นักรบจันทรา

7.0

เขียนโดย Sagestone

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.34 น.

  29 ตอน
  0 วิจารณ์
  24.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มกราคม พ.ศ. 2560 20.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) ตอนที่ 25

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 25

                ห้าวันผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย ในที่สุดก็ถึงเวลาประลองของนางเสียที ลาควีล่า ลาเรสยืนกลางลานหน้าปราสาทหักพักด้วยไฟสงครามเมื่อหลายสิบปีก่อน รอให้คู่ต่อสู้ของนางปรากฏตัว ชายผู้อยู่ตรงนั้นคือหนึ่งในสองคนที่นางรัก เป็นทั้งคู่ต่อสู้ คนรัก และอาจารย์ เมื่อถึงเวลาเลือกนางต้องเลือกอย่างจำใจ เวเบอร์พร้อมยอมตายเพื่อนาง ทั้งสองไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ ทว่าแผนการกลับเปลี่ยนไปภายหลัง

 

                “ข้าแกล้งแพ้ให้เจ้าไม่ได้จริงๆลาควีล่า หากทำแบบนั้นเราจะตายทั้งคู่! การสังเวยชีพของข้าจะเสียเปล่าหากเจ้าตาย” เวเบอร์พูดกับนางอย่างนี้ก่อนการประดาบ

 

                ราวกับรู้ว่าถึงเวลาสำแดงพลังที่แท้จริง ลาควีล่าแทบไม่เชื่อตาตัวเองเหมือนกันที่แต่งตัวด้วยเกราะรบของไซเรน่าซึ่งนางสามารถใส่ได้พอดี ทั้งหมวกทั้งสนับแข้ง แม้แต่เกราะอกยังยอมให้นางใช้งานราวเป็นเจ้าของเก่าผู้ล่วงลับ

 

                “ครั้งนี้เป็นศึกตัดสินลาควีล่า ขอให้เจ้าแสดงพลังออกมาเต็มที่ เราจะไม่มีการออมมืออีกแล้ว” เวเบอร์ผู้สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาราวกับออกมาทานอาหารพูดเกริ่นก่อนต่อสู้เหมือนเคย เพื่อให้ดูเป็นทางการมากยิ่งขึ้น

 

                “เราจะไม่มีการลอบแทงข้างหลัง ใช่ไหม” ลาควีล่าดักทาง

 

                “หากนั่นนับการข่วน กัด หรือจิ้มตาด้วยล่ะก็ใช่” เวเบอร์รับมุกนางเหมือนทุกที “มีอะไรจะสั่งเสียไหม ไม่ข้าก็เจ้าที่จะต้องตายในวันนี้”

 

                ทั้งคู่ยืนอยู่กลางมวลมนุษย์และปิศาจนับพันที่เฝ้าดูการประลองตัดสินชะตากรรมอย่างสนอกสนใจ ไบรอัน ดาริอุส และเนอร์วาน่ายืนดูอยู่ที่ริมขอบลานประลอง คอยกันไม่ให้ลูกหลงจากการต่อสู้ไปโดนเหล่าทหารกล้าด้านหลัง

 

                “ข้าขอกอดท่านได้ไหม เป็นครั้งสุดท้าย” ลาควีล่าพูดอย่างเคร่งขรึมแม้คนรักที่นางเลือกจะเป็นไบรอันก็ตาม

 

                “ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะเผลอออมมือ เจ้าจะโดนฆ่าไม่ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร” เวเบอร์ชักดาบปีกวิหคขึ้นมาเตรียมต่อสู้ ลาควีล่าลดกระบี่ลงเล็กน้อยด้วยความลังเลในใจ

 

                “อย่างนั้นข้าจะกอดศพท่านแทน แบบนี้ใช้ได้หรือเปล่า” ลาควีล่าพูดอย่างถือดี อีกฝ่ายก็พยักหน้ายิ้ม ๆ

 

                การต่อสู้ของทั้งสองเริ่มขึ้นด้วยการประดาบอย่างเคย ลาควีล่ารู้สึกได้ทันทีว่าแรงกดดาบที่ฟาดฟันลงมานั้นหนักหน่วงและรวดเร็วจนแทบหลบไม่ได้ กระนั้นก็ยังมีช่องว่าให้นางเสียบดาบลงไปสร้างบาดแผลบนตัวเวเบอร์ได้หลายครั้ง

 

                ยิ่งสร้างรอยแผลให้เวเบอร์ด้วยกระบี่เล่มนี้ก็ยิ่งทำให้โอกาสที่เขาจะใช้เวทมนตร์ได้ลดลงไป เวเบอร์สามารถใช้เวทมนตร์เพื่อเพิ่มพลังกล้ามเนื้อได้ การที่โดนแผลจากดาบสลายเวทก็เท่ากับไม่สามารถใช้เวทมนตร์เพื่อรักษาแผลหรือทำให้ส่วนนั้นแข็งแกร่งขึ้นได้อีกแล้ว!

 

                “ขอถามหน่อยได้ไหม ข้ารู้เรื่องท่านมาหลายอย่างเลยละ จากเรมิเอล” ลาควีล่าจ้อระหว่างประดาบจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

 

                “ธรรมดาเวลาฟันดาบกันข้าไม่ชอบคุยหรอกนะ แต่เห็นว่าเป็นเจ้า จะถามอะไรก็ถาม”

 

                “จริงหรือที่ว่าท่านพลั้งมือฆ่าพ่อตัวเอง โดยการเรียกเรมิเอลออกมาช่วยตอนเด็ก”

 

                คงเป็นคำถามที่โดนจุดเจ็บของเขา เวเบอร์ชะงักกึก คมกระบี่เฉียดใบหน้าของเขาเป็นแผลเล็กๆ

 

                “นกปากมากนั่น!” เวเบอร์ถอยกลับไปตั้งหลัก คงรู้สึกเสียหน้าที่โดนรู้เรื่องในอดีต

 

                “จริงหรือ ข้าขอโทษที่พูดขึ้น นึกว่าเรมิเอลโกหกเสียอีก” ลาควีล่าผงหัวขอโทษ แล้วจ้วงแทงอีกฝ่ายอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมพูดคุยประกอบเสียงดาบประสานกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อย่างนั้นก็เป็นเรื่องจริงด้วยล่ะสิ ที่ท่านโดนทารุณตอนวัยเด็ก”

 

                “ต้องการอะไรกันแน่จึงพูดเรื่องนี้ขึ้น” เวเบอร์ถอยกรูดด้วยกังวลว่าหญิงสาวจะมีแผน “ข้าไม่ยืนร้องไห้นิ่ง ๆ รอให้เจ้าแทงหรอกนะ”

 

                “มันน่าสงสารน่ะสิ” ลาควีล่าลดกระบี่ลง

 

                ความทรงจำที่ได้พูดคุยเกี่ยวกับเวเบอร์ระหว่างนางกับเรมิเอลทำให้หญิงสาวได้รู้หลายสิ่งหลายอย่าง เวเบอร์เคยสูญเสีย ถูกทำร้าย แล้วก็สูญเสียอีก กระทั่งได้พบกับพี่บุญธรรม มันหลอมรวมกับความสนุกในการประดาบจนกลายเป็นความรู้สึกหนึ่งขึ้นมา

 

                นางต้องเก็บซ่อนมันเอาไว้เวลาอยู่กับคนรักเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น ไม่ให้มิตรภาพของพวกเขาขาดกลางลงเพราะนาง

 

                “ข้าสงสารท่านจริง ๆ เวเบอร์” ลาควีล่าหลั่งน้ำตาออกมาโดยไม่รู้ตัว

 

                “ข้าไม่ต้องการความสงสารจากศัตรู” เวเบอร์ไม่ยอมลดคมดาบลง

 

                “ข้าหมายความตามนั้นจริง ๆ เวเบอร์ ชีวิตของท่านช่าง น่าเศร้า” ลาควีล่าพูดออกมาจากใจจริง พูดโดยไม่รู้ว่าจากนี้ไปนางยังกล้าหันดาบเข้าหาเวเบอร์อีกหรือไม่

 

                “เทพีผู้ให้เลือดกับเจ้าเยอะเกินไปท่านนั้นเป็นเทพีแห่งความรักและเมตตา ไม่แปลกเลยที่เจ้าจะเสียน้ำตากับเรื่องเล็ก ๆ แค่นั้น ลองเป็นอย่างที่เทพีผู้นั้นต้องการให้เจ้าเป็นสิ เป็นเครื่องจักรสังหารอย่างไรล่ะ!” เวเบอร์พูดแล้วทะยานหันคมดาบหันเข้ามาอีก คราวนี้นางเบี่ยงตัวหลบไม่ยอมเข้าปะทะเหมือนก่อนหน้า

 

                “อย่าช้าสิ” เวเบอร์เตือนเบา ๆ

 

                ในจังหวะนั้นเองรากไม้ก็งอกเงยขึ้นจากผืนดินยึดร่างและแขนสองข้างของลาควีล่าเอาไว้ พร้อมกันนั้นดาบของเวเบอร์ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟก็ฟาดฟันร่างนั้นขาดเป็นสองท่อนไฟลุกท่วม

 

                “ท่านก็อย่าช้า” ลาควีล่าปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเวเบอร์ด้วยความช่วยเหลือของซีซาร์ กระบี่ทิ่มแทงลงต้นขาซ้ายของเวเบอร์ทะลุ เขาร้องลั่นถอยหนีด้วยกำลังที่มีซึ่งไปได้ไกลโข “เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่าความสามารถที่แท้จริงของซีซาร์คือมายา ไม่ใช่เปลวไฟอย่างเดียว”

 

                เวเบอร์สบถเมื่อสิ่งที่เขาหั่นและเผาไปค่อยๆมอดดับเพราะไร้เชื้อไฟ เวเบอร์ที่ขาซ้ายใช้ไม่ได้มีแต่ต้องกัดฟันตัดขาเหนือรอยแทงเพื่อให้สามารถขยับได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง

 

                “ลงทุนทำขนาดนั้นเลยหรือ” ลาควีล่าร้องอย่างหวาดเสียวที่เวเบอร์บ้าบิ่นขนาดตัดขาตัวเองทิ้งเพื่อให้ใช้เวทมนตร์กับขาส่วนที่เหลืออยู่ได้ บัดนี้เวเบอร์ลอยได้ด้วยเวทมนตร์บางอย่างซึ่งนางเองก็ไม่เข้าใจว่าทำได้อย่างไรในเมื่อโดนแทงด้วยดาบสลายเวทหลายต่อหลายครั้ง

 

                “ข้าประมาทเอง” เวเบอร์คำรามเบาๆ “อย่างนั้นมายาก็ต้องเจอกับมายา”

 

                ดาบเวทมนตร์ของเวเบอร์ปักลงบนพื้นดิน ปล่อยไอเย็นยะเยือกออกมาราวลมเหนือที่หนาวเย็น กำแพงน้ำแข็งงอกเงยขึ้นจากผืนดินปิดบังทั้งคู่เอาไว้ข้างในทางวงกตน้ำแข็ง!

 

                ลาควีล่าที่สวมเกราะเหล็กยิ่งทวีความหนาวเย็นมากขึ้นไปอีก ได้แต่กัดฟันรอดูว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไรต่อ นางเดินต่อไปตามทางอย่างระแวดระวัง

 

                ชั่วพริบตาทางหางตา เวเบอร์ปรากฏตัวขึ้นจากด้านข้างโถมดาบเข้าใส่! ลาควีล่ายกกระบี่ขึ้นรับ ทว่ามันกลับกลายเป็นไอเย็นหนาแน่นเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวจริง

 

                “นี่คือเขาวงกตน้ำแข็งมายาลาควีล่า มีเพียงข้าที่เดินทะลุกำแพงน้ำแข็งเหล่านี้ได้ และจะมีเงาของข้าออกมาเยี่ยมอยู่เป็นระยะ รักษาหัวไว้ให้ดีจนกว่าจะออกมาได้ เพราะข้าจะไปหาเจ้าเดี๋ยวนี้แล้ว!”

 

                เสียงของเวเบอร์ทำให้ลาควีล่าตระหนักว่าตนอยู่ในสนามรบของฝ่ายตรงข้ามเสียแล้ว รอบข้างนางมีแต่น้ำแข็งที่เวเบอร์ตัวจริงผ่านทะลุมาได้ ไม่แค่นั้น นางยังต้องระแวงภาพมายาของเวเบอร์ที่เกิดจากความเย็นอีกต่อหนึ่ง ว่าเป็นเพียงภาพลวงหรือของจริง

 

                “เราไม่ต้องสู้จริงจังที่นี่ก็ได้นี่เวเบอร์ ยืดเวลาตัดสินของเราออกไป” หญิงสาวร้องบอกด้วยความรู้สึกสงสารฝ่ายชายจับหัวใจ “แล้วกำแพงน้ำแข็งแค่นี้กันข้าไม่ได้หรอก!” ลาควีล่าใช้ปลายด้ามกระบี่ทุบผนังด้านหนึ่งอย่างแรงจนทะลุเป็นรู

 

                ผนังทางวงกตที่ถูกทำลายเปล่งแสงสีฟ้าเรื่อๆ แล้วก็กลายเป็นน้ำแข็งพุ่งเข้าหาลาควีล่าทันที โชคดีที่ไม่สามารถผ่านเกราะหนาได้

 

                “มันคือน้ำแข็งมนตราลาควีล่า มันจะเล่นงานเป้าหมายเป็นการตอบแทนที่ตัวมันถูกทำลาย มีแต่ต้องเดินตามทางวงกตตามเกมของข้าเท่านั้น”

 

                ลาควีล่าหันหลังไปทางต้นเสียง เวเบอร์ยืนอยู่อย่างสง่างาม นางถอนหายใจสั้นๆคิดว่าเป็นภาพลวงตาเหมือนเดิม คู่ต่อสู้จึงเรียกสตินางด้วยการฟันดาบคู่มือลงบนเกราะอกจนขาดเป็นชิ้นๆ หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ไม่คิดว่านั่นจะเป็นตัวจริง ในเวลาเดียวกันเวเบอร์ก็หาวตัวเขาไปในกำแพงกระจกคอยโอกาสโจมตี

 

                “คงยากสำหรับเจ้าในการหาว่าข้าตัวจริงอยู่ที่ใดกันแน่” เสียงของเวเบอร์สะท้อนไปมาจนจับต้นทางไม่ได้ “ข้าจะช่วยให้มันง่ายขึ้นด้วยการทำลายกำแพงของทางวงกตนี่ไปเรื่อยๆ โชคร้ายหน่อยที่มันจะพุ่งใส่เจ้าราวลูกธนูนับร้อยพันดอก เป็นเรื่องของเจ้าเองที่ต้องทนให้ได้หากอยากรอดชีวิต”

 

                ไม่ทันสิ้นเสียง กำแพงรอบตัวลาควีล่าก็เปล่งแสงแล้วกลายเป็นศรน้ำแข็งพุ่งเข้าหาทันที โชคดีที่นางเรียกจิ้งจอกไฟออกมาช่วยเอาไว้ทัน น้ำแข็งที่พุ่งมาถูกไฟเผากลายเป็นไอในพริบตาไม่ให้ถึงร่างภายใน

 

                หญิงสาวหอบเหนื่อยหลังการเรียกสัตว์ปิศาจออกมาแบบปัจจุบันทันด่วน เวเบอร์ไม่ยอมให้นางได้พัก กำแพงไกลออกไปอีกกลุ่มหนึ่งเรืองแสงขึ้นพร้อมส่งกระสุนอีกครั้ง

 

                “อย่างนั้นก็ได้เวเบอร์!” เรามาตัดสินกันจริงๆเลย หญิงสาวโบกมือใช้พลังแฝง กลุ่มก้อนอากาศสีดำรวมตัวกันแล้วหายไป สิ่งที่เหลือทิ้งไว้คือเสือที่มีขนเป็นเปลวไฟสีเจิดจ้า “ข้าขอเอ่ยนาม ราชาราชสีห์โคกรา”

 

                หญิงสาวเรียกสัตว์ปิศาจที่ใช้ไฟได้อีกตัวออกมายืนข้างซีซาร์ที่นิ่งเหมือนหุ่นปั้น

 

                “ซีซาร์ โคกรา ใช้ไฟของเจ้าท้องสองเผาน้ำแข็งทั้งหมดนี่ซะ!” ลาควีล่าออกคำสั่ง ขนทุกอณูของเสือไฟเปล่งแสงแล้วกลายเป็นเปลวไฟร้อนแรงล้อมรอบนางเอาไว้อย่างมิดชิด ความร้อนของมันแทบละลายหินผาได้

 

                จนในที่สุดไฟก็มอด กำแพงน้ำแข็งที่เวเบอร์สร้างมาเสียดิบดีสลายเป็นไอน้ำด้วยความพยายามของหญิงสาว นางหันรีหันขวางมองหาคู่ต่อสู้ที่ซ่อนตัวอยู่ในสายหมอก สัตว์ปิศาจทั้งสองก็หายไปพร้อมกัน

 

                “นี่มันอะไรกันเวเบอร์ ท่านกำลังออมมือให้ข้า!” ลาควีล่าคำรามกลางสายหมอกจากน้ำแข็งละลาย “หากท่านเอาจริงแค่ฆ่าข้าทำไมจะทำไม่ได้ กระบวนท่านั้นอีกที่ท่านใช้สังหารไซเรน่า เหตุใดไม่ใช้เล่า!”

 

                ทันใดนั้นก็มีเวเบอร์หกคนจากหกทิศทางพุ่งเข้าหานางพร้อมเงื้อดาบในมือฟาดฟันลงบนร่างนางพร้อมกัน ลาควีล่ากรีดร้องด้วยความหวาดกลัว นางไม่ได้กลัวตาย แต่นี่คือกระบวนท่าที่เวเบอร์ใช้สังหารนางอัศวินมังกร หนึ่งในชาติก่อนของนางต่างหาก!

 

                “หากนั่นช่วยเจ้าได้ข้าก็จะทำ!” เวเบอร์ห้าคนสลายกลายเป็นไอน้ำ เหลือเวเบอร์ด้านหน้าของลาควีล่าเท่านั้นที่เป็นตัวจริง

 

                ลาควีล่ากัดฟันสู้กับความเจ็บปวด ทุกโสตประสาทร้องอย่างบ้าคลั่งด้วยความตกใจ หากนางยังมีสติมากพอจะแทงเวเบอร์ได้อีกหนึ่งครั้งก่อนถอยกลับไปตั้งหลัก จึงหลับหูหลับตาแทงก่อนสั่งให้ซีซาร์พานางหนีออกไปให้พ้นระยะ

 

                นางไม่รู้ว่าแทงถูกตรงไหนแต่ลาควีล่าเชื่อว่านางแทงโดนเวเบอร์แน่ๆหนึ่งครั้ง

 

                เมื่อลืมตาอีกครั้งก็พบว่าเวเบอร์ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแล้ว นางแทงกระบี่ลงบนท้องของเขาทำให้หมดสิ้นกำลังในการต่อสู้ แต่นั่นคงไม่น่าใช่เหตุผลที่เขาลงไปนอนบนพื้นแน่นอน

 

                “ข้ายอมเจ้าจริงๆลาควีล่า ยอมให้เจ้าเลยจริงๆ” เวเบอร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบตามปกติ แทบไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อยหรือเจ็บปวดเลย “เท่านี้ข้าก็สู้ต่อไม่ได้แล้ว เวทมนตร์ก็ใช้ไม่ได้อีก เป็นแค่หุ่นรอเจ้ามาตัดคอเท่านั้น”

 

                “ท่านยังใช้แขนขาได้นี่นา” ลาควีล่าหอบเหนื่อยพยายามพยุงตัวด้วยขาที่สั่นเทา “การต่อสู้ของเรายังไม่จบ เวเบอร์”

 

                “จบแล้ว เจ้ายังสู้ได้แต่ข้าสู้ไม่ได้ แม้เด็กก็สามารถบอกได้ว่าใครเป็นฝ่ายชนะ”

 

                “ยังหรอกเวเบอร์ ข้ารักท่านได้ยินไหม” ลาควีล่ากล่าวด้วยเสียงกระซิบ เผยตัวตนแท้จริงออกมาก่อนความตายมาเยือนใครสักคนระหว่างนางกับเวเบอร์

 

                “ชื่นใจ...” น่าประหลาดที่เวเบอร์ยังยิ้มและหัวเราะได้ในวาระสุดท้ายเช่นนี้ “นี่เป็นทางเดียวที่ข้าทำได้ เพื่องานและความรักจะได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง เจ้าต้องฆ่าข้าลาควีล่า ฆ่าข้าเสียแล้วไปครองรักกับไบรอัน ข้าฝากเจ้าไว้กับเขา”

 

                “ใช่แล้ว ข้ารักไบรอัน” ลาควีล่าทรุดตัวลงข้างเวเบอร์ ไอน้ำปริมาณมหาศาลจากวงกตน้ำแข็งยังไม่หายไปจากบริเวณ “แต่ข้าก็รักท่านด้วย รู้ไหม”

 

                “เจ้ารักผู้ชายพร้อมกันสองคนไม่ได้หรอกนะ เหมือนกับที่เจ้ามีนายเหนือหัวได้เพียงหนึ่ง เจ้านายหนึ่งเดียวของข้า ท่านดัชเชลจะต้องหลุดพ้นจากการครอบงำของจอมปิศาจ หากต้องสละชีพข้าก็ยอม”

 

                “เชื่อใจพวกข้าขนาดนั้นเชียวหรือ” ลาควีล่าถามเศร้า ๆ คิดอยู่แล้วว่าคนอย่างเวเบอร์จะต้องเห็นงานสำคัญเป็นอันดับแรก

 

                “ตอนนี้เขาเป็นพ่อของเจ้านะลาควีล่า แม้จะเป็นพ่อกับแม่บุญธรรมก็จงรับไว้อย่าให้หลุดมือได้ ปาดคอข้าเสียเดี๋ยวนี้ดีกว่า ข้าทรมานมาตั้งแต่อดีตแล้ว ต้องผิดหวังซ้ำซาก จะรักผู้หญิงสักคนก็มาเป็นศัตรูเสียอีก”

 

                “ตาบ้า ข้ารู้นะเรื่องที่ท่านมีคนรักอยู่แล้วน่ะ ไม่ต้องทำพูดดีไป” ลาควีล่ายิ้มอย่าเบาบางมากที่สุด “ข้ายอมแพ้ท่านเวเบอร์ ท่านทำให้ข้ารัก ทำให้ข้าสงสารจนไม่กล้าลงดาบตัดคอท่าน การประลองระหว่างเราถือว่าท่านชนะ ข้าคือหญิงสองใจที่สมควรสิ้นชีพเสียเดี๋ยวนี้”

 

                เวเบอร์ยิ้ม ลาควีล่ายื่นหน้าลงไปอย่างยากลำบากเพื่อจูบเขา ชายอีกคนหนึ่งที่นางรักหมดใจ

 

                ทว่าก่อนที่นางจะเรียกนกไฟออกมาเพื่อทำการรักษาให้เวเบอร์นั้นพลันเกิดสิ่งผิดปกติ ร่างของเขาแข็งขึ้นเหมือนก้อนหินแล้วแตกร่วนออกโดยเริ่มจากปลายมือและปลายเท้าที่เหลืออยู่ ลาควีล่าหวีดร้องด้วยความตระหนก แค่นี้ยังไม่ได้อย่างนั้นหรือ สรุปแล้วนางยังคงเป็นฝ่ายชนะอย่างนั้นหรือ

 

                “อย่าร้องลาควีล่า ข้าเป็นอมตะ ข้าจะกลับมาอีกครั้ง...”

 

                ในขณะเดียวกันหมอกที่เกิดจากน้ำแข็งก็สลายไป พบเพียงร่างของลาควีล่านั่งอยู่บนพื้นหิน ด้านหน้ามีกองฝุ่นผงที่เคยเป็นเวเบอร์อยู่ด้วย ไบรอันรีบวิ่งมารักษาบาดแผลให้นางทันทีพร้อมกันนั้นก็ถามถึงเวเบอร์

 

                “เขาไปแล้ว...” ลาควีล่าซบอกไบรอันทันควัน ทำได้แค่ร้องไห้พูดอะไรไม่ออกเสียอย่างนั้น

 

                “เราทำได้แค่เดินตามเจตนารมณ์ของเขาเท่านั้น เราต้องทำให้เขาหมดห่วง” ไบรอันลูบหัวปลอบนางให้หยุดร้องไห้

 

                “ข้ารักท่านนะไบรอัน” ลาควีล่าเอ่ยคำรักขึ้นมาสั้นๆ นางสัมผัสได้ว่าบาดแผลใหญ่น้อยของตนกำลังได้รับการรักษาจากแสงสีขาวบริสุทธิ์ หญิงสาวลืมตาขึ้นมองคนรักอีกครั้งแล้วรู้สึกรักเขามากขึ้นอีกเท่าตัว ไบรอันรักนางเช่นกัน แล้วเหตุใดนางจึงจะไม่รักตอบล่ะ

 

                “รอบแรกพวกเราชนะ จอมอสูรดัชเชล!” ไบรอันร้องบอก เรียกเสียงโห่จากเหล่าปิศาจได้หนึ่งครั้ง “รอบที่สองคนที่จะออกมาคือข้า ทางฝ่ายท่านคงเป็นชาโดว์สตีล”

 

                “รอดกลับมาให้ได้นะไบรอัน ข้ารออยู่” ลาควีล่าอวยพรให้คนรักทั้งน้ำตาแล้วเดินไปด้านหลังที่ที่บาดแผลยังไม่หายดี

 

                “พบกันอีกแล้วนะ ผู้กล้าแสงตะวัน” ลาควีล่าหันกลับไปมองศัตรูที่คนรักนางต้องต่อสู้ด้วย ปิศาจในร่างมนุษย์อยู่ในเกราะหนักสีเข้ม ผ้าคลุมโบกสะบัดอย่างเป็นธรรมชาติแม้มันจะเต็มไปด้วยอาวุธชนิดต่างๆ

 

                นางแทบหยุดหายใจเมื่อเห็นลางมรณะอยู่เหนือหัวของเขาคนนั้น ไบรอันอาจต้องตายในการต่อสู้ครั้งนี้...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา