Best friend เพื่อนของฉัน
-
เขียนโดย Natam
วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.32 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,147 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 มีนาคม พ.ศ. 2560 18.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เพื่อนสนิท...
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ "รู้สึกยังไงกับหนึ่งเดือนที่ ผ่านมา" ผู้เป็นอาถามขึ้นเมื่อเห็นสาวน้ อยเอาแต่ก้มหน้าก้ มตาทานอาหารอย่างไม่สนใจสิ่ งรอบข้าง
"ก็ดีค่ะ ทุกคนดูเป็นมิตรดีค่ะ" เธอเงยหน้าขึ้นมาตอบทั้งที่ยั งคงเอาปากคาบช้อนอยู่อย่างนั้น แล้วก้มหน้ากินต่ออย่างไม่ได้ สนใจสักเท่าไหร่
"แค่นี้...เหรอ?" วัชระ พยายามเรียกร้ องความสนใจจากหลานสาวตัวน้อยที่ เอาแต่สนใจอาหารตรงหน้า
"ค่ะ...อ่อ!" เธอร้องเสียงหลงเหมือนกับคิดเรื่ องสำคัญออกมาได้ "ตอนนี้มีนามีเพื่อนสนิทแล้ วนะคะ ชื่อน้ำค้าง" ดูเหมือนว่าจะสร้างความสนใจให้ กับวัชระไม่น้อย เมื่อจู่ๆ หลานสาวของเขามีเพื่อนสนิ ทในเวลาเพียงแค่เดือนเดียว
"เพื่อนสนิท อย่างนั้นเหรอ" เขาทวนคำตอบซ้ำอีกครั้งอย่างไม่ เชื่อหู ก็ปกติแล้วไม่เคยเห็นว่ าเธอจะสนใจการมีเพื่อนสักเท่ าไหร่ อีกอย่างตอนไปโรงเรียนวั นแรกเธอกลัวที่จะรู้จักใครๆ เสียอีก
"ค่ะ เพื่อนสนิท" มีนาเงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็ นอาอย่างสงสัย
"แล้วเธอแน่ใจได้อย่างไร ว่าเขาสนิทกับเธอ" คำถามนี้ทำเอามีนานิ่งอึ้งไปสั กพัก ก็แน่ล่ะ เด็กที่ไม่เคยมีเพื่ อนแบบเธอจะรู้ได้อย่างไรว่าคนนั้ นคนนี้สนิทกับเธอจริงๆ อย่างที่เธอรู้สึก
"ก็น้ำค้างคอยช่วยเหลือมี นาตลอดค่ะ ไปไหนมาไหนด้วยกัน จนโดนแซวบ่อยๆ ว่าตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ เลย" รอยยิ้มที่แสนสดใสเปื้อนอยู่ บนใบหน้าของเธอ นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ตั้งแต่แม่เธอเสียไป รอยยิ้มแบบนี้ก็ไม่เคยมีอีกเลย จะมีก็เพียงแต่น้ำตา ความเงียบ ความรู้สึกที่ไม่อาจคาดเดาได้ และการเก็บตัวอยู่ในห้องคนเดี ยว
ทุกครั้งที่ญาติคนอื่นๆ ไปหาเธอที่บ้านก็จะพูดเป็นเสี ยงเดียวกันว่า เธอไม่ยอมพูดกับทุกคนที่ไป มีเพียงแค่พยักหน้า กับส่ายหัว เป็นคำตอบเวลาถูกถามขึ้น รวมถึงตัวของเขาด้วย เธอจะเอาแต่เงียบและเดินไปอยู่ ในมุมส่วนตัวของเธอและนั่งเหม่ อลอยอยู่คนเดียว
ญาติๆ ของเธอรู้อยู่แล้วว่าตอนนั้ นเธอได้กลายเป็นโรคซึมเศร้ าและดูเหมือนว่า มีภาวะเก็บกดแทรกขึ้นมาด้วย แต่นั่น ทุกคนก็ไม่สามารถที่จะพาเธอเข้ ารับการรักษาได้ อีกอย่างแต่ละคนก็ไม่มีเวลาว่ างพอที่จะมาคอยนั่งดูแลเธอตลอด จนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น ทุกคนถึงต้องมานั่งประชุมกันอี กครั้งว่าใครที่สามารถดู แลเธอหลังการรักษาได้บ้าง และวัชระก็อาสาที่จะรับเธอขึ้ นมาเลี้ยงดู แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบเด็กผู้ หญิงก็ตาม
"ดูร่าเริงขึ้นนะ แสดงว่าเลิกกังวลเรื่องนั้นแล้ วสิ" เขาถามกลับลอยๆ แต่นั่นก็ทำให้ริมฝีปากที่ฉีกยิ้ มอย่างมีความสุขเหยียดตรงไร้ซึ่ งความรู้สึกแทบจะทันที
"เหรอค่ะ แต่มันก็ยังไม่สนิทใจเท่าไหร่" น้ำเสียงของเธอแต่ต่างไปจากเมื่ อสักครู่นี้อย่างสิ้นเชิง สายตาที่หลุบต่ำลงไม่กล้าที่ จะสบตากับเขาเวลาพูด หรือแม้แต่ท่าทีที่แสดงออกมาว่ าไม่พอใจในคำถามอย่างเห็นได้ชั ด
"ยังไม่สนิทใจ...เหรอ" เขาถามกลับอย่างสงสัยอีกครั้ง
"ช่างมันเถอะค่ะอาเล็ก มีนาว่าวันนี้สายแล้ว เราไปโรงเรียนกันเถอะค่ะ" รอยยิ้มของเธอกลับมาอีกครั้งแม้ มันจะดูฝืนไปบ้างก็ตาม เธอทำทีเอาจานเข้าไปเก็บในครั วเพื่อจบการสนทนาของเธอกับเขาทั้ งหมด อย่างไรซะ คงไม่มีใครอยากที่จะทุกถามเรื่ องในอดีตซ้ำๆ หรอก เธอเองก็ด้วย
วัชระมองร่างของเด็กหญิงที่ ตนรับเลี้ยงเดินไปยังห้องครัว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กหญิ งที่เคยร่าเริงแจ่มใสอย่างมีนา จะกลายเป็นโรคซึมเศร้าและเด็ กเก็บกดไปได้ มิหนำซ้ำยังกลายเป็นฆาตรกรอย่ างไม่รู้ตัวอีก ตอนนี้เขาก็หวังแค่ว่าเวลา และเพื่อนที่ดีต่อเธอจะเยี ยวยาทุกสิ่งที่เด็กผู้หญิงคนนึ งได้เจอให้ดีขึ้นมาบ้าง เขาหวังเพียงแค่นั้น
"ตั้งใจเรียนนะสาวน้อย" วัชระเอ่ยขึ้นพร้อมกับเอามือขยี้ หัวของมีนาเบาๆ ด้วยความหมันไส้ปนเอ็นดู แววตาของเด็กคนนี้เวลาอารมณ์ดี ช่างน่าหลงไหลจริงๆ
"ค่า อาเล็ก หัวมีนายุ่งหมดแล้วนะคะ" เธอตอบก่อนที่จะโวยวายเรื่ องผมของตนที่โดนผู้เป็นอาทำให้ มันเสียทรง แต่นั่นกับทำให้วัชระหัวเราะร่ วนขึ้นมาเสียอย่างนั้น เธอยกมือไหว้แสดงความเคารพเขาก่ อนที่จะ ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในโรงเรี ยน
ตั้งแต่เธอเข้าโรงเรียนนี้มาก็ ดูเหมือนว่าเธอจะผ่อนคลายและค่ อยๆ ร่าเริ่งขึ้นมาทีละนิดๆ แม้ว่าจะยังมีอาการซึมๆ หรือคิดเล็กคิดน้อยอยู่บ้างก็ เถอะ แต่นั่นมันก็น้อยลงกว่าแต่ก่ อนหลายเท่า
"มีนา วันนี้เธอมาสาย" น้ำค้างพูดขึ้นพร้อมกั บเอาแขนมาวางไว้บนไหล่ของเธอ และหัวเราะขึ้นอย่างอารมณ์ดี แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติของน้ำ ค้าง เพราะอย่างนั้นหรือเปล่า เธอเลยซึมซับเอาความร่าเริ งจากน้ำค้างมาบ้าง แม้ว่ามันจะไม่เยอะก็ตามที อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอดูมีชีวิ ตชีวาขึ้นมาบ้าง
"วันนี้คุยกับอาเล็กเพลินไปหน่ อยน่ะ พอดูเวลาอีกทีก็สายแล้ว" เธอฉีกยิ้มกว้างให้กับน้ำค้าง ที่เอาแต่หั วเราะในคำตอบของเธอจนตาหยี
เธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ าทำไมน้ำค้างถึงหัวเราะได้ง่ ายนัก เรื่องบางเรื่องเธอคิดว่ามันไม่ ตลกเสียด้วยซ้ำแต่น้ำค้างกับหั วเราะออกมาได้ จนบางทีเธอก็อดขำหล่อนไม่ได้ เหมือนกัน
"มีนากับอาเล็กนี่ ดูสนิทกันจังเลยนะ" น้ำค้างหยุดหัวเราะแล้วยิ้มอ่ อนๆ ให้กับมีนา หล่อนมองหน้าเพื่อนของตัวเองที่ ทำหน้างง เมื่อเธอพูดประโยคที่ ปนคำถามออกไป
หล่อนไม่รู้หรอกว่ามีนาเป็ นคนยังไงมาก่อนแม้ว่าบางทีหล่ อนจะอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ ยอมเล่าเรื่องโรงเรียนเก่าให้ฟั งก็ตาม แต่นั่นหล่อนก็คิดว่าทุกคนย่ อมมีเรื่องราวของตัวเองที่ไม่ สามารถบอกคนอื่นได้อยู่
"ไม่หรอกน้ำค้าง มีนากับอาเล็กนานๆ จะได้คุยกันทีต่างหาก" เธอเลิกคิ้วสูงและกลอกตาไปมาเมื่ อพูดถึงอาที่รับเลี้ยงเธอ ที่วันๆ เอาแต่ทำงานจนแทบไม่มี เวลาพาเธอไปเที่ยวเล่นเหมือนเด็ กคนอื่น มันก็แทบไม่ได้ต่างจากเดิมเลยสั กนิด สุด.ธท้ายแล้วเธอก็ต้องอยู่ คนเดียวเหมือนเดิมอยู่ดี
"อาเล็กเขาก็ทำงานเพื่อมีนานั่ นแหละ" หล่อนปลอบเพื่อนของตัวเองอย่ างรู้สึกผิด หล่อนไม่น่าเปิดประเด็นเรื่องนี้ เลยจริงๆ ทำให้มีนาหน้าเศร้าลงจากเดิมที่ เคยเป็นมาอีกนิด
"อาเล็กก็คงมีเหตุผลของอาเล็ กละนะ" น้ำค้างบอก มีนาพยักหน้าอย่างเข้าใจ ในสิ่งที่น้ำค้างอธิบาย
"ทุกคน วันนี้ครูสอนพละมีประชุม เลยสั่งงานทิ้งไว้" เสียงเจื้อยแจ้วของหัวหน้าชั้ นตัวเล็กอย่างหญิง วิ่งหน้าตื่นขึ้นมาพร้อมกับชู กระดาษเอสี่แผ่นบางๆ สะบัดไปมาอยู่เหนือหัว นี่ถ้าไม่มีใครรู้จักหญิงคงคิ ดว่าหล่อนอยู่แค่ชั้นมัธยมปีที่ หนึ่งเป็นแน่ ดูได้จากขนาดตัวของหล่อนแล้ว
"เดี๋ยวเราจะเขียนติ ดกระดานบอกนะ พอหมดคาบเราจะลบออกนะ" หล่อนตะเบงเสียงเล็กออกมาเรี ยกร้องความสนใจเพื่อนในห้องที่ เอาแต่จับกลุ่มคุยกันระหว่ างรอครูเข้าสอน
'ให้นักเรียนทุกคนจับกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ทำรายงาน วิชาสุขศึกษาและพละศึกษาเรื่อง ภาวะเด็กซึมเศร้าและเด็กเก็บกด ส่งก่อนสอบพร้อมกันทุกกลุ่ม และสอบนำเสนอเป็นกลุ่ม'
เขียนเสร็จหล่อนก็หันมาทำตาปริ บๆ ให้กับเพื่อนในชั้นเรียนที่ต้ องร่วมเผชิญชะตาเดียวกัน หล่อนรู้ว่าทุกคนเกลี ยดการนำเสนอเป็นไหนๆ รวมไปถึงตัวของหล่อนด้วย
"สอบยากกว่าคณิตศาสตร์ก็ นำเสนอรายงานนี่แหละ" ชายที่ขี้เล่นที่สุดในห้องเอ่ ยขึ้น และทรุดตัวลงกับโต๊ะราวกับว่าร่ างของเขาจะแหลกสลายไปพร้อมกั บการนำเสนอรายงานเสียอย่างนั้น แต่นั่นก็สร้างความตลกขบขั นในคำพูดของเขาได้ไม่น้อย รวมไปถึงตัวมีนาด้วยที่เผลอหั วเราะออกมากับคำพูดนั่นอย่างเห็ นด้วย
"เอาละพวกเรา" หญิงพูดออกมาอย่างกับคนจะร้ องไห้ "มาจับกลุ่มกันเถอะ" เมื่อหญิงพูดจบ ทุกคนต่างก็พากันจับกลุ่มกันอย่ างชุนละมุนวุ่นวาย ส่วนใหญ่คนที่เก่งๆ หรือสนิทกันก็มักจะอยู่กลุ่มเดี ยวกัน และแน่นอนพวกเขาเหล่านั้นมั กจะทิ้งให้คนที่ด้อยกว่า อยู่ด้วยกันเสมอ
"เห้ย! เดี๋ยวก่อนนะ!" หญิงพูดขึ้นอย่างตกใจสุดขี ดทำให้ความวุ่นวายของห้องชะงั กลงและอยู่ในความเงียบทันที ก่อนที่หล่อนจะลุกเดินไปที่ กระดาน
"อะไรของแกวะหญิงตกใจหมด"
"เราลืมเขียนตรงท้ายกระดาษ" ทุกคนมองหล่อนด้วยความสงสัย แต่ก็ต้องกระจ่างทันทีเมื่ อเธอเขียนข้ อความในกระดาษลงบนกระดานจนจบ
'ให้จับกลุ่มโดยไล่ลำดั บตามเลขที่ แต่ละกลุ่มห้ามมีเลขคี่และเลขคู่ ปนกัน'
เสียงโห่ร้องประท้วงดังขึ้นทั นทีเมื่อสิ้นสุดข้อความ ความหวังที่ว่าคนเก่งกับและคนที่ สนิทกันจะได้อยู่ด้วยกันสิ้นสุ ดลงทันที รวมไปถึงมีนากับน้ำค้างด้วย ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกั นในการทำรายงานครั้งนี้
"อดอยู่ด้วยกันเลยเนอะ" น้ำค้างพูดขึ้นเมื่อเห็นมีนาตี หน้าเศร้า หล่อนรู้ดีว่ามีนาติดหล่ อนขนาดไหน และหล่อนก็ติดมีนาไม่แพ้กัน
"ไม่เป็นไรหรอกน้ำค้าง แค่แยกทำรายงานเอง สบายมาก" มีนายิ้มพลางยักคิ้ว ให้กับน้ำค้าง เธอเกรงว่าน้ำค้างจะไม่สบายใจถ้ าเธอเอาแต่ตีหน้าเศร้าอยู่อย่ างนั้น น้ำค้างหลุดขำกับการกระทำของเพื่ อนตัวเองที่ตั้งแต่รู้จักกันมา หล่อนยังไม่เคยเห็นมีนาทำหน้ าทะเล้นแบบนี้มาก่อน
"น้ำค้าง เราอยู่กลุ่มเดียวกับน้ำค้าง" เสียงหัวเราะของทั้งคู่หยุดลงทั นที เมื่อมีสมาชิกใหม่เข้ามาขั ดการสนทนาของทั้งสองคน
"ใช่เหรอบาส" น้ำค้างหันไปตอบคนที่เข้ามาใหม่ อย่างไม่สนใจ จริงๆ หล่อนรู้อยู่แล้วว่าหล่อนต้ องอยู่กับเขา แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ และนั่นก็ทำให้รอยยิ้มและท่ าทางทะเล้นของมีนาหายไปแทบจะทั นทีเช่นกัน
"ใช่สิ่ แล้วนี่มีนาไม่ไปอยู่กลุ่มตั วเองเหรอ" บาสพูดอย่างจิบปากจิบคอ "หรือว่าไม่มีใครคบคะ" พูดจบเขาก็มองเธอตั้งแต่หัวจนถึ งเท้าประกอบกับทำท่าทางรังเกี ยจเธอเสียอย่างนั้น เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอไม่พอใจบาสเป็นอย่ างมาก
คำพูดของเขาทำให้น้ำค้างยืนเต็ มความสูงของตัวเอง ที่ดูจะสูงกว่ากระเทยหัวโปกหน่ อยๆ เสียด้วยซ้ำ พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้ างกระชากคอเสื้อของเขาอย่ างหาเรื่อง
"เก็บปากไว้นำเสนองานตอนสอบดี กว่านะบาส" น้ำค้างพูดขึ้น ทุกคนในห้องตกอยู่ในความสงบ ทุกคนรู้ดีว่าน้ำค้างเป็นคนร่ าเริง แต่ถ้าโมโหขึ้น มาเมื่อไหร่ ใครก็ห้ามไม่อยู่
"พอเถอะน้ำค้าง ปล่อยบาสเถอะ เดี๋ยวก็ร้องไห้เอาหรอก" เป็นมีนาที่ดึงมือของน้ำค้ างออกจากคอเสื้อของเขา เมื่อสังเกตเห็นน้ำใสๆ ตรงเบ้าตา ที่ดูเหมือนว่าเขาพยายามกลั้นมั นไว้ไม่ให้ไหลออกมา
"แล้วหยุดก่อกวนคนอื่นได้แล้ วนะ งานกลุ่มถ้าแกไม่ช่วยนะ อย่าหวังว่าฉันจะเขียนชื่ อแกลงไป" น้ำค้างตะตอกแล้วชี้หน้าบาสที่ เอาแต่ยืนกำมือแน่นและสั่นอยู่ ด้วยความโมโหปนตกใจ
"เออ รู้แล้ว" พูดจบเขาก็เดินสะบัดก้ นออกไปจากห้อง อย่างไม่สนใจสายตาของทุกคนที่ มองอยู่ น้ำค้างสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนที่ จะค่อยๆ ผ่อนมันออกมาอย่างช้าๆ เพื่อให้อารมณ์ของเธอสงบลงบ้ างแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ค่ อยได้ผลเท่าไหร่
"ถ้าอย่างนั้น เราไปหากลุ้มของเราก่อนนะน้ำค้ าง ใจเย็นๆ นะ" มีนาพูดขึ้นแล้วตบหลังหล่อนเบาๆ ก่อนที่หล่อนจะพยักหน้าตอบรับ และปล่อยให้เธอไปหากลุ่ มทำรายงานของตัวเอง
"นี่ มีนาเธออยู่กลุ่มเรานะ" หญิงพูดขึ้นเมื่อเห็นมีนาทำท่ าเก้ๆ กังๆ เดินเข้ามา เธอพยักหน้าแทนคำตอบ
"ถ้าอย่างนั้นเรามาแบ่งงานกั นนะ" หญิงพูดกับสมาชิกในกลุ่ มของเธอที่ดูเหมือนว่างานนี้ คนที่พึ่งได้คงมีแค่มีนาคนเดียว ส่วนที่เหลืออีกสามคน คือคนที่เธอต้องช่วยฉุดขึ้ นมาให้ได้เกรดสวยๆ งามๆ กับคนอื่นบ้างและพยายามไม่หวั งอะไรจากพวกเขามาก
"เอาเป็นว่ามีนาหาข้อมูลแล้วก็ จัดหน้่ามาให้พวกเรานะ แล้วก็ที่เหลืออีกสามคนช่ วยหาข้อมูลเพิ่มเติมให้ห้องสมุด ส่วนค่ารูปเล่มค่อยหารจ่ายกันห้ าคนดีไหม" หญิงหยุดพูด และมองหน้าทั้งสี่คน ที่ทำท่าทางใสซื่อกับคำพู ดของหล่อน จนหล่อนรู้สึกว่าทุกคนไม่ได้ต้ องการที่จะให้หล่อนขี้แจงเรื่ องนี้สักเท่าไหร่
"แล้วเรื่องภาพไสลด์ละ" เป็นมีนาที่ถามขึ้นแทนทั้ งสามคนที่พยักหน้าให้กั บคำถามของมีนา
"อ่อ พวกเธอหาข้อมูลมาเดี๋ ยวเราทำไสลด์เอง ส่วนเรื่องนำเสนอ หลังจากเราทำไสลด์เสร็จ จะเอาในส่วนที่ทุกคนต้องพู ดมาให้อ่านนะ" ทั้งสี่คนพยักหน้าอย่างพร้ อมเพรียง
"พูดอะไรหน่อยไหม" หญิงทำหน้าเหยเกให้กับทั้งสี่ที่ เอาแต่เงียบแล้วพยักหน้าอย่ างเดียว
"ตกลง" คำพูดสั้นๆ แต่มันก็ทำให้หล่อนใจชื้นขึ้ นมาบ้าง อย่างน้อยคนในกลุ่มของหล่อนก็ ไม่ได้เป็นไบ้ และสามารถนำเสนองานในวันสอบได้ ละนะ
"รู้สึกดีขึ้นหรือยัง" มีนาถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่ อนสาวของเธอเอาแต่นั่งอึนตั้ งแต่ทะเลาะกับบาสเมื่อเช้านี้
"รู้สึกแย่อยู่แหละ ไม่ได้โมโหแบบนี้นานแล้ว"
"นี่ น้ำเย็นๆ เผื่อไฟในใจมันจะเย็นลงบ้าง" น้ำค้างอดยิ้มให้กับคำพู ดของเธอไม่ได้จริงๆ หล่อนไม่อยากจะเชื่อเลยว่า คนที่เอาแต่เงียบขรึมไม่สุงสิ งกับใครแบบเธอจะพูดอะไรกวนๆ แบบนี้เป็นด้วย
"ขอบใจเพื่อนรัก" หล่อนพูดขึ้นพร้อมกับยกน้ำเย็ นที่มีนายื่นให้ขึ้นดื่ม
"ขอนั่งด้วยคนได้ไหม" เสียงคนที่เข้ามาใหม่ ทำให้น้ำค้างกระแทกขวดน้ำ ลงบนโต๊ะแรงๆ อย่างไม่สบอารมณ์
"ไม่..."
"แค่อยากมาขอโทษพวกเธอเรื่ องเมื่อเช้าน่ะ" เขาพูดพลางทำหน้าสำนึกผิด
"นั่งสิ" มีนาพูดขึ้น ทำให้น้ำค้างจิ๊ปากขึ้นอย่างเสี ยอารมณ์
"เราขอโทษเธอด้วยนะมีนา เรื่องเมื่อเช้าน่ะ เราพูดแรงไปหน่อย"
"ไม่เป็นไรหรอก" มีนาพูดขึ้นพร้อมกับส่งยิ้มอ่ อนๆ ให้กับเขา
"แกด้วยนะน้ำค้าง" บาสมองหน้าน้ำค้างที่เอาแต่ มองเขาด้วยหางตา
"น้ำค้าง ไม่เอาน่า" เป็นมีนาที่เขย่าตัวของเพื่ อนสาวเพื่อเรียกสติให้เลิ กงอนบาสที่สำนึกผิดสักที
"อืม ทีหลังก็อย่าทำแบบนี้อีกนะ" ถึงจะพูดแบบนั้น หล่อนก็อดใช้สายตาพิฆาตรส่ งไปให้เข้าเสียไม่ได้ และนั่นก็ทำให้เขายิ้มน้อยยิ้ มใหญ่อยู่ไม่น้อย
"วันนี้ทำไมวันนี้อาเล็กกลั บมาเร็วจัง" เธอพึมพำกับตัวเองด้วยความสงสั ยเมื่อเห็นรถมินิสปอร์ตของผู้ เป็นอาจอดอยู่ที่หน้าบ้าน
ระหว่างที่เธอจะหมุนลูกบิดเพื่ อเปิดประตู ก็ได้ยินเสียงบางอย่างภายในบ้าน ถึงมันจะไม่ดังมาก แต่ถ้าอยู่บริเวรประตูบ้าน ก็พอที่จะได้ยินเสียงนั้นชัดอยู่ เธอตัดสินใจค่อยๆ แง้มประตูดูว่าเกิดอะไรขึ้ นภายในบ้าน พร้อมกับตาที่เบิกกว้างเมื่ อพบกับอาของเธอกำลั งบรรเลงเพลงรักกับหญิงสาวหน้ าตาดีที่เธอเองก็ไม่ได้คุ้นตาสั กเท่าไหร่ อยู่ตรงโซฟาหน้าทีวีที่อยู่ใกล้ ๆ กับประตูหน้าบ้าน เธอรีบปิดประตูอย่างเบามือก่ อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวไปหาที่ไหนสั กที่เพื่อกลบสิ่งที่เธอได้เห็ นนี้
เธอเลือกที่จะเดินไปยั งสวนสาธารณะที่อยู่ติดกับบ้ านของเธอ เพราะตั้งแต่เธอย้ายมาอยู่ที่นี่ นอกจากบ้านแล้วก็มีเพียงโรงเรี ยนเท่านั้นแหละที่เธอคุ้นเคย แม้แต่สวนสาธารณะในตอนนี้เธอยั งไม่เคยมาเลยด้วยซ้ำ แม้มันจะอยู่ถัดจากบ้านเธอเพี ยงไม่กี่ก้าวก็ตามที
เธอนั่งทอดน่องอยู่บนเก้าอี้ ริมสระน้ำ พลางมองออกไปบนผิวน้ำอย่างเหม่ อลอย สมองของเธอมันกำลังประมวลภาพทุ กอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับเธอ ตั้งแต่พ่อกับแม่ของเธอทะเลาะกั นจนต้องแยกทางกัน และทิ้งเธอให้อยู่กับแม่ ของเธอเพียงลำพัง แต่ญาติๆ ทางฝั่งของพ่อเธอก็ยังคอยช่ วยเหลือเธอและแม่อยู่ตลอด
จนกระทั่งแม่เธอจากไป ดูเหมือนทุกคนไม่ว่าจะฝั่งแม่ หรือพ่อดูเหมือนจะเกี่ยงกัน เรื่องที่ใครจะดูแลเธอ หรือใครจะส่งเสียเธอ สุดท้ายแล้วเธอจึงตัดสินใจที่ จะอยู่คนเดียวเสียดีกว่าที่ จะไปเป็นภาระของใครๆ แม้มันจะเศร้า เหงา รู้สึกแย่กับการที่โดนเพื่ อนแกล้งมากขนาดไหน ท้ายที่สุดเธอก็ต้องมานั่งร้ องไห้คนเดียวเสียทุกที จนเธอแทบไม่มั่นใจเลยว่า ในโลกนี้จะมีใครที่จะมาทำดีกั บเธออีก ทุกคนมองว่าเธอเป็นภาระ ถ้าเธอตายๆ ไปซะทุกอย่างคงจะจบ
แต่แล้ววันที่ไม่คาดคิดก็มาถึ งวันที่เธอโกรธจัดจนลงมือฆ่าเพื่ อนร่วมชั้นเรียนลงไป ความรู้สึกในตอนนั้นมันยั งคงตราตรึงอยู่ในห้วงความรู้สึ กลึกๆ ของเธอ เพียงแต่มันเบาบางลง จนเธอเองก็จำไม่ได้ว่าตอนนั้ นเธอโกรธขนาดไหน แต่รู้ได้เพียงว่าเธอทำมันถู กแล้ว ถ้ามีโอกาสกลับไปแก้ตัว เธอก็เลือกที่จะทำมันอีกมันไม่ ใช่สิ่งที่ดี แต่สำหรัยเธอมันคือสิ่งที่ คนแบบเขาสมควรได้รับมัน
กลิ่นคาวเลือดหรือสิ่งต่ างรอบตัวในตอนนั้นเธอยังคงจำมั นได้ดีทีเดียว เธออยากขอบคุณโศกนาฏกรรมในวันนั้ น ที่ทำให้เธอได้มาเจอเพื่อนดีๆ อย่างน้ำค้าง และทุกคนในห้อง แม้ว่าบางคนจะไม่ชอบเธอก็ตาม แต่เธอก็เข้าใจเพราะคงไม่มี ใครชอบใครได้ตลอดหรอก
"เมี๊ยว~" เสียงของลูกแมวตัวน้อย เรียกสติของเธอกลับมาอีกครั้ง มันมานั่งข้างๆ เธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
"เหมียวน้อย ทำไมผอมแบบนี้ละ" เธอพูดกับแมวตัวน้อยที่ตั วผอมโซพร้อมกับอุ้มมันไว้บนตัก ก่อนจะควานหาขนมในกระเป๋านักเรี ยนของเธอที่เธอชอบแวะซื้อมาไว้ ในกระเป๋าระหว่างเดินกลับบ้าน
"ขออาเล็กเลี้ยงจะได้ไหมน้า" เธออุ้มมันขึ้นมาเมื่อเอาขนมให้ มันจนอิ่ม พลางมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกถึ งเวลาว่าตอนนี้เย็นมากแล้ว มากจนเธอลืมไปเลยว่าทำไมเธอถึ งมาที่นี่
"ไปบ้านกันเหมียวน้อย" มันมองหน้าของเธอตาแป๋วอย่างไร้ เดียงสา สายตานั่นกับทำให้เธอหลงเจ้ าแมวสายเสือได้ในทันทีเช่นกัน
"ตอนนี้มันกี่โมงแล้วมีนา" วัชระเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ ไม่ค่อยพอใจ เมื่อร่่างของหลานสาวของเขาเข้ ามาถึง
"ห้าโมงครึ่งค่ะ" มีนาพูดเสียงเบาด้วยความรู้สึ กผิด
"โรงเรียนเลิกกี่โมง" เขาถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็ นชา พรางข่มอารมณ์โกรธของตัวเองไว้
"สี่โมงค่ะอาเล็ก"
"แล้วไปไหนมา"
"ไปนั่งที่สวนสาธรณะใกล้ๆ บ้านค่ะอา..."
"เมี๊ยว~" เสียงเจ้าเหมียวน้อย ขัดบทสนทนาขึ้นมา เสียงของมันเรียกร้ องความสนใจจากวัชระได้ดีทีเดี ยว
"ไปหาแมว" วัชระมองหลานสาวของตัวเองที่ก้ มหน่าอย่างรู้สึกผิด ปกติแล้วมีนาจะไม่ไปไหนโดยไม่ บอกเขา และนั่นก็ทำให้เขานึกขึ้นได้ว่า มีนาคงมาเจอเข้ากับกิจกรรมของผู้ ใหญ่ที่เขาทำขึ้นเมื่อตอนเย็นนี้ เป็นแน่
"ไหนเอามาให้อาดูซิ" เมื่อเจาเข้าใจสถานะการณ์ที่เกิ ดขึ้นด้วยตัวของเขาเองจึงหาเรื่ องให้เธอลืมๆ มันไปซะ มีนาค่อยๆ เดินเอาลูกแมวมาให้วัชระดู อย่างกล้าๆ กลัวๆ
"ทำไมมันผอมจัง"
"ไม่ทราบค่ะ" มีนาตอบออกไปตามตรง
"อยากเลี้ยงไหม" มีนามองหน้าผู้เป็นอาก่อนจะฉี กยิ้มกว้างด้วยความตื่นเต้น
"ได้เหรอคะอาเล็ก"
"ได้สิ" คำตอบของเขาทำให้ เธอกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ มีเพียงเจ้าแมวน้อยที่ไม่ได้รู้ เรื่องรู้ราวในสิ่งที่เกิดขึ้น มันยังคงมองทั้งสองคนตาแป๋วอย่ างนั้น
"มันชื่ออะไร ตั้งชื่อหรือยัง" วัชระถามขึ้นแล้วจับมันพลิกไปมา
"เหมียวน้อยค่ะ"
"เหรอ เอามันไปเช็ดตัว แล้วขยำข้าวให้มันกินนะ เดี๋ยววันหยุดเราพามันไปฉีดวั คซีนกัน" เขาบอก ทำให้หญิงสาวตัวน้อยยิ้มน้อยยิ้ มใหญ่แล้วพาเจ้าตัวเล็กขึ้ นไปทำความสะอาดตัวข้างบน
เธอถ่ายรูปเจ้าเหมียวน้อยก่ อนจะส่งรูปของมันไปให้น้ำค้างดู ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ และที่คือสื่อสิ่งเดียวที่ เธอเล่นมัน ก่อนที่จะปิดเครื่องมือสื่ อสารทั้งหมดแล้วพาเจ้าตัวน้ อยเข้าสู่ห้วงนิทรา
แม้ว่าวันนี้เธอจะเจอแต่เรื่ องชวนปวดหัวไม่ว่าจะเรื่องที่ต้ องมาเจอบาสคอยกลั่นแกล้งเธอ หรือต้องคอยมาปลอบใจน้ำค้าง และงานกลุ่มที่เธอต้องรับผิ ดชอบแม้มันจะน้อยนิด แต่สำหรับเธอแล้วมันคืองานชิ้ นแรกที่เธอต้องทำกับกลุ่มของเพื่ อนๆ ความกดดันทั้งหมดของวันนี้ หายไปเพราะเจ้าตัวน้อยตัวนี้ตั วเดียว มันเป็นสัตว์เลี้ยงตั วแรกของเธอและเธอสัญญาจะดูแลมั นให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ