ทาสรักซาตาน

8.3

เขียนโดย zusuran

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 13.32 น.

  15 ตอน
  2 วิจารณ์
  13.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) ลักพาตัวแสนหวาน (ลูฟ x เลเดียร์) (NC)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

อุตส่าห์ตามหามาหลายปี ตอนนี้พบเธอแล้วแต่ก็ยังทำได้เพียงเฝ้ามองดู

“จะให้ข้าพาตัวมาหรือไม่ขอรับ นายท่าน”

สมุนรับใช้ที่ติดตามมาด้วยก็เฝ้าแต่ถามอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

อีกไม่นานฤดูแห่งการเลือกคู่ครองก็จะมาถึง ลูฟไม่ต้องการหญิงสาวนางใดจากโอเอซิสต์ ถึงจะมีมาให้เลือกมากมายแค่ไหนเขาก็เพียงดื่มเลือดจากพวกนางและสังหารทิ้งอย่างไม่ปรานี ครั้งแล้วครั้งเล่า และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขากับเอลเดอร์ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่

ภาพเด็กสาวหน้าตาน่ารักส่งรอยยิ้มให้คนรอบข้าง ยิ่งเห็นลูฟก็ยิ่งอยากฉีกกระชากเจ้าพวกนั้นให้แหลกเป็นชิ้นๆ

แต่ท่วา เบื้องหลังของเด็กสาวที่เขาเฝ้ามองนั้นไม่ได้สดใสร่าเริงอย่างที่คิด

ควากกก!!!

ตุ้บ!

ชิ้นส่วนของอสูร ปีศาจชั้นต่ำทั้งหลายถูกกัดกระชากหล่นเรี่ยราดตามทางที่มืดสลัวในยามดึก โกสาวคนเดิมที่ทำให้โลกทั้งโลกสดใส ใครจะไปรู้ว่าตัวตนที่แม้จริงของเธอนั้นคือผู้พิทักษ์ที่ทั้งโหดเหี้ยมและแข็งแกร่ง

เธอทำลงไปเพื่อปกป้องเด็กหนุ่มคนนั้นเพียงคนเดียว

เจ้าเด็กครึ่งมนุษย์ที่มีกลิ่นอายของราชาองค์ก่อน และยังเป็นของเล่น….ไม่สิ ตอนนี้คงจะเป็นอดีตคนรักของเอลเดอร์ไปแล้ว

เพื่อปกป้องเจ้าเด็กนั่น เธอไม่เคยปล่อยให้ปีศาจเข้าใกล้ได้แม้แต่น้อย แม้แต่เอลเดอร์เองก็ตาม

“วันนี้เดียร์กลับไปก่อนนะ เพียวต้องขึ้นวอร์ด”

“ได้ ถ้าดึกมากก็โทรมานะรู้ไหม เดี๋ยวมารับ”

“เป็นผู้หญิงตัวนิดเดียวจะออกมารับผู้ชายกลางดึกเนี่ยนะ เดี๋ยวฟ้องลุงเดย์”

“งื้อออออ!!!!”

“ไปๆๆๆ ไม่คุยด้วยแล้ว บ๊ายบาย”

“จุ๊บหน่อย”

“หา อะไรเนี่ย”

“นะ”

“ก็ได้ๆ”

แล้วเด็กหนุ่มก็โน้มตัวลงพร้อมกับเอียงแก้มข้างหนึ่งให้เด็กสาวหอมแก้มทีหนึ่ง

มันไม่ใช่การหอมแก้มธรรมดาแต่มันคือการสร้างอาณาเขตต่างหาก

ลูฟมองการกระทำเหล่านั้นอยู่ในเงามืด ความกระหายเล่นงานเขาไม่หยุดหย่อน เห็นทีต้องปรากฏตัวเผชิญหน้ากับเธอสักครั้ง

ฟึ่บ!!!

ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ไวจนเขาไม่ทันได้ตั้งตัว

ตู้มมมมม!!!!

“เอ้า! อะไรน่ะ!!!   หม้อแปลงระเบิดเหรอ!!!”

เลเดียร์ถูกปีศาจเล่นงานทีเผลอและถูกพวกมันพาตัวไปด้วย

ทนไม่ไหว เขาทนต่อไปไม่ไหว……

“นายท่าน”

“ครืออออออ…..”

ลูฟกลายร่างเป็นไลแคนท์สีเงินกระโดดตามปีศาจตนนั้นไปด้วยความเร็วที่เรียกว่าพายุสลาตันขนาดย่อม เขากระโดดเข้าไปในประตูมิติทะลุออกมายังอีกสถานที่หนึ่งที่เขาแสนจะคุ้นเคย

ปราสาทของเขาเอง…

เจ้าพวกสมุนแตกแถว ท่าทางไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วสินะ!

ลูฟมองร่างเด็กสาวที่ถูกล่ามโซ่ขึงตรึงไว้บนผนัง เขาสามารถควบคุมความโกรธได้ดีเยี่ยม และมองการกระทำของพวกทรยศอย่างเงียบเชียบในมุมมืด

ไม่นานนักเลเดียร์ก็ลืมตาขึ้นมา ดูท่าทางของเธอแล้วเหมือนจะไม่ใช่การถูกลักพาตัว แต่กลับเหมือนการจงใจให้พามามากกว่า

 

“เจ้าคงจะเป็น….เผ่าพันธุ์ของผู้พิทักษ์สินะ”

“เกี่ยวอะไรกับเจ้า เอามือสกปรกออกไปจากตัวข้า เจ้าไลแคนท์ชั้นต่ำ”

“ชั้นต่ำรึ อีกเดี๋ยวเจ้าก็จะได้กลายเป็นพวกเดียวกับพวกข้าเหมือนกัน”

“อ้อ น่าประทับใจจริงๆ ลักพาตัวข้ามาเพราะอยากผสมพันธ์นี่เองสินะ”

เพียะ!

ฝ่ามือหนาตบฉาดลงบนแก้มเด็กสาวอย่างไม่ยั้งแรง ถ้าหากเดียร์เป็นเด็กน้อยธรรมดาศีรษะคงหลุดกระเด็น เด็กสาวบ้วนน้ำลายปนเลือดออกจากปากอย่างส่งๆก่อนที่จะหันกลับมาพร้อมกับดวงตาสีทองวาวโรจน์ และพลังบางอย่างที่มองไม่เห็นก็อัดไลแคนท์ในร่างมนุษย์นั้นจนกระเด็นติดกำแพงจนร่างแหลกเหลว

โพล๊ะ!!!!

ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ลูฟมองการกระทำนั้นเต็มสองตา ในใจรู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูก

จากร่างหมาป่าไลแคนท์สีเงินได้กลับกลายมาเป็นร่างชายหนุ่มดังเดิมก่อนจะเดินออกไปจากเงามืด ปรากฏตัวต่อหน้าพวกทรยศราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“นางเด็กนี่!”

“ข้าจะไม่เตือนพวกเจ้าเป็นครั้งที่สอง”

“ท่านลูฟ!”

“บังอาจทำให้ดินแดนของข้าเสื่อมเสียรึ”

“ขะ ข้าผิดไปแล้ว”

ฟึ่บ!

ควากกกกกกกก!!!

“อ๊ากกกกก!!!!!!!”

ลูฟสังหารไลแคนท์ตรงหน้าจนแหลกเหลวหาชิ้นส่วนไม่เจอก่อนจะตวัดสายตามองลูกสมุนที่เหลือ

“รู้หรือไม่ว่านางคือท่านหญิงน้อยของเรียวโอไนน์กับโอเอซิสต์เชียวนะ พวกเจ้าล่วงเกินนางก็เท่ากับว่ารนหาที่ตาย”

เดียร์ชักหงุดหงิดกับใบหน้ายิ้มแย้มกับการวางตัวเป็นสุภาพบุรุษของคนตรงหน้าเต็มที เด็กสาวกระชากมือทีเดียวจนโซ่ขาดไม่เหลือชิ้นดี

โครม!!!

เคร้ง!

“และข้าก็จะไม่ทนพวกเจ้าอีกเป็นครั้งที่สอง พวกชั้นต่ำ”

เดียร์สะบัดข้อมือทิ้งเศษโซ่ไปตลอดทางที่สาวเท้าเข้ามายืนต่อหน้าลูฟ แววตาที่สามารถสังหารคนได้ทำให้เหล่าไลแคนท์ต้องถอยห่างและหลีกทางให้แก่เธอ

“ใจเย็นๆก่อนท่านหญิง เจ้ากำลังทำให้สมุนของข้ากลัวจนหัวหด”

“ยกเว้นเจ้า”

“หึๆๆๆ นั่นสินะ เอาเถอะ……ข้าขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ นามของข้าคือ ลูฟ เนวีด์ ถึงจะถูกพามาแบบไม่เต็มใจ แต่ก็ขอต้อนรับสู่ปราสาทของข้า ท่านหญิงเลเดียร์”

“หึ!”

“มาคุยกันหน่อยไหม เจ้ากับข้า ตามลำพัง”

เป๊าะ!

ลูฟดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้เขาและเด็กสาวเปลี่ยนสถานที่เข้ามาอยู่ในอีกห้องหนึ่ง มันคือห้องนอนส่วนตัวของลูฟที่ทั้งกว้างขวาง โอ่อ่า หากแต่มันเต็มไปด้วยโทนสีดำมีเพียงเชิงเทียนข้างกำแพงที่ให้แสงสว่าง

“ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้า”

เดียร์เดินเลี่ยงร่างสูงเพื่อจะออกไปให้พ้นสถานที่แห่งนี้เร็วๆ ตอนนี้ในใจของเดียร์คิดถึงแต่เพียวเท่านั้น ถ้าไม่รีบกลับไปเพียวจะเป็นยังไงบ้าง

ต้องรีบกลับไปแล้ว…

วืดดดด!!!!

บรรยากาศรอบตัวเดียร์พลันมืดสนิท เสมือนว่าดวงตาของเดียร์ถูกชวงชิงไปอย่างฉับพลัน

“เจ้าทำอะไรข้า”

“อย่าได้โกรธไปเลย ท่านหญิง ข้าก็แค่ยึดดวงตาของเจ้าเอาไว้ชั่วคราว เอาไว้ข้าจะคืนให้เจ้า เมื่อเราคุยกันจบแล้ว”

“ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับเจ้า อยากได้นักก็เอาไป แค่ดวงตาข้าไม่ต้องการ”

หัวใจเด็ดเดี่ยวเกินตัวของเด็กสาวเรียกความสนใจของลูฟมากกว่าเดิมหลายเท่านัก ต้องแบบนี้สิถึงจะคุ้มค่าที่อุตส่าห์ตามหามาหลายปี

ยิ่งพยศ ลูฟก็ยิ่งอยากปราบพยศ

ชายหนุ่มคว้าร่างเด็กสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะประโลมจูบริมฝีปากบางๆร้ายกาจนั้นโดยไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัว

เดียร์ดิ้นรนสะบัดร่างตัวเองให้พ้นห่างจากพันธนาการ แต่สุดท้ายเรี่ยวแรงของเธอก็ไม่ถึงขั้นที่จะต่อกรกับไลแคนท์ได้จริงๆ

“อื้อ!!! ปล่อยข้านะเจ้าคนฉวยโอกาส!”

“หึ เรียกข้าเป็นคนได้ด้วยเหรอ”

“ปล่อยข้า!”

“ไม่ จนกว่าเจ้าจะคุยกับข้าดีๆ”

“เรื่องอะไรที่ข้าต้องคุยกับเจ้า”

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้ร่ายกายของเราคุยกันเองดีหรือไม่ ท่านหญิง”

“อุ๊บ!”

ลูฟไม่พูดพร่ำทำเพลง ประกบเรียวปากอ่อนนุ่มนั้นพร้อมกับเกี้ยวพากวาดต้อนความหวานล้ำจากเด็กสาวอย่างหลงใหล เดียร์หรือชื่อจริงๆของเธอก็คือเลเดียร์ไม่ใช่เด็กสาวอย่างที่ร่างกายภายนอกแสดงออก แต่เธอคือเรียวโอไนน์ที่มีสายเลือดของซาตาน อายุของเธออาจจะยังไม่ถึงร้อย แต่ก็เป็นผู้ใหญ่มากพอสำหรับเรื่องแบบนี้

ลูฟไม่ชอบการเกี้ยวพาเสียเวลา ถ้าต้องการก็ไม่มีประโยชน์ที่จะรออะไรอีก

มือหนาลูบไล้กายสาวที่กำลังสั่นสะท้าน ในขณะที่ลิ้นสากๆยังโลมเลียใบหน้าอ่อนหวานนั้นอย่างหลงใหล

เสื้อผ้าถูกปลดเปลื้องออกให้พ้นทางภายในไม่กี่นาที ร่างนวลเนียนในอ้อมกอดเขากำลังห่อตัวด้วยความหนาว

“ข้าจะคืนดวงตาให้เจ้า ถ้าเจ้ายอมเผยร่างจริงให้ข้าเห็น”

“ฮึก ไปตายซะ”

“คงจะต้องการตัวกระตุ้นสินะ”

มือหนาขยำหน้าอกอวบอิ่มเกินตัวของเด็กสาวแรงๆเรียกเสียงร้องครางเสนาะหู กระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนขึ้นมาทันที ลูฟฝังเขี้ยวบนไหล่นวลเนียนนั้นและดูดเลือดจากกายสาวอึกแล้วอึกเล่า มือบางขยุ้มเส้นผมของชายหนุ่มเพื่อบรรเทาความเจ็บและเสียวซ่านที่ร่างกายได้รับ

“อ๊ะ!”

ชายหนุ่มถอนเขี้ยวออกจากร่างบางที่สั่นสะท้าน มองใบหน้าเจ็บปวดของหญิงสาวพร้อมกับยิ้มย่องให้กับดวงตาเหม่อลอยไร้แววของเธอ เขาอุ้มร่ายเปลือยเปล่านั้นวางลงบนเตียงหนาภายในห้องนอนโทนสีดำ มีเพียงแสงสว่างจากเชิงเทียนติดผนังเท่านั้นที่ส่องให้เห็นเพียงเงาเลือนรางกับร่างกายสีนวลอ่อนๆ ปลุกเร้าอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

เลเดียร์ถูกดูดเลือดไปมากจนแทบไม่เหลือแรงต่อต้าน ดวงตารึก็ถูกช่วงชิงแสงสว่างไป ตอนนี้เธอทั้งหนาว ทั้งกลัวบวกกับหัวใจที่เต้นแรงผิดปกติ

ตึกตักๆๆๆ….

ไม่นานกายสาวก็กระตุกวูบแอ่นโค้งเป็นสะพานตั้งฉากกับเตียง เมื่อความเสียวซ่านเข้ามารุกล้ำเล่นงานในจุดสงวน

“อ๊า!!!”

ลิ้นร้ายสอดแทรกไปตามกลีบกุหลาบสีสวยที่ไม่เคยมีใครได้ย่างกรายเข้ามาก่อน ปลายลิ้นโลมเลีย ขบเม้มและดูดดึงเกสรสีสวยนั้นอย่างเอาใจ เรียกเสียงครางจากเจ้าของร่างเสนาะหูยิ่งนัก

ในขณะที่มือสองข้างลูบไล้ไปตามผิวสัมผัสอันอ่อนนุ่มละมุนมือ บีบเค้นอย่างเพลิดเพลิน

เสียงจาบจ้วงหยาบโลนจากลิ้นชื้นแฉะที่โลมเลียกลีบดอกไม้แรกแย้มเสียงดังจนน่าอาย พร้อมกับปลุกเร้าสัตว์ร้ายกลางกายให้ผงาดขึ้นมาเตรียมพร้อมออกศึก

ลิ้นร้ายผละจากกลีบดอกไม้สีสวยก่อนที่นิ้วมือแกร่งจะถูกส่งเข้าไปสำรวจโพรงสวาทคับแคบนั้นแทน

“อ๊า!!! เจ็บนะ!”

“แค่นี้ก็เจ็บแล้วเหรอ ท่าทางข้าจะเป็นคนแรกของเจ้าสินะ”

“แฮ่กๆๆ เอาออกไปนะ”

“ขอปฏิเสธ”

แล้วนิ้วที่สองก็ตามเข้าไป ตามด้วยนิ้วที่สาม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ใหญ่และยาวกว่านิ้ว นิ้วทั้งสามชักเข้าชักออกเสียงดังน่าอายปะปนกับเสียงร้องครางหอบเหนื่อยจากร่างบางที่บิดเร้าเย้ายวนบนเตียง ลูฟถอดเสื้อผ้าออกให้พ้นตัวเผยให้เห็นซิกแพคและมัดกล้ามเป็นริ้วสวยงาม ชายหนุ่มคลานขึ้นคร่อมร่างขาวนวล ฝ่ามือโบกผ่านใบหน้าหวานโซมเหงื่อนั้นทีหนึ่ง ไม่นานดวงตาเหม่อลอยไร้แววก็กลับมามองเห็นอีกครั้ง และมันก็เบิกกว้างเมื่อเห็นสภาพที่กำลังเผชิญอยู่

“เจ้า…อุ๊บ!!!”

ลูฟประกบจูบเรียวบางสีสวยนั้นทันที ก่อนที่จะส่งท่อนเอ็นร้อนเข้าไปยังช่องทางคับแคบกลางกายสาวทีเดียวจนสุดลำ

ฟึ่บ!!!

“ฮื้ออออออออออออออ!!!!!!!!!”

เสียงอู้อี้ตะโกนได้แค่ในคอเพราะถูกประกบปิดจนมิด ครั้งแรกที่ถูกสอดใส่ ร่างกายเกร็งแน่นบีบรัดตัวตนของลูฟจนต้องนิ่วหน้า ชายหนุ่มกอดเอวคอดกิ่วเอาไว้มั่น ก่อนจะถอนริมฝีปากออก ปล่อยให้เลเดียร์ได้หายใจ เด็กสาวอ้าปากกอบโกยเอาอากาศเข้าปอด ร่างกายเกร็งแน่น ความเจ็บเล่นงานศูนย์กลางกาย แต่ไม่นานมันก็แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวกระสัน

“ผ่อนคลายนะ ยอดรัก”

ลูฟกระซิบข้างหูแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มขยับช้าๆเนิบนาบให้เกิดความหล่อลื่น

“เจ็บ”

“อีกเดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้ว”

เลเดียร์กัดฟัน สองมือขยำผ้าปูที่นอนแน่นประคองร่างกายที่โยกคลอนตามจังหวะขยับเข้าอกของลูฟ หลายครั้งที่หลุดเสียงครางออกมาเพราะความลึกจนถูกจุดกระสัน ศีรษะหล่นห้อยลงขอบเตียงเผยลำคอขาวให้ร่างข้างบนได้โน้มลงมาฝังเขี้ยวดื่มกินโลหิตแสนหวานได้อย่างถนัดถนี่

ความเจ็บปวดจากลำคอที่ถูกดูดดุนแย่งชิงโลหิตบวกกับความเจ็บร้าวศูนย์กลางกายด้านล่างทำให้หลุดเสียงร้องออกมาอย่างลืมอาย

“อ๊ะฮ้า!”

ลูฟดูดดื่มโลหิตหอมหวานจากกายสาว สอดแทรกตัวตนที่ทั้งใหญ่โตและร้อนแรงเข้าไปในโพรงสวาทนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรือนร่างอรชรถูกเขาดูดดุนกัดชิมไปทุกจุด แต่ก็ยังไม่รู้สึกพอใจ บทรักร้อนแรงดำเนินต่อบทแล้วบทเล่า จากตอนแรกที่ฝืนใจตอนนี้กลับเป็นต่างฝ่ายต่างตอบสนองกันและกัน และยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆเหมือนเติมน้ำในบ่อทรายที่ไม่ว่าจะเติมลงไปเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม

“อ๊า…เลเดียร์ เลเดียร์ของข้า~”

“อ๊า!!~~”

ร่างทั้งสองกระตุกเฮือกใหญ่ปลดปล่อยความอึดอัดออกมาพร้อมกับจนล้นทะลักออกมาข้างนอก และยิ่งมีสิ่งหล่อลื่น อารมณ์ดิบเถื่อนก็ยิ่งถูกกระตุ้น ทั้งสองเกี่ยวพันแลกน้ำลายกันอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่เจ้าสัตว์ร้ายกลางกายเริ่มตื่นขึ้นมาและสำรวจโพรงสวรรค์ที่เต็มไปด้วยลาวาหล่อลื่นนั้นอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ร่างกายที่เชื่อมต่อกันไม่เคยละจากให้เป็นอิสระ ทุกหยาดหยดถูกปลดปล่อยเอาไว้ภายในโพรงสวาทที่ขมิบเม้มกลืนกินเข้าไปไม่ว่าจะกี่ครั้งภายในห้องนอนโทนสีดำที่มีเพียงเชิงเทียนคอยส่องสว่างให้เห็นเพียงเงาเลือนรางของคนทั้งสอง

ร่างกายของเด็กสาวค่อยๆเปลี่ยนไป กลายเป็นร่างอรชรทรวดทรงชัดเจนและน่าหลงใหล ลูฟมองการเปลี่ยนแปลงนั้นพร้อมกับรอยยิ้มพอใจ ในที่สุดแม่เด็กน้อยปากกล้าในอ้อมกอดเขาก็กลายเป็นสาวเต็มตัว สองมือลูบประโลมเค้นคลึงปทุมถันอวบอิ่มนั้นเต็มมือก่อนจะลูบไล้ลงมาถึงสะโพกเต่งตึงและบีบเค้นอย่างเอาใจ

“ข้าชักจะหลงใหลในตัวเจ้าจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้วสิ ท่านหญิง”

“หมาป่าเช่นเจ้าพูดคำหวานเป็นด้วยรึ”

“แค่กับเจ้าเท่านั้น”

“ปากดี”

“ถ้าอย่างนั้นก็ปิดปากข้าสิ…ด้วยกายของเจ้า”

ลูฟใช้สองมือช้อนสะโพกกลมมนให้ลอยเด่นขึ้นมาก่อนจะซุกหน้าลงกลางกลีบดอกไม้สีสดกลางกายสาวส่งลิ้นร้ายเข้าไปโลมเลียน้ำหวานหยาดเยิ้มกลางเกสรสีสวยนั้นอย่างตะกรุมตะกราม

“กรี๊ดดดด!!!”

เลเดียร์กระตุกเฮือกใหญ่ผวากอดศีรษะที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงนั้นเอาไว้แน่น ร่างกายที่เติบโตเต็มที่ทำให้รสรักเร่าร้อนยิ่งกว่าเดิม

“ข้าควรจะกลับได้แล้ว”

“ข้าไม่ให้เจ้ากลับไปตอนนี้หรอก”

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาห้ามข้า”

“ข้าไม่มีสิทธิ์ห้ามเจ้า แต่ร่างกายข้าสามารถห้ามเจ้าได้”

แล้วท่อนเนื้อร้อนผ่าวก็สอดแทรกเข้าไปในโพรงสวาทนั้นจนสุดลำ

“อ๊า!!!”

เลเดียร์จิกเล็บลงบนไหล่ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อนั้นอย่างไม่ยั้งแรง ยิ่งกระตุ้นให้ความดิบเถื่อนสอดแทรกกระแทกกระทั้นเข้าไปลึกยิ่งกว่าเดิมจนหญิงสาวต้องแอ่นกายเงยหน้าร้องครางออกมา ยิ่งแอ่นกายไปด้านหลังยอดปทุมสีหวานก็ยิ่งโชว์เด่นเย้ายวนต่อหน้าชายหนุ่ม ลูฟไม่รอช้าที่จะดูดดื่มเม็ดสีหวานนั้นพร้อมๆกับสองมือที่เค้นคลึงเรือนร่างนุ่มนิ่มแสนเย้ายวนนั้นอย่างหลงใหล

เสียงครางกระเส่าดังระงม แสงเทียนสะท้อนเงารางๆที่แนบชิดกันจนบนผนังอิฐสีคล้ำ หากตอนนี้ร่างทั้งสองหลอมรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันได้ก็คงจะทำไปนานแล้ว

ผ่านไปข้ามวันข้ามคืนเลเดียร์ยังถูกโอบกอดเอาไว้ในอ้อมแขนของลูฟ บทรักร้อนแรงยังมีขึ้นทุกครั้งที่อารมณ์เรียกหา อย่างไม่รู้จักพอ

“ที่ปราสาทของข้าไม่มีไลแคนท์ผู้หญิงเท่าไหร่ ข้าสั่งให้ทาสรับใช้ตัดชุดใหม่ให้เจ้าแล้ว”

“ไม่จำเป็น ข้ามีชุดเดิมของข้าอยู่”

“จะกลับไปใช้ร่างเด็กอีกเหรอ”

“เกี่ยวอะไรกับเจ้า”

“ข้าไม่ให้เจ้ากลับไปใช้ร่างนั้นตอนที่ยังอยู่กับข้าหรอก เพราะถึงเจ้าจะอยู่ในร่างเด็ก ข้าก็จะทำให้เจ้ากลับมาเป็นร่างเดิมด้วยอ้อมกอดของข้า”

“ชิ! เจ้ามันไลแคนท์เจ้าเล่ห์”

“แค่กับเจ้าเท่านั้น ยอดรัก”

ลูฟสวมกอดร่างอรชรจากด้านหลังไว้เต็มอก ผิวหนังแนบชิดกันไร้อาภรณ์ขวางกั้นทำให้อารมณ์หวามเกิดขึ้นง่ายๆ แต่เลเดียร์ก็ยังทำใจให้นิ่งและผละกายจากร่างเบื้องหลังอย่างแนบเนียน

“ข้าไม่มีความสัมพันธ์กับเจ้านอกจากทางกาย จำเอาไว้ซะด้วยนะ”

“งั้นเหรอ หากว่าเจ้าให้กำเนิดสายเลือดของข้าจะเป็นยังไงนะ”

“เจ้า!!!”

“หึๆๆๆ ถึงขนาดนี้แล้วยังจะปฎิเสธอีกเหรอ”

“ชีวิตของข้ามีไว้เพื่อปกป้องหัวใจราชันเท่านั้น ถึงเจ้าจะเป็นคนแรกของข้า แต่ข้าจะไม่มีทางมีทายาทกับเจ้าแน่”

“มาลองดูไหมล่ะ”

“ว่าไงนะ”

“ภายในสามเดือนนี้ หากว่าข้าทำให้เจ้าเปลี่ยนใจไม่ได้ ข้าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเจ้าและปล่อยเจ้าไป”

“นี่มันข้อตกลงอะไรของเจ้า”

“จะปฎิเสธไหมล่ะว่าเจ้าไม่ติดใจในรสรักของข้า”

“เจ้า!!!”

“หึๆๆ ว่ายังไงท่านหญิงเลเดียร์”

ลูฟไม่ใช่คนที่รออะไรได้นาน และอารมณ์ความต้องการของเขาก็เต็มเปี่ยมจนเก็บไว้ไม่อยู่ สองแขนคว้าร่างอรชรเข้ามากอดก่อนจะประกบจูบปากสีสวยนั้นพร้อมกับส่งลิ้นร้ายกวาดต้อนความหอมหวานในโพรงปากนั้นอย่างหลงใหล

ในเมื่อชอบแล้วไม่เห็นต้องเสียเวลา สู้คว้ามาไว้ในครอบครองเลยดีกว่า นี่คงจะเป็นสิ่งเดียวที่เขากับเอลเดอร์มีความคล้ายกันอยู่บ้าง

 

 

เลเดียร์หลับตาตอบรับการรุกรานนั้นทีละนิด ทีละนิด จนในที่สุดก็กลายเป็นบทรักร้อนแรงที่เริงระบำไปทั่วห้อง

ฤดูกาลหรือจะเรียกว่าห้วงเวลานี้มันช่างยาวนาน และคงจะกินเวลาไปอีกหลายวัน

ร่างบางเปลือยเปล่าคุกเข่าท่าคลานคร่อมทับใบหน้าของชายหนุ่มที่นอนราบบนเตียง ร่างอรชรบิดเร้าเย้ายวนเมื่อถูกลิ้นร้ายจากร่างเบื้องล่างเย้าแหย่ สองมือเกาะหัวเตียงครูดเกี่ยวจนเกิดรอยเล็บเพื่อระบายความเสียวซ่านทรมานที่ได้รับการปรนเปรอ เสียงดูดดุนจาบจ้วงผสมกับเสียงครางกระเส่าระงมไปทั้งห้อง

ร่างทั้งสองโซมไปด้วยเหงื่อและถูกชโลมด้วยกลิ่นคาวอ่อนๆ ยิ่งกระตุ้นให้บทรักร้อนแรงขึ้นอีกหลายเท่าจากบนเตียง บนพื้นพรมและจบลงที่อ่างน้ำ ทุกที่คือพื้นที่สำหรับเริงรักและดื่มด่ำกันและกัน วันแล้ววันเล่าที่ไม่เคยห่างกันข้ามวัน จนเวลาล่วงเลยไปนานนับเดือน

“ข้าต้องกลับเสียที”

“ได้”

ร่างหนาซ้อนกอดร่างอรชรภายใต้ผ้าห่มผืนบางเอาไว้จากด้านหลัง หนึ่งเดือนที่ลูฟกักขังเลเดียร์ไว้ในอ้อมกอด ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะเหน็ดเหนื่อย แต่เขาก็ได้รู้จักถึงตัวตนของเธอดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เลเดียร์ไม่ใจอ่อนง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะมีสัมพันธ์ทางกายกับเขามากขนาดไหน จิตใจของเธอยังมั่นคงไม่สั่นคลอน ยิ่งทำให้ลูฟมั่นใจและไม่ยอมแพ้ที่จะเอาชนะใจเธอให้ได้

“ยังเหลือเวลาอีกสองเดือน ข้ายังมีโอกาสอีกเยอะ”

เลเดียร์เอี้ยวตัวหันหน้ากลับมาหาชายหนุ่มที่ยังกอดเธอเอาไว้หลวมๆ เธอจ้องเข้าไปในดวงตาสีหมอกของเขาอย่างระคนสงสัย

“ทำไมเจ้าถึงอยากได้ข้านัก เพราะข้ามีสายเลือดที่จะครองบัลลังก์ได้งั้นเหรอ”

ลูฟยิ้มอ่อนๆ ปลายนิ้วไล้ไปบนดวงหน้าสะสวยของหญิงสาว

“ไม่ใช่”

“หากไม่ใช่เจ้าอยากเอาชนะเอลเดอร์พี่ชายของเจ้า แล้วอะไรล่ะ”

“เพราะข้าต้องการความรักจากเจ้า เลเดียร์”

ตึกตักๆๆๆ….

“เจ้ายังจำลูกหมาที่เจ้าเก็บไปรักษาเมื่อหลายปีก่อนได้หรือไม่”

“ลูกหมารึ”

“นั่นคือข้าเอง”

ลูฟสารภาพออกมาจนหมดสิ้น แต่ปฏิกิริยาของเลเดียร์ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม หญิงสาวยังนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาเขาและฟังเขาอยู่เงียบๆ

ลูฟลูบลำแขนนวลเนียนของหญิงสาวไปมา เล่าเรื่องราวทุกอย่างราวกับเล่านิทาน

“ตอนนั้นข้าสูญเสียพลังไปจนหมด เจ้าก็เลยจับพลังของข้าไม่ได้ แต่ข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าเป็นใคร…หลังจากที่ข้าหายดีข้าก็มาที่หมู่บ้านเพื่อจะมาหาเจ้า แต่ที่นั่นก็ไม่เหลือแม้แต่กลิ่นอายของเจ้าแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าคงไปจากที่นั่นแล้ว ก็เลยไม่ได้กลับไปที่นั่นอีก ได้แต่วนเวียนอยู่ที่ภูเขาหลังหมู่บ้าน เพื่อคอยสอดส่องหากลิ่นของเจ้า ปีแล้วปีเล่า…สุดท้ายแล้วจะเรียกว่าความบังเอิญของข้ารึเปล่านะ ข้าได้กลิ่นของเจ้าจากตัวเด็กคนนั้น”

เด็กคนนั้นที่ลูฟพูดถึงคงจะหมายถึงเพียวนั่นเอง

เลเดียร์หรี่ตาลงจนเป็นเส้นตรง นึกถึงเรื่องในอดีตที่สำหรับเธอแล้วมันไม่ได้ถูกตราไว้ในความทรงจำเท่าไหร่นัก เพราะนอกจากการปกป้องเพียวแล้วก็ไม่มีอะไรอื่นที่เธอต้องใส่ใจ

“เป็นแบบนี้เองเหรอ”

“…….ใช่”

ลูฟหลับตาลงพร้อมกับยิ้มขำ

เลเดียร์หลุดยิ้มออกมาจางๆ นึกขำกับเหตุผลที่เธอถูกลักพาตัวและถูกคนตรงหน้ากักขังเอาไว้ในอ้อมกอดนานนับเดือน

แล้วนี่เธอจะตอบเพียวยังไงถ้ากลับไปหาเด็กหนุ่มในร่างของผู้ใหญ่

เธอจะไม่ใช่เดียร์ เด็กน้อยซุกซนของเพียวอีกต่อไปแต่เธอคือเลเดียร์ สายเลือดผู้พิทักษ์ที่คอยปกป้องเด็กหนุ่ม

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา