากระป๋องอีกแล้ว
“โอนเงินหนึ่งพันค่ะ” อ้อยแวะธนาคารก่อนจะไปเริ่มงาน
“ไม่สนใจทำบัตรเอทีเอ็มหรอคะมีประกันอุบิตเหตุด้วยนะคะ” พนักงานสาวเสนอขาย
“ไม่ค่ะ ดูเงินในบัญชีสิคะ”
“อะ อ้อ ไว้ถ้าอยากสมัครติดต่อได้ที่นี่เลยนะคะ”
“ค่ะ” อ้อยตอบแบบเซ็งๆ
“โอนไปแล้วนะพ่อ เดือนนี้หนูไม่มีให้แล้วนะ” อ้อยโทรไปบอกบิดา
“ลูกรักของพ่อ ขอบใจนะ” ชาตรีดีใจจนเนื้อเต้น
“พ่อ หนูว่าพ่อไปบำบัดเถอะ”
“บำบัดบำเบิดอะไรเล่า ก็แค่กินสนุกๆ ไปๆ จะไปไหนก็ไป” และอีกครั้งที่บิดาบังเกิดเกล้าตัดสาย
“เฮ้อ” อ้อยถอนหายใจแล้วเหม่อมองไปที่ผู้คนรอบตัว บ้างเดินคนเดียว บ้างมากับคนรัก บ้างก็มากับครอบครัวแต่ทุกคนไม่มีใครหน้าตาอมทุกข์และท้อแท้เหมือนเธอเลยสักคน ทุกๆ คนดูมีความสุขมีความหวังแต่เธอไม่มีอะไรเลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ