Write dream on paper เขียนฝันลงแผ่นกระดาษสู่อนาคต

8.9

เขียนโดย sakuhap

วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 17.38 น.

  6 หน้าที่
  4 วิจารณ์
  8,712 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559 18.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) มนุษย์ป้าขี้นินทาและความทรงจำข้างทาง...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมเล่าเหตุการณ์ให้หมอมาวฟัง ตั้งแต่ที่ผมออกมาขายของจนกระทั่งผมโดนปล้น หมอมาวฟัง

อย่างตั้งใจก่อนจะเอ่ยปากพูดออกมา

  "น่าสงสารจัง...หมอก็อยากจะช่วยนะแต่..หมอจำเบอร์ของบ้านอรุณไม่ได้แต่น่าจะพอให้อาศัพ

ที่คลีนิกได้ แล้วเดี๋ยวช่วงวันพุธ-ศุกร์คลีนิกจะเปิดลองมาช่วยหมอทำงานละกันเดี๋ยวหมอจะให้เงิน

เดือนอาทิตย์ละ1,000ละกัน เพื่ออรุณจะได้ไปทำตามฝัน ส่วนวันธรรมดาเธอจะไปทำอะไรก็ได้

หรือจะดูแลสัตว์ในนี้ก็ได้"หมอมาวเสนอ ซึ่งผมก็พยักหน้าทันที หมอมาวคือผู้มีพระคุณกับผม

อย่างสูงมาก เพราะไม่ฉะนั้นผมอาจจะร่อนเร่ก็ได้... ตอนนั้นผมน้ำตาจะไหลเลยล่ะครับ...แต่ผมก็

ยังมีอุปสรรคอีกนะ เฮ้อ..... พนักงานที่อยู่กับหมอมาวซักประมาณ2-3คน โดยเฉพาะผู้หญิงผม

น้ำตาลอายุราวๆ30กว่าๆ ชอบมองผมด้วยหางตา แล้วก็แอบไปนินทาผม นินทาทีเสียงนี่ยังกะ

โทรโข่ง แต่ผมชินแล้วล่ะ...คำนินทาน่ะ แต่หมอมาวและพี่สรัญที่เป็นคนดูแลอยู่ที่นี่ยังคงช่วย

ผม...พระเจ้าครับขอบคุณนะครับ..ตอนนี้โอเลี้ยงเองก็ปลอดภัยดีอยู่กับเพื่อนๆสุนัขกันสบายเชียว

แค่นี้ผมก็อิ่มใจแล้ว แต่แล้วครั้งหนึ่ง.....

  "นี่เธอๆ รู้เรื่องของหมอมาวกับหมอบันน่ะ..บลาๆ"ผู้หญิงนักนินทากำลังนินทาหมอมาวกับลับ

หลังอย่างสนุก ผมไม่ได้คิดอะไรมากตอนนั้นผมกำลังให้อาหารสุนัขและสัตว์อื่นๆอยู่ 

  "นี่ๆ พวกเธอน่ะไปทำงานซะสิ"พี่สรัญที่เป็นหัวหน้าของพนักงานมาไล่ให้พวกเขาไปทำงาน ซึ่ง

มนุษย์ป้า ผมขอเรียกอย่างนี้แทนละกันครับ ก็ไปพร้อมถอนหายใจออกมา ผมแอบสะใจนิดนึงด้วย

ล่ะฮ่าๆ แต่ว่าหลังจากพี่สรัญเดินไป ยัยมนุษย์ป้า ก็เดินมาที่ผม

  "เธอน่ะ! เป็นคนไปบอกอีสรัญใช่ไหม!!"มนุษย์ป้าโมโหใส่ผม ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย นี่สินะ

มนุษย์ป้า

  "ผะ...ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ"ผมปฏิเสธ เธอผลักผมล้มลงก็จะตบเต็มแรงใส่หน้าของผม

  "แกน่ะ!มันก็แค่เศษขยะไร้ค่า แต่ทำไมใครๆก็อยากปกป้องแก เพราะอะไร? เพราะแกน่ะมันน่า

สมเพช!! ไอ้ชั้นต่ำ! พวกบ้านที่เลี้ยงแกน่ะเพราะอยากรังแก แกล่ะมั้ง!"มนุษย์ป้าด่าผม ด่ามา

ฉอดๆ ผมไม่ได้คิดอะไร ผมเคยชินกับมันไปซะแล้วล่ะ ผมพยายามหาทางหนีออกมา ก่อนจะรีบ

กลับไปให้อาหารสัตว์เช่นเดิม ยัยมนุษย์ป้าก็ยังคงด่าผมต่อฉอดๆ บางทีผมก็คิดนะ คนพวกนี้เกิด

มาเป็นคนทั้งที ไหงดีแต่เอาปากเห่าใส่คนอื่นเพื่อให้ตนเองดูสูงศักดิ์? เอาความด้อยของผู้อื่นมา

ตอกย้ำช้ำใจ...เฮ้อ...น่าเบื่อนะบางทีเนี่ย...

  "แกเมินฉันอย่างงั้นเรอะ!"ใช่ครับ ผมไม่อยากฟังคุณเห่าต่อไปมันน่ารำคาญแต่ผมไม่ได้พูดออก

ไปหรอก ฮ่าๆ ถึงอยากจะพูดก็ตาม

  "ได้ เมินได้เมินไป ฉันก็ไม่ได้อยากจะคุยกับแกหรอก!"อ้าว...ไม่ได้อยากคุยแล้วที่ด่าผมฉอดๆ

อย่างงี้คืออะไรครับ?? ระบายน้ำลายออกจากร่างกายเพราะมากเกินไปรึไง 

  "ไงทุกคน~ วันนี้มีเพื่อนใหม่มาด้วยล่ะ"หมอมาวเดินตรงดิ่งมาพร้อมกล่องลังเน่าๆใบหนึ่ง ซึ่ง

หากเปิดดูก็จะเห็นลูกสุนัขน่ารักๆนอนพุงป่องอยู่ น่ารักมากๆครับ ตอนนั้นผมยังไม่มีกล้องเลยไม่

ได้ถ่ายมาให้ดูน่ะครับ 

  "ไปได้มาจากไหนหรอครับ?"ผมถามหมอมาวไปด้วยความสงสัย พวกพนักงานต่างเดินมาดูลูก

หมาแล้วอมยิ้มเล็กๆให้กับความน่ารัก บ้างก็ไปเตรียมกะลามังกับฝักบัวเพื่อรอจับอาบน้ำ

เพราะเจ้าพวกนี้มันมอมแมมมากๆ ซึ่งมันจะดีกว่านี้ครับ...ถ้า...นังมนุษย์ป้านั่นทำหน้าขยะแขยง

  "เจ้าพวกนี้น่ะ โดนทิ้ง เฮ้อ...ก็ไม่เข้าใจนะ เลี้ยงสัตว์กันก็ไม่พาไปทำหมัน พอลูกคลอดก็ไม่

เลี้ยงดูเอามาทิ้งเอามาปล่อย พอบอกให้ไปทำหมันก็บอกมันบาป ทั้งๆที่การเอามาทิ้งเนี่ยบาป

หนักหนาเลยล่ะ แถมบางตัวก็เอาชีวิตไม่รอดไม่ป่วยก็อุบัติเหตุ...มนุษย์หนอมนุษย์"หมอมาวบ่น

แล้วเอามือลูบหัวน้องหมาอย่างเอ็นดู ถูกของเขานะครับเพราะก่อนที่ผมจะมาเจอโอเลี้ยงก็ไปเจอ

กับพี่ชายคนหนึ่งเป็นผู้ชายที่ดูดีมีฐานะมากๆมานั่งร้องไห้อยู่ข้างๆถังขยะ ตอนแรกผมก็นึกว่าพี่เขา

อกหักก็เลยดื่มเหล้าเมาแล้วมานั่งระบายทุกข์กับถังขยะ ซึ่งผมคิดผิด...เขา...ร้องไห้...น้ำตา

ฟูมฟาย...ผมอดใจไม่ไหวเลยเดินตรงดิ่งเข้าไปถามเขา เขาก็บอกว่าเขาได้คบกับผู้หญิงคนหนึ่ง

เขาสวยมาก น่ารัก ใครๆก็หมายปอง เขาทั้ง2ได้ซื้อลูกสุนัขมาเลี้ยง ดูแลประคบประหงมดีมาก...

แต่แล้ว...ความรัก ความผูกพันธ์ที่ไม่ใช่ครอบครัวสักวันก็ต้องมีแตกหัก...เขาทั้ง2ทะเลาะกัน

หนักมาก แต่ก็ตกลงกันว่าฝ่ายหญิงจะเอาสุนัขไปเลี้ยงดูซึ่งเขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่แล้ว...

เขากลับได้รับข้อความในโทรศัพท์จากแม่ของหญิงสาว เธอบอกว่าลูกของเธอมีปัญหาทางจิต

จู่ๆเธอก็คว้าค้อนที่วางอยู่ในโรงจอดรถขึ้นมา....แล้วเธอก็เดินไปหาสุนัขตัวนั้น...จากนั้นเธอก็

หัวเราะขึ้นมาแล้วเอาค้อนฟาดเจ้าสุนัขตัวนั้นอย่างบ้าคลั่ง คุณพ่อของหญิงสาวพยายามจะเข้าไป

ห้ามปรามแต่ก็ไม่สำเร็จ...เจ้าสุนัขตัวนั้นถูกฟาดอย่างรุนแรงและหลายครั้งจนเสียเลือดมาก...จน

จากไปในที่สุด...ฝ่ายคุณพ่อของหญิงสาวขณะห้ามปรามก็โดนลูกหลงจนเกิดรอยฟกช้ำบริเวณ

ศรีษะ...พี่ชายรู้สึกตกใจมากและเลือกที่จะตรงไปยังบ้านของหญิงสาวเพื่อไปรับร่างไร้วิญญาณ

นั้นมาฝังไว้ที่บ้านของตน เมื่อไปถึงเขา...ทรุดเข่าลง...กอดร่างๆนั้นแน่นแล้วร้องไห้ออกมา

โทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง...โทษที่ตัวเองดูแลไม่ดี...ขอโทษทุกๆอย่าง...แต่...การที่เรา

จะย้อนอดีตได้มันก็คงเป็นไปไม่ได้......สายไปแล้วล่ะ...แต่! ถ้าเรื่องมันจะจบง่ายๆ...ผมคงไม่

เอามาเล่าหรอก พี่ชายเล่าต่อว่าหลังจากนั้นอีก3วัน พี่สาวคนนั้นกลับมาหาเขาอีกด้วยดวงตาที่

บวมตุ่ย เธอบอกว่าเธอขอโทษและสำนึกผิดอยากจะไปลาหน่อย...ซึ่งพี่ชายก็เห็นว่าไม่มีอะไร...

เลยให้ไปหา พอร่ำลาได้ เธอกลับบอกว่า ขออยู่ต่อสักพัก เขาก็อนุญาตโดยหารู้ไม่ว่า...จะเกิด

อะไรขึ้น หญิงสาวหายตัวไปพร้อมด้วยหลุมที่ว่างเปล่า ชายหนุ่มตกใจมาก เขาทำอะไรไม่ถูกได้

แต่ตะโกนถามแต่ละคนว่าเห็นพี่สาวคนนั้นไหม ด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอ เขาวิ่งไปทั่ว ถามทุกบ้าน

ถามทุกหลัง ถังขยะทุกถัง จนมาถึงถังขยะปัจจุบันที่พวกเราอยู่...เขาเปิดออกก็พบว่า...ว่างเปล่า

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแทรกระหว่างการสนทนาของเราทั้ง2 นั่นคือเบาะแสสุดท้าย เมื่อพี่ชายได้ยิน

กลับร้องไห้ออกมาไม่หยุด มือไม้อ่อนระทวย...ไม่รับหรือวางสายโทรศัพท์ต่อ...เสียงร้องไห้ของ

พี่เขาดังมาก...เสียงๆนั้น...กลบเสียงโหวกเหวกของทุกๆคนไป เสียงร้องปานหัวใจแตกสลาย

เบาะแสสุดท้ายคือ...พี่สาว...กระโดดลงมาจากสะพานลงสู่แม่น้ำลึกที่ไม่มีวันจะพบเจอพร้อมด้วย

ร่างของสุนัขตัวนั้น...

  'เธอจะไม่มีวันกลับมา....เธอจะหายไปตลอดกาล....และจะไม่มีวันพบเจอ'แม่ของหญิงสาว

ร่ำไห้ก่อนจะวางสายโทรศัพท์ไป พี่ชายร่ำไห้ออกมาด้วยความโศกเศร้าอาลัย ขอโทษและโทษ

ตนเอง ในทุกๆสิ่ง...แต่บัดนี้เขาไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว...สูญเสียทั้งคนรัก...และมิตรสหาย4ขา

เขาจะไม่มีวันได้พบอีกแล้ว...แม้แต่ร่างที่ไร้วิญญาณ....ดวงใจของเขาแทบสลาย...ผมเอง...

ก็ไม่สามารถที่จะปลอบใจเขาได้เลย....ผมไม่สามารถเข้าถึงความรู้สึก...ที่ต้องสูญเสีย...ได้เลย

ผมได้แต่...นั่งข้างๆเขาฟังเขาร้องไห้จนจบ ใช่...ผมทำได้แค่นั้น... 

  "ขอบคุณนะ..."พี่ชายคนนั้นกล่าวออกมา ทำเอาผมงงไปเลยล่ะ พี่ชายหันมายิ้มให้กับผมแล้ว

ยิ้มให้ ถึงแม้ว่า...น้ำตานั้น...จะยังไหลอยู่ก็ตาม....แต่ตอนนั้นผมได้ทำหน้าเอ๋อๆงงๆ ฮ่าๆ ก็ไม่

เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ซึ่งพี่เขาก็คิดอย่างงั้นแล้วเขาก็หัวเราะออกมาดังลั่นเลยล่ะ

  "ทำไมทำหน้าเอ๋ออย่างงั้นล่ะ ฮ่าๆ!"พี่ชายเอามือยีหัวผม เล่นซะยุ่งกระเซอะกระเซิงเลย 

ก่อนที่จะลุกขึ้นมาบิดเนื้อบิดตัวราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

  'ร้องไห้ไป ของที่เสียไปแล้วก็ไม่กลับมาหรอก'นั่นคำสุดท้ายที่พี่ชายกล่าวออกมาพร้อมด้วย

รอยยิ้มแล้วจากไป...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา