The D.O.L.L.S โศกนาฏกรรมปีศาจตุ๊กตามหาเวท

8.0

เขียนโดย HOPEโฮป

วันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 22.16 น.

  10 ตอน
  7 วิจารณ์
  11.78K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560 21.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) Episode 8 : || ตุ๊กตาปีศาจ ||

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
 
EPISODE 8

ตุ๊กตาปีศาจ

 

กษัตริย์เพอราลยืนนิ่งงันทำอะไรไม่ถูก ในใจตะโกนบอกให้ตัวเองพาเรเน่หนีไปจากที่นี่โดยเร็ว แต่ฐานะของกษัตริย์แห้งแคว้นยูรากำลังค้ำคออยู่ เขาจะทิ้งชาวเมืองไปได้อย่างไร

 

หลังจากหลบหนีออกมาจากวังได้ไม่นาน พวกเขาก็โดนชาวเมืองห้าคนไล่ต้อนให้มายังเขตชายแดนของยูรา รู้สึกมึนงงว่าทำไมห้าคนนั้นถึงถืออาวุธไล่ฆ่าพวกทหารติดตามตายเรียบได้ อาจจะเป็นกบฏร่วมมือกับพวกปีศาจ เพื่อความปลอดภัยของเรเน่เขาจึงพาเธอวิ่งหนีมา แล้วก็มาเจอคนปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ ฟันธงได้ว่าเป็นพวกปีศาจแน่นอน เขาเคยจัดการพวกมันมาบ้าง ในเมื่อมีแค่ตัวเดียวก็คงไม่มีอะไรต้องกลัว

 

มันครอบครองพลังปีศาจ เพราะฉะนั้นจึงมีจุดอ่อนอยู่ที่ความเร็วของการเคลื่อนไหวร่างกาย

 

 

แต่เจ้านี่มันอะไรกัน มันเคลื่อนไหวรวดเร็วจนเขามองตามไม่ทัน

 

เสียงอะไรบางอย่างครูดกับพื้นดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ สองพ่อลูกได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นโครมครามด้วยความหวาดกลัว ภาพของกระดูกเดินได้เมื่อครู่ยังคงติดตาอยู่ไม่หาย เขาไม่เคยเห็นปีศาจกลายพันธุ์รูปร่างผิดเพี้ยนไปจากมนุษย์มาก่อน

 

มันกำลังใกล้เข้ามา...

 

ความตาย...  

 

เพอราลคิดกับตัวเองอย่างสิ้นหวัง

 

จู่ๆ ก็มีเสียงดีดนิ้วเบาๆ จากเด็กหนุ่มตรงหน้า พร้อมกับปรากฏนาฬิกาเรือนยักษ์ลอยอยู่เหนือพื้นดิน กษัตริย์แห่งยูรามองนาฬิกาบอกเวลาที่เริ่มขยับเข็มวินาทีอยู่ชั่วครู่

 

...สองนาที...

 

เสียงเย็นชาในความทรงจำดังขึ้นในหัว ร่างท้วมรีบพยุงร่างอ่อนปวกเปียกของลูกสาวออกวิ่งทันควัน รู้แต่ว่าต้องหนีให้ไกลที่สุด แม้ไม่รู้ว่าจะหนีไปที่ไหนก็ตาม

 

“...ไม่ปล่อยให้หนีหรอก!” เสียงแหบพร่าตะโกนลั่นพร้อมกับกระโจนเข้าใส่เหยื่อทั้งสอง แต่อยู่ๆ ก็ปรากฏกำแพงไฟฟ้าขึ้นจากพื้นดินขวางกั้นเอาไว้ก่อนจะได้ทันคว้าเป้าหมาย

 

โครงกระดูกสบถอย่างหงุดหงิด หันไปมองเจ้าคนเข้ามาขวางด้วยความรำคาญ

 

“แก...!

 

“ถ้าแกมีชีวิตอยู่ได้เพราะเวทมนตร์...” เอเวนกล่าว พร้อมกับล้วงหยิบแผ่นกระดาษจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุม “ก็ต้องใช้มนตราฆ่าแกทิ้งซะ”

 

แผ่นกระดาษทั้งสิบสองแผ่นพุ่งตรงไปล้อมรอบโครงกระดูกเป็นวงกลม ปรากฏตัวอักษรเรืองแสงอ่อนๆ ขึ้นบนกระดาษขาว ร่างผอมแห้งค่อยๆ ลอยขึ้นจากพื้นดินซึ่งมีวงแหวนเวทสีน้ำเงินประดับอยู่ แผ่นกระดาษทั้งหมดพร้อมวงแหวนส่องแสงเจิดจ้าก่อนจะมีกระแสไฟฟ้าออกมาจากใจกลางวงแหวน พุ่งขึ้นไปด้านบนทะลวงร่างโครงกระดูกจนระเบิดออกไม่เหลือซาก

 

เอเวนหรี่ตามองอย่างแปลกใจเมื่อร่างแหลกสลายของศัตรูค่อยๆ กลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง เด็กหนุ่มสลายเวทของเขาทำให้วงแหวนและกระดาษทั้งหมดหายไป สายตาเย็นชามองเศษกระดูกเป็นกลุ่มก้อนตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งสนิท

 

“...ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!” ทั้งที่กายหยาบยังไม่สมบูรณ์ เสียงหัวเราะลั่นจากโครงกระดูกกลับดังก้องไปทั่วด้วยความสะใจ

 

เศษกระดูกน่าขยะแขยงค่อยๆ รวมกลับมามีรูปร่างเป็นโครงกระดูกดังเดิม ปากยิ้มแสยะอย่างพึงพอใจ

 

“เวทงี่เง่าของแกทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!

 

ร่างผอมแห้งกระโดดเข้าใส่เด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว เอเวนกระโดดหลบพร้อมกับร่ายเวทเปลี่ยนกระดาษหกแผ่นในมือให้กลายเป็นมีดสั้นแล้วเขวี้ยงใส่ศัตรูพร้อมกัน โครงกระดูกวิ่งหลบหลีก เปลี่ยนมือสองข้างของตนเองเป็นใบมีด แล้ววิ่งเข้าใส่เด็กหนุ่ม เอเวนเคลื่อนตัวหลบใบมีดแหลมคมที่ไล่ฟันเขาไม่ยั้ง มือขวาหันไปพึ่งดาบยาวดึงออกมาต้านการโจมตี แล้วหาจังหวะเหวี่ยงดาบกระแทกกลับไป

 

โครงกระดูกถูกดาบของเด็กหนุ่มอัดกลางลำตัวอย่างรุนแรง ร่างของมันลอยลิ่วไปกระแทกกับพื้นดินไกลเกือบสิบเมตร

 

เอเวนปักดาบลงกับพื้นพร้อมกับร่ายแวทเรียกกระแสไฟฟ้าให้วิ่งไหลไปตามพื้นจนถึงร่างของศัตรู เกิดแรงระเบิดพร้อมควันโขมงสีขาวปกคลุมจนมองอะไรไม่เห็น

 

เจ้าตัวกระดูกนั่นไม่ได้เก่งอะไรมากมาย เรียกได้ว่าห่วยแตกด้วยซ้ำ แต่เขาไม่รู้ว่าจะกำจัดมันได้อย่างไรในเมื่อฆ่าเท่าไหร่มันก็ไม่ตาย

 

ร่างผอมแห้งพุ่งตัวทะลุผ่านควันพร้อมกับใช้ใบมีดทั้งสองข้างหมายจะไล่ฟันเขาอีกรอบ เอเวนเรียกกำแพงไฟฟ้าขึ้นมาป้องกันได้ทันท่วงที ก่อนจะร่ายเวทตาข่ายไฟฟ้ากักตัวมันเอาไว้

 

เพราะร่างกายเกิดจากเวทมนตร์ ใบมีดของมันจึงสามารถฟันตาข่ายไฟฟ้าของเขาขาดออกอย่างง่ายดาย เอเวนเขวี้ยงดาบไปปักที่พื้นอีกด้านหนึ่งแล้วรีบกัดอุ้งมือขวาของตัวเองให้เกิดบาดแผล จากนั้นจึงวางฝ่ามือลงทาบกับพื้น ใช้เลือดเป็นสื่อร่ายเวทปรากฏรอยแยกของพื้นดินตั้งแต่มือขวายาวไปจนถึงดาบของเขาที่ปักคาอยู่

 

ก้อนเมือกสีดำขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากรอยแยกตรงเข้าปกคลุมร่างผอมแห้งเอาไว้ ก่อนกระไฟฟ้าจำนวนมากจะไหลล้นตามออกมาไปยังร่างในก้อนเมือก เกิดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

 

เด็กหนุ่มวิ่งไปดึงดาบของตัวเองออกมาแล้วกระโดดตัวสูงขึ้นไปในอากาศ มือขวาจับด้ามดาบแน่น เล็งปลายแหลมไปยังเป้าหมายเบื้องล่าง แล้วทิ้งตัวลงด้วยความเร็วสูง ดาบในมือแทงก้อนเมือกสีดำจนทะลุไปถึงพื้น เสียงกรีดร้องประสานกับเสียงดาบเสียดสีดังกึกก้องไปทั่ว

 

มือขวาดึงดาบออกเมื่อเสียงร้องเงียบไป แต่ไม่นานเสียงหัวเราะอันคุ้นเคยก็ดังออกมาจากภายในก้อนเมือกสีดำ เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะสลายเวททั้งหมดให้หายไป เผยให้เห็นโครงกระดูกในสภาพยับเยินจนแหลกละเอียดกำลังประสานร่างเข้าหากัน

 

“...ข้าบอกแล้ว...เวทงี่เง่าของแกฆ่าข้าไม่ได้หรอก...”

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ร่างเล็กกระโดดหลบกรงเล็บที่ไล่ฟันเธอไม่หยุด การเคลื่อนไหวของเธอช้าลงเพราะโดนรุมหนึ่งต่อห้าเป็นเวลานานจึงทำให้ร่างกายเริ่มอ่อนล้า แต่มิเวลไม่สนใจแม้ว่าจะยกแขนขวาแทบไม่ขึ้นแล้วก็ตาม เธอฆ่าพวกมันไปร่วมสิบกว่ารอบ แต่ศัตรูก็ยังกลับมามีชีวิตได้เหมือนเดิมทุกครั้ง ทั้งที่จริงแล้ว ฝีมือของทั้งห้าคนนี้ไม่ได้มากมายเลยด้วยซ้ำ

 

จะทำอย่างไรดีในเมื่อพวกมันเป็นอมตะ...?

 

มิเวลถามตัวเอง

 

กรงเล็บแหลมคมเรียกเลือดจากต้นแขนขวาของเด็กสาวได้เพราะเธอขยับตัวหลบไม่ทัน ความรู้สึกเจ็บแปลบชะงักการเคลื่อนไหวของเธอชั่วครู่ ทำให้เธอขยับตัวหลบใบมีดจากอีกด้านไม่พ้น

 

ใบมีดแทงไหล่ขวาของเธอจนทะลุ เด็กสาวกัดฟันแน่นอดทนกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ในตอนนั้นเองที่เธอสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง มือซ้ายพยายามออกแรงดึงใบมีดออกจากตัว ไม่สนใจใบหน้าแสยะยิ้มด้วยความสนุกของศัตรู เมื่อมืออ่อนแรงจนใช้ไม่ได้ เธอจึงใช้เท้าขวาถีบร่างของหญิงสาวออกไปสุดแรง

 

มิเวลมองบาดแผลบริเวณไหล่ขวาพลางนึกเสียใจว่าแค่เวทห้ามเลือดเธอก็ทำไม่เป็น แล้วสายตาเศร้าสร้อยก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นเหลือบมองไปทางศัตรูทั้งห้า

 

“ไม่รู้ว่าจะได้ผลรึเปล่า แต่ขออำลาเลยก็แล้วกัน”

 

เมื่อกล่าวจบก็เปลี่ยนไปถือดาบในมือซ้ายแทนเพราะท่าทางแขนขวาของเธอจะไปไม่รอดเสียแล้ว มิเวลจับดาบแห่งไฟในมือแน่น จากนั้นจึงแทงปลายดาบทะลุซ้ำรูเดิมตรงไหล่ขวาแล้วดึงดาบออกทันที ดาบยาวถูกชะโลมด้วยเลือดสีข้น ร่างเล็กขยับกายเข้าประชิดศัตรูผู้ฝากบาดแผลตรงไหล่เอาไว้ให้ แล้วแทงดาบทะลวงร่างของอีกฝ่ายทันควัน

 

ร่างของหญิงสาวกระตุกน้อยๆ พร้อมกับเกิดรอยร้าวไปทั่วทั้งร่าง ก่อนจะระเบิดกระจายออกเป็นวงกว้างแล้วเลือนหายไป

 

มิเวลยิ้มกับตัวเองด้วยความดีใจและโล่งใจในเวลาเดียวกัน

 

นึกว่าต้องฝังศพตัวเองไว้ที่นี่เสียแล้ว

 

เด็กสาวหันขวับกลับไปจ้องอีกสี่คนที่เหลือ ทั้งสี่มองหน้ากันด้วยสายตางงๆ เธอไม่รอให้พวกมันคิดอะไรอีก รีบจัดการแต่ละคนโดยใช้ดาบเสียบทะลุท้องของทุกคนจนครบ

 

ร่างเล็กนั่งแปะลงกับพื้นด้วยความเหนื่อย วางดาบไว้ข้างลำตัว ในที่สุดก็จบลงเสียที

 

แต่ยังไม่ทันจะได้พักสักเท่าไหร่ เสียงระเบิดลั่นก็ดังขึ้นใกล้ๆ พร้อมกับมีอะไรบางอย่างกระเด็นมากระแทกกับพื้นห่างออกไปไม่ถึงห้าเมตร

 

อะไรอีกล่ะเนี่ย

 

 

ไม่นานความสงสัยก็ได้รับการคลี่คลาย หลังจากร่างที่ลอยกระเด็นมาเมื่อครู่ลุกขึ้นยืนปรากฏตัวให้เธอได้เห็นชัดๆ นัยน์ตาสีแดงเพลิงเบิกค้างมองไม่อยากจะเชื่อสายตา

 

เจ้าโครงกระดูกนั่นอีกแล้ว!

 

มิเวลรีบพยุงตัวเองให้ยืนขึ้นโดยไม่ลืมหยิบดาบขึ้นมาถือไว้ในท่าเตรียมพร้อม แม้จะรู้สึกปวดบาดแผลจากการเสียเลือดมากจนเริ่มรู้สึกเวียนหัวน้อยๆ ก็ตาม

 

“หลบไป!” เสียงตะโกนจากด้านบนเรียกให้เธอเงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วก็ต้องตกใจรีบกระโดดหลีกให้พ้นทาง

 

ร่างหนึ่งร่วงลงมาด้วยความเร็วสูงพร้อมด้วยดาบยาวในมือกระแทกกับพื้นดินจนเกิดเสียงดังลั่น มิเวลสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ก็มีเวทบาเรียล้อมรอบเธอเอาไว้ ก่อนจะตะลึงงันกับเวทไฟฟ้าแรงสูงแผ่กระจายออกมาจากปลายดาบที่ปักอยู่ในดิน พลังรุนแรงจนทำให้พื้นแตกแยกเป็นแผ่นๆ ตามด้วยรากไม้จำนวนมากโผล่พรวดขึ้นมาจากรอยแยกเคลื่อนเลี้ยวพุ่งทะลวงเข้าเสียบร่างของศัตรู

 

“...ฮึ ฮึ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า! บอกแล้วไงว่าแกทำอะไรข้าไม่ได้!” แม้หัวกระโหลกจะถูกรากไม้แทงทะลุ เจ้าโครงกระดูกก็ยังคงส่งเสียงหัวเราะสะใจไม่สะทกสะท้าน

 

มิเวลหันไปมองเจ้าของเวทรุนแรงเมื่อครู่ เห็นใบหน้าเย็นชามีเม็ดเหงื่อผุดพราย คาดว่าเขาคงเหนื่อยเพราะใช้พลังเวทไปมากแล้ว ถึงจะสงสัยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมาอยู่กับเจ้าโครงกระดูกนั่นได้ แต่เธอคิดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาถามเรื่องนี้

 

แล้วเด็กสาวก็เห็นว่าที่คอด้านซ้ายของเอเวนมีแผลลึกเป็นทางยาวแต่ไม่มีเลือด เขาคงใช้เวทอะไรสักอย่างห้ามเลือดเหมือนตอนห้ามเลือดให้วอล

 

แต่ยังสู้ยืดเยื้อมาจนถึงนี่ แสดงว่ายังไม่รู้สินะ

 

มิเวลตัดสินใจเดินออกจากบาเรียเวทของเอเวน ตรงเข้าไปหาร่างถูกเสียบทะลุ กลั้นหายใจยกดาบแทงซ้ำแผลเดิมของตัวเอง ไม่สนเสียงหัวเราะเย้ยหยันเมื่อรับความรู้สึกได้ว่าเธอทำร้ายตัวเอง ก่อนมือซ้ายจะดึงดาบออกแล้วแทงใส่ร่างตรงหน้า

 

เสียงหัวเราะเงียบไป ร่างของโครงกระดูกชักกระตุกพร้อมกับเกิดรอยร้าวไปทั่วทั้งร่าง แล้วระเบิดหายวับไป

 

“เฮ้อ...หมดจริงๆ เถอะนะคราวนี้”

 

ร่างเล็กทรุดนั่งลงด้วยความเหนื่อย เหลือบมองเอเวนซึ่งเดินเข้ามาใกล้ นึกว่าจะโดนบ่นโดนถามโน่นนี่ แต่เอเวนกลับนั่งลงแล้วเริ่มต้นใช้เวทห้ามเลือดให้เธอ

 

มิเวลมองการกระทำอีกฝ่ายอย่างงงๆ เห็นเขาเหลือบสายตาขึ้นมาสบสายตาด้วยอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็เบือนกลับไปมองแผลที่ไหล่ของเธอตามเดิม ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่งเอเวนห้ามเลือดให้เธอเสร็จเรียบร้อย

 

“ต้องใช้เลือดสินะ” น้ำเสียงนิ่งกล่าวเรียบๆ มิเวลนิ่งไปพักใหญ่เพราะคิดว่ามันไม่ใช่คำถาม แต่พอเอเวนพูดซ้ำถึงรู้ว่าเขาถามเธอ

 

“ใช่ ข้ารู้จากตอนที่สู้กับพวกมันอีกห้าตัว เห็นอาวุธของมันเผาไหม้หลังจากถูกเลือดของข้าน่ะ”

 

“ห้าตัว? แผลของเจ้ามาจากเจ้าพวกนั้นงั้นสิ” เด็กสาวพยักหน้าตอบ

 

“แต่ข้าแปลกใจ ทั้งๆ ที่ข้าได้แผลจากเจ้าตัวกระดูกนั่น และอาวุธของมันก็เลอะเลือดข้าไม่ใช่น้อย แต่ทำไมมันถึงไม่เป็นอะไร”

 

“เรื่องเวทมนตร์อะไรแบบนี้ข้าไม่รู้เรื่อง อาจจะมีข้อกำหนดอะไรพิเศษมากกว่านี้ก็ได้” มิเวลตอบไปตามตรง เธอไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมเลือดของเอเวนถึงไม่มีผล ต้องมีอะไรสักอย่าง แต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาคำตอบได้จากที่ไหน ขนาดตัวประหลาดพวกนั้นคืออะไรเธอยังไม่รู้เลย

 

จะว่าไป เอเวนอาจจะรู้ก็ได้

 

“เจ้ารู้หรือเปล่าว่าพวกนั้นคือตัวอะไร” น้ำเสียงจริงจังเอ่ยถามคนข้างกาย ดูเหมือนเด็กหนุ่มกำลังครุ่นคิดหนักเรื่องเลือดของเขาใช้ไม่ได้ผลอยู่ ใบหน้าเคร่งเครียดหันมามองเธอก่อนจะเอ่ยตอบคำถาม

 

“พวกมนุษย์เรียกมันว่าปีศาจกลายพันธุ์ แต่ผู้ใช้เวทอย่างข้ากับเจ้าเรียกมันว่า ตุ๊กตา

 

ตุ๊กตา?

 

“หมายความว่ายังไง?”

 

“ตุ๊กตาปีศาจ เกิดจากผู้ขายวิญญาณขายวิญญาณของตนให้ราชาปีศาจเพื่อการแก้แค้น แล้วก็มีคนธรรมดาที่โดนตุ๊กตาปีศาจบังคับใช้ ห้าคนนั่นที่เจ้าสู้ด้วยคงถูกเจ้าตัวกระดูกใช้งาน” เอเวนเริ่มต้นอธิบาย แล้วเว้นช่วงพักหนึ่งเพื่อรวบรวมข้อมูลในหัว

 

“หลังจากขายวิญญาณให้ราชาปีศาจแล้วก็จะได้รับพลังเพื่อใช้แก้แค้น ตุ๊กตาจะยังคงอยู่ในร่างเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่จะมีสภาพเหมือนคนไร้สติเพราะไม่มีวิญญาณอยู่ในร่างแล้ว มีพลังมหาศาล ดูดพลังเวทไปเป็นของตนได้ สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายเป็นอาวุธได้ตามใจชอบ แถมยังเพิ่มพลังขึ้นทุกครั้งจากการฆ่าคน แต่พลังของพวกมันไม่ใช่พลังเวทแม้จะคล้ายกันก็ตาม เพราะฉะนั้นเครื่องตรวจพลังเวทจึงไม่มีปฏิกิริยาอะไร ตุ๊กตามีเวลาแค่สี่วันเท่านั้นในการแก้แค้นให้สำเร็จ ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นปีศาจที่ต้องการล้างแค้นและฆ่าคนไม่เลือกหน้า แต่เพราะพวกมันได้รับพลังมาจากราชาปีศาจ พลังนั่นจึงกัดกินตุ๊กตาทำให้มันต้องการฆ่าเพื่อความสนุก แม้จะยังไม่ครบสี่วันตุ๊กตาปีศาจบางตัวก็เริ่มออกไล่ล่าผู้คนแล้ว”

 

“โครงกระดูกนั่นคล้ายมนุษย์ก็จริง แต่ดูไม่เหมาะกับคำว่าเหมือนมนุษย์ทุกประการเลยนะ” มิเวลแย้ง พลางนึกย้อนไปถึงตอนที่เห็นมันครั้งแรก

 

“เมื่อก่อนตุ๊กตาพวกนั้นกลายร่างไม่ได้ แค่เปลี่ยนร่างกายให้เป็นอาวุธเท่านั้น แต่หลายปีที่ผ่านมานี้มีตุ๊กตาหลายตัวกลายร่างเป็นตัวประหลาดเพิ่มขึ้นเยอะมาก”

 

และที่สำคัญ พลังของเขาก็ยังจัดการมันไม่ได้ด้วย เพราะอะไรกัน หรือจะเป็นเพราะว่าพวกมันไม่ใช่ตุ๊กตาปีศาจที่แท้จริงเลยต้องฆ่าด้วยวิธีอื่น แต่จะฆ่ามันยังไงกันล่ะ

 

 “พลังของพวกมันเพิ่มขึ้นงั้นเหรอ”

 

“ไม่น่าใช่ เพราะพวกกลายร่างได้ส่วนใหญ่มีพลังเแค่นิดหน่อย แม้จะมีบางตัวที่มีพลังสูงอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ยังไงพวกกลายร่างไม่ได้ก็มีพลังมากกว่าอยู่ดี”

 

เด็กสาวนิ่งเงียบไป รู้สึกตกใจกับข้อมูลที่ได้รับ หมายความว่าผู้คนทั่วไปอาจจะมีสิทธิ์เป็นตุ๊กตาปีศาจก็ได้งั้นสิ เธอออกเดินทางจากหมู่บ้านฟรอซเซลซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของเผ่ามายามาเกือบครึ่งปีแล้ว เดินทางไปตามเมืองต่างๆ คอยซื้อข่าวคราวเรื่องสงครามและเรื่องสำคัญอื่นๆ อยู่เรื่อยๆ แต่ไม่เคยรู้หรือเคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเลย

 

เพราะอะไรกัน?

 

“ทำไมเรื่องใหญ่แบบนี้ถึงไม่มีในข่าวหรือประกาศทางราชการอะไรเลยล่ะ”

 

เอเวนไม่ตอบในทันที เขาใช้เวลาคิดอะไรบางอย่างอยู่สักพักก่อนเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงปกติ

 

“เพราะรัฐบาลปิดเป็นความลับ”

 

“ความลับ!? เรื่องคอขาดบาดตายเนี่ยนะ”

 

รัฐบาลงี่เง่านั่นคิดอะไรอยู่กันแน่ ตั้งแต่เรื่องประกาศสงครามระหว่างผู้ใช้เวทกับมนุษย์ธรรมดานั่น แล้วยังเรื่องปิดตุ๊กตาปีศาจพวกนี้ไว้เป็นความลับอีก

 

ความลับ...

 

ถ้าเป็นความลับ แล้วเอเวนรู้ได้อย่างไร?

 

มิเวลเหล่สายตาแอบมองคนข้างตัวอย่างสงสัย คนคนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวข้องกับรัฐบาลแน่ๆ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน ในเมื่อคนของรัฐบาลคือคนธรรมดา แล้วเอเวนก็เกลียดพวกเขาถึงขนาดนั้น

 

แม้ว่าจะอยากถามให้รู้เรื่องไปเลย แต่เธอก็รู้ว่าเอเวนคงไม่ยอมบอกอะไรอยู่ดี

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

  

Edited: 

หึๆ เอเวน พลาดไปหน่อยนะ หนูมิเวลเค้าหัวไวพอควร

ถ้าแต่งพารอดี้ เลิฟโรแมนติก ให้หนูมิเวลเป็นหญิงแกร่งผู้พิชิตตุ๊กตาปิศาจ แต่สู้ทีไรเลือดเกือบหมดตัวจนต้องนอนโรงพยาบาล มีเอเวนคอยปกป้องดูแลอยู่ข้างกาย...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา