ใต้เงาจันทร์

-

เขียนโดย Giants_tee

วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.49 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  4,334 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559 11.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

มาต่อค่าา...

 

ณ โรงเรียนนานาชาติโจเซฟ...

 

 

 

"ที่นี้แบ่งออกเป็น ตึกอาคารเรียนของ ม ต้น ม ปลาย ส่วนหอพักจะแยกฝั่งชายหญิง นักเรียนส่วนใหญ่เรียนที่นี้กันมาตั้งแต่ระดับมัธยมต้น แต่บ้านของเธอแจ้งมาว่าเธอมีปัญหาด้านสุขภาพจึงต้องเรียนเองอยู่ที่บ้าน” ผู้อำนวยการยังคงอธิบายขณะตาก็ลอบมองท่าทางของนักเรียนใหม่ที่เดินตามหลัง

 

 

 

“ฉันแปลกใจแทบแย่ที่เทภาวัฒน์ติดต่อมา บอกว่าเธอพร้อมที่จะมาเป็นนักเรียนของเราในปีนี้ จริงๆตัวฉันก็เป็นห่วงเกี่ยวกับพื้นฐานการศึกษาของเธอ แต่ดูจากผลสอบเทียบของเธอ ท่าทางพี่ชายของเธอจะเป็นอาจารย์ที่ดีซะเหลือเกินนะ”

 

 

 

ชินฟังบ้างไม่ฟังบ้างขณะลากกระเป๋าเดินตามไป หอพักอยู่ลึกไปจากตัวโรงเรียน เขาทอดสายตาไปตามเส้นทางที่ดูกว้างขวาง การตกแต่งออกไปทางย้อนยุคแต่ก็คงความดูดี คงเพราะตัวผู้ก่อตั้งโรงเรียนที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ การตกแต่งเลยยิ่งดูแปลกตาจากอาคารทั่วไป ไม่ช้าผู้อำนวยการก็ส่งต่อเขาให้แก่เด็กสาวอีกคนที่มาคอยอยู่

 

 

 

 

 

เด็กสาวตรงหน้าก้าวตรงเข้ามาหา ใบหน้าของหล่อนดูเด็กและเต็มไปด้วยรอยตกกระ ผมสีดำถูกมัดรวบตึงเป็นหางม้า เธอมองมาก่อนจะยิ้มกว้างส่งให้

 

 

 

“สวัสดี เราชื่อกระต่ายนะ คุณดารินสินะ” เธอเอ่ยถามพร้อมส่งยิ้มที่เผยให้เห็นซี่ฟันหน้าที่ดูเด่นราวกับฟันของกระต่าย" เราเป็นกรรมการหอ แล้วก็เป็นเพื่อนข้างห้องเธอด้วย มีอะไรก็ถามได้นะ" เด็กสาวเอ่ยขึ้นขณะมองสังเกตใบหน้าของชินของอย่างสนใจ

 

 

 

"ฝากเค้าด้วยนะ สำหรับเธอดาริน ต้องการอะไรเพิ่มก็ให้มาหาครูได้ที่ห้องอำนวยการนะ" ว่าแล้วผู้อำนวยการก็เดินจากไปทิ้งเขาไว้กับเด็กสาว

 

 

 

ต้นไม้มากมายตลอดทางเดินทำให้ตึกทั้งหลังดูร่มรื่น เสียงผู้คนดังขึ้นเป็นระยะไปตลอดทาง ขณะที่เดินไปตามอาคารของหอพัก หลายครั้งที่พบว่านักเรียนคนอื่นที่เดินสวนมาหยุดและซุบซิบอะไรบางอย่าง สายตาก็เหลือบมองมาหาคนทั้งคู่

 

 

 

คงเป็นเรื่องแปลกสำหรับที่นี้กับการมาเข้าเรียนเอาตอนมัธยมปลาย โรงเรียนเอกชนที่ค่าเทอมแพงหูฉีกแถมยังเต็มไปด้วยลูกผู้ดี ชินได้เพียงแอบคิดขณะที่แกล้งมองเลยทำเป็นไม่สนใจ จนกระทั้งไม่นานกระต่ายก็พามาหยุดอยู่หน้าห้องพักบนชั้นสอง

 

 

 

 

 

“คุณต้องได้เข้าไปอยู่ในกลุ่มจันทร์ฉายแน่”กระต่ายบอกขณะพาร่างมาใกล้ๆ “ก็เธอเป็นคนจากวิริยอนันต์นี้หนา ตระกูลเธอดังมากเลยรู้ไหม”

 

 

 

“หากลุ่ม อะไร ..นะ”

 

 

 

สายตากระต่ายที่มองชินราวกับเธอนั้นไม่มีทางที่จะไม่เข้าใจในเรื่องที่เอ่ยมา

 

 

 

“202 นี่ห้องของคุณ ส่วนนี่กุญแจ กระต่ายอยู่ห้องถัดไปนี้เอง ว่าแต่...นี้ก็เย็นมากแล้ว กินอะไรมารึยัง ถ้ายังเดียวเอากระเป๋าไปไว้แล้วกระต่ายจะพาไปหาอะไรกินที่โรงอาหารของโรงเรียน แต่ขอเดินไปหยิบของก่อนแล้วจะมาเรียกอีกทีละกัน”

 

 

 

เธอบอกก่อนยื่นกุญแจมาให้พร้อมพุ่งตัวไปยังห้องของเธอ

 

 

 

 

ชินค่อยๆไขประตูเข้าไป มองสำรวจภายในห้องไปจนทั่วและพบว่าไม่มีผู้ใดอยู่ รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนหน้าขาว ห้องสีขาวนวลดูกว้างขวาง ข้าวของครบครันสมกับเป็นโรงเรียนผู้ดี เขาแอบโล่งใจนิดๆเมื่อพบว่ามีห้องน้ำอยู่ในตัวห้อง

 

 

 

กระเป๋าถูกวางลงบนเตียงริมหน้าต่างที่ยังว่าง ในห้องประกอบด้วยโต๊ะเตียงสองชุด ชินทอดสายตามองไปยังข้าวของสีสันสดใสด้วยสีหน้ากังวล ใจพาลนึกไปถึงเจ้าของห้องอีกคนที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

 

 

 

หวังว่าพระองค์จะเห็นใจและประทานเพื่อนร่วมห้องที่หูหนวกตาบอดให้แก่ผม เจ้าตัวตั้งต้นอธิฐานในใจ ถ้าได้ผมจะสวดมนต์ให้ทุกวัน อาเมน...

 

 

 

แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ชินชะงักสายตาละไปจากข้าวของในกระเป๋าก่อนลุกไปเปิดประตู เป็นกระต่ายที่มาตามไปหาอะไรกินนั้นเอง เธอมองไปยังข้าวของของชินที่ถูกกองไว้อย่างสนใจและก่อนที่เธอจะพุ่งเข้ามาวุ่นวายกับข้าวของและพบกับอะไรที่เธอไม่ควรจะเจอ ชินก็รีบตั้งท่าหิวโหยและลากเธอออกไปหาอะไรกิน

 

 

 

 

 

ขณะเดินตามกระต่ายไปยังโรงอาหารที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากหอพัก กระต่ายหยุดทักทายผู้คนไปตลอดราวกันเธอเป็นเพื่อนกับคนทั้งโรงเรียน ขณะที่ชินได้เพียงยิ้มเมื่อกระต่ายแนะนำเด็กใหม่กับใครๆที่เธอหยุดทัก และหากมองไม่ผิดไปมากนัก ดวงตาหลายคู่ดูจะพร้อมใจมองเขาราวกับได้เจอของแปลก

 

 

 

“ใครๆก็สนใจคุณรู้มั้ย!”เธอกระซิบ“ไม่ค่อยจะมีใครเข้ามาเรียนที่นี้เอาตอนมัธยมปลายหรอกนะจ๊ะ พวกที่เรียนมัธยมปลายที่นี้นะเรียนกันมาตั้งแต่มัธยมต้นทั้งนั้นล่ะ” รอยยิ้มพลายผุดขึ้นมาบนหน้าของผู้เอ่ย

 

 

 

แล้วก่อนที่ทั้งคู่จะก้าวเข้าไปด้านในของโรงอาหารที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน เสียงทักทายก็ดังขึ้นจากชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่มีน่าตาหล่อเหล่า เด็กหนุ่มเดินนำอยู่ในกลุ่มคนอื่นๆที่เดินตามกันมาเป็นกลุ่มคณะ

 

 

 

"ว่าไงน้องกระต่าย มาหามื้อเย็นกินกันหรอครับ"

 

 

 

" พี่วายุจะไปแล้วหรอค่ะ แหม...น่าเสียดายจัง" กระต่ายเก็ฉีกยิ้มกว้างขวาง เธอรีบจูงดารินตรงดิ่งเข้าไปในกลุ่มอย่างว่องไว เธอเอ่ยตอบและไม่ลืมที่จะแนะนำเพื่อนใหม่ให้คนทั้งกลุ่มได้รู้จัก

 

 

 

"วันนี้ต่ายพานักเรียนใหม่มาหามื้อเย็นกินค่ะ นี้คุณ ดาริน เพิ่งย้ายมาเป็นนักเรียนใหม่ของโรงเรียนเรา คุณดารินนี้คือพี่วายุ พี่เค้าเป็นประธานนักเรียนคนปัจจุบันจ้าา"

 

 

 

"อ้อ... เธอคือเด็กใหม่คนที่ทำข้อสอบเทียบของโรงเรียนได้เกือบเต็มนี้เอง” สายตาทึ่งๆหลายคู่มองดิ่งมาตามเสียงพูดของเด็กหนุ่ม และก่อนที่เขาจะต้องตกเป็นเป้าสายตาหนักไปกว่านี้ วายุก็ก้าวเข้ามายืนตรงหน้าเด้กใหม่อย่างพิจารณา

 

 

 

" สูงดีนะเรา สนใจมาเป็นนักกีฬาของโรงเรียนไหม เด็กใหม่อย่างเธอควรจะหากิจกรรมอะไรทำนะ หรือถ้าไม่สนใจกีฬาก็มาคุยที่สภานักเรียนสิ พวกเราอาจจะมีตำแหน่งอะไรที่ยังว่างสำหรับคนหัวดีแบบเธอก็ได้"

 

 

 

ชินไม่แปลกใจกับสิ่งที่คนตรงหน้าเอ่ยทัก เด็กผู้หญิงรอบตัวเขาดูจะเล็กลงทันตาเมื่อต้องมายืนอยู่ข้างๆ การเติบโตตามวัยของชินเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้เทภาวัตน์ต้องเดือนเนื้อร้อนใจ เขาถูกสั่งห้ามเล่นกีฬา ตั้งแต่อายุสิบสองมาก็ต้องกินยาต่างๆที่ผู้เป็นพี่หามาให้ราวกับคนไข้อาการหนัก แต่ก็คงเพราะมาตรการต่างๆของเทภาวัตน์ ร่างกายที่เติบโตจึงดูเพรียวบางไม่บึกบึนอยากที่ควรเป็น.

 

 

 

"คงไม่สนใจค่ะ ขอบคุณที่ชวนนะคะ"

 

 

 

ว่าแล้วเขาก็ลากกระต่ายออกมาจากกลุ่มคนโดยไม่พยายามจะสนใจสายตาที่มองตามหลังมา เด็กหนุ่มที่เอ่ยชวนได้แต่ยืนอึ้งกับการปฏิเสธแบบตัดเยื่อใย ก่อนที่จะเหล่ตามองเด็กสาวคนสวยที่เดินหนีไปด้วยรอยยิ้มท้าทายราวกับได้เจอของเล่นชิ้นใหม่เข้าแล้ว

 

 

 

กระต่ายมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ ในทันที่ที่ทั้งคู่นั่งลงพร้อมอาหารเธอก็ต่อว่าขึ้นมาทันที

 

 

 

“ทำไมคุณถึงปฏิเสธรุ่นพี่ไปแบบนั้นละ” เธอกระซิบ “พวกที่เรียนที่นี้นะ อยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของสภานักเรียนทั้งนั้น แต่คุณกลับปฏิเสธมันแบบไม่คิดเลยด้วยซ้ำ” รอยยิ้มเหยียดผุดขึ้นมาบนหน้าผู้พูด กระต่ายเองก็ฝันที่จะได้เข้าไปส่วนหนึ่งของสภานักเรียน และตอนนี้เธอก็ยังต้องพยายามอยู่ เพื่อจะก้าวไปสู่จุดนั้น

 

 

 

“โทษที พอดีรินไม่ถนัดกับการอยู่กับคนเยอะๆนะ แล้วเรื่องกีฬาก็คงไม่ไหว ร่ายกายของรินไม่ค่อยดีเหมือนคนอื่นๆนะ ตั้งแต่เด็กก็ไม่เคยเล่นกีฬาอะไรมาก่อน" เขาเอ่ยพร้อมส่งความนัยให้กระต่ายรู้ว่า ตอนนี้เขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมใดๆ นอกจากที่จำเป็นต้องยุ่ง

 

 

 

"น่าเสียดายชะมัด แต่ที่พี่วายุก็พูดก็จริงนะตอนที่กระต่ายเห็นคุณครั้งแรก ยังคิดอยู่เลยว่าตัวคุณสูงอย่างกับนางแบบ แถมยังเรื่องที่คุณทำข้อสอบได้เยอะขนาดนั้นอีก พระเจ้า มันยากมากเลยรู้มั้ย ทั้งสวยทั้งหัวดีนี้ชักอิจฉาแล้วสิเรา” กระต่ายส่งสายตาทึ่งๆมองตรงมา

 

 

 

ชินได้เพียงยิ้มตอบ อย่างน้อยแม้เขาจะไม่ได้เรียนมัธยมต้นเหมือนใครๆ แต่ก็ค่อนข้างมั่นใจในความรู้ต่างๆของตน อาจารย์คนเดียวตลอดมาสำหรับชินก็คือเทภาวัตน์ ซึ่งมั่นใจว่าหากชายหนุ่มปรารถนา นายแพทย์หนุ่มสามารถทำให้อีกฝ่ายรู้สึกราวกับกำลังนั่งเรียนอยู่ในโรงเรียนกวดวิชาได้ และนั้นละคือสิ่งที่ชินเจอมาตลอดห้าปี

 

 

 

แล้วก็....เรื่องหุ่น แน่นอนเขาคงจะสูงขึ้นกว่านี้อีกแน่ คิดแล้วก็แทบจะยิ้มเยาะออกมาเมื่อจินตนาการไปถึงใบหน้าของเทภาวัตน์ ในวันที่ต้องพาน้องสาวในร่างยักษ์ไปอวดใครๆ มันก็คงขำอยู่ไม่น้อยหากไม่ติดตรงที่ยักษ์นางนั้นก็คือตัวเขาเอง..

 

 

 

 

“กระต่าย...ต่อไปเรียกรินเฉยๆดีกว่านะ เราก็อายุเท่ากันนี้หนา” ชินเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรที่ฉาบบนหน้า แม้ตั้งใจว่าจะยุ่งเกี่ยวกับคนอื่นให้น้อยที่สุด แต่เพื่อให้เขาอยู่ที่นี้ได้โดยง่ายก็อาจต้องผูกมิตรกับเพื่อนใหม่เอาไว้บ้าง

 

 

 

กระต่ายยิ้มกว้างรับคำ เด็กสาวกระตือรือร้นที่จะรับรู้เรื่องต่างๆเกี่ยวกับตัวเพื่อนใหม่ ชินเองก็เพียงตอบบ้างไม่ตอบบ้าง แต่ก็ยังเลือกที่จะพูดถึงเรื่องตัวเองให้น้อยเข้าไว้ บทสนทนาต่อมาจึงกลายเป็นเรื่องราวของกระต่ายไปเกือบทั้งหมด แถมก่อนกลับกระต่ายยังชวนเขาไปเยี่ยมชมรมการแสดงขอโรงเรียนที่เจ้าตัวแสนภูมิใจ

 

 

 

ไม่ต้องสงสัยที่ชินปฏิเสธไปทันที ทั้งคู่แยกกันตรงทางแยกของอาคาร แต่ก่อนจะกลับไปถึงตัวหอพัก ชินก็เหลือบไปเห็นกลุ่มของประธานที่นั่งรวมกันอยู่ไม่ไกลจากเส้นทางที่เขาต้องตัดผ่าน บทสนทนาก่อนหน้าสร้างความยุ่งยากใจให้กับชิน เขาตัดใจเลี่ยงไปอีกทางเสียเพื่อหลบหน้าคนเหล่านั้น แต่เพราะความที่เป็นเด็กใหม่ยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่ ชินจึงเริ่มพาตัวเองออกนอกเส้นทาง ไม่ช้าก็เดินหลงเข้าไปยังอาคารเก่าๆและพบว่ามันคือโรงเพาะต้นไม้ที่ไร้ผู้คนสันจร

 

 

 

ทันทีที่มองไปเจอเหล่าต้นไม้เล็กๆมากมายที่รายล้อมออกดอก ด้วยความที่ชื่นชอบต้นไม้อยู่เป็นทุน เขาจึงเดินอ้อยอิ่งสำรวจจนกระทั้งรู้ตัวว่าชักจะออกนอกเส้นทางไปไกล ชินตัดใจหันกลับไปยังทางเดิมที่ผ่านมา ฟ้าที่เริ่มเป็นสีครามทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้า แต่ก่อนที่เดินไปพ้นจากประตู จมูกก็แตะเข้ากับควันบุหรี่ที่ลอยลิ้วมาตามลม

 

 

 

"เธอไม่ได้รับอนุญาติให้เข้ามาที่นี้"

 

 

 

เสียงร้องทักจากเด็กหนุ่มที่นั่นสูบบุหรี่ไปไม่ห่างทำให้ชินถึงกับสะดุ้ง ข้าวของในอาคารที่ถูกนำมาวางเกะกะทำให้ชินมองไม่เห็นเด็กหนุ่มคนนี้ในก้าวแรกที่เข้ามา ชายหนุ่มผิวแทนแต่งกายด้วยชุดของโรงเรียนยังคงมองมาที่เธอด้วยสีหน้าเฉยชา ผมยาวผ่านการกัดเป็นสีแดงถูกรวบมัดแน่นไว้ข้างหลัง ในขณะที่ปากเจ้าตัวก็ยังคงพ่นควันบุหรี่ต่อไปแบบไม่ใยดี

 

 

 

"ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าที่นี้ห้ามเข้า" เขารีบบอกขณะที่ก้าวเท้าหันหลัง แต่ต้องกลับไปทางไหนนี้สิคืออีกปัญหา...

 

 

 

"คือ..พอดีฉันน่าจะหลงทางนะคะ ไม่ทราบคุณจะพอบอกทางกลับไปยังหอหญิงของนักเรียนปีสี่ได้ไหมค่ะ"

 

 

 

มีแววประหลาดใจฉายขึ้นในแววตาของเด็กหนุ่ม ก่อนจะปรากฏรอยยิ้มเยาะประหลาดที่ชินก็ไม่เข้าใจ เด็กหนุ่มทิ้งบุหรี่ลงและลุกเดินเข้ามาหาชินอย่างพิจารณา ใบหน้าที่ถึงจะดูเฉยชาแต่ก็เป็นใบหน้าที่จัดว่าดูดีเมื่อเปรียบเทียบกับเด็กหนุ่มมากมายที่เขาได้เจอในวันนี้ แม้แววตาจะดูอวดดีไปซักหน่อย แต่ก็คงจะดีกว่าอีตาประธานนักเรียนที่มองชินด้วยท่าทางทำให้เขาไม่อยากเข้าใกล้

 

 

 

"เธอไม่มุกอื่นจะเล่นแล้วหรือไง" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ เผยรอยยิ้มเล็กที่มุมปาก "แต่ไงก็ช่างเถอะ ไหนๆก็อุตสาถ่อมาหาฉันถึงในนี้ หน้าตาเธอก็ไม่แย่เท่าไรหนิ มาทำให้มันจบๆกันไปจะได้ไม่เสียเวลา "

 

 

 

"เดี๋ยวๆ...พูออะไรของนาย เข้าใจอะไรผิดแล้วละ ฉันแค่อยากจะถามทางกลับ อุ๊บ!!!!!"

 

 

 

ไม่ว่าพลาง เด็กหนุ่มพุ่งตัวเข้ามาจูบเขาแบบไม่ทันตั้งตัว ชินที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ได้เพียงยืนช๊อคปล่อยให้อีกฝั่งรั้งหน้าจูบต่อไป แต่ทันทีที่ตั้งสติได้ เขาก็พลักก่อนประเคนหมัดเน้นๆเข้าไปที่หน้าของอีกฝ่ายสุดแรง เด็กหนุ่มถึงกับเซจนล้มลงไปชนกับโต๊ะที่ตั้งอยู่ไม่ห่าง และก่อนที่เจ้าตัวจะหายมึนและลุกขึ้นมาได้ เด็กสาวที่สาวหมัดใส่ก็หายวับไปกับสายลม ปล่อยให้ตัวเขาได้แต่มึนไม่หายว่านี้คือเรื่องจริง หรือแค่ฝันไปกันแน่...

 

 

 

บ้าจริง....ผู้หญิงบ้าอะไรหมัดหนักฉิบเปง!!!!

 

 

 

ชินที่โกยแนบแบบไม่คิดวิ่งตรงไปตามทางอย่างไม่สนใจว่ามันจะนำเขาไปยังที่ไหน นี้มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ยังไม่ทันครบวันเขาก็ต้องมาโดนคนแปลกหน้าจูบ แค่คิดกลับไปถึงฉากที่เพิ่งประสบมาขนตามตัวก็พากันลุกไปแทบทั้งตัว หลังจากเตลิดวิ่งหนีออกมาได้ไกลก็พบว่าตัวเองกำลังวกกลับมายังทางเดิมที่เคยผ่าน และก่อนที่ชินจะตัดสินใจวิ่งต่อไป ก็เป็นเสียงกระต่ายที่ร้องเรียกเขาจากข้างหลัง

 

 

 

"เฮ้...ริน ทำไมยังอยู่ที่นี้อยู่อีกละ อ่าว... ทำไมหน้าแดงแล้วก็หอบแบบนั้น!!!"

 

 

 

ขินหายใจลึกไว้ขณะพยายามทำตัวให้ปกติ นี้เป็นครั้งแรกที่เขาดีใจที่ได้เจอเด็กสาวคนนี้อีกครั้ง ขณะที่มองซ้ายมองขวาก่อนพาร่างตัวเองไปยืนอยู่ข้างๆอีกฝ่าย

 

 

 

"พะ...พอดีอยากจะเดินสูดอากาศแล้วก็หลงนิดหน่อยค่ะ โชคดีที่เจอกระต่าย เรารีบกลับไปที่ห้องกันเถอะ แล้วนั้นถืออะไรมาด้วยเยอะแยะ"

 

 

 

กระต่ายยิ้มกว้างตอบ เธอซื้อขนมมากมายมาเพื่อจัดงานต้อนรับเล็กๆให้แก่เพื่อนใหม่นั้นเอง...

 

 

 

........................อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นต์ติชมกันด้วยนะคะ (>_<)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา