บัลลังก์ฉิมพลี

8.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 12.26 น.

  59 ตอน
  1 วิจารณ์
  57.80K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เสน่ห์เกินห้ามใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เวลาเที่ยงตรงของต้นสัปดาห์ถัดมา...

 

ช่างเพ้นท์สุดหล่อหน้าใสเกินบุรุษที่จะมีจิตใจรักหญิงกำลังใช้สมาธิ

ในการลบรอยเพ้นท์บนเรียวแขนทั้งสองข้างของซุปเปอร์โมเดลสาวสวยอย่างเบามือ

ตรีทิพย์ที่พึ่งเสร็จภารกิจจากงานอีเว้นท์ซึ่งเธอรับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์

ผลิตภัณฑ์ความสวยความงามจากแบรนด์ดังนั่นเอง

 


“ เรียบร้อยแล้วครับน้องเต้ ” ช่างเพ้นท์หนุ่มเอ่ยบอกสีหน้ายิ้มแย้ม

“ ของคุณนะคะพี่พอล ” ตรีทิพย์ตอบกลับ

 

 


“ วันนี้อาปิ่นเรียกให้พี่เข้าไปพบที่บริษัท เธอไปกับพี่ด้วยนะเต้ ” ผู้จัดการส่วนตัวอย่างทอปัดกระซิบบอกตรีทิพย์เบาๆหลังจากที่ช่างเพ้นท์เดินออกไปแล้ว

 

“ ไม่ค่ะ ” ตรีทิพย์ตอบทันควันพร้อมกับหยิบกระเป๋าและของใช้ส่วนตัวของเธอเดินออกไปทันที

“ เต้!! เต้..! ” ทอปัดร้องเรียกไม่เต็มเสียงนักต่อร่างสูงที่ก้าวขาเร็วๆเดินไป

 


ทอปัดรีบวิ่งตามมาดึงมือน้องสาวของเธอเมื่อเห็นว่ากำลังจะก้าวขาขึ้นรถยนต์

( Koenigsegg CCXR SPECIAL EDITION ) สีดำคันหรูซึ่งเป็นของตรีทิพย์นั่นเอง

“ เต้! เธอไม่ได้เข้าไปพบอาปิ่นนานแล้วนะ ควรจะเข้าไปทักทายเขาบ้าง ” ทอปัดพูดเชิงต่อว่า

“ พี่ต้าก็รู้ว่าเต้เกลียดเขา! จะให้เต้เข้าไปหาเขาทำไมนักหนา ” ตรีทิพย์ตอบเสียงแข็ง

“ ฉันไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆ รู้ว่าเขาเป็นคนที่ตัวเองเกลียดเข้าไส้ แต่ก็ยังยืนยันที่จะมาเป็นศิลปินในต้นสังกัดของเขาให้ได้ เธอสับสนอะไรหรือเปล่าเนี่ย! ”

“ เต้ต้องการอยู่ใกล้ศัตรูให้มากที่สุด..! เพื่อเป็นการยืนยันว่าเต้ไม่ได้กลัวมัน… ”

“ เต้! อาปิ่นเขาเป็นผู้ใหญ่ จะพูดจะจาอะไรระวังเสียบ้าง ”


ตรีทิพย์เบี่ยงหน้าหนีอย่างอารมณ์เสียถึงแม้เธอจะไม่ได้กลัวพี่สาวคนนี้เท่าไหร่นัก

แต่เมื่อทอปัดพูดตักเตือนอย่างจริงจังขึ้นมาก็สามารถเบรกอารมณ์ร้อนของเธอได้เสมอ

 

“ ที่ผ่านมาเต้ก็ทำตัวน่ารักกับอาปิ่นตลอดไม่อย่างนั้นจะขึ้นชื่อว่าเป็นลูกรักของเขาเหรอ แค่แวะไปทักทายเดี๋ยวเดียวคงไม่ถึงกับขาดใจหรอก ”

 

ตรีทิพย์ยังคงหน้าบึ้งตึงอยู่เช่นเดิม


“ เรื่องมันก็นานมากแล้ว อีกอย่างอาปิ่นก็จำเราทั้งคู่ไม่ได้ด้วยซ้ำ ” ทอปัดบอกอย่างใจเย็นเพราะในตอนเด็กหากพวกเธอจะมีโอกาสได้เจอปิ่นรักนั้นก็ต่อเมื่อกลับมาจากโรงเรียนประจำเพียงไม่กี่ครั้ง

“ ทำไมพี่ต้าต้องทำดีกับเขาด้วย พี่ไม่เสียใจเหรอ..ในเมื่อเขาเป็นต้นเหตุทำให้คุณแม่... ”

“ พอเถอะเต้ จำคำที่คุณพ่อบอกกับเราไม่ได้หรือไง ”

ยังไม่ทันที่ตรีทิพย์จะพูดจบ ทอปัดก็แทรกขึ้นมาเสียก่อนจึงทำให้คนที่กำลังอารมณ์ร้อนเงียบไป


“ ป่ะ..ไปกันได้แล้ว ”

 

ทั้งสองตัดสินใจขึ้นรถพร้อมกับขับออกไปด้วยดีกรีความเร็วของซุปเปอร์โมเดลสาว...

 

 

 

คฤหาสน์สีขาวสไตล์ยุโรปท่ามกลางวิสัยทัศแห่งธรรมชาติ

ทุกบริเวณของเนื้อที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและหลากสีสันปะปนกันไป

ตามความเหมาะสม ภายในตกแต่งไว้อย่างเพียบพร้อม เฟอร์นิเจอร์และผ้าม่านประดับ

ถูกเลือกโทนสีให้ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวที่สุด

 

ถัดมาอีกมุมหนึ่งความพิเศษแปลกใหม่ของที่นี่นั่นก็คือ บึงน้ำขนาดกว้าง

ที่รายล้อมอยู่ทางด้านหลังถูกสร้างขึ้นตามความต้องการของบุตรสาว

เจ้าของคฤหาสน์หรือบ้านหลังนี้นี่เอง

 


ร่างบางเดินชมวิวอยู่ริมน้ำที่สร้างขึ้นจนเสร็จเรียบร้อยในขณะที่เธอกำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ

เพชรเกล้า อัศวัฒน์..บุตรสาวเพียงคนเดียวของ ปิ่นรัก

หลังจากที่เธอกลับมาอยู่เมืองไทยได้สักพักก็ยังคงเพลิดเพลินอยู่กับสถานที่อันเคยเป็นลานกว้าง

สำหรับวิ่งเล่นเมื่อสมัยวัยเยาว์ ตั้งใจสำรวจทุกพื้นที่ๆเคยห่างหายไปนานด้วยความคิดถึง

รอยยิ้มจึงผุดขึ้นเป็นระยะๆเมื่อเหม่อมองดูไปรอบๆก็ทำให้อบอุ่นใจ

 

“ คุณพราวคะ..รถพร้อมแล้วค่ะ ” หญิงรับใช้คนหนึ่งเอ่ยบอกอย่างสุภาพ

“ ขอบใจจ้ะ ” ใบหน้าเรียวหันกลับมา ยิ้มบอกเรียบๆก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปยังพาหนะที่จอดรออยู่โดยมีสารถีทำหน้าที่เปิดประตูรอรับด้วยกิริยาที่นอบน้อม

 


ไม่นานนักรถเบนซ์สีดำก็แล่นออกจากบ้านอัศวัฒน์ไปในทันที...

 

 

ณ ตึกหลายชั้นตั้งตระหง่านสูงใหญ่อยู่ใจกลางเมืองผู้คนมากหน้าหลายตาต่างฐานะต่างวัย

กระจัดกระจายอยู่รอบๆเป็นสัญลักษณ์ของความวุ่นวายต่างๆนาๆของคนในเมืองหลวง

ที่ล้วนแล้วแต่เร่งรีบดูแข่งขันกันไปเสียหมด บนท้องถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ยานพาหนะ

หลากหลายยี่ห้อเสียงแตรรถดังขึ้นเป็นระยะๆสื่อถึงความวุ่นวายพอสมควรในย่านคนเมือง

 


ทอปัดและตรีทิพย์ได้เดินทางมาถึง..บริษัทรักเกล้า เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด

 


“ เต้รอตรงนี้นะ ” ตรีทิพย์เอ่ยบอกพร้อมกับเดินเข้ามานั่งลงยังบริเวณล็อบบี้ของบริษัท

“ อ้าว! นี่ไหนสัญญากับพี่แล้วไงว่าจะไปด้วยกัน ” ทอปัดท้วงติงต่อหญิงสาวที่เอนหลังไขว่ห้างกับโซฟาอย่างสบายๆ

“ เต้แค่มาเป็นเพื่อน ไม่ได้บอกสักคำว่าจะขึ้นไปด้วย ” ซุปเปอร์โมเดลสาวส่งสายตามาดกวนผ่านแว่นดำที่เธอกำลังสวมใส่อยู่ด้วย

 

“ ก็ได้! ”


ทอปัดเสียงดังใส่ก่อนจะสะบัดหน้าเดินตรงไปที่ลิฟท์

เพราะเธอเบื่อหน่ายที่จะถกเถียงกับน้องสาวของเธอเต็มที

 

ตรีทิพย์ยิ้มชอบใจที่ลูกไม้ของเธอเอาชนะพี่สาวได้.....ก่อนที่ริมฝีปากสวยจะค่อยๆหุบลง

เมื่อหวนนึกถึงคำพูดของผู้เป็นพ่อก็ทำให้รู้สึกสับสนกับความคิดของตัวเองเพราะในบางครั้ง

เธอเองก็เห็นว่าปิ่นรักเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพคนหนึ่งแต่ก็ต้องสลัดความคิดเหล่านี้ออกไปทุกครั้ง

เมื่อนึกถึงภาพที่เธอเห็นปิ่นรักนอนกอดอยู่กับบิดาเมื่อหลายปีก่อนจนต่อมาแม่ของเธอก็ต้อง

เสียชีวิตลงเพราะความไว้ใจเพื่อนสนิทอย่างปิ่นรัก


เพราะฉะนั้นเธอขอเลือกที่จะเชื่อพี่สาวอย่างปริฉัตรผู้ที่คอยพร่ำบอกมาโดยตลอดว่า

เราจะต้องแก้แค้นบ่อนทำลายชีวิตครอบครัวคนอื่นให้อย่างสาสม!

 

“ เธอก็แค่สร้างภาพให้ตัวเองดูดีต่อสายตาของทุกคนที่มองมา แต่เธอไม่สามารถสะกดสายตาของฉันได้หรอก..ปิ่นรัก ” ตรีทิพย์กำมือแน่นเอ่ยพูดกับตัวเองเบาๆ

 

 


ในขณะที่ทอปัดหายไปค่อนข้างจะนานพอสมควร ตรีทิพย์ซึ่งเป็นฝ่ายนั่งรอนั้นก็เริ่มเบื่อๆ

แทนที่เธอจะได้ไปเที่ยวพักผ่อนสมองอย่างที่ใจปรารถนากับต้องมานั่งเสียเวลาอยู่ที่นี่

อีกทั้งหลายวันมานี้แม่เสือสาวอย่างเธอเหมือนถูกกักบริเวณด้วยทอปัดนั้นตามคุมตลอดทุกฝีก้าว

มิหนำซ้ำยังมานอนเฝ้าเธอที่คอนโดอีกด้วยทำให้สาวๆเซ็กซี่ๆมาเยี่ยมเยียนเธอที่ห้องไม่ได้ซักคน

 

แต่อาการเบื่อๆของเธอในตอนนี้นั้นก็ยังคงทุเลาลงบ้างเนื่องจากมีสตรีสาวๆหลายคน

เดินผ่านไปผ่านมาอยู่เป็นระยะๆซุปเปอร์โมเดลอย่างตรีทิพย์จึงคอยเหล่มองคนนั้นคนนี้

เคาะปลายมือบนต้นขาผ่อนคลายอย่างมาดมั่น ริมฝีปากกระตุกยิ้มนิดๆให้กับบุคคลที่เธอ

พิจารณาว่ามีรสนิยมแบบเดียวกันเป็นการทักทายเล็กๆน้อยๆเพราะใครๆต่างก็รู้จักเธอทั้งนั้น

 


แต่ในขณะนี้ไม่ว่าจะมีรสนิยมแบบเดียวกันหรือไม่ก็มีแต่คนฉีกยิ้มตรงมาที่เธอกันทั้งนั้น

ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายบางคนก็หยุดมองยิ้มหวานๆ บางคนก็อ้าปากค้างนิดๆและบางคน

ก็หยุดสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ เช่น กดโทรศัพท์หรือเล่นไอแพด ตรีทิพย์จึงเริ่มสงสัยว่า

ทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมามีปฏิกิริยาแปลกๆมองดูแล้วเหมือนจะระริกระรี้กันก็ว่าได้

หรือว่าใบหน้าของเธอมีอะไรที่ผิดปกติไปหรือเปล่านะ?

 


“ นี่เธอ..นั่นใช่คุณพราวหรือเปล่า... ”


“ ฉันว่าใช่นะ วันนั้นฉันเดินสวนกับเขาที่หน้าห้องคุณปิ่นเขายังยิ้มให้ฉันอยู่เลย ”

“ ใช่เลยล่ะไม่ต้องสงสัยเพราะเมื่อวันก่อนฉันเห็นเขามารับคุณปิ่นที่นี่..แต่ดูเหมือนนักข่าวจะยังไม่รู้กันนะ ”


สามสาวพนักงานของบริษัทที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตรีทิพย์นักแอบบกระซิบกระซาบคุยกันยกใหญ่

ทำให้นางแบบซุปตาร์รับรู้ได้ในทันทีว่าทุกคนในที่นี้กำลังจับจ้องมองบุคคลหนึ่งที่คงกำลังเดินมาซินะ

ตรีทิพย์แอบเบ้ปากนิดหน่อยถึงทุกคนที่ดูจะเวอร์ๆกันเสียเหลือเกิน

จะมีใครที่น่าสนใจมากไปกว่าเธออีกหรือไง

 

 

“ เอ่อ..สวัสดีค่ะคุณพราว ” เจ้าหน้าสาวหนึ่งในสามคนที่แอบซุบซิบกันเมื่อครู่ใจกล้าเอ่ยทักทายต่อสตรีลูกสาวผู้บริหารของพวกเธอ

 


“ สวัสดีค่ะ... ” เพชรเกล้ายิ้มทักทายกลับเรียบๆ


เสียงหวานๆวิ่งเข้าสู่ใบหูของตรีทิพย์ในทันทีดวงตาที่ปกปิดด้วยแว่นดำกันแสงรุกวาวขึ้นในบัดดล

เหมือนกับเริ่มสนใจในเสียงด้านข้างที่ลอยมา ใบหน้าสวยค่อยๆหันไปมองถึงเจ้าของน้ำเสียงนั้น

 


ลบเนื้อหาบางส่วน

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา