D.A.D( Day after doomsday) ณ วันหลังโลกาวินาศ
-
เขียนโดย Darkfate
วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 02.15 น.
3 ตอน
0 วิจารณ์
5,094 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560 16.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ณ.วันเเรกที่เริ่มต้นกับวันสุดท้ายที่สิ้นสุด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ นี่คือบทนำบทเเรกของตัวผม มันอาจเป็นนวนิยายที่เหลือเชื่อ เเต่จริงๆเเล้วทุกอย่างมันเกิดขึ้นจริง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เเต่เท่าที่ผมจำได้ มันเริ่มขึ้น ในวันจันทร์
7:30 30 นาทีก่อนที่ทุกอย่างจะจบสิ้น ตัวผม ยังคง อยู่บนรถมอเตอร์ไซด์คู่ใจ กับเวลาที่เร่งรีบ ที่จะเดินทายไปยัง โรงเรียน ที่ห่างออกไปถึง 3 ไฟเเดง เเละ ถูกต้อง วันนี้คือวันเปิดเรียนวันเเรกในชั้นมอปลายของผม หลังจากที่ผมได้หยุดเรียนไปนานเเสนนาน เเละวันเริ่มต้นของผมมักไม่เคยจบลงอย่างสวยงามซักที
7:56 อีกไม่กี่นาทีก่อนเกิดความโกลาหล ตัวผมยังอยู่ป๊ำน้้ำมัน กำลังลงจากรถเเล้วถอดหมวกออก เด็กปำ๊เดินเข้ามาหาผมเเล้วถามว่า
“รับอะไรดีคับ” ตัวผมได้ตอบไปว่า
“ขอเเบบเดิมเต็มถังไวไวด้วย ..จะรีบไปต่อ” เด็กปั้มเปิดฝาถังเเล้วเเหย่หัวจ่ายเติมอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินไปดูรถคันต่อไป
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!! ทันใดนั้นขณะที่ตัวผมยืนใจลอยอยู่ ได้ถูกเสีงกรีดร้องที่มาจากเบื้องหน้าของผม มันห่างออกไปไม่ถึง สิบก้าว เเละเป็นภาพที่ผมติดตาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือผู้ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เขาในตอนนั้นกำลังปลุกปล้ำ หญิงกลางคนในชุดทำงาน สีเทาดำ ฝ่ายผู้หญิงภยายามดิ้นหนีเอาชีวิตรอดสุดชีวิตพร้อมทั้ง ทีบ เตะใส่ชายคนดังกล่าว เเต่ไม่อาจสู้เเรงของฝ่ายชายได้เลย จนในที่สุด ชายคนดังกล่าวก็ ก้มตัวลงกัดที่คอ ของฝ่ายหญิง เลอดกระเซนไปทั่วหน้าของเขา เเละไหลนองไป ทั่วพื้นรอบๆ
“มันเกิดอะไรขึ้น”เสียงจากผู้คนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ ก่อนที่คนสวนมากจะเข้าไปมุ่งดู
“คุณคับเป็นอะไรไหม ?”ในกลุ่มที่มุงดู เริ่มมีการซุกซิบ เเละสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ทันใดนั้นเอง หญิงสาว ที่ถูกกัดที่คอ ก็ลืมตาขึ้นมา ก่อนที่จะลุกขึ้นมาเข้าทำรายชายคนหนึ่งที่มามุงดูในกลุ่มดังกล่าว
อ๊ากกก!!!!!!!!!!!! ….เเละเลือดก็กระเซนออกมาเมื่อชายคนดังเกล่าวถูกกัดเข้าที่หัวไหล่ คนที่มุงดูรอบข้างเริ่มหวาดกลัว ตางคนต่างเริิ่มถอยออกจาก ที่เกิดเหตุ บ้างก็ยืนตลึงอย่างคนขาดสติ ก่อนที่จะถูก คนตายเหล่านั้น เดินเข้ามา เขมือบกัดกินอย่างช้าๆ จากนั้นก็เป็นวัฎจักร ที่คนหวาดกลัวมักถึงจุดจบก่อนคนที่มีสติเเล้วเอาตัวให้รอด ออกมาจากที่นั่นให้ได้ก่อนเสมอ ในตอนนั้นตัวผมเองก็เกือบถูกพวกมันเขมือบเข้า โชคยังดี ที่ตัวผม มีหมวกกันน๊อกในมือ ผมตั้งสติ กำหมวกกันน๊อกไว้เเน่นก่อนที่จะฟาดไปที่ศรีษะของมัน นอนเเน่นิ่ง เเต่เหตุการก็เริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆเมื่อรอบตัวของผม มีคนที่ตายไปเเล้วอยุ่รอบตัว เเละมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยหมวกกันน๊อกที่อยุ่ในมือ คงต้านพวกมันไว้ได้ไม่นาน
สิ่งที่ผมคิดในตอนนั้น คิดได้เพียงเเค่หาที่สูงๆเพื่อหลบพวกมันให้พ้น ก่อนที่ สายตาของผมจะมองไปเห็น นักเรียนชายที่ใส่ชุดเหมือนผมกำลัง จะถูกพวกมันเขมือบ ผมตัดสินด้วยสันชาตญาณ จับหมวดในมือให้เเน่นก่อนที่จะขว้างมันออกไปทางนักเรียนคนดังกล่าว หมวกถูกหัวของพวกมันล้มลง หนึ่งตัวก่อนที่ตัวผมจะวิ่งไปคว้าท่อนเหล็กยาวประมาน สองศอก ก่อนจะกระโจนเข้าไปช่วยนักเรียนคนนั้น
ท่อนเหล็กในมือของผมหวดใส่หัวของพวกมันล้มละเนละนาด ลงไปกองอยุ่กับพื้นก่อนที่ผมจะสะบัดท่อนเหล็ก เลือดที่ติดอยุ่ก็กระเซนลงพื้น
“ระวังตัวหน่อยพวกมันมีเเยะมาก”ผมเอ่ยปากขึ้น
“ขอบคุณ….ที่นายมาช่วยชั้นไว้”นักเรียนคนนั้นกล่าวตอบ
“นายมีเเผนไหม...ว่าจะเอาอย่างไรต่อ?”
“ไม่มี…. พวกมันจะล้อมเราไว้หมดเเล้ว...เอ่อดูนั้น..”
ทันใดนั้น นักเรียนคนดังกล่าวก็ชี้ไปที่บันใดหนีไฟ ที่ยื่นลงมาจากตัวตึกของร้านสะดวกซื้อ
“ตรงนั้น …. พวกเราขึ้นไปหลบพวกมันได้ไหม ?”
“ถ้าไปตอนนี้ไม่ใช่เรื่องยาก …. เเต่นายต้อง กระโดดขึ่นไปเอาบันไดให้ลงมาให้ไวที่สุด… ส่วนตัวเรา จะช่วยถ่วงเวลาให้….เเต่คงจะไม่นานนัก”
“เข้าใจเเล้ว...งั้นนับ หนึ่งถึงสาม ...เเล้วพวกเราวิ่ง”
“ตกลง”ผมตอบ ตกลงจากนั้นพวกเราก็นับพร้อมกัน
“1….2…...3 ..วิ่ง”
หลังจากนับ สามพวกเราก็ออกวิ่งอยากสุดกำลัง ตัวผมกวัดเเกว่งทอนเหล็กไปรอบๆคอยสะกัดให้พวกมันถอยออกไปส่วน นักเรียนคนดังกล่าว ก็ ตามผมมาจากทางด้านหลังอย่างกระชั้นชิด
“ถึงเเล้ว”
“นายเหยียบที่มือเรา... เเล้วกระโดดขึ้นไป”นักเรียนคนดังกล่าวทำตามที่ผมพุดก่อนจะดีดตัวเองขึ้นไปจับบันไดลิง ที่เป็นบันไดหนีไฟ ก่อนจะปืนขึ้นไป ในตอนนั้น ตัวผมเอาท่อนเหล็กไล้หวดพวกมันคอยตรึง ให้เขาอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่บันไดจะร่วงลงมา
“ขึ้นมาได้เเล้ว... นาย”
ในตอนนั้นผมโยนท่อนเหล็กขึ้นไปข้างบน ก่อนที่ตัวผมจะจับลาวบันไดเเล้วตะเกียดตะกายปืนขึ้นไป อย่างรีบเร่ง พวกมันพยายามปีนตามขึ้นมา เเต่ในตอนนั้น ตัวผมเอาเท้ายันใส่หน้าพวกมันทำให้ร่วงตามกันลงมาหลายตัว เมื่อขึ้นไปถึงข้างบน ตัวผมดึงกระไดขึ้นมาจากนั้นหาลังมาทับทางขึ้นเอาไว้กันไม่ให้พวกมั้นขึ้นมา
“รอดตายอย่างหวุดหวิด”นักเรียนคนนั่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หอบ
“เเต่ก็ไม่ใช่ตลอดไป.. ถ้าเราโดนพวกมันล้อมอยู่เเบบนี้”
“เห็นนายใส่ชุด นร เหมือนกับเรา นายอยู่ห้องไหน...เเล้วชื่ออะไร?”
“เรียกเราว่า ไดสุเกะ ไม่รู้เหมือนกัน เพราะมันเป็นวันเปิดเรียนวันเเรก ”
“โว้วววววว…..นั่นซินะ...เรา ฟูมิโอะ..ฝากตัวด้วยนะ”
เเล้วพวกเราก็จับมือกัน ในวันที่ เรื่องร้ายๆได้เกิดขึ้นนี้ ตัวผมยังโชคดี ที่มีเพื่อนคนนี้เป็นคนเเรก เเละ หวังไว้ลึกๆ ว่าพวกเราคงได้ร่วมต่อสู้ต่อไปต่อไปจนถึงที่สุด เพราะการมีเพื่อน คือหนทางที่จะนำไปสู่ทางรอดที่ดีที่สุด
ทันใดนั่นตัวผมเหลือไปเห็น ตู้กระจกสีเเดง ข้างในประกอบด้วยอุปกรดับเพลิง สาย ตัวถึง เเละขวานสีเเดงเล็มหนึ่ง ผมไม่ลังเลที่จะคว้าเอา ท่อนเหล็กที่ผมติดตัวมาทุบเข้าที่ประตูของตู้
เปรี๊ยะ!!!!!! เสียงกระจกตู้เเตกลง เเละตัวผมก็เอามือเข้าไปหยิบ ขวานเล้มเเดงนั้นออกมาก่อนจะส่งให้ ฟูมิโอะ
“รับมันไป”หยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “การจะมีชีวิตรอด..นายต้องมีอาวุตไว้ป้องกันตัว”
“จากพวกมัน… น่ะหรอ?”
“หรือจะให้พวกมัน..เดินเข้ามากละซวกใส้ในนายก่อน..”
”เเต่พวกเขาเเค่โดนกัดเท่านั้น...ทำไมถึงตายได้..หรือพวกเขาอาจจะถูกล้างสมองกันเเน่ ?”
“ข้อนี้เราก็ตอบไม่ได้...เเต่ที่เเน่ๆ..ถ้านายยอมเเพ้..หรือถูกโดนกัดเข้า..นายก็จะเป็นพวกมัน”
“พวกมัน?”
“พวกมันที่ไร้ความรู้สึก ..ไร้การควบคุม..เป็นเพียงศพที่เดินได้.. เเละจะไล่ตามคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อกำจัดทิ้งจนหมดสิ้น..”
“เหมือนกับในเกม.หรือภาพยนตร์เลย เเฮ๊ะ”ฟูจิมิกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น
“ภาพยนตร์ เกม..นั่นคือสิ่งที่อยุ่ในมโนภาพ...เเต่เบื้องหน้าพวกเรา..มันเกิดขึ้นจริง...เเละตัวนายมีสิทธิ์เลือก.ว่านาย..จะยอมตาย...หรือจะจับอาวุตสุ้กับพวกมัน..ให้รู้เเล้วรู้รอดกันไปเลย”ผมยื่นคำขาด
“ตกลง”ฟูมิโอะ ยื่นมือมารับขวาน พร้อมกับสายตาที่เเน่วเเน่ “ถ้าวันนี้เราตาย อย่างน้อยก็ได้สู้เพื่อมีชีวิตต่อไป..”
“งั้นก็เป็นอันตกลงตามนี้”
--------------------------------------------------------------------------------------------
*ไดสุเกะ เป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ผู้ช่วยอันยอดเยี่ยม
*ฟูมิโอะ เป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า คงเเก่เรียน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
7:30 30 นาทีก่อนที่ทุกอย่างจะจบสิ้น ตัวผม ยังคง อยู่บนรถมอเตอร์ไซด์คู่ใจ กับเวลาที่เร่งรีบ ที่จะเดินทายไปยัง โรงเรียน ที่ห่างออกไปถึง 3 ไฟเเดง เเละ ถูกต้อง วันนี้คือวันเปิดเรียนวันเเรกในชั้นมอปลายของผม หลังจากที่ผมได้หยุดเรียนไปนานเเสนนาน เเละวันเริ่มต้นของผมมักไม่เคยจบลงอย่างสวยงามซักที
7:56 อีกไม่กี่นาทีก่อนเกิดความโกลาหล ตัวผมยังอยู่ป๊ำน้้ำมัน กำลังลงจากรถเเล้วถอดหมวกออก เด็กปำ๊เดินเข้ามาหาผมเเล้วถามว่า
“รับอะไรดีคับ” ตัวผมได้ตอบไปว่า
“ขอเเบบเดิมเต็มถังไวไวด้วย ..จะรีบไปต่อ” เด็กปั้มเปิดฝาถังเเล้วเเหย่หัวจ่ายเติมอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินไปดูรถคันต่อไป
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!! ทันใดนั้นขณะที่ตัวผมยืนใจลอยอยู่ ได้ถูกเสีงกรีดร้องที่มาจากเบื้องหน้าของผม มันห่างออกไปไม่ถึง สิบก้าว เเละเป็นภาพที่ผมติดตาจนถึงทุกวันนี้ นั่นคือผู้ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เขาในตอนนั้นกำลังปลุกปล้ำ หญิงกลางคนในชุดทำงาน สีเทาดำ ฝ่ายผู้หญิงภยายามดิ้นหนีเอาชีวิตรอดสุดชีวิตพร้อมทั้ง ทีบ เตะใส่ชายคนดังกล่าว เเต่ไม่อาจสู้เเรงของฝ่ายชายได้เลย จนในที่สุด ชายคนดังกล่าวก็ ก้มตัวลงกัดที่คอ ของฝ่ายหญิง เลอดกระเซนไปทั่วหน้าของเขา เเละไหลนองไป ทั่วพื้นรอบๆ
“มันเกิดอะไรขึ้น”เสียงจากผู้คนรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ ก่อนที่คนสวนมากจะเข้าไปมุ่งดู
“คุณคับเป็นอะไรไหม ?”ในกลุ่มที่มุงดู เริ่มมีการซุกซิบ เเละสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ทันใดนั้นเอง หญิงสาว ที่ถูกกัดที่คอ ก็ลืมตาขึ้นมา ก่อนที่จะลุกขึ้นมาเข้าทำรายชายคนหนึ่งที่มามุงดูในกลุ่มดังกล่าว
อ๊ากกก!!!!!!!!!!!! ….เเละเลือดก็กระเซนออกมาเมื่อชายคนดังเกล่าวถูกกัดเข้าที่หัวไหล่ คนที่มุงดูรอบข้างเริ่มหวาดกลัว ตางคนต่างเริิ่มถอยออกจาก ที่เกิดเหตุ บ้างก็ยืนตลึงอย่างคนขาดสติ ก่อนที่จะถูก คนตายเหล่านั้น เดินเข้ามา เขมือบกัดกินอย่างช้าๆ จากนั้นก็เป็นวัฎจักร ที่คนหวาดกลัวมักถึงจุดจบก่อนคนที่มีสติเเล้วเอาตัวให้รอด ออกมาจากที่นั่นให้ได้ก่อนเสมอ ในตอนนั้นตัวผมเองก็เกือบถูกพวกมันเขมือบเข้า โชคยังดี ที่ตัวผม มีหมวกกันน๊อกในมือ ผมตั้งสติ กำหมวกกันน๊อกไว้เเน่นก่อนที่จะฟาดไปที่ศรีษะของมัน นอนเเน่นิ่ง เเต่เหตุการก็เริ่มเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆเมื่อรอบตัวของผม มีคนที่ตายไปเเล้วอยุ่รอบตัว เเละมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยหมวกกันน๊อกที่อยุ่ในมือ คงต้านพวกมันไว้ได้ไม่นาน
สิ่งที่ผมคิดในตอนนั้น คิดได้เพียงเเค่หาที่สูงๆเพื่อหลบพวกมันให้พ้น ก่อนที่ สายตาของผมจะมองไปเห็น นักเรียนชายที่ใส่ชุดเหมือนผมกำลัง จะถูกพวกมันเขมือบ ผมตัดสินด้วยสันชาตญาณ จับหมวดในมือให้เเน่นก่อนที่จะขว้างมันออกไปทางนักเรียนคนดังกล่าว หมวกถูกหัวของพวกมันล้มลง หนึ่งตัวก่อนที่ตัวผมจะวิ่งไปคว้าท่อนเหล็กยาวประมาน สองศอก ก่อนจะกระโจนเข้าไปช่วยนักเรียนคนนั้น
ท่อนเหล็กในมือของผมหวดใส่หัวของพวกมันล้มละเนละนาด ลงไปกองอยุ่กับพื้นก่อนที่ผมจะสะบัดท่อนเหล็ก เลือดที่ติดอยุ่ก็กระเซนลงพื้น
“ระวังตัวหน่อยพวกมันมีเเยะมาก”ผมเอ่ยปากขึ้น
“ขอบคุณ….ที่นายมาช่วยชั้นไว้”นักเรียนคนนั้นกล่าวตอบ
“นายมีเเผนไหม...ว่าจะเอาอย่างไรต่อ?”
“ไม่มี…. พวกมันจะล้อมเราไว้หมดเเล้ว...เอ่อดูนั้น..”
ทันใดนั้น นักเรียนคนดังกล่าวก็ชี้ไปที่บันใดหนีไฟ ที่ยื่นลงมาจากตัวตึกของร้านสะดวกซื้อ
“ตรงนั้น …. พวกเราขึ้นไปหลบพวกมันได้ไหม ?”
“ถ้าไปตอนนี้ไม่ใช่เรื่องยาก …. เเต่นายต้อง กระโดดขึ่นไปเอาบันไดให้ลงมาให้ไวที่สุด… ส่วนตัวเรา จะช่วยถ่วงเวลาให้….เเต่คงจะไม่นานนัก”
“เข้าใจเเล้ว...งั้นนับ หนึ่งถึงสาม ...เเล้วพวกเราวิ่ง”
“ตกลง”ผมตอบ ตกลงจากนั้นพวกเราก็นับพร้อมกัน
“1….2…...3 ..วิ่ง”
หลังจากนับ สามพวกเราก็ออกวิ่งอยากสุดกำลัง ตัวผมกวัดเเกว่งทอนเหล็กไปรอบๆคอยสะกัดให้พวกมันถอยออกไปส่วน นักเรียนคนดังกล่าว ก็ ตามผมมาจากทางด้านหลังอย่างกระชั้นชิด
“ถึงเเล้ว”
“นายเหยียบที่มือเรา... เเล้วกระโดดขึ้นไป”นักเรียนคนดังกล่าวทำตามที่ผมพุดก่อนจะดีดตัวเองขึ้นไปจับบันไดลิง ที่เป็นบันไดหนีไฟ ก่อนจะปืนขึ้นไป ในตอนนั้น ตัวผมเอาท่อนเหล็กไล้หวดพวกมันคอยตรึง ให้เขาอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่บันไดจะร่วงลงมา
“ขึ้นมาได้เเล้ว... นาย”
ในตอนนั้นผมโยนท่อนเหล็กขึ้นไปข้างบน ก่อนที่ตัวผมจะจับลาวบันไดเเล้วตะเกียดตะกายปืนขึ้นไป อย่างรีบเร่ง พวกมันพยายามปีนตามขึ้นมา เเต่ในตอนนั้น ตัวผมเอาเท้ายันใส่หน้าพวกมันทำให้ร่วงตามกันลงมาหลายตัว เมื่อขึ้นไปถึงข้างบน ตัวผมดึงกระไดขึ้นมาจากนั้นหาลังมาทับทางขึ้นเอาไว้กันไม่ให้พวกมั้นขึ้นมา
“รอดตายอย่างหวุดหวิด”นักเรียนคนนั่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หอบ
“เเต่ก็ไม่ใช่ตลอดไป.. ถ้าเราโดนพวกมันล้อมอยู่เเบบนี้”
“เห็นนายใส่ชุด นร เหมือนกับเรา นายอยู่ห้องไหน...เเล้วชื่ออะไร?”
“เรียกเราว่า ไดสุเกะ ไม่รู้เหมือนกัน เพราะมันเป็นวันเปิดเรียนวันเเรก ”
“โว้วววววว…..นั่นซินะ...เรา ฟูมิโอะ..ฝากตัวด้วยนะ”
เเล้วพวกเราก็จับมือกัน ในวันที่ เรื่องร้ายๆได้เกิดขึ้นนี้ ตัวผมยังโชคดี ที่มีเพื่อนคนนี้เป็นคนเเรก เเละ หวังไว้ลึกๆ ว่าพวกเราคงได้ร่วมต่อสู้ต่อไปต่อไปจนถึงที่สุด เพราะการมีเพื่อน คือหนทางที่จะนำไปสู่ทางรอดที่ดีที่สุด
ทันใดนั่นตัวผมเหลือไปเห็น ตู้กระจกสีเเดง ข้างในประกอบด้วยอุปกรดับเพลิง สาย ตัวถึง เเละขวานสีเเดงเล็มหนึ่ง ผมไม่ลังเลที่จะคว้าเอา ท่อนเหล็กที่ผมติดตัวมาทุบเข้าที่ประตูของตู้
เปรี๊ยะ!!!!!! เสียงกระจกตู้เเตกลง เเละตัวผมก็เอามือเข้าไปหยิบ ขวานเล้มเเดงนั้นออกมาก่อนจะส่งให้ ฟูมิโอะ
“รับมันไป”หยุดคิดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “การจะมีชีวิตรอด..นายต้องมีอาวุตไว้ป้องกันตัว”
“จากพวกมัน… น่ะหรอ?”
“หรือจะให้พวกมัน..เดินเข้ามากละซวกใส้ในนายก่อน..”
”เเต่พวกเขาเเค่โดนกัดเท่านั้น...ทำไมถึงตายได้..หรือพวกเขาอาจจะถูกล้างสมองกันเเน่ ?”
“ข้อนี้เราก็ตอบไม่ได้...เเต่ที่เเน่ๆ..ถ้านายยอมเเพ้..หรือถูกโดนกัดเข้า..นายก็จะเป็นพวกมัน”
“พวกมัน?”
“พวกมันที่ไร้ความรู้สึก ..ไร้การควบคุม..เป็นเพียงศพที่เดินได้.. เเละจะไล่ตามคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อกำจัดทิ้งจนหมดสิ้น..”
“เหมือนกับในเกม.หรือภาพยนตร์เลย เเฮ๊ะ”ฟูจิมิกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น
“ภาพยนตร์ เกม..นั่นคือสิ่งที่อยุ่ในมโนภาพ...เเต่เบื้องหน้าพวกเรา..มันเกิดขึ้นจริง...เเละตัวนายมีสิทธิ์เลือก.ว่านาย..จะยอมตาย...หรือจะจับอาวุตสุ้กับพวกมัน..ให้รู้เเล้วรู้รอดกันไปเลย”ผมยื่นคำขาด
“ตกลง”ฟูมิโอะ ยื่นมือมารับขวาน พร้อมกับสายตาที่เเน่วเเน่ “ถ้าวันนี้เราตาย อย่างน้อยก็ได้สู้เพื่อมีชีวิตต่อไป..”
“งั้นก็เป็นอันตกลงตามนี้”
--------------------------------------------------------------------------------------------
*ไดสุเกะ เป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ผู้ช่วยอันยอดเยี่ยม
*ฟูมิโอะ เป็นชื่อภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า คงเเก่เรียน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ