เธอ เขา และรักเรา
7.7
เขียนโดย Sub~Yo
วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.37 น.
14 ตอน
0 วิจารณ์
15.06K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 22.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) เรื่องราวในอดีต
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากวันที่รู้ข่าวเรื่องพ่อฟลุ๊ค ผมก็ทำหน้าที่เพื่อนที่ดีอยู่ข้างๆฟลุ๊ค (จริงๆ อยากเป็นคนพิเศษมากกว่าเพื่อนนะ ><)
พา ไป รพ รวมถึงช่วยเป็นสารถีพาฟลุ๊คมางานศพ คอยช่วยนั่นนี่เรื่องงานศพ ทำให้ผมได้พบกับแม่เลี้ยงและน้องชายต่างแม่ ของฟลุ๊ค เพราะพ่อแม่ฟลุ๊คแยกทางกัน ทำไมผมถึงต้องมาช่วยฟลุ๊คนะเหรอ เพราะการแยกทางกันของพ่อแม่ไม่สวยงามเท่าไหร่ ถึงแม้เรื่องจะผ่านมานาน รอยร้าวของทั้งสองครอบครัวก็ยังไม่ประสานกันดี แต่ว่าเหตุการณ์นี้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยน ยายและแม่ของฟลุ๊คยอมให้ฟลุ๊คมาช่วยได้เต็มที่ในฐานะลูก แต่พวกท่านทั้งสองขอไม่มา ได้แต่ฝากคำอโหสิกรรมให้แก่กันมาแทน
และเหตุการณ์ทำให้ผมได้รับรู้เรื่องของฟลุ๊คมากขึ้น
>> ย้อนกลับไป ณ วันที่ฟลุ๊คได้รับโทรศัพท์เรืองพ่อ <<
"พาเราไป รพ หน่อยได้ไหม"
"อืม ได้ซิ" ผมขับรถพาฟลุ๊คไป รพ ตลอดทางเราไม่ได้คุยอะไรกัน ผมปล่อยให้ฟลุ๊คนั่งเงียบอยู่กับอารมณ์และความคิดเค้าขณะนั้น ผมไม่อยากคาดคั้นให้ฟลุ๊คต้องเล่าหรือพูดอะไร เพราะถ้าเมื่อไหร่เราพร้อมจะพูด เราจะพูดเอง ผมเชื่ออย่างนั้น
ผมพาฟลุ๊คมาถึง รพ เลยทำให้ได้เจอกับครอบครัวพ่อของฟลุ๊ค แม่เลี้ยงของฟลุ๊คชื่อ อาหนู (ฟลุ๊คเรียกแบบนั้น) และเอิร์ธ คือน้องชายคนละแม่ของฟลุ๊ค เค้าสองคนดูไม่สนิทกับเท่าไหร่อาจจะเพราะฟลุ๊คอยู่กับแม่ และน้องเองอยู่กับพ่อ จากเท่าที่ดูเอิร์ธ ห่างจากฟลุ๊คน่าจะหลายปี บรรยากาศดูกระอักกระอ่วนชอบกล แหะ
"สวัสดีครับ อาหนู" / "สวัสดีครับ" ผมทำตามฟลุ๊ค
"อ้าว ฟลุ๊คมาแล้วเหรอ สวัสดีจ้ะ" อาหนูตอบผม
"เอิร์ธ สวัสดีพี่ฟลุ๊คซิ"
"สวัสดีครับ" เจ้าน้องชายของฟลุ๊ค สวัสดีพวกผม ถึงแม้จะดูแข็งแต่อาจจะเพราะไม่เคยชินกันเลยดูเกร็งไปหน่อย
ผมปล่อยให้ฟลุ๊คอยู่พูดคุยและจัดการธุระเป็นเพื่อนอาหนูจนเสร็จ พวกเราก็ลาอากลับ ตลอดทางที่ฟลุ๊คขึ้นรถมา เค้ายังคงเงียบ และ...
"กันต์"
"หืม มีอะไรหรือเปล่า"
"เราขอบใจนะ ที่มาเป็นเพื่อนเรา"
"อืม ไม่ต้องขอบใจหรอก เราเต็มใจ อะไรที่ช่วยฟลุ๊คได้ เราก็อยากจะทำ"
ฟลุ๊คมองหน้าผม ผมเห็นแววตาเค้าที่มองบ่งบอกขอบคุณผมที่อยู่เป็นเพื่อนเค้า แค่นี้ผมก็ชื่นใจนะ
"พ่อแม่เราแยกทางกันตั้งแต่เราเด็กๆ เราอยู่กับตากับยายมาตั้งแต่เราจำความได้ เรารู้ว่าพวกท่านพยายามทำทุกอย่าง ไม่ให้เรารู้สึกว่าขาดหรือไม่เหมือนคนอื่น เราเข้าใจและไม่เคยคิดน้อยใจเลยนะ แต่จริงๆ แล้วเราคิดว่า เราคงแค่พยายามคิดและปิดบังมันเอาไว้คนเดียวมากกว่า"
ฟลุ๊คเว้นช่วงการพูด ผมมองหน้าเค้า ดวงตาเค้ามีน้ำตาเอ่อล้นอยู่ แต่ดูท่าทางฟลุ๊คคงพยายามกลั้นไว้อยู่ซินะ
"เกิดมาในชีวิตนี้ เราไม่เคยเรียกแม่ ว่าแม่ เราเรียกท่านว่า อา เราไม่เข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมเราต้องเรียกแบบนี้ แล้วเราคงเรียกแบบนี้มาจนชินแล้วละ จนแม่เรา แต่งงานใหม่อีกครั้ง เราดีใจกับแม่นะ เพราะแม่เราจะได้มีความสุข เรายิ้มให้แม่ในวันนั้น แต่ใจเรากลับร้องไห้ ร้องแบบช้ำในใจ เราไม่มีแม้แต่โอกาสได้กอดแม่ ได้บอกรักแม่ หรือแม้แต่กระทั่งเรียกแม่ ว่า แม่ แล้วสุดท้ายเราก็จะเสียแม่ไปให้คนอื่น"
ผมฟังยัง อึ้ง ทำไมเหมือนบทละครแบบนี้ นี่ใช่ไหมที่เค้าบอกละครก็มาจากชีวิตจริง ผมไม่รู้จะทำอะไร ผมจึงเอื้อมมือไปจับมือฟลุ๊คไว้ เพื่อเป็นการปลอบโยนฟลุ๊ค
"ไม่เป็นไรนะ ถ้าไม่อยากพูดก็อย่าพูดเลยนะ"
"ไม่ เราอยากพูด ให้เราพูดเถอะนะ"
ผมมองหน้าฟลุ๊ค เค้าคงอัดอั้นซินะ แล้วผมก็พยักหน้าให้เพื่อบอกว่า โอเค ผมพร้อมฟังนะ
"แต่พอเรามาคิดทีหลัง ถ้าแม่ได้อยู่กับคนที่รัก และแม่มีความสุข เราว่าเราควรจะดีใจกับแม่มากกว่า ถึงแม้จะไม่ได้อะไรเหมือนลูกคนอื่น แต่แม่ก็ไม่เคยทิ้งเรา - และพอมาเหตุการณ์ครั้งนี้ มันเหมือนเราโดนฟ้าฟาด ครั้งที่สอง เราไม่ได้สนิทกับพ่อมาก แต่เรารู้ว่าพ่อรักเรา พ่อจะมาหา หรือโทรมาหาเราเสมอ พ่อเคยบอกว่า รอพ่อหน่อยนะ พ่อจะทำห้องให้ฟลุ๊ค เพื่อฟลุ๊คจะมาอยู่กับพ่อได้ ตลอดเวลาที่พ่อป่วย เรารับรู้อาการ แต่เราช่วยอะไรพ่อไม่ได้มากเลย แต่การที่พ่อมาจากไปกระทันหันแบบนี้ เรารับไม่ไหวจริงๆ ฮึก... ไม่ไหวจริงๆ"
เมื่อพูดจบ น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ไหลลงมาเหมือนสายน้ำเลยทีเดียว ผมเห็นแบบนั้นแล้วใจผมแป้วมาก ผมไม่อยากให้เค้าต้องเศร้าหรือร้องไห้อีกแล้ว ผมสัญญากับตัวเองต่อจากนี้ไปเราจะทำให้นายมีแต่ความสุข และรอยยิ้มให้ได้ เราสัญญา
ผมบีบมือฟลุ๊คไว้แน่น "ฟลุ๊ค เราไม่รู้จะพูดหรือบอกยังไงให้ฟลุ๊คเชื่อเรานะ แต่เราจะบอกตรงนี้ว่า --- ที่เราบอกชอบฟลุ๊ค คือเรื่องจริง เราไม่อยากเห็นฟลุ๊คต้องเศร้าหรือร้องไห้อีกแล้ว เราสัญญาเราจะอยู่กับฟลุ๊คและดูแลฟลุ๊ค อย่างนี้ตลอดไป ฟลุ๊คเชื่อเรา ไว้ใจเรา ให้โอกาสเราได้ไหม"
"..." ผมนั่งฟังสิ่งที่กันต์พูดออกมา มือที่จับกันอยู่ผมก็ยังคงจับไว้ ผมไม่ได้รังเกียจหรือขยะแขยงเลย ผมกลับรู้สึกอบอุ่นในมือนี้ และดีในคำพูดนั้น ผมยิ้มและบีบมือกันต์
"ขอบคุณนะ"
ผมพูดได้แค่นั้นจริงๆ เพราะผมกลัวว่าจะหลุดร้องไห้ดีใจออกไปกับความรู้สึกนี้ของกันต์นะซิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ