บ่วงพิศวาส ทาสอเวจี

7.7

เขียนโดย Annakan

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 00.04 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,760 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559 13.42 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ครอบครัว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 3 ครอบครัว

            “มาครับหนูก้อย” เอกภพอ้าแขนกว้างเพื่อรอรับร่างเล็กๆ ของลูกสาวที่กำลังวิ่งถลามาหาเขา วันนี้วันเกิดครบห้าขวบเต็มของยอดดวงใจ สองแม่ลูกปรึกษากันว่าจะไปเลี้ยงอาหารกลางวันให้บ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งซึ่งเขาก็เห็นดีด้วย

            “คุณพ่อขา หนูก้อยเอาตุ๊กตาไปแบ่งให้น้องหลายตัวเลยค่ะ” ลูกสาวของเขาพูดเสียงเจื้อยแจ้ว

            “หนูก้อยของพ่อน่ารักมากครับ” เอกภพหอมแก้มลูกสาวฟอดใหญ่

            “คุณแม่ช่วยหนูก้อยซัก มือแม่แก้วเป็นแผลเลยค่ะคุณพ่อ” เด็กน้อยเดินไปจูงแม่มาหยุดตรงหน้าคุณพ่อแล้วเอามือบางๆ ที่เป็นรอยถลอกให้ดู

            “ดูสิคะคุณพ่อ” หนูก้อยรบเร้าเมื่อคุณพ่อของเธอไม่พูดอะไรสักคำกับรอยแผลบนมือของแม่ จิตใจดวงน้อยๆ ของเธอเจ็บแปลบตามประสาเด็ก หนูน้อยเป็นห่วงว่าคุณแม่ของเธอจะเจ็บปวดและทรมานกับรอยเล็กๆ นั่น

            “เดี๋ยวคุณแม่ก็หายครับ” เอกภพตอบแบบขอไปที

            “แม่ไม่เจ็บหรอกค่ะหนูก้อย ไปกันดีกว่าเนอะ” ลูกสาวเธอน้ำตาคลอให้กับรอยถลอกนิดเดียว ลูกไม่รู้เลยว่าในใจของเธอมีแผลฉกรรจ์มากกว่านั้นนัก

            “อุ้มหนูก้อยหน่อยค่ะ” ลูกสาวชูแขนขึ้นมาหา เอกภพย่อตัวลงไปอุ้มตัวเล็กๆ ของหนูก้อยมาอุ้มแล้วฟัดแก้มนิ่มๆ

            “คุณพ่อไม่จูงคุณแม่หรอคะ”

            “มา” เอกภพพูดด้วยน้ำเสียงเฉยชาแล้วยื่นมือไปให้เธอ

            สามคนพ่อแม่ลูกออกเดินทางไปบ้านเด็กกำพร้า แก้วแจ้งไปแล้วว่าต้องการเลี้ยงอาหารกลางวันพร้อมขนมหวานหนึ่งมื้อและเธอกับลูกยังเตรียมของเล่นไปให้เด็กๆ ด้วย ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงก็มาถึง

            “ขอโทษทีนะคะที่มาช้า พอดีว่าไม่ชินทาง” แก้วเอ่ยปากขออภัยกับผู้หญิงที่น่าจะเป็นหัวหน้าของบ้านหลังนี้

            “ไม่เป็นไรค่ะ บ้านของเราอยู่ลึกใครมาก็บ่นกันทุกคน นี่หนูก้อยใช่ไหมเอ่ย” สร้อยฟ้าทักทายเด็กน้อยแก้มแดง

            “สวัสดีค่ะ หนูชื่อก้อยค่ะ” ลูกสาวของเธอประนมมือไหว้ผู้ใหญ่ด้วยท่าทางที่แสนน่าเอ็นดู

            “เชิญข้างในดีกว่านะคะ” สร้อยฟ้าเชิญผู้มาเยือนทั้งสามคนให้เข้าไปด้านใน

            ในโรงอาหารมีเด็กอายุประมาณหนูก้อยอยู่เกือบยี่สิบคน บางคนก็พัฒนาการช้า บางคนก็ตาบอด แก้วมองเด็กๆ เหล่านั้นด้วยความปวดร้าวใจ ช่างโชคดีเหลือเกินที่ลูกสาวของเธอเกิดมาครบสมประกอบ

            “เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่ตักอาหารให้เด็กๆ นะคะ ส่วนหนูก้อยเอากล้วยกับเงาะวางไว้ในจานเล็กนะจ๊ะ” สร้อยฟ้าบอกขั้นตอนให้แก่ครอบครัวเล็กๆ สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันตักอาหารให้เด็กๆ ทีละคนจนครบ

            “คุณสามคนเชิญทางนี้เลยค่ะสร้อยให้เด็กๆ เตรียมไว้ให้แล้ว” สร้อยฟ้าผายมือไปที่โต๊ะ

            “กะทิไม่มีอะไรแล้วหนูไปกินข้าวได้เลย”

            กะทิเพิ่งจัดโต๊ะอาหารรับรองให้ผู้บริจาคเสร็จ เธอกวาดตาดูอีกทีว่าทุกอย่างเรียบร้อยและเตรียมตัวจะเดินออกไป

            “ขอโทษค่ะ” เด็กสาวมัวแต่พะวงอยู่กับโต๊ะกลัวว่าอะไรจะขาดไปรึเปล่า เธอเดินถอยหลังออกมามองให้ชัดโดยไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังเดินเข้ามา

            “ผมคิดว่าห้องน้ำอยู่ทางนี้” เอกภพบอกเด็กสาวที่ใส่แว่นตา

            “อยู่ทางนั้นค่ะ ขอโทษนะคะที่เดินชนคุณ” กะทิเดินถอยออกไปแล้วก้มหน้ามองพื้น เธอรู้สึกแปลกๆ กับสัมผัสของผู้ชายคนนี้

            “ไม่เป็นไรครับ คุณทำงานที่นี่หรอครับ” เอกภพสนใจเด็กสาวคนนี้เป็นอย่างมาก หน้าตาของเธอผ่องใสหมดจด กิริยามารยาทสุภาพเรียบร้อยแถมอาการตกใจที่เขาจับแขนเธอเบาๆ เมื่อกี้มันบ่งบอกชัดเจนเลยว่าเด็กสาวตรงหน้าต้องบริสุทธิ์อยู่แน่นอน

            “กะทิอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดค่ะ” เธอตอบแขกผู้มาเยือนโดยไม่ได้สบตาเขา

            “กะทิ กะทิเอ๊ย” เสียงป้าแม่บ้านเรียกหาเธอ

            “หนูขอตัวนะคะ” กะทิบอกแล้วรีบเดินออกไป

            แค่ได้สบตาเธอสัญชาตญาณนักล่าในตัวก็ประทุขึ้นมา เขาอยากได้เด็กคนนี้และเขาจะทำทุกวิถีทางด้วยเพื่อให้ได้ครอบครองและเป็นเจ้าของเธอคนเดียว เขาไม่เคยเชื่อในรักแรกพบเพราะเขาไม่เคยรักใครแต่กับเด็กสาวใส่แว่นคนนี้มันเป็นข้อยกเว้น แน่นอนว่าเขาไมได้รักเธอแต่เขามีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอและถ้าจะให้ดี “กะทิ” ต้องเป็นของเขาคนเดียวไปตลอดชีวิต

            “เอกหายไปไหนมา” แก้วถามสามีของเธอ

            “เข้าห้องน้ำ” เอกภพตอบกลับด้วยความขัดใจ เขาเกลียดเวลาที่แก้วกล้าตั้งคำถามกับเขาและตอนนี้เขายิ่งเกลียดหนักกว่าทุกวันเพราะกำลังหงุดหงิดงุ่นง่าน เด็กสาวคนนั้นหายไปไหนแล้วที่ว่าอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดแปลว่าเธอกำพร้าใช่ไหม

            แก้วสังเกตได้ทันทีว่าสามีของเธอหงุดหงิดอะไรบางอย่างแต่เธอไม่รู้ว่ามันมาจากสาเหตุอะไร เธอมองใบหน้าด้านข้างของเขาแล้วก็ได้แต่น้อยใจ ไม่ว่าสาเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้เขาไม่พอใจหลายๆ ครั้ง คนที่รับกรรมคือเธอ

            “ขอบคุณมากนะคะที่เมตตาเด็กๆ” สร้อยฟ้าเดินมาส่งแขกทั้งสามที่หน้าประตู คนพ่อดูลุกลี้ลุกลนมองซ้ายมองขวาเหมือนหาอะไรบางอย่างแต่เธอก็ไม่ได้เอ่ยปากถาม

            ออกมาจากบ้านเด็กกำพร้าหนูก้อยก็ทวงสัญญาที่ว่าจะพาเธอไปร้านเครื่องเขียน เอกภพจึงขับรถมุ่งหน้าไปที่ห้างสรรพสินค้าแล้วปล่อยให้สองแม่ลูกไปเลือกซื้อของ

            “คาปูชิโน่ร้อนครับ” เอกภพออกมานั่งคอยที่ร้านกาแฟแล้วรีบหยิบมือถืออกมาค้นหาข้อมูลของบ้านเด็กกำพร้า เขากดเข้าไปดูรายชื่อของพนักงานก็ไม่พบกับหน้าใสๆ ของกะทิ เขาไล่กดดูทุกหน้าทุกที่ก็ไม่พบข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์เลย

            สองแม่ลูกกว่าจะเสร็จจากแผนกเครื่องเขียนก็ห้าโมงกว่าเข้าไปแล้วเขาเลยพาหนูก้อยกับแก้วแวะกินอาหารเย็นก่อนกลับบ้านจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหุงหาให้ยุ่งยาก

 

            “ฝันดีนะครับนางฟ้าของพ่อ” เอกภพจูบหน้าผากลูกสาวแล้วปิดไฟห้องนอนให้เธอ เขากลับมาห้องตัวเองแก้วกำลังนั่งทาครีมอยู่ ถึงเธอจะมีลูกแล้วแต่ส่วนสัดและความเต่งตึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปสักนิด

            แก้วจบกระบวนการประทินผิวหน้าของเธอทุกคืนด้วยการฉีดน้ำแร่กลิ่นหอมจางๆ ลงไปทั่วใบหน้าแล้วเธอก็มาล้มตัวลงนอนที่เตียง สามีของเธอนอนเล่นมือถือเหมือนทุกคืน

            เอกภพมองภรรยาที่นอนหันหลังให้ด้วยสายตาวาว แผ่นหลังนวลเนียนของแก้วเขารู้ดีว่านุ่มมือขนาดไหน สะโพกผายที่เขาเคยบีบเคยขยำมานับครั้งไม่ถ้วนมันก็นิ่มหยุ่นเหลือเกิน เขาเขยิบเข้าไปประกบหลังเธอแล้วเอื้อมมือไปคลึงหน้าอกคู่งามที่เคยหลงใหล

            “เอก แก้วเหนื่อย” แก้วพยายามดึงมือของสามีออกจากทรวงอก

            “ก็เรื่องของคุณ” เอกภพไม่สนใจ เขาสอดมือเข้าไปในชุดนอนแล้วบี้หัวนมของเธอ อีกมือก็เลื้อยไปที่กึ่งกลางลำตัวของหญิงสาวที่เขาเลี้ยงไว้เพื่อระบายอารมณ์

            “ไหนว่าเหนื่อย” เอกภพยิ้ม เปียกฉ่ำซะขนาดนั้น

            แก้วได้แต่กัดปากตัวเองด้วยความโมโห ไม่ว่าเอกภพจะเลวร้ายกับเธอยังไงและบางครั้งเธอจะชิงชังเขาแค่ไหนแต่ร่างกายของเธอไม่เคยปฏิเสธผู้ชายคนนี้เลยสักครั้ง ในส่วนลึกของจิตใจเธอรักเอกภพและเธอก็โหยหาสัมผัสและการแนบชิดจากเขาเหลือเกิน

            เอกภพจับให้ร่างบางนอนหงายแล้วเขาก็ถอดชุดนอนออกไปให้พ้นตัว หัวนมสีอ่อนถูกโลมเลียด้วยเรียวลิ้นหนาสาก มือทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกตรึงแน่นอยู่บนที่นอน

            “เอก แก้วเจ็บ” เอกภพดูดดุนและกัดลงไปเบาๆ ตรงผิวเนื้ออ่อนที่หน้าอกอวบหยุ่น

            “เป็นเมียก็ต้องยอมผัวสิแก้ว” เอกภพตอกย้ำสถานะที่เธอหวงแหนและกอดเกี่ยวมันไว้สุดกำลัง

            “อ๊า” แท่งเนื้อหัวบานกระแทกเข้าไปในทางรักสุดลำ เอกภพหลับตาแน่นแล้วนึกถึงหน้ากะทิระหว่างที่เขาซอยเอวเข้าออกอย่างบ้าคลั่งกับร่างบางๆ ของภรรยา

            “เอก เบาๆ” แก้วหัวสั่นหัวคลอนไปทั้งร่าง เอกภพไม่เคยยั้งแรงกับเธอสักครั้ง

            “อย่าพูดมาก” เขาปล่อยมือของเธอให้เป็นอิสระแล้วจับขาเรียวให้แบะอ้าออกจากกัน พูเนื้อสีแดงสดปลิ้นออกมาพร้อมน้ำเมือกใสๆ เอกภพบดบี้เม็ดสวรรค์ของเมียแล้วกระหน่ำท่อนเนื้อจนเธอตาค้างเพราะแรงบดอัดที่แสนรุนแรง

            “โอวว” สามีของเธอกระแทกรัวๆ สิบกว่าครั้งเป็นชุดสุดท้ายแล้วเขาก็ฉีดน้ำข้นๆ ใส่เต็มทางรักของเธอ เมื่อเขาเสร็จสมตามที่ต้องการก็พลิกตัวไปนอนอีกฝั่งของเตียงแล้วหลับไปทันที

           

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา