รักหลอกๆ พลิกล็อกที่หัวใจ
-
เขียนโดย chanam
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 14.58 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,006 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 15.24 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) ยัยเบ๊อะ!!!
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันอออกมายืนรอนายซีโร่ที่หน้าหอพัก ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งนายด้วยนะ ฉันล่ะไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
~หาวววววววววววววว~ (นอนดึกตื่นเช้านี่มันง่วงจริงๆนะ)
ปี๊นๆๆ
ฉันสะดุ้งตกใจกับเสียงแตรรถที่ดังอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มเจ้าของรถเปิดกระจกส่งยิ้มกวนๆมาหา
จะว่าไปเขาก็ดูหล่อเข้ม เท่เหมือนกันนะเนี่ย คิ้วหนาเหมือนปลิง ตาคมเหมือนเหยี่ยว จมูกโด่ง แถมปากก็ยังเป็นสีแดงระเรื่องอีก
อ่าาาาาาา.... นี่มันเทพบุตรหรือเปล่า
“ยืนหลับอยู่หรือไงยัยเบ๊อะ” ˃[]˂
กรี๊ด!! ฉันขอลบความคิดเมื่อกี้ออกไปให้หมด นี่นายกล้าดียังไงว่าเรียกฉันว่ายัยเบ๊อะ ถึงจะหล่อจะรวยยังไงก็ไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันแบบนี้นะยะ
“เท่าที่จำได้ นายนัดฉันแปดโมง แต่นี่มันแปดโมงครึ่งแล้วนะ”
ฉันพูดพลางเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ
“นั่งไปอย่าบ่น” -_- ++ เขาพูดแล้วส่งยิ้มกวนๆมาให้ ก่อนจะขับรถออกมาด้วยความเร็ว นี่นายคิดว่าถนนทางหลวงเป็นสนามแข่งรถหรือไงฟะ
“นี่...ตื่นนนนนนนน!!!”
ร่างของฉันถูกเขย่าราวกับเจ้าเข้า
“นอกจากเธอจะเบ๊อะแล้วเธอยังขี้เซาอีกนะ”
ฉันได้แต่กำหมัดเพื่อบรรเทาความแค้นที่อยู่ภายในใจ ก็ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครมาว่าฉันมากมายถึงขนาดนี้เลยนี่นา
ความจริงวันนี้เป็นวันเสาร์ แต่ที่ฉันต้องมามหาʼลัยก็เพราะว่ามีประชุมสำคัญของชมรม เมื่อเดินเข้าไปถึงยังห้องประชุม ก็ดูเหมือนทุกคนจะมาครบหมดแล้ว ขาดแต่เพียงคนเดียวก็คือประธานชมรม
นี่เขาหายหัวไปไหนนะ เดินนำฉันมาแท้ๆ
“มาช้าจังนะครับน้องจินนี่”
พี่เต้รองประธานชมรมเอ่ยทักหลังจากที่เห็นฉันเดินเข้าไป
“โทษที พอดีฉันไปรับเธอสายน่ะ หวังว่านายคงไม่ทำโทษเธอหรอกนะ”
เสียงของนายซีโร่ดังขี้นก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาโอบเอวของฉัน
“นายไปไหนมา” ฉันหันไปกระซิบถาม
“ฉี่”
ยี๊! นายล้างมือหรือยังเนี่ย TXT
นายซีโร่กับพี่เต้เคยเป็นเพื่อนรักกัน แต่ก็ต้องมาแตกหักกันเพราะเรื่องผู้หญิง
ซีโร่เป็นแฟนกับพี่ฟ้า เขาสองคนเป็นคู่รักที่ใครๆต่างก็อิจฉา แต่แล้ววันหนึ่งพี่ฟ้าก็สะบั้นรักนายซีโร่แล้วหันไปคบกับพี่เต้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจึงขาดลงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะที่ผมมาช้า แต่ผมเป็นประธานยังไงทุกคนก็ต้องรออยู่ดี...ใช่ปะ”
นายซีโร่พูดแล้วเหล่ตามองไปทางพี่เต้
ดู๊ดู ดูมันทำสิคะคู๊ณณณณณ..
“ผมเรียกทุกคนมาวันนี้ เพื่อให้มาลงมติว่าปีนี้ชมรมของเราจะไปอาสาทำอะไรที่ไหนกันดี จากการประชุมของคณะกรรมการภายในชมรม ได้ข้อสรุปไว้สองที่ ที่แรกเสนอโดยท่านรองประธาน ท่านรองเสนอให้ไปซ่อมแซมโรงเรียนบนดอยที่จังหวัดเชียงราย ส่วนข้อเสนอที่สองเป็นข้อเสนอของผม ผมขอเสนอให้ไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าใครเห็นด้วยกับข้อเสนอของผมยกมือครับ”
พรึบ!!!
“ยี่สิบเก้าคน”
พี่เต้ตะโกนมาจากทางด้านหลัง และหันมาส่งยิ้มให้กับนายซีโร่อย่างเป็นต่อ เพราะนั่นหมายความว่าพี่เต้เป็นฝ่ายชนะ สมาชิกในชมรมคนอาสามีจำนวน60คน ดังนั้นอีก31คนที่เหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือฉันเห็นด้วยกับความคิดของพี่เต้
“รองชนะ ปิดประชุม” =_=
นายซีโร่พูดเสียงเรียบ
สมาชิกในชมรมค่อยๆทยอยออกจากห้องประชุมจนหมด เหลือเพียงแค่ฉันกับนายซีโร่ที่นั่งหน้าขรึมไม่ยอมพูดยอมจา
“ทำไมเธอไม่ยกมือให้กับข้อเสนอของฉัน”
เขาเดินเข้ามาบีบแขนของฉันอย่างเอาเรื่อง
“โอ๊ย!! ฉันเจ็บนะ” T^T
ดูเหมือนคำพูดของฉันจะไม่เป็นผล เขาบีบแขนของฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ใครจะกล้าไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ล่ะ ขืนโดนระเบิดตายจะว่ายังไง” ฉันปล่อยโฮออกไปด้วยความเจ็บปวด
O_O
“ฉันขอโทษ เธอเจ็บมากไหม”
เขาละมือออกมาจากแขนของฉัน แล้วกล่าวขอโทษด้วยความสำนึก (สำนึกจริงๆหรือเปล่า การแสดงออกของนายทำไมมันดูยากอย่างนี้)
“ฉันก็แค่อยากไปทำกิจกรรม ไปสร้างความสุขให้กับเด็กๆที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนไปซ่อมแซมโรงเรียนบนดอยไม่ใช่ว่าฉันไม่เห็นด้วยหรอกนะ แต่ฉันรู้สึกว่ามีคนไปบ่อยแล้วก็แค่นั้น”
“ฉันเปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมอ่ะ” TT
ฉันถามขึ้นหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเขา
“ไม่ทันแล้วยัยเบ๊อะ แล้วนี่เธอจะหยุดร้องไห้ได้หรือยัง ฉันแพ้น้ำตาผู้หญิงนะ”
พูดแล้วเขาก็เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้กับฉัน
“แล้วนายมาว่าฉันเบ๊อะทำไมเล่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครว่าฉันแบบนี้เลยนะ”
“ไม่ทันแล้วยัยเบ๊อะ อยู่กับฉันทำใจให้ชินสะเถอะ เธอต้องได้ยินคำนี้ไปอีกนาน”
พูดจบเขาก็เดินออกไป
กรี๊ด!! ใครอยากอยู่กับนายมิทราบยะ นี่ถ้าฉันรู้ว่าความอยากรู้อยากเห็นของฉันจะเป็นบ่อเกิดให้ต้องมาตกที่นั่งลำบากแบบนี้ ฉันไม่ทำแน่ TOT
แล้วนี่จะกลับกันได้หรือยัง”
ฉันเอ่ยถามนายซีโร่ที่ตอนนี้ออกมานั่งยังโต๊ะหินอ่อนด้านหน้าอาคาร
“ยัง”
“เซ็งละสิ ที่แพ้ศัตรูหัวใจอย่างพี่เต้อ่ะ”
O_O
สิ้นเสียงของฉันเขาก็หันมาค้อนใส่เป็นการใหญ่ อร๊าย! นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย เผ่นก่อนดีกว่า
ฉันเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้น พลางนึกสมน้ำหน้าตัวเองที่พูดโดยไม่คิดออกไป นี่ถ้าฉันสงบปากสงบคำ เขาก็คงจะขับรถไปส่งฉัน แถมยังประหยัดค่ารถเมล์ไปได้ตั้งหลายบาท (แอบงกอีกละ)
ฉันเดินไปตามทางฟุตบาทที่มีใบไม้ล่วงหล่นอยู่มากมาย
~กรุ๊งกริ๊ง~กรุ๊งกริ๊ง~
เสียงกระดิ่งจากรถขายไอติม ที่มีป้าแก่ๆเดินไสรถขายอยู่ริมฟุตบาท ฉันนึกอะไรดีๆออกแล้ว
“เอาไอติมรสช็อคโกแล็ตอันละห้าบาทสองอันค่ะป้า” ˃_˂
ป้าคนขายตักไอติมสองก้อนใส่หมวกสองอันแล้วส่งมาให้กับฉัน แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่รุนแรงสักเพียงใด แต่ใบหน้าของแกก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสมอ
ปี๊นๆๆๆๆๆๆ
“อร๊าย!!!!” O_O
ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ขึ้นรถเดี๋ยวนี้ยัยจินนี่”
นายซีโร่ลดกระจกลงมาแล้วตะโกนเรียกฉัน
“แฟนหล่อจังเลยนะหนู”
ป้าคนขายไอติมเอ่ยแซว
เหวอ..แฟน ไม่ใช่ละป้า ใครหลงกลไปรักนายนี่บอกได้คำเดียวว่าบ้าสุดๆ ฉันรีบจ่ายเงินค่าไอติมแล้วเดินตรงมายังรถของนายซีโร่
“เอาไป ฉันเลี้ยง”
ฉันส่งไอติมในมือไปให้กับเขาหนึ่งอัน
“หึ! เธอเคยกินไอติมแพงกว่าอันละห้าบาทบ้างไหม”
เขาแสยะยิ้มออกมาด้วยความดูถูก
“เออ ก็ฉันมันจนนิ นายไม่กินก็ไม่ต้องกิน”
“ใครบอกว่าฉันจะไม่กิน เอามานี่”
นายซี่โร่หยิบไอติมจากมือของฉันไปกิน ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป
“เธอนึกยังไงถึงได้เลี้ยงไอติมฉันเนี่ย”
“ก็เวลาฉันเซ็งๆฉันชอบกินไอติม วันนี้ฉันเห็นนายเซ็งฉันก็เลยคิดว่ามันน่าจะช่วยได้” ฉันพูดพลางเลียไอติมที่ถืออยู่ในมืออย่างมีความสุข
“เอาตัวเองเป็นมาตรฐานอีกแล้วนะยัยเบ๊อะ”
อร๊ายยยยยย....ฉันต้องทนฟังคำด่าสารพัดของนายไปอีกนานเท่าไหร่กันเนี่ย
~หาวววววววววววววว~ (นอนดึกตื่นเช้านี่มันง่วงจริงๆนะ)
ปี๊นๆๆ
ฉันสะดุ้งตกใจกับเสียงแตรรถที่ดังอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มเจ้าของรถเปิดกระจกส่งยิ้มกวนๆมาหา
จะว่าไปเขาก็ดูหล่อเข้ม เท่เหมือนกันนะเนี่ย คิ้วหนาเหมือนปลิง ตาคมเหมือนเหยี่ยว จมูกโด่ง แถมปากก็ยังเป็นสีแดงระเรื่องอีก
อ่าาาาาาา.... นี่มันเทพบุตรหรือเปล่า
“ยืนหลับอยู่หรือไงยัยเบ๊อะ” ˃[]˂
กรี๊ด!! ฉันขอลบความคิดเมื่อกี้ออกไปให้หมด นี่นายกล้าดียังไงว่าเรียกฉันว่ายัยเบ๊อะ ถึงจะหล่อจะรวยยังไงก็ไม่มีสิทธิ์มาเรียกฉันแบบนี้นะยะ
“เท่าที่จำได้ นายนัดฉันแปดโมง แต่นี่มันแปดโมงครึ่งแล้วนะ”
ฉันพูดพลางเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ
“นั่งไปอย่าบ่น” -_- ++ เขาพูดแล้วส่งยิ้มกวนๆมาให้ ก่อนจะขับรถออกมาด้วยความเร็ว นี่นายคิดว่าถนนทางหลวงเป็นสนามแข่งรถหรือไงฟะ
“นี่...ตื่นนนนนนนน!!!”
ร่างของฉันถูกเขย่าราวกับเจ้าเข้า
“นอกจากเธอจะเบ๊อะแล้วเธอยังขี้เซาอีกนะ”
ฉันได้แต่กำหมัดเพื่อบรรเทาความแค้นที่อยู่ภายในใจ ก็ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครมาว่าฉันมากมายถึงขนาดนี้เลยนี่นา
ความจริงวันนี้เป็นวันเสาร์ แต่ที่ฉันต้องมามหาʼลัยก็เพราะว่ามีประชุมสำคัญของชมรม เมื่อเดินเข้าไปถึงยังห้องประชุม ก็ดูเหมือนทุกคนจะมาครบหมดแล้ว ขาดแต่เพียงคนเดียวก็คือประธานชมรม
นี่เขาหายหัวไปไหนนะ เดินนำฉันมาแท้ๆ
“มาช้าจังนะครับน้องจินนี่”
พี่เต้รองประธานชมรมเอ่ยทักหลังจากที่เห็นฉันเดินเข้าไป
“โทษที พอดีฉันไปรับเธอสายน่ะ หวังว่านายคงไม่ทำโทษเธอหรอกนะ”
เสียงของนายซีโร่ดังขี้นก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาโอบเอวของฉัน
“นายไปไหนมา” ฉันหันไปกระซิบถาม
“ฉี่”
ยี๊! นายล้างมือหรือยังเนี่ย TXT
นายซีโร่กับพี่เต้เคยเป็นเพื่อนรักกัน แต่ก็ต้องมาแตกหักกันเพราะเรื่องผู้หญิง
ซีโร่เป็นแฟนกับพี่ฟ้า เขาสองคนเป็นคู่รักที่ใครๆต่างก็อิจฉา แต่แล้ววันหนึ่งพี่ฟ้าก็สะบั้นรักนายซีโร่แล้วหันไปคบกับพี่เต้ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนจึงขาดลงตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
“ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะที่ผมมาช้า แต่ผมเป็นประธานยังไงทุกคนก็ต้องรออยู่ดี...ใช่ปะ”
นายซีโร่พูดแล้วเหล่ตามองไปทางพี่เต้
ดู๊ดู ดูมันทำสิคะคู๊ณณณณณ..
“ผมเรียกทุกคนมาวันนี้ เพื่อให้มาลงมติว่าปีนี้ชมรมของเราจะไปอาสาทำอะไรที่ไหนกันดี จากการประชุมของคณะกรรมการภายในชมรม ได้ข้อสรุปไว้สองที่ ที่แรกเสนอโดยท่านรองประธาน ท่านรองเสนอให้ไปซ่อมแซมโรงเรียนบนดอยที่จังหวัดเชียงราย ส่วนข้อเสนอที่สองเป็นข้อเสนอของผม ผมขอเสนอให้ไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าใครเห็นด้วยกับข้อเสนอของผมยกมือครับ”
พรึบ!!!
“ยี่สิบเก้าคน”
พี่เต้ตะโกนมาจากทางด้านหลัง และหันมาส่งยิ้มให้กับนายซีโร่อย่างเป็นต่อ เพราะนั่นหมายความว่าพี่เต้เป็นฝ่ายชนะ สมาชิกในชมรมคนอาสามีจำนวน60คน ดังนั้นอีก31คนที่เหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือฉันเห็นด้วยกับความคิดของพี่เต้
“รองชนะ ปิดประชุม” =_=
นายซีโร่พูดเสียงเรียบ
สมาชิกในชมรมค่อยๆทยอยออกจากห้องประชุมจนหมด เหลือเพียงแค่ฉันกับนายซีโร่ที่นั่งหน้าขรึมไม่ยอมพูดยอมจา
“ทำไมเธอไม่ยกมือให้กับข้อเสนอของฉัน”
เขาเดินเข้ามาบีบแขนของฉันอย่างเอาเรื่อง
“โอ๊ย!! ฉันเจ็บนะ” T^T
ดูเหมือนคำพูดของฉันจะไม่เป็นผล เขาบีบแขนของฉันแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ใครจะกล้าไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ล่ะ ขืนโดนระเบิดตายจะว่ายังไง” ฉันปล่อยโฮออกไปด้วยความเจ็บปวด
O_O
“ฉันขอโทษ เธอเจ็บมากไหม”
เขาละมือออกมาจากแขนของฉัน แล้วกล่าวขอโทษด้วยความสำนึก (สำนึกจริงๆหรือเปล่า การแสดงออกของนายทำไมมันดูยากอย่างนี้)
“ฉันก็แค่อยากไปทำกิจกรรม ไปสร้างความสุขให้กับเด็กๆที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนไปซ่อมแซมโรงเรียนบนดอยไม่ใช่ว่าฉันไม่เห็นด้วยหรอกนะ แต่ฉันรู้สึกว่ามีคนไปบ่อยแล้วก็แค่นั้น”
“ฉันเปลี่ยนใจตอนนี้ทันไหมอ่ะ” TT
ฉันถามขึ้นหลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของเขา
“ไม่ทันแล้วยัยเบ๊อะ แล้วนี่เธอจะหยุดร้องไห้ได้หรือยัง ฉันแพ้น้ำตาผู้หญิงนะ”
พูดแล้วเขาก็เอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้กับฉัน
“แล้วนายมาว่าฉันเบ๊อะทำไมเล่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครว่าฉันแบบนี้เลยนะ”
“ไม่ทันแล้วยัยเบ๊อะ อยู่กับฉันทำใจให้ชินสะเถอะ เธอต้องได้ยินคำนี้ไปอีกนาน”
พูดจบเขาก็เดินออกไป
กรี๊ด!! ใครอยากอยู่กับนายมิทราบยะ นี่ถ้าฉันรู้ว่าความอยากรู้อยากเห็นของฉันจะเป็นบ่อเกิดให้ต้องมาตกที่นั่งลำบากแบบนี้ ฉันไม่ทำแน่ TOT
แล้วนี่จะกลับกันได้หรือยัง”
ฉันเอ่ยถามนายซีโร่ที่ตอนนี้ออกมานั่งยังโต๊ะหินอ่อนด้านหน้าอาคาร
“ยัง”
“เซ็งละสิ ที่แพ้ศัตรูหัวใจอย่างพี่เต้อ่ะ”
O_O
สิ้นเสียงของฉันเขาก็หันมาค้อนใส่เป็นการใหญ่ อร๊าย! นี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย เผ่นก่อนดีกว่า
ฉันเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้น พลางนึกสมน้ำหน้าตัวเองที่พูดโดยไม่คิดออกไป นี่ถ้าฉันสงบปากสงบคำ เขาก็คงจะขับรถไปส่งฉัน แถมยังประหยัดค่ารถเมล์ไปได้ตั้งหลายบาท (แอบงกอีกละ)
ฉันเดินไปตามทางฟุตบาทที่มีใบไม้ล่วงหล่นอยู่มากมาย
~กรุ๊งกริ๊ง~กรุ๊งกริ๊ง~
เสียงกระดิ่งจากรถขายไอติม ที่มีป้าแก่ๆเดินไสรถขายอยู่ริมฟุตบาท ฉันนึกอะไรดีๆออกแล้ว
“เอาไอติมรสช็อคโกแล็ตอันละห้าบาทสองอันค่ะป้า” ˃_˂
ป้าคนขายตักไอติมสองก้อนใส่หมวกสองอันแล้วส่งมาให้กับฉัน แม้จะยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดที่รุนแรงสักเพียงใด แต่ใบหน้าของแกก็ยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้มเสมอ
ปี๊นๆๆๆๆๆๆ
“อร๊าย!!!!” O_O
ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจ
“ขึ้นรถเดี๋ยวนี้ยัยจินนี่”
นายซีโร่ลดกระจกลงมาแล้วตะโกนเรียกฉัน
“แฟนหล่อจังเลยนะหนู”
ป้าคนขายไอติมเอ่ยแซว
เหวอ..แฟน ไม่ใช่ละป้า ใครหลงกลไปรักนายนี่บอกได้คำเดียวว่าบ้าสุดๆ ฉันรีบจ่ายเงินค่าไอติมแล้วเดินตรงมายังรถของนายซีโร่
“เอาไป ฉันเลี้ยง”
ฉันส่งไอติมในมือไปให้กับเขาหนึ่งอัน
“หึ! เธอเคยกินไอติมแพงกว่าอันละห้าบาทบ้างไหม”
เขาแสยะยิ้มออกมาด้วยความดูถูก
“เออ ก็ฉันมันจนนิ นายไม่กินก็ไม่ต้องกิน”
“ใครบอกว่าฉันจะไม่กิน เอามานี่”
นายซี่โร่หยิบไอติมจากมือของฉันไปกิน ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป
“เธอนึกยังไงถึงได้เลี้ยงไอติมฉันเนี่ย”
“ก็เวลาฉันเซ็งๆฉันชอบกินไอติม วันนี้ฉันเห็นนายเซ็งฉันก็เลยคิดว่ามันน่าจะช่วยได้” ฉันพูดพลางเลียไอติมที่ถืออยู่ในมืออย่างมีความสุข
“เอาตัวเองเป็นมาตรฐานอีกแล้วนะยัยเบ๊อะ”
อร๊ายยยยยย....ฉันต้องทนฟังคำด่าสารพัดของนายไปอีกนานเท่าไหร่กันเนี่ย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ