เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) ผิดอีกแล้ว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเลขาจัดการจองตั๋วเที่ยวบินที่เร็วที่สุดให้กับเจ้านายทันที..... แต่เที่ยวบินนั้นก็ต้องรอถึงห้าโมงเย็นของวันพรุ่งนี้สร้างความกระวนกระวายใจให้กับเพาภิรมย์เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นตลอดทั้งวันเป็นระยะๆคือกันต์นั่นเองที่โทรเข้ามาเพราะเพาภิรมย์ไม่ได้โทรหาเธอตามเวลาเหมือนทุกวัน
“ เจอตัวเมื่อไหร่ จะลงโทษซะให้เข็ด ” เพาภิรมย์มองเบอร์โทรศัพท์และรูปที่แสดงหน้าจอก็อดหมันเขี้ยวไม่ได้แต่ความโกรธก็ยังมีไม่น้อยลง
วันเวลาผ่านไปแสนช้าตามความคิดของเพาภิรมย์ในตอนนี้ และห้าโมงเย็นของการเดินทางก็มาถึง เพาภิรมย์จัดการกับธุระทั้งหมดให้เรียบร้อยและรีบเดินทางไปเชียงรัฐทันทีใช้เวลาไม่มากในการนั่งเครื่อง เพาภิรมย์มาถึงคุ้มหลวงในเวลาหนึ่งทุ่มตรง
“ เพา!! นิเธอมาได้ยังไงเนี่ย..ไม่เห็นโทรบอกเลย ” พิมพรรณตกใจที่เห็นเพาภิรมย์มาอย่างกะทันหัน
“ กันต์อยู่ที่ไหน..” น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามออกไป
“ กันต์ยังไม่กลับ..มีอะไรหรือป่าวสีหน้าเธอดูซีเรียสมากเลยนะ ” เพื่อนสาวเอ่ยถามที่เห็นอาการอันไม่สบอารมณ์ของเพาภิรมย์ ร่างสูงนั่งลงกับโซฟาหยิบมือถือและเปิดรูปปริศนาที่ทำให้เธออารมณ์เสียให้พิมพรรณดู
“ หึ่ย!!! นี่...ฉันว่ามันต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ ” พิมพรรณอุทานออกมา แล้วหันไปบอกกับเพาภิรมย์
“ นัวเนียจนจะแนบเนื้ออยู่แหละ..ยังมีอะไรที่เข้าใจผิดอีก..! ” เพาภิรมย์เริ่มฉุนเฉียว
“ ใจเย็นๆก่อนนะเพา..ถามกันต์ให้รู้เรื่องก่อน ” พิมพรรณยกมือวางบนบ่าของเพื่อนเธอเพื่อปลอบให้ใจเย็น เพาภิรมย์นั่งกัดฟันแววตาเกรี้ยวกราด ระหว่างนั้นนพก็เดินผ่านมาพอดี พิมพรรณจึงเรียกเข้ามาถามเรื่องทั้งหมดว่ารู้เรื่องหรือไม่
“ วันนั้นเจ้าไปรับคุณอิงฟ้าจริงๆครับ..แต่เจ้าไปไม่นาน ประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับมาถึงคุ้มหลวงครับ ” นพบอกชัดถ้อยชัดคำ
“ ไม่จริง!! เธออย่ามาแก้ตัวแทนเจ้านายเธอหน่อยเลย!! ” เพาภิรมย์ท้วงขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวไม่เชื่อในสิ่งที่นพพูด
“ หากคุณเพาภิรมย์ยังไม่สบายใจ..ผมจะไปนำภาพจากกล้องวงจรปิดของทางโรงแรมมาให้ดูก็ได้ครับ ” นพเอ่ยบอกอย่างเรียบๆ
“ ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปซะไป...จะได้รู้กันสักที ” พิมพรรณเห็นด้วยกับความคิดของนพ แต่เพาภิรมย์ก็ยังไม่ใจเย็นลงสักนิด
เวลาต่อมา.... “ เอี๊ยดด!!! ” เวลา 3 ทุ่มครึ่งเสียงรถของกันต์กลับมาถึงคุ้มหลวง กันต์เยื้องกายลงจากรถในขณะที่มือยังคงกดโทรศัพท์เลื่อนไปเลื่อนมาเพื่อดูเบอร์เพาภิรมย์ที่เงียบหายไป หญิงรับใช้รีบวิ่งเข้ามาบอกสีหน้าเร่งรีบ
“ เจ้าคะ คุณพรรณเชิญที่ห้องนั่งเล่นค่ะ ” กันต์พยักหน้ารับรู้แอบคิดนิดหน่อยว่าเรื่องอะไร
กันต์เดินเข้ามายังห้องนั่งเล่นโดยมีพิมพรรณยืนรออยู่อย่างกระวนกระวายใจพลางมองถัดไปเห็นเพาภิรมย์นั่งหันหลังอยู่
“ คุณเพา... ” กันต์เอ่ยปากขึ้นเมื่อเห็นเพาภิรมย์มาที่นี่โดยไม่ได้บอก เพาภิรมย์หันมาสีหน้าบึ้งตึงลุกขึ้นแล้วเดินมาหาเป้าหมาย
“ ตกใจรึไง..ที่เห็นพี่ที่นี่ ” กันต์เงียบไม่พูดอะไรเพราะยังงงๆอยู่
“ ไปไหนมา..ถึงกลับมาป่านนี้!! ” เพาภิรมย์ถามน้ำเสียงชวนทะเลาะ
“ ไปบริษัทมาค่ะ ” กันต์นิ่วหน้างงนิดหน่อยแต่ก็ตอบออกไปเรียบๆ เพาภิรมย์เดินเข้ามาใกล้สีหน้ายังคงบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ
“ คืนวันเสาร์ตอน 4 ทุ่ม..กันต์อยู่กับใคร ” กันต์ได้ยินคำถามก็เริ่มรู้สึกได้ถึงพฤติกรรมของเพาภิรมย์ที่คงจะไปรู้อะไรมา
“ อิงฟ้า... ” กันต์ตอบออกไปอย่างไม่ปิดบัง เพาภิรมย์กัดฟันเริ่มโมโหแต่พยามยามควบคุมอารมณ์ไว้แล้วถามต่อ
“ ทำอะไรกันบ้าง ” กันต์เริ่มไม่พอใจกับคำถามเสมือนเพาภิรมย์กำลังจับผิดเธออยู่
“ คุณเพาคิดว่ากันต์จะทำอะไรล่ะคะ ” กันต์ตอบน้ำเสียงเรียบๆ เพาภิรมย์เริ่มหมดความอดทนกับกิริยาท่าทางอันแสดงออกเหมือนยั่วโมโห
“ พูดออกมาซิ!! ว่าแค่ไปส่งเฉยๆ แล้วก็รีบกลับมาที่นี่!! พูดไม่ได้หรือไง! ” เพาภิรมย์สุดจะทนเข้าไปจับต้นแขนทั้งสองข้างของร่างเล็กแล้วพูดด้วยอารมณ์ที่โกรธมาก
“ กันต์จะพูดอย่างนั้นเพื่ออะไรคะ..ในเมื่อสิ่งที่คุณเพาคิด มันไม่ได้เป็นอย่างงั้น ” กันต์ที่เริ่มหมดความอดทนพูดออกไปเสียงแข็งเช่นกัน
เพาภิรมย์โมโหสุดขีด อารมณ์โกรธ หึง หวง เข้ามาบรรจบเหวี่ยงร่างที่จับอยู่ในมือไปชนกับโต๊ะบริเวณโซฟาจนแจกันที่ใส่ดอกไม้สำหรับตั้งโชว์นั้นหล่นแตกทำให้มือข้างขวาของกันต์ถูกเศษกระเบื้องบาดเป็นแผลเลือดไหลทันตา กันต์มองเลือดที่ไหลออกมาด้วยความตะลึงจากพฤติกรรมอารมณ์ชั่ววูบของเพาภิรมย์โดยไม่เหลือบไปมองผู้ที่กระทำเลยแม้แต่น้อย
พิมพรรณตกใจมากหลังที่ยืนดูทั้งคู่โต้เถียงกันอยู่นานเมื่อเห็นกันต์ได้รับบาดเจ็บก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยความเป็นห่วง
“ กันต์!! เป็นยังไงบ้าง ” กันต์นิ่งเงียบไม่ตอบอะไรไม่แสดงออกมาด้วยซ้ำถึงความเจ็บปวด
“ มีใครอยู่แถวนี้บ้าง!!! ” พิมพรรณร้องเรียกดังลั่น หญิงรับใช้รีบวิ่งมา
“ ไปเอากระเป๋ายามา! ” พิมพรรณบอกกับหญิงรับใช้อย่างเร่งรีบและประคองกันต์ขึ้นไปนั่งบนโซฟา
เพาภิรมย์ตกใจเป็นอย่างมากที่เห็นกันต์บาดเจ็บเพราะอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ตั้งใจจะเหวี่ยงแรงขนาดนั้นแต่ด้วยกันต์คงตัวเบาราวกับแมวเหมียวกระมังถึงได้ปลิวไปตามแรงอารมณ์ของเธอ แต่ก็ยังโมโหอยู่เมื่อเห็นร่างบางไม่ได้ร้องโวยวายถึงความเจ็บปวด แถมยังไม่มองเธอเลยสักนิด
หญิงรับใช้นำกระเป๋ายามาพร้อมกับรีบปัดกวาดเศษกระเบื้องที่พื้น พิมพรรณรีบทำแผลให้กันต์อย่างเป็นห่วง ในขณะนั้นนพก็เดินเข้ามาหาเพาภิรมย์และยื่นซองเอกสารบางอย่างให้
“ นี่คือรูปภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมที่เจ้าไปส่งคุณอิงฟ้าเมื่อคืนวันเสาร์ตอนเวลา 4 ทุ่มครับ ” เพาภิรมย์เปิดดูก็ต้องตกใจเมื่อภาพระบุเห็นได้ชัดว่ากันต์ปฏิเสธการเชิญเข้าห้องของอิงฟ้าถึงกับทำอะไรไม่ถูก
กันต์ค่อยๆลุกขึ้นจากโซฟาและเดินเพื่อจะออกไปจากบริเวณนั้นหยุดสักครู่เมื่อจะเดินผ่านนพ
“ เรื่องส่วนตัวของฉัน ถ้าฉันไม่ได้สั่ง ทีหลังอย่าทำอีก ” กันต์พูดกับนพด้วยน้ำเสียงที่แนบนิ่งฟังดูน่าเกรงขามเพื่อให้รับรู้ว่าไม่ได้ต้องการให้มาแก้ตัวแทนตนก่อนที่จะเดินออกไป
กันต์รีบเดินขึ้นบันไดหมายจะไปที่ห้อง เพาภิรมย์รีบวิ่งตามมาจับแขนข้างที่ไม่ได้เจ็บกันต์สะบัดมือออก เพาภิรมย์ไม่ยอมปล่อยจับตัวกันต์ให้หันหน้ามาหาเธอ
“ กันต์...พี่ขอโทษ พี่เข้าใจผิด..พี่ ” เพาภิรมย์พยายามจะอธิบายในความวู่วามของตัวเอง
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ..คุณเพามีสิทธิ์คิด มีสิทธิ์ทำ..ทำทุกอย่างที่อยากทำ!!! โดยไม่สนใจว่ากันต์จะเจ็บหรือป่าว!!!! ” กันต์สะบัดมือทิ้งแล้วพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่โกรธจัด
“ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ” เพาภิรมย์ส่ายหน้าพร้อมพูดอย่างสำนึกผิด
“ กันต์ผิดหวังในตัวคุณเพามาก...กันต์ไม่น่าเลย..ไม่น่าเลย!!! ” กันต์พูดพร้อมกับมองเรือนร่างเพาภิรมย์ที่เคยปล่อยให้ทำอะไรลึกซึ้งกับเธอก็ได้อย่างผิดหวังพลางหันหลังจะเดินต่อเพาภิรมย์กับรีบเข้ามากอดร่างเอาไว้
“ พี่ขอโทษ...” เพาภิรมย์กระซิบที่ข้างหูขอร้องให้ยกโทษให้กับเธอ
“ อย่ามาแตะต้องตัวฉัน..” น้ำเสียงที่เย็นชาเอ่ยบอกก่อนที่จะแกะมือของเพาภิรมย์ที่กอดเอวไว้แน่นออกแล้วเดินเข้าห้องไปทำเอาเพาภิรมย์ยืนอึ้งน้ำตาล่วงลงมาทันทีกับความห่างเหินที่กันต์มอบให้ พิมพรรณที่เข้ามาได้ยินประโยคนั้นพอดีก็อึ้งไปตามๆกัน
“ รอให้กันต์ใจเย็นกว่านี้ก่อนนะเพา..แล้วค่อยพูดกันใหม่ ” พิมพรรณบอกอย่างใจเย็น
“ เค้าโกรธฉันมาก...เค้าพูดเหมือนตัดเยื้อใยกับฉัน..” เพาภิรมย์สะอึกสะอื้นร้องไห้บอกกับพิมพรรณ
“ หรือเธอจะตัดใจก็ได้นะ...” พิมพรรณแกล้งพูดเพื่อเป็นการปลุกใจให้เพาภิรมย์ไม่ย่อท้อเดินหน้าง้อต่อไป
“ ไม่!! ฉันจะไม่ยอมผิดหวังอีก ฉันต้องได้ในสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ใครแย่งกันต์ไปจากฉันเป็นอันขาด ” เพาภิรมย์หันขวับกลับมาพูดกับพิมพรรณพร้อมกับปาดน้ำใสๆบนใบหน้าแววตาแน่วแน่
เวลาผ่านไปหลายวัน... เพาภิรมย์ยังหาทางปรับความเข้าใจกับกันต์ไม่ได้เพราะกันต์คอยแต่จะหลบหน้าตลอดเวลา วันนี้เลยตั้งใจที่จะต้องง้อกันต์ให้สำเร็จ
“ ฉันก็ไม่รู้จะช่วยยังไงหลายวันมานี้กันต์ก็อารมณ์ไม่ค่อยดีนัก ” พิมพรรณนั่งบ่นกับเพาภิรมย์ที่บอกให้หาทางช่วย เพราะคิดถึงกันต์ที่พยายามตีตัวออกห่าง
“ เช้าก็เข้าบริษัท พอกลางคืนก็ให้นพมาเฝ้าหน้าห้อง...ไม่มีโอกาสที่ฉันจะได้เข้าถึงตัวเลย ” เพาภิรมย์พูดอย่างร้อนรนปนเซงๆที่ไม่มีทางเข้าหากันต์ได้
บ่ายวันนั้นเองกันต์กลับมาคุ้มหลวงเร็วกว่าทุกวันจึงมานั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องทำงานโดยเก้าอี้ที่นั่งนั้นหันหลังให้กับโต๊ะทำงาน
“ ก๊อกๆ...” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ เข้ามา...” กันต์เอ่ยเสียงเรียบในขณะที่ยังคงก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่เพราะคิดว่าคงเป็นหญิงรับใช้ที่นำน้ำชาเข้ามาให้ ประตูเปิดออกเพาภิรมย์เดินเข้ามาอย่างเบาๆในมือถือแก้วน้ำชาที่เอามาจากหญิงรับใช้โดยบอกว่าจะอาสานำมาให้เจ้าตัวเอง
เพาภิรมย์ค่อยๆวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะทำงานและเดินไปหากันต์ที่นั่งหันหลังก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ที่สูงเลยหัวดูจะไม่สนใจว่าใครเข้ามา
เพาภิรมย์เดินไปยืนข้างหน้าเก้าอี้ กันต์เงยหน้าขึ้นมองเห็นเพาภิรมย์ยืนยิ้มให้อยู่ ตกใจรีบถอยเก้าอี้ออกห่างเพื่อที่จะลุกขึ้นแต่เพาภิรมย์รีบคว้าไว้และดึงกลับมาพร้อมกับนั่งลงบนตักของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว
“ ออกไปเดี๋ยวนี้นะคุณเพา!!! ออกไป!! ” กันต์ดิ้นๆขยับตัวเพื่อให้เพาภิรมย์ลุกออกจากตักของเธอพร้อมกับเสียงอู้อี้ขับไล่อยู่ตลอดเวลา
“ นี่...กันต์ พูดกับพี่ดีๆบ้างไม่ได้เหรอจ๊ะ..” เพาภิรมย์พูดสองแขนคล้องคอของกันต์อย่างเอาใจ
“ พูดดีๆเหรอ ทีคุณเพาล่ะคะใช้แต่อารมณ์เวลาที่พูดกับกันต์ ” กันต์แสยะยิ้มพูดอย่างประชด เพาภิรมย์อมยิ้มก้มมองกันต์ที่เบี่ยงหน้าไปทางอื่น
“ อยู่กับกันต์..พี่ก็ใช้อารมณ์ทั้งนั้นอ่ะ..” เพาภิรมย์กระซิบข้างหูน้ำเสียงยั่วยวน กันต์ขวับกลับมาทันทีด้วยแววตาที่เริ่มโกรธ
“ ออกไป..” ร่างบางมองหน้าเพาภิรมย์แล้วพูดออกมานิ่งๆ
“ ไม่ไป ” เพาภิรมย์พูดแล้วยิ้มให้ กันต์มองหน้าเพาภิรมย์อารมณ์เริ่มร้อนระอุยังกับจะระเบิดออกมา
“ ออกไป!!!...ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป!!!!! ” กันต์เอ่ยปากไล่เพาภิรมย์ด้วยความโมโหสุดขีดพร้อมกับมือที่ปัดเปลื้องดันตัวคนบนตักให้ออกไปจากตัวเธอ
เพาภิรมย์ยอมลุกขึ้นจากตักของกันต์แต่จับตัวร่างบางที่กำลังจะลุกหนีให้นั่งลงบนเก้าอี้ที่เดิม แอบตกใจนิดหน่อยกับอาการที่ร่างเล็กแสดงออกมาทำให้เธอรู้ว่าเวลาโกรธก็แทบจะเอาไม่อยู่เหมือนกัน
เพาภิรมย์ยืนรอให้กันต์ใจเย็นลงค่อยๆเอื้อมมือซ้ายไปวางไว้กับที่พักแขนบนเก้าอี้ที่กันต์นั่ง มือขวาจับมือของร่างบางขึ้นมาแนบแก้มของเธอมองหน้ากันต์ที่ยังคงบึ้งตึงเบี่ยงหน้าไปอีกทาง เพาภิรมย์ค่อยๆโน้มใบหน้าลงมา ร่างบางเห็นจากหางตาก็รู้ว่าเพาภิรมย์ต้องการจะทำอะไรในใจไม่ค่อยยอมนักเลยหันหน้าบ่ายเบี่ยงมีเสียงจิ๊จ๊ะแบบรำคาญใจจนบางครั้งจมูกโด่งของเพาภิรมย์ก็ชนแก้มขาวเสียหลายรอบ
“ ฮื่อ..! ” เสียงกันต์พึมพำในลำคอเสมือนบอกว่าคนตรงหน้ากำลังจุกจิกตัวเธอ เพาภิรมย์ไม่ฟังเสียงกดปากจูบซอกคอที่เธอถวิลหาแผ่วเบาสลับขบเม้มหยอกล้อออดอ้อนสุดฤทธิ์ กันต์ทำสียงฮึดฮัดผลักใสใบหน้าที่สะสวยออกห่าง
“ หอมจัง..” เพาภิรมย์งึมงำตอบชิดซอกคอหอมกรุ่นก้มลงซุกไซร้ลำคอขาวที่แสนจะโหยหา กันต์ไม่มีแก่ใจจะห้ามจึงได้แต่ปล่อยให้เพาภิรมย์คลอเคลียจนพอใจ
“ ก๊อก ๆ...” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้งเพาภิรมย์ชะงักการกระทำชั่วครู่ กันต์รีบหันไปมองที่ประตู
“ กันต์......ย่าเข้าไปนะลูก...” เสียงเจ้าย่าบัวเงินดังขึ้นจากหน้าประตู
“ ออกไปก่อนเร็ว.. ” กันต์หันมาบอกกับเพาภิรมย์เบาๆพร้อมกับชี้ไปทางประตูด้านหลังของห้องทำงานที่สามารถทะลุเข้าห้องนอนของเธอได้ เพาภิรมย์พยักหน้ารับรู้และหันหลังเตรียมจะเดินออกไปแต่ในขณะนั้นเจ้าย่าบัวเงินก็กำลังแย้มประตูเข้ามา
กันต์รีบลุกขึ้นไปคว้าตัวเพาภิรมย์กลับมาและดันให้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะทำงานพร้อมกับทำตัวปกติ เพาภิรมย์หัวเราะเบาๆกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของกันต์
“ ย่ามากวนอะไรหรือป่าวจ๊ะ.. ” เจ้าย่าบัวเงินถามอย่างเอ็นดู
“ ไม่ค่ะ..ไม่กวนเลยค่ะ..” กันต์รีบตอบเพาภิรมย์ที่แอบอยู่ด้านล่างแอบยิ้มนิดๆ
“ เจ้าย่ามีอะไรหรือป่าวคะ? ” กันต์ถามต่อ
“ เย็นนี้กันต์ไปไหนหรือป่าวลูก ” เจ้าย่าบัวเงินถาม
“ ป่าวค่ะ มีอะไรเหรอคะ ” กันต์ถามอย่างสงสัย
“ อ๋อ..งานเลี้ยงเย็นนี้ย่าจะให้นพขับรถให้หน่อยน่ะจ้ะ ” เจ้าย่าบัวเงินตอบ
“ อ้าว..แล้วนายรามล่ะคะ? ” กันต์ถามพร้อมกับเหลือบตาไปมองคนที่อยู่ด้านล่างนิดหน่อย
“ นายรามไม่ค่อยสบาย คนรถคนอื่นก็มือไม่นิ่งถ้ามาขับให้ ย่าคงจะเวียนหัวแย่ ” เจ้าย่าบัวเงินตอบ
“ อ๋อค่ะ แล้วแต่เจ้าเถอะค่ะ ” กันต์ตอบและมองคนด้านล่างที่ดูจะยิ้มออกหน้าออกตาเมื่อรู้ว่าคืนนี้คนเฝ้าหน้าห้องของกันต์ไม่อยู่
“ จ้ะ..งั้นย่าไปเตรียมตัวก่อนนะ ” เจ้าย่าบัวเงินยิ้มพูดแล้วเดินออกไป กันต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่มองคนด้านล่างที่นั่งยิ้มอยู่ได้
“ ยิ้มอะไร..” กันต์ถามหน้านิ่ง
“ ก็ยิ้มให้กันต์ไง ” ร่างเล็กยังคงหน้าบึ้งถอยออกมาแล้วลุกขึ้นเดินไปที่ประตู เพาภิรมย์รีบออกจากใต้โต๊ะและวิ่งเข้ามากอดจากด้านหลัง
กันต์ฮึดฮัดรำคาญใจนิดหน่อย เพาภิรมย์ยื่นจมูกเข้าไปหอมแก้มฟอดใหญ่ ร่างบางหันหน้ามาทำตาค้อนแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพาภิรมย์ยอมปล่อยอ้อมกอด กันต์จึงเปิดประตูแล้วเดินออกไป
ร่างสูงยืนมองคิดในใจว่าทำไมเธอถึงชอบผู้หญิงคนนี้อย่างง่ายดายทั้งที่เธอมักจะปฏิเสธทุกคนที่พยายามจะเข้ามาในชีวิตเพราะกลัวปมอดีตจะฉุดให้เธอซ้ำรอยเดิมแต่กับกันต์ที่อยู่เฉยๆไม่แสดงออกอะไรมากมาย กับทำให้เธอตั้งมั่นว่าคือคนที่พลิกแผ่นดินตามหาจนเจอ
กันต์ออกมาเดินเล่นที่ริมสระบัวจึงมาเจอกับพิมพรรณ
“ อ้าว กันต์อารมณ์ดีซินะ ถึงได้มาเดินเล่นแถวนี้ ” น้าสาวเอ่ยถามแซวๆ
“ รู้เห็นเป็นใจกันจริงๆนะคะ..” กันต์พูดพร้อมกับโปรยอาหารปลาลงในสระบัว พิมพรรณหุบยิ้มที่กันต์รู้ทันว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่เพาภิรมย์เข้าไปหาในห้องทำงาน
“ คุณเพาเค้ารักกันต์นะ ” ร่างเล็กหันมองน้าสาวกับคำพูดนี้ พิมพรรณพูดเสร็จก็ยิ้มให้แล้วเดินออกไป เหลือแต่กันต์ที่แอบยืนยิ้มอยู่คนเดียวเงียบๆ
ท้องฟ้ามืดลง...กันต์ที่ไปส่งเจ้าย่าบัวเงินขึ้นรถไปงานเลี้ยงเดินขึ้นบันไดมาหมายจะไปที่ห้องนอนมือข้างที่ไม่ได้เป็นแผลกดโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ทันใดนั้นเพาภิรมย์ที่ยืนรออยู่นานเข้ามาคว้าตัวกอดไว้จนกันต์สะดุ้งตกใจ
“ คุณเพา!! ตกใจหมด ” กันต์พูดน้ำเสียงดุหน่อยๆกับร่างสูงที่โอบกอดเธอจากด้านหลัง
“ ตกใจเหรอ...เดี๋ยวพี่ปลอบให้เอามั้ย ” เพาภิรมย์ยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ ปล่อยมือได้แล้ว ” กันต์เอ่ยสั่งพร้อมกับปลดมือที่เหนียวหนึบออกจากเอวของเธอ
“ หวงหรือไง ” เพาภิรมย์ไม่พูดเปล่าจมูกโด่งก้มลงไซร้ซอกคอเล่นไปด้วย
“ นี่!! คุณเพา ทำอะไรเนี่ย ” กันต์ร้องว่าหน้าตาแดงก่ำด้วยความเขินอายปนโกรธเคืองเหลือบตามองกลัวใครจะมาเห็น ร่างบางดิ้นยุกยิกอยู่ในอ้อมกอด
“ ปล่อย เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า ” กันต์ประท้วงเสียงแผ่วเบาเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นเรื่อยๆ
“ งั้นเข้าไปในห้องนะ ” เพาภิรมย์งึมงำอยู่ข้างหูเหลือบตาเพียงนิดก็ยื่นมือไปเปิดประตูแล้วพาคนในอ้อมกอดเข้าไป ในขณะที่กันต์ก็ดิ้นๆส่ายหัวอย่างเดียวเพื่อบอกให้รู้ว่าจะไม่เข้าไปในนั้น ห้องที่เข้ามาเป็นห้องของเพาภิรมย์เองแถมไฟก็ยังไม่ได้เปิดเห็นเพียงแสงเรือนรางจากโคมไฟข้างเตียงเท่านั้น
“ ปล่อยนะ..ปล่อย!! ” เมื่อเข้ามาถึงกันต์ก็ดิ้นๆ เพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของเพาภิรมย์พร้อมกับปากที่ส่งเสียงออกมาทักท้วง
“ ไม่ปล่อย....จนกว่ากันต์จะยกโทษให้พี่ก่อน ” เพาภิรมย์ไม่ยอมปล่อยพูดอย่างใจเย็นแถมยื่นข้อเสนอให้กับคนในอ้อมกอดของเธอ
“ คิดว่าง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ! ” กันต์ออกแรงสะบัดตัวจนหลุดออกมาจากอ้อมกอดของเพาภิรมย์ได้และหันมาพูด
“ อย่าใจดำกับพี่เลยนะคะ...คนดี ” เพาภิรมย์พูดเสียงอ้อนโผเข้าไปกอดร่างเล็กพร้อมกับหมุนตัวเข้ามาใกล้เตียง กันต์กำลังจะออกแรงขืนตัวออก
“ พี่สัญญานะว่าเรื่องแบบนี้ จะไม่เกิดขึ้นอีก ” เพาภิรมย์พูดขึ้นตัดหน้าพร้อมกับหมุนตัวกันต์ที่อยู่ในอ้อมกอดเข้าไปใกล้เตียงมากขึ้นอีก ร่างบางยังคงไม่หายงอนพยายามจะดิ้นต่อแต่กับถูกเพาภิรมย์ดันตัวล้มลงบนเตียงไปด้วยกันจนต้องมานอนอยู่ใต้ร่างมองเพาภิรมย์ที่สบตาเธอปานจะกลืนกิน
“ ยกโทษให้พี่นะคะ ” พูดจบเพาภิรมย์ก็ไม่รอฟังคำตอบอะไรทั้งสิ้นก้มลงซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นที่โหยหาขบเม้มกัดเล่นจนเป็นรอยจ้ำแดง
“ ฮื่อ..! ” เสียงของกันต์ดังขึ้นประท้วงแผ่วเบาขืนตัวเล็กๆเพื่อขัดใจผู้กระทำ เพาภิรมย์ดูดเม้มใบหูขาวพร้อมกับประคองตัวของร่างบางให้เอียงตะแคงเอื้อมมือรูดซิบชุดเดรสที่อยู่ด้านหลังออกจูบพรมลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังขาวเนียนและผละกลับมาค่อยๆปลดเบื้องหน้าออกอย่างช้าๆขณะที่ริมฝีปากร้อนก็เคลื่อนขึ้นไปจุมพิตกลีบปากบางอย่างยั่วยวน
ริมฝีปากบางเผยออกให้ลิ้นอุ่นได้เข้าไปสำรวจโพรงปากหอมขยับกวัดแกว่งอย่างตามใจลิ้นร้อนทั้งสองผลัดกันเชยชิมรสหวานของกันและกันไม่มีใครยอมใคร เพาภิรมย์ผละออกจากริมฝีปากบางเคลื่อนย้ายมายังข้างแก้มขาวจูบเน้นมายังใต้คางและซุกไซร้ลงยังลำคอขาวผ่องจนทำให้คนใต้ร่างหลับตาพริ้มครางออกมาอย่างน่าฟัง ริมฝีปากสวยเคลื่อนปากอุ่นจูบเม้มมาเรื่อยๆอย่างหมันเขี้ยวจนถึงบริเวณใกล้ๆหัวไหล่ขวาของกันต์
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ