- - - - - - H A L F - - - - - - [ Y a o i ]
7.2
เขียนโดย Suhadelle
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 01.51 น.
6 ตอน
3 วิจารณ์
8,716 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 02.07 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) Chapter: 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ยังไม่นอนอีกหรือ”
เอ็มที่เพิ่งกลับมาจากการบดสมุนไพรเอ่ยถาม เมื่อเห็นฮาฟยังคงนั่งอยู่ข้างหน้าต่างในกระท่อม มือเล็กๆซ่อมย่ามกระสอบอย่างไม่ใส่ใจนัก เหมือนเจ้าตัวสนใจจะมองหาคนที่เฝ้ารอเสียมากกว่า
“อืม ข้ากะว่าจะรออีกนิด คราวก่อนโนวามาดึกกว่านี้อีก” ฮาฟตอบกลับอย่างมีความหวัง
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เพื่อนใหม่ของเขาก็หาโอกาสมาพบได้เฉพาะตอนค่ำเท่านั้น เนื่องจากช่วงเวลาระหว่างวัน โนวาต้องเข้าพิธีและเรียนอย่างหนัก หากหนีเรียนบ่อยเกินไป โนวาเกรงว่าอาจจะโดนทางบ้านสงสัย แล้วห้ามมาหาเขาได้
แม้จะต้องรอดึกแค่ไหน หรือต้องเจอกันแบบหลบๆซ่อนๆ แต่ฮาฟก็ดีใจที่ได้เพื่อนใหม่ ซึ่งจะว่าไปแล้ว น่าจะเรียกว่า ‘เพื่อนคนแรก’ มากกว่า
ฮาฟรู้สึกดีใจที่ตัวเองสามารถใช้คำว่า ‘เพื่อน’ กับคนอื่นได้เสียที
เขารู้ดีว่าการเป็นลูกผสมพ่อมดดำ ทำให้ไม่เป็นที่ต้องการเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฮาฟมีเอ็มคอยดูแล เขาอาจจะไม่รู้ว่าความรักและความห่วงใยนั้นเป็นอย่างไร
ฮาฟเคยลองพยายามหาเพื่อนในหมู่ผู้อาศัยในป่าผู้วิเศษ ที่อยู่รวมกันเหมือนเป็นชุมชนขนาดเล็กอีกสองจุดในป่า แต่ละจุดจะมีผู้เก็บสมุนไพร คนหาน้ำผึ้งกับผลไม้ป่า คนหาฟืน และนายพราน คอยล่ากับส่งเสบียงอาหารและยาให้แก่วิหารโฮลี่แลนด์ ในชุมชนเล็กๆนี้จะมีกระท่อมอยู่ในระแวกเดียวกันไม่เกินสิบหลัง พอจะมีครอบครัวและเด็กวัยใกล้เคียงกับฮาฟ
เขาและเอ็มได้อยู่ในกระท่อมที่แยกออกมาจากชุมชนเล็กๆนี้ เพราะเอ็มและแม่ของเขาเคยเป็นหญิงงามเมืองมาก่อน แม้จะทิ้งอดีตนั้นไว้เบื้องหลังแล้ว ก็ไม่มีใครยอมรับเข้าไปในชุมชนเนื่องจากเกรงว่าจะ ‘ก่อความวุ่นวาย’ ขึ้น
ฮาฟพอจะเข้าใจอยู่บ้าง ว่าหญิงงามเมืองนั้นไม่เป็นที่ยอมรับเพราะถือว่าคลุกอยู่ใน ‘โลกโลกีย์’ แม้ฮาฟจะไม่เข้าใจความหมายของคำนี้ แต่เขาก็พอรู้ว่ามันเป็นคำทางด้านลบ
เอ็มเพียงอธิบายกับเขาว่าอาชีพเดิมของนางเน้นการทำกิจกรรมของพวกผู้ใหญ่ ที่ต้องรอให้เขาโตกว่านี้ก่อนจึงจะเข้าใจ เท่าที่นางบอกได้คือเด็กเกิดมาได้เพราะ ‘กิจกรรม’ ที่ว่านี้
ฮาฟเองจึงสงสัย ว่าหากกิจกรรมที่ว่านี้ช่วยให้เด็กเกิดขึ้นมาได้ เหตุใดจึงใช้คำที่มีความหมายด้านลบ อย่างนี้การทำให้เด็กเกิดมาก็เป็นเรื่องไม่ดีหรือไร
เอ็มเพียงยิ้มๆแล้วตอบเขาว่าเพราะนางทำเพื่อเงิน ไม่ได้ทำเพื่อผลิตเด็ก ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้ฮาฟงงเข้าไปใหญ่ เพราะเท่าที่เขาเข้าใจ คนอื่นก็ทำงานเพื่อเงินเหมือนกัน คนในชุมชนเล็กๆที่ไม่ยอมรับเอ็มและแม่ ก็ได้รับค่าจ้างจากทางวิหารโฮลี่แลนด์เช่นกัน แถมก็น่าจะทำกิจกรรมเพื่อผลิตเด็กเช่นกัน แล้วเหตุใด ‘กิจกรรม’ ที่ช่วยหาเงินของเอ็มและแม่ของเขาจึงไม่เป็นที่ยอมรับ
เอ็มได้แต่หัวเราะชอบใจกับคำถามของฮาฟ แล้วชมว่าหากผู้ใหญ่คนอื่นคิดได้แบบเขา ก็คงจะดีไม่น้อย
แต่ผู้ใหญ่เหล่านั้นไม่ยอมรับฮาฟที่เป็นลูกผสมพ่อมดดำเช่นกัน
แรกๆที่ฮาฟพยายามไปหาเพื่อนในชุมชนเล็กๆนั้น เขาเข้ากันได้ดีกับทุกคน แต่เล่นด้วยกันไม่นาน ก็โดนผู้ใหญ่เหล่านั้นมาไล่ โดยหาว่าเขาเป็นลูกของโสเภณีและปีศาจ
หลังจากนั้นเด็กๆที่เคยเล่นกับฮาฟ ก็ไม่เข้ามาใกล้อีก
ฮาฟเรียนรู้แต่เด็ก ว่าเมื่อใดตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ สายตารังเกียจมีลักษณะเช่นใด และควรจะหลีกหนีเมื่อไหร่
นอกจากเอ็มแล้ว เขาไม่เป็นที่ยอมรับ
จนกระทั่ง...โนวา
“คืนนี้ข้าว่าคงจะไม่มาแล้วล่ะ เจ้าเข้านอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาเก็บน้ำค้าง แล้วอย่าลืมทำการบ้านนะ กำหนดส่งพรุ่งนี้”
เอ็มที่ล้างหน้าแปรงฟันและเตรียมที่นอนเสร็จ หันมาชวนฮาฟระหว่างแปรงเรือนผมสีทองของตน ดวงตาสีเขียวดุจมรกตมองเด็กชายอย่างเห็นใจ
“อืม” ฮาฟตอบรับสั้นๆ แต่ยังไม่มีทีท่าจะยอมผละจากข้างหน้าต่าง
เอ็มที่อ่านออกเขียนได้คอยสอนหนังสือเขาตั้งแต่เด็ก แม้ทางวิหารโฮลี่แลนด์จะจัดห้องเรียนฟรี เพื่อสอนให้คนอ่านคำสอนของโฮลี่เป็น แต่ก็ไม่มีใครยอมรับเขาเข้าเรียนกับเด็กคนอื่น
ถึงจะเหงาที่ไม่มีเพื่อนเล่นวัยเดียวกัน แต่การได้เรียนกับเอ็ม กลับทำให้เขาได้อ่านมากกว่าคำสอนของโฮลี่ ไม่ว่าจะเป็นบทกลอนที่เอ็มรู้จักแล้วจดให้เขาอ่าน ไปจนถึงปรัชญาจากทั้งในและต่างแดนที่เอ็มเคยได้เรียนเพื่อรับแขก หรือเรียนรู้จากลูกค้าของนาง ทั้งยังคอยถ่ายทอดความรู้ด้านสมุนไพรให้กับฮาฟ ซึ่งตั้งแต่จำความได้ เขาก็ต้องมาช่วยนางบดสมุนไพรและปั้นยาเม็ดเพื่อส่งให้กับโฮลี่แลนด์
ฮาฟสงสัยเหลือเกินว่าโนวาจะได้เรียนอะไรที่แตกต่างไปจากเขาบ้าง ที่แน่ๆอีกฝ่ายคงได้ฝึกการใช้เวทย์ในแบบที่เขาได้แต่ฝัน
ไม่ว่าโนวาจะพยายามสอนการรวบรวมพลังเวทย์ให้เวลามาพบฮาฟ แต่เขาก็คว้าน้ำเหลวทุกครั้ง ไม่มีวี่แววว่าเด็กชายลูกผสมจะมีพลังเวทย์แม้แต่น้อย ถึงกระนั้นโนวาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มุ่งมั่นที่จะกลับมาหาแล้วช่วยกระตุ้นพลังเวทย์ของฮาฟให้ได้
นอกจากเอ็มแล้ว ไม่มีใครตั้งความหวังแบบนี้กับเขามาก่อน
ฮาฟไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าเมื่อนึกถึงเพื่อนที่เฝ้ารอ
เอ็มได้แต่ถอนหายใจอย่างเอ็นดูกับลูกบุญธรรม นางรู้ดีว่าเด็กชายดีใจที่มีเพื่อนวัยเดียวกันเสียที
เพื่อนคนแรกที่ฮาฟพามาอวดถึงกระท่อม เด็กชายผมทองสว่างตาสีฟ้าใสที่ดูราวกับเทวดาตัวน้อยๆ ในชุดสีขาวสะอาดตาที่บรรดาลูกของผู้วิเศษที่อาศัยอยู่ในวิหารโฮลี่แลนด์มักจะใส่กัน
เอ็มยังดูเนื้อผ้าออกว่าเด็กคนนี้น่าจะเป็นลูกของคนใหญ่คนโตไม่น้อย เพราะถึงแม้พวกผู้วิเศษจะพยายามมีกฏให้แต่งตัวเหมือนกันเพื่อความเป็นระเบียบและสามัคคี แต่ผู้วิเศษที่มีฐานะขึ้นมาก็ยังอดเสียมิได้ที่จะใช้วัสดุที่หรูหราขึ้นแทน
สมัยก่อนที่เอ็มยังรับแขกในหอนางโลม นางมีลูกค้าเป็นผู้วิเศษระดับสูงมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นางยังจำได้ดีว่ามีลูกค้ารายนึงที่มีครอบครัวแล้ว เคยเอ่ยกับนางตอนช่วยสวมชุดผู้วิเศษที่ใช้เนื้อผ้าอย่างดี ว่าในหมู่ผู้วิเศษนั้น ก็มีแฟชั่นของชุดเครื่องแบบอยู่ เช่นชนิดผ้าที่กำลังมาแรง เฉดสีขาวที่หลากหลาย หรือการตัดที่มีการดัดแปลงบ้างเล็กน้อย
ผู้วิเศษรายนั้นคุยเรื่องแฟชั่นอย่างออกรส ทั้งที่คำสอนของโฮลี่บอกไว้อย่างชัดเจนว่าให้ละทิ้งความหรูหรา เพื่อขัดเกลาจิตใจของตัวเองแท้ๆ บางทีผู้วิเศษรายนั้นอาจจะตีความคำสอน ว่าคนทั่วไปควรจะละทิ้งความหรูหราแล้วมอบให้กับโฮลี่แทน
เอ็มไม่ได้รังเกียจผู้วิเศษ ตรงกันข้าม นางชอบลูกค้ากระเป๋าหนัก
การรับแขกในสมัยก่อนยังทำให้เอ็มรู้ดี ถึงเรื่องความริษยาและการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันในหมู่ผู้วิเศษ คุณจะนึกไม่ถึงเลยว่าพวกผู้ชายนั้น หลังนอนกันเสร็จแล้วหลายรายปากพล่อยกันแค่ไหน บางทีให้ข้อมูลกันชนิดไม่ต้องเอ่ยปากถามด้วยซ้ำ จนไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกคนขายข่าวมักจะมีสายในหอนางโลม
และเอ็มก็รู้มากพอที่จะคาดเดาอนาคตมิตรภาพของฮาฟและเพื่อนใหม่ได้ หากทั้งสองไม่ระวังให้ดี นางเกรงว่าทางบ้านของโนวาจะต้องเข้ามาเป็นอุปสรรคในอนาคตอย่างแน่นอน
เอ็มเป็นห่วงฮาฟ และอนาคตข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง
แม้จะกังวล แต่นางไม่อยากห้ามมิตรภาพของทั้งสอง ฮาฟควรเรียนรู้ที่จะมีเพื่อน ควรจะมีโลกกว้างมากกว่ากระท่อมในป่าแห่งนี้ เพราะนางไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะปกป้องเขาไปได้ถึงเมื่อไหร่
เอ็มเก็บแปรงผมแล้วเตรียมตัวเข้านอน ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองร่างเล็กข้างหน้าต่าง ภาพซ้อนของอาซาเลียที่เคยนั่งรอเจทในตำแหน่งเดียวกัน ซ้อนกับเด็กชายที่ถอดรูปเพื่อนสนิทนางมาตั้งแต่หัวจรดเท้า
รอยยิ้มบางๆแตะริมฝีปากเมื่อหวนนึกถึงเพื่อนที่จากไป
“อีกสองวันข้าจะไปส่งสมุนไพร ถ้าเจ้าอยากเจอโนวา จะตามไปกับข้าไหม”
ตอนฮาฟยังเป็นเพียงทารก เอ็มมักจะสะพายเขาขึ้นหลังติดไปด้วยเพื่อส่งสมุนไพรทุกสัปดาห์ แต่พอเริ่มโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ฮาฟก็ไม่ไปอีก ถึงแม้เขาพยายามจะไปช่วยเอ็มในช่วงแรก แต่เมื่อเจอสายตาระแวงและรังเกียจบ่อยๆเข้า รวมถึงโดนกลุ่มเด็กที่ฟังจากพวกผู้ใหญ่มาว่าเขาเป็นลูกผสมพ่อมดดำ คอยแกล้งจนเลือดตกยางออก เอ็มก็ห้ามเขาตามมาอีก
ถึงเขาจะดื้อ อยากมาช่วยเอ็มให้ได้ แต่ตอนที่เขาโดนปฏิเสธไม่ให้อาหารที่แจกฟรี จนเป็นอาทิตย์แรกที่ทั้งสองไม่ได้เนื้อกลับมากิน ฮาฟก็ยอมอยู่บ้านในที่สุด
“แล้วเราจะมีเนื้อกินกันเหรอ” ฮาฟละสายตาจากนอกหน้าต่างในที่สุด จนเอ็มอดขำกับความตะกละที่คล้ายกับอาซาเลียเสียมิได้
“โถ เจ้าก็เห็นแก่กินไปได้ ปลอมตัวเสียก็สิ้นเรื่อง ข้ามีให้เลือกระหว่างผ้าคลุมกับชุดกระโปรง ถ้าเจ้าเลือกอย่างหลัง ข้าจะช่วยแต่งให้ รับรองว่าไม่มีใครจำได้”
เอ็มหยอกอย่างแอบหวังจะได้เล่นแต่งตัวตุ๊กตา ฮาฟที่เหมือนจะรู้ทันงอนแก้มป่อง
“ไม่ต้องห่วงหรอก ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะงามกว่าใคร” เอ็มหยอดต่อ
“งามกว่าเอ็มอีกหรือ”
“แน่นอน เจ้าเป็นลูกของอาซาเลียนี่”
ฮาฟที่ยังตีสีหน้างอนอยู่ แอบหน้าแดงกับคำชมปนสับสนเล็กน้อย แม้เขาจะดีใจที่เหมือนแม่ แต่ก็ไม่แน่ใจเรื่องคำชมเกี่ยวกับความงาม
“ตกลงเอาชุดกระโปรงนะ”
“ข้าจะเอาผ้าคลุม!”
ฮาฟรีบขัดขึ้นก่อนจะโดนมัดมือชก เด็กชายยอมปิดหน้าต่างแล้วเตรียมตัวนอนในที่สุด ท่าทางดีใจที่หาทางไปพบเพื่อนได้
ร่างเล็กซุกใต้ผ้าห่มมานอนข้างๆเอ็ม แม้จะมีกองไฟกลางกระท่อม แต่มันก็อุ่นไม่เพียงพอจนถึงเช้า
“เอ็ม ช่วยเล่าเรื่องตอนแม่เจอกับพ่อให้ข้าที”
ฮาฟเอ่ยขอนิทานก่อนนอนที่เขาชอบยิ่งกว่าเรื่องใด เรื่องเล่าของอัศวิน เจ้าหญิง หรือมังกร สำหรับเขาแล้วไม่น่าสนใจนัก
“เจ้าฟังบ่อยจนเล่าเองได้แล้ว ยังจะฟังอีกหรือ”
“นะ ข้าอยากฟัง” ฮาฟใช้ไม้ตาย ออดอ้อนด้วยน้ำเสียงและสายตาที่เขารู้ดี ว่าเอ็มไม่เคยปฏิเสธได้
สมกับเป็นลูกอาซาเลียจริงๆ!
และก็เป็นอีกคืน ที่เอ็มพ่ายแพ้ให้กับลูกอ้อนของฮาฟ
“เอ็ม ท่านคิดว่าพ่อจะรักข้าไหม”
เสียงเล็กๆของเด็กชายเอ่ยอย่างเคลิ้มๆ จวนจะหลับเต็มที
“รักซิ” เอ็มตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“แล้วทำไมพ่อไม่มาหาข้าเสียที”
เอ็มไม่แน่ใจว่าจะตอบอย่างไร จึงบอกไปตรงๆ “ข้าไม่รู้ ข้าไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาเลยตั้งแต่แม่เจ้าเสียไป”
“พ่อคงไม่...”
“ไม่ตายง่ายๆหรอก ไม่งั้นเราต้องรู้แล้ว”
แม้จะไม่เคยได้ข่าวคราวเกี่ยวกับเจท แต่เอ็มค่อนข้างมั่นใจว่าเจทยังมีชีวิตอยู่ เพราะเวลาจับพ่อมดแม่มดดำได้ มักจะมีการป่าวประกาศและเผาประจานเสมอ เป็นข่าวใหญ่ที่ต่อให้อยู่ต่างเมืองก็ได้ยิน
“ถ้าโตขึ้น ข้าควรจะไปตามหาพ่อไหม”
เอ็มเงียบไป
แม้นางจะเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะรู้ไปเสียทุกอย่าง
“ไม่รู้ซิ ชีวิตเป็นของเจ้า ไว้เจ้าโตพอจนไม่ต้องให้ข้าดูแลแล้ว ค่อยตัดสินใจแล้วกัน”
ร่างเล็กนิ่งเงียบ ดูเหมือนว่าจะหลับไปแล้ว เอ็มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายได้ยินคำตอบนางหรือไม่
ดวงตาสีมรกตมองร่างเล็กอย่างเอ็นดู ก่อนโน้มลงจูบหน้าผาก แล้วกระชับอ้อมกอดแบ่งไออุ่น นอนหลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม
เอ็มที่เพิ่งกลับมาจากการบดสมุนไพรเอ่ยถาม เมื่อเห็นฮาฟยังคงนั่งอยู่ข้างหน้าต่างในกระท่อม มือเล็กๆซ่อมย่ามกระสอบอย่างไม่ใส่ใจนัก เหมือนเจ้าตัวสนใจจะมองหาคนที่เฝ้ารอเสียมากกว่า
“อืม ข้ากะว่าจะรออีกนิด คราวก่อนโนวามาดึกกว่านี้อีก” ฮาฟตอบกลับอย่างมีความหวัง
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เพื่อนใหม่ของเขาก็หาโอกาสมาพบได้เฉพาะตอนค่ำเท่านั้น เนื่องจากช่วงเวลาระหว่างวัน โนวาต้องเข้าพิธีและเรียนอย่างหนัก หากหนีเรียนบ่อยเกินไป โนวาเกรงว่าอาจจะโดนทางบ้านสงสัย แล้วห้ามมาหาเขาได้
แม้จะต้องรอดึกแค่ไหน หรือต้องเจอกันแบบหลบๆซ่อนๆ แต่ฮาฟก็ดีใจที่ได้เพื่อนใหม่ ซึ่งจะว่าไปแล้ว น่าจะเรียกว่า ‘เพื่อนคนแรก’ มากกว่า
ฮาฟรู้สึกดีใจที่ตัวเองสามารถใช้คำว่า ‘เพื่อน’ กับคนอื่นได้เสียที
เขารู้ดีว่าการเป็นลูกผสมพ่อมดดำ ทำให้ไม่เป็นที่ต้องการเท่าไหร่นัก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฮาฟมีเอ็มคอยดูแล เขาอาจจะไม่รู้ว่าความรักและความห่วงใยนั้นเป็นอย่างไร
ฮาฟเคยลองพยายามหาเพื่อนในหมู่ผู้อาศัยในป่าผู้วิเศษ ที่อยู่รวมกันเหมือนเป็นชุมชนขนาดเล็กอีกสองจุดในป่า แต่ละจุดจะมีผู้เก็บสมุนไพร คนหาน้ำผึ้งกับผลไม้ป่า คนหาฟืน และนายพราน คอยล่ากับส่งเสบียงอาหารและยาให้แก่วิหารโฮลี่แลนด์ ในชุมชนเล็กๆนี้จะมีกระท่อมอยู่ในระแวกเดียวกันไม่เกินสิบหลัง พอจะมีครอบครัวและเด็กวัยใกล้เคียงกับฮาฟ
เขาและเอ็มได้อยู่ในกระท่อมที่แยกออกมาจากชุมชนเล็กๆนี้ เพราะเอ็มและแม่ของเขาเคยเป็นหญิงงามเมืองมาก่อน แม้จะทิ้งอดีตนั้นไว้เบื้องหลังแล้ว ก็ไม่มีใครยอมรับเข้าไปในชุมชนเนื่องจากเกรงว่าจะ ‘ก่อความวุ่นวาย’ ขึ้น
ฮาฟพอจะเข้าใจอยู่บ้าง ว่าหญิงงามเมืองนั้นไม่เป็นที่ยอมรับเพราะถือว่าคลุกอยู่ใน ‘โลกโลกีย์’ แม้ฮาฟจะไม่เข้าใจความหมายของคำนี้ แต่เขาก็พอรู้ว่ามันเป็นคำทางด้านลบ
เอ็มเพียงอธิบายกับเขาว่าอาชีพเดิมของนางเน้นการทำกิจกรรมของพวกผู้ใหญ่ ที่ต้องรอให้เขาโตกว่านี้ก่อนจึงจะเข้าใจ เท่าที่นางบอกได้คือเด็กเกิดมาได้เพราะ ‘กิจกรรม’ ที่ว่านี้
ฮาฟเองจึงสงสัย ว่าหากกิจกรรมที่ว่านี้ช่วยให้เด็กเกิดขึ้นมาได้ เหตุใดจึงใช้คำที่มีความหมายด้านลบ อย่างนี้การทำให้เด็กเกิดมาก็เป็นเรื่องไม่ดีหรือไร
เอ็มเพียงยิ้มๆแล้วตอบเขาว่าเพราะนางทำเพื่อเงิน ไม่ได้ทำเพื่อผลิตเด็ก ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำให้ฮาฟงงเข้าไปใหญ่ เพราะเท่าที่เขาเข้าใจ คนอื่นก็ทำงานเพื่อเงินเหมือนกัน คนในชุมชนเล็กๆที่ไม่ยอมรับเอ็มและแม่ ก็ได้รับค่าจ้างจากทางวิหารโฮลี่แลนด์เช่นกัน แถมก็น่าจะทำกิจกรรมเพื่อผลิตเด็กเช่นกัน แล้วเหตุใด ‘กิจกรรม’ ที่ช่วยหาเงินของเอ็มและแม่ของเขาจึงไม่เป็นที่ยอมรับ
เอ็มได้แต่หัวเราะชอบใจกับคำถามของฮาฟ แล้วชมว่าหากผู้ใหญ่คนอื่นคิดได้แบบเขา ก็คงจะดีไม่น้อย
แต่ผู้ใหญ่เหล่านั้นไม่ยอมรับฮาฟที่เป็นลูกผสมพ่อมดดำเช่นกัน
แรกๆที่ฮาฟพยายามไปหาเพื่อนในชุมชนเล็กๆนั้น เขาเข้ากันได้ดีกับทุกคน แต่เล่นด้วยกันไม่นาน ก็โดนผู้ใหญ่เหล่านั้นมาไล่ โดยหาว่าเขาเป็นลูกของโสเภณีและปีศาจ
หลังจากนั้นเด็กๆที่เคยเล่นกับฮาฟ ก็ไม่เข้ามาใกล้อีก
ฮาฟเรียนรู้แต่เด็ก ว่าเมื่อใดตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ สายตารังเกียจมีลักษณะเช่นใด และควรจะหลีกหนีเมื่อไหร่
นอกจากเอ็มแล้ว เขาไม่เป็นที่ยอมรับ
จนกระทั่ง...โนวา
“คืนนี้ข้าว่าคงจะไม่มาแล้วล่ะ เจ้าเข้านอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาเก็บน้ำค้าง แล้วอย่าลืมทำการบ้านนะ กำหนดส่งพรุ่งนี้”
เอ็มที่ล้างหน้าแปรงฟันและเตรียมที่นอนเสร็จ หันมาชวนฮาฟระหว่างแปรงเรือนผมสีทองของตน ดวงตาสีเขียวดุจมรกตมองเด็กชายอย่างเห็นใจ
“อืม” ฮาฟตอบรับสั้นๆ แต่ยังไม่มีทีท่าจะยอมผละจากข้างหน้าต่าง
เอ็มที่อ่านออกเขียนได้คอยสอนหนังสือเขาตั้งแต่เด็ก แม้ทางวิหารโฮลี่แลนด์จะจัดห้องเรียนฟรี เพื่อสอนให้คนอ่านคำสอนของโฮลี่เป็น แต่ก็ไม่มีใครยอมรับเขาเข้าเรียนกับเด็กคนอื่น
ถึงจะเหงาที่ไม่มีเพื่อนเล่นวัยเดียวกัน แต่การได้เรียนกับเอ็ม กลับทำให้เขาได้อ่านมากกว่าคำสอนของโฮลี่ ไม่ว่าจะเป็นบทกลอนที่เอ็มรู้จักแล้วจดให้เขาอ่าน ไปจนถึงปรัชญาจากทั้งในและต่างแดนที่เอ็มเคยได้เรียนเพื่อรับแขก หรือเรียนรู้จากลูกค้าของนาง ทั้งยังคอยถ่ายทอดความรู้ด้านสมุนไพรให้กับฮาฟ ซึ่งตั้งแต่จำความได้ เขาก็ต้องมาช่วยนางบดสมุนไพรและปั้นยาเม็ดเพื่อส่งให้กับโฮลี่แลนด์
ฮาฟสงสัยเหลือเกินว่าโนวาจะได้เรียนอะไรที่แตกต่างไปจากเขาบ้าง ที่แน่ๆอีกฝ่ายคงได้ฝึกการใช้เวทย์ในแบบที่เขาได้แต่ฝัน
ไม่ว่าโนวาจะพยายามสอนการรวบรวมพลังเวทย์ให้เวลามาพบฮาฟ แต่เขาก็คว้าน้ำเหลวทุกครั้ง ไม่มีวี่แววว่าเด็กชายลูกผสมจะมีพลังเวทย์แม้แต่น้อย ถึงกระนั้นโนวาก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มุ่งมั่นที่จะกลับมาหาแล้วช่วยกระตุ้นพลังเวทย์ของฮาฟให้ได้
นอกจากเอ็มแล้ว ไม่มีใครตั้งความหวังแบบนี้กับเขามาก่อน
ฮาฟไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าเมื่อนึกถึงเพื่อนที่เฝ้ารอ
เอ็มได้แต่ถอนหายใจอย่างเอ็นดูกับลูกบุญธรรม นางรู้ดีว่าเด็กชายดีใจที่มีเพื่อนวัยเดียวกันเสียที
เพื่อนคนแรกที่ฮาฟพามาอวดถึงกระท่อม เด็กชายผมทองสว่างตาสีฟ้าใสที่ดูราวกับเทวดาตัวน้อยๆ ในชุดสีขาวสะอาดตาที่บรรดาลูกของผู้วิเศษที่อาศัยอยู่ในวิหารโฮลี่แลนด์มักจะใส่กัน
เอ็มยังดูเนื้อผ้าออกว่าเด็กคนนี้น่าจะเป็นลูกของคนใหญ่คนโตไม่น้อย เพราะถึงแม้พวกผู้วิเศษจะพยายามมีกฏให้แต่งตัวเหมือนกันเพื่อความเป็นระเบียบและสามัคคี แต่ผู้วิเศษที่มีฐานะขึ้นมาก็ยังอดเสียมิได้ที่จะใช้วัสดุที่หรูหราขึ้นแทน
สมัยก่อนที่เอ็มยังรับแขกในหอนางโลม นางมีลูกค้าเป็นผู้วิเศษระดับสูงมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นางยังจำได้ดีว่ามีลูกค้ารายนึงที่มีครอบครัวแล้ว เคยเอ่ยกับนางตอนช่วยสวมชุดผู้วิเศษที่ใช้เนื้อผ้าอย่างดี ว่าในหมู่ผู้วิเศษนั้น ก็มีแฟชั่นของชุดเครื่องแบบอยู่ เช่นชนิดผ้าที่กำลังมาแรง เฉดสีขาวที่หลากหลาย หรือการตัดที่มีการดัดแปลงบ้างเล็กน้อย
ผู้วิเศษรายนั้นคุยเรื่องแฟชั่นอย่างออกรส ทั้งที่คำสอนของโฮลี่บอกไว้อย่างชัดเจนว่าให้ละทิ้งความหรูหรา เพื่อขัดเกลาจิตใจของตัวเองแท้ๆ บางทีผู้วิเศษรายนั้นอาจจะตีความคำสอน ว่าคนทั่วไปควรจะละทิ้งความหรูหราแล้วมอบให้กับโฮลี่แทน
เอ็มไม่ได้รังเกียจผู้วิเศษ ตรงกันข้าม นางชอบลูกค้ากระเป๋าหนัก
การรับแขกในสมัยก่อนยังทำให้เอ็มรู้ดี ถึงเรื่องความริษยาและการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันในหมู่ผู้วิเศษ คุณจะนึกไม่ถึงเลยว่าพวกผู้ชายนั้น หลังนอนกันเสร็จแล้วหลายรายปากพล่อยกันแค่ไหน บางทีให้ข้อมูลกันชนิดไม่ต้องเอ่ยปากถามด้วยซ้ำ จนไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกคนขายข่าวมักจะมีสายในหอนางโลม
และเอ็มก็รู้มากพอที่จะคาดเดาอนาคตมิตรภาพของฮาฟและเพื่อนใหม่ได้ หากทั้งสองไม่ระวังให้ดี นางเกรงว่าทางบ้านของโนวาจะต้องเข้ามาเป็นอุปสรรคในอนาคตอย่างแน่นอน
เอ็มเป็นห่วงฮาฟ และอนาคตข้างหน้าที่ยังมาไม่ถึง
แม้จะกังวล แต่นางไม่อยากห้ามมิตรภาพของทั้งสอง ฮาฟควรเรียนรู้ที่จะมีเพื่อน ควรจะมีโลกกว้างมากกว่ากระท่อมในป่าแห่งนี้ เพราะนางไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะปกป้องเขาไปได้ถึงเมื่อไหร่
เอ็มเก็บแปรงผมแล้วเตรียมตัวเข้านอน ดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองร่างเล็กข้างหน้าต่าง ภาพซ้อนของอาซาเลียที่เคยนั่งรอเจทในตำแหน่งเดียวกัน ซ้อนกับเด็กชายที่ถอดรูปเพื่อนสนิทนางมาตั้งแต่หัวจรดเท้า
รอยยิ้มบางๆแตะริมฝีปากเมื่อหวนนึกถึงเพื่อนที่จากไป
“อีกสองวันข้าจะไปส่งสมุนไพร ถ้าเจ้าอยากเจอโนวา จะตามไปกับข้าไหม”
ตอนฮาฟยังเป็นเพียงทารก เอ็มมักจะสะพายเขาขึ้นหลังติดไปด้วยเพื่อส่งสมุนไพรทุกสัปดาห์ แต่พอเริ่มโตพอที่จะดูแลตัวเองได้ ฮาฟก็ไม่ไปอีก ถึงแม้เขาพยายามจะไปช่วยเอ็มในช่วงแรก แต่เมื่อเจอสายตาระแวงและรังเกียจบ่อยๆเข้า รวมถึงโดนกลุ่มเด็กที่ฟังจากพวกผู้ใหญ่มาว่าเขาเป็นลูกผสมพ่อมดดำ คอยแกล้งจนเลือดตกยางออก เอ็มก็ห้ามเขาตามมาอีก
ถึงเขาจะดื้อ อยากมาช่วยเอ็มให้ได้ แต่ตอนที่เขาโดนปฏิเสธไม่ให้อาหารที่แจกฟรี จนเป็นอาทิตย์แรกที่ทั้งสองไม่ได้เนื้อกลับมากิน ฮาฟก็ยอมอยู่บ้านในที่สุด
“แล้วเราจะมีเนื้อกินกันเหรอ” ฮาฟละสายตาจากนอกหน้าต่างในที่สุด จนเอ็มอดขำกับความตะกละที่คล้ายกับอาซาเลียเสียมิได้
“โถ เจ้าก็เห็นแก่กินไปได้ ปลอมตัวเสียก็สิ้นเรื่อง ข้ามีให้เลือกระหว่างผ้าคลุมกับชุดกระโปรง ถ้าเจ้าเลือกอย่างหลัง ข้าจะช่วยแต่งให้ รับรองว่าไม่มีใครจำได้”
เอ็มหยอกอย่างแอบหวังจะได้เล่นแต่งตัวตุ๊กตา ฮาฟที่เหมือนจะรู้ทันงอนแก้มป่อง
“ไม่ต้องห่วงหรอก ข้ามั่นใจว่าเจ้าจะงามกว่าใคร” เอ็มหยอดต่อ
“งามกว่าเอ็มอีกหรือ”
“แน่นอน เจ้าเป็นลูกของอาซาเลียนี่”
ฮาฟที่ยังตีสีหน้างอนอยู่ แอบหน้าแดงกับคำชมปนสับสนเล็กน้อย แม้เขาจะดีใจที่เหมือนแม่ แต่ก็ไม่แน่ใจเรื่องคำชมเกี่ยวกับความงาม
“ตกลงเอาชุดกระโปรงนะ”
“ข้าจะเอาผ้าคลุม!”
ฮาฟรีบขัดขึ้นก่อนจะโดนมัดมือชก เด็กชายยอมปิดหน้าต่างแล้วเตรียมตัวนอนในที่สุด ท่าทางดีใจที่หาทางไปพบเพื่อนได้
ร่างเล็กซุกใต้ผ้าห่มมานอนข้างๆเอ็ม แม้จะมีกองไฟกลางกระท่อม แต่มันก็อุ่นไม่เพียงพอจนถึงเช้า
“เอ็ม ช่วยเล่าเรื่องตอนแม่เจอกับพ่อให้ข้าที”
ฮาฟเอ่ยขอนิทานก่อนนอนที่เขาชอบยิ่งกว่าเรื่องใด เรื่องเล่าของอัศวิน เจ้าหญิง หรือมังกร สำหรับเขาแล้วไม่น่าสนใจนัก
“เจ้าฟังบ่อยจนเล่าเองได้แล้ว ยังจะฟังอีกหรือ”
“นะ ข้าอยากฟัง” ฮาฟใช้ไม้ตาย ออดอ้อนด้วยน้ำเสียงและสายตาที่เขารู้ดี ว่าเอ็มไม่เคยปฏิเสธได้
สมกับเป็นลูกอาซาเลียจริงๆ!
และก็เป็นอีกคืน ที่เอ็มพ่ายแพ้ให้กับลูกอ้อนของฮาฟ
“เอ็ม ท่านคิดว่าพ่อจะรักข้าไหม”
เสียงเล็กๆของเด็กชายเอ่ยอย่างเคลิ้มๆ จวนจะหลับเต็มที
“รักซิ” เอ็มตอบโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“แล้วทำไมพ่อไม่มาหาข้าเสียที”
เอ็มไม่แน่ใจว่าจะตอบอย่างไร จึงบอกไปตรงๆ “ข้าไม่รู้ ข้าไม่ได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับเขาเลยตั้งแต่แม่เจ้าเสียไป”
“พ่อคงไม่...”
“ไม่ตายง่ายๆหรอก ไม่งั้นเราต้องรู้แล้ว”
แม้จะไม่เคยได้ข่าวคราวเกี่ยวกับเจท แต่เอ็มค่อนข้างมั่นใจว่าเจทยังมีชีวิตอยู่ เพราะเวลาจับพ่อมดแม่มดดำได้ มักจะมีการป่าวประกาศและเผาประจานเสมอ เป็นข่าวใหญ่ที่ต่อให้อยู่ต่างเมืองก็ได้ยิน
“ถ้าโตขึ้น ข้าควรจะไปตามหาพ่อไหม”
เอ็มเงียบไป
แม้นางจะเป็นผู้ใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะรู้ไปเสียทุกอย่าง
“ไม่รู้ซิ ชีวิตเป็นของเจ้า ไว้เจ้าโตพอจนไม่ต้องให้ข้าดูแลแล้ว ค่อยตัดสินใจแล้วกัน”
ร่างเล็กนิ่งเงียบ ดูเหมือนว่าจะหลับไปแล้ว เอ็มไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายได้ยินคำตอบนางหรือไม่
ดวงตาสีมรกตมองร่างเล็กอย่างเอ็นดู ก่อนโน้มลงจูบหน้าผาก แล้วกระชับอ้อมกอดแบ่งไออุ่น นอนหลับไปพร้อมกับรอยยิ้ม
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ