เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) อยู่กับคุณเพา เจ้าจะไม่โต
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความอากาศเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศถูกเปิดที่อุณหภูมิต่ำจนบรรยากาศภายในห้องทำงานของบ้าน โรจนรัตติกร กลายเป็นขั้วโลกเหนือไปเสียแล้ว เพาภิรมย์นั่งพำนักอยู่บนเก้าอี้นวมใหญ่ มือขวากอบกุมวัตถุที่เรียกว่าเม้าส์กดคลิกในบางจังหวะ สายตาจดจ่อไปยังจอคอมพิวเตอร์เครื่องหรูจอแบนสีขาวที่กำลังฉายผลงานทางธุรกิจของเธออยู่
ในขณะที่เพาภิรมย์กำลังนั่งตรวจเช็คงานอยู่อย่างเพลินๆนั้นดวงตาเหลือบมองยังประตูที่แย้มปิดแย้มเปิดอยู่นานแล้วหลายรอบ ริมฝีปากสวยอมยิ้มเป็นระยะๆเพราะประตูที่เปิดเข้าเปิดออกอยู่นั้นเป็นฝีมือสาวน้อยของเธอนั่นเอง
กันต์ที่มายืนอยู่หน้าห้องทำงานของเพาภิรมย์นานแล้วเอืัอมมือเปิดประตูไปเจอกับความเย็นฉ่ำจนทำให้ขนลุกซู่ท้าทายกับบรรยากาศหน้าร้อนของกรุงเทพดีเสียเหลือเกินจึงทำให้ลังเลใจว่าขนมไทยที่ถืออยู่ในมือนั้นควรจะนำเข้าไปเสริฟดีหรือไม่
ร่างบางตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปสู้กับบรรยากาศขั้วโลกเหนือ
" ไปร้อนมาจากไหนเนี่ย " เสียงบ่นพึมพำเบาๆของหญิงสาวที่พึ่งเดินเข้ามาในห้องพลางมองหาคนขี้ร้อนว่าหายไปไหนเพราะเมื่อสักครู่ยังเห็นนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานอยู่เลย
" หายไปไหน...หนาวแล้วนะ "
" หนาวเหรอ อยากร้อนมั้ย...เดี๋ยวทำให้... " ร่างสูงพุ่งเข้ากอดจากด้านหลังจนกันต์สะดุ้งเกือบจะปล่อยจานขนมลงสู่พื้น
" อุ้ยๆๆ ขนมๆ อย่าหล่นนะอย่าหล่น!!! " เสียงเล็กร้องบอกต่อจานขนมที่ถืออยู่ในมือเมื่อถูกคุกคามจากด้านหลัง
" อะไรอ่ะ สนใจแต่ขนม ไม่เห็นสนใจเค้าเลย "
" ก็ขนมเป็นของคุณเพานี่คะ ไม่สนก็หล่นหมดน่ะสิ อุส่าตั้งใจทำ " ใบหน้าเรียวเอ่ยบอกขณะจัดเรียงขนมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
" ทำเองด้วย ทำเป็นเหรอ "
" ป้าแม่ครัวสอนค่ะเมื่อเช้านี้ น้าพรรณก็กำลังทำอยู่ "
“ ขนมอะไรคะ ”
“ กระเช้าสีดาค่ะ สวยมั้ย ” เสียงหวานเอ่ยบอกพร้อมกับยกจานขนมขึ้นโชว์
" ไหนป้อนหน่อย " เพาภิรมย์ยิ้มบอกอย่างอารมณ์ดี
ร่างบางจึงหันมาหาพร้อมกับหยิบขนมจ่อให้ที่ปาก ใบหน้าสวยยืนยิ้มหวานแต่กับไม่ยอมอ้าปากเสียอย่างนั้น ผู้ป้อนจึงเอาขนมชนปากคล้ายสะกิดสองสามรอบ
" พี่อยากให้กันต์ป้อน...ป้อนหน่อยซิ "
วาจากรุ้มกริ่มพร่ำบอกบางเบา กันต์อมยิ้มนิดๆสายตาแอบค้อนคนเจ้าเล่ห์เล็กน้อยก่อนจะนำชิ้นขนมมาไว้ที่ปากของตัวเองพร้อมกับยื่นป้อนให้คนตรงหน้าใบหน้าสวยค่อยๆก้มเข้าไปหาเรียวปากที่มีขนมรออยู่ ชิ้นขนมถูกกัดออกเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดกั้นขวางก่อนที่ริมฝีปากสวยจะแตะแต้มกลีบปากอมชมพูแผ่วเบา ลิ้นร้อนแอบแทรกแซงเข้าไปซุกซนนิดหน่อยแต่ก็ต้องผละออกมาเมื่อถูกสาวน้อยตีที่แขนเพื่อห้ามปราม
" หว๊านหวาน " เพาภิรมย์ลากเสียงยาวและยอมปล่อยร่างเล็กให้เป็นอิสระ ใบหน้าเรียวเขินนิดๆส่งสายตาจิกหน่อยๆก่อนจะเดินไปนั่งยังโซฟาที่เย็นเฉียบราวกับถูกแช่แข็ง
“ หูย!! ออกไปข้างนอกดีกว่า ” เมื่อผิวแตะพื้นโซฟาร่างบางก็รีบปรี่ลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับทำท่าจะออกจากห้อง
“ เดี๋ยวๆ อยู่กับพี่ก่อนซิ ” ร่างสูงใช้แขนดักเอวไว้เสียก่อน
“ ฮือ...กันต์หนาวอ่ะ ไม่อยู่อ่ะ ” สองมือเขย่าแขนเพาภิรมย์พร้อมกับร่างที่เริ่มไม่อยู่นิ่งด้วยอากาศที่เย็นเกินไปสำหรับเธอ
“ แต่พี่อยากให้กันต์อยู่ด้วยนิ ”
“ เดี๋ยวกันต์เข้ามาหาเป็นพักๆได้มั้ยคะ ”
“ ตามใจ...อยากไปก็ไปเถอะ ”
เพาภิรมย์บอกเสร็จก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานทันที ใบหน้าเรียวหันมองตามเมื่อเห็นอีกคนออกอาการไม่พอใจนิดๆ ยืนคิดสักครู่ว่าควรจะทำยังไงดีในห้องนี้ก็เย็นฉ่ำจนตัวจะแข็งอยู่แล้วไม่นานนักก็ตัดสินใจเดินออกนอกห้องไปโดยมีสายตาของเพาภิรมย์ที่คอยแอบมองอยู่ตลอดเวลา
เวลาผ่านไปสักพักประตูห้องทำงานถูกเปิดออกอีกครั้งพร้อมกับร่างบางที่ค่อยๆเดินเข้ามา ใบหน้าสวยเหล่มองแอบยิ้มหัวเราะในลำคอนิดๆเมื่อสาวน้อยของเธอนำผ้าห่มผืนใหญ่มาห่อตัวไว้จนเห็นว่าเดินไม่ถนัดต้องก้าวที่ละนิดๆ อย่างนี้สินะถึงได้หายไปเสียนานกว่าจะเดินมาถึงคงจะใช้เวลาน่าดู
“ คุณเพา...มารับหน่อย.... ” เสียงเล็กเอ่ยเรียกบางเบา เพาภิรมย์อมยิ้มเล็กๆแต่ยังคงนั่งเฉยๆ
“ ไม่อยากให้อยู่แล้วเหรอ....ไปก็ได้.... ” กันต์ก้มหน้านิดๆค่อยๆหันไปที่ประตูเพื่อที่จะเปิดออกไป
“ กันต์.... ” เสียงเรียบเอ่ยเรียกตามหลัง ใบหน้าเรียวหันกลับมาเริ่มบูดบึ้งเมื่อคนรักทำเฉยเมยกับเธอ เพาภิรมย์เริ่มยิ้มให้เห็นเพราะสาวน้อยของเธอเริ่มงอนกลับเสียแล้ว
“ มานี่มา.. ” ร่างสูงเอ่ยบอกพร้อมกับลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินมาหา
“ ไม่! ”
“ อ้า!! ช่วยด้วยๆ มีคนลักพาตัว! ”
เพาภิรมย์พุ่งเข้ากอดและอุ้มร่างผ้านวมมายังโซฟา เรียวปากประกบจุมพิตลงทันทีด้วยความหมันเขี้ยว กันต์ไม่สามารถขัดขืนอะไรได้เนื่องจากมือสองข้างอยู่ในผ้าห่มที่พันรอบกาย รสจูบเร่าร้อนดำเนินไปอย่างกับอดอยากมาจากไหนเร่งบดขยี้กลีบปากบางเสียจนสาวน้อยจูบตอบกลับไม่ไหวจึงต้องรับเรียวปากที่ดึงดูดคลึงเรียวลิ้นของเธอคล้ายกับหิวโหยเอาการ
“ ฮือ..ฮือ...เหนื่อย... ” เสียงโอดครวญของกันต์ดังขึ้นเมื่อกลีบปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ใบหน้าสวยยิ้มหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ
“ อะไร แค่นี้บ่นเหนื่อยแล้วเหรอ... ”
“ อายุเท่าไหร่แล้ว...เด็กน้อย ”
“ 11 ขวบค่ะ ” ใบหน้าเรียวลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะตอบออกไปเสียงหวาน ประโยคอันแสนจะน่าจดจำทำเอาเพาภิรมย์ก้มลงหอมซ้ายหอมขวาซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นเมื่ออีกคนไม่มีทางสู้มาขัดขวางได้จึงจัดการเสียจนหนำใจ
“ ฮื่อ! ไปอดอยากมาจากไหนเนี่ย ” กันต์บอกทักท้วงต่อคนที่อยู่ตรงหน้า
“ ก็กันต์เลี้ยงดูพี่ไม่ดีนิ พี่เลยหิ๊วหิว... ”
“ พอก่อนนะคะ...พาเค้าออกจากผ้าห่มหน่อย เริ่มหายใจไม่ออกแล้วอ่ะ ”
“ ไม่พา... ”
“ ฮืมมม....คุณเพาอ่ะ ไม่สงสารตัวเล็กเหรอคะ..ดูซิผ้าห่มมันรัดตัวเล็กแน๊นแน่นกระดุกกระดิกไม่ได้เลย เจ็บแล้วด้วย... ”
กันต์ชักสีหน้าเศร้าเสียงอ้อนทันทีพร่ำบอกและยื่นริมฝีปากไปจุ๊บหน้าผากของคนรักสองสามครั้งจนเพาภิรมย์ยิ้มแก้มปริกัดฟันหมันเขี้ยวสองมือคว้าบีบพวงแก้มของสาวน้อยก่อนจะช่วยดึงผ้าห่มที่พันกันมั่วไปหมดออกไปให้พ้นตัวและหยิบรีโมทเพื่อกดเบาแอร์
“ ช่างพูดนักนะ.... ” เพาภิรมย์ใช้นิ้วแตะกลีบปากบางเบาๆ สายตากรุ้มกริ่มจ้องมองอย่างหลงใหล
“ ตริ๊ง! ” ใบหน้าสวยหันมองตามเสียงก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง กันต์จึงนั่งกินขนมจานเดิมอย่างอารมณ์ดี
ผู้เดินมารับโทรศัพท์คลี่ยิ้มนิดหน่อยก่อนจะรีบกดรับสายทันที
“ สวัสดีค่ะ...คุณมาริษา ” เสียงหวานเอ่ยทักทาย กันต์หยุดเคี้ยวขนมชั่วขณะเหล่สายตามองนิดๆ
“ อ๋อ คุยได้ค่ะ ว่าไงคะ ” ร่างสูงบอกกล่าวปลายสายพร้อมกับเดินเข้ามานั่งข้างสาวน้อยนั่งกินขนมที่หน้าเริ่มนิ่ง
“ สบายดีค่ะ คุณษาล่ะคะ.... ” เพาภิรมย์ลอยหน้าโชว์เพื่อให้อีกคนมองยั่วอารมณ์หึงเล่นๆ ดวงตาคู่เสน่ห์เหล่มองยังคงนิ่งเฉย
“ ค่ะ กลับมากรุงเทพนานแล้วค่ะ ”
“ ถ้าคุณษามาเที่ยวกรุงเทพ อย่าลืมแวะมาเยี่ยมเพานะคะ ยินดีต้อนรับเสมอ ”
“ ค่ะ.. อ๋อ คุณษาคิดถึงเพาเหรอคะ แหม..เพาก็..คิดถะ...อื้ออื้อ!!! ” ในขณะที่เพาภิรมย์กำลังเสียงอ่อนเสียงหวานกับปลายสายแถมกำลังจะบอกคิดถึงให้ได้ยินเสียอีกแต่ก็ต้องถูกขนมหลายชิ้นยัดใส่ปากเสียก่อนด้วยฝีมือของกันต์ที่หมันไส้เต็มทน
“ [i]คุณเพาเป็นอะไรหรือป่าวคะ?[/i] ” ปลายสายถามกลับมาด้วยความสงสัย
“ อะ..เอ่อ อ๋อ ป่าวค่ะ ป่าวค่ะ เอิ่ม เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะ..... ” เพาภิรมย์คว้าทิชชูมาคลายขนมออกจากปากก่อนจะรีบบอกปัดมาริษาทันที
“ นี่น้องกันต์จะฆ่าพี่เพาเหรอคะ หึงโหดนะเนี่ย ” ริมฝีปากสวยยิ้มบอกอย่างอารมณ์ดี
“ ไม่ได้หึง! ”
“ ไม่ได้หึง...แต่หวง ”
“ ไม่ได้หวง! ”
“ ไม่ได้หวง...แต่งอน ”
“ ไม่ได้งอน! ”
“ ไม่ได้งอน..แต่โกรธ ”
“ ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น! ” กันต์ลุกขึ้นยืนเถียงเพื่อที่จะเอาชนะให้ได้
“ ไม่เชื่อ ” ร่างสูงได้โอกาสคว้าตัวเข้ามากอด
“ ปล่อยเค้า... ” เสียงอู้อี้เอ่ยบอกบางเบา
“ บอกก่อน..หึงหรือป่าว ” ใบหน้าสวยก้มถามสาวน้อยในอ้อมกอด
“ หึงซิคะ... ” เสียงตอบกลับอู้อี้เช่นเคย
“ หึงได้ แต่อย่าโกรธนะ ”
“ ทำไมจะโกรธไม่ได้ น่าโกรธจะตายไป ” ใบหน้าเรียวเงยหน้าขึ้นมองถามสีหน้าแอบงอนนิดๆ
“ แสดงว่ากันต์อยากให้พี่ง้อ งั้นก็โกรธซิ....จะง้อซะให้เข็ด... ” วาจากรุ้มกริ่มเอ่ยบอกเบาๆ กันต์อมยิ้มเขินๆสายตาจ้องมองเรียวปากที่กำลังขยับเข้ามาใกล้ๆ
“ บ้า ใครเค้าอยากให้ตัวเองง้อล่ะ ” ร่างสูงถูกตีแขนเบาๆ
“ หิวแล้วอ่ะ....หม่ำ..หม่ำ ” เพาภิรมย์เริ่มอ้อน
“ ไม่ให้กินหรอก ”
ริมฝีปากบางยิ้มบอกสองสาวคู่รักหยอกล้อกันอย่างมีความสุขเสียงหัวเราะขบขันของร่างบางดังขึ้นเบาๆเป็นระยะๆเมื่ออีกคนกระเซ้าเย้าแหย่เธอไม่หยุดหย่อน กันต์และเพาภิรมย์สดชื่นกับบรรยากาศที่ดูจะอบอุ่นไปเสียทุกอย่างในตอนนี้
“ บ๊อกๆ หงิง.. ~ หงิง.. ~ ” ในขณะที่คู่รักกำลังจู๋จี๋กันอยู่นั้นเสียงบางอย่างก็ดังขึ้น ทั้งสองหันมอง
“ ลุกหมา!! ” กันต์ยิ้มพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นสัตว์น้อยน่ารักเพศเมีย
“ เข้ามาทำไม! เข้ามาได้ยังไงเนี่ย ” เพาภิรมย์หันดุนิดหน่อยต่อเจ้าลูกหมาขนปุยน่ารักสีขาว
“ ของใครเหรอคะ ชื่ออะไรเหรอ ”
“ ของรวี ชื่อลีจัง...อย่าไปคุยกับมัน มันนิสัยไม่ดี ออกไปเลย! ”
“ คุณเพา! ไปไล่ลีจังทำไมล่ะคะ น่ารักดีออก... ” กันต์ก้มลูบหัวหมาน้อยแสนรู้ที่วิ่งเข้ามาหาทันทีที่เอ่ยเรียกชื่อ เพาภิรมย์รู้สึกหมันไส้เจ้าหมาขี้ประจบตัวนี้เสียจริงเพราะไม่ค่อยถูกกับเธออยู่แล้ว
“ ไม่เห็นจะน่ารักเลย มันชอบเถียงเวลาพี่ดุ ”
“ คุณเพาดุไม่มีเหตุผลน่ะซิ ลีจังเลยเถียง ” กันต์อุ้มหมาสีขาวขึ้นมานั่งตักและเล่นกับมัน
“ เห็นมั้ย มันมาแค่แป๊บเดียวมันก็แย่งกันต์ไปแล้วอ่ะ ” ร่างสูงลุกขึ้นยืนทำหน้างอนเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกไปด้านนอก ริมฝีปากบางฉีกยิ้มหัวเราะเบาๆ
สักครู่เพาภิรมย์ก็กลับเข้ามายังห้องทำงานสายตาเพ่งมองเห็นร่างบางนอนอยู่บนโซฟาโดยมีเจ้าลีจังนอนอยู่บนอก
“ ชิ่วๆ ไปๆ ”
“ ฮือ..อะไรอ่ะ ไล่ลีจังทำไม ” ร่างบางลุกขึ้นนั่งรีบถามเมื่ออยู่ดีๆเพาภิรมย์ก็ดันสิ่งที่เธอกำลังนอนเล่นอยู่นั้นออกห่าง
“ ก็มันมายุ่งกับกันต์นิ ” ใบหน้านิ่งเอ่ยบอกและยักคิ้วให้
“ ลีจังต้องหิวแน่ๆ กินนมใหญ่เลย ”
“ กินนม? ”
เพาภิรมย์ย้อนถามอย่างสงสัย กันต์พยักหน้ายืนยันคำตอบก่อนจะหันไปป้อนนมด้วยนิ้วชี้ของเธอให้กับสัตว์น้อยตัวนั้น ใบหน้าสวยหันมองตามดวงตาลอกแลกรีบร้องห้าม
“ นี่ๆ หยุดเลยๆ ห้ามทำแบบนี้นะ! เค้าหวง ” เพาภิรมย์ดึงมือของผู้ทำหน้าที่ป้อนนมเมื่อครู่กลับมา
“ หวงอะไร? ” ใบหน้าเรียวหันถามด้วยความสงสัย
เพาภิรมย์หยุดคิดในคำถาม นั่นซินะเธอกำลังหวงอะไร
“ ไม่รู้ก็หวงอ่ะ ลุกขึ้นเลยออกไปข้างนอกได้แล้วค่ะ ” ร่างสูงดึงมือสาวน้อยของเธอให้ยืนขึ้น
“ แล้วลีจังล่ะคะ ” กันต์หันมองหมาน้อยเหมือนอยากเล่นต่อ
“ ปล่อยไว้ที่นี่แหละ พี่ไปตามเจ้าของให้มารับตัวกลับแล้ว ” ใบหน้าสวยหันบอกพร้อมกับรีบจูงมือสาวน้อยของเธอออกไปทันที
บรรยากาศของกรุงเทพมหานครในตอนนี้กำลังมืดครึ้มไปทั่วท้องฟ้าพร้อมกับละอองเม็ดฝนที่กำลังโปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง เพาภิรมย์กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงกว้างอย่างสบายอารมณ์หันมองที่ประตูเป็นระยะๆเพื่อรอสาวน้อยของเธอที่ไปหาน้าสาวนานแล้วแต่ยังไม่กลับมาเสียทีเสียงท้องฟ้าเริ่มคำรามดังขึ้นเรื่อยๆ
“ ห้องอยู่ใกล้กันแค่นี้ น้ายังต้องเดินมาส่งอีกเหรอเนี่ย ” เสียงพิมพรรณบ่นพึมพำเบาๆต่อหลานสาวที่คะยั้นคะยอให้เธอเดินมาส่งที่ห้องของเพาภิรมย์
“ ก็กันต์กลัวเดินมาระหว่างทาง แล้วฟ้าเปรี้ยงนี่คะ ตกใจแย่ ” กันต์เอ่ยบอกต่อน้าสาว
“ อืมๆ งั้นก็รีบๆเข้าห้องเถอะ ” พิมพรรณบอกกล่าวอีกครั้ง กันต์พยักหน้ายิ้มบางๆก่อนจะรีบเปิดประตูเข้าไป
“ คุณเพา.... ”
เสียงเล็กเอ่ยเรียกบางเบาต่อคนรัก เพาภิรมย์หันมองและยิ้มให้ร่างบางไม่พูดอะไรยังคงยืนอยู่ที่เดิมใบหน้าสวยคลี่ยิ้มนิดๆก่อนจะเดินมาหาสองมือโอบกอดคนรักเอาไว้หลวมๆ
“ เดินไม่ไหวแล้ว ” กันต์แกล้งสำออยทันที
“ โอ๋..เดินไม่ไหวเลยเหรอ ” เพาภิรมย์จับดวงหน้าเสียงอ่อนเสียหวานตามเพราะรู้ว่าสาวน้อยกำลังอ้อนเบาๆก่อนจะทำหน้าที่อุ้มตัวเล็กของเธอมานั่งบนเตียง
“ ทำไมหายไปนานจัง ” ใบหน้าเรียวถูกหอมแก้มหนึ่งฟอดก่อนจะได้ยินคำถาม
“ คุยกับน้าพรรณหลายเรื่องค่ะ คุณแม่ก็โทรมาด้วย ”
“ พรุ่งนี้ กันต์ต้องกลับเชียงรัฐแล้วค่ะ ”
“ อ้าว! ทำไมกลับเร็วจังล่ะคะ ไหนบอกจะอยู่กับคุณเพานานๆไง ” เพาภิรมย์ถามร้อนรนทันที
“ 1 อาทิตย์ กับอีก 3 วัน ยังไม่นานอีกเหรอคะ ” ใบหน้าเรียวอมยิ้มบอกเมื่อเห็นอีกคนเริ่มหน้ามุ่ย เพาภิรมย์หันหลังเพื่อที่จะออกห่าง
“ คุณเพา....อย่าหนีซิ ” กันต์คว้าแขนเพาภิรมย์ไว้บอกอย่างใจเย็น ร่างสูงไม่สนใจหันหน้าเดินไปยังริมหน้าต่างเหม่อมองออกไปยังด้านนอกที่กำลังมีสายฝนโปรยปรายลงมา
ร่างบางค่อยๆเดินตามไปยืนข้างหลังสองมือสอดเข้ากอดเอวใบหน้าพิงซบแผ่นหลังอันอบอุ่น
“ คุณเพา.... ”
“ ทำไมเงียบ ” ร่างสูงยังคงยืนนิ่ง
“ ฟ้าร้องเสียงดังแล้วด้วย ไม่กอดกันต์เหรอคะ ”
“ แค่เสียงฟ้าร้อง จะกลัวอะไรนักหนา ” เสียงตอบกลับเรียบๆ ใบหน้าเรียวซึมลงในทันใดค่อยๆชักมือออกจากเอวคอดช้าๆ เพาภิรมย์เริ่มรู้สึกถึงปฏิกิริยาทางด้านหลัง
ร่างบางเดินกลับไปนั่งลงที่ริมเตียงก้มหน้าลงนิดๆเมื่อรู้สึกว่าตัวเองอาจเป็นที่น่ารำคาญใจของคนรัก เพาภิรมย์ค่อยๆหันกลับมามอง
“ ครื้น!! ” เสียงท้องฟ้าเริ่มคำรามดังขึ้นเรื่อยๆ
“ เปรี้ยง!!!! ” ร่างบางสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจหันมองยังประตูพร้อมกับเดินเร็วๆไปที่นั่น เพาภิรมย์รีบเดินตามมาจับแขนไว้
“ จะไปไหน.... ” เสียงบางเบาเอ่ยถาม
“ ไปหาน้าพรรณค่ะ... ” กันต์หันมาตอบและรีบเช็ดหยดน้ำตานิดๆที่ดันหล่นลงมาให้คนตรงหน้าเห็น
“ กลัวอะไรขนาดนี้ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ” เพาภิรมย์ขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ
“ ………ก็คนมันกลัวอ่ะ มันห้ามกันได้ด้วยเหรอ.... ” กันต์มองหน้าสักพักก่อนจะตอบออกไปเสียงสั่นเครือ เพาภิรมย์เห็นกิริยาสาวน้อยแล้วก็เริ่มรู้สึกเศร้าใจขึ้นมาทันที
“ เรื่องนี้มันคงจะไร้สาระเกินไป เกินกว่าที่ใครๆจะเข้าใจก็ได้ ” ริมฝีปากบางพูดเสร็จเตรียมที่จะเดินออกไป
“ กันต์....พี่ขอโทษ พี่งี่เง่าไปเอง ”
“ เดี๋ยวคุณเพากอดให้นะคะ ” สองมือจับดวงหน้าส่งยิ้มอย่างอบอุ่นต่อสาวน้อยที่ยังแสดงสีกิริยาน้อยใจเล็กๆ
“ ไปนั่งที่เตียงนะ ”
“ ไม่ไป... ” กันต์ดึงมือออกเมื่ออีกคนกำลังจะจูงเธอเดินไปที่เตียง
“ เปรี้ยง!! ” เสียงดังกึกก้องพอสมควรแม้กระทั่งเพาภิรมย์เองยังสะดุ้ง ร่างบางโผเข้ากอดคนรักทันทีด้วยความตกใจ
“ ฮือ..อะไรกันนักกันหนาเนี่ย....อุ้มซิ... ” เสียงบ่นอู้อี้เบาๆถึงเรื่องสภาพอากาศที่แปรปรวนก่อนจะเป็นหน้าที่ของเพาภิรมย์ที่ต้องอุ้มมายังเตียงอีกเช่นเคย
“ กันต์เหมือนลูกพี่เลยอ่ะ ” ร่างสูงนั่งกอดสาวน้อยจากด้านหลังคางเกยไหล่ยิ้มบอกเสียงหวาน
“ ก็เหมาะนะคะ คุณแม่ คุณแม่อายุเท่าไหร่แล้วคะ ”ใบหน้าเรียวหันมองนิดๆอมยิ้มถามกวนๆ
“ หืมมม...หมันเขี้ยวแล้วนะ... ” เพาภิรมย์รัดอ้อมกอดแน่นๆคล้ายอยากจะขยำสาวน้อยของเธอเสียให้แหลกคามือ
“ อ้า!! เป็นงูหรือไง รัดแน่นขนาดนี้ ” ร่างบางเงยหน้าขึ้นร้องบอกเสียงหลง
“ แง!! ช่วยด้วยด้วยๆ ” เสียงกันต์ร้องบอกอย่างไม่จริงจังนักเมื่อถูกดึงให้ลงนอนพร้อมกับริมฝีปากสวยที่ไล่จูบซุกไซร้หน้าท้องหยอกล้ออยู่อย่างนั้น
“ หึหึ.... ” เพาภิรมย์เงยหน้าขึ้นมองยิ้มมุมปากส่งเสียงในลำคอนิดๆ
“ ฮือฮือ...ไม่รอดแน่เลย... ” ใบหน้าเรียวเม้มปากไปมาก่อนจะยกมือปิดหน้าตัวเอง
สิ้นคำพูดร่างสูงค่อยๆก็คืบคลานขึ้นมาจับสองมือที่ปิดบังใบหน้าไว้ออกไปก่อนจะประกบจุมพิตลงอย่างนุ่มนวลลมหายใจแทรกแซงเข้าหากันจนเพาภิรมย์ครางออกมาเบาๆพร้อมกับปรับเปลี่ยนรสจูบให้รุกเร้ายิ่งกว่าเดิมและแล้วบทรักอันร้อนแรงก็ดำเนินเกิดขึ้นตามมาทำเอาร่างบางลืมเสียงฟ้าร้องไปโดยปริยาย.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ