The Dancing Room อย่าบอกใคร เก็บไว้คนเดียว

8.5

เขียนโดย AriA

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.44 น.

  5 chapter
  0 วิจารณ์
  6,872 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 09.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Episode 1 - Boulevards

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

*ถอนหายใจ*

 “ฉันรู้, วิลล์” ฟลอยด์เหน็บโทรศัพท์ของเขาด้วยไหล่และดันแก้วเข้าไปในเครื่องทำกาแฟระหว่างคุยกับบางคนในโทรศัพท์

 “แต่ไม่มีใครไหนหรอกนะ ที่สามารถจะตายแบบเปลื้องผ้ากลางถนนได้ โดยไม่มีการจัดฉากหรือถูกฆ่าตาย” สารวัตรยังคงจ้องมองกาแฟทุกหยดที่ไหลมาจากเครื่องทำกาแฟ เหมือนเหยื่อที่ตายทุกๆ วันในเมืองนี้ เขาเพ่งมองโต๊ะที่ว่างเปล่ารอบๆ ตัวเขาและนับตำรวจทุกคนที่สละชีวิตเพื่อคดีนี้

 “ฉันก็คิดแบบนั้นแหละฟลอยด์ แต่พวกชันสูตรบอกว่าเธอตายเพราะได้รับยาเกินขนาด” เสียงพร่ามัวของเขาจากโทรศัพท์ทำให้ฟลอยด์รู้สึกกังวลและกระวนกระวายเหลือเกิน

 “โอเค...” ฟลอยด์หายใจเข้าลึกๆ

 “โอเค วิลล์ ต่อเลย” ฟลอยด์พยายามที่จะเข้าใจเรื่องพวกนี้ให้ถูกต้องที่สุด เพราะตั้งแต่โตมาเขาได้จับเลือดแค่ตอนที่เขาช่วยแม่หมักน่องไก่ กับตอนที่เขาหกล้มเท่านั้น เขาดึงแก้วมัคของเขาออก เขาทำกาแฟหกเล็กน้อย แต่เขาพยายามที่จะไม่สนใจมัน

“อีกอย่าง หลักฐานก็มีไม่เพียงพอ หลักฐานถูกทิ้งไว้น้อยเกินไปถ้าเหยื่อถูกฆ่า” ฟลอยด์ได้ยินเสียงย่ำเท้าบนพื้นกระเบื้อง และเสียงพึมพำแทรกเข้ามาในโทรศัพท์

“อ้าว แล้วถ้าเกิดสมมติว่าเหยื่อถูกวางยาที่สถานที่ใดสถานที่นึง แล้วเหยื่อวิ่งหนีออกมาล่ะ” เขาเดินไปที่โต๊ะของเขา แต่เขาเพิ่งรู้ตัวว่าลืมหยิบช้อน

“นั่นก็เป็นไปได้ แต่นายอย่าลืมสิว่าฆาตกรก็คือฆาตกร ไม่มีทางหรอกที่ฆาตกรจะปล่อยให้เหยื่อหนีเอาเรื่องไปบอกตำรวจ” วิลล์พูด ฟลอยด์ได้ยินเสียงเปิดประตู เขาเดินไปหน้าเครื่องล้างจานและหาช้อนกาแฟในซอกมุมใดซอกมุมหนึ่ง

 “แล้วตอนนี้นายอยู่ที่ไหน” ฟลอยด์ถามตัดประเด็นและหยิบช้อนกาแฟจากเครื่องล้างจาน

 “กำลังจะไปสถานที่เกิดเหตุที่ใหม่” เขาได้ยินเสียงประตูรถปิดและเสียงเครื่องยนต์สตาร์ท

 “อะไรนะ? จริงเรอะ? ที่ไหน?” ฟลอยด์คนกาแฟเขาและจิบมันอย่างมีระดับ ถึงว่าจะไม่มีใครมองเขาก็เถอะ

 “แถบใต้ๆ รัฐชาลเลสสัน น่าจะใช้เวลาอีกสักพัก” เขาได้ยินเสียงเครื่องยนต์ทำงานและลม ฟลอยด์เดินสองสามเก้าและทิ้งตัวลงที่เก้าอี้สีดำที่ไม่ค่อยสะดวกสะบายนัก เขามองบางอย่างที่แล็บท็อปและปรับความสว่างของหน้าจอ

“ฟลอยด์ ฉันจะวางสายแล้วนะ” วิลล์สูดน้ำมูกของเขาดังฟึดฟัดและกดแป้นเบรกจนสุดเท้า แต่ไม่ทันไร ฟลอยด์ก็วางสายลงและโยนโทรศัพท์รุ่นเก่าของเขาบนโต๊ะ ฟลอยด์แหงนมองเพดาน และหมุนเก้าอี้เล่นเหมือนเด็กๆ

เธอหยุดหน้าประตูเสียครูหนึ่ง และค่อยๆ ใช้เท้าซ้ายเก้าเข้ามาในสถานีตำรวจ และผลักประตูจนสุด ฟลอยด์จะตะโกนเรียกเธอว่าประตูเสีย แต่ตอนนี้คงไม่ทันแล้ว

“เธอเป็นอะไรกับเท้าซ้ายรึไง” ฟลอยด์ลุกขึ้นจากเก้าอี้จนเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด เธอดึงเอากำไลออกจากมือด้านซ้าย และเอาข้อมือเช็ดเอาลิปสติกบนริมฝีปากเธอจนเกลี้ยง เธอเลือกที่จะหยิบโทรศัพท์และแกล้งเป็นดูเวลา แทนที่จะสบตากับเขา

“จะได้โชคดีไง แม่ของนายบอกมา” เธอโยนโทรศัพท์บนโต๊ะเหมือนกับที่ฟลอยด์ทำ และก้มไปจ้องเล็บของเธอทีละนิ้วแทน ฟลอยด์เอามือเท้าโต๊ะของเขา

“แล้วเลิกเรียกฉันว่า เธอ ได้แล้ว ฉันไม่อยากเป็นเด็กไร้เดียงสา” เธอถอนหายใจรดมือด้านซ้ายของเธอ และเหลือบไปมองเขาเสี้ยววินาที แต่เขากับเธอสบตากันพอดี เธอหลีกตามองรอบๆ ออฟฟิศแก้อาย แต่เขายังจ้องเธออยู่

“ออฟฟิศนี้ดูสวยขึ้นนะ” เธอเหลือบตามองเครื่องทำกาแฟ และเครื่องล้างจานอันเก่าที่เธอคุ้นเคย

“ไม่มีอะไรอะไรเปลี่ยนแปลงเลยซูซาน” ฟลอยด์ยังจ้องมองเธอเรื่อยๆ เธอมองไปที่เขาและตกใจเล็กน้อย

เธอใช้มือซ้ายทุบไหล่เขาเบาๆ “เลิกมองฉันได้แล้ว ฉันไม่ใช่ศพนะ” เธอพูด แต่เขาก็ยังจ้องมองเธออยู่

“เธอมีอะไร บอกมาตามตรง” เขากอดอกและจ้องเธอไม่กะพริบตา เธอตกใจเล็กน้อยที่เขาสามารถอ่านใจเธอได้ แต่เธอคุ้นเคยกับมัน เพราะเขาแทบจะอ่านใจทุกคนได้ด้วยซ้ำ แต่เธอเลือกที่จะไม่คิดต่อ แต่พยายามเก็บอาการให้เป็นธรรมชาติที่สุด

“เอาตามตรงนะ” ซูซานพูดขึ้นและถอนหายใจ พร้อมกอดอกอย่างที่เธอเคยทำบ่อยๆ ฟลอยด์ผายมือและลากเก้าอี้สีแดงให้เธอนั่ง และเดินมานั่งเก้าอี้ของตัวเอง

“นายรู้จักเอดา โอเชี่ยนแลนด์มั้ย” ซูซานนั่งลงและยื่นรูปของคนที่เธอพูดวางบนโต๊ะอย่างช้าๆ ฟลอยด์จ้องเธออย่างสงสัยสักพัก แล้วดึงรูปนั่นมาดูใกล้ๆ รูปเป็นรูปบัตรประชาชน หน้าตายิ้มแจ่มใส อายุกลางคน เขาดูออกว่าผมสีบลอนด์ของเธอย้อมมาแน่ๆ แต่ผมเธอหนาเหมือนไม่ได้ปรุงแต่งสิ่งใด หน้าตาพอใช้ได้ แต่งหน้าเข้ม ทาลิปสติกแดงตามแบบฉบับหญิงหมู่เกาะ ใส่ชุดเดรสรัดรูปสีแดงสด ใส่สร้อยจี้เพรชรูปหัวใจเม็ดเท่าหัวแม่โป้ง

“พอคุ้นๆ” ฟลอยด์ทิ้งรูปลงบนโต๊ะและจ้องซูซานอีกครั้ง คราวนี้หน้าตาซูซานเปลี่ยนไป แต่ไม่รู้ว่าไปในทางไหน

“เธอคือนักเขียนนิยายแนวฆาตกรรมจากรัฐคาราวิลลินยอดขายล้านเล่ม แต่ตอนที่เธอปล่อยนิยายเรื่องใหม่ ไม่กี่วันหลังจากนั้น ยอดขายของเธอลดฮวบลงมาเหลือ 0.32 เล่มต่อวัน รู้ไหมทำไม” ซูซานเก็บรูปของเธอลงกระเป๋าบาเล็นซิเอก้าของเธอ “ไม่ต้องถามมาก รีบเล่ามา” ฟลอยด์รีบเท้าคางบนโต๊ะและตั้งใจฟังเธอเล่า

“มีคนปล่อยข่าวว่ามีคดีข่มขืนฆาตกรรมต่อเนี่องนึงที่มีนีเนื้อหาเหมือนนิยายของเธอเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว ไม่ได้แค่เหมือน แต่แบบฉบับเดียวกับในนิยายของเธอ ทั้งวิธีการข่มขืน ฆาตกรรมโดยใช้การแทง การวางยา ต่างๆ นานา และรายละเอียดเหยื่อ และจากตอนนั้นถึงตอนนี้ ตำรวจก็ยังจำตัวฆาตกรไม่ได้” ซูซานหยิบคอลัมน์คดีอย่างที่เธอพูดถึง ถูกฉีกและเคลือบพลาสติกอย่างดีมาให้ฟลอยด์ แต่ฟลอยด์ปฏิเสธที่จะหยิบ และวางมันไว้บนโต๊ะแทน “อือหือ” ฟลอยด์ตอบรับ ซูซานชะงักเล็กน้อยและหลุดขำ

“ต่อนะ, คนที่เปิดโปงคือราเชล นอร์ช คู่แข่งเธอที่เคยมีข่าวลือว่าเอดาลอกงานเธอน่ะ จำได้มั้ย คนนั้นแหละที่เปิดโปงพร้อมหลักฐานในหนังสือพิมพ์ และหนังสือต้นฉบับนิยายที่มีชื่อเอดาอยู่” ซูซานหยิบรูปโพลารอยด์มาจากกระเป๋า คราวนี้ไม่ได้ถูกฉีกหรือคัดลอก เป็นมุมแอบถ่ายของการแถลงการอะไรเสียงสักอย่าง

“แต่เดิ๋ยว... คือเธอมาหาฉันเพื่อให้สืบคดีนี้?” ฟลอยด์ถามตรงๆ

“ตอนนี้น่ะไม่ แต่ต่อไปน่ะไม่แน่” ซูซานทำท่ามือประกอบ และดึงเขากลับเข้าประเด็นใหม่

“แต่เดิ๋ยวนะ ที่เธอบอกนี่มันไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่เลยนะ, ถ้านักเขียนเอดานี่จะฆ่าใคร ไม่มีใครที่จะเขียนนิยายเกี่ยวกับฆาตกรรมของตัวเองเมื่อยี่สิบปีต่อมาหรอก อีกอย่างหลักฐานก็ไม่มี บางทีเอดาอาจจะตั้งใจทำเป็นฟิคชั่นอิงความจริงก็ได้ใครจะไปรู้”

“นั่นไงที่ฉันจะถาม” ซูซานแทรก และยื่นรูปภาพเบลอๆ หนึ่งรูป เป็นรูปคนหนึ่ง ใช้ระบบอินฟาเรดถ่ายรูปสีเขียวสด คนในรูปหน้าตาคล้ายเอดาเล็กน้อย แขนสองข้างเปื้อนเลือดเป็นสายกระฉูด ยืนอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง

“ฉันรู้ว่าเธอจะเห็นข้อผิดปกติในรูปนี้” ฟลอยด์มองใกล้ๆ และเห็นว่าเงาของเอดาและเงาของรูปป่าช้าไม่สัมพันธ์กัน และเลือดที่กระฉูดแบบนี้ เกิดจากการที่เส้นเลือดใหญ่ถูกปาดเท่านั้น ไม่เหมือนกับการแทง

“ใช่ เพิ่งรู้เหมือนกันว่าเมื่อก่อนโปรแกรมตัดต่อรูปห่วยแตกขนาดนี้” ฟลอยด์วางรูปลงไปและถอนหายใจเสียงดัง และจ้องซูซานตาเขม็ง เหมือนพยายามส่งสัญญานว่าเขาเริ่มเบื่อแล้ว แต่ซูซานน่าจะไม่เข้าใจ

“นายเห็นใช้มั้ยว่าทั้งหมดนี่มันทะแม่ง...” ทันทีที่ซูซานพูดจบ โทรศัพท์ของฟลอยด์ดังขึ้น

“เขาขอ                                                                                        

การจับมือ

โค้งงอ    

ห้านิ้วนั้น”

 

วิลล์โทรมา

ฟลอยด์รับสายและเปิดลำโพง

ฮัลโหล” เสียงสั่นเครือดังขึ้นทันทีที่ฟลอยด์รับโทรศัพท์ แต่ที่สำคัญ...

 

มันไม่ใช่เสียงวิลล์

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา