ทรายเสน่หามนตราไอยคุปต์

8.7

เขียนโดย เข็มมุก

วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 20.43 น.

  6 ตอน
  2 วิจารณ์
  8,352 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 23.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) กลับมาอีกครั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ปัจจุบัน......

ตึกสูงระฟ้าที่ตั้งเด่นสง่าจากการออกแบบของสถาปนิกชั้นยอดของโลก ใจกลางเมืองนิวยอร์กที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้าของโลก ภายในห้องทำงานหรูที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำบนชั้นสูงสุดของตึกแห่งนี้ เจ้าของร่างบางสมส่วนกำลังโวยวายเจ้าของห้องที่มอบหมายงานชิ้นใหญ่มาให้เธอแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

“พี่ไคโรคะ ทำไมพี่จะต้องให้นิมไปคุมงานซ่อมแซมท่อส่งน้ำมันที่อียิปต์ด้วย ไม่เห็นจะอยากไปเลย” หญิงสาวนั่งบ่นอุบกับคำสั่งของประธานบริหารบริษัทซึ่งเป็นพี่ชายของเธอนั่นเอง

“อ้าว...แล้วใครกันนะที่ร้องว่าไม่อยากกลับมาบ้าน อยากอยู่อียิปต์นานๆ แล้วแถมตอนที่เธออยู่ไฮสคูลที่อังกฤษเธอแอบหนีพ่อกับแม่ไปอียิปต์จนโดนจับได้ไงแทบจะทุกซัมเมอร์เลยมั้ง จำไม่ได้เหรอ? เห็นพูดว่าอยากไปนักหนา คราวนี้พี่ให้ไปคุมงานตั้ง 1 เดือนไม่ชอบเหรอ” ไคโรพูดพร้อมกับยิ้มเมื่อเห็นท่าทางไม่พอใจของน้องสาวของเขา

“นั่นมันเรื่องตั้ง10กว่าปีมาแล้วนะพี่ไคโร แต่ตอนนี้!!นิมไม่อยากไปที่นั่น ไม่อยากได้ยิน หรือรู้อะไรที่มันเกี่ยวกับประเทศนั้นอีก” พูดจบร่างบางก็ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาหรูหนังแท้ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับโต๊ะทำงานของไคโร

“เอาน่า...แค่ไปคุมงานเอง ถ้าเราเบื่อๆก็ไปขับรถลุยทะเลทราย หรือไม่ก็ไปขี่อูฐเล่นแถวกีซาร์ก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่ามีใครจะมากวนเวลาที่เธอพักผ่อนด้วย เพราะเราก็ไปพักที่บ้านตากอากาศของเราที่ไคโรอยู่แล้ว มามีย่าคงคิดถึงเราจนจะแย่อยู่แล้วมั้ง” ชายหนุ่มพยายามเอ่ยถึงพี่เลี้ยงคนที่นิมเฟียร์รักและผูกพันมากในสมัยเด็กของเธอ

“แต่...”

“ไม่ต้องแต่หรอก เอาเป็นว่าพี่อยากให้เราไปพักผ่อนด้วยจริงๆนะ ตั้งแต่เราเรียนจบมาพี่ก็เห็นว่าเธอเอาแต่ทำงานช่วยพี่มาตลอด พ่อกับแม่ไม่ว่าเธออู้งานหรอกน่า เชื่อพี่นะ” ไคโรพูดพร้อมกับเดินมานั่งข้างน้องสาวสุดที่รักของเขาแล้วดึงร่างบางมากอดไว้แนบอกอุ่นอย่างทะนุถนอม

ตัวของไคโรเองก็ไม่รู้ว่า...ทำไมถึงรักน้องสาวคนนี้ได้มากมาย อาจจะเป็นเพราะว่าตั้งแต่เขาเข้ามารับงานแทนพ่อกับแม่เต็มตัว ก็ได้รับการฝากฝังน้องสาวจากพ่อและแม่ก็เป็นได้ และอาจเป็นเพราะเหตุการณ์เมื่อ10กว่าปีก่อนที่ทำให้เขาเกือบเสียน้องสาวคนนี้ไป ชายหนุ่มนั่งคิดขณะรอคำตอบของน้องสาวตน

“ก็ได้ค่ะ พี่จัดการเรื่องทุกอย่างให้ด้วยแล้วกัน” หญิงสาวตอบพร้อมกับนั่งเอนตัวอิงร่างบางกับอกแกร่งของพี่ชายอยู่ไม่ห่าง

“ถ้าอย่างงนั้น เรารอพี่สักครู่นะ” ไคโรขยับตัวเล็กน้อยพลางเอื้อมฝ่ามือกดนิ้วลงบนโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของเขา

“โจนาธาน เอาของที่ผมสั่งไว้เข้ามาได้แล้ว” สิ้นเสียงสั่งการของไคโร นิมเฟียร์ก็ทำตาโตพร้อมกับยกคิ้วเรียวโก่งขึ้นอย่างงงๆ กับคำสั่งแปลกๆ ที่ตนได้ยิน

“ก๊อกๆ ” เสียงเคาประตูห้องทำงานดังขึ้นเล็กน้อย พร้อมกับร่างสูงของเลขาฯส่วนตัวของประธานบริหารฯเดินเข้ามา พร้อมกับหอบแฟ้มเข้ามาด้วยปึกหนึ่ง

“ได้แล้วครับบอส” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับวางแฟ้มไว้ตรงหน้าเจ้านายหนุ่มที่กำลังนั่งกอดร่างบางของน้องสาวคนสวยไว้ไม่ห่าง ถ้าหากเป็นคนอื่นคงสงสัยท่าทางและพฤติกรรมของทั้งสองพี่น้องนี้แน่ แต่ตัวเขาเองเห็นภาพความรักและหวงน้องสาวของเจ้านายจนชินเสียแล้ว

“เอ้า!!นี่รายละเอียดงานทั้งหมด พร้อมกับตั๋วเครื่องบินและก็พาสปอร์ตเราด้วย พี่เตรียมให้หมดทุกอย่างแล้ว” พี่ชายพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้น้องสาว

“พี่ไคโร!! พี่รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่านิมจะไม่ปฏิเสธ พี่นี่เจ้าเล่ห์จริงๆเลย นี่แหน่ะ!” นิมเฟียร์ต่อว่าพี่ชายพร้อมกับตีมือบางทั้งสองข้างลงบ่นไหล่หนาของไคโรอย่างไม่จริงจังนัก

“ฮ่าๆๆ โอ๊ย!!พอแล้ว พี่เจ็บนะ พี่ผิดไปแล้ว อย่างอนพี่นะคนดี” ร่างสูงใหญ่ทำท่าเจ็บที่โดนร่างบางตี แต่ก็เอื้อมมือมากอดน้องสาวเอาไว้ พร้อมกับใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่บีบจมูกรั้นเวลางอนของน้องสาวเขาเบาๆ

“คอยดูนะ ถ้าพ่อกับแม่กลับมาจากกรีซเมื่อไร นิมจะฟ้องท่านทั้งสองคนว่าพี่แกล้งนิม คอยดูสิ” ร่างบางสะบัดหน้าค้อนพี่ชายของตนเสียใหญ่โต เรียกเสียงหัวเราะของสองหนุ่มที่อยู่ในห้องทำงานอย่างเอ็นดู
*****************************

สนามบินนานาชาติประเทศอียิปต์ เต็มไปด้วยผู้คนต่างเชื้อชาติหลากหลายภาษา เจ้าของร่างบางระหงในชุดเดินทางที่ไม่เป็นทางการเท่าไรนัก กางเกงผ้าซาตินเนื้อดีตัดเย็บเข้ารูปเผยให้เห็นสะโพกงามและช่วงขาเรียว เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวสะอาดตาถูกพับตลบมาจนถึงข้อศอกของท่อนแขนงาม ส่วนตัวเสื้อสูทด้านนอกนั้นเจ้าตัวถอดพาดไว้ที่กระเป๋าเดินทางเพราะอากาศที่ค่อนข้างร้อนจากภายนอก แม้ภายในบริเวณของสนามบินจะมีการติดเครื่องปรับอากาศไว้ก็ตาม แต่ก็ทำให้ริมฝีปากบางอิ่มได้รูปแดงระเรื่อ เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนคล้ายกับทะเลทรายยามฤดูฝน หยักศกยาวสลวยเป็นธรรมชาติปลิวระไปมาอยู่ข้างแก้มเนียนใสอมชมพูที่ปราศจากเครื่องสำอางเติมแต่งใดๆ ขณะที่เจ้าตัวสอดส่ายสายตามองหาคนที่จะมารับ เรียกว่าเป็นที่สะดุดตาของคนในสนามบินเลยก็ว่าได้ เพราะสตรีส่วนใหญ่ในประเทศนี้มักสวมเสื้อผ้ามิดชิดและใช้ผ้าคลุมทั้งศีรษะเหลือเปิดเผยเพียงในหน้าเท่านั้น เนื่องก็ด้วยเหตุผลทางศาสนาประจำชาติของตน

เมื่อนึกขึ้นได้ถึงเหตุผลนี้ นิมเฟียร์จึงขยับมือเรียวของตนไปหยิบผ้าพันคอผืนใหญ่สีหวานที่ติดกระเป๋ามาด้วยขึ้นมา แล้วจัดการโพกเข้าศีรษะได้รูปสวยของตนแล้วขมวดปมขึ้นคลุมเส้นผมสลวยสีน้ำตาลอ่อนของตนอย่างมิดชิด เพื่อเป็นการเคารพประเพณีปฏิบัติของที่นี่

“คุณหนูนิมเฟียร์คะ! ” น้ำเสียงคุ้นหูของใครบางคนที่ตะโกนเรียกชื่อของเธอเสียงดัง ทำให้ร่างบางหันไปมองทางต้นเสียง เมื่อเห็นเจ้าของเสียงทำให้หญิงสาวดีใจเป็นที่สุด เพราะคนที่มารับเธอนั้นคือมามีย่า พี่เลี้ยงที่เธอรักมากคนหนึ่งนั่นเอง

“มามีย่า!! ดีใจจังเลยได้เจอมามีย่าอีก” หญิงสาวพูดพร้อมกับกอดคนตรงหน้าไว้เสียแน่น

“มามีย่าก็ดีใจค่ะ ที่ได้เจอคุณหนูอีก แหม...ทิ้งให้คนแก่รอเสียนานเลยนะคะ คิดว่าคุณจะไม่กลับมาที่นี่แล้วเสียอีก”

“ก็กลับมาแล้วนี่ไงจ๊ะ” นิมเฟียร์ตอบพร้อมเดินกอดพี่เลี้ยงที่แสนคิดถึงของเธอ พร้อมกับเดินไปขึ้นรถยนต์คันโตที่จอดรอด้านหน้าของสนามบิน

“ไม่เจอกันตั้งหลายปี มามีย่าไม่เห็นเปลี่ยนไปเลย ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยอย่างออดอ้อนและเอาใจร่างท้วมของพี่เลี้ยงที่เธอรักเมื่อรถแล่นออกจากสนามบิน พลางปลดผ้าคลุมผมสีหวานออกเมื่ออยู่ในรถส่วนตัว

“แหม...คุณหนูอย่ามาแกล้งชมคนแก่หน่อยเลยค่ะ คนแก่...ก็ยังเป็นคนแก่วันยังค่ำแหละค่ะ แต่ดูคุณหนูสิคะ เดี๋ยวนี้เป็นสาวเต็มตัว สวยหวานแถมเซ็กซี่จนมามีย่าเกือบจำแทบไม่ได้เลย” ผู้สูงวัยกว่ากล่าวชมคนตรงหน้าของตน

“ก็นิมพูดจริงๆนี่คะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับกอดเอวหนาไว้อย่างหลวมๆ

“คุณหนูสวยขึ้นมากจริงๆนะคะ ตอนที่มามีย่าเห็นคุณหนูยืนอยู่ทางด้านที่พักผู้โดยสาร มามีย่าคิดว่ามามีย่าได้เจอกับเทพีไอซิส มายืนอยู่ตรงหน้าเสียอีก”

น้ำเสียงอันชื่นชมอย่างหมดใจของอดีตพี่เลี้ยงในวัยเด็ก ทำให้นิมเฟียร์ถึงกับเขินจนหน้าแดงเลยทีเดียว เพราะเล่นนำเธอเปรียบเทียบกับเทพีแห่งอียิปต์ที่ว่ากันว่าความงดงามของพระองค์ไม่เป็นสองรองใคร จนเกิดศึกชิงนางระหว่างสองมหาเทพเลยด้วยซ้ำ

“คร่า...ขอบคุณค่ะ แต่เรื่องนั้นช่างเถอะค่ะ ตอนนี้นิมคิดถึงกับข้าวฝีมือมามีย่าจะแย่อยู่แล้ว” หญิงสาวพยายามเปลี่ยนเรื่อง หาหัวข้อที่น่าสนใจกว่าความสวยของตน ซึ่งเธอเองคิดว่าตัวเองนั้นอยู่ในระดับธรรมดา สาวๆนางแบบทั้งหลายที่ขึ้นปกแม็กกาซีนยังจะสวยกว่าเธอเสียอีก

“แล้วคราวนี้คุณหนูจะอยู่ที่นี่นานไหมคะ พอดีคุณไคโรเธอไม่ได้บอกรายละเอียดมามีย่าเลยค่ะ”

“ทำไมคะ? นิมเพิ่งมาถึงเอง มามีย่าอยากให้นิมกลับแล้วเหรอ?...” นิมเฟียร์แกล้งถามเสียงอ่อยจนคนตรงหน้าต้องรีบแก้ตัวพัลวัน

“เปล่าค่ะ มามีย่าอยากให้คุณหนูอยู่นานๆ ให้หายคิดถึงกันไปเลยต่างหากค่ะ” มามีย่ารีบเอ่ยปากแก้ตัวเป็นพัลวัน ทำให้ริมฝีปากบางแย้มยิ้มออกมาอย่างถูกใจที่ตนสามารถแกล้งอำคนตรงหน้าได้

“นิมล้อเล่นค่ะมามีย่า นิมอยากรู้นี่นา ว่าจะมีคนที่นี่คิดถึงนิมบ้างหรือเปล่า”

“แหม...คุณหนูก็ ไม่น่าทำอย่างนี้เลยนะคะ คนแก่จะหัวใจวายเอาได้นะคะ”

“ฮ่าๆๆ นิมขอโทษค่ะ” สาวสวยหัวเราะอย่างถูกใจพร้อมกับดึงร่างท้วมของพี่เลี้ยงตนเข้ามากอด พร้อมกับหอมอก้มนิ่มทั้งซ้ายและขวาอย่างเอาใจ

“อู้ย!! ฮ่าๆๆ พอได้แล้วค่ะคุณหนู ว่าแต่คราวนี้คุณหนูต้องอยู่นานๆให้มามีย่าหายคิดถึงเลยนะคะ”

“ค่ะ...หนูอาจจะอยู่ที่นี่นานมากกว่ากำหนดเลยก็เป็นได้” หญิงสาวรับคำ พร้อมกับหันไปดูบ้านเมืองสองข้างทางที่รถแล่นผ่าน โดยไม่ได้คาดคิดว่าคำพูดของเธอกำลังจะกลายเป็นความจริงในไม่ช้า


*****************************************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา