เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ
6.2
เขียนโดย กรุงสยาม
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.
44 ตอน
0 วิจารณ์
44.43K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
23) โลกนี้เป็นสีชมพูอีกครั้ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ วันใหม่...เข็มนาฬิกาหมุนเดินไปจนเป็นเวลาช่วงบ่ายของวันอากาศไม่ร้อนแต่อย่างใดสายลมพัดเย็นสบาย ร่างบางนั่งเหม่อมองอยู่ริมระเบียงกว้างด้วยตั้งแต่ตื่นมายังไม่เจอกับเพาภิรมย์เพราะอีกคนออกไปจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด ทำให้รู้สึกน้อยใจอย่างไรบอกไม่ถูก
ไม่นานนักใบหน้าเรียวหันมองยังด้านล่างเมื่อมีรถกำลังแล่นเข้ามา เป็นรถของเพาภิรมย์นั่นองริมฝีปากบางอมยิ้มนิดๆก่อนจะรีบหุบลงเพราะลืมตัว กันต์รีบเดินกลับไปที่ห้องและสอดตัวเข้าไปนอนในผ้าห่มพร้อมกับหลับตาลง
เพาภิรมย์เดินขึ้นมายังชั้นบนเอื้อมมือเปิดประตูเมื่อมาถึงห้องนอนของเธอ สองขาก้าวเข้ามาช้าๆสายตามองร่างน้อยที่นอนหันหลังอยู่บนเตียงริมฝีปากฉีกยิ้มเบาๆและเดินเข้าไปหา
“ รู้นะว่าแกล้งหลับ ” ร่างสูงนั่งลงข้างๆก่อนจะก้มเข้าไปใกล้ๆกระซิบบอกเบาๆ กันต์ค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะหันมาหา
“ คิดถึงจัง ”
“ ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวาน ไม่มีใครเค้าหลงกลตัวเองหรอก ” ร่างบางลุกขึ้นนั่งพร้อมกับพูดเสียงแข็ง
“ ไม่หลงกลแสดงว่าหลงอย่างอื่น ใช่มั้ย ” เพาภิรมย์ส่งสายตากรุ้มกริ่ม
“ พูดมากเหลือเกินนะ ออกไปเลยปะ ” กันต์ยกมือดันอีกคนเบาๆ
“ โอเคๆ ไม่พูดมากแล้วก็ได้ ลงไปข้างล่างกันดีกว่า มีคนรออยู่นะคะ ”
“ คนรอ.... ”
เพาภิรมย์พยักหน้ายิ้มเบาๆลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเอื้อมมือจับมือนุ่มนิ่มให้เดินตามมา สองสาวเดินลงมาจากชั้นบนสายตากันต์เหลือบมองไปรอบๆเพื่อมองหาคนที่มาเยือน
“ ไหนล่ะคะ คนที่รออยู่ ” กันต์เอ่ยถามขึ้นพร้อมกับมองหาไปรอบๆ
“ หลานรักของน้า....!!! ”
“ น้าพรรณ!! ”
ในขณะที่กันต์กำลังมองหาคนทีเพาภิรมย์บอกว่ารออยู่นั้น เสียงของพิมพรรณก็ดังขึ้นเมื่อเดินออกมาจากมุมหนึ่งของบ้านใบหน้าเรียวหันมองดีใจเป็นที่สุดสองน้าหลานกระโดดเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง
“ ไหนมาให้น้าตรวจดูหน่อย บุบสลายตรงไหนบ้างหรือป่าว ” พิมพรรณคลายอ้อมกอดออกพร้อมกับจับร่างบางหมุนดูทุกส่วนสัด
“ น้าพรรณ พากันต์กลับบ้านด้วยนะคะ กันต์ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ” ริมฝีปากบางพร่ำบอกต่อน้าสาวร่างสูงยืนกอดอกมองดูกิริยาท่าทางแล้วแอบยิ้มเบาๆ
“ นี่เพา เธอเลี้ยงดูหลานฉันไม่ดีใช่มั้ย ” พิมพรรณหันถามต่อเพื่อนสาว
“ ใครบอก ฉันเนี่ยประคบประหงมอย่างดีที่สุดเลยล่ะ ” ร่างสูงส่งสายตาหวานให้กับสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหลังพิมพรรณ
“ ไม่จริงเลยค่ะน้าพรรณ คุณเพาขังกันต์ไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปข้างนอกเลย จนเมื่อวานกันต์แอบออกไปได้ก็โดนไก่จิกด้วย คุณเพาชอบทิ้งให้กันต์อยู่คนเดียว แล้วตัวเองก็ไปอยู่กับคนอื่น ” ร่างบางบอกกับน้าสาวสีหน้าจริงจังคล้ายกำลังฟ้องเพื่อหาพวก
“ ไหนๆ อู้ยนี่! เป็นแผลจริงๆด้วย เพา เธอนี่ใช้ไม่ได้เลยนะ ” พิมพรรณหันต่อว่าเพาภิรมย์อีกครั้ง
“ ทิ้งที่ไหน พี่ก็กลับมาหากันต์ทุกคืน ” ร่างสูงยังคงยืนกอดอกสบายอารมณ์อมยิ้มบอกอย่างอารมณ์ดี
“ พรรณ เธอจะมาต่อว่าฉันไม่ได้นะ ฉันห้ามไม่ให้ออกไปข้างนอกแล้ว แต่หลานจอมดื้อของเธอก็ยังแอบออกไป ”
“ แต่เธอก็ไม่ควรปล่อยให้กันต์มีอันตราย ”
“ ใช่! คนนิสัยไม่ดี ” เมื่อพิมพรรณเข้าข้าง กันต์จึงซ้ำเติมเพาภิรมย์ซะอีกที ใบหน้าสวยได้แต่ยิ้มมองมาจนร่างบางรู้สึกหมันไส้เสียจริง
“ แต่เมื่อคืนฉันก็ทำแผลให้กันต์แล้วนะ......แล้วก็ป้อนยาด้วย จริงมั้ยจ๊ะ ” ร่างสูงพูดจากำกวมจนกันต์เริ่มออกอาการเกร็ง
“ อย่าพูดมาก ” กันต์เดินมาข้างหน้าพิมพรรณกระซิบบอกเสียงแข็งให้ได้รู้กันแค่สองคน ใบหน้าสวยแกล้งทำหน้าจ๋อยๆเมื่อโดนดุเบาๆ
“ เอาหล่ะ พี่จะไม่พูดเล่นแล้วนะ กันต์พร้อมจะฟังเหตุผลของคุณเพาหรือยังคะ ” เสียงหวานเอ่ยบอกเบาๆ ใบหน้าเรียวเบือนหน้าหนี พิมพรรณเห็นอาการของหลานสาวจึงเดินเข้ามาใกล้วางมือบนบ่า
“ ถ้าคุณเพามีเหตุผล กันต์ก็ควรจะรับฟังนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้น กันต์จะกลายเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเสียเองนะ ” น้าสาวเอ่ยบอกบางเบาเพื่อให้ยอมลดทิฐิลงเล็กน้อย ใบหน้าเรียวหันฟังคิดตาม
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
ไม่นานนักใบหน้าเรียวหันมองยังด้านล่างเมื่อมีรถกำลังแล่นเข้ามา เป็นรถของเพาภิรมย์นั่นองริมฝีปากบางอมยิ้มนิดๆก่อนจะรีบหุบลงเพราะลืมตัว กันต์รีบเดินกลับไปที่ห้องและสอดตัวเข้าไปนอนในผ้าห่มพร้อมกับหลับตาลง
เพาภิรมย์เดินขึ้นมายังชั้นบนเอื้อมมือเปิดประตูเมื่อมาถึงห้องนอนของเธอ สองขาก้าวเข้ามาช้าๆสายตามองร่างน้อยที่นอนหันหลังอยู่บนเตียงริมฝีปากฉีกยิ้มเบาๆและเดินเข้าไปหา
“ รู้นะว่าแกล้งหลับ ” ร่างสูงนั่งลงข้างๆก่อนจะก้มเข้าไปใกล้ๆกระซิบบอกเบาๆ กันต์ค่อยๆลืมตาขึ้นก่อนจะหันมาหา
“ คิดถึงจัง ”
“ ไม่ต้องมาทำเป็นปากหวาน ไม่มีใครเค้าหลงกลตัวเองหรอก ” ร่างบางลุกขึ้นนั่งพร้อมกับพูดเสียงแข็ง
“ ไม่หลงกลแสดงว่าหลงอย่างอื่น ใช่มั้ย ” เพาภิรมย์ส่งสายตากรุ้มกริ่ม
“ พูดมากเหลือเกินนะ ออกไปเลยปะ ” กันต์ยกมือดันอีกคนเบาๆ
“ โอเคๆ ไม่พูดมากแล้วก็ได้ ลงไปข้างล่างกันดีกว่า มีคนรออยู่นะคะ ”
“ คนรอ.... ”
เพาภิรมย์พยักหน้ายิ้มเบาๆลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเอื้อมมือจับมือนุ่มนิ่มให้เดินตามมา สองสาวเดินลงมาจากชั้นบนสายตากันต์เหลือบมองไปรอบๆเพื่อมองหาคนที่มาเยือน
“ ไหนล่ะคะ คนที่รออยู่ ” กันต์เอ่ยถามขึ้นพร้อมกับมองหาไปรอบๆ
“ หลานรักของน้า....!!! ”
“ น้าพรรณ!! ”
ในขณะที่กันต์กำลังมองหาคนทีเพาภิรมย์บอกว่ารออยู่นั้น เสียงของพิมพรรณก็ดังขึ้นเมื่อเดินออกมาจากมุมหนึ่งของบ้านใบหน้าเรียวหันมองดีใจเป็นที่สุดสองน้าหลานกระโดดเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง
“ ไหนมาให้น้าตรวจดูหน่อย บุบสลายตรงไหนบ้างหรือป่าว ” พิมพรรณคลายอ้อมกอดออกพร้อมกับจับร่างบางหมุนดูทุกส่วนสัด
“ น้าพรรณ พากันต์กลับบ้านด้วยนะคะ กันต์ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ” ริมฝีปากบางพร่ำบอกต่อน้าสาวร่างสูงยืนกอดอกมองดูกิริยาท่าทางแล้วแอบยิ้มเบาๆ
“ นี่เพา เธอเลี้ยงดูหลานฉันไม่ดีใช่มั้ย ” พิมพรรณหันถามต่อเพื่อนสาว
“ ใครบอก ฉันเนี่ยประคบประหงมอย่างดีที่สุดเลยล่ะ ” ร่างสูงส่งสายตาหวานให้กับสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหลังพิมพรรณ
“ ไม่จริงเลยค่ะน้าพรรณ คุณเพาขังกันต์ไว้ในบ้านไม่ให้ออกไปข้างนอกเลย จนเมื่อวานกันต์แอบออกไปได้ก็โดนไก่จิกด้วย คุณเพาชอบทิ้งให้กันต์อยู่คนเดียว แล้วตัวเองก็ไปอยู่กับคนอื่น ” ร่างบางบอกกับน้าสาวสีหน้าจริงจังคล้ายกำลังฟ้องเพื่อหาพวก
“ ไหนๆ อู้ยนี่! เป็นแผลจริงๆด้วย เพา เธอนี่ใช้ไม่ได้เลยนะ ” พิมพรรณหันต่อว่าเพาภิรมย์อีกครั้ง
“ ทิ้งที่ไหน พี่ก็กลับมาหากันต์ทุกคืน ” ร่างสูงยังคงยืนกอดอกสบายอารมณ์อมยิ้มบอกอย่างอารมณ์ดี
“ พรรณ เธอจะมาต่อว่าฉันไม่ได้นะ ฉันห้ามไม่ให้ออกไปข้างนอกแล้ว แต่หลานจอมดื้อของเธอก็ยังแอบออกไป ”
“ แต่เธอก็ไม่ควรปล่อยให้กันต์มีอันตราย ”
“ ใช่! คนนิสัยไม่ดี ” เมื่อพิมพรรณเข้าข้าง กันต์จึงซ้ำเติมเพาภิรมย์ซะอีกที ใบหน้าสวยได้แต่ยิ้มมองมาจนร่างบางรู้สึกหมันไส้เสียจริง
“ แต่เมื่อคืนฉันก็ทำแผลให้กันต์แล้วนะ......แล้วก็ป้อนยาด้วย จริงมั้ยจ๊ะ ” ร่างสูงพูดจากำกวมจนกันต์เริ่มออกอาการเกร็ง
“ อย่าพูดมาก ” กันต์เดินมาข้างหน้าพิมพรรณกระซิบบอกเสียงแข็งให้ได้รู้กันแค่สองคน ใบหน้าสวยแกล้งทำหน้าจ๋อยๆเมื่อโดนดุเบาๆ
“ เอาหล่ะ พี่จะไม่พูดเล่นแล้วนะ กันต์พร้อมจะฟังเหตุผลของคุณเพาหรือยังคะ ” เสียงหวานเอ่ยบอกเบาๆ ใบหน้าเรียวเบือนหน้าหนี พิมพรรณเห็นอาการของหลานสาวจึงเดินเข้ามาใกล้วางมือบนบ่า
“ ถ้าคุณเพามีเหตุผล กันต์ก็ควรจะรับฟังนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้น กันต์จะกลายเป็นคนที่ไม่มีเหตุผลเสียเองนะ ” น้าสาวเอ่ยบอกบางเบาเพื่อให้ยอมลดทิฐิลงเล็กน้อย ใบหน้าเรียวหันฟังคิดตาม
************************
ลบเนื้อหาบางส่วน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ