Laurel ภาค เสียงเพรียกหาจากดินแดนที่ถูกลืม
8.0
เขียนโดย zusuran
วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.15 น.
13 ตอน
4 วิจารณ์
10.49K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 มีนาคม พ.ศ. 2565 13.21 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) ภารกิจแรก...ค้นหา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!
เสียงกรีดร้องปริศนาดังขึ้นกลางดึก และเมื่อเหล่าอาจารย์ไปตรวจสอบก็พบเพียงความว่างเปล่า
“มันไม่ใช่ความว่างเปล่าหรอก”
เสียงอาจารย์คนหนึ่งพูดพร้อมกับยื่นมือมาข้างหน้าให้เหล่าอาจารย์และนักเวทซึ่งหนึ่งในนั้นมีไรเกอร์รวมอยู่ด้วย
มันคือภาพความทรงจำของเด็กสาวที่ถูกทิ้งเอาไว้ในกำแพงของทางเดินในโรงเรียน จุดเกิดเหตุที่พวกเขายืนอยู่ตอนนี้
“มีเด็กนักเรียนหญิงทยอยหายตัวไปทีละคนสองคน นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“ใจเย็นๆก่อน พวกเธออาจจะหนีออกไปจากโรงเรียนก็ได้”
“หรือไม่ก็มีคนลักพาตัว”
ไรเกอร์ที่ฟังอยู่นานถึงกับถอนหายใจกับการสันนิฐานของเหล่าอาจารย์ในห้องประชุม ก่อนที่ครูหนุ่มจะลุกขึ้นเดินเดินออกจากที่นั่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อาจารย์ส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ในนี้ไม่ได้อยู่ในทีมตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ไม่แปลกที่จะออกความเห็นน่าเวียนหัวแบบนี้
“นั่นคุณจะไปไหน เรายังประชุมกันไม่เสร็จนะ”
“ถ้าการประชุมที่ว่าเป็นแค่เรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมาไม่หาทางแก้สักทีแบบนี้ ผมว่าผมขอตัวดีกว่า”
“ครูไรเกอร์ นั่นนักเรียนของโรงเรียนเรานะ!”
“ก็ใช่ไง เพราะงั้น แทนที่จะมานั่งเถียงกันอยู่แบบนี้ สู้เอาเวลาจัดกำลังคนไปตามหาไม่ดีกว่ารึไง ยกเว้นซะแต่ว่า….พวกคุณบางคนไม่ได้อยากตามหาจริงๆ”
ไรเกอร์ตรงไปตรงมาเหลือบมองเหล่าอาจารย์ที่น่าซีดไปตามๆกัน
“หรือว่ายังไงครับ มิส มาร์เจนต้า”
ดวงตาสีขี้เถ้าตวัดไปมองสตรีเจ้าของเรือนผมสีแดงที่ยังนั่งเงียบมาตลอดการประชุม
ดาเลน มาร์เจนต้า อาจารย์ของหอพักตะวันตก และเธอก็เป็นคนที่ดูแลเด็กที่หายตัวไปด้วย
“เด็กๆที่หายตัวไปเป็นนักเรียนที่อยู่ในความดูแลของคุณ ผมชักสงสัยแล้วสิว่าคุณจะมีวิธีการยังไงในการตามหาเด็กพวกนั้นกันนะ”
ไรเกอร์ทิ้งระเบิดตูมใหญ่ทำให้ทุกสายตาจดจ้องไปที่อาจารย์สาว ริมฝีปากที่แต่งแต้มสีกุหลาบเลือดยกยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับปรายตามองมายังไรเกอร์ราวกับกำลังยั่วยวนยังไงอย่างนั้น
“ฉันเองก็กำลังคิดค่ะ ว่าจะยืมยอดฝีมือจากอาจารย์มาช่วยในการค้นหาครั้งนี้ด้วย”
“หืม? จากผมเหรอ”
“นักเรียนในความดูแลของคุณยังไงล่ะคะ ถึงจะยังเป็นเด็ก แต่พวกเขาก็มีพลังเวทระดับสูง ทั้งยังมีครูพี่เลี้ยงที่เป็นถึงนักรบของเทพเจ้าคอยสั่งสอน ดิฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะเข้าร่วมภารกิจนี้ได้ค่ะ”
“นักเรียนของผมไม่ใช่ทหารรับจ้าง มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องส่งพวกเขาไป”
ไรเกอร์ยังสวนกลับด้วยท่าทีสุดกวนไม่เปลี่ยน แต่แล้วความคิดบางอย่างก็ทำให้ครูหนุ่มเปลี่ยนท่าที
“อ้อ จะว่าไปแล้ว นี่ก็เป็นการดีเลย เอาเป็นว่าผมจะช่วยก็แล้วกัน นักเรียนของผมต้องตามหานักเรียนของคุณเจอแน่ๆ วางใจเถอะครับ”
และภารกิจแรกของบ้านตะวันออกก็ถูกมอบหมายมาแบบมัดมือชก
“อย่างที่ฉันบอก พวกเธอทั้งเจ็ดคนจะได้รับภารกิจเป็นกรณีพิเศษร่วมค้นหานักเรียนที่ถูกลักพาตัวครั้งนี้ด้วย”
“แต่เราเพิ่งเข้ามาเรียนไม่เท่าไหร่เองนะคะครู”
“เรื่องนั้นครูรู้ ภารกิจครั้งนี้จะเป็นการฝึกภาคสนามของพวกเธอ”
“พูดง่ายจัง”
สไตล์ของไรเกอร์มันก็ง่ายมาแต่แรกอยู่แล้ว เขาดูจะไม่ใส่ใจกับเสียงบ่นเป็นหมีกินผึ้งของลูกศิษย์เลย แต่แล้วความกังวลก็เข้ามาปากฏบนใบหน้าของครูหนุ่มอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่น้ำเสียงของเขาจะนิ่งและเยือกเย็นจนลูกศิษย์ต้องฟังกันตัวเกร็ง
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าผลีผลามใช้พลังออกไปเด็ดขาด โดยเฉพาะ….”
ตาสีขี้เถ้าตวัดฉับมองมาที่คีระอย่างเป็นนัย
“ฉันขอย้ำ ว่าอย่าเด็ดขาด เพราะมันอาจเป็นกับดักที่จะจับตัวพวกเธอแทนก็ได้”
“………”
“เซเลีย จาเลน แล้วก็โลเวล ไปทางใต้ ส่วนเลล่ากับบรุ๊คไปตรวจสอบที่หอคอยด้านหลัง ที่เหลือ ลาดตะเวน”
ที่เหลือในความหมายของไรเกอร์หนีไม่พ้นไรรีย์กับคีระ ที่พอได้ฟังแล้วก็แทบจะกัดลิ้นตัวเองเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“ให้ตายเถอะ ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย ลาดตระเวนๆๆๆ เห็นได้ชัดเลยว่าครูกีดกันไม่ให้ออกไปนอกโรงเรียน”
ไรรีย์บ่นเป็นหมีกินผึ้งไปตลอดทางจนคนที่เดินมาด้วยเริ่มทนเสียงบ่นของเธอต่อไม่ไหว
“เลิกบ่นซะทีเถอะน่า เสียงเธอมันน่ารำคาญ”
“ใช่สิ ฉันไม่ได้อ่อนหวานเหมือนเลล่า ไม่ได้น่ารักเหมือนเซเลียของนายนี่นะ เอาจริงๆนายคงอยากไปกับพวกเธอมากกว่าสิ เหอะ!”
“แล้วเธอจะพาลถึงคนอื่นทำไมเนี่ย ให้ตายสิ คิดผิดจริงๆที่มากับยายนี่”
“ฉันก็ไม่ได้ให้นายมาด้วยสักหน่อย มาทางไหนก็ไปทางนั้นเลยไป”
“ทางนี้ไม่ใช่ของเธอ ฉันมีสิทธิ์จะเดินไปไหนก็ได้”
“เหรอ!!!”
ไม่มีวันไหนที่ทั้งสองไม่ได้ปะทะกัน และสุดท้ายก็ต้องเชิดหน้าหนีกันไปคนละทางเหมือนเดิม
แต่เพราะได้รับหน้าที่เดียวกันก็เลยทิ้งไปไม่ได้
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!! ปล่อยฉันนะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!!”
กึก!
“เสียงนี้มัน!”
“ฉันจะไปดูด้านหลัง!”
“เดี๋ยว!”
“อะไรอีกล่ะ”
ไรรีย์ถามกลับอย่างหัวเสีย เธอไม่ค่อยชอบเวลามีคนมาขัดใจ คีระถอนหายใจออกเสียทีหนึ่งก่อนจะคว้าข้อมือของเธอไปจับเอาไว้สักพัก ไรรีย์รู้สึกถึงความอุ่นบริเวณที่คีระจับ ก่อนที่เขาจะปล่อยมือจากเธอ
“นี่อะไร” ไรรีย์ถามพร้อมกับมองริ้วสีแดงบางๆที่พาดอยู่บนข้อมือ
“ไม่ได้อยากทำหรอก แต่ถ้าเธอตกอยู่ในอันตรายฉันจะรู้…..ฉันไปดูทางนั้นเอง”
“อะ…โอเค”
เพียงแค่อึดใจเดียวคีระก็หายไปเหลือแค่ฝุ่นเพียงน้อยนิด ไรรีย์หมุนตัวไปรอบๆจับทิศทางของเสียงร้องที่ยังเหลือเพียงน้อยนิด ก่อนจะจะเดาะลิ้นอย่างขัดใจและกระโดดขึ้นบนฟ้าไปตรงๆ
“ชิส์!”
ฟึ่บ!!!
พรึ่บ!.....
ปีกโปร่งแสงกางออกด้านหลังพยุงร่างหญิงสาวให้ลอยตัวเหนือยอดไม้สูง และด้วยความสูงแทบแตะเมฆก็ทำให้มองเห็นสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องล่าง
“เจอแล้ว!”
เด็กผู้หญิงของโรงเรียน กำลังถูกลักพาตัว จะทำยังไงดี จะกลับไปแจ้งข่าวกับทางโรงเรียนรึก็กลัวจะไม่ทัน ต้องส่งสัญญาณ
ร่างหญิงสาวพุ่งหลาวตรงไปที่จุดเกิดเหตุ กลุ่มนักเรียนหญิงหลายคนถูกมัดมือและลากไปอย่างทารุณ
ความโกรธบดบังความรอบคอบจนหมดสิ้น ไรรีย์พุ่งลงไปและกระทุ้งเข่าเสยปลายคางของหนึ่งในกลุ่มโจรลักพาตัวนั้นตรงๆ
ผลั๊วะ!!!!
ร่างสูงใหญ่ในชุดขนสัตว์เหม็นสาบหงายเงิบตีลังกาออกไปหลายเมตรและสลบลงคาที่
พลั่ก!
ไรรีย์ยังลอยอยู่เหนือพื้นดินไม่ถึงสามเมตร สายตากวาดมองไปรอบๆ นับจำนวนโจรโฉดที่มีอาวุธครบมือ และท่าทางไม่ได้หวาดกลัวอะไรเธอเลย
“โอ๊ะโอ ดูสิว่าเราเจอใคร ว่ายังไงสาวน้อยสนใจจะเดินทางไปหาเทพเจ้ากับพวกเราไหม”
“เทพเจ้าก็อยู่ตรงหน้าพวกแกแล้วนี่ไง”
“ว้าว พูดจาโอหังเสียด้วย ท่านหญิงสายฟ้าแห่งลาริแมร์สินะ น่าสนใจดีนี่ ขอแค่ได้ตัวเธอไปยายเด็กพวกนี้ก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว ว่าอย่างไรท่านหญิง จะยอมไปกับเราดีๆแบบไม่บุบสลายหรือไม่ แล้วเราจะปล่อยเด็กพวกนี้ไปถ้าเธอยอมไปกับเรา”
นอกจากพวกโจรโฉดจะไม่มีท่าทีหวาดกลัวไรรีย์แล้ว สายตาและท่าทางของพวกมันยังคุกคามไรรีย์อย่างเห็นชัด ความโกรธยังคงควบคุมไรรีย์ ในหัวของเธอตอนนี้มีเพียงการสั่งสอนเจ้าคนถ่อยพวกนี้ให้รู้สำนึก
“ฉันจะลงทัณฑ์พวกแกเรียงตัวเลย”
“ว้าว คงต้องใช้กำลังบังคับกันหน่อยสินะ”
“ระวังอย่าให้บุบสลายล่ะ เราต้องพาตัวไปเป็นๆ”
“รู้แล้วน่า ไม่บุบสลายหรอก แค่เด็ดปีกออกสักข้างก็พอ”
“!!!” คนพวกนี้ไม่ใช่กลุ่มโจรธรรมดา แต่เป็นนักเวทและพวกมันก็มองเห็นปีกโปร่งใสของไรรีย์ด้วย
ฟึ่บ!
พริบตาเดียวหนึ่งในกลุ่มโจรนั้นก็มาปรากฏอยู่ด้านหลังไรรีย์ และทุบหลังเธอจนร่างของเธอร่วงลงสู่พื้น
ตู้ม!!!
“ฮี่ๆๆๆ”
ปึก!
“อ๊า!!!”
แรงโน้มถ่วงที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ไรรีย์กระแทกพื้นอย่างแรง แต่ก็อาศํยไหวพริบพลิกตัวกลับมาอยู่ในท่าคุกเข่าอย่างรวเร็ว
“ชิ! พวกป่าเถื่อน”
“ฮี่ๆๆ จับได้แล้ว”
“เฮือก!”
ฉัวะ!!!!
……….
ด้านหลังโรงเรียน
“เฮือก!”
ตุบ!
คีระที่กำลังวิ่งไปบนเส้นทางปลอดผู้คนเกิดอาการวูบและสะดุดเท้าตัวเองจนต้องใช้มือค้ำเสาหินใกล้ๆเพื่อพักเหนื่อย
“อ่า…คงไม่ได้เกิดอะไรหรอกนะ”
“คีระ?”
“หืม…เซเลียเหรอ ทำไมมาอยู่ที่นี่”
คีระเงยหน้ามองเพื่อนสนิทที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา
“ทำไมมาอยู่นี่ได้ แล้วคนอื่นๆล่ะ”
“จาเลนกับโลเวลกำลังเฝ้ากรงสัตว์ร้ายอยู่ ฉันก็เลยมาตามครูแอนนาน่ะ ว่าแต่นายเถอะ เป็นอะไรไป แล้วไรรีย์ล่ะ”
“ยายนั่น เฮือก!”
“คีระ!”
“อึก!!!”
คีระยกมือกุมแขนอีกข้างเอาไว้ สัญลักษณ์ที่เขาทิ้งไว้บนข้อมือไรรีย์กำลังบีบรัดและแผดเผาแขนเขาอย่างทารุณ
“ยายนั่นตกอยู่ในอันตราย!”
“ว่าไงนะ!”
“แล้วตอนนี้เธออยุ่ที่ไหน คีระ”
“เราแยกกันไปตามเยงของพวกนักเรียน ถ้าด้านหลังตรงนี้ไม่มีก็แสดงว่ายายนั่นอาจจะอยู่อีกฟากหนึ่งของทางเข้า”
“ทางเข้าเหรอ! ทำไมฉันไม่คิดเรื่องนี้มาก่อนเลยนะ ปัดโธ่”
แอนนาสบถออกมา สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
เพราะเป็นโรงเรียนเวทมนตร์และมีเพียงคนที่มีพลังอาศัยอยู่จำนวนมากจึงมองข้ามจุดเล็กๆอย่างการเดินเข้าออกโดยไม่ใช่พลังใดๆไปเสียง่ายๆ
“พวกเธอกลับไปหาไรเกอร์ซะ เร็วเข้า!”
“ครูคะ!”
“ชิ!”
ไม่เพียงแต่จะไม่ทำตามเท่านั้น แต่คีระกลับออกตัววิ่งแซงแอนนาไปด้วยความเร็วที่แทบจะมองตามไม่ทันก่อนที่ร่างของเขาจะทะลุผ่านเข้าไปในประตูมิติเคลื่อนย้ายที่ถกเรียกออกมา
ต้องทันสิ เธอต้องไม่เป็นไร
เสียงกรีดร้องปริศนาดังขึ้นกลางดึก และเมื่อเหล่าอาจารย์ไปตรวจสอบก็พบเพียงความว่างเปล่า
“มันไม่ใช่ความว่างเปล่าหรอก”
เสียงอาจารย์คนหนึ่งพูดพร้อมกับยื่นมือมาข้างหน้าให้เหล่าอาจารย์และนักเวทซึ่งหนึ่งในนั้นมีไรเกอร์รวมอยู่ด้วย
มันคือภาพความทรงจำของเด็กสาวที่ถูกทิ้งเอาไว้ในกำแพงของทางเดินในโรงเรียน จุดเกิดเหตุที่พวกเขายืนอยู่ตอนนี้
“มีเด็กนักเรียนหญิงทยอยหายตัวไปทีละคนสองคน นี่มันเรื่องอะไรกัน”
“ใจเย็นๆก่อน พวกเธออาจจะหนีออกไปจากโรงเรียนก็ได้”
“หรือไม่ก็มีคนลักพาตัว”
ไรเกอร์ที่ฟังอยู่นานถึงกับถอนหายใจกับการสันนิฐานของเหล่าอาจารย์ในห้องประชุม ก่อนที่ครูหนุ่มจะลุกขึ้นเดินเดินออกจากที่นั่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อาจารย์ส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ในนี้ไม่ได้อยู่ในทีมตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ไม่แปลกที่จะออกความเห็นน่าเวียนหัวแบบนี้
“นั่นคุณจะไปไหน เรายังประชุมกันไม่เสร็จนะ”
“ถ้าการประชุมที่ว่าเป็นแค่เรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมาไม่หาทางแก้สักทีแบบนี้ ผมว่าผมขอตัวดีกว่า”
“ครูไรเกอร์ นั่นนักเรียนของโรงเรียนเรานะ!”
“ก็ใช่ไง เพราะงั้น แทนที่จะมานั่งเถียงกันอยู่แบบนี้ สู้เอาเวลาจัดกำลังคนไปตามหาไม่ดีกว่ารึไง ยกเว้นซะแต่ว่า….พวกคุณบางคนไม่ได้อยากตามหาจริงๆ”
ไรเกอร์ตรงไปตรงมาเหลือบมองเหล่าอาจารย์ที่น่าซีดไปตามๆกัน
“หรือว่ายังไงครับ มิส มาร์เจนต้า”
ดวงตาสีขี้เถ้าตวัดไปมองสตรีเจ้าของเรือนผมสีแดงที่ยังนั่งเงียบมาตลอดการประชุม
ดาเลน มาร์เจนต้า อาจารย์ของหอพักตะวันตก และเธอก็เป็นคนที่ดูแลเด็กที่หายตัวไปด้วย
“เด็กๆที่หายตัวไปเป็นนักเรียนที่อยู่ในความดูแลของคุณ ผมชักสงสัยแล้วสิว่าคุณจะมีวิธีการยังไงในการตามหาเด็กพวกนั้นกันนะ”
ไรเกอร์ทิ้งระเบิดตูมใหญ่ทำให้ทุกสายตาจดจ้องไปที่อาจารย์สาว ริมฝีปากที่แต่งแต้มสีกุหลาบเลือดยกยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับปรายตามองมายังไรเกอร์ราวกับกำลังยั่วยวนยังไงอย่างนั้น
“ฉันเองก็กำลังคิดค่ะ ว่าจะยืมยอดฝีมือจากอาจารย์มาช่วยในการค้นหาครั้งนี้ด้วย”
“หืม? จากผมเหรอ”
“นักเรียนในความดูแลของคุณยังไงล่ะคะ ถึงจะยังเป็นเด็ก แต่พวกเขาก็มีพลังเวทระดับสูง ทั้งยังมีครูพี่เลี้ยงที่เป็นถึงนักรบของเทพเจ้าคอยสั่งสอน ดิฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะเข้าร่วมภารกิจนี้ได้ค่ะ”
“นักเรียนของผมไม่ใช่ทหารรับจ้าง มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องส่งพวกเขาไป”
ไรเกอร์ยังสวนกลับด้วยท่าทีสุดกวนไม่เปลี่ยน แต่แล้วความคิดบางอย่างก็ทำให้ครูหนุ่มเปลี่ยนท่าที
“อ้อ จะว่าไปแล้ว นี่ก็เป็นการดีเลย เอาเป็นว่าผมจะช่วยก็แล้วกัน นักเรียนของผมต้องตามหานักเรียนของคุณเจอแน่ๆ วางใจเถอะครับ”
และภารกิจแรกของบ้านตะวันออกก็ถูกมอบหมายมาแบบมัดมือชก
“อย่างที่ฉันบอก พวกเธอทั้งเจ็ดคนจะได้รับภารกิจเป็นกรณีพิเศษร่วมค้นหานักเรียนที่ถูกลักพาตัวครั้งนี้ด้วย”
“แต่เราเพิ่งเข้ามาเรียนไม่เท่าไหร่เองนะคะครู”
“เรื่องนั้นครูรู้ ภารกิจครั้งนี้จะเป็นการฝึกภาคสนามของพวกเธอ”
“พูดง่ายจัง”
สไตล์ของไรเกอร์มันก็ง่ายมาแต่แรกอยู่แล้ว เขาดูจะไม่ใส่ใจกับเสียงบ่นเป็นหมีกินผึ้งของลูกศิษย์เลย แต่แล้วความกังวลก็เข้ามาปากฏบนใบหน้าของครูหนุ่มอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่น้ำเสียงของเขาจะนิ่งและเยือกเย็นจนลูกศิษย์ต้องฟังกันตัวเกร็ง
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าผลีผลามใช้พลังออกไปเด็ดขาด โดยเฉพาะ….”
ตาสีขี้เถ้าตวัดฉับมองมาที่คีระอย่างเป็นนัย
“ฉันขอย้ำ ว่าอย่าเด็ดขาด เพราะมันอาจเป็นกับดักที่จะจับตัวพวกเธอแทนก็ได้”
“………”
“เซเลีย จาเลน แล้วก็โลเวล ไปทางใต้ ส่วนเลล่ากับบรุ๊คไปตรวจสอบที่หอคอยด้านหลัง ที่เหลือ ลาดตะเวน”
ที่เหลือในความหมายของไรเกอร์หนีไม่พ้นไรรีย์กับคีระ ที่พอได้ฟังแล้วก็แทบจะกัดลิ้นตัวเองเสียให้รู้แล้วรู้รอด
“ให้ตายเถอะ ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย ลาดตระเวนๆๆๆ เห็นได้ชัดเลยว่าครูกีดกันไม่ให้ออกไปนอกโรงเรียน”
ไรรีย์บ่นเป็นหมีกินผึ้งไปตลอดทางจนคนที่เดินมาด้วยเริ่มทนเสียงบ่นของเธอต่อไม่ไหว
“เลิกบ่นซะทีเถอะน่า เสียงเธอมันน่ารำคาญ”
“ใช่สิ ฉันไม่ได้อ่อนหวานเหมือนเลล่า ไม่ได้น่ารักเหมือนเซเลียของนายนี่นะ เอาจริงๆนายคงอยากไปกับพวกเธอมากกว่าสิ เหอะ!”
“แล้วเธอจะพาลถึงคนอื่นทำไมเนี่ย ให้ตายสิ คิดผิดจริงๆที่มากับยายนี่”
“ฉันก็ไม่ได้ให้นายมาด้วยสักหน่อย มาทางไหนก็ไปทางนั้นเลยไป”
“ทางนี้ไม่ใช่ของเธอ ฉันมีสิทธิ์จะเดินไปไหนก็ได้”
“เหรอ!!!”
ไม่มีวันไหนที่ทั้งสองไม่ได้ปะทะกัน และสุดท้ายก็ต้องเชิดหน้าหนีกันไปคนละทางเหมือนเดิม
แต่เพราะได้รับหน้าที่เดียวกันก็เลยทิ้งไปไม่ได้
“กรี๊ดดดดดดดดด!!!! ปล่อยฉันนะ ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!!”
กึก!
“เสียงนี้มัน!”
“ฉันจะไปดูด้านหลัง!”
“เดี๋ยว!”
“อะไรอีกล่ะ”
ไรรีย์ถามกลับอย่างหัวเสีย เธอไม่ค่อยชอบเวลามีคนมาขัดใจ คีระถอนหายใจออกเสียทีหนึ่งก่อนจะคว้าข้อมือของเธอไปจับเอาไว้สักพัก ไรรีย์รู้สึกถึงความอุ่นบริเวณที่คีระจับ ก่อนที่เขาจะปล่อยมือจากเธอ
“นี่อะไร” ไรรีย์ถามพร้อมกับมองริ้วสีแดงบางๆที่พาดอยู่บนข้อมือ
“ไม่ได้อยากทำหรอก แต่ถ้าเธอตกอยู่ในอันตรายฉันจะรู้…..ฉันไปดูทางนั้นเอง”
“อะ…โอเค”
เพียงแค่อึดใจเดียวคีระก็หายไปเหลือแค่ฝุ่นเพียงน้อยนิด ไรรีย์หมุนตัวไปรอบๆจับทิศทางของเสียงร้องที่ยังเหลือเพียงน้อยนิด ก่อนจะจะเดาะลิ้นอย่างขัดใจและกระโดดขึ้นบนฟ้าไปตรงๆ
“ชิส์!”
ฟึ่บ!!!
พรึ่บ!.....
ปีกโปร่งแสงกางออกด้านหลังพยุงร่างหญิงสาวให้ลอยตัวเหนือยอดไม้สูง และด้วยความสูงแทบแตะเมฆก็ทำให้มองเห็นสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่เบื้องล่าง
“เจอแล้ว!”
เด็กผู้หญิงของโรงเรียน กำลังถูกลักพาตัว จะทำยังไงดี จะกลับไปแจ้งข่าวกับทางโรงเรียนรึก็กลัวจะไม่ทัน ต้องส่งสัญญาณ
ร่างหญิงสาวพุ่งหลาวตรงไปที่จุดเกิดเหตุ กลุ่มนักเรียนหญิงหลายคนถูกมัดมือและลากไปอย่างทารุณ
ความโกรธบดบังความรอบคอบจนหมดสิ้น ไรรีย์พุ่งลงไปและกระทุ้งเข่าเสยปลายคางของหนึ่งในกลุ่มโจรลักพาตัวนั้นตรงๆ
ผลั๊วะ!!!!
ร่างสูงใหญ่ในชุดขนสัตว์เหม็นสาบหงายเงิบตีลังกาออกไปหลายเมตรและสลบลงคาที่
พลั่ก!
ไรรีย์ยังลอยอยู่เหนือพื้นดินไม่ถึงสามเมตร สายตากวาดมองไปรอบๆ นับจำนวนโจรโฉดที่มีอาวุธครบมือ และท่าทางไม่ได้หวาดกลัวอะไรเธอเลย
“โอ๊ะโอ ดูสิว่าเราเจอใคร ว่ายังไงสาวน้อยสนใจจะเดินทางไปหาเทพเจ้ากับพวกเราไหม”
“เทพเจ้าก็อยู่ตรงหน้าพวกแกแล้วนี่ไง”
“ว้าว พูดจาโอหังเสียด้วย ท่านหญิงสายฟ้าแห่งลาริแมร์สินะ น่าสนใจดีนี่ ขอแค่ได้ตัวเธอไปยายเด็กพวกนี้ก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว ว่าอย่างไรท่านหญิง จะยอมไปกับเราดีๆแบบไม่บุบสลายหรือไม่ แล้วเราจะปล่อยเด็กพวกนี้ไปถ้าเธอยอมไปกับเรา”
นอกจากพวกโจรโฉดจะไม่มีท่าทีหวาดกลัวไรรีย์แล้ว สายตาและท่าทางของพวกมันยังคุกคามไรรีย์อย่างเห็นชัด ความโกรธยังคงควบคุมไรรีย์ ในหัวของเธอตอนนี้มีเพียงการสั่งสอนเจ้าคนถ่อยพวกนี้ให้รู้สำนึก
“ฉันจะลงทัณฑ์พวกแกเรียงตัวเลย”
“ว้าว คงต้องใช้กำลังบังคับกันหน่อยสินะ”
“ระวังอย่าให้บุบสลายล่ะ เราต้องพาตัวไปเป็นๆ”
“รู้แล้วน่า ไม่บุบสลายหรอก แค่เด็ดปีกออกสักข้างก็พอ”
“!!!” คนพวกนี้ไม่ใช่กลุ่มโจรธรรมดา แต่เป็นนักเวทและพวกมันก็มองเห็นปีกโปร่งใสของไรรีย์ด้วย
ฟึ่บ!
พริบตาเดียวหนึ่งในกลุ่มโจรนั้นก็มาปรากฏอยู่ด้านหลังไรรีย์ และทุบหลังเธอจนร่างของเธอร่วงลงสู่พื้น
ตู้ม!!!
“ฮี่ๆๆๆ”
ปึก!
“อ๊า!!!”
แรงโน้มถ่วงที่ไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้ไรรีย์กระแทกพื้นอย่างแรง แต่ก็อาศํยไหวพริบพลิกตัวกลับมาอยู่ในท่าคุกเข่าอย่างรวเร็ว
“ชิ! พวกป่าเถื่อน”
“ฮี่ๆๆ จับได้แล้ว”
“เฮือก!”
ฉัวะ!!!!
……….
ด้านหลังโรงเรียน
“เฮือก!”
ตุบ!
คีระที่กำลังวิ่งไปบนเส้นทางปลอดผู้คนเกิดอาการวูบและสะดุดเท้าตัวเองจนต้องใช้มือค้ำเสาหินใกล้ๆเพื่อพักเหนื่อย
“อ่า…คงไม่ได้เกิดอะไรหรอกนะ”
“คีระ?”
“หืม…เซเลียเหรอ ทำไมมาอยู่ที่นี่”
คีระเงยหน้ามองเพื่อนสนิทที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหา
“ทำไมมาอยู่นี่ได้ แล้วคนอื่นๆล่ะ”
“จาเลนกับโลเวลกำลังเฝ้ากรงสัตว์ร้ายอยู่ ฉันก็เลยมาตามครูแอนนาน่ะ ว่าแต่นายเถอะ เป็นอะไรไป แล้วไรรีย์ล่ะ”
“ยายนั่น เฮือก!”
“คีระ!”
“อึก!!!”
คีระยกมือกุมแขนอีกข้างเอาไว้ สัญลักษณ์ที่เขาทิ้งไว้บนข้อมือไรรีย์กำลังบีบรัดและแผดเผาแขนเขาอย่างทารุณ
“ยายนั่นตกอยู่ในอันตราย!”
“ว่าไงนะ!”
“แล้วตอนนี้เธออยุ่ที่ไหน คีระ”
“เราแยกกันไปตามเยงของพวกนักเรียน ถ้าด้านหลังตรงนี้ไม่มีก็แสดงว่ายายนั่นอาจจะอยู่อีกฟากหนึ่งของทางเข้า”
“ทางเข้าเหรอ! ทำไมฉันไม่คิดเรื่องนี้มาก่อนเลยนะ ปัดโธ่”
แอนนาสบถออกมา สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
เพราะเป็นโรงเรียนเวทมนตร์และมีเพียงคนที่มีพลังอาศัยอยู่จำนวนมากจึงมองข้ามจุดเล็กๆอย่างการเดินเข้าออกโดยไม่ใช่พลังใดๆไปเสียง่ายๆ
“พวกเธอกลับไปหาไรเกอร์ซะ เร็วเข้า!”
“ครูคะ!”
“ชิ!”
ไม่เพียงแต่จะไม่ทำตามเท่านั้น แต่คีระกลับออกตัววิ่งแซงแอนนาไปด้วยความเร็วที่แทบจะมองตามไม่ทันก่อนที่ร่างของเขาจะทะลุผ่านเข้าไปในประตูมิติเคลื่อนย้ายที่ถกเรียกออกมา
ต้องทันสิ เธอต้องไม่เป็นไร
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ