เมื่อฉันมีเพื่อนเป็นผี
9.2
เขียนโดย อยากตดอัดหน้าเธอ
วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560 เวลา 20.35 น.
14 ตอน
4 วิจารณ์
18.32K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 23.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) เที่ยวด้วยกันครั้งแรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความฉันนั่งกินข้าวโดยไม่กล้าสบตาเซ็นโอ้ย ใจไม่ดีคนหล่อมานั่งข้างหน้าของฉันซะนี่
"นี่เธอไม่ค่อยคุยกับใครเลยหรอ?" เซ็นเอ่ยขึ้น
"ห้ะ?" ฉันทวนอีกรอบเพราะไม่แน่ใจว่าเขาคุยกับฉันไหม
"ฉันถามว่าเธอไม่ค่อยคุยกับใครเลยหรอ"
"ไม่ค่อยอะเพราะฉันก็ยังไม่ค่อยสนิทกับใครเท่าไหร่น่ะ" ฉันพยามตอบแบบปัดๆไปเพราะฉันไม่กล้าแม้กระทั่งสบตาของเขา
"อ่อ..งั้นหรอ"
จากนั้นเราทั้งสองต่างก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานจนหมดโดยที่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
"เธอมาเป็นเพื่อนกับฉันไหมล่ะเพราะฉันก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกัน.." เซ็นพูดขึ้น
กรี๊ด!! ฉันอยากร้องโอ้มายก้อดซ้ำแล้วซ้ำเล่าฉันได้แต่เก็บไฟร่านในตัวของฉันเอาไว้และแสดงสีหน้าที่เป็นมิตร
"อ๋อได้สิ" ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงรื่นหู
พอพวกเราคุยกันเสร็จก็ถึงเวลากลับหอเพราะวันนี้ฉันเรียนเพียงแค่ช่วงเช้าเท่านั้น
"ว้าวๆ มีผู้ชายมาคุยด้วยงั้นหรอจ๊ะ" โมเอ่ยขึ้น
"แหม ออกมาแต่ละทีไม่เคยให้ซุ่มให้เสียงเลยนะ" ฉันรีบตอบกลับ
"นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันอยากฟังย่ะ! ฉันถามเธอว่ามีหนุ่มๆมาคุยด้วยงั้นหรอ"
"อื้ม ก็นิดนึง" ฉันพูดพรางเอาผมทัดหูเพื่อความน่าหมั่นไส้
"แหมๆ ร้ายนะเราเออนี่เตรียมตัวซะฉันจะพาไปยังที่ๆฉันเคยไป"
"ที่ไหนล่ะ" ฉันถามกลับ
"ที่ที่ผีสวยๆอย่างฉันเคยไปนั่นแหละ! ไปเถอะตามฉันมา" โมตอบ
จากนั้นฉันกับโมออกจากหอพักลงยังตรงหน้าหอ
"อยู่ไกลไหมน่ะฉันต้องเรียกแท็กซี่ไหม" ฉันถามโม
"ใกล้ๆเองเดินแปปเดียวเดี๋ยวก็ถึง" โมตอบ
เดินมาไม่นานก็ถึงยังที่ที่โมบอกที่นี่เป็นสวนสาธารณะเล็กๆมีหนุ่มสาวมากมายเดินคู่กันมาอีกด้วย
"ที่นี่น่ะหรอ?"
"อ่าห้ะ"
"ก็ไม่เห็นน่าตื่นเต้นอะไรเลยนี่" ฉันพูด
"ที่นี่เป็นที่ที่ฉันออกมาเที่ยวก่อนที่ฉันจะโดนฆ่าตายในหอน่ะ"
"..."
เราทั้งสองต่างเงียบงันและมองหน้ากันตาปริบๆ
"ใครๆก็ไม่อยากตายหรอกเนอะทำไมคนเราต้องพรากชีวิตของคนอื่นไปด้วยล่ะ" ฉันพูดขึ้น
"กิเลสของมนุษย์น่ะมนุษย์ทุกคนมีกิเลสรักโลภโกรธหลงสิ่งพวกนี้ทำให้มนุษย์ชังกันเองและฆ่ากันตายได้เสมอ" โมตอบ
"งั้นถ้าเธอหาตัวคนร้ายเจอเธอจะไปเกิดใช่ไหม?"
"ก็คงจะอย่างนั้น..แต่คงยากน่ะขนาดตำรวจยังหาตัวคนร้ายแทบไม่ได้เลยมันไม่ทิ้งร่องรอยไว้สักอย่างนึง"
"สมองฉันตันหมดเลยแหะขนาดตำรวจยังหาเบาะแสคนร้ายไม่ได้แล้วฉันจะหาเจอหรอไม่มีวี่แววของคนร้ายเลยเนี่ยนะแล้วฉันจะไปหาเบาะแสยังไง" ฉันพูดตัดพ้อ
"ไม่เป็นไรหรอกฉันก็ไม่คิดจะหวังอะไรอยู่แล้วล่ะคงเป็นเพราะฉันอยากเจอหน้าคนร้ายมันเป็นกิเลสของฉันจึงทำให้ฉันไม่ยอมไปเกิดสักที"
"แล้วทำไมเธอถึงไม่ปล่อยวางล่ะ?" ฉันถามโม
"เธอคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยหรอฉันพยามมาตลอดแต่พอฉันคิดถึงวินาทีที่ฉันตายฉันก็ปล่อยไว้ไม่ได้จริงๆ.." โมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
"งั้นฉันจะพยามอย่างสุดๆเลยแล้วกันนะ" ฉันพูดเพื่อปลอบโยนโม
โมกับฉันมองหน้ากันแล้วก็เดินเล่นในสวนสาธารณะ
"โอ๊ะ!! ถนนคนเดินนี่" ฉันเอ่ยขึ้น
"จริงด้วยเดือนนี้มีงานทั้งเดือนเลยนี่นาของกินเพียบแน่ๆ " โมพูดเสริม
"ไปหาของกินกัน!!/ไปหาของกินกัน!!" ฉันกับโมพูดขึ้นพร้อมกัน
จากนั้นฉันจึงเดินไปยังข้างในงานทันทีที่นั่นมีทั้งเสื้อผ้าราคาถูกและของกินเต็มไปหมด
"เอาหนมเบื้องสิเจ้านี้อร่อยนะตอนฉันยังไม่ตายฉันขาประจำเจ้านี้เลยแถมไม่ได้กินนานแล้วด้วย" โมพูดขึ้น
"เหอะๆ อยากกินก็บอกมาเถอะย่ะ!" ฉันตอบกลับโม
"...." แม่ค้ามองฉันอย่างงงๆว่าฉันพูดกับใคร
"อะ...เอาหนมเบื้องไส้ฝอยทอง2กล่องค่ะ" ฉันรีบบอกแม่ค้าทันทีทันใด
เมื่อเราซื้อของกินจุบจิบซื้อเสื้อผ้านิดหน่อยก็กลับไปยังหอ
"อ่ะของพวกนี้ของเธอนะโม" ฉันยื่นถุงของกินที่แยกใส่ถุงอีกต่างหากไว้
"นี่ฉันกินไม่ได้หรอกนะถ้าเธอไม่จุดธูปเรียดชื่อจริงฉันให้มากินน่ะ" โมทำหน้าพึงไม่พอใจ
"จ้าขอโทษจ้า"
จากนั้นฉันจึงหยิบธูปมาดอกนึงและจุด
"ขอเชิญ...."
ฉันหยุดชะงักไว้เพราะฉันลืมถามชื่อจริงของโม
"นี่ชื่อจริงเธอชื่อไรนะ?" ฉันถามโม
"สุพัตรา เริ่มทิม" โมตอบกลับ
"ขอเชิญ นางสาวสุพัตรา เริ่มทิม มากินเครื่องเซ่นพวกนี้ทีค่า"
"หู้ว ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว ของโปรดล้วนๆ" โมรีบรั่งลงและคุ้ยของกินที่อยู่ในถุงทันที
"แม้กระทั่งผีก็ยังตระกละจริงๆเลย" ฉันพูดขึ้น
"เงียบไปเลยของที่เธอซื้อมาเยอะกว่าของฉันอีกย่ะ!" โมพูดพรางเคียวลูกชิ้นไป
"จ้ะ!" ฉันตอบอย่างสั้นๆ
เมื่อฉันและโมกินขนมนมเนยที่ซื้อมาจนหมดก็ต่างพากันไปอาบน้ำ
"เดี๋ยว! ผีต้องอาบน้ำด้วยหรอ?" ฉันถามโม
"ใช่น่ะสิฉันก็รักสะอาดนะ" โมตอบกลับ
"อ่อหราาา"
จากนั้นโมก็เดินเข้าห้องน้ำไปและเสียงเปิดน้ำก็ดัง
"กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!"
อยู่ก็มีเสียงกรี๊ดดังออกมาจากห้องน้ำที่โมพึ่งเข้าไปหรือว่า...
"โม!!"
โปรดติดตามตอนต่อไป
"นี่เธอไม่ค่อยคุยกับใครเลยหรอ?" เซ็นเอ่ยขึ้น
"ห้ะ?" ฉันทวนอีกรอบเพราะไม่แน่ใจว่าเขาคุยกับฉันไหม
"ฉันถามว่าเธอไม่ค่อยคุยกับใครเลยหรอ"
"ไม่ค่อยอะเพราะฉันก็ยังไม่ค่อยสนิทกับใครเท่าไหร่น่ะ" ฉันพยามตอบแบบปัดๆไปเพราะฉันไม่กล้าแม้กระทั่งสบตาของเขา
"อ่อ..งั้นหรอ"
จากนั้นเราทั้งสองต่างก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานจนหมดโดยที่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
"เธอมาเป็นเพื่อนกับฉันไหมล่ะเพราะฉันก็ไม่มีเพื่อนเหมือนกัน.." เซ็นพูดขึ้น
กรี๊ด!! ฉันอยากร้องโอ้มายก้อดซ้ำแล้วซ้ำเล่าฉันได้แต่เก็บไฟร่านในตัวของฉันเอาไว้และแสดงสีหน้าที่เป็นมิตร
"อ๋อได้สิ" ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงรื่นหู
พอพวกเราคุยกันเสร็จก็ถึงเวลากลับหอเพราะวันนี้ฉันเรียนเพียงแค่ช่วงเช้าเท่านั้น
"ว้าวๆ มีผู้ชายมาคุยด้วยงั้นหรอจ๊ะ" โมเอ่ยขึ้น
"แหม ออกมาแต่ละทีไม่เคยให้ซุ่มให้เสียงเลยนะ" ฉันรีบตอบกลับ
"นั่นไม่ใช่คำตอบที่ฉันอยากฟังย่ะ! ฉันถามเธอว่ามีหนุ่มๆมาคุยด้วยงั้นหรอ"
"อื้ม ก็นิดนึง" ฉันพูดพรางเอาผมทัดหูเพื่อความน่าหมั่นไส้
"แหมๆ ร้ายนะเราเออนี่เตรียมตัวซะฉันจะพาไปยังที่ๆฉันเคยไป"
"ที่ไหนล่ะ" ฉันถามกลับ
"ที่ที่ผีสวยๆอย่างฉันเคยไปนั่นแหละ! ไปเถอะตามฉันมา" โมตอบ
จากนั้นฉันกับโมออกจากหอพักลงยังตรงหน้าหอ
"อยู่ไกลไหมน่ะฉันต้องเรียกแท็กซี่ไหม" ฉันถามโม
"ใกล้ๆเองเดินแปปเดียวเดี๋ยวก็ถึง" โมตอบ
เดินมาไม่นานก็ถึงยังที่ที่โมบอกที่นี่เป็นสวนสาธารณะเล็กๆมีหนุ่มสาวมากมายเดินคู่กันมาอีกด้วย
"ที่นี่น่ะหรอ?"
"อ่าห้ะ"
"ก็ไม่เห็นน่าตื่นเต้นอะไรเลยนี่" ฉันพูด
"ที่นี่เป็นที่ที่ฉันออกมาเที่ยวก่อนที่ฉันจะโดนฆ่าตายในหอน่ะ"
"..."
เราทั้งสองต่างเงียบงันและมองหน้ากันตาปริบๆ
"ใครๆก็ไม่อยากตายหรอกเนอะทำไมคนเราต้องพรากชีวิตของคนอื่นไปด้วยล่ะ" ฉันพูดขึ้น
"กิเลสของมนุษย์น่ะมนุษย์ทุกคนมีกิเลสรักโลภโกรธหลงสิ่งพวกนี้ทำให้มนุษย์ชังกันเองและฆ่ากันตายได้เสมอ" โมตอบ
"งั้นถ้าเธอหาตัวคนร้ายเจอเธอจะไปเกิดใช่ไหม?"
"ก็คงจะอย่างนั้น..แต่คงยากน่ะขนาดตำรวจยังหาตัวคนร้ายแทบไม่ได้เลยมันไม่ทิ้งร่องรอยไว้สักอย่างนึง"
"สมองฉันตันหมดเลยแหะขนาดตำรวจยังหาเบาะแสคนร้ายไม่ได้แล้วฉันจะหาเจอหรอไม่มีวี่แววของคนร้ายเลยเนี่ยนะแล้วฉันจะไปหาเบาะแสยังไง" ฉันพูดตัดพ้อ
"ไม่เป็นไรหรอกฉันก็ไม่คิดจะหวังอะไรอยู่แล้วล่ะคงเป็นเพราะฉันอยากเจอหน้าคนร้ายมันเป็นกิเลสของฉันจึงทำให้ฉันไม่ยอมไปเกิดสักที"
"แล้วทำไมเธอถึงไม่ปล่อยวางล่ะ?" ฉันถามโม
"เธอคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยหรอฉันพยามมาตลอดแต่พอฉันคิดถึงวินาทีที่ฉันตายฉันก็ปล่อยไว้ไม่ได้จริงๆ.." โมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
"งั้นฉันจะพยามอย่างสุดๆเลยแล้วกันนะ" ฉันพูดเพื่อปลอบโยนโม
โมกับฉันมองหน้ากันแล้วก็เดินเล่นในสวนสาธารณะ
"โอ๊ะ!! ถนนคนเดินนี่" ฉันเอ่ยขึ้น
"จริงด้วยเดือนนี้มีงานทั้งเดือนเลยนี่นาของกินเพียบแน่ๆ " โมพูดเสริม
"ไปหาของกินกัน!!/ไปหาของกินกัน!!" ฉันกับโมพูดขึ้นพร้อมกัน
จากนั้นฉันจึงเดินไปยังข้างในงานทันทีที่นั่นมีทั้งเสื้อผ้าราคาถูกและของกินเต็มไปหมด
"เอาหนมเบื้องสิเจ้านี้อร่อยนะตอนฉันยังไม่ตายฉันขาประจำเจ้านี้เลยแถมไม่ได้กินนานแล้วด้วย" โมพูดขึ้น
"เหอะๆ อยากกินก็บอกมาเถอะย่ะ!" ฉันตอบกลับโม
"...." แม่ค้ามองฉันอย่างงงๆว่าฉันพูดกับใคร
"อะ...เอาหนมเบื้องไส้ฝอยทอง2กล่องค่ะ" ฉันรีบบอกแม่ค้าทันทีทันใด
เมื่อเราซื้อของกินจุบจิบซื้อเสื้อผ้านิดหน่อยก็กลับไปยังหอ
"อ่ะของพวกนี้ของเธอนะโม" ฉันยื่นถุงของกินที่แยกใส่ถุงอีกต่างหากไว้
"นี่ฉันกินไม่ได้หรอกนะถ้าเธอไม่จุดธูปเรียดชื่อจริงฉันให้มากินน่ะ" โมทำหน้าพึงไม่พอใจ
"จ้าขอโทษจ้า"
จากนั้นฉันจึงหยิบธูปมาดอกนึงและจุด
"ขอเชิญ...."
ฉันหยุดชะงักไว้เพราะฉันลืมถามชื่อจริงของโม
"นี่ชื่อจริงเธอชื่อไรนะ?" ฉันถามโม
"สุพัตรา เริ่มทิม" โมตอบกลับ
"ขอเชิญ นางสาวสุพัตรา เริ่มทิม มากินเครื่องเซ่นพวกนี้ทีค่า"
"หู้ว ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว ของโปรดล้วนๆ" โมรีบรั่งลงและคุ้ยของกินที่อยู่ในถุงทันที
"แม้กระทั่งผีก็ยังตระกละจริงๆเลย" ฉันพูดขึ้น
"เงียบไปเลยของที่เธอซื้อมาเยอะกว่าของฉันอีกย่ะ!" โมพูดพรางเคียวลูกชิ้นไป
"จ้ะ!" ฉันตอบอย่างสั้นๆ
เมื่อฉันและโมกินขนมนมเนยที่ซื้อมาจนหมดก็ต่างพากันไปอาบน้ำ
"เดี๋ยว! ผีต้องอาบน้ำด้วยหรอ?" ฉันถามโม
"ใช่น่ะสิฉันก็รักสะอาดนะ" โมตอบกลับ
"อ่อหราาา"
จากนั้นโมก็เดินเข้าห้องน้ำไปและเสียงเปิดน้ำก็ดัง
"กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!!"
อยู่ก็มีเสียงกรี๊ดดังออกมาจากห้องน้ำที่โมพึ่งเข้าไปหรือว่า...
"โม!!"
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ