เสน่ห์รักเจ้าเมืองเหนือ

6.2

เขียนโดย กรุงสยาม

วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 10.44 น.

  44 ตอน
  0 วิจารณ์
  45.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2559 15.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) แหวนคล้องใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เช้าวันใหม่ กันต์รีบลุกออกจากอ้อมกอดของเพาภิรมย์และย่องเบาที่สุดเพื่อไม่ให้อีกคนรู้ตัว ร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆ สักพักใหญ่ก็กลับเข้ามายังในห้องนอนมองมาที่เตียงไม่เห็นสาวใหญ่ของเธอนอนอยู่แล้วนิ่วหน้าแปลกใจเบาๆว่าหายไปไหน


“ ไม่ยอม ” เสียงเพาภิรมย์ดังขึ้นจากด้านข้าง ใบหน้าเรียวหันมองเจอร่างสูงยืนกอดอกพิงผนังใกล้ประตูของห้องน้ำ

“ ไม่ยอมอะไรเหรอคะ ”

“ ก็ตัวเองอ่ะ ทิ้งให้เค้านอนอยู่คนเดียว หลายครั้งแล้วนะ ” กันต์ยิ้มหัวเราะนิดๆกับกิริยาของเพาภิรมย์ในตอนนี้พลางเดินไปที่ประตูห้องหมายจะออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ของเช้านี้ แต่กับถูกมือเรียวสองข้างยื่นเข้ามากอดเอวบางและดึงลงไปบนที่นอนด้วยกัน ใบหน้าเรียวถูกจมูกโด่งหอมซ้ายหอมขวาไม่ยั้งแถมซุกไซร้ซอกคอเสียอยู่นาน

“ อาบน้ำแล้วนิ ” กันต์จับใบหน้าสวยที่กำลังคลอเคลียเธออยู่ออกห่างพูดออกมาเบาๆเมื่อได้กลิ่นหอมๆจากคนบนร่าง เพาภิรมย์ยิ้มหวานให้ทันที

“ แล้วทำมาบอกว่าไม่ยอม ” ร่างบางพูดพร้อมกับดันตัวเพื่อที่จะลุกขึ้น

“ ฮื่อ..จะไปไหน ” เพาภิรมย์ดันตัวลงนอนเช่นเดิม

“ จะไปเดินเล่นค่ะ ”

“ ไม่ให้เดิน ”

“ จะเดิน ”

“ จูบก่อน ”

“ ไม่ต้องเลย คนชอบฉวยโอกาส ”

“ งั้นก็ไม่ให้ไป ” เพาภิรมย์ดันตัวสาวน้อยลงนอนไว้สอดนิ้วเข้ากุมมือไว้แน่น กันต์พยายามลุกขึ้นแต่แรงก็สู้ไม่ได้จนโดนหอมแก้มไปเสียหลายฟอดจากความหมันเขี้ยว ใบหน้าเรียวทำตาดุใส่แต่กับไม่สะทกสะท้านต่อคนบนร่างเอาเสียเลย เพาภิรมย์พลิกกายลงนอนและจับร่างบางให้อยู่ด้านบนแทน

“ ถ้าไม่จูบ ยาวแน่ ” ใบหน้าสวยส่งสายตากรุ้มกริ่ม

กันต์เม้มไปมาจ้องมองลังเลสักพัก ก่อนจะค่อยๆก้มลงไปแตะแต้มริมฝีปากสวยแผ่วเบา ใบหน้าเรียวหลับตาลงเริ่มตื่นเต้นเล็กๆเมื่อกลีบปากบางถูกเม้มดูดจากคนใต้ร่างเรียวลิ้นร้อนสอดลึกเข้ามาพัวพันเกี่ยวกวัดดูดรัดอย่างเร่าร้อนใบหน้าสองสาวเอียงเอนสลับไปมาเมื่อจมูกโด่งของทั้งคู่ชนกัน จูบรุกเร้าเริ่มดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อความเงียบทำให้เพลิดเพลินไปตามสถานการณ์

เสียงลมหายใจแทรกแซงออกมดังพอควรเมื่อสองร่างไม่มีใครยอมใครต่างติดใจรสจูบของกันและกันพลัดเชยชิมปลายลิ้นอุ่นร้อนดูดโรมรัดความหอมหวานแทนอาหารมื้อเช้าของวันนี้ เพาภิรมย์ผละออกจากลีบปากบางจมูกโด่งชอนไชลงมายังลำคอสูดดมกลิ่นเนื้อนวลเรียวปากดูดเม้มเล่นเบาๆ

ใบหน้าเรียวหลับตาพริ้มเมื่อสาวใต้ร่างกำลังทำให้เธอเริ่มสั่นคอนไปกับเสน่หา สองมือบีบกำอุ้งมือขาวที่กอบกุมเธอไว้ไม่ยอมปล่อย ก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อคมฟันกัดจิกซอกคอขาวเบาๆ

“ อื้อ...พอแล้ว ” เสียงเล็กเอ่ยบอกบางเบา

“ ไม่พอได้มั้ย ” เพาภิรมย์อ้อนต่อรองพร้อมกับดันตัวเองลุกขึ้นให้สาวน้อยนั่งคร่อมกายเธอไว้ ด้วยที่ใกล้ขอบเตียงมากกันต์จึงจะหงายหลังลงไปสองมือจึงคว้าคล้องคอร่างสูงที่นั่งอยู่ไว้ ใบหน้าสวยยิ้มหวานเหมือนกับเป็นแผนของตัวเองอย่างนั้น

“ ว่าไง...ไม่พอได้มั้ย ”

“ ไม่ได้ ”

“ ใจร้ายจัง ” เพาภิรมย์ทำหน้างอน

“ โอ๋ๆ แค่นี้ก็งอนด้วย ” มือเรียวลูบผมอย่างเอาใจ

“ ต้องตามใจซินะ ถึงจะชอบใจ ” กันต์เอ่ยบอกเสียงอ่อนเสียงหวาน

“ แล้วตามใจได้ป่ะ ”

“ ไม่ได้ คนอะไรไม่รู้จักพอเลยนะ ” กันต์หยิกแก้มคนเอาแต่ใจอย่างหมันเขี้ยวก่อนที่จะลงจากตัก หันมองเพาภิรมย์ที่นั่งยิ้มอยู่อย่างนั้น จึงโน้มใบหน้าเข้าไปหาและกระซิบถามเบาๆ

“ ยิ้มอะไรจ๊ะ..ที่รัก ”

“ กันต์....พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ ” ริมฝีปากสวยกัดฟันพูดออกมานิ่งๆอยากจะตะครุบลูกแมวที่อยู่ตรงหน้าเสียให้รู้แล้วรู้รอด ร่างบางยิ้มท้าทาย เพาภิรมย์ลุกขึ้นยืน กันต์รีบวิ่งไปที่ประตูและเปิดออกไปทันที

“ นึกว่าจะแน่ ” ร่างสูงหัวเราะในลำคอและพูดออกมาเบาๆก่อนที่เธอจะเดินไปที่ริมระเบียงห้องยืนชมไปรอบๆพื้นหญ้าเขียวขจีที่ชุ่มน้ำจากฝนเมื่อคืนนี้

 

 

เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที เพาภิรมย์ยืนชมธรรมชาติเพลินตาไปสักครู่ก่อนที่จะออกมานอกห้องเห็นสาวน้อยของเธอนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาหันข้างเอนหัวพิงเหม่อมองออกไปด้านนอก จึงเดินเข้าไปหา

“ นั่งคิดอะไรอยู่คะ ” ร่างสูงนั่งลงใกล้ๆเอื้อมมือเข้าไปกอดและถามเบาๆ กันต์หันมองเพาภิรมย์สักพักก่อนจะยิ้มให้บางๆไม่ได้ตอบอะไร

“ เป็นอะไรคะ ซึมเชียว หิวเหรอ ” มือเรียวจับดวงหน้าของร่างเล็กเกลี่ยนิ้วเล่นบนแก้มไปมายิ้มถามอีกครั้ง

“ กันต์....เพลียๆค่ะ เหมือนจะไม่สบาย ” ใบหน้านิ่งเรียบก้มสายตาตอบกลับมา

“ ป่วยเลยเหรอเนี่ย ” ริมฝีปากสวยแกล้งหยอกล้อเบาๆ

“ คุณเพา...กันต์อยากกลับแล้ว ”

“ จ้ะ งั้นเดี๋ยวพี่ไปหยิบโทรศัพท์ก่อนนะ ” เพาภิรมย์บอกเสร็จก็หอมแก้มใสหนึ่งฟอดก่อนจะเดินไปที่ห้อง ใบหน้าเรียวมองตามหลังแววตาบ่งบอกว่ากำลังคิดอะไรหลายๆอย่าง

 

รถเบนซ์แล่นออกจากเวียงฎรัศมิ์มาไกลความเงียบจนผิดปกติทำเอาเพาภิรมย์เริ่มสงสัยว่าสาวน้อยของเธอเป็นอะไรกันแน่ กันต์นั่งนิ่งสองมือกอดเอวตัวเองไว้หลวมๆหันมองออกนอกกระจกไม่พูดอะไรตั้งแต่ขึ้นรถมา

“ กันต์.... ” เพาภิรมย์เรียกเบาๆ ใบหน้าเรียวหันมา คนขับรถเอื้อมวัดความร้อนบนหน้าผากด้วยหลังมือของเธอ

“ ปวดหัวมั้ย ” เสียงเรียบเอ่ยถาม กันต์ยิ้มบางๆส่ายหน้าแทนคำตอบและหันกลับไปเช่นเดิม เพาภิรมย์จึงไม่ได้สงสัยอะไรมากเพราะคิดว่าตัวเล็กของเธอคงจะไม่สบายจริงๆ

 

สองสาวเดินทางกลับมาถึงคุ้มหลวง นพรีบปรี่เข้ามาหาเจ้านายทันที

“ เอ่อ...เจ้าครับ คือ ” นพอ้ำอึ้งเพราะเห็นว่าเพาภิรมย์อยู่ด้วย

“ มีอะไร ” เมื่อเจ้านายเอ่ยเช่นนั้น นพจึงรีบรายงานทันที

“ คุณพลอยขวัญครับ ” นพเอ่ยบอกเรียบๆ เพาภิรมย์เมื่อได้ยินนพบอกเช่นนั้นสีหน้าจึงสนใจขึ้นมาทันที หันมองกันต์ที่มีอาการตกใจเล็กๆไม่คิดว่าพลอยขวัญจะมาที่นี่

“ คุณพลอยขวัญยืนยันที่จะพบเจ้าให้ได้ ตอนนี้กำลังเถียงอยู่กับคุณพรรณครับ ” กันต์หันมองเข้าไปด้านในถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะเดินเข้าไป โดยมีเพาภิรมย์ปะกบหลังเดินตามไปติดๆ

 


“ ฉันบอกแล้วไง ว่ากันต์ไม่อยู่ เธอกลับไปได้แล้ว ”

“ ฉันไม่เชื่อ เธอกีดกัน ไม่ให้ฉันพบเค้า ใช่มั้ย ”

เพียงแค่หน้าห้องรับแขกเท่านั้นก็ได้ยินเสียงหญิงสาวสองคนที่กำลังยืนเถียงอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่กันต์จะเดินเข้าไปเพาภิรมย์เอื้อมจับมือเรียวไว้ แสดงความหึงหวงนิดๆ

“ กันต์.... ” พลอยขวัญหันมาเห็น ใบหน้าหวานฉีกยิ้มอย่างดีใจและรีบวิ่งมาหา ส่วนพิมพรรณเองก็รีบวิ่งมายืนเยื้องๆอยู่หลังเพาภิรมย์มองพลอยขวัญไม่ชอบใจนัก

“ เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ” พลอยขวัญวิ่งเข้ามาจับมือกันต์ยิ้มพูดอย่างอารมณ์ดีโดยไม่สนใจว่าเพาภิรมย์ยืนอยู่ด้วย กันต์มองมือของตัวเองและดึงออกเบาๆ พิมพรรณมีหน้าที่ดึงเพาภิรมย์ไว้เมื่อร่างสูงมีอาการหึงหวงเป็นธรรมดา

“ พี่พลอยมีธุระอะไรเหรอคะ ” ร่างบางเอ่ยถามเรียบๆ

“ พี่มีเรื่องอยากคุยด้วย กันต์มีเวลาให้พี่มั้ยคะ ” พลอยขวัญเปรยตาไปทางเพาภิรมย์ที่พร้อมจะปรี่เข้ามาดึงคนรักออกห่างจากเธออยู่ตลอดเวลา

“ มีค่ะ ” กันต์ตอบกลับไป เพาภิรมย์ได้ยินเช่นนั้นจึงหันหน้าหนีเดินออกไปทันที พิมพรรณรีบตามไป กันต์เดินนำออกมายังริมสระว่ายน้ำ

 

“ มีเรื่องอะไรเหรอคะ ” กันต์เริ่มถามก่อน

“ พี่คิดถึงกันต์.... ” พลอยขวัญจ้องมองใบหน้านิ่งสักพักก่อนจะตอบออกไปเบาๆ กันต์ถอนหายกับตัวเองเงียบๆเมื่อพลอยขวัญพูดเช่นนั้น

“ พี่ไม่มีความสุขเลย ที่พี่ไม่ได้เห็นหน้ากันต์ ”

“ พี่อยากเจอกันต์ อยากอยู่ใกล้ๆ ”

“ พี่ยังยืนยันคำเดิมนะคะ ว่าพี่รักกันต์ ” พลอยขวัญพร่ำบอกต่อสาวน้อยที่ยืนฟังเรียบเฉย

“ พี่มีอะไรไม่ดีตรงไหน กันต์ถึงไม่สนใจพี่เลย พี่มีข้อบกพร่องตรงไหน กันต์ช่วยบอกพี่หน่อยได้มั้ย พี่จะได้ปรับปรุงตัวเพื่อกันต์ไง ”

“ บอกพี่ซิคะ ” พลอยขวัญเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นจ้องมองแววตาสาวน้อย

“ พี่จะมาคาดหวังอะไรจากกันต์ ”

“ ที่กันต์ปฏิเสธความรู้สึกของพี่พลอยไม่ใช่เพราะข้อบกพร่องอะไรทั้งสิ้น ”

“ เพียงแต่กันต์ไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับพี่ ” ร่างบางเอ่ยบอกนิ่งเรียบพลางจะเดินออกไป

“ ทำไม!! ทำไมกันต์ถึงไม่รักพี่ ทำไมกันต์ถึงรักคนอื่น พี่รักกันต์ กันต์ก็ต้องรักพี่ซิ ”

“ คุณเพาไม่ใช่คนอื่น เค้าคือคนที่กันต์รัก ” กันต์ตอบและเดินออกห่างเมื่อรู้ถึงคำว่ารักของพลอยขวัญ ช่างดูเห็นแก่ตัวเสียจริง

“ กันต์คิดเหรอ! ว่าเพาภิรมย์..จะรักกันต์จริง ” พลอยขวัญตะโกนตามหลัง ร่างบางหยุดเดินยืนนื่งสักครู่

“ เพาภิรมย์ไม่ได้รักกันหรอก เค้าก็แค่มีความสุข กับการที่ได้เป็นเจ้าของ เค้าลุ่มหลงในตัวกันต์ ไม่ใช่หัวใจของกันต์ ” ใบหน้าเรียวนิ่งเรียบคำพูดของพลอยขวัญทำให้เธอสะเทือนใจไม่น้อย ก่อนที่จะก้าวขาเดินต่อไปโดยไม่หันกลับมาพูดอะไรอีก ใบหน้าหวานมีหยดน้ำตาเล็กๆแปะเปื้อนอยู่นิดหน่อย เมื่อได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บช้ำอีกครั้ง


ร่างบางเดินมายังห้องของเพาภิรมย์ มือเรียวเอื้อมเปิดประตูและเดินเข้าไป เห็นคนรักยืนอยู่ริมระเบียง กันต์สีหน้าซึมตั้งแต่กลับมาจากเวียงฎรัศมิ์ เหนื่อยๆกับอะไรหลายๆอย่าง

กันต์เดินเข้าไปกอดเพาภิรมย์จากด้านหลังใบหน้าเอนพิงเนื้อกาย ใบหน้าสวยหันกลับมาเพียงนิด

“ คุยเสร็จแล้วเหรอ ” เพาภิรมย์ถามเบาๆ

“ ค่ะ... ” กันต์ตอบกลับมาสั้นๆ ร่างสูงเบี่ยงตัวเดินเข้าไปยังห้อง

“ คุณเพาไม่ได้โกรธกันต์ใช่มั้ย ” เสียงเล็กเอ่ยถามพร้อมกับหันร่างที่เดินตามมาติดๆ

“ ถามทำไม....กันต์อยากง้อพี่เหรอ ” เพาภิรมย์หันมายืนยิ้มหวาน

“ ถ้าพี่โกรธ กันต์จะง้อหรือป่าว ” ใบหน้าสวยส่งสายตากรุ้มกริ่ม ร่างบางเดินเข้าไปใกล้ก้มหัวพิงชนไหล่ไว้ เพาภิรมย์อมยิ้มยกมือโอบกอดไว้แน่น เมื่อสาวน้อยของเธอมีอาการเขินแอบอ้อนเบาๆ

“ พี่เชื่อใจกันต์ เพราะว่าพี่รักกันต์ แล้วตัวเล็กก็รักพี่คนเดียวใช่มั้ยคะ ” เพาภิรมย์ผละออกมาและพูดอย่างอ่อนโยน ใบหน้าเรียวจ้องมองเพาภิรมย์สักพักก่อนจะสวมกอดร่างสูงไว้

“ กันต์รักคุณเพา ” กันต์น้ำตาคลอบอกเสียงสั่นเครือจนเพาภิรมย์เริ่มหน้านิ่งไป ก่อนจะเอื้อมมือกอดตอบแนบแน่น

“ พี่ก็รักกันต์ รักมากที่สุดเลย ” สองสาวยืนกอดกันท่ามกลางความเงียบของในห้องนอนใบหน้าเรียวหลับตาลงเมื่อได้ยินคำบอกรักจากเพาภิรมย์ ร่างสูงนิ่วหน้าสงสัยเล็กๆเมื่อสาวน้อยของเธอดูเศร้าๆไป

“ กันต์....พี่มีเรื่องจะ...ตริ๊ง! ” เพาภิรมย์กำลังจะบอกเรื่องของเมธาวี แต่เสียงไลน์ดันมาขัดเสียก่อน ใบหน้าสวยหันมองก่อนที่จะเดินไปดูเพราะเธอพึ่งจะเปิดเครื่องโทรศัพท์หลังจากที่ปิดไว้เสียนาน

ไม่ใช่ใครที่ไหน เพาภิรมย์ถอนหายใจเบาๆเมื่อผู้ที่ส่งมาคือเมธาวีนั่นเอง นิ้วเรียวกดดูเป็นวีดีโอความยาวไม่นานนัก เพาภิรมย์จึงลองกดเปิดดู ใบหน้าสวยเบิกตาโตเมื่อบุคคลที่เคลื่อนไหวอยู่ในคลิปนั้นเป็น ชมรวี น้องสาวของเธอกับอดีตคนรักตัวดีนั่นเองกำลังมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน ข้อความไลน์เด้งเข้ามาอีกระบุว่า


“ นี่แค่ทีเซอร์นะคะ...เมย์ให้เวลาเพา 3 วัน สั่งลาสาวน้อยของเพาซะ แล้วรีบกลับมาเมย์ เมย์จะรอเพาอยู่ที่กรุงเทพ ถ้าเพาไม่ตามใจเมย์ คลิปนี้จะถูกแชร์วอนไปทั่วโซเชียล ”

ร่างสูงกัดฟันกำโทรศัพท์ไว้แน่นเมื่อเมธาวีกล้าทำถึงขนาดนี้ ใจของเพาภิรมย์เต้นแรงเหงื่อแตกพลักเมื่อความโกรธวิ่งพล่านเข้ามาในตัวจนเส้นเลือดในสมองแทบจะปริแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆไอความร้อนวนเวียนท่วมร่างไปหมด หนทางเลือกมีไม่มากนัก เธอจะต้องกลับไปเผชิญหน้ากับเมธาวีอีกครั้ง

เพาภิรมย์หันมองกันต์ที่ยืนมองเธออยู่เช่นกันสายตาตั้งมั่นกับตัวเองว่าจะไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงร้อยเล่ห์อย่างเมธาวีมาทำลายความรักของเธอเป็นแน่ ร่างสูงเดินเข้ามาหาตัวเล็กของเธอพร้อมกับสวมกอดอีกครั้ง

 


สองวันต่อมา..... ริมสระบัว เพาภิรมย์ที่พึ่งวางสายจากการคุยโทรศัพท์ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว โดยไม่รู้ตัวว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องมองมา กันต์ก้าวขาเดินไปหาสาวใหญ่ของเธอที่ยืนหน้าบึ้งตึงดูเหมือนอารมณ์จะไม่ค่อยดีนัก

“ คุณเพา หงุดหงิดเหรอคะ ” กันต์เอ่ยถามเบาๆ เพาภิรมย์สะดุ้งเล็กน้อยเพราะระแวงที่อีกคนเดินเข้ามาเงียบๆ

“ ป่าวค่ะ ”

“ คุณเพาดูเครียดๆนะคะ เป็นอะไรหรือป่าว ”

“ พี่ไม่ได้เป็นอะไร!! ” เพาภิรมย์ที่กำลังอึดอัดใจกับเมธาวีอารมณ์เลยไม่ค่อยดีนัก เผลอพูดเสียงดังใส่สาวน้อยของเธอที่เอ่ยถามเพราะความเป็นห่วงโดยไม่ได้ตั้งใจ ใบหน้าเรียวสบตานิ่งแต่ใจแอบสั่นเหมือนน้อยใจเล็กๆเพราะเพาภิรมย์ไม่เคยพูดจาแบบนี้กับเธอเลย นอกซะจากตั้งแต่ทะเลาะกันคราวก่อน

“ เอ่อ...กันต์พี่... ”

“ ไม่เป็นไรค่ะ ” กันต์ยิ้มพูดขึ้นตัดหน้าเบาๆและหันโปรยอาหารปลาลงไปยังสระบัว เพาภิรมย์ถอนหายใจกับตัวเองและเดินเข้าไปกอดร่างบางอย่างแสนรัก

“ พี่ขอโทษนะคะ พี่เครียดเรื่องงานมากไปหน่อย ” เพาภิรมย์กระซิบบอก ใบหน้าเรียวหันยิ้มให้บางๆไม่ได้ว่าอะไร

“ กันต์.... ”

“ พรุ่งนี้ พี่ต้องกลับกรุงเทพ ” ดวงตาคู่เสน่ห์น้ำตาคลอทันทีเม้มปากหายใจเข้าลึกๆบังคับเพื่อไม่ให้ไหลรินลงมา

“ ไปนานมั้ยคะ ”

“ จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ”

“ คุณเพาจะกลับมาหากันต์อีกมั้ย ”

“ กลับมาซิคะ รักของพี่อยู่ที่นี่ ” ร่างบางถูกจับหันมามองกันและกันก่อนสองร่างจะโอบกอดกันแนบแน่น กันต์น้ำตาไหลรินลงมานิ้วเรียวรีบยกขึ้นปัดป่ายเพื่อไม่ให้เพาภิรมย์เห็น

หลังจากนั้นทั้งคู่ก็แยกกันไปที่ห้องของตัวเอง เพาภิรมย์นั่งอยู่ ณ โซฟาปลายเตียง ใบหน้าคุ่นคิดเธอตัดสินใจไม่ให้กันต์รู้เรื่องของเมธาวี เพราะการกลับไปของเธอในครั้งนี้จะต้องหาหนทางเอาคลิปบ้าๆนั่นมาจากเมธาวีให้ได้ เธออาจจะต้องใช้มารยาหญิงเพื่อเข้าถึงตัวให้เมธาวีตายใจ และอยากให้กันต์อยู่ไกลเมธาวีให้มากที่สุดด้วยกลัวว่าอดีตคนรักจะสร้างเรื่องให้กับเธอไปมากกว่านี้

 


เวลาเกือบ 3 ทุ่ม กันต์เป็นฝ่ายมาหาเพาภิรมย์ที่ห้อง เมื่อก้าวขาเข้าประตูก็ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ของคนรัก

“ อืม..คิดถึง ” เสียงเพาภิรมย์คุยโทรศัพท์วาจาแข็งๆนิดๆ

“ ค่ะ เพาคิดถึงคุณ ” เพาภิรมย์ตอบปลายสายไปอีกครั้ง ถึงจะเป็นเสียงที่บังคับใจตัวเอง แต่ก็ไม่รู้เลยว่าทำให้อีกคนน้ำตาเอ่อคลอแทบอยากจะปล่อยโฮออกมาเต็มทน ริมฝีปากสวยถอนหายใจออกมาโยนมือถือเครื่องหรูลงไปบนเตียงอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะหันมาเจอสาวน้อยที่ยืนก้มหน้านิดๆ

“ กันต์...! ”

“ กันต์เข้ามา ตั้งแต่เมื่อไหร่ ”

“ พึ่งเข้ามาเดี๋ยวนี้เองค่ะ ” กันต์เลือกที่จะไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น เพาภิรมย์ถอนหายใจโล่งอกว่าตัวเล็กของเธอคงจะไม่ทันได้ยินอะไร

“ พี่กำลังจะไปหาอยู่พอดีเลย ” ร่างสูงเดินเข้ามาบอกเสียงอ่อนเสียงหวาน

“ เป็นอะไรหรือป่าวคะ ” เพาภิรมย์ก้มลงถามเมื่อเห็นใบหน้าเรียวดูซึมๆไป

“ กันต์มาให้คุณเพากอด ”

“ พรุ่งนี้ คุณเพาก็ไปแล้ว ”

ใบหน้าเรียวก้มหน้านิดๆช่างดูเศร้าขึ้นเรื่อยๆ เพาภิรมย์มองสักพักและจูงมือสาวน้อยมานั่งลงบนเตียง ร่างสูงยืนมองดวงหน้าที่เหงาซึมมือลูบไล้ข้างแก้มนวลก่อนจะค่อยๆก้มลงไปจุมพิตริมฝีปากบางแผ่วเบา กลีบปากสวยจูบลูบไล้ไปมาความนุ่มนวลสร้างความเคลิบเคลิ้มให้มากเหลือเกินบดเบียดดูดเม้มสักพักก่อนจะผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง สองดวงตาจ้องมองกันสักครู่

“ มากกว่ากอดได้หรือป่าว.... ” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามบางเบา ใบหน้าเรียวพยักหน้าแทนคำพูดเมื่ออีกคนต้องการแบบนั้น น้ำตาไหลหยดบนใบหน้าที่ละนิดๆ เพาภิรมย์ใช้นิ้วเกลี่ยปาดให้อย่างอ่อนโยนไม่พูดไม่ถามอะไรทั้งนั้นเพราะเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆในใจ

เพาภิรมย์ดันร่างบางนอนลงบนเตียงกว้าง ก้มลงจูบซับคราบน้ำตาที่ไหลรินออกมายังไม่หยุด จมูกโด่งสูดดมกลิ่นแก้มที่หอมหวนรัญจวนใจ จมูกคลอเคลียดวงหน้าไปมาริมฝีปากจูบลงยังหน้าผากมนเลื่อนลงมาหาดวงตาลากไล้ไปที่จมูกและก้มลงจุมพิตกลีบปากบางอย่างนุ่มนวล

ลิ้นร้อนค่อยๆบดเบียดเข้าไปยังโพลงปากนุ่มปลายลิ้นชอนไชลูบไล้เกี่ยวพันอย่างนุ่มนวลกลีบปากสวยดูดจูบเน้นหนักสลับเบาไม่เร่งรีบแตะแต้มลิ้นเจ้าของลากวนไปมาบนแผ่นลิ้นเบาๆ

“ ชู่วส์...ไม่งอแงนะคะ ” ใบหน้าสวยยิ้มบอกเบาๆเมื่อคนใต้ร่างยังสะอื้นไม่เลิก

“ คุณเพา...รักกันต์..จริงๆใช่มั้ยคะ ” เสียงสะอึกสะอื้นเอ่ยถามออกไป

“ ทำไมถึงถามแบบนี้ ฮึ...คนดี ” ริมฝีปากสวยก้มจูบพรมไปทั่วใบหน้าเบาๆก่อนจะหยุดสบตาอีกครั้ง

“ กันต์อยากให้...คุณเพารักกันต์...จริงๆ ”

“ พี่รักกันต์ รักกันต์คนเดียว ” มือเรียวลูบไล้พวงแก้มอย่างอ่อนโยน

“ รักกันต์ เพราะกันต์นอนอยู่ตรงนี้หรือป่าวคะ ” ร่างบางถามดวงตารอฟังคำตอบ จนทำให้อีกคนเงียบนิ่งไป

“ คุณเพาไม่ได้รักกันต์แค่บนเตียงใช่มั้ยคะ ”

“ กันต์...ทำไมถึงถามแบบนี้ ” เพาภิรมย์ตกใจเล็กๆกับคำถามของสาวน้อยพลางดันตัวเองลุกขึ้นนั่งๆและประคองร่างบางลุกขึ้นตามก่อนจะพูดออกไป

“ พี่ไม่ได้รักกันต์เพียงแค่ เรามีความสุขบนเตียงด้วยกัน ”

“ แต่รักของพี่ มันเยอะแยะมากมาย ” เพาภิรมย์เอื้อมมือลูบไล้ข้างแก้มนวลอย่างอ่อนโยน

“ พี่รักทุกอย่างที่เป็นกันต์ รักความรู้สึก รักสายตาเวลาที่กันต์มองพี่ ”

“ พี่รักกันต์เพราะพี่รู้ ว่ากันต์จะไม่มีวันจากพี่ไป ” เพาภิรมย์พูดบอกอย่างอ่อนโยนก่อนจะเอื้อมหยิบอะไรบางอย่างที่วางซ่อนอยู่ใต้หมอน กล่องเล็กๆสีชมพูอ่อนถูกเปิดออกช้าๆ ปรากฏแหวนเพชรเม็ดโตออกมาให้เห็น

ใบหน้าเรียวเงยหน้าขึ้นมองคนรัก เพาภิรมย์หยิบแหวนนั้นออกจากล่องบรรจุ เอื้อมจับมือซ้ายนุ่มนิ่มขึ้นมา ก่อนจะค่อยๆสวมแหวนเพชรเข้ากับเรียวนิ้วนางอย่างเบามือ

“ เชื่อใจคุณเพานะคะ เชื่อเหมือนที่พี่เชื่อใจกันต์ เชื่อในความจริงที่ว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป ” กันต์โผเข้ากอดเพาภิรมย์น้ำตาไหลนองเต็มหน้าถึงแม้อะไรหลายๆอย่างที่ได้รับรู้มาจะทำให้ใจเธอสั่นคอน แต่คำพูดของเพาภิรมย์ก็สามารถทำให้เธอเชื่อและไว้ใจได้มากเหลือเกิน ใบหน้าสวยยิ้มกอดสาวน้อยไว้แน่นเช่นกัน

 


เช้าวันใหม่ กันต์และเพาภิรมย์นั่งรถโดยมีนพเป็นคนขับ รถแล่นเข้ามาจอดยังหน้าสนามบิน กันต์บอกกับเพาภิรมย์ว่าขอส่งเพียงแค่ตรงนี้เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย ร่างสูงก้าวขาลงจากรถและเดินอ้อมมาหาสาวน้อยของเธอที่เปิดประตูนั่งรออยู่ในรถ

“ พอถึงกรุงเทพ พี่จะโทรหานะคะ ” เพาภิรมย์จับมือข้างหนึ่งของคนรักก่อนจะเอ่ยบอกเบาๆ กันต์พยักหน้าตอบ

“ ยิ้มหน่อยเร็ว ” ร่างสูงเห็นสาวน้อยของเธอสีหน้าซึมๆ แต่กันต์ก็ยังคงยิ้มไม่ออก ใบหน้าสวยจึงก้มลงหอมแก้มหนึ่งฟอด

“ รักกันต์นะคะ ยิ้มหน่อยไม่ได้เหรอ... ” เสียงหวานแอบอ้อนเบาๆ ร่างบางอมยิ้มให้เห็นจนได้

“ พี่ไปก่อนนะคะ ” เมื่อจวนจะถึงเวลาเต็มที เพาภิรมย์เอ่ยบอกอีกครั้ง ใบหน้าเรียวเงยหน้าขึ้นมองน้ำตาเอ่อคลอพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ ร่างสูงเตรียมจะเดินออกไปสองสาวยังคงจับมือกันไว้จนสุดปลายมือ เพาภิรมย์เดินเข้าสนามบินไปยังคงหันกลับมามองเป็นระยะๆ กันต์นั่งมองคนรักจนเดินลับไปสุดสายตา

“ ออกรถ... ”

เสียงเรียบเอ่ยบอกต่อลูกน้องบางเบา รถเคลื่อนออกจากสนามบินโลดแล่นไปช้าๆ กันต์นึกไปถึงเรื่องที่เธอได้รับรู้มาเมื่อก่อนกลับจากเวียงฎรัศมิ์

 


ก่อนเพาภิรมย์จะออกมาจากห้อง ประมาณ 10 นาที.......

“ ตริ๊ง! ตริ๊ง! ” กันต์ที่กำลังยืนสูดอากาศบริสุทธิ์อยู่ริมหน้าต่างหันมองเมื่อเสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น ร่างบางเดินมาหยิบดูมือถือโชว์เป็นเบอร์แปลกนิ่วหน้าสงสัยนิดๆก่อนจะกดรับสาย

“ สวัสดีค่ะ... ”

“ สวัสดีค่ะ....เจ้ากันต์ฎรัศมิ์ ”

ปลายสายตอบกลับมา กันต์นิ่วหน้าคิดไม่คุ้นเสียงแต่อย่างใด

“ ค่ะ นั่นใครพูดคะ ”

“ พอดีฉันติดต่อคุณเพาภิรมย์ไม่ได้น่ะค่ะ เมื่อคืนโทรไปปิดเครื่องตลอด ” ปลายสายตอบกลับมายังไม่แนะนำตัวเอง

“ รบกวนเจ้าช่วยบอกเพาหน่อยได้มั้ยคะ ว่าฉันโทรมา ฉันเป็นห่วงเค้าอยู่ดีๆเค้าก็หายไป ”

“ ค่ะ จะให้บอกว่า ใครโทรมาดีคะ ” กันต์เริ่มเสียงติดขัดเมื่อรู้สึกสงสัยแปลกๆ

“ ฉัน.....เมธาวี เป็นคนรักของเพาภิรมย์ ” ใบหน้าเรียวนิ่ง ร่างกายแทบล้มพับลงไปตรงนั้น

“ เค้าบอกกับฉันว่า ถ้าฉันกลับมา เค้าจะรีบมาหาฉันทันที ”

“ ช่วยบอกเค้าด้วยนะคะ ว่าตอนนี้ ฉันอยู่ที่บ้านของเค้าแล้ว ไม่ใช่ซิ บ้านของเราถึงจะถูก.... ” สิ้นคำปลายสายก็ตัดไป เหลือเพียงร่างบางที่หยาดน้ำตาค่อยๆไหลรินลงมาด้วยความเสียใจ

 


ในรถคันเดิม....... ใบหน้าเรียวดวงตาแดงกร่ำด้วยน้ำตาที่กำลังเอ่อคลออย่างท่วมท้น เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น และคำพูดของเพาภิรมย์ก็ทำให้สับสนไปหมดไม่รู้ว่าตัวเองควรจะดีใจ ทำใจหรือเสียใจกันแน่...........

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา