ยัยนักข่าวจอม B*tch!! (18+)
เขียนโดย Kyoso12
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.00 น.
แก้ไขเมื่อ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559 16.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) คนที่ตรงกับใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
(เวลาต่อมา ณ เวลา 2 ทุ่มครึ่ง)
และจนกระทั่งตอนนี้ฉันก็ยังคงทำงานของฉันไม่เสร็จสักที แบบนี้ฉันจะโทรไปชวนแดเนียลได้ยังไงดีละเนี่ยหรือว่าจะยกเลิกนัดก่อนดีละ และตอนนี้คนในแผนกของฉันก็กลับกันไปจนหมดแล้วด้วย...เฮ้อ.....รู้สึกแย่จังที่ยังต้องทำงานอยู่คนเดียวในห้องทำงานแบบนี้ มันเหงาจริงๆนะ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ฉันยังทำงานไม่เสร็จขอเวลาอีกหน่อยนะคะ!” ฉันตะโกนขึ้นหลังจากที่ได้ยินเสียงเคาะประตูเรียก ต้องเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่แน่ๆ เฮ้อ คือฉันยังทำงานของฉันไม่เสร็จเลยนะ!!!!!
“ผมเองครับคุณเจสซิก้า” ต้นเสียงที่กำลังเปิดประตูเข้ามาทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง นั่นแดเนียล! ตายแน่ๆเลยฉันยังทำงานไม่เสร็จแถมยังผิดนัดของเค้าอีก!
“คุณแดเนียล! คือ...ฉันคิดว่าคุณเป็น รปภ. พอดีว่าเค้าชอบมาเคาะประตูเรียกให้ฉันกลับบ้านไปได้แล้วเพราะเค้าจะปิดลิฟต์แล้ว แล้วคุณมาตามฉันเหมือนกันใช่มั้ย”
“ก็ใช่อยู่ คือผมแค่สงสัยว่าทำไมคุณยังทำงานไม่เสร็จอีกทั้งที่ข้างนอกเองก็ไม่เหลือใครแล้วด้วย”
“คืออันที่จริงฉันก็ใกล้จะเสร็จแล้วละ แต่แค่มันยังมีบางจุดที่ต้องแก้ก็เลยช้านิดหน่อย”
“งั้น ผมคิดว่าเปลี่ยนจากไปทานร้านอาหารไปเดินหาอะไรทานข้างนอกดีมั้ยครับ”
“ก็ดีคะ ฉันจะได้เดินคุยกับคุณไปด้วย เอาละเสร็จแล้ว!” ฉันรีบกดเซฟงานในเครื่องและจัดการเก็บของใช้ต่างๆเข้ากระเป๋า ปิดคอมบนโต๊ะทำงานและเดินตรงไปหาแดเนียลที่ยืนพิงประตูรอฉันอยู่
“งั้นก็ไปกันเถอะครับ”
แดเนียลเปิดประตูให้กับฉันและจากนั้นเราก็เดินตรงออกไปที่ลิฟต์ ท่ามกลางความมืดเพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าแผนกของฉันจะปิดไฟหมดแล้ว มีเพียงแสงไฟจากข้างนอกตึกที่สาดส่องเข้ามา
“ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามารอฉันถึงที่นี่”
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็กน้อยว่าแต่คุณเลิกงานช้าแบบนี้ทุกวันมั้ย”
“ไม่เลยปกติฉันเลิกงานเร็วกว่านี้ ก็อย่างที่บอกเลขาของฉันลาไปโรงพยาบาล เพราะว่าต้องไปตรวจครรภ์กับสามีของเธอ”
“ถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดีนะครับ ว่าแต่คุณยังไม่มีแฟนหรอครับ”
แดเนียลถามขึ้นขณะที่เรากำลังเดินออกจากบริษัท และเดินไปเรื่อยๆตามท้องถนน บอกตามตรงนะว่าอพาทเมนต์ของฉันมันอยู่ไม่ไกลมากจากที่ทำงานดังนั้นฉันจึงสามารถเดินไปกลับที่ทำงานกับอพาทเมนต์ได้สบายและรถที่เดลตันซื้อให้ฉันก็จอดทิ้งเอาไว้ที่อพาทเมต์นั่นแหละ!
“คะ ฉันโสดแบบนี้มาหลายปีแล้วจนเพื่อนๆของฉันแต่งงานมีครอบครัวกันไปจนหมดแล้ว”
“อื้ม ตอนแรกที่เจอคุณผมคิดว่าคุณมีแฟนแล้วซะอีก!”
“จริงหรอ! ตอนแรกฉันก็คิดว่าคุณแต่งงานไปแล้วเหมือนกันนะ”
“หลายคนคิดแบบนั้น แต่ตั้งแต่เข้าวงการมาผมก็ไม่เคยมีแฟนเลยนะ”
“เรื่องจริงหรอเนี่ย!”
“ใช่ คือช่วงแรกๆผมไม่ค่อยจะสนใจเรื่องแบบนี้และผมก็คิดว่ามันคงยังไม่ถึงเวลาก็เลยต้องสนใจเรื่องครอบครัวก่อนและดูตอนนี้สิ ผมอายุ 28 แล้วและแม่ก็บ่นเมื่อไหร่ผมจะมีครอบครัวสักที ซึ่งผมก็พยายามจะบอกแม่ว่าผมอยากดูแลแม่ก่อนเรื่องครอบครัวไว้หาตอนอายุ 30 ก็ยังทัน”
“ก็จริงของคุณแต่ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าบางแม่ของคุณอาจจะอยากอุ้มหลาน ตอนที่ยังมีแรงให้อุ้มนะ”
“นั่นก็จริงอยู่...แล้ว..คุณละ”
“พ่อกับแม่ฉันไม่เกี่ยงว่าฉันจะแต่งงานตอนไหนหรือไม่แต่ง ขอแค่พาแฟนมาให้พวกท่านได้รู้จักก็พอ”
“ว้าว ทำไมดีจัง”
“ก็เพราะว่าเมื่อก่อนแม่ฉันท้องฉันตอนอายุ 18 ส่วนพ่อฉันตอนนั้นอายุได้ 23 ปีพึ่งจะเรียนจบปริญญาด้วย แต่แม่ก็ดันมาท้องซะก่อน......สุดท้ายก็เลยต้องเลี้ยงฉันในแบบของแม่ เลี้ยงโดยไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวดสักครั้งและฉันก็ไม่อยากจะให้พ่อกับแม่เสียใจเพราะฉัน ก็อย่างที่เห็นฉันพยายามทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินมากๆ เพื่อจะได้เลี้ยงดูพ่อกับแม่ของฉันได้ แต่สุดท้ายฉันก็กำลังคิดว่างานที่ฉันทำมันเสี่ยงที่จะทำร้ายพ่อกับแม่ฉันทางอ้อมอยู่เหมือนกัน”
“แต่ผมว่าคุณทำดีที่สุดแล้วนะ”
“ไม่หรอก.....คุณยังไม่รู้จักฉันดี ถ้าคุณได้รู้จักฉันจริงๆฉันไม่รู้ว่าคุณจะพูดแบบนี้ได้รึเปล่า”
“อื้ม.....ก็ไม่รู้สินะ เหมือนคุณกำลังพยายามบอกกับผมว่า อย่ามายุ่งกับคุณเลย คุณนิสัยไม่ดีอย่างนั้นนี้นะ แต่ว่าเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆจนกว่าจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองซะด้วยสิ”
“แหม...คุณก็พูดซะเหมือนกำลังจะขอจีบฉันอย่างนั้นแหละ”
“ผมขอไม่ได้จีบคุณสักหน่อย ผมจีบเลยมากกว่า”
“เดี๋ยวสิ!”
“ผมพูดเล่นครับ”
“แหม....ทำฉันตกอกตกใจหมด”
“เอาตรงๆผมไม่กล้าจีบคนสวยแบบคุณหรอก ผมเดาว่าคงมีแต่คนต่อคิวรอจีบคุณเยอะแน่ๆ”
“ไม่หรอกคะ ถ้าฉันไม่สนใจใครฉันก็จะไม่หลุดให้เค้าเข้ามาจีบฉันได้หรอก นอกจากฉันจะอยากให้คน คนนั้นจีบฉันจริงๆ”
“แล้วตอนนี้คุณมีมั้ย”
“ก็อาจจะ...”
“ดีจังเลยนะครับ”
“ก็ไม่รู้สิ แต่ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้คนที่ฉันชอบ มาชอบฉันมากกว่า”
“ผมว่าไม่น่าจะยากเพราะคนสวยอย่างคุณใครเห็นก็ชอบแล้ว”
“แหม ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกยังมีคนสวยกว่าฉันตั้งเยอะ แต่จะว่าไปแล้วฉันว่าเราไปของกินในร้านสะดวกซื้อแล้วไปทานที่ห้องของฉันดีมั้ย เพราะว่าอากาศข้างนอกนี่ก็หนาวพอควรเลย”
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ ว่าแต่คุณ....”
“อะๆๆ ได้โปรดเรียกฉันว่าเจสซี่เฉยๆก็พอ ไม่ต้องเรียกคุณก็ได้”
“ก็ได้ครับ เจสซี่”
“ใช่...แบบนั้นแหละจะได้รู้สึกรื่นหูขึ้นมาหน่อย”
ฉันหันไปยิ้มให้กับแดเนียลเล็กน้อย พลางจ้องมองไปที่ใบหน้าของแดเนียลที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสนจะอบอุ่นนั่น ว้าว! เค้าเป็นคนที่ยิ้มได้น่ารักมากเลย
ฉันชอบที่เห็นเค้ายิ้มแบบนี้จริงๆเลย ฉันกับแดเนียลเดินซื้อของกินต่างๆในร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ และจากนั้นจึงรีบเดินต่อไปยังอพาทเมนต์ของฉันที่อยู่ไม่ไกลนัก พวกเราช่วยกันถือของและขึ้นไปยังห้องของฉันที่อยู่บนชั้น 3 ของอพาทเมนต์แห่งนี้ แม้ จะดูรกไปหน่อยแต่ก็ยังโอเคนะ
“เชิญนั่งก่อนเลย” ฉันบอกให้แดเนียลนั่งลงที่โซฟาในขณะที่กำลังเดินไปหยิบจาน ช้อนส้อม
“ห้องคุณน่ารักดีนะ”
“ขอบคุณ! แต่มันค่อนข้างจะรกสักหน่อยเพราะฉันไม่ค่อยจะมีเวลาจัดการเก็บของสักเท่าไหร่”
“ไม่เป็นไรหรอก เพราะบ้านของผมก็รกแบบนี้เหมือนกัน จนกระทั่งแม่กับน้องสาวย้ายเข้ามาอยู่ด้วยบ้านเลยสะอาดน่าอยู่ขึ้น”
“ว้าว! ฉันนึกว่าคุณจะเป็นพวกรักสะอาดซะอีก”
“ไม่เลย ปกติผมจะไม่พวกรักสะอาดอะไรขนาดนั้น”
“จริงสิ คุณดื่มเบียร์ได้มั้ย”
“ได้ครับ ช่วงนี้ผมก็อยากดื่มเบียร์อยู่เหมือนกัน เพราะตั้งแต่แม่กับน้องสาวของผมมาอยู่ก็ไม่ได้แตะมันอีกเลย”
“ดีคะ งั้นรอตรงนี้สักครู่เดี๋ยวฉันจะไปเอามันมาให้”
ว่าแล้วฉันก็จัดการลุกไปหยิบกระป๋องเบียร์ในตู้เย็นออกมาในขณะที่แดเนียลกำลัง จัดการอาหารที่ซื้อมาใส่จานชามที่ฉันเตรียมเอาไว้ ฉันนั่งลงข้างๆเค้าและจัดการเปิดฝากระป๋องเบียร์ส่งให้กับแดเนียล
“ขอบคุณ เฮ้อ...ได้คุยแบบนี้ค่อยรู้สึกเป็นตัวเองหน่อย”
“ดีแล้วแดเนียล ฉันเห็นคุณเอาแต่ ครับ ครับ แล้วก็ครับอยู่นั่นแหละ ฉันเห็นแล้วอึดอัดแทน”
“ก็ผมเป็นนักแสดงนี่ เวลาอยู่ข้างนอกก็ต้องรักษาภาพพจน์แบบนี้แหละ ว่าแต่คุณดูท่าจะสนิทกับคนดังๆหลายคนอยู่นะ”
“ฉันสนิทด้วยก็เพราะเรื่องงานทั้งนั้นแหละ มีแต่คุณที่ฉันรู้จักโดยบังเอิญ”
“ก็บังเอิญจริงๆที่ผมดันไปเถียงกับพ่อค้าขายฮอตดอกที่คุณรู้จักนี่”
“ก็นั่นแหละ ฉันถึงบอกไง”
“แล้วก็วันที่คุณไปดูคอนเสิร์ตนั่นด้วย..”
“ใช่ๆ นั่นแหละ.....เอ่อ....แล้วคุณอยากได้เบียร์เพิ่มมั้ย”
“เอามาอีกเยอะๆเลยก็ได้ ผมไม่ว่าอะไรหรอก”
“ระวังเมานะ ถ้าเมาก็คงไม่ต้องกลับบ้านอาจจะนอนที่โซฟาตรงนี้แหละ เพราะอากาศข้างนอกตอนกลางคืนก็หนาวมากด้วย”
“ว้าว คุณนี่ร้ายไม่เบานะ”
“ใช่ ผมรู้..เอาละดื่ม!”
“ดื่ม!”
ฉันยกกระป๋องเบียร์ขึ้นชนกับกระป๋องเบียร์ของแดเนียล และจากนั้นเราก็เริ่มดื่ม ดื่มไปเรื่อยๆและหนักขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลาที่เรากำลังดื่มนั้นเราก็ได้พูดคุยกัน ตามประสาคนเมานะ!
แบบว่าฉันหัวเราะพูดไปส่วนแดเนียลเองก็เหมือนกันพูดไปหัวเราะไปแทบจะไม่หยุด และฉันรู้สึกว่ายิ่งเค้าเมาหนักขึ้นเท่าไหร่เค้ายิ่งเขยิบเข้าใกล้ตัวฉันมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆของเค้า
อีกทั้งกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ลอยคลุ้งจนทำให้รู้สึกเวียนหัว และอารมณ์ที่พุ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเราเข้าใกล้มากขึ้นเท่าไหร่อารมณ์ของฉันและแดเนียลก็มากขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งแดเนียลเริ่มใช้ปากของเค้าไปที่ริมฝีปากของฉัน
ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่มาจากแดเนียลทำให้สติของฉันที่มีอยู่เริ่มเลื่อนลอยออกไปจนแทบจะคุมสติเอาไว้ไม่อยู่ เราจูบกันอย่างดูดดื่มจนกระทั้งแดเนียลหยุดและช้อนตัวฉันขึ้นและพาฉันไปยังเตียงนอนฉัน ที่อยู่ไม่ไกลนัก
แดเนียลวางฉันลงบนเตียงอย่างอ่อนโยนก่อนที่มือทั้งสองข้างของฉันจะรั้งคอของแดเนียลเอาไว้และดึงให้แดเนียลเข้ามาใกล้ฉัน ตอนนี้ฉันรู้แค่เพียงว่าอยากจะให้เค้าอยู่กับฉันในคืนนี้ สัมผัสฉัน โอบกอดฉันและทำให้ฉันเป็นของเค้าทีเถอะ มันช่างทำให้ฉันนึกถึงช่วงเวลาที่ฉันมีเซ็กซ์ครั้งแรก และจากนั้นสติของฉันก็ได้หายไป......................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ