Laurel ภาค เสียงเพรียกหาจากดินแดนที่ถูกลืม

8.0

เขียนโดย zusuran

วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 21.15 น.

  13 ตอน
  4 วิจารณ์
  10.52K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มีนาคม พ.ศ. 2565 13.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) เดินทางสู่โลกใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
เฮือก!!!
เด็กสาวสะดุ้งตื่นจากฝันด้วยใบหน้าโซมเหงื่อ ทั้งที่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว หมู่บ้านถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาว เซเลียยกมือปาดเหงื่อบนหน้าผาก เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ยาวสลวยเปียกชุ่มเหงื่อแนบใบหน้าให้รำคาญ
“เซเลีย ตื่นรึยัง เดี๋ยวก็ไม่ทันขึ้นยานหรอก”
เสียงแหบห้าวของชายชราดังมาจากหน้าบ้าน
เด็กสาววัยสิบห้าเด้งตัวจากเตียงไปโก่งคอออกไปนอกหน้าต่าง มองเห็นชายสูงวัยที่กำลังรดน้ำดอกไม้อยู่หน้าบ้าน
นอกซ์ เครอน ที่เป็นได้ทุกอย่างสำหนับเซเลีย หากแต่เด็กสาวก็มักจะเรียกเขาว่าลุงเสมอ
“ลุงนอกซ์ อรุณสวัสดิ์”
“ให้ตายสิ เด็กคนนี้ ตื่นแล้วก็รีบเตรียมตัวได้แล้ว วันนี้เป็นวันแรกอย่าให้เสียชื่อของลุงซิเฟร้ย!”
ใช่แล้ว วันนี้เป็นวันแรกที่เซเลียจะได้ออกไปจาก “คะยา” หมู่บ้านมายาแห่งนี้ เพื่อเล่าเรียนวิชาในโรงเรียนเวทมนตร์ฟีนิกซ์ ไม่ได้อยากไปเล้ย แต่ก็ขัดใจลุงไม่ได้ซะด้วยสิ เพราะอะไรน่ะเหรอ หึ!
ทุกครั้งที่เซเลียดื้อกับลุงอย่างไม่มีเหตุผลล่ะก็ จะถูกกำปั้นทรงพลังของนอกซ์ประทานมาให้กลางกระหม่อมทันที ไม่ก็บางทีไม้เท้าเวทมนตร์ของลุงท่านก็จะเสกอะไรน่าเกลียดๆออกมาไล่กวาดเซเลียรอบหมู่บ้านให้เธอได้ออกกำลังกายเล่นๆ
แต่ครั้งนี้เหมือนนอกซ์จะเข้าข้างเธอมากกว่าครึ่ง
เซเลียเดินทางออกจากหมู่บ้านพร้อมกับนอกซ์และเดินทางต่อด้วยรถม้าอีกสองชั่วโมงกว่าจะมาถึงเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน และมียานจอดรอรับผู้ที่กำลังเดินทาง
“เซเลีย ถ้าเจ้าไม่อยากไปเจ้าก็ไม่ต้องไปนะ”
“มาพูดอะไรเอาป่านนี้คะลุง จะขึ้นยานอยู่แล้ว”
“ไอ้หลานคนนี้นี่ ข้ารึอุตส่าห์หวังดี”
แล้วกำปั้นทรงพลังก็ยกขึ้นเหมือนจะเขกหัวสาวน้อยเข้าเพื่อเป็นการสั่งลา แต่ผิดคาด
แปะ….
ฝ่ามือหนาหยาบกร้านทาบลงบนกลุ่มผมสีน้ำตาลดกหนา สัมผัสอ่อนโยนกว่าครั้งไหนๆทำเอาหัวใจเซเลียอุ่นวาบ เธอรู้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว และนอกซ์ก็ไม่ได้อยากให้เธอไปเท่าไหร่นัก แต่ว่า….
“ไม่ว่าคนจะพูดยังไง เจ้าอย่าไปใส่ใจเลย จงเติบโตและเป็นตัวเจ้าที่แข็งแกร่งต่อไปเถอะ หลานเอ๋ย”
“ลุง…”
“ปิดเทอมแล้วก็กลับมาล่ะ”
“เอ๊ะ?”
“ดูทำหน้าเข้า เจ้าไม่ได้ถูกคนทั้งหมู่บ้านเกลียดหรอกนะจะบอกให้ อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีคนรอเจ้ากลับมาอยู่อีกตั้งเยอะ”
“เยอะที่ว่าเนี่ย มีแค่ลุงกับเจ้าเด็กกำพร้าแห่งคะยา นี่รึเปล่า”
เด็กกำพร้าที่เซเลียว่าถึง คือหมาป่าสีดำกำพร้าที่เซเลียเก็บมา และนอกซ์เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน มันเติบโตขึ้นมาพร้อมเซเลีย และดูมันเศร้ามากที่รู้ว่าเซเลียจะต้องไปจากหมู่บ้าน
เด็กสาวนั่งยองๆมองหน้าเศร้าของหมาป่าตัวเขื่องพร้อมกับลูบหัวมันช้าๆ
“รอฉันนะ ฉันจะกลับมาหาแกแน่นอน เพื่อนรัก”
สายตาของมันจดจ้องเซเลียอย่างเว้าวอน และด้วยความที่เติบโตมาด้วยกัน เซเลียจึงอ่านใจมันได้ไม่ยาก เธอสวมกอดคอที่เต็มไปด้วยขนปุกปุยสีดำของมัน เช่นเดียวกับเจ้าหมาป่าที่เกยหน้ามันบนไหล่ของเธอ
ยานลำสีดำลอยขึ้นจากพื้นดินและปรับระดับทิศทางของมันก่อนที่มันจะเคลื่อนตัวไปด้วยความเร็วแสง แน่นอนว่าการเดินทางของเซเลียไม่ได้มีแค่เธอเท่านั้น แต่บนยานโดยสารลำนี้มีทั้งนักเดินทางที่จะไปยังเมืองท่าต่างๆด้วย
และสายตาของเซเลียก็ไปสะดุดกับเจ้าของร่างสูงโปร่งออกจะผอมบางที่ยืนมองทิวทัศน์เบื้องล่างผ่านกระจกใสของยาน เส้นผมสีน้ำตาลแดงชี้ฟูหน่อยๆรับกับใบหน้าด้านข้างที่นิ่งเฉย เซเลียจดจำคนๆนี้ได้ดี
“คีระ”
เจ้าหมอนี่มาทำอะไรบนยานลำนี้เนี่ย
และด้วยความสงสัย สองเท้าก็เดินไปหาคนที่แปลกแยกสะดุดตาคนนั้นทันที
“โย่ว”
“หืม….อ้าว? เธอเองเหรอ”
การทักทายที่ไม่มีอะไรพิเศษ ออกจะกวนด้วยซ้ำไป แน่นอนว่ามันไม่ใช่การทักทายของคนที่เพิ่งเจอกัน แต่มันเป็นการทักทายของคนที่รู้ไส้กันมาตั้งแต่เด็กต่างหาก
“มาทำอะไรที่นี่”
เซเลียเอียงคอมองลงไปยังพื้นด้านล่างเหมือนจะเปิดประเด็นพูดคุยกลายๆ แต่ว่า แทนที่จะได้รับคำตอบหรือกวนประสาทกลับมา เธอกลับได้รับแค่ความเงียบกลับมาเท่านั้น
ซึ่งถือว่าแปลก
“ไม่ได้เจอกันเกือบปีไม่นึกเลยว่าจะกลายเป็นใบ้ไปซะแล้ว”
เซเลียย้ำเข้าไปอีกดอก และได้ผลเมื่ออีกฝ่ายทำเสียไม่พอใจกลับมา
“เธอเองก็กัดเก่งเหมือนเดิมนะ เซล่า เคลอน”
“ฉันชื่อเซเลียย่ะ สมองนายนี่ไม่มีเส้นประสาทบ้างรึเปล่านะ ลอร์ด คีระ เนลสัน อัล เดอแมร์”
เซเลียร่ายชื่อยาวเหยียดตั้งใจจะให้คนทั้งยานได้ยิน แต่คีระมือไวกว่าตะปบปากเธอเอาไว้และรีบลากแม่สาวจอมกวนออกไปจากที่นั่นทันที
ปัง!
เสียงประตูห้องพักบนยานปิดลงทันทีก่อนจะตามมาด้วยเสียงกลอนประถูกล็อกจนเสร็จสรรพ
“จะบ้าเหรอ เป็นอะไรของนายเนี่ย”
“เธอสิเป็นอะไร เล่นพล่ามชื่อฉันออกมาต่อหน้าคนบนยานแบบนี้”
“ก็แล้วไม่ใช่?”
“เดี๋ยวก็ได้แห่กันเข้ามาพอดี อยากให้ยานร่วงรึไงยายเบ๊อะ”
“หึ”
“แล้วนี่เธอจะไปไหน เซเลีย”
“ไปเรียน”
“หา? อย่างเธอเนี่ยนะ”
“ทำไม?”
“เปลา แค่แปลกใจว่าคุณนอกซ์ยอมปล่อยเธอออกมาจากคะยาได้ยังไง”
“ก็ไม่มีอะไร คนที่นั่นเกลียดฉันจะตาย การที่จะส่งฉันออกมาให้พ้นสายตาเกลียดชังแบบนั้นเป็นเรื่องที่สมควรทำมาตั้งนานแล้ว”
มาถึงตรงนี้เซเลียก็ยิ้มเศร้าๆมองออกไปนอกกระจกบานเล็กๆของยานที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่เหนือเมฆ
เสียงถอนหายใจดังขึ้นพร้อมกับท่าทางของชายหนุ่มที่ยืนเท้าสะเอวเกาศีรษะแก้เก้อ
“ว่าแต่นาย มาทำอะไรที่ยานนี่”
“ไม่บอก”
“เฮ้ย”
“แต่ก็เอาเถอะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เห็นเดินทางคนเดียวก็สงสารอยู่หรอกนะ ถ้าอย่างนั้นจะไปด้วยก็แล้วกัน”
“ขอบใจ แต่ไม่ต้อง”
แล้วเซเลียก็สะบัดหนี ความหดหู่เมื่อครู่หายไปทันที เธอกับคีระรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจากการที่เด็กหนุ่มได้หลงเข้าไปในหมู่บ้านมายาและถูกนอกซ์ช่วยเอาไว้ ตั้งแต่นั้นมาทั้งเซเลียและคีระก็เป็นเพื่อนกันมาตลอด ต่างคนต่างก็ปากแข็ง ประชดประชันเก่ง จึงเข้ากันได้ดีทั้งนิสัยและอีกหลายๆอย่าง พ่อของคีระเป็นพระราชาที่ปกครองอาณาจักรซาลันซึ่งเป็นอาณาจักรเดียวที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านของเซเลีย ราชาได้หมั้นหมายทั้งคู่เอาไว้ตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม นั่นคือการตัดสินของผู้ใหญ่ ส่วนเซเลียกับคีระไม่มีอะไรมากเกินกว่าเพื่อนกัน และไม่มีเรื่องอะไรที่อีกฝ่ายจะปิดบังกันได้
“นี่ เซ”
“อะไร อะ!!!!”
จู่ๆชายหนุ่มก็ผลักเซเลียนอนราบกับเตียงพร้อมกับแขนสองข้างที่กักขังเธอเอาไว้ต่างลูกกรง ก่อนที่เซเลียจะได้เปิดปากโวยวาย เสียงของเธอก็ถูกปิดกั้นด้วยริมฝีปากที่ทาบทับลงมา
ยานยังคงเคลื่อนตัวไปตามชั้นบรรยากาศ และอีกนานกว่าจะถึงจุดหมาย ภายในห้องพักของยานยังคงเงียบกริบ มีเพียงชายหนุ่มกับหญิงสาวที่อิงแอบกันอยู่ภายในห้องที่เย็นยะเยือก
เซเลียนั่งบนตักพิงกับแผ่นอกของชายหนุ่มที่นั่งซ้อนทับอยู่ด้านหลัง มือของเธอกอบกุมมือของเขาที่กอดเธอเอาไว้ส่วนอีกข้างขยุ้มปอยผมสีแดงอมส้มของเขาเอาไว้แน่น
“อึก!”
“เจ็บเหรอ ขอโทษนะ”
“แฮ่กๆๆ…ตาบ้า จะทำอะไรบอกกันก่อนสิ ฉันก็คนนะยะ”
“โทษที แต่ฉันทนไม่ไหวจริงๆ”
แล้วใบหน้าคมก็ก้มลงซบไหล่เนียนของหญิงสาวพร้อมกับลิ้นที่ละเลียดของเหลวสีขาวที่ไหลออกมาจากปากแผลอย่างกระหาย
มือของคีระที่สั่นเหมือนจ้าวเข้าเริ่มกลับมาสงบนิ่งและประคองร่างบางเอาไว้ได้มั่นคงกว่าเดิม เขาแค่กอดเอวเธอเอาไว้ไม่ให้เธอขยับเพราะกลัวว่าบาดแผลจะยิ่งฉีกขาดไปมากกว่าเดิม ชายหนุ่มบรรจงดื่มของเหลวสีขาวที่ไม่ต่างจากน้ำนมจนหมดและใช้ลิ้นสากๆเลียปากแผลก่อนที่แผลนั้นจะหายไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เซเลียหน้ามืดหมดแรงอยู่ในอ้อมกอดนั้น หัวใจเต้นแรงเริ่มค่อยๆสงบลงช้าๆ
“ขอโทษทีนะ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกน่า มันช่วยไม่ได้นี่นา นายไม่ได้ดื่มมันนานแล้วนี่นะ”
“อืม…”
“คีระ”
“อะไร”
“คิดว่ามันแปลกไหม เลือดของฉันน่ะ”
“ถ้าเธอแปลกฉันก็เป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว”
คนที่มีพลังพิเศษในตัวตั้งแต่เกิดจะเป็นคนที่ผิดแปลกไปจากคนธรรมดาทั่วไป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เซเลียมีเลือดสีขาว ส่วนคีระก็ไม่ได้ต่างไปจากผีดูดเลือดที่ต้องดื่มเลือดจากผู้คนเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องตาย คีระดื่มเลือดได้จากบางคนเท่านั้น ตั้งแต่วันที่คีระหลงเข้าไปในคะยา เขากำลังจะตาย แต่เพราะเจอเซเลียเข้า ตอนนั้นยังเด็กน้อยที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร เซเลียได้รับบาดเจ็บเลือดไหล เด็กน้อยได้ปกปิดบาดแผลตัวเองเอาไว้ หากแต่สำหรับคีระ มันกลับไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
“ฉันขอดื่มเลือดของเธอหน่อยได้ไหม”
คำพูดนั้นยังก้องอยู่ในหัวเซเลียจนมาถึงทุกวันนี้
หากว่าวันนั้นเซเลียวิ่งหนี คีระก็คงไม่มีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ก็ได้
ที่ผ่านมานอกซ์มักจะให้เซเลียบริจาคเลือดเอาไว้เสมอเพื่อจะส่งไปที่ราชวังเพื่อให้คีระได้ดื่ม ทุกคนไม่รู้ว่ามันคือเลือดทั้งที่มันถูกใส่แก้ววางอยู่บนโต๊ะอาหาร เพราะเลือดของเซเลียเป็นสีขาวและมีกลิ่นหอมเหมือนดอกไม้
“ฉันไม่น่าจะเกิดมาเลยว่าไหม”
“พูดอะไรอย่างนั้น ฉันไม่ให้นายดื่มเลือดฉันฟรีๆหรอกนะจะบอกให้”
“นั่นสินะ บางทีไปคราวนี้ฉันอาจจะเจอคนถูกใจแล้วก็เต็มใจให้ฉันดูดเลือดถึงเนื้อถึงตัวก็ได้ ถึงตอนนั้นเราคงต้องบ๊ายบายกันล่ะ”
“เฮอะ! ถึงเนื้อถึงตัวเหรอ ที่ทำอยู่ตอนนี้เขาเรียกว่าอะไรยะ”
“กับเธอมันต่างกันไงยายเตี้ยเอ๊ย  ผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยาฉันต้องสวย อึ๋ม หุ่นดี ไม่ใช่ยายแร้งทึ้งหนังเหนียวกัดไม่เข้าอย่างเธอ”
“เหรอ!”
ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะถ้าใช่ขึ้นมา ทายาทของพระราชาอาจจะไม่ได้เกิดมาบนโลกนี้ก็เป็นแน่
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา