[Man Vandalism] นรกร้าย ผู้ชายป่าเถื่อน
เขียนโดย Nami1412
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 01.31 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559 17.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) Man Vandalism - ChapTer 10
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
AuThor : นามิ
“มินไปไหนละ” ไมยราพถามพลอยที่กำลังเสิร์ฟอาหาร ทำให้พลอยสะดุ้งเพราะกำลังคิดเรื่องจัสมินอยู่
“มินไม่สบายค่ะ นอนพักอยู่บ้าน” พลอยไม่กล้าสบตาจีที่กำลังมองมาที่ตนเองเหมือนขู่ไม่ให้บอกเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน
“แล้วเป็นอะไรมากมั้ย” ไมยราพยังคงถามต่อ แต่ก็ลอบมองลูกชายที่จ้องหน้าพลอยเขม็ง
“เอ่อ...” พลอยอ้ำอึ้ง ไม่กล้าบอกว่าจัสมินยังไม่ตื่นตั้งแต่ตอนกลางวันและเรื่องที่จีซัสทำกับจัสมินด้วย แต่พอหันไปมองจีซัสก็เจอกับสายตาพิฆาตที่ส่งมาอย่างดุดัน พลอยรีบหลบสายตาทันที
“จะถามหามันทำไม ผมหิวแล้วกินข้าวเถอะ” จีซัสพูดตัดบท แอบรู้สึกไม่พอใจที่พ่อของตนเองห่วงเด็กหนุ่มแบบนี้
“แกหิวก็กินไปสิ ฉันอยากรู้อาการหนูมิน” ไมยราพหันมาตอบลูกชาย จีซัสก็ไม่ได้สนใจจึงลงมืออาหารทันที
“ตอนนี้มินกินยาแล้วพักผ่อนไปแล้วค่ะคุณท่าน” ป้านมตอบแทนพลอย แต่ไม่ได้บอกว่าจัสมินยังไม่ตื่น
“ถ้ายังไม่หาย พรุ่งนี้ก็หยุดพักไปก่อนละกัน” ไมยราพตอบด้วยเสียงนุ่มๆ ทำให้ป้านมและพลอยรู้สึกเบาใจ อย่างน้อยคุณท่านก็ยังห่วงคนในบ้านเสมอๆ
“ค่ะ” ทั้งป้านมและพลอยตอบพร้อมกัน แล้วก็รีบพากันออกไปจากห้องทานข้าวทั้งคู่
“แกว่ามินเป็นไง” จู่ๆ ไมยราพก็ถามถึงเด็หนุ่ม ทำให้จีซัสคิ้วขมวดขึ้นมาทันที
“ถามทำไม” จีซัสตอบแบบไม่สบอารมณ์ เมื่อได้ยินชื่อนี้
“เปล่า ก็แค่อยากรู้” ไมยราพตอบเสียงเรียบ แต่จีซัสกับรู้สึกทะแม่งๆ
“พ่อจะถามอะไร ถามมาตรงๆ เลยดีกว่า” จีซัสพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ทั้งๆ ที่เขากับพ่อไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่แต่พ่อก็ยังถามกวนเขาอยู่แบบนี้
“เมื่อวานแกไปทำอะไรที่ห้องหนูมิน” เมื่อบอกให้ถามตรงๆ ไมยราพก็ถามตรงๆ เช่นกัน เพราะเมื่อวานเขาออกมาคุยโทรศัพท์เรื่องส่งออกสินค้าแต่ก็เห็นจีซัสเดินไปทางบ้านพักของจัสมิน ไมยราพรอดูว่าจีซัสจะออกมาตอนไหนแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะจีซัสจะออกมาจากบ้านพักสักทีเขาจึงกลับขึ้นห้อง แต่พอช่วงเช้ามืดลูกน้องก็โทรมาบอกว่าคลังเก็บสินค้าถูกเผาโดยคู่อริ ไมยราพจึงรีบแต่งตัวเพื่ออกไปเคลียร์สถานการณ์ แต่ก็เจอกับจีซัสเดินออกมาทางบ้านพักจัสมินพอดี แต่จีซัสไม่เห็น ไมยราพสังเกตว่าจีซัสผมยุ่งเหยิบ เสื้อผ้าหลุดลุ่ย แต่เพราะตอนนั้นรีบอยู่ เลยไม่ได้คิดเรื่องจีซัสมากนัก
“พ่อรู้” จีซัสไม่ตอบ แต่กับจ้องไปที่หน้าไมยราพเขม็ง
“ใช่ ฉันรู้” ไมยราพตอบและจ้องหน้าลูกชายเช่นกัน ถึงแม้ตระกูลของไมยราพเป็นมาเฟีย แต่ก็เป็นมาเฟียที่ถูกกฎหมาย ไมยราพไม่เคยทำร้ายคนอื่นก่อน ถ้าไม่มีใครมาหาเรื่อง ของทุกอย่างที่ไมยราพนำเข้าเป็นของที่ถูกกฎหมายทั้งนั้น และตระกูลของไมยราพก็เป็นคนอ่อนโยนมาโดยตลอด พอตอนที่จีซัสพาจัสมินมาขัดดอก ก็ทำให้ไมยราพไม่พอใจอย่างมาก แต่เพราะไมยราพตามใจลูกชายเสมอ จึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
“รู้แล้วจะถามผมทำไมละ” จีซัสตอบเสียงขุ่นๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงรู้เรื่องนี้ได้
“แกอย่ามาพูดจาสามหาวกับฉันแบบนี้นะจี” ไมยราพเอ่ยเสียงดัง เพราะลูกชายคนนี้นับวันจะยิ่งพูดจาไม่ดีใส่ตนเองมากขึ้น ถึงจะตามใจลูกมาแค่ไหนแต่ไมยราพก็ต้องสั่งสอนบ้างถ้าผู้เป็นลูกพูดจาไม่ดีใส่
“ก็มันจริงนี่ครับ พ่อรู้แล้วจะถามทำไม”จีซัสยังคงตอบยียวน ไมยราพกัดฟันกรอด
“แกชักจะนิสัยเสียแล้วนะ” ไมยราพมองหน้าลูกชายนิ่งๆ แต่ดวงตากับแข็งกร้าว
“ผมว่าเราทะเลาะกันเพราะเรื่องไร้สาระมากกว่า” จีซัสบอกอย่างไม่ใส่ใจ ทำให้ไมยราพไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“แกบอกว่าเรื่องนี้ไร้สาระงั้นหรอ ที่แกทำกับหนูมินแกคิดว่ามันไร้สาระหรอ” ไมยราพตะโกนเสียงดังลั่น ทำให้คนใช้สะดุ้งกันเป็นโขยง
“แล้วพ่อจะเดือดร้อนแทนมันอะไรนักหนาละ” จีซัสเริ่มเสียงดังบ้าง ไม่เข้าใจว่าแค่เรื่องเด็กคนนี้ทำไมถึงได้เดือดร้อนแทนกันนัก
“แกมันนิสัยเสียจริงๆ” ไมยราพพูดด้วยเสียงนิ่งๆ พยายามระงับอารมณ์ที่เริ่มเดือดขึ้น
“ผมก็เป็นของผมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว” จีตอบเสียงเรียบ
“ตั้งนานของแกนี่มันตอนไหนละ” ไมยราพถามจี้จุด จีซัสฟิวส์ขาดทันที
“พ่อถามแบบนี้ต้องการอะไร ทำไมพ่อต้องพูดถึงอดีตที่ทำร้ายจิตใจผมขนาดนี้” จีซัสยกมือขึ้นทุบโต๊ะเสียงดังคนใช้ในบ้านต่างตกใจเสียงทุบโต๊ะ ป้านมที่ได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งเข้ามาหาทั้งคู่ทันที
“คุณจีใจเย็นๆ ค่ะ คุณท่านก็อย่าพูดถึงอดีตเลยนะคะ” ป้านมรีบวิ่งมาแยกทั้งคู่ออก เพราะสองพ่อลูกจ้องจะกินเลือดกินเนื้อกันอยู่แล้ว
“ป้านมไปพักผ่อนเถอะ ผมเคลียร์เอง” ไมยราพหันไปบอกป้านมเชิงกดดัน
เมื่อเห็นว่าศึกครั้งนี้คงไม่จบง่ายๆ ป้านมจึงเลี่ยงที่จะปะทะ ทำได้แค่เดินออกไปจากห้องทานข้าวเงียบๆ
“พลอยเราไปดูมินกันเถอะ ไม่รู้จะตื่นหรือยัง” หลังจากเดินออกมาจากห้องทานอาหาร ป้านมหันไปมองนาฬิกาก็ทุ่มกว่าๆ แล้ว
“จะไม่เกิดอะไรขึ้นใช่มั้ยป้า” พลอยหันไปถามป้าตนเอง
“แล้วทุกทีผลออกมาเป็นยังไงละ” ป้านมตอบแต่เชิงด้วยคำถาม
“เละ” พลอยตอบสั่นๆ
“ก็ตามนั้น ไม่บ้านเละก็รถพัง” ป้านมบอก ทุกครั้งที่สองพ่อลูกทะเลาะกัน จีซัสจะอาละวาดจนบ้านแตกและต่อด้วยขับรถไปชนเสาไฟฟ้าหรือไม่ก็ต้นไม้ข้างถนนเพื่อประชดผู้เป็นพ่อ
“นั่นสิ ไปดูมินกันเถอะป้า” พลอยนึกได้ จึงรีบไปที่ห้องจัสมิน
ก๊อก ก๊อก !
จัสมินสะดุ้งทันที เพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ ก่อนจะลุกไปเปิดประตู จัสมินใจเต้นระรัวเพราะกลัวว่าจะเป็นจีซัส แต่ก็โล่งใจเมื่อเป็นป้านมกับพลอย
“ตื่นแล้วหรอมินเป็นไงบ้าง ดีขึ้นยัง” พลอยถามขึ้นทันทีที่มินเปิดประตู พร้อมกับเอามือทาบหน้าผาก
“ไข้ลดแล้วนี่นา” พลอยทำหน้าโล่งๆ
“มินดีขึ้นแล้วฮะ” จัสมินยิ้มให้ทั้งสอง แต่กับเป็นยิ้มที่ฝืนมากกว่า
ป้านมมองด้วยความเอ็นดู พลางคิดในใจทำไมจีซัสถึงมองไม่เห็นความน่ารักของเด็กคนนี้ ทั้งนิสัยดี หน้าตาก็น่ารัก ไม่เรื่องมากเหมือนเด็กคนอื่นๆ ด้วย
“มินหิวจังฮะ ขอไปหาไรกินก่อนนะฮะ” จัสมินทำท่าจะลุกขึ้น แต่ป้านมและพลอยรีบห้ามไว้
“ไปตอนนี้ไม่ได้นะ” พลอยบอกหน้าตาตื่น ด้วยความที่ตกใจสองพ่อลูกทะเลาะกันเลยลืมหยิบหม้อโจ๊กที่นำไปอุ่นมาด้วย
“ทำไมละฮะ” จัสมินถามด้วยความสงสัย
“แถวนั้นบรรยากาศกำลังเป็นพิษ” ป้านมเป็นคนตอบ ยิ่งสร้างความมึนงงให้จัสมินมินหนักกว่าเดิม
“ป้าก็พูดให้มินเข้าใจง่ายๆ สิ” พลอยบอกอย่างขำๆ กับคำตอบของป้านม
“คืองี้นะมิน คุณท่านกับคุณจีกำลังเปิดศึกกันอย่างดุเดือด ฉะนั้นถ้าเราไม่อยากเจอลูกหลงก็อยู่ในนี้ซะก่อน สักพักค่อยออกไป” พลอยหันไปอธิบายให้จัสมินฟัง
“ศึกอะไรฮะ” มินถาม เพราะไม่เข้าใจเท่าไหร่นัก
“พอๆ เลยยัยพลอย มานี่ฉันเล่าเอง คือคุณท่านกับคุณจีทะเลาะกันในห้องทานข้าวอยู่” ป้านมพูดแทรกเมื่อเห็นว่าพลอยกำลังจะอธิบายดต่อ
“ทะเลาะเรื่องอะไรกันหรอฮะ” จัสมินถามต่อ“เรื่องอดีตหน่ะ” พลอยตอบแทนป้านมกำลังจะอ้าปากพูด
“ฮะ” จัสมินเลือกที่จะไม่ถามต่อ ใจหนึ่งก็ไม่อยากจะรับรู้เรื่องจีซัสมากนัก
..
..
..
หลังจากที่ป้านมเดินออกไปแล้ว สองพ่อลูกก็จ้องหน้ากันนิ่งๆ ต่างคนต่างไม่พูดอะไรออกมา
“ผมขอตัว” จีรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศแบบนี้จึงลุกขึ้นเพื่อจะขึ้นห้อง
“ฉันไม่ได้ขอให้แกลืม แต่แกก็ควรที่จะเลิกคิดมากได้แล้ว” ไมยราพเอ่ยขึ้นก่อนที่จีจะเดินออกจากห้องไป
“ผมเลิกคิดไม่ได้หรอก แม่ผมทั้งคนนะ” จีตอบทั้งที่ยังหันหลังให้
“ฉันรู้ว่าแกรักแม่มาก แต่เรื่องมันผ่านมาแล้ว” ไมยราพพยายามอธิบาย แต่เหมือนจะไม่เข้าหูจีเลยสักนิดเดียว
“มันผ่านมาแล้วไง แล้วมันช่วยให้แม่ผมฟื้นขึ้นมาหรือเปล่าละ” จีหันมาจ้องหน้าไมยราพ แววตาฉายความเจ็บปวดมาแค่วูบเดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว
“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงละ เรื่องที่เกิดขึ้นฉันก็ไม่ได้ตั้งใจ” ไมยราพเริ่มขึ้นเสียงเพราะตนเองก็ทนไม่ได้ที่ลูกชายปรักปรำว่าเชาเป็นคนผิด ใช่เขาผิด แต่เขาไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน
“พ่อบอกไม่ได้ตั้งใจ พ่อกล้าบอกผมได้ไงว่าไม่ได้ตั้งใจ” จีซัสขึ้นเสียงบ้าง ความหงุดหงิดเริ่มครบงำอีกครั้ง
“เพราะแกเอาแต่เหตุผลตนเองเป็นหลักไง ฉันเลยกลายเป็นคนผิดจนถึงทุกวันนี้” ไมยราพเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความน้อยใจ
“แล้วพ่อจะให้ผมเชื่อใจพ่อได้ไง หลักฐานก็อยู่ต่อหน้าต่อตาผมแล้ววันนั้น” จีซัสจ้องมองไปที่ดวงตาผู้เป็นพ่อที่เริ่มสีแดงขึ้นมานิดๆ
จีชะงักเล็กน้อย เพราะตาของผู้เป็นพ่อเริ่มมีน้ำตาคลอ แต่เจ้าตัวกลับกลอกตาไปมาเพื่อไม่ให้ลูกชายเห็น แต่ก็หลบไม่พ้นคนอย่างจีซัส
“พ่อร้องไห้” จีซัสเอ่ยเบาๆ ในใจที่กำลังโกรธแค้นพ่อของตนเองนั้น ค่อยๆ แป่วลงทันที
“ใครร้องไห้ ฉันไม่ได้อ่อนแอซะหน่อย” ไมยราพหันหน้าไปทางอื่นรียยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาทันที
“นั่นสินะ ขนาดแม่ตายไปต่อหน้าต่อตาพ่อยังไม่ร้องไห้เลย” จีมองหน้าผู้เป็นพ่อด้วยสายตาผิดหวัง เพราะเขาก็หวังว่าพ่อจะรู้สึกผิดบ้าง
“แกรู้ได้ไงว่าฉันไม่ร้องไห้ แกมานั่งเฝ้าฉันไว้ตลอดทั้งวันทั้งคืนหรอ” ไมยราพเอ่ยขึ้น แต่ไม่ได้มองหน้าลูกชาย
“ถึงไม่นั่งเฝ้าผมก็รู้ว่าคนอย่างพ่อไม่มีหัวใจ” จีซัสเอ่ยออกมานิ่งๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
“แล้วที่ฉันทำให้แกทุกวันนี้คือฉันไม่มีหัวใจงั้นหรอ” ไมยราพเอ่ยเบาๆ หลังจากที่จีซัสเดินออกไปแล้ว
ปึก!
ไมยราพหันไปมองทางประตูครัวก่อนจะเห็นจัสมินที่นั่งกุมเท้าตนเองอยู่ เพราะเดินไปเตะประตูเข้าเต็มๆ
“เอ่อ มินไม่ได้มาแอบฟังนะฮะ มินแค่...แค่...หิว” จัสมินตอบด้วยเสียงสั่นๆ เพราะกลัวไมยราพจะโกรธ
“ไปหาไรกินสิ ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้น” ไมยราพยิ้มให้
“แล้วเจ็บมากมั้ย เสียงดังขนาดนั้นคงเจ็บน่าดู” ไมยราพมองจัสมินที่นั่งกุมเท้าตนเองอยู่
“เจ็บฮะ” จัสมินน้ำตาคลอเพราะเจ็บจริงๆ
ไมยราพมองเด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสาด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทำให้นึกถึงเรื่องสมัยเด็กของจีซัสเข้า
“พ่อครับแม่ครับ จีกลับมาแย้ววว” จีซัสรีบวิ่งเข้าไปกอดพ่อแม่ที่นั่งอยู่ห้องรับแขก หลังจากที่เลิกเรียน
“อย่าวิ่งสิจี เดี๋ยวชนประตู” ไมยราพบอกจีซัสที่วิ่งเข้ามาในบ้าน
ปึก!
พูดยังไม่ทันขาดคำ เด็กน้อยชนประตูหน้าบ้านเข้าอย่างจัง จีซัสล้มลงกับพื้น มือกุมเท้าตนเองที่เตะประตูอย่างแรง
“เห็นมั้ยละ บอกอย่าวิ่ง” ไมยราพรีบเดินมาดูลูกชาย
“เจ็บฮะ” จีซัสไม่ได้ร้องไห้เพราะคิดว่ามันอ่อนแอ แต่ใบหน้าก็แสดงออกมาว่าเจ็บเป็นอย่างมาก
“มาๆ แม่พาไปทายา” ไอริสเดินมาอุ้มลูกชายไปที่โซฟา
“คุณช่วยไปเอากล่องพยาบาลมาให้หน่อยสิ” ไอริสหันไปบอกพ่อที่กำลังยิ้มขำกับใบหน้าของลูกชาย
“ขำอะไรอ่ะพ่อ ผมเจ็บอยู่นะ” จีซัสยู้ปากทันทีที่ไมยราพกำลังหัวเราะตนเองอยู่
“ก็ลูกเดินไม่ดูทาง” ไมยราพเอ่ยขึ้น พลางมองหน้าลูกชาย ก่อนจะเดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาให้
“ซี๊ด เจ็บๆ ครับแม่” จีร้องลั่นบ้านทันทีที่เมื่อไอริสกำลังล้างแผลให้
“แม่ทำเบาๆ แล้วนะ” ไอริสเอ่ยขึ้นและเบามือลงกว่าเดิม
“ดื้อนักต้องเจ็บแบบนี้แหละ” ไมยราพมองจีซัสที่ทำหน้ายุ่งๆ เพราะพ่อของตนเองซ้ำเติม
“ผมไม่ได้ดื้อซะหน่อย คอยดูนะโตขึ้นมาผมจะเป็นมาเฟียที่เก่งกว่าพ่อให้ได้เลย” จีซัสฉีกยิ้มอย่างมีความสุข
“ทำให้ได้ก่อนเถอะแล้วค่อยพูด” ไมยราพเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มๆ เพราะสิ่งที่จีซัสพูดนั้นเป็นสิ่งที่ตนเองต้องการมากที่สุด
“คอยดูละกัน” จียืดอกขึ้นอย่างมั่นใจ
“แม่รอดูอยู่นะลูก”ไอริสมองหน้าลูกชายด้วยความเอ็นดู
“แม่รอดูเลยฮะ จีจะคุมลูกน้องหลายพันคนให้ได้เลย” จีซัสกอดผู้เป็นแม่แน่น
“จีรักแม่นะครับ” จีซัสพละออกจากอ้อมกอกแม่แล้วมองผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้ม
“แม่ก็รักจีนะ รักมาก” ไอริสลูบหัวจีซัสเบาๆ
“แล้วรักพ่อหรือเปล่า” ไมยราพถามขึ้น
“ไม่รัก แบร่!” จีซัสหันไปแลบลิ้นใส่ไมยราพ ไอริสหัวเราะไปกับท่าทางของลูกชาย
“ถ้าไม่รัก ผมคงไม่อยากเป็นมาเฟียหรอก” จีซัสเงยหน้าไปมองไมยราพก่อนจะพูดออกไป แล้วรีบวิ่งขึ้นห้องทันที
“หึหึ เจ้าลูกคนนี้” ไมยราพหัวเราะในลำคอ
“ปากแข็งเหมือนคุณเลยนะคะ” ไอริสพูดขึ้น
“อะไรผมปากแข็งตรงไหน” ไมยราพทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะเดินออกไปหน้าบ้าน
“ทั้งพ่อทั้งลูกเลย” ไอริสยิ้มอย่างมีความสุข
+++++++++++++++
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ