ราชินี แพนทัสเนีย
7.7
เขียนโดย LittleBlue
วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 01.44 น.
9 ตอน
0 วิจารณ์
10.71K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 14.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ชายแปลกหน้า
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความดวงตาซึ่งมีขนตางอนยาวขยับเบาๆและค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นนัยตาสีทองอาร่าม ‘เพดานหิน?’ เจ้าของดวงตาทองคำนึกฉงนในใจ เสียงแตกหักเบาๆของไม้และกลิ่นเผาไม่ที่มาพร้อมกับไออุ่น ทำให้หญิงสาวรู้ว่ามีกองไฟอยู่ข้างๆ ‘แปลว่ามีคนอื่นอยู่’ หญิงสาวดวงตาสีทองคิดในใจ เงาตะคุ่มๆใกล้ๆที่มีความเคลื่อนไหวเรียกความสนใจของเธอ หญิงสาวเอียงหน้าไปดูทำให้เห็นชายหนุ่มผมยาวดำทะมึน ใบหน้าคมค้ายติดเย็นชา ‘ใคร?’ เป็นสิ่งแรกที่เธอคิด ก่อนจะกลายเป็น ‘แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?’ จากนั้นคำถามมากมายก็ผุดขึ้นมาในสมองเธอจนทำให้อาการปวดศีรษะที่ทุเลาลงเกิดปวดขึ้นมาอีก เธอสงเสียงครางออกอย่างช่วยไม่ได้ แม้มันจะเบามากแตาดูเหมือนชายหนุ่มจะได้ยินเพราะเขาหันมามองเธอ สายตาของทั้งสองสบเข้าหากัน ดวงตาของชายหนุ่มนั้นดำมืดไม่ต่างกับสีผมของเขา หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความพิศวงจากดวงตาคนเข้มคู่นั้น มันทำให้คำถามในใจเธอหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อชายหนุ่มเลี่ยงสายตาไปทางอื่นและตั้งหน้าตั้งตาลงมือจัดการกับหม้อต้มอาหารต่อไปราวกับเมื่อกี้เขาไม่เห็นว่าเธอตื่นแล้วหญิงสาวถึงได้สติ เธอไม่รอช้าเอ่ยถามอย่างกระตือลือล้นแต่เสียงที่ออกมากลับแผ่วเบาแหบแห้ง “เกิดอะไรขึ้นคะ คือว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง แล้วคุณคือ?” แทนที่ชายตรงหน้าจะให้คำตอบเขากลับลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับเอื้อมมีอหมายจะดึงผ้าห่มออก หญิงสาวตกใจขึ้นมาพร้อมกับจับผ้าห่มแน่นไม่ยอมปล่อย
“คุณจะทำอะไรนะ?!” หญิงสาวขึ้นเสียงสูง ชายหนุ่มตรงหน้าเธอขมวดคิ้ว “อะไรของเจ้า ข้าก็จะดูอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าไง” หญิงสาวกระพิบตาปริบๆกับคำตอบแล้วจึงดึงผ้าห่มออก ทำให้รู้ว่าข้อเท้าเธอบวมจนน่าใจหาย “ขอโทษคะที่โวยวายไป แต่คุณช่วยตอบคำถามของฉันได้ไหมคะ” ชายหนุ่มถอนหายใจและทำหน้าเหนื่อยหน่าย หญิงสาวที่เห็นสีหน้าแบบนั้นได้แต่แอบด่าอยู่ในใจเพราะยังต้องการให้เขาตอบคำถามเธอ ‘คนอะไรใจแคบ แค่ตอบคำถามทำหน้าเหมือนให้วิ่งขึ้นเขาเอเวอเรสต์’ “เจ้านอนไม่ได้สติอยู่ตรงกองหิมะไม่ไกลจากนี่” ชายหนุ่มพูดไปพร้อมกับพันข้อเท้าเธอ หญิงสาวกัดฟันเบาๆด้วยความเจ็บ ‘นอกจากใจแคบแล้วยังมือหนักอีกด้วย’
“แล้วที่นี่ อยู่ไกลจากตัวเมืองมากาดานมากไหมคะ (หนึ่งในชื่อเมืองของประเทศรัสเซีย)” หญิงสาวถามอีก “ไม่” เป็นคำตอบสั้นได้ใจความจากชายหนุ่ม หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยไม่พอใจกับคำตอบแต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร ชายหนุ่มก็เอ่ยตัดหน้า “เสร็จแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” พูดจบคนตัวโตกว่าก็ทำท่าจะจากไปทันที โดยการเก็บของและสัมภาระทั้งหมดของเขา หญิงสาวเบิกตาตกใจ “เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนคุณจะไปแล้วทิ่งฉันไว้แบบนี้หรอ คุณช่วยฉันก็ต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุดสิ!” เอาจริงๆเธอก็ไม่อยากรบกวนคนที่พึ่งรู้จักหรอกแต่สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เธอไม่มีทางเลือก เธอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จริง คนตัวสูงที่เตรียมตัวจะไปชะงักเท้าของตัวเอง เขาหันไปมองคนที่เรียกร้องความรับผิดชอบจากตัวเขา ‘กล้ามาก’ คือสิ่งที่ชายหนุ่มคิดพร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน ทำให้รู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้อารมดีสักเท่าไหร่ แต่คิ้วของเขาก็ค่อยๆคลายออก “แล้วถ้าข้าช่วยเจ้า ข้าจะได้อะไร” ได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็หันเหสายตาไปมาอย่างครุ่นคิดก่อนตอบ “แล้วคุณต้องการอะไรละ เงิน? ไหม ตอนนี้ฉันไม่มีแต่ถ้าคุณฉันกลับไปฉันก็มีให้”
“ไม่” ชายหนุ่มตอบทันควัน ทำให้หญิงสาวหนักใจ จริงๆแล้วในใจของเธอก็คิดอยู่หรอกว่าชายผมดำเบื้องหน้าไม่น่าจะสนใจเงินแต่เธอไม่รู้จริงๆว่าจะให้อะไรเขาดี “งั้นคุณต้องการอะไรหละ ถ้าไม่เกินความสามารถของฉัน ฉันก็จะให้” หญิงสาวพูดเสียงหนักแน่น
ชายหนุ่มพยักหน้าราวกับรอให้หญิงสาวพูดแบบนั้นก่อนจะตอบ “ข้าต้องการให้เจ้ามาเป็นราชินีของข้า” หญิงสาวทำสีหน้าไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน “คุณล้อฉันเล่นรึเปล่า ราชินีของคุณ?” ชายหนุ่มใช้สายตาคมจ้องเธออย่างจริงจังราวกับจะบอกเธอว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
“ถ้าไม่ตกลง ข้าก็จะไปแล้ว รีบๆตอบอย่าทำให้เสียเวลา” ได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวจึงพยักหน้า “ได้” ‘เดี๋ยวเราค่อยคุยกับเขาทีหลังก็แล้วกัน แล้วตกลงใหม่’ หญิงสาวนึกในใจ ชายหนุ่มตรงเข้ามาหาเธอก่อนจะยกตัวเธอขึ้นอย่างง่ายดาย จากนั้นพวกเขาก็ออกจากที่นั่น เมื่อเห็นข้างนอก หญิงสาวจึงได้รู้ว่าเธออยู่ในถ้ำ ข้างนอกนั้นเต็มไปด้วยหิมะ ลมแรงและหนาวเย็นจนหญิงสาวได้แต่ขยับเข้าใกล้อกแกร่ง เขาพาเธอไปหาม้าตัวหนึ่งก่อนจะขึ้นขี่ไปพร้อมมีเธอในอ้อมกอด ‘เอ๊ะสมัยนี้เขายังขี่ม้าอยู่อีกหรอ?’ หญิงสาวนึกสงสัยก่อนจะยึดเกาะคนตัวโตกว่าด้วยความกลัวตกจากม้า ‘แต่บางทีอาจเป็นเพราะที่นี่มันบ้านนอกมั้ง’ หญิงสาวหาเหตุผลมาตอบข้อสงสัยของตัวเอง ม้าวิ่งมาได้พักใหญ่แล้วมาหยุดที่หน้าสิ่งก่อสร้างที่เหมือนปราสาทที่ทำจากหิน หญิงสาวเบิกตาตกใจ ‘นี่มันอะไรกัน บ้านใคนเขาสร้างเป็นปราสาทแบบนี้ แล้วยังทำด้วยหินหมดเลยนี่มันอะไรกันเนี่ย’ คำถามผุดขึ้นมาในหัว เธอเริ่มจะทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อชายหนุ่มอุ้มเธอลงจากม้าหญิงสาวก็เรียกสติตัวเองกลับมา “คุณที่นี่มันที่ไหนกันแน่?” หญิงสาวถามคนตัวโตที่กำลังอุ้มเธออยู่ “ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรแพนทัสเนีย และนี่คือบ้านของข้า” ชายหนุ่มตอยหน้านิ่ง หญิงสาวขมวดคิ้ว ‘แพนทัสเนีย? ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่สิ มันไม่มีที่ไหนในรัสเซัยที่มีชื่อๆนี้อยู่”
“อย่ามาล้อฉันเล่นนะ” หญิงสาวเริ่มโวยวาย ชายหนุ่มจ้องมายังคนในอ้อมแขนนิ่งๆ “ไม่ได้ล้อเล่น” เขาตอบอย่างเย็นชา หญิงสาวเงียบปากเธอรู้สึกได้ว่าเขาพูดจริงแต่มันไม่มีเหตุผล หรือว่าเธอจะอยู่ประเทศอื่น ไม่สิทวีปอื่น ไม่เป็นไปไม่ได้เพราะล่าสุดเธออยู่ในรัสเซีย หญิวสาวครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ทุกอย่างมันชั่งไร้เหตุผล
ชายหนุ่มผมเข้มมองเจ้าของใบหน้าอ่อนหวามงดงามที่มาพร้อมกับดวงตาสีทองอย่างสงสัยว่าทำไมหญิงสาวที่พูดไม่หยุดถึงเมื่อกี้อยู่ๆก็เงียบไป เขาตัดสินใจถามเมื่อมาถึงห้องแล้ววางเธอลงบนเตียง "เจ้าสงสัยอะไร?" หญิงสาวสะดุ้งตกใจ นั่นทำให้เขาขมวดคิ้ว ‘หญิงสาวคนนี้ตกใจอะไร’ แต่สีหน้าของเขาก็กลับมานิ่งเหมือนเดิมเมื่อสายตาคู่งามหันมามองเขา
“ฉันไม่เคยได้ยินชื่อแพททัสเนียมาก่อน มันอยู่ที่ไหนของโลกงั้นหรอ?” หญิงสาวรู้สึกแปลกใจที่ชายหนุ่มถามเธอแบบนั้น แต่เธอก็ยินดีที่เขาถามเพราะเธอต้องการคำตอบมากมาย
“ตรงกลาง” หญิงสาวเริ่มทำหน้ากินไม่ลงคลายไม่ออก ‘มันจะเป็นไปได้ยังไง’
“เจ้านะไม่รู้จักหรอก” ชายหนุ่มพูดขึ้น
“ทำไม” หญิงสาวถามทันที
“เพราะ เจ้าไม่ใช่คนที่นี่ เจ้ามาจากที่อื่น” ชายหนุ่มตอบเธอเสียงเนิบนาบ หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปม “คุณหมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจ” ชายหนุ่มถอนหายใจราวกับจะบอกเธอว่ายังไม่เข้าใจอีกหรอ “ก็หมายความว่าที่นี่ไม่ใช่โลกของเจ้า ไม่มีเมืองที่เจ้ารู้จัก หรือประเทศที่เจ้ารู้จัก แม้กระทั่งคนที่เจ้ารูจักก็ไม่อยู่ที่นี่” หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยินแบบนั้น ‘มันจะเป็นไปได้ยังไง นี่มันเรื่องจริงนะไม่ใช่หนังหรือนิยาย หรือว่าเราฝันอยู่’
“แ..ละ..แล้วฉันมาได้ยังไง” นำ้เสียงของเธอสั่นเบาๆ
ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่รู้ อาจหลงมาเพราะเข้าไปในรูหนอน แต่ที่แน่ๆคือเจ้าไม่ใช่คนที่นี่” หญิงสาวเงียบลงเพื่อซึมซับคำพูดของผู้ชายตรงหน้าก่อนจะนึกขึ้นได้ “แล้วคุณรู้ได้ไงหละ ว่าฉันไม่ใช่?”
“เสื้อผ้า วิธีพูด และคำถามของเจ้า” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ‘แล้วก็ข้ายังสัมผัสได้อีกด้วย’ เหตุผลสุดท้ายและเป็นเหตุผลที่สำคัญทราสุดชายหนุ่มไม่ได้พูดมันออกไป
หญิงสาวพยักหน้ากับคำตอบ เธอเริ่มสามารถทำใจกับเหตุการณ์ได้ คนรอบข้างเธอมักพูดเสมอว่าเธอเป็นคนที่ปรัยตัวเร็วและมีสติ “แล้วฉันจะกลับไปที่ๆจากมาได้ไหม?” ชายหนุ่มหรี่ตามองเธอ ก่อนจะพูดโดยไม่ตอบคำถามเธอ “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะเจ้าสัญญาแล้วว่าจะเป็นราชินี เพราะฉะนั้นเจ้ากลับไม่ได้” หญิงสาวเบิกตาโต ‘จริงซิเราต้องทำความเข้าใจกับเขาเรื่องนั้น’ “คือว่าเรื่องนั้นเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม”
“ไม่ได้” เป็นคำตอบที่ทำรายทุกโอกาศจากการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น “แต่...” หญิงสาวไม่ยอมแพ้ แต่ชายหนุ่มก็ขัดขึ้นพร้อมกับดวงตาแข็งกร้าว “วิธีกลับนะถึงจะมี ข้าก็ไม่รู้ อีกอย่างเเจ้าคงไม่คิดจะผิดสัญญาใช่ไหม เพราะถ้าเจ้าผิดสัญญาข้าคงต้องฆ่าเจ้า” หญิงสาวเบิกตากล้างตกใจ “ฆ่าเลยรึ?” ชายหนุ่มไม่ตอบเธอ เขาเดินออกจากห้องปล่อยให้เธออยู่ในอาการตกใจ
หญิงสาวนั่งอยู่บนเตียงอย่างเหม่อลอย ‘ถ้าไม่อยู่ก็ตาย ถ้าจะกลับก็ไม่รู้จะกลับยังไง ถ้าหนีจากที่นี่ก็ไม่รู้ว่าข้างนอกเป็นยังไง ทางไหนก็แย่ไปหมด ทางที่ดีที่สุดดูจะเป็นการทำตามสัญญา ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เฮอะ’ เมื่อจัดแจงความคิดแล้วตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รู้สึกถึงอาการง่วงที่กำลังคืบคลาบเข้ามา ก่อนที่สติเธอจะไปอยู่กับความฝันเธอก็นึกขึ้นได้ ‘ยังไม่รู้เลยว่าชายคนนั้นชื่ออะไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยถามละกัน’
“คุณจะทำอะไรนะ?!” หญิงสาวขึ้นเสียงสูง ชายหนุ่มตรงหน้าเธอขมวดคิ้ว “อะไรของเจ้า ข้าก็จะดูอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าไง” หญิงสาวกระพิบตาปริบๆกับคำตอบแล้วจึงดึงผ้าห่มออก ทำให้รู้ว่าข้อเท้าเธอบวมจนน่าใจหาย “ขอโทษคะที่โวยวายไป แต่คุณช่วยตอบคำถามของฉันได้ไหมคะ” ชายหนุ่มถอนหายใจและทำหน้าเหนื่อยหน่าย หญิงสาวที่เห็นสีหน้าแบบนั้นได้แต่แอบด่าอยู่ในใจเพราะยังต้องการให้เขาตอบคำถามเธอ ‘คนอะไรใจแคบ แค่ตอบคำถามทำหน้าเหมือนให้วิ่งขึ้นเขาเอเวอเรสต์’ “เจ้านอนไม่ได้สติอยู่ตรงกองหิมะไม่ไกลจากนี่” ชายหนุ่มพูดไปพร้อมกับพันข้อเท้าเธอ หญิงสาวกัดฟันเบาๆด้วยความเจ็บ ‘นอกจากใจแคบแล้วยังมือหนักอีกด้วย’
“แล้วที่นี่ อยู่ไกลจากตัวเมืองมากาดานมากไหมคะ (หนึ่งในชื่อเมืองของประเทศรัสเซีย)” หญิงสาวถามอีก “ไม่” เป็นคำตอบสั้นได้ใจความจากชายหนุ่ม หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยไม่พอใจกับคำตอบแต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร ชายหนุ่มก็เอ่ยตัดหน้า “เสร็จแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” พูดจบคนตัวโตกว่าก็ทำท่าจะจากไปทันที โดยการเก็บของและสัมภาระทั้งหมดของเขา หญิงสาวเบิกตาตกใจ “เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนคุณจะไปแล้วทิ่งฉันไว้แบบนี้หรอ คุณช่วยฉันก็ต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุดสิ!” เอาจริงๆเธอก็ไม่อยากรบกวนคนที่พึ่งรู้จักหรอกแต่สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เธอไม่มีทางเลือก เธอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จริง คนตัวสูงที่เตรียมตัวจะไปชะงักเท้าของตัวเอง เขาหันไปมองคนที่เรียกร้องความรับผิดชอบจากตัวเขา ‘กล้ามาก’ คือสิ่งที่ชายหนุ่มคิดพร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน ทำให้รู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้อารมดีสักเท่าไหร่ แต่คิ้วของเขาก็ค่อยๆคลายออก “แล้วถ้าข้าช่วยเจ้า ข้าจะได้อะไร” ได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็หันเหสายตาไปมาอย่างครุ่นคิดก่อนตอบ “แล้วคุณต้องการอะไรละ เงิน? ไหม ตอนนี้ฉันไม่มีแต่ถ้าคุณฉันกลับไปฉันก็มีให้”
“ไม่” ชายหนุ่มตอบทันควัน ทำให้หญิงสาวหนักใจ จริงๆแล้วในใจของเธอก็คิดอยู่หรอกว่าชายผมดำเบื้องหน้าไม่น่าจะสนใจเงินแต่เธอไม่รู้จริงๆว่าจะให้อะไรเขาดี “งั้นคุณต้องการอะไรหละ ถ้าไม่เกินความสามารถของฉัน ฉันก็จะให้” หญิงสาวพูดเสียงหนักแน่น
ชายหนุ่มพยักหน้าราวกับรอให้หญิงสาวพูดแบบนั้นก่อนจะตอบ “ข้าต้องการให้เจ้ามาเป็นราชินีของข้า” หญิงสาวทำสีหน้าไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน “คุณล้อฉันเล่นรึเปล่า ราชินีของคุณ?” ชายหนุ่มใช้สายตาคมจ้องเธออย่างจริงจังราวกับจะบอกเธอว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น
“ถ้าไม่ตกลง ข้าก็จะไปแล้ว รีบๆตอบอย่าทำให้เสียเวลา” ได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวจึงพยักหน้า “ได้” ‘เดี๋ยวเราค่อยคุยกับเขาทีหลังก็แล้วกัน แล้วตกลงใหม่’ หญิงสาวนึกในใจ ชายหนุ่มตรงเข้ามาหาเธอก่อนจะยกตัวเธอขึ้นอย่างง่ายดาย จากนั้นพวกเขาก็ออกจากที่นั่น เมื่อเห็นข้างนอก หญิงสาวจึงได้รู้ว่าเธออยู่ในถ้ำ ข้างนอกนั้นเต็มไปด้วยหิมะ ลมแรงและหนาวเย็นจนหญิงสาวได้แต่ขยับเข้าใกล้อกแกร่ง เขาพาเธอไปหาม้าตัวหนึ่งก่อนจะขึ้นขี่ไปพร้อมมีเธอในอ้อมกอด ‘เอ๊ะสมัยนี้เขายังขี่ม้าอยู่อีกหรอ?’ หญิงสาวนึกสงสัยก่อนจะยึดเกาะคนตัวโตกว่าด้วยความกลัวตกจากม้า ‘แต่บางทีอาจเป็นเพราะที่นี่มันบ้านนอกมั้ง’ หญิงสาวหาเหตุผลมาตอบข้อสงสัยของตัวเอง ม้าวิ่งมาได้พักใหญ่แล้วมาหยุดที่หน้าสิ่งก่อสร้างที่เหมือนปราสาทที่ทำจากหิน หญิงสาวเบิกตาตกใจ ‘นี่มันอะไรกัน บ้านใคนเขาสร้างเป็นปราสาทแบบนี้ แล้วยังทำด้วยหินหมดเลยนี่มันอะไรกันเนี่ย’ คำถามผุดขึ้นมาในหัว เธอเริ่มจะทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อชายหนุ่มอุ้มเธอลงจากม้าหญิงสาวก็เรียกสติตัวเองกลับมา “คุณที่นี่มันที่ไหนกันแน่?” หญิงสาวถามคนตัวโตที่กำลังอุ้มเธออยู่ “ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรแพนทัสเนีย และนี่คือบ้านของข้า” ชายหนุ่มตอยหน้านิ่ง หญิงสาวขมวดคิ้ว ‘แพนทัสเนีย? ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่สิ มันไม่มีที่ไหนในรัสเซัยที่มีชื่อๆนี้อยู่”
“อย่ามาล้อฉันเล่นนะ” หญิงสาวเริ่มโวยวาย ชายหนุ่มจ้องมายังคนในอ้อมแขนนิ่งๆ “ไม่ได้ล้อเล่น” เขาตอบอย่างเย็นชา หญิงสาวเงียบปากเธอรู้สึกได้ว่าเขาพูดจริงแต่มันไม่มีเหตุผล หรือว่าเธอจะอยู่ประเทศอื่น ไม่สิทวีปอื่น ไม่เป็นไปไม่ได้เพราะล่าสุดเธออยู่ในรัสเซีย หญิวสาวครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ทุกอย่างมันชั่งไร้เหตุผล
ชายหนุ่มผมเข้มมองเจ้าของใบหน้าอ่อนหวามงดงามที่มาพร้อมกับดวงตาสีทองอย่างสงสัยว่าทำไมหญิงสาวที่พูดไม่หยุดถึงเมื่อกี้อยู่ๆก็เงียบไป เขาตัดสินใจถามเมื่อมาถึงห้องแล้ววางเธอลงบนเตียง "เจ้าสงสัยอะไร?" หญิงสาวสะดุ้งตกใจ นั่นทำให้เขาขมวดคิ้ว ‘หญิงสาวคนนี้ตกใจอะไร’ แต่สีหน้าของเขาก็กลับมานิ่งเหมือนเดิมเมื่อสายตาคู่งามหันมามองเขา
“ฉันไม่เคยได้ยินชื่อแพททัสเนียมาก่อน มันอยู่ที่ไหนของโลกงั้นหรอ?” หญิงสาวรู้สึกแปลกใจที่ชายหนุ่มถามเธอแบบนั้น แต่เธอก็ยินดีที่เขาถามเพราะเธอต้องการคำตอบมากมาย
“ตรงกลาง” หญิงสาวเริ่มทำหน้ากินไม่ลงคลายไม่ออก ‘มันจะเป็นไปได้ยังไง’
“เจ้านะไม่รู้จักหรอก” ชายหนุ่มพูดขึ้น
“ทำไม” หญิงสาวถามทันที
“เพราะ เจ้าไม่ใช่คนที่นี่ เจ้ามาจากที่อื่น” ชายหนุ่มตอบเธอเสียงเนิบนาบ หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปม “คุณหมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจ” ชายหนุ่มถอนหายใจราวกับจะบอกเธอว่ายังไม่เข้าใจอีกหรอ “ก็หมายความว่าที่นี่ไม่ใช่โลกของเจ้า ไม่มีเมืองที่เจ้ารู้จัก หรือประเทศที่เจ้ารู้จัก แม้กระทั่งคนที่เจ้ารูจักก็ไม่อยู่ที่นี่” หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยินแบบนั้น ‘มันจะเป็นไปได้ยังไง นี่มันเรื่องจริงนะไม่ใช่หนังหรือนิยาย หรือว่าเราฝันอยู่’
“แ..ละ..แล้วฉันมาได้ยังไง” นำ้เสียงของเธอสั่นเบาๆ
ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่รู้ อาจหลงมาเพราะเข้าไปในรูหนอน แต่ที่แน่ๆคือเจ้าไม่ใช่คนที่นี่” หญิงสาวเงียบลงเพื่อซึมซับคำพูดของผู้ชายตรงหน้าก่อนจะนึกขึ้นได้ “แล้วคุณรู้ได้ไงหละ ว่าฉันไม่ใช่?”
“เสื้อผ้า วิธีพูด และคำถามของเจ้า” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ‘แล้วก็ข้ายังสัมผัสได้อีกด้วย’ เหตุผลสุดท้ายและเป็นเหตุผลที่สำคัญทราสุดชายหนุ่มไม่ได้พูดมันออกไป
หญิงสาวพยักหน้ากับคำตอบ เธอเริ่มสามารถทำใจกับเหตุการณ์ได้ คนรอบข้างเธอมักพูดเสมอว่าเธอเป็นคนที่ปรัยตัวเร็วและมีสติ “แล้วฉันจะกลับไปที่ๆจากมาได้ไหม?” ชายหนุ่มหรี่ตามองเธอ ก่อนจะพูดโดยไม่ตอบคำถามเธอ “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะเจ้าสัญญาแล้วว่าจะเป็นราชินี เพราะฉะนั้นเจ้ากลับไม่ได้” หญิงสาวเบิกตาโต ‘จริงซิเราต้องทำความเข้าใจกับเขาเรื่องนั้น’ “คือว่าเรื่องนั้นเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม”
“ไม่ได้” เป็นคำตอบที่ทำรายทุกโอกาศจากการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น “แต่...” หญิงสาวไม่ยอมแพ้ แต่ชายหนุ่มก็ขัดขึ้นพร้อมกับดวงตาแข็งกร้าว “วิธีกลับนะถึงจะมี ข้าก็ไม่รู้ อีกอย่างเเจ้าคงไม่คิดจะผิดสัญญาใช่ไหม เพราะถ้าเจ้าผิดสัญญาข้าคงต้องฆ่าเจ้า” หญิงสาวเบิกตากล้างตกใจ “ฆ่าเลยรึ?” ชายหนุ่มไม่ตอบเธอ เขาเดินออกจากห้องปล่อยให้เธออยู่ในอาการตกใจ
หญิงสาวนั่งอยู่บนเตียงอย่างเหม่อลอย ‘ถ้าไม่อยู่ก็ตาย ถ้าจะกลับก็ไม่รู้จะกลับยังไง ถ้าหนีจากที่นี่ก็ไม่รู้ว่าข้างนอกเป็นยังไง ทางไหนก็แย่ไปหมด ทางที่ดีที่สุดดูจะเป็นการทำตามสัญญา ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เฮอะ’ เมื่อจัดแจงความคิดแล้วตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รู้สึกถึงอาการง่วงที่กำลังคืบคลาบเข้ามา ก่อนที่สติเธอจะไปอยู่กับความฝันเธอก็นึกขึ้นได้ ‘ยังไม่รู้เลยว่าชายคนนั้นชื่ออะไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยถามละกัน’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ