Frangipanni(ลั่นทม)
8.0
เขียนโดย saposaki
วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 19.25 น.
4 ตอน
2 วิจารณ์
6,735 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560 19.42 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) เจ็บปวด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความพี่สะใภ้ค่อยๆปลดกระดุมเสื้ออีกคนอย่างใจเย็นเพราะตอนนี้ในห้องไม่มีใครอยู่นอกจากทั้งสองคนที่กำลังสบตากันอยู่บนเตียง
“จะทำอะไร หยุดนะ” กชนันท์จับมือของอีกคนไว้ก่อนที่มือของพี่สะใภ้จะสัมผัสโดนเนินอกของเธอ
“พี่จะเช็ดตัวให้นันท์ไงคะ ทำเหมือนพี่ไม่เคยทำไปได้” พี่สะใภ้ยิ้มให้อีกคนที่พยายามนอนนิ่งๆอยู่บนเตียง ทุกสัมผัสที่อีกคนสัมผัสลงมาบนผิวกายของกชนันท์ในเวลานี้ไม่บอกก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ทุกสัมผัสยังคงเหมือนเดิม
“เด็กดื้อนอนนิ่งๆเลยค่ะ พี่จะเช็ดตัวให้ ดูสิเนี่ยผื่นขึ้นเต็มไปหมด ทำไมถึงได้ทานอะไรไม่ระวังแบบนี้ ถ้าเกิดพี่ไม่อยู่ขึ้นมาจะทำยังไงคะ”
“ก็ไม่รู้จริงๆนิว่ามันมีถั่วอยู่ในนั้นด้วย ขอโทษค่ะต่อไปจะระวังตัวให้ดี แต่ตอนนี้คงต้องให้พี่ดูแลก่อน”
“มันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้วสิ ลองไปให้คนอื่นดูแลสิเราได้เห็นดีกันแน่” กชนันท์กอดอีกคนไว้ทันที
“มีคนดูแลดีแบบนี้ นันท์ไปหาคนอื่นก็โง่แล้ว” กชนันท์กดปลายจมูกคงไปบนแก้มของอีกคน
กชนันท์ดึงอีกคนลงมากอดโดยที่พี่สะใภ้เองไม่ได้มีท่าทางขัดขืนแต่อย่างใดตรงกันข้ามเธอกับเต็มใจที่จะให้อีกคนกอด
“อย่าทำแบบนี้อีก ถ้าอยากมากคืนนี้ก็บอกสามีของพี่สะใภ้สิ พี่ธีไม่ปฏิเสธหรอก” กชนันท์กระซิบที่ข้างใบหูของพี่สะใภ้ก่อนจะผลักพี่สะใภ้ออกไปให้พ้นจากตัวของเธอ
“ขอบคุณนะที่เช็ดตัวให้ เชิญออกไปได้แล้วค่ะ” อีกคนเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาเพราะตอนนี้เธอกำลังเจ็บปวดจากคำพูดของกชนันท์อยู่
“ไม่ร้องสิคะ น้ำตามันไม่ได้ช่วยอะไร” กชนันท์ปาดน้ำตาที่กำลังไหลของพี่สะใภ้ออกจากแก้ม
“ต้องให้ไล่อีกรอบไหมคะ ออก-ไป” กชนันท์พูดเสียงแข็งก่อนที่พี่สะใภ้จะลุกขึ้นจากเตียงไป พออีกคนออกไปจากห้อง น้ำตาของคนบนเตียงกับไหลออกมาทันที
กชนันท์หลับไปหลังจากที่นอนร้องไห้ เธอมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คุณแม่ของเธอเดินเข้ามาหา
“เป็นไง ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” กชนันท์พยักหน้าก่อนจะขยับไปนั่งพิงหัวเตียง
“พี่เป็นห่วงแทบแย่ คราวน่าจะทานอะไรต้องระวังมากกว่านี้นะทางที่ดีไม่ควรไปทานอาหารที่เราไม่รู้จัก” พี่ชายผู้แสนดีพูดขึ้น
“ไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อยดูสิเนี่ยผื่นก็เริ่มยุบแล้ว”
“พอเลย ต่อไปนี้พ่อจะให้พี่สะใภ้ของลูกดูแลเรื่องอาหารให้ลูกทั้งหมด ห้ามปฏิเสธ” เจ้าของไร่รู้ดีว่าลูกสาวคนเล็กไม่ชอบถูกบังคับแต่เรื่องนี้คงจะปล่อยผ่านไปไม่ได้
“ต้องรบกวนหนูนัสดูแลให้ด้วยนะลูกหวังว่าคงไม่ลำบากจนเกินไป” เจ้าของชื่อได้แต่ยิ้มรับเพราะเธอเองยินดีมากที่จะทำให้อีกคน
“ทานซุปก่อนลูกจะได้ทานยา นี่พี่สะใภ้เราทำสุดฝีมือเลยนะ เห็นทำตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว” กชนันท์หันไปมองหน้าอีกคนทันที “ทำตั้งแต่ตอนบ่ายงั้นเหรอ ทั้งๆที่นันท์ไล่พี่ไปเนี่ยนะยังจะไปทำมาให้ทานอีก” กชนันท์คิดในใจ
กชกนันท์ค่อยๆทานซุปที่คุณแม่ของเธอกำลังป้อนอยู่จนผู้หญิงอีกคนยิ้มออกมา แต่อยู่ๆกชนันท์กับหยุดทาน
“พอแล้วค่ะ นันท์อยากพักผ่อน แล้วนี้คุณชญานิษญ์หายไปไหนคะ” กชนันท์มองไปรอบห้องแต่ไม่เจออีกคนแม้แต่เงา
“สงสัยอยู่ในแปลงปลูกผักค่ะคุณกชนันท์” พี่สะใภ้เป็นคนเอ่ยขึ้นมา ส่วนอีกคนทำได้เพียงพยักหน้ารับ
“นันท์อยากพักผ่อน เชิญทุกคนกลับไปพักผ่อนได้แล้วค่ะ อ๋อพี่ธีคืนนี้พี่ควรทำการบ้านหน่อยนะ” ทุกคนต่างมองไปยังคนที่พูดอยู่บนเตียง
“ตายแล้วลูกทำไมพูดแบบนี้” คุณนายของไร่รีบพูดขึ้นมา
“คุณแม่ไม่อยากมีหลานเหรอคะ เห็นแต่งกันมาหลายปีนันท์ว่าเราควรจะมีหลานกันได้แล้ว ยังไงก็เบาๆหน่อยนะคะเพราะนันท์ต้องการพักผ่อน” น้องสาวพูดขึ้นมาก่อนจะส่งยิ้มให้พี่ชายที่แสนดีของตัวเองกับพี่สะใภ้ที่ยืนอยู่ข้างๆกัน แต่สายตาที่พี่สะใภ้ส่งมาให้เธอมีแต่ความตัดพ้อที่อีกคนพูดแบบนั้นออกมา
“เรานี้นะ ดูสิภรรยาพี่เขินหมดแล้วว่าแต่เอาเถอะ พี่เห็นนะที่เรามองนิษญ์นะ จะทำอะไรก็เกรงใจพี่สะใภ้เราด้วยคนนี้พี่สะใภ้เรารักมาก” คำพูดของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำให้หัวใจของคนที่เป็นภรรยากระตุกวูบอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
“เราสองคนเพิ่งจะเจอกันเอง กว่าจะได้เป็นคนรักกันจริงๆคงต้องใช้เวลาจริงไหมค่ะ พี่สะใภ้” กชนันท์จงใจพูดให้อีกคนแสดงอาการออกมา อีกคนนิ่งเงียบก้มหน้าลงต่ำ กชนันท์รู้ดีว่าอีกคนรู้สึกอย่างไรเธอถึงเลือกที่จะพูดมันออกไป
“เอาๆ ทุกคนไปพักผ่อนกันได้แล้ว น้องจะได้พักผ่อน อีกสักพักหนูนิษญ์คงจะกลับมาแล้ว จะคบกันพ่อกับแม่ก็ไม่ว่า แต่ขอให้รู้ไว้ว่าอย่ามาทำอะไรเล่นๆ” เจ้าของไร่พูดขึ้นมาเพราะทุกคนต่างรู้รสนิยมของลูกสาวคนเล็กดีแต่ก็ยังไม่เคยเห็นพาใครมาที่บ้านถึงแม้เมื่อก่อนจะมีพูดให้ฟังบ้างแต่ก็ไม่เคยได้เจอแฟนตัวจริงของลูกสาวคนเล็กเลยสักครั้ง
หลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้อง คนที่ป่วยอยู่บนเตียงเองยังไม่ยอมนอนเพราะต้องการรอให้อีกคนเข้ามาในห้องก่อน ชญานิษญ์ค่อยๆเปิดประตูห้องเข้ามาเพราะกลัวว่าจะรบกวนอีกคนที่กำลังป่วยอยู่ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำไป คนที่นอนอยู่บนเตียงยิ้มออกมาทันที ชญานิษญ์พยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุดเพราะกลัวว่าคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงจะตื่นขึ้นมา
“ร้อน” กชนันท์ดึงผ้าห่มออกเผยให้เห็นตามเนื้อตัวยังคงมีผื่นแดงอยู่ถึงแม้จะน้อยกว่าเมื่อตอนเที่ยงไปมากแล้วก็ตาม ชญานิษญ์เดินไปหาคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงทันที
“ห่มผ้าไว้นะคะ ถ้าดึกกว่านี้อากาศจะเย็นเดี๋ยวจะไปสบาย”
“ร้อน” กชนันท์พูดออกมาอีกครั้งก่อนจะลืมตาขึ้นมา แล้วจับข้อมือของอีกคนไว้
“ช่วยไปตามคุณแม่มาเช็ดตัวให้หน่อยได้ไหม ตอนนี้ร้อนมากแต่ให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำเองคงไม่ไหว” กชนันท์พูดออกมาพร้อมกับหายใจแรงๆ ชญานิษญ์ยืนคิดอยู่สักพักเพราะตอนนี้คุณป้าคงจะพักผ่อนอยู่อีกอย่างแค่เช็ดตัวเองเราทำก็ได้นิ
“คุณกชนันท์เดี๋ยวฉันทำให้เองดีกว่าค่ะ คุณป้าน่าจะพักผ่อนไปแล้ว”
“ฉันไม่อยากรบกวนคุณแค่นี้ก็เกรงใจแล้วค่ะที่ต้องให้คุณมานอนกับคนป่วยแบบฉัน”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันเองก็ผิดที่ชวนคุณไปทานข้าวกับคนงาน ฉันขอโทษนะคะ คุณกชนันท์รอสักครู่เดี๋ยวฉันขอไปหยิบอุปกรณ์ก่อน” ชญานิษญ์รีบเดินออกไปจากห้องทันที
“เอาน้ำขึ้นไปด้วยดีกว่าเผื่อคุณกชนันท์อยากจะดื่ม” ระหว่างทางเดินกลับเข้าไปในห้องเธอเจอเข้ากับพี่สาวของเธอที่เปิดประตูออกมาพอดี
“ทำอะไรอยู่นิษญ์ทำไมถึงยังไม่นอน” พี่สาวเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาน้องสาว
“กำลังจะไปเช็ดตัวให้คุณกชนันท์ค่ะดูเหมือนคุณกชนันท์คงจะร้อนเพราะผื่นยังยุบไม่หมด” ชญานิษญ์รีบพูดขึ้นทันที พี่สาวพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้คุณกชนันท์เอง เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยแค่ทำงานในไร่ก็เหนื่อยแล้ว” พี่สาวส่งยิ้มไปให้น้องสาวก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง คนที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้คนที่กำลังจะเช็ดตัวให้เธอไม่ใช่คนที่เธอคิดเอาไว้ พี่สะใภ้ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อคนที่นอนหลับตาอยู่แต่เลือกปลดแค่สองเม็ดเท่านั้นไม่เหมือนเมื่อตอนกลางวันเพราะตอนนี้มีน้องสาวของเธออยู่ในห้องด้วย พี่สะใภ้ค่อยๆเช็ดไปตามลำคอไล่ลงมาถึงเนินอกขาวของอีกคนจนคนที่หลับตาอยู่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา
“ยังร้อนอยู่ไหม” พี่สะใภ้เอ่ยถามขึ้น
“เสร็จแล้วเหรอเป็นไงบ้างสบายตัวแล้วใช่ไหม” กชนันท์พูดโดยไร้เสียงเพื่อให้อีกคนอ่านปากเธอ พี่สะใภ้ทำตาดุใส่อีกคนทันทีเพราะไม่อาจพูดอะไรออกไปในตอนนี้ได้ พี่สะใภ้เลือกจะวางมือลงไปบนหน้าอกของคนที่นอนอยู่บนเตียงก่อนจะส่งผ้าเช็ดตัวที่อยู่ในมือเข้าไปด้านในเพื่อไม่ให้น้องสาวของตัวเองสงสัยว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรคนที่นอนอยู่บนเตียง พี่สะใภ้ค่อยๆขยับมือให้ออกมาจากผ้าที่ใช้เช็ดตัวอีกคน จนอีกคนต้องส่งสายตาดุกลับไปแต่คนที่กำลังเช็ดตัวอยู่ยังไม่ยอมหยุดการกระทำ
“ดีขึ้นไหมคะ คุณกชนันท์” พี่สะใภ้เอ่ยถามขึ้นมาเพราะรู้ดีว่าตอนนี้อีกคนรู้สึกยังไง สิ่งที่มือของเธอสัมผัสอยู่ในตอนนี้เป็นสิ่งบ่งชี้ได้ดีที่สุด กชนันท์ขยับออกทันทีเพราะตอนนี้เธอปล่อยให้พี่สะใภ้ได้ทำอะไรตามอำเภอใจมากเกินไป
“ฉันง่วงแล้ว ขอบคุณที่เช็ดตัวให้” กชนันท์รีบนอนหันหลังให้อีกคนทันที ส่วนอีกคนได้แต่นั่งยิ้มเพราะรู้ว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกำลังเขินเธออยู่ พี่สะใภ้ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะพูดออกมา
“นอนได้แล้วนะนิษญ์ คุณกชนันท์ตัวไม่ร้อนแล้ว ฝันดีนะ” พี่สาวพูดขึ้นมาก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
หลังจากกชนันท์พยายามข่มตาให้หลับเมื่ออีกคนเดินออกจากห้องไปแต่จนสุดท้ายกชนันท์ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณชญานิษญ์หลับคือยัง”
“.................” ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคนนอกจากเสียงของลมหายใจที่ดังสม่ำเสมออยู่ในตอนนี้ กชนันท์ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงเพราะตอนนี้คงนอนไม่หลับ กชนันท์จึงเลือกจะเดินออกไปนอกบ้านแทน อากาศในคืนนี้ค่อนข้างเย็นจนกชนันท์ตรงเอาผ้ามาคลุมไหล่ของเธอเอาไว้ กชนันท์เดินมาหยุดที่หน้าแปลงผักของคนที่หลับอยู่บนห้อง ก่อนจะเดินเข้าดูเด็กๆที่เธอเป็นคนลงแปลงไว้เมื่อวาน
“พวกแกนี่ดีนะ ไม่ต้องคิดอะไรมากถึงเวลาก็กิน เติบโต แต่ดูฉันสิคิดมากจนจะบ้าตายอยู่แล้ว” กชนันท์พูดออกมาเพราะเธอเองก็ไม่รู้จะไปพูดกับใคร กชนันท์ใช้เวลาอยู่กับเด็กๆในแปลงอีกสักพักก่อนจะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน
“เวลาที่คุณหลับน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย ฉันชักจะอยากรู้แล้วสิว่าคุณจะเหมือนพี่สาวของคุณหรือเปล่า” กชนันท์พูดขึ้นมาก่อนจะลงไปนอนข้างๆอีกคน
วันนี้คนที่หลับอยู่บนเตียงยังคงตื่นสายอยู่เหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือตอนนี้ยังมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ในห้อง กชนันท์มองด้วยความสงสัยจนต้องถามอีกคนออกมา
“วันนี้ทำไมถึงยังไม่ออกไปที่ไร่คะ” กชนันท์ลุกขึ้นมานั่งผิงกำหัวเตียง
“คุณลุงให้พาคุณกชนันท์ไปดูไร่สตรอเบอร์รี่ค่ะ แต่ฉันไม่กล้าปลุกเลยรอให้คุณกชนันท์ตื่นเอง” กชนันท์ยิ้มออกมา
“ปลุกได้ฉันไม่กัดหรอก คราวหน้าก็ช่วยปลุกหน่อยนะ เพราะถ้าคุณชญานิษญ์ไม่ปลุกเราคงได้ไปสายกันทุกวันแน่” กชนันท์ลุกออกจากเตียงก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง
“รบกวนคุณชญานิษญ์ช่วยบอกป้าจิตเตรียมแซนวิชให้ด้วยจะได้ไม่เสียเวลามากไปกว่านี้คุณชญานิษญ์คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าฉันขอทานไปด้วยระหว่างทาง”
“ไม่ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันขอลงไปรอด้านล่างจะได้ให้ป้าจิตเตรียมแซนวิชให้คุณกชนันท์” กชนันท์ยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ด้านอีกคนที่เดินลงมาถึงชั้นล่างก็เดินเข้าไปในครัวทันที
“ป้าจิตคะ คุณกชนันท์ให้เตรียมแซนวิชให้หน่อยค่ะ คุณกชนันท์จะเอาไปทานบนรถ” ชญานิษญ์เอ่ยขึ้นมาเจอแม่บ้านใหญ่
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าเตรียมให้งั้นช่วยไปเก็บผักของคุณนิษญ์ให้ป้าหน่อยค่ะ ถ้าคุณหนูได้ทานผักสดๆคงจะดี” ชญานิษญ์ยิ้มก่อนจะเดินถือตะกร้าออกไป
“ทำไมวันนี้ถึงยังไม่ออกไปทำงานจ๊ะ” พี่สาวของชญานิษญ์เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวถือตะกร้าผักเข้ามาในบ้าน
“รอคุณกชนันท์อยู่ค่ะวันนี้คุณลุงให้พาคุณกชนันท์ไปดูไร่สตรอเบอร์รี่ ส่วนผักในตะกร้าจะเอาไปทำแซนวิชให้คุณกชนันท์ทานค่ะ” พี่สาวได้ยินดังนั้นเธอรีบเดินตามน้องสาวเข้าไปในครัวทันที เธอเห็นแม่บ้านกำลังทามายองเนสที่ขนมปังอยู่
“ป้าจิตคะ เดี๋ยวนัสทำให้เองค่ะ ป้ามีอย่างอื่นที่ต้องทำอีกเยอะเดี๋ยวนัสกับนิษญ์ทำให้เอง” สะใภ้ของไร่พูดขึ้นมา
“เอาแบบนั้นเหรอคะ งั้นป้าฝากด้วยนะคะ อ๋อคุณหนูไม่ชอบทานแซนวิชที่มีมายองเนสเยอะเกินไปนะคะระวังด้วย” สะใภ้ของบ้านพยักหน้ารับ ถึงไม่บอกข้อนี้ตัวเธอเองรู้ดีอยู่แล้ว สะใภ้ของบ้านหยิบขนมปังแผ่นใหม่ขึ้นมาทามายองเนสลงไปเพียงเล็กน้อยก่อนจะหยิบแฮมกับบรรดาผักสดใส่เข้าไปเธอตัดแซนวิชเป็นชิ้นพอดีคำง่ายต่อการทาน ก่อนจะลงมือทำอีกชุดแต่คราวนี้ไม่มีผักใส่แค่แฮมกับชีสลงไปเท่านั้น สะใภ้ของบ้านจัดแซนวิชใส่กล่องอย่างสวยงามก่อนจะเดินไปหยิบนมจืดกับน้ำส้มออกมา
“ทำไมถึงต้องทำสองแบบด้วยคะ” คนเป็นน้องสงสัย
“ที่ไม่มีผัก ให้คุณกชนันท์ทานตอนที่อยู่บนรถพร้อมกับนม ส่วนที่มีผักให้คุณกชนันท์ทานรองท้องเป็นมือเที่ยงก่อนที่เราจะพาคุณกชนันท์มาทานข้าวที่บ้าน”
“ทำไมพี่นัสถึงละเอียดจัง แถมเหมือนจะรู้จักคุณกชนันท์ดี” น้องสาวพูดในสิ่งที่ตัวเองสงสัยออกมา
“ทานแค่แซนวิชกว่าจะถึงมื้อเที่ยงพี่กลัวว่าคุณกชนันท์จะหิวน่ะ” พี่สาวยิ้มออกมาก่อนจะส่งกล่องแซนวิชให้อีกคนเอาไปถือไว้ ความจริงเธออยากเป็นคนเอาไปยื่นให้เองกับมือมากกว่าแต่คิดว่าอีกคนคงจะไม่รับถ้ารู้ว่าเธอเป็นคนทำให้
“จะทำอะไร หยุดนะ” กชนันท์จับมือของอีกคนไว้ก่อนที่มือของพี่สะใภ้จะสัมผัสโดนเนินอกของเธอ
“พี่จะเช็ดตัวให้นันท์ไงคะ ทำเหมือนพี่ไม่เคยทำไปได้” พี่สะใภ้ยิ้มให้อีกคนที่พยายามนอนนิ่งๆอยู่บนเตียง ทุกสัมผัสที่อีกคนสัมผัสลงมาบนผิวกายของกชนันท์ในเวลานี้ไม่บอกก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ทุกสัมผัสยังคงเหมือนเดิม
“เด็กดื้อนอนนิ่งๆเลยค่ะ พี่จะเช็ดตัวให้ ดูสิเนี่ยผื่นขึ้นเต็มไปหมด ทำไมถึงได้ทานอะไรไม่ระวังแบบนี้ ถ้าเกิดพี่ไม่อยู่ขึ้นมาจะทำยังไงคะ”
“ก็ไม่รู้จริงๆนิว่ามันมีถั่วอยู่ในนั้นด้วย ขอโทษค่ะต่อไปจะระวังตัวให้ดี แต่ตอนนี้คงต้องให้พี่ดูแลก่อน”
“มันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้วสิ ลองไปให้คนอื่นดูแลสิเราได้เห็นดีกันแน่” กชนันท์กอดอีกคนไว้ทันที
“มีคนดูแลดีแบบนี้ นันท์ไปหาคนอื่นก็โง่แล้ว” กชนันท์กดปลายจมูกคงไปบนแก้มของอีกคน
กชนันท์ดึงอีกคนลงมากอดโดยที่พี่สะใภ้เองไม่ได้มีท่าทางขัดขืนแต่อย่างใดตรงกันข้ามเธอกับเต็มใจที่จะให้อีกคนกอด
“อย่าทำแบบนี้อีก ถ้าอยากมากคืนนี้ก็บอกสามีของพี่สะใภ้สิ พี่ธีไม่ปฏิเสธหรอก” กชนันท์กระซิบที่ข้างใบหูของพี่สะใภ้ก่อนจะผลักพี่สะใภ้ออกไปให้พ้นจากตัวของเธอ
“ขอบคุณนะที่เช็ดตัวให้ เชิญออกไปได้แล้วค่ะ” อีกคนเริ่มมีน้ำตาไหลออกมาเพราะตอนนี้เธอกำลังเจ็บปวดจากคำพูดของกชนันท์อยู่
“ไม่ร้องสิคะ น้ำตามันไม่ได้ช่วยอะไร” กชนันท์ปาดน้ำตาที่กำลังไหลของพี่สะใภ้ออกจากแก้ม
“ต้องให้ไล่อีกรอบไหมคะ ออก-ไป” กชนันท์พูดเสียงแข็งก่อนที่พี่สะใภ้จะลุกขึ้นจากเตียงไป พออีกคนออกไปจากห้อง น้ำตาของคนบนเตียงกับไหลออกมาทันที
กชนันท์หลับไปหลังจากที่นอนร้องไห้ เธอมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คุณแม่ของเธอเดินเข้ามาหา
“เป็นไง ดีขึ้นแล้วใช่ไหม” กชนันท์พยักหน้าก่อนจะขยับไปนั่งพิงหัวเตียง
“พี่เป็นห่วงแทบแย่ คราวน่าจะทานอะไรต้องระวังมากกว่านี้นะทางที่ดีไม่ควรไปทานอาหารที่เราไม่รู้จัก” พี่ชายผู้แสนดีพูดขึ้น
“ไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อยดูสิเนี่ยผื่นก็เริ่มยุบแล้ว”
“พอเลย ต่อไปนี้พ่อจะให้พี่สะใภ้ของลูกดูแลเรื่องอาหารให้ลูกทั้งหมด ห้ามปฏิเสธ” เจ้าของไร่รู้ดีว่าลูกสาวคนเล็กไม่ชอบถูกบังคับแต่เรื่องนี้คงจะปล่อยผ่านไปไม่ได้
“ต้องรบกวนหนูนัสดูแลให้ด้วยนะลูกหวังว่าคงไม่ลำบากจนเกินไป” เจ้าของชื่อได้แต่ยิ้มรับเพราะเธอเองยินดีมากที่จะทำให้อีกคน
“ทานซุปก่อนลูกจะได้ทานยา นี่พี่สะใภ้เราทำสุดฝีมือเลยนะ เห็นทำตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว” กชนันท์หันไปมองหน้าอีกคนทันที “ทำตั้งแต่ตอนบ่ายงั้นเหรอ ทั้งๆที่นันท์ไล่พี่ไปเนี่ยนะยังจะไปทำมาให้ทานอีก” กชนันท์คิดในใจ
กชกนันท์ค่อยๆทานซุปที่คุณแม่ของเธอกำลังป้อนอยู่จนผู้หญิงอีกคนยิ้มออกมา แต่อยู่ๆกชนันท์กับหยุดทาน
“พอแล้วค่ะ นันท์อยากพักผ่อน แล้วนี้คุณชญานิษญ์หายไปไหนคะ” กชนันท์มองไปรอบห้องแต่ไม่เจออีกคนแม้แต่เงา
“สงสัยอยู่ในแปลงปลูกผักค่ะคุณกชนันท์” พี่สะใภ้เป็นคนเอ่ยขึ้นมา ส่วนอีกคนทำได้เพียงพยักหน้ารับ
“นันท์อยากพักผ่อน เชิญทุกคนกลับไปพักผ่อนได้แล้วค่ะ อ๋อพี่ธีคืนนี้พี่ควรทำการบ้านหน่อยนะ” ทุกคนต่างมองไปยังคนที่พูดอยู่บนเตียง
“ตายแล้วลูกทำไมพูดแบบนี้” คุณนายของไร่รีบพูดขึ้นมา
“คุณแม่ไม่อยากมีหลานเหรอคะ เห็นแต่งกันมาหลายปีนันท์ว่าเราควรจะมีหลานกันได้แล้ว ยังไงก็เบาๆหน่อยนะคะเพราะนันท์ต้องการพักผ่อน” น้องสาวพูดขึ้นมาก่อนจะส่งยิ้มให้พี่ชายที่แสนดีของตัวเองกับพี่สะใภ้ที่ยืนอยู่ข้างๆกัน แต่สายตาที่พี่สะใภ้ส่งมาให้เธอมีแต่ความตัดพ้อที่อีกคนพูดแบบนั้นออกมา
“เรานี้นะ ดูสิภรรยาพี่เขินหมดแล้วว่าแต่เอาเถอะ พี่เห็นนะที่เรามองนิษญ์นะ จะทำอะไรก็เกรงใจพี่สะใภ้เราด้วยคนนี้พี่สะใภ้เรารักมาก” คำพูดของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำให้หัวใจของคนที่เป็นภรรยากระตุกวูบอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้
“เราสองคนเพิ่งจะเจอกันเอง กว่าจะได้เป็นคนรักกันจริงๆคงต้องใช้เวลาจริงไหมค่ะ พี่สะใภ้” กชนันท์จงใจพูดให้อีกคนแสดงอาการออกมา อีกคนนิ่งเงียบก้มหน้าลงต่ำ กชนันท์รู้ดีว่าอีกคนรู้สึกอย่างไรเธอถึงเลือกที่จะพูดมันออกไป
“เอาๆ ทุกคนไปพักผ่อนกันได้แล้ว น้องจะได้พักผ่อน อีกสักพักหนูนิษญ์คงจะกลับมาแล้ว จะคบกันพ่อกับแม่ก็ไม่ว่า แต่ขอให้รู้ไว้ว่าอย่ามาทำอะไรเล่นๆ” เจ้าของไร่พูดขึ้นมาเพราะทุกคนต่างรู้รสนิยมของลูกสาวคนเล็กดีแต่ก็ยังไม่เคยเห็นพาใครมาที่บ้านถึงแม้เมื่อก่อนจะมีพูดให้ฟังบ้างแต่ก็ไม่เคยได้เจอแฟนตัวจริงของลูกสาวคนเล็กเลยสักครั้ง
หลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้อง คนที่ป่วยอยู่บนเตียงเองยังไม่ยอมนอนเพราะต้องการรอให้อีกคนเข้ามาในห้องก่อน ชญานิษญ์ค่อยๆเปิดประตูห้องเข้ามาเพราะกลัวว่าจะรบกวนอีกคนที่กำลังป่วยอยู่ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำไป คนที่นอนอยู่บนเตียงยิ้มออกมาทันที ชญานิษญ์พยายามทำทุกอย่างให้เงียบที่สุดเพราะกลัวว่าคนที่นอนป่วยอยู่บนเตียงจะตื่นขึ้นมา
“ร้อน” กชนันท์ดึงผ้าห่มออกเผยให้เห็นตามเนื้อตัวยังคงมีผื่นแดงอยู่ถึงแม้จะน้อยกว่าเมื่อตอนเที่ยงไปมากแล้วก็ตาม ชญานิษญ์เดินไปหาคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียงทันที
“ห่มผ้าไว้นะคะ ถ้าดึกกว่านี้อากาศจะเย็นเดี๋ยวจะไปสบาย”
“ร้อน” กชนันท์พูดออกมาอีกครั้งก่อนจะลืมตาขึ้นมา แล้วจับข้อมือของอีกคนไว้
“ช่วยไปตามคุณแม่มาเช็ดตัวให้หน่อยได้ไหม ตอนนี้ร้อนมากแต่ให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำเองคงไม่ไหว” กชนันท์พูดออกมาพร้อมกับหายใจแรงๆ ชญานิษญ์ยืนคิดอยู่สักพักเพราะตอนนี้คุณป้าคงจะพักผ่อนอยู่อีกอย่างแค่เช็ดตัวเองเราทำก็ได้นิ
“คุณกชนันท์เดี๋ยวฉันทำให้เองดีกว่าค่ะ คุณป้าน่าจะพักผ่อนไปแล้ว”
“ฉันไม่อยากรบกวนคุณแค่นี้ก็เกรงใจแล้วค่ะที่ต้องให้คุณมานอนกับคนป่วยแบบฉัน”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันเองก็ผิดที่ชวนคุณไปทานข้าวกับคนงาน ฉันขอโทษนะคะ คุณกชนันท์รอสักครู่เดี๋ยวฉันขอไปหยิบอุปกรณ์ก่อน” ชญานิษญ์รีบเดินออกไปจากห้องทันที
“เอาน้ำขึ้นไปด้วยดีกว่าเผื่อคุณกชนันท์อยากจะดื่ม” ระหว่างทางเดินกลับเข้าไปในห้องเธอเจอเข้ากับพี่สาวของเธอที่เปิดประตูออกมาพอดี
“ทำอะไรอยู่นิษญ์ทำไมถึงยังไม่นอน” พี่สาวเอ่ยทักขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหาน้องสาว
“กำลังจะไปเช็ดตัวให้คุณกชนันท์ค่ะดูเหมือนคุณกชนันท์คงจะร้อนเพราะผื่นยังยุบไม่หมด” ชญานิษญ์รีบพูดขึ้นทันที พี่สาวพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้คุณกชนันท์เอง เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยแค่ทำงานในไร่ก็เหนื่อยแล้ว” พี่สาวส่งยิ้มไปให้น้องสาวก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง คนที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้คนที่กำลังจะเช็ดตัวให้เธอไม่ใช่คนที่เธอคิดเอาไว้ พี่สะใภ้ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อคนที่นอนหลับตาอยู่แต่เลือกปลดแค่สองเม็ดเท่านั้นไม่เหมือนเมื่อตอนกลางวันเพราะตอนนี้มีน้องสาวของเธออยู่ในห้องด้วย พี่สะใภ้ค่อยๆเช็ดไปตามลำคอไล่ลงมาถึงเนินอกขาวของอีกคนจนคนที่หลับตาอยู่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา
“ยังร้อนอยู่ไหม” พี่สะใภ้เอ่ยถามขึ้น
“เสร็จแล้วเหรอเป็นไงบ้างสบายตัวแล้วใช่ไหม” กชนันท์พูดโดยไร้เสียงเพื่อให้อีกคนอ่านปากเธอ พี่สะใภ้ทำตาดุใส่อีกคนทันทีเพราะไม่อาจพูดอะไรออกไปในตอนนี้ได้ พี่สะใภ้เลือกจะวางมือลงไปบนหน้าอกของคนที่นอนอยู่บนเตียงก่อนจะส่งผ้าเช็ดตัวที่อยู่ในมือเข้าไปด้านในเพื่อไม่ให้น้องสาวของตัวเองสงสัยว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไรคนที่นอนอยู่บนเตียง พี่สะใภ้ค่อยๆขยับมือให้ออกมาจากผ้าที่ใช้เช็ดตัวอีกคน จนอีกคนต้องส่งสายตาดุกลับไปแต่คนที่กำลังเช็ดตัวอยู่ยังไม่ยอมหยุดการกระทำ
“ดีขึ้นไหมคะ คุณกชนันท์” พี่สะใภ้เอ่ยถามขึ้นมาเพราะรู้ดีว่าตอนนี้อีกคนรู้สึกยังไง สิ่งที่มือของเธอสัมผัสอยู่ในตอนนี้เป็นสิ่งบ่งชี้ได้ดีที่สุด กชนันท์ขยับออกทันทีเพราะตอนนี้เธอปล่อยให้พี่สะใภ้ได้ทำอะไรตามอำเภอใจมากเกินไป
“ฉันง่วงแล้ว ขอบคุณที่เช็ดตัวให้” กชนันท์รีบนอนหันหลังให้อีกคนทันที ส่วนอีกคนได้แต่นั่งยิ้มเพราะรู้ว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกำลังเขินเธออยู่ พี่สะใภ้ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะพูดออกมา
“นอนได้แล้วนะนิษญ์ คุณกชนันท์ตัวไม่ร้อนแล้ว ฝันดีนะ” พี่สาวพูดขึ้นมาก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
หลังจากกชนันท์พยายามข่มตาให้หลับเมื่ออีกคนเดินออกจากห้องไปแต่จนสุดท้ายกชนันท์ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณชญานิษญ์หลับคือยัง”
“.................” ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกคนนอกจากเสียงของลมหายใจที่ดังสม่ำเสมออยู่ในตอนนี้ กชนันท์ค่อยๆลุกขึ้นจากเตียงเพราะตอนนี้คงนอนไม่หลับ กชนันท์จึงเลือกจะเดินออกไปนอกบ้านแทน อากาศในคืนนี้ค่อนข้างเย็นจนกชนันท์ตรงเอาผ้ามาคลุมไหล่ของเธอเอาไว้ กชนันท์เดินมาหยุดที่หน้าแปลงผักของคนที่หลับอยู่บนห้อง ก่อนจะเดินเข้าดูเด็กๆที่เธอเป็นคนลงแปลงไว้เมื่อวาน
“พวกแกนี่ดีนะ ไม่ต้องคิดอะไรมากถึงเวลาก็กิน เติบโต แต่ดูฉันสิคิดมากจนจะบ้าตายอยู่แล้ว” กชนันท์พูดออกมาเพราะเธอเองก็ไม่รู้จะไปพูดกับใคร กชนันท์ใช้เวลาอยู่กับเด็กๆในแปลงอีกสักพักก่อนจะเดินกลับเข้าไปในตัวบ้าน
“เวลาที่คุณหลับน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย ฉันชักจะอยากรู้แล้วสิว่าคุณจะเหมือนพี่สาวของคุณหรือเปล่า” กชนันท์พูดขึ้นมาก่อนจะลงไปนอนข้างๆอีกคน
วันนี้คนที่หลับอยู่บนเตียงยังคงตื่นสายอยู่เหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือตอนนี้ยังมีผู้หญิงอีกคนนั่งอยู่ในห้อง กชนันท์มองด้วยความสงสัยจนต้องถามอีกคนออกมา
“วันนี้ทำไมถึงยังไม่ออกไปที่ไร่คะ” กชนันท์ลุกขึ้นมานั่งผิงกำหัวเตียง
“คุณลุงให้พาคุณกชนันท์ไปดูไร่สตรอเบอร์รี่ค่ะ แต่ฉันไม่กล้าปลุกเลยรอให้คุณกชนันท์ตื่นเอง” กชนันท์ยิ้มออกมา
“ปลุกได้ฉันไม่กัดหรอก คราวหน้าก็ช่วยปลุกหน่อยนะ เพราะถ้าคุณชญานิษญ์ไม่ปลุกเราคงได้ไปสายกันทุกวันแน่” กชนันท์ลุกออกจากเตียงก่อนจะพูดออกมาอีกครั้ง
“รบกวนคุณชญานิษญ์ช่วยบอกป้าจิตเตรียมแซนวิชให้ด้วยจะได้ไม่เสียเวลามากไปกว่านี้คุณชญานิษญ์คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าฉันขอทานไปด้วยระหว่างทาง”
“ไม่ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันขอลงไปรอด้านล่างจะได้ให้ป้าจิตเตรียมแซนวิชให้คุณกชนันท์” กชนันท์ยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ด้านอีกคนที่เดินลงมาถึงชั้นล่างก็เดินเข้าไปในครัวทันที
“ป้าจิตคะ คุณกชนันท์ให้เตรียมแซนวิชให้หน่อยค่ะ คุณกชนันท์จะเอาไปทานบนรถ” ชญานิษญ์เอ่ยขึ้นมาเจอแม่บ้านใหญ่
“ได้ค่ะ เดี๋ยวป้าเตรียมให้งั้นช่วยไปเก็บผักของคุณนิษญ์ให้ป้าหน่อยค่ะ ถ้าคุณหนูได้ทานผักสดๆคงจะดี” ชญานิษญ์ยิ้มก่อนจะเดินถือตะกร้าออกไป
“ทำไมวันนี้ถึงยังไม่ออกไปทำงานจ๊ะ” พี่สาวของชญานิษญ์เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวถือตะกร้าผักเข้ามาในบ้าน
“รอคุณกชนันท์อยู่ค่ะวันนี้คุณลุงให้พาคุณกชนันท์ไปดูไร่สตรอเบอร์รี่ ส่วนผักในตะกร้าจะเอาไปทำแซนวิชให้คุณกชนันท์ทานค่ะ” พี่สาวได้ยินดังนั้นเธอรีบเดินตามน้องสาวเข้าไปในครัวทันที เธอเห็นแม่บ้านกำลังทามายองเนสที่ขนมปังอยู่
“ป้าจิตคะ เดี๋ยวนัสทำให้เองค่ะ ป้ามีอย่างอื่นที่ต้องทำอีกเยอะเดี๋ยวนัสกับนิษญ์ทำให้เอง” สะใภ้ของไร่พูดขึ้นมา
“เอาแบบนั้นเหรอคะ งั้นป้าฝากด้วยนะคะ อ๋อคุณหนูไม่ชอบทานแซนวิชที่มีมายองเนสเยอะเกินไปนะคะระวังด้วย” สะใภ้ของบ้านพยักหน้ารับ ถึงไม่บอกข้อนี้ตัวเธอเองรู้ดีอยู่แล้ว สะใภ้ของบ้านหยิบขนมปังแผ่นใหม่ขึ้นมาทามายองเนสลงไปเพียงเล็กน้อยก่อนจะหยิบแฮมกับบรรดาผักสดใส่เข้าไปเธอตัดแซนวิชเป็นชิ้นพอดีคำง่ายต่อการทาน ก่อนจะลงมือทำอีกชุดแต่คราวนี้ไม่มีผักใส่แค่แฮมกับชีสลงไปเท่านั้น สะใภ้ของบ้านจัดแซนวิชใส่กล่องอย่างสวยงามก่อนจะเดินไปหยิบนมจืดกับน้ำส้มออกมา
“ทำไมถึงต้องทำสองแบบด้วยคะ” คนเป็นน้องสงสัย
“ที่ไม่มีผัก ให้คุณกชนันท์ทานตอนที่อยู่บนรถพร้อมกับนม ส่วนที่มีผักให้คุณกชนันท์ทานรองท้องเป็นมือเที่ยงก่อนที่เราจะพาคุณกชนันท์มาทานข้าวที่บ้าน”
“ทำไมพี่นัสถึงละเอียดจัง แถมเหมือนจะรู้จักคุณกชนันท์ดี” น้องสาวพูดในสิ่งที่ตัวเองสงสัยออกมา
“ทานแค่แซนวิชกว่าจะถึงมื้อเที่ยงพี่กลัวว่าคุณกชนันท์จะหิวน่ะ” พี่สาวยิ้มออกมาก่อนจะส่งกล่องแซนวิชให้อีกคนเอาไปถือไว้ ความจริงเธออยากเป็นคนเอาไปยื่นให้เองกับมือมากกว่าแต่คิดว่าอีกคนคงจะไม่รับถ้ารู้ว่าเธอเป็นคนทำให้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ